การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 เป็นการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทยครั้งที่ 27 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566[10] หลังจากที่มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรไทยชุดที่ 25 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566[11] ภายหลังการเลือกตั้งปรากฎว่าประเทศไทยไม่สามารถมีนายกรัฐมนตรีได้ โดยประธานรัฐสภากล่าวว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอาจจะมีอีกครั้งในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566[12] ซึ่งครบ 100 วันหลังเลือกตั้ง ส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ประเทศไทยรอนายกรัฐมนตรีเป็นระยะเวลานานเป็นอันดับที่สองนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งในประเทศ[13]
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ทั้งหมด 500 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรไทย ต้องการ 251 ที่นั่งจึงเป็นฝ่ายข้างมาก | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงทะเบียน | 52,238,594 [3] | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้ใช้สิทธิ | 75.71% ( 1.02 จุด) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
แผนที่แสดงผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
แผนที่แสดงพรรคการเมืองที่ได้คะแนนในระบบบัญชีรายชื่อสูงสุดในแต่ละเขตเลือกตั้ง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
องค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎรหลังจากการเลือกตั้ง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
ปฏิทินการเลือกตั้ง[7][8][9] | |
---|---|
20 มี.ค. | พ.ร.ฎ. ยุบสภาผู้แทนราษฎรมีผลบังคับใช้ |
27 มี.ค. – 13 เม.ย. | วันลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า |
3 – 7 เม.ย. | วันรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร |
7 พ.ค. | วันใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า |
14 พ.ค. | วันเลือกตั้งทั่วไป |
คณะกรรมการการเลือกตั้งแถลงผลอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2566 ผลปรากฏว่า พรรคก้าวไกลได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุด ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ที่นั่งรองลงมา[14][15] การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิ์มากถึงร้อยละ 75.71 ทำลายสถิติของการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ที่มีผู้มาใช้สิทธิ์ร้อยละ 75.03[16] การเลือกตั้งครั้งนี้นับเป็นการเลือกตั้งที่หาเสียงโดยพูดเรื่องเงินมากที่สุดครั้งหนึ่ง หลายพรรคเสนอจำนวนเงินเป็นตัวเลข การหาเสียงในป้ายหาเสียงมีแต่จำนวนเงิน อาทิ บำนาญผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือน[17] และโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับใช้จ่ายในพื้นที่ที่กำหนด[18]
เบื้องหลัง
แก้หลังจากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมือง กองทัพได้ก่อการรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เพื่อขับไล่รัฐบาลรักษาการพลเรือน คณะนายทหารที่รู้จักกันในชื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ขึ้นสู่อำนาจภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2559 คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จสิ้นและจัดให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อรับรองร่างรัฐธรรมนูญ พวกเขาห้ามวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญและห้ามติดตามผลประชามติ นักเคลื่อนไหวต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญถูกจับกุม ควบคุมตัว และดำเนินคดีในศาลทหาร[19] ขณะที่ผู้ออกมาแสดงเจตนาคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญก็ถูกรัฐบาลทหารจับกุมและดำเนินคดีเช่นกัน[20]
ในปี พ.ศ. 2562 หลังจากเกิดความล่าช้าหลายครั้ง ในที่สุดรัฐบาลทหารก็จัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกมองว่าพลเอกประยุทธ์มีข้อได้เปรียบ เนื่องจากวุฒิสภามาจากการแต่งตั้งทั้งหมดโดยรัฐบาลทหารและการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ในช่วงนาทีสุดท้าย[21][22]
พลเอกประยุทธ์เริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2562[23] ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีสามารถดำรงตำแหน่งได้เพียง 8 ปีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การสิ้นสุดวาระนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เนื่องจากมีการตีความมากมายเกี่ยวกับการเริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี[24][25][26] เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำพิพากษาให้วาระการดำรงตำแหน่งของพลเอกประยุทธ์เริ่มในปี พ.ศ. 2560 ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หมายความว่าเขาอาจดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนถึงปี พ.ศ. 2568 หากเขาได้รับเลือกจากรัฐสภาอีกครั้ง
ปลายปี พ.ศ. 2565 เกิดการแตกแยกในพรรคพลังประชารัฐระหว่างพลเอกประยุทธ์กับรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่สนิทคือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หลังจากที่พลเอกประวิตรแสดงจุดยืนต่อพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ต่อมาในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 พลเอกประยุทธ์ได้ประกาศความสนใจที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และสมัครเป็นสมาชิกแบบตลอดชีพของพรรคดังกล่าวในเดือนถัดมา มีการคาดหมายว่าเขาจะเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนเดียวของพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้านพรรคภูมิใจไทย มีผู้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านบางส่วน รวมถึงนักการเมืองอีกจำนวนหนึ่ง ได้ลาออกจากพรรคเดิมที่ตัวเองสังกัดไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อเพิ่มโอกาสชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
ระบบเลือกตั้ง
แก้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ระบุว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 500 คนจะได้รับเลือกโดยใช้ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะลงคะแนนเสียงด้วยบัตรใบเดียว เพื่อเลือก ส.ส. 350 ที่นั่งจากเขตเลือกตั้ง และอีก 150 ที่นั่งจะเป็นการจัดสรรตามคะแนนของพรรคการเมืองทั้งประเทศ[27] หลังการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎร 500 ที่นั่ง จะลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีในการประชุมร่วมกับวุฒิสภาอีก 250 ที่นั่ง วุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งโดยคสช. จะอยู่ในวาระจนถึงปี 2567 จึงคาดว่าสมาชิกวุฒิสภาจะมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน[28]
เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2564 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ได้มีการลงคะแนนเสียง 472 ต่อ 33 เสียง (งดออกเสียง 187 เสียง) เพื่อกลับมาใช้การลงคะแนนระบบคู่ขนานที่เคยใช้เมื่อช่วงก่อนปี 2560 ในระบบนี้ จะมี ส.ส. 400 ที่นั่งที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และลดจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลงเหลือ 100 ที่นั่ง จากเดิม 150 ที่นั่ง[29] ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะต้องลงคะแนนโดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพื่อเลือก ส.ส. แบบแบ่งเขตและพรรคการเมืองที่ตนต้องการ[29] ต่างจากระบบก่อนหน้าที่ผู้มีสิทธิ์แต่ละคนลงคะแนนเสียงเพียงครั้งเดียวเพื่อเลือก ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ[30] อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยพรรคการเมืองขนาดเล็ก เนื่องจากระบบนี้จะทำให้พรรคดังกล่าวได้ที่นั่งในสภายากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้าน
ในช่วง พ.ศ. 2565 มีการถกเถียงว่าจะใช้สูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อแบบใดระหว่าง "สูตรหาร 100" กับ "สูตรหาร 500" ซึ่งถ้าใช้สูตรหาร 500 จะทำให้เกิดที่นั่งส่วนเกิน (Overhanging seat) แบบเดียวกับในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 และทำให้คะแนนเสียงพึงมีของ ส.ส. 1 ที่นั่งต่ำลง ซึ่งเอื้อต่อการตีความให้พรรคเล็กได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ในเดือนสิงหาคม 2565 มีการใช้กลยุทธ์ไม่มาประชุมจนสภาขาดองค์ประชุม ทำให้การพิจารณาแก้ไขเป็นสูตรหาร 500 ต้องตกไป และกลับไปใช้สูตรหาร 100 โดยปริยาย[31]
จากการเปลี่ยนระบบเลือกตั้งดังกล่าว ทำให้พรรคขนาดเล็กเสียเปรียบในสนามเลือกตั้ง จึงนำไปสู่การเจรจาควบรวมพรรค และจัดตั้งพันธมิตรทางการเมืองของพรรคขนาดเล็กต่าง ๆ ได้แก่ การควบรวมพรรคชาติพัฒนาและพรรคกล้าเป็นพรรคชาติพัฒนากล้า,[32] การจับมือระหว่างพรรคไทยสร้างไทยและพรรคสร้างอนาคตไทย[33][34] รวมไปถึงเกิดการย้ายพรรคของนักการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าการใช้เงินซื้อตัวผู้สมัคร ส.ส. และระบบ "บ้านใหญ่" หรือตระกูลที่มีอิทธิพลทางการเมืองในท้องถิ่นจะกลับมามีบทบาท[35]
เดือนมกราคม 2566 มีการผ่านกฎหมายเลือกตั้ง 2 ฉบับ[36] คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พ.ศ. 2566 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566[37] สาระสำคัญของ พระราชบัญญัติฉบับนี้กำหนดให้เลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน[38] มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2566 ซึ่งรัฐบาลจะยุบสภาทันทีเลยก็ได้ หรืออยู่ครบวาระซึ่งจะครบเทอมในวันที่ 24 มีนาคม 2566[39] ไม่ว่าจะวิธีการใด คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดให้มีระยะเวลาสำหรับเตรียมการเลือกตั้งประมาณ 45 วัน (พิจารณารูปแบบแบ่งเขต 25 วัน, คัดสรรผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 20 วัน)[40]
การเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้ง
แก้หลังจากที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยปรับสัดส่วนจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเป็น 400 เขต เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้าที่มี 350 เขต[29] เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีการส่งหนังสือด่วนถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดต่าง ๆ และกรุงเทพมหานคร ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่เตรียมแบ่งเขตเลือกตั้งไว้เป็นการล่วงหน้าอย่างน้อย 3 รูปแบบ[41]
ในกุมภาพันธ์ 2566 กกต. ออกประกาศ เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด กำหนดให้คำนวณจำนวนราษฎรเฉลี่ย 165,226 คนต่อ ส.ส. 1 คน โดยใช้ข้อมูลจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักรตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เป็นฐานในการคำนวณ พร้อมทั้งระบุจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่พึงมีในแต่ละพื้นที่ โดยแบ่งเป็นรายจังหวัดดังนี้[42]
พื้นที่ | จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร |
---|---|
กรุงเทพมหานคร | 33 |
นครราชสีมา | 16 |
ขอนแก่นและอุบลราชธานี | 11 |
ชลบุรี, เชียงใหม่ และบุรีรัมย์ | 10 |
นครศรีธรรมราช, ศรีสะเกษ, สงขลา และอุดรธานี | 9 |
เชียงราย, นนทบุรี, ร้อยเอ็ด, สมุทรปราการ และสุรินทร์ | 8 |
ชัยภูมิ, ปทุมธานี, สกลนคร และสุราษฎร์ธานี | 7 |
กาฬสินธุ์, นครปฐม, นครสวรรค์, เพชรบูรณ์ และมหาสารคาม | 6 |
กาญจนบุรี, นราธิวาส, พระนครศรีอยุธยา, พิษณุโลก, ระยอง, ราชบุรี และสุพรรณบุรี | 5 |
กำแพงเพชร, ฉะเชิงเทรา, ตรัง, ตาก, นครพนม, ปัตตานี, ลพบุรี, ลำปาง, เลย, สมุทรสาคร, สระบุรี และสุโขทัย | 4 |
กระบี่, จันทบุรี, ชุมพร, น่าน, บึงกาฬ, ประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี, พะเยา, พัทลุง, พิจิตร, เพชรบุรี, แพร่, ภูเก็ต, ยโสธร, ยะลา, สระแก้ว, หนองคาย, หนองบัวลำภู และอุตรดิตถ์ | 3 |
ชัยนาท, นครนายก, พังงา, มุกดาหาร, แม่ฮ่องสอน, ลำพูน, สตูล, อ่างทอง, อำนาจเจริญ และอุทัยธานี | 2 |
ตราด, ระนอง, สิงห์บุรี และสมุทรสงคราม | 1 |
อย่างไรก็ตาม จำนวน ส.ส. เขตที่พึงมีในแต่ละจังหวัด ที่ กกต. เคยประกาศไว้เมื่อกุมภาพันธ์ 2566 มีการนับรวมบุคคลต่างด้าวมาใช้เป็นฐานในการคำนวณ[43] ต่อมา 3 มีนาคม 2566 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่ให้นำผู้ที่ไม่ได้มีสัญชาติไทยมาร่วมเป็นฐานในการคำนวณ[44] กกต. จึงได้มีการพิจารณาแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ให้เป็นตามคำวินิจฉัยของศาล และในวันเดียวกัน ก็ออกประกาศเปลี่ยนแปลงจำนวนเขตเลือกตั้งพึงมีของแต่ละจังหวัด โดย นครศรีธรรมราช, อุดรธานี, ลพบุรี และปัตตานี มี ส.ส. เพิ่มขึ้นจังหวัดละ 1 คน ขณะที่ เชียงใหม่, เชียงราย, ตาก และสมุทรสาคร มี ส.ส. ลดลงจังหวัดละ 1 คน และค่าเฉลี่ยประชากรต่อ ส.ส. เขต 1 คนลดลงเหลือ 162,766 คน[45]
จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่พึงมีในแต่ละพื้นที่ หลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 3 มีนาคม 2566 มีดังนี้[45][46]
พื้นที่ | จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร |
---|---|
กรุงเทพมหานคร | 33 |
นครราชสีมา | 16 |
ขอนแก่นและอุบลราชธานี | 11 |
ชลบุรี, เชียงใหม่, นครศรีธรรมราช, บุรีรัมย์ และ อุดรธานี | 10 |
ศรีสะเกษและสงขลา | 9 |
นนทบุรี, ร้อยเอ็ด, สมุทรปราการ และสุรินทร์ | 8 |
ชัยภูมิ, เชียงราย, ปทุมธานี, สกลนคร และสุราษฎร์ธานี | 7 |
กาฬสินธุ์, นครปฐม, นครสวรรค์, เพชรบูรณ์ และมหาสารคาม | 6 |
กาญจนบุรี, นราธิวาส, ปัตตานี, พระนครศรีอยุธยา, พิษณุโลก, ระยอง, ราชบุรี, ลพบุรี และสุพรรณบุรี | 5 |
กำแพงเพชร, ฉะเชิงเทรา, ตรัง, นครพนม, ลำปาง, เลย, สระบุรี และสุโขทัย | 4 |
กระบี่, จันทบุรี, ชุมพร, ตาก, น่าน, บึงกาฬ, ประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี, พะเยา, พัทลุง, พิจิตร, เพชรบุรี, แพร่, ภูเก็ต, ยโสธร, ยะลา, สมุทรสาคร, สระแก้ว, หนองคาย, หนองบัวลำภู และอุตรดิตถ์ | 3 |
ชัยนาท, นครนายก, พังงา, มุกดาหาร, แม่ฮ่องสอน, ลำพูน, สตูล, อ่างทอง, อำนาจเจริญ และอุทัยธานี | 2 |
ตราด, ระนอง, สิงห์บุรี และสมุทรสงคราม | 1 |
หมายเหตุ: คือ จังหวัดที่มีจำนวน ส.ส. เขต ลดลง 1 คน, คือ จังหวัดที่มีจำนวน ส.ส. เขต เพิ่มขึ้น 1 คน |
การย้ายสังกัดพรรคการเมือง
แก้พรรคเพื่อไทย (37)
แก้ย้ายไปพรรคก้าวไกล
- พงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร
ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย
- ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร
- นิยม ช่างพินิจ อดีต ส.ส. พิษณุโลก
- นพ ชีวานันท์ อดีต ส.ส. พระนครศรีอยุธยา
- สุชาติ ภิญโญ อดีต ส.ส. นครราชสีมา
- รังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ อดีต ส.ส. เชียงราย
- นคร มาฉิม อดีต ส.ส. พิษณุโลก
- จักรพรรดิ ไชยสาส์น อดีต ส.ส. อุดรธานี
- ธีระ ไตรสรณกุล อดีต ส.ส. ศรีสะเกษ
- ปวีณ แซ่จึง อดีต ส.ส. ศรีสะเกษ
- ผ่องศรี แซ่จึง อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ
- วุฒิชัย กิตติธเนศวร อดีต ส.ส. นครนายก
- สามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย
- ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
- วินัย ภัทรประสิทธิ์ อดีต ส.ส.พิจิตร
- วันชัย เจริญนนทสิทธิ์ อดีต ส.ส.นนทบุรี
- พรชัย ศรีสุริยันโยธิน อดีต ส.ส.บุรีรัมย์
ย้ายไปพรรคพลังประชารัฐ
- องอาจ วงษ์ประยูร อดีต ส.ส. สระบุรี
- บัลลังก์ อรรณนพพร อดีต ส.ส. ขอนแก่น
- ประกิจ พลเดช อดีต ส.ส.บุรีรัมย์
ย้ายไปพรรคไทยสร้างไทย
- คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
- ศิธา ทิวารี อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร
- อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร
- การุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร
- ชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีต ส.ส. นครพนม
- ณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู
- เจริญ จรรย์โกมล อดีต ส.ส.ชัยภูมิ
ย้ายไปพรรคเสรีรวมไทย
- มังกร ยนต์ตระกูล อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด
ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ
- พิชัย เกียรติวินัยสกุล อดีต ส.ส.ลพบุรี
- ไพโรจน์ ตันบรรจง อดีต ส.ส.พะเยา
- ธนิก มาสีพิทักษ์ อดีต ส.ส.ขอนแก่น
- สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม
- กุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต ส.ส.มหาสารคาม
- จิรวุฒิ สิงห์โตทอง อดีตผู้สมัคร ส.ส. ชลบุรี
ย้ายไปพรรคชาติไทยพัฒนา
- สุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ อดีต ส.ส.เชียงราย
ย้ายไปพรรคประชาธิปัตย์
- ประชาธิปไตย คำสิงห์นอก อดีต ส.ส.นครราชสีมา
ย้ายไปพรรคเพื่อชาติ
- ร้อยตำรวจเอก นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
พรรคพลังประชารัฐ (95)
แก้ย้ายไปพรรคเพื่อไทย
- สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1
- สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
- สมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
- สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชลบุรี
- กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร
- เชิงชาย ชาลีรินทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชัยภูมิ
- พรรณสิริ กุลนาถสิริ อดีต ส.ส. สุโขทัย
- ชูศักดิ์ คีรีมาศทอง อดีต ส.ส. สุโขทัย
- จักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล อดีต ส.ส. สุโขทัย
- กฤชนนท์ อัยยปัญญา อดีตผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร
- ภูดิศ อินทร์สุวรรณ์ อดีต ส.ส. พิจิตร
- แสนคม อนามพงษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส. จันทบุรี
- ชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร อดีต ส.ส.ราชบุรี
- สุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- วารุจ ศิริวัฒน์ อดีต ส.ส.อุตรดิตถ์
ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย
- สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ
- เชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีต ผู้สมัครส.ส. อุบลราชธานี
- สุพล ฟองงาม อดีต ส.ส. อุบลราชธานี
- โยธากาญจน์ ฟองงาม อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี
- สุทธิชัย จรูญเนตร อดีต ส.ส. อุบลราชธานี
- ตวงทิพย์ จินตะเวช อดีตผู้สมัคร ส.ส. อุบลราชธานี
- ภิญโญ นิโรจน์ อดีต ส.ส. นครสวรรค์
- วีระกร คำประกอบ อดีต ส.ส. นครสวรรค์
- พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
- พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร
- ภาดาท์ วรกานนท์ อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร
- กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร
- กษิดิ์เดช ชุติมันต์ อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร
- จักรพันธ์ พรนิมิตร อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร
- พิกิฏ ศรีชนะ อดีต ส.ส. ยโสธร
- ธวัชชัย อนามพงษ์ อดีต ส.ส. จันทบุรี
- เจริญ เรี่ยวแรง อดีต ส.ส.นนทบุรี
- ฉลอง เรี่ยวแรง อดีต ส.ส.นนทบุรี
- ประทวน สุทธิอำนวยเดช อดีต ส.ส.ลพบุรี
- พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ อดีต ส.ส. กาญจนบุรี
- สมเกียรติ วอนเพียร อดีต ส.ส. กาญจนบุรี
- ธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ อดีต ส.ส. กาญจนบุรี
- อัฏฐพล โพธิพิพิธ อดีต ส.ส. กาญจนบุรี
- กฤษณ์ แก้วอยู่ อดีต ส.ส.เพชรบุรี
- สุชาติ อุสาหะ อดีต ส.ส.เพชรบุรี
- ปฐมพงศ์ สูญจันทร์ อดีต ส.ส.นครปฐม
- มณเฑียร สงฆ์ประชา อดีต ส.ส.ชัยนาท
- เวียง วรเชษฐ์ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด
- เอกสิทธิ์ คุณานันทกุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- อลงกต มณีกาศ อดีต ส.ส.นครพนม
- ชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.นครพนม
- วันชัย บุษบา อดีต ส.ส.เลย
- ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี (ส่งพี่ชายลงสมัครแทน)
- ยศศักดิ์ ชีววิญญู อดีต ส.ส.ราชบุรี
- บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา
- องอาจ ปัญญาชาติรักษ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- ผกามาศ เจริญพันธ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์
ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ
- กุลวลี นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี
- ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา
- ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยอนันต์ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร
- พันตำรวจตรี ฐนภัทร กิตติวงศา อดีต ส.ส.จันทบุรี
- ธนกร วังบุญคงชนะ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- นิโรธ สุนทรเลขา อดีต ส.ส.นครสวรรค์
- ประสิทธิ์ มะหะหมัด อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร
- พยม พรหมเพชร อดีต ส.ส.สงขลา
- พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- ไพลิน เทียนสุวรรณ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ
- ภาคิน สมมิตรธนกุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- มานัส อ่อนอ้าย อดีต ส.ส.เพชรบุรี
- รณเทพ อนุวัฒน์ อดีต ส.ส.ชลบุรี
- วัชระ ยาวอฮาซัน อดีต ส.ส.นราธิวาส
- ศาสตรา ศรีปาน อดีต ส.ส.สงขลา
- สมบัติ อำนาคะ อดีต ส.ส.สระบุรี
- สมพงษ์ โสภณ อดีต ส.ส.ระยอง
- สัญญา นิลสุพรรณ อดีต ส.ส.นครสวรรค์
- สาธิต อุ๋ยตระกูล อดีต ส.ส.เพชรบุรี
- สุชาติ ชมกลิ่น อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
- สายัณห์ ยุติธรรม อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช
- สุรชาติ ศรีบุศกร อดีต ส.ส.พิจิตร
- อนุชา นาคาศัย อดีต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
- ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี อดีต ส.ส.สงขลา
- วัฒนา สิทธิวัง อดีต ส.ส.ลำปาง (ถูกใบเหลืองจากการเลือกตั้งซ่อม)
- สันติ ตันสุหัช อดีต ส.ส.เชียงใหม่
- ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส.เลย
- เปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส.เลย
- ธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา อดีต ส.ส.สุรินทร์ (เสียชีวิต)
- จำลอง ครุฑขุนทด อดีต ส.ส.นครราชสีมา
- ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ย้ายไปพรรคประชาธิปัตย์
- วทันยา บุนนาค อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- บุญเลิศ ครุฑขุนทด อดีต ส.ส.นครราชสีมา
- ทวีศักดิ์ ประทุมลี อดีตผู้สมัคร ส.ส.มุกดาหาร
- ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา อดีต ส.ส.จันทบุรี
- สุวัฒน์ ม่วงศิริ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร
ย้ายไปพรรคไทยสร้างไทย
- ชัชวาล แพทยาไทย อดีตผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด
- อดุลย์ นิลเปรม อดีต ส.ส.อุบลราชธานี
- นิพนธ์ ศรีธเรศ อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์
- บัวสอน ประชามอญ อดีต ส.ส.เชียงราย
- รำพูล ตันติวณิชชานนท์ อดีตผู้สมัคร ส.ส. อุบลราชธานี
ย้ายไปพรรคชาติพัฒนากล้า
- พรศักดิ์ เปี่ยมคล้า อดีต ส.ส.นครปฐม
ย้ายไปพรรครวมแผ่นดิน
- รณฤทธิชัย คานเขต อดีต ส.ส.ยโสธร
พรรคประชาธิปัตย์ (52)
แก้ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย
- แนน บุณย์ธิดา สมชัย อดีต ส.ส. อุบลราชธานี
- เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- สุชาดา แทนทรัพย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- ปารเมศ โพธารากุล อดีต ส.ส.กาญจนบุรี
- พงศ์เวช เวชชาชีวะ อดีต ส.ส.จันทบุรี (ส่งภรรยาลงสมัครแทน)
- พีระเดช ศิริวันสาณฑ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์
- ไพร พัฒโน อดีต ส.ส. สงขลา
ย้ายไปพรรคพลังประชารัฐ
- ชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ อดีต ส.ส.ราชบุรี
- ศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- อันวาร์ สาและ อดีต ส.ส.ปัตตานี
- อภิชัย เตชะอุบล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง
- เกียรติศักดิ์ ส่องแสง อดีต ส.ส.ปทุมธานี
- รำรี มามะ อดีต ส.ส.นราธิวาส
- จำลอง ภูนวนทา ส.ส.กาฬสินธุ์
ย้ายไปพรรคเพื่อไทย
- พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ (ปานทิพย์ ศุภกิจเจริญ) อดีตผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก
- วิชัย ล้ำสุทธิ อดีต ส.ส.ระยอง
- รัฐพงษ์ ระหงษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร
- พายุ เนื่องจำนงค์ อดีตผู้สมัคร สส.ชลบุรี
ย้ายไปพรรคก้าวไกล
- พริษฐ์ วัชรสินธุ อดีต ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร
- นัฏฐิกา โล่ห์วีระ อดีต ผู้สมัครส.ส.ชัยภูมิ
ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ
- ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีต รองนายกรัฐมนตรี
- ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- เจือ ราชสีห์ อดีต ส.ส.สงขลา
- ชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร
- พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช
- พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
- พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร อดีต ส.ส.นครปฐม
- อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ อดีต ส.ส.ราชบุรี
- จุติ ไกรฤกษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- เจือ ราชสีห์ อดีต ส.ส.สงขลา
- สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีต ส.ส.ตรัง
- ปรีชา มุสิกุล อดีต ส.ส.กำแพงเพชร
- สุขวิชชาญ มุสิกุล อดีต ส.ส.กำแพงเพชร
- วิรัตน์ วิริยะพงษ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย
- สุชีน เอ่งฉ้วน อดีตผู้สมัครส.ส.กระบี่
- วิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช
- พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- พงษ์มนู ทองหนัก อดีตผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก
- เกรียงยศ สุดลาภา อดีต ส.ส.กทม.
- ชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี
- สามารถ มะลูลีม อดีต ส.ส. กทม.
- สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช
- สมัย เจริญช่าง อดีต ส.ส.กทม.
ย้ายไปพรรคชาติไทยพัฒนา
- กนก วงษ์ตระหง่าน อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ย้ายไปพรรคชาติพัฒนากล้า
- กรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง
- อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร
ย้ายไปพรรคเสรีรวมไทย
- สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร
ย้ายไปพรรคไทยภักดี
- พุฒิพงศ์ สงวนวงษ์ชัย อดีต ส.ส.
- อิสระพงษ์ สงวนวงษ์ชัย อดีต ผู้สมัคร ส.ส.
- ถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรี
ย้ายไปพรรคประชาชาติ
- สุรเชษฐ์ แวอาแซ อดีต ส.ส.นราธิวาส
พรรคเศรษฐกิจใหม่ (4)
แก้ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ
- ภาสกร เงินเจริญกุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- ศุภดิช อากาศฤกษ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ย้ายไปพรรคเพื่อไทย
- นิยม วิวรรธนดิษฐกุล อดีต ส.ส.แพร่ และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ
ย้ายไปพรรคพลังประชารัฐ
- มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีต รัฐมนตรี
พรรคก้าวไกล (11)
แก้ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ
- ทศพร ทองศิริ อดีตส.ส.กรุงเทพมหานคร
- วินท์ สุธีรชัย อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ
- เชษฐา ไชยสัตย์ อดีตผู้สมัครนายกอบจ.อุบลราชธานี
ย้ายไปพรรคเพื่อไทย
- จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ อดีตส.ส.กรุงเทพมหานคร
- กฤษณ์กมล แพงศรี อดีต ผู้สมัคร ส.ส.ปราจีนบุรี
ย้ายไปพรรคชาติไทยพัฒนา
- สมเกียรติ ถนอมสินธุ์ อดีตส.ส.กรุงเทพมหานคร
ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย
- เกษมสันต์ มีทิพย์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ
- ขวัญเลิศ พานิชมาท อดีตส.ส.ชลบุรี
- คารม พลพรกลาง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ
- เอกภพ เพียรพิเศษ อดีตส.ส.เชียงราย
- พีรเดช คำสมุทร อดีตส.ส.เชียงราย
พรรครวมพลัง (5)
แก้ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ
- เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- สุพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร
ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย
- อนุสรี ทับสุวรรณ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ย้ายไปพรรคประชาธิปัตย์
- จักษ์ พันธ์ชูเพชร อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
- เจะอามิง โตะตาหยง อดีต ส.ส.นราธิวาส
พรรคภูมิใจไทย (15)
แก้ย้ายไปพรรคเพื่อไทย
- อภิชา เลิศพชรกมล อดีต ส.ส.นครราชสีมา
- วีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
- มานิตย์ ภาวสุทธิ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี
- ไกร ดาบธรรม อดีต ส.ส.เชียงใหม่
- วิรัช พิมพะนิตย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์
- วิชัย ด่านรุ่งโรจน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร และสว.พิจิตร
- สมเกียรติ ตันดิลกตระกูล ส.ส.นครราชสีมา และอดีตรองนายก อบจ.
- นรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล อดีต ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา
ย้ายไปพรรคพลังประชารัฐ
- บรรจบ รุ่งโรจน์ อดีต ส.ส.ชลบุรี
- สุนทรี ชัยวิรัตนะ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- สุชาติ ศรีสังข์ อดีต ส.ส. มหาสารคาม
ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ
- ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ
- ณัฐพล เกียรติวินัยสกุล อดีต ส.ส.ลพบุรี
ย้ายไปพรรคไทยสร้างไทย
- ฟารีดา สุไลมาน อดีต ส.ส.สุรินทร์
- วันเพ็ญ เศรษฐรักษา อดีต ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์
ย้ายไปพรรคเพื่อไทรวมพลัง
- จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล อดีต ส.ส.นครราชสีมา
พรรคเศรษฐกิจไทย (17)
แก้กลับมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ
- เกษม ศุภรานนท์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา
- จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร
- จีรเดช ศรีวิราช อดีต ส.ส.พะเยา
- ทัศนาพร เกษเมธีการุณ อดีต ส.ส.นครราชสีมา
- ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต ส.ส.พะเยา
- ปัญญา จีนาคำ อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน
- ไผ่ ลิกค์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร
- พรชัย อินทร์สุข อดีต ส.ส.พิจิตร
- ภาคภูมิ บูลย์ประมุข อดีต ส.ส.ตาก
- พลตำรวจเอก ยงยุทธ เทพจำนงค์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- ยุทธนา โพธสุธน อดีต ส.ส.สุพรรณบุรี และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- สะถิระ เผือกประพันธุ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี
- สมศักดิ์ คุณเงิน อดีต ส.ส.ขอนแก่น
- บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย
- ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ อดีต ส.ส.ตาก
- ธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ อดีต ส.ส.อุบลราชธานี
- ณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ อดีต ส.ส.สุรินทร์
ย้ายไปพรรคพลังประชารัฐ
- กวินนาถ ตาคีย์ อดีต ส.ส.ชลบุรี
ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ
- จารึก ศรีอ่อน อดีต ส.ส.จันทบุรี
- โกวิท พวงงาม อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- ชัชวาลล์ คงอุดม อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ.
ย้ายไปพรรคเพื่อไทย
- นพดล แก้วสุพัฒน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
พรรคประชาภิวัฒน์ (1)
แก้ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย
- นันทนา สงฆ์ประชา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
พรรคสร้างอนาคตไทย (5)
แก้กลับมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ
- วิเชียร ชวลิต อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
- อุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ย้ายไปพรรคชาติไทยพัฒนา
- สันติ กีระนันทน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ย้ายพรรคประชาธิปัตย์
- ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี
พรรคเพื่อชาติ (6)
แก้ย้ายไปพรรคเพื่อไทย
- สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
- ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย
- อารี ไกรนรา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ย้ายไปพรรคประชาธิปัตย์
- พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ อดีต ส.ส.นครราชสีมา
ย้ายไปพรรคพลังประชารัฐ
- วิทยา บุตรดีวงค์ อดีต ส.ส.มุกดาหาร
ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ
- ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีต ส.ส.อุตรดิตถ์
พรรคพลังปวงชนไทย (1)
แก้ย้ายไปพรรคเพื่อไทย
- นิคม บุญวิเศษ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ
พรรคชาติไทยพัฒนา (6)
แก้ย้ายไปพรรคเพื่อไทย
- อนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร
- อมรเทพ สมหมาย อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ
ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย
- ปัญญา ชวนบุญ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร
- ศักดิ์ชัย จินตะเวช อดีต ส.ส.อุบลราชธานี
ย้ายไปพรรคพลังประชารัฐ
- ณริยา บุญเศรฐ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร
ย้ายไปพรรคไทยสร้างไทย
- วิสันต์ เดชเสน อดีต ส.ส.ยโสธร
ย้ายไปพรรคพลังประชารัฐ
- รัฐกร เจนกิจณรงค์ อดีต ส.ส.นครปฐม
พรรคไทยสร้างไทย (1)
แก้ย้ายไปพรรคประชาธิปัตย์
- สาคร พรหมภักดี อดีต ส.ส.สกลนคร
พรรคประชาชาติ (1)
แก้ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย
- นัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.นราธิวาส
ระบบบัญชีรายชื่อ
แก้การเลือกตั้งครั้งนี้ใช้การลงคะแนนระบบคู่ขนาน โดยใช้บัตรเลือกตั้งจำนวนสองใบ ซึ่งหมายเลขประจำพรรคการเมืองในระบบบัญชีรายชื่อจะเป็นหมายเลขเดียวกันทั้งประเทศ ขณะที่หมายเลขของผู้สมัครในระบบแบ่งเขตจะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขต แม้จะอยู่พรรคการเมืองเดียวกันก็ตาม
การเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองที่สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด 67 พรรค โดยหมายเลขประจำพรรคการเมืองมาจากการจับสลากจำนวน 49 หมายเลข และถัดจากนั้นเรียงลำดับตามช่วงเวลาสมัครก่อน-หลัง ซึ่งหมายเลขของแต่ละพรรคการเมืองมีดังต่อไปนี้[47][48]
ก่อนการเลือกตั้ง
แก้ในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 ถึง เดือนมกราคม พ.ศ. 2566 พรรคการเมืองต่าง ๆ เริ่มมีการขึ้นป้ายหาเสียงล่วงหน้า เช่น พรรคเพื่อไทย[49], พรรคประชาธิปัตย์[50], พรรครวมไทยสร้างชาติ[51] และพรรคก้าวไกล[52] เป็นต้น เวลาเดียวกันมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวนหนึ่งได้ลาออกจากตำแหน่ง โดยส่วนใหญ่เป็นอดีต ส.ส. สังกัดพรรคพลังประชารัฐ[53] ในช่วงต้นเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
ต่อมาปลายเดือนธันวาคม 2565 ผู้นำฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลโดยไม่มีการลงมติโดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ตามคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา[54] ในวันที่ 30 ธันวาคม 2565 นาย ธวัชชัย เทอดเผ่าไทย คณะกรรมการการเลือกตั้ง พ้นจากตำแหน่งและต่อมาในวันที่ 12 มกราคม 2566 ปดิพัทธ์ สันติภาดา เปิดเผยว่าหลานของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "คดีทุนจีนสีเทา"[55] ในเดือนเดียวกันมีการวิเคราะห์ว่าพลเอกประยุทธ์จะประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน หลังปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์[56] บ้างก็คาดเดาว่าเขาอาจยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลี่ยงการอภิปรายทั่วไปของฝ่ายค้าน[57] ด้าน นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คาดการณ์ว่าอาจมีการยุบสภาในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม[58] ส่วน ดร.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ว่าที่พลเอกประยุทธ์ยังไม่ยุบสภานั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เกี่ยวกับความพร้อมของพรรครวมไทยสร้างชาติมากกว่า[59] ในช่วงกลางเดือนดังกล่าว หลังการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติของฝ่ายค้านในรัฐสภา พลเอกประยุทธ์ระบุว่ามีแนวโน้มจะยุบสภาในเดือนถัดจากนั้น[60]
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย วิเคราะห์ว่าหากเครือข่ายประยุทธ์ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ อาจนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี[61] และต่อมา กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวว่าหากนายกรัฐมนตรีเป็นคนดี ก็ไม่ควรจำกัดวาระไว้ที่ 8 ปี[62] ด้าน ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า นั่นเป็นความเห็นส่วนตัวของกิตติศักดิ์ และต้องผ่านกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามปกติ[63]
ในเดือนมกราคม 2566 มีการเปิดตัว "เครือข่ายประชาชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งปี 2566" ซึ่งประกอบด้วยองค์การนอกภาครัฐกว่า 100 แห่ง และออกแถลงการณ์เชิญชวนประชาชนให้ร่วมกันสังเกตการณ์การเลือกตั้ง เพราะมีความกังวลในเรื่องความเป็นธรรมและความโปร่งใสของการเลือกตั้ง[64]
ในเดือนเดียวกัน ยังมีการอดอาหารประท้วงของเยาวชนที่ถูกดำเนินคดีในความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยเพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมืองและเรียกร้องพรรคการเมืองต่าง ๆ ให้มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ 116[65] พรรคการเมืองฝ่ายค้านมีมติร่วมกันตามข้อเรียกร้อง 2 ข้อโดยไม่กล่าวถึงข้อเรียกร้องการปฏิรูปกฎหมายอาญา 2 มาตราดังกล่าว[66] ต่อมามีผู้ชุมนุมเดินทางไปที่พรรคเพื่อไทยเพื่อเรียกร้องให้พรรครับข้อเสนอแก้ไขกฎหมายดังกล่าวด้วย[67]
เดือนกุมภาพันธ์ 2566 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แบ่งเขตเลือกตั้ง โดยมีการนำบุคคลต่างด้าวและผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งมาคำนวณ ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจส่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ[68] ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้ให้ความคิดเห็นว่า คำว่า “จำนวนราษฎรตามประกาศมหาดไทย”[69] ที่ กกต. อ้างว่ารัฐธรรมนูญกำหนดให้ใช้ หมายรวมถึงคนไทยและคนต่างด้าวมาคิดคำนวณสูตรแบ่งเขตเลือกตั้ง และอาจหวั่นซ้ำรอยเลือกตั้งปี 2549[70] รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และโฆษกพรรค ระบุถึงประเด็นนี้ว่า กกต. ไม่ควรนับรวมคนต่างด้าวในการคำนวณแบ่งเขตเลือกตั้ง ควรดูจากประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นหลัก[71] ต่อมา กกต. แถลงประเด็นนี้ว่า สถานะของราษฎรที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย อาจอยู่สถานะ “รอการพิสูจน์” เพื่อลำดับขั้นตอนสู่การมีสัญชาติ[72] และตอบประเด็นนี้ว่า “ราษฎร” คือบุคคลผู้มีชื่อในทะเบียน หรือต่างชาติที่เข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย แต่ไม่นับกลุ่มต่างด้าว[73] ส่วน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่าวิธีการคำนวณดังกล่าวเป็นการใช้เพื่อกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร[74] และการแบ่งเขตเลือกตั้งเท่านั้น[75]วันที่ 26 กุมภาพันธ์ มีคนร้ายขับรถชน นายติรานนท์ เวียงธรรม ผู้สมัครพรรคก้าวไกล ซึ่งเสียชีวิตในอีกสามวันหลังเกิดเหตุ
3 มีนาคม 2566 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าการกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดพึงมี คำว่า "ราษฎร" ไม่ได้หมายรวมถึงผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย[76] ตามคำตัดสินดังกล่าวส่งผลให้ 8 จังหวัด มีจำนวน ส.ส.เขต เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ กกต. เคยประกาศไว้เมื่อกุมภาพันธ์ 2566[e][77][46]
ในวันที่ 20 มีนาคม เพียง 3 วันก่อนการครบวาระสภา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 ตามคำกราบบังคมทูลของนายกรัฐมนตรี [78] โดยให้เหตุผลว่าอายุสภาผู้แทนราษฎรใกล้สิ้นสุดลง และเพื่อคืนอำนาจให้แก่ประชาชน[79] อย่างไรก็ตามมีข้อวิจารณ์ว่าการยุบสภาก่อนสภาหมดวาระเพียงไม่กี่วันไม่ใช่การเร่งคืนอำนาจให้ประชาชน แต่เป็นการอาศัยเงื่อนไขตามกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้นักการเมือง และยื้อเวลาให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ช้าลง[80] และในวันรุ่งขึ้น (21 มีนาคม) คณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม[81] วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีอธิบายว่า หากยุบสภาได้ในวันที่ 20 มีนาคมก็ควรจะยุบ เพราะสภาจะหมดวาระในวันที่ 23 มีนาคม รวมถึงคณะรัฐมนตรีมีสถานะเป็นรักษาการนับตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม แต่ในทางกฎหมาย จะไม่เรียก “ครม.รักษาการ” เพราะสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยตีความไว้เมื่อหลายปีก่อนแล้วว่า “ถ้าเรียกอาจจะเกิดปัญหา” จึงไม่ใช่คำนี้ในภาษาราชการ[82]
ในเดือนเมษายน 2566 โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งปรากฎว่าพรรคการเมืองได้นำประเด็นเรื่องสถาบันมาอภิปราย โดย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้อภิปรายตอนหนึ่งว่าจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับพวกชังชาติ[83] ในขณะที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ในเวทีเลือกตั้ง 66 เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ[84] แสดงจุดยืนแก้ไขกฎหมายความผิดต่อพระมหากษัตริย์ไทย การโจมตีเด็กและเยาวชนเริ่มมีมากขึ้นก่อนการเลือกตั้ง เช่น วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 คมสันชัย สุขพิพัฒน์มงคล นักพากษ์การ์ตูน ได้กล่าวโจมตีบุคคลที่ไม่ยืนในโรงหนังในขณะเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี
ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้ปราศัยที่ อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรีเกี่ยวกับความผิดพลาดในวงการทหารตำรวจ อาทิ กรณี ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม คนเคยสนิท[85] ธานี อ่อนละเอียด ทำร้ายร่างกายทหารรับใช้[86] เรือหลวงสุโขทัย เหตุกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2563 และกล่าวโจมตี ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ภายหลังปล่อยคลิปของพรรครวมไทยสร้างชาติที่มีเนื้อหาเชิงตำหนิเยาวชนอกตัญญู[87]
และก่อนการเลือกตั้ง ได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับผู้สมัครดังต่อไปนี้
- 4 กุมภาพันธ์ ตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล สส.สุรินทร์ เขต 4 พรรคเพื่อไทย และเป็นว่าที่ผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งใหม่ เสียชีวิตกะทันหันด้วยโรคหัวใจวาย ขณะเดินทางจากจังหวัดนครราชสีมาเพื่อไปยังกรุงเทพมหานคร[88] โดยมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครเป็น พรเทพ พูนศรีธนากูล แทน
- 26 กุมภาพันธ์ ติรานนท์ เวียงธรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แพร่ เขต 1 พรรคก้าวไกล ประสบอุบัติเหตุหลังกลับจากการลงพื้นที่หาเสียง และเสียชีวิตในช่วงเช้าของวันที่ 2 มีนาคม โดยระบุว่าเป็นอุบัติเหตุถูกรถชน แต่ไม่สามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้[89] โดยมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครเป็น วิทูรย์ สุรจิตต์ แทน
- 22 เมษายน ธีระทัศน์ เตียวเจริญ ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 6 พรรครวมไทยสร้างชาติ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง[90] ทำให้ไม่มีผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติในเขตเลือกตั้งนั้น
บทบาทของทหาร
แก้ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้า 2 วัน (7 พฤษภาคม) กองทัพบกเผยแพร่วิดีโอกรมดุริยางค์ทหารบกขับร้องเพลง "หนักแผ่นดิน" ซึ่งทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และต้องลบวิดีโอดังกล่าวหลังเผยแพร่ได้เพียง 2 ชั่วโมง[91][92] ในวันที่ 8 พฤษภาคม กองทัพภาคที่ 2 เผยแพร่ภาพพร้อมข้อความว่า "ทหารมีไว้ทำไม" ซึ่งทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน[93][94]
ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันว่า จะไม่ก่อรัฐประหารหลังการเลือกตั้ง และสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย พร้อมเชิญชวนทหารไปเลือกตั้ง[95] วันเดียวกันมีทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 4 ถูกลงโทษขัง 30 วัน เนื่องจากโพสต์หาเสียงเลือกตั้งในกลุ่มไลน์ โดยกองทัพระบุว่า เป็นการประพฤติไม่เป็นกลางทางการเมือง[96][97]
ชื่อบุคคลที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี
แก้มีพรรคการเมืองจำนวน 42 พรรค เสนอชื่อบุคคลผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวนรวม 61 คน โดยมีพรรคการเมืองเสนอ 3 ชื่อ จำนวน 5 พรรค เสนอ 2 ชื่อ จำนวน 7 พรรค ที่เหลือเสนอพรรคละ 1 ชื่อ
เมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้น มีพรรคการเมืองจำนวน 6 พรรคที่มีสิทธิ์ในการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีต่อรัฐสภา รวมทั้งหมด 9 คน ดังรายชื่อดังต่อไปนี้
พรรคก้าวไกล | พรรคเพื่อไทย | พรรคภูมิใจไทย | ||
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ | แพทองธาร ชินวัตร | เศรษฐา ทวีสิน | ชัยเกษม นิติสิริ | อนุทิน ชาญวีรกูล |
---|---|---|---|---|
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (2562–2566) |
กรรมการมูลนิธิไทยคม (ตั้งแต่ 2550) |
ประธานอำนวยการ บมจ.แสนสิริ (2564[98]–2566) |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (2556–2557) |
รองนายกรัฐมนตรี (ตั้งแต่ 2562) |
พรรครวมไทยสร้างชาติ | พรรคพลังประชารัฐ | พรรคประชาธิปัตย์ | |
ประยุทธ์ จันทร์โอชา | พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค | ประวิตร วงษ์สุวรรณ | จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ |
---|---|---|---|
นายกรัฐมนตรี (2557–2566) |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (2551–2554) |
รองนายกรัฐมนตรี (2557–2566) |
รองนายกรัฐมนตรี (2562–2566) |
ผลสำรวจ
แก้พรรคที่ต้องการ
แก้ระยะเวลาการสำรวจ | องค์กรที่สำรวจ | กลุ่มตัวอย่าง | คะแนนความนิยมพรรค (%) | คะแนนนำ (%) | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พปชร. | พท. | ก.ก. | ปชป. | ภท. | สร. | ทสท. | รทสช. | ยังไม่ตัดสินใจ | อื่น ๆ | ||||
28 เมษายน–3 พฤษภาคม 2566 | เนชั่นโพล | 115,399 | 3.18 | 39.83 | 29.18 | 3.97 | 4.84 | 0.82 | 0.99 | 7.45 | 7.09 | 2.65 | 10.65 |
24–28 เมษายน 2566 | นิด้าโพล | 2,500 | 1.28 | 37.92 | 35.36 | 3.32 | 2.36 | 1.60 | 1.68 | 12.84 | 1.24 | 2.40 | 2.66 |
22–28 เมษายน 2566 | โพลเดลินิวส์ x มติชน | 78,583 | 2.46 | 33.65 | 50.29 | 1.05 | 0.70 | 1.01 | 1.01 | 6.05 | 0.96 | 2.82 | 16.64 |
10–20 เมษายน 2566 | สวนดุสิตโพล | 162,454 | 7.49 | 41.37 | 19.32 | 7.30 | 9.55 | 1.74 | 2.41 | 8.48 | – | 2.34 | 22.35 |
8–14 เมษายน 2566 | โพลเดลินิวส์ x มติชน | 84,076 | 1.55 | 38.89 | 32.37 | 1.83 | 3.30 | 1.63 | 1.73 | 12.84 | 2.21 | 3.65 | 6.52 |
7–12 เมษายน 2566 | เนชั่นโพล | 39,687 | 1.58 | 35.75 | 16.02 | 3.50 | 3.80 | 0.69 | 0.71 | 4.50 | 32.27 | 1.18 | 3.48 |
3–7 เมษายน 2566 | นิด้าโพล | 2,000 | 1.80 | 47.00 | 21.85 | 4.50 | 3.00 | 2.65 | 2.10 | 11.40 | 2.35 | 3.35 | 25.15 |
1–17 มีนาคม 2566 | สวนดุสิตโพล | 10,614 | 5.17 | 46.16 | 15.43 | 7.71 | 11.12 | 0.41 | 1.43 | 8.73 | — | 1.90 | 30.73 |
2–8 มีนาคม 2566 | นิด้าโพล | 2,000 | 2.30 | 49.85 | 17.15 | 4.95 | 2.55 | 2.85 | 2.60 | 12.15 | 2.35 | 3.25 | 32.70 |
17–22 ธันวาคม 2565 | นิด้าโพล | 2,000 | 4.00 | 42.95 | 16.60 | 5.35 | 5.25 | 3.40 | 3.25 | 6.95 | 8.30 | 3.95 | 26.35 |
15–21 กันยายน 2565 | นิด้าโพล | 2,500 | 5.56 | 34.44 | 13.56 | 7.56 | 2.32 | 2.56 | 3.04 | — | 24.00 | 6.96 | 20.88 |
20–23 มิถุนายน 2565 | นิด้าโพล | 2,500 | 7.00 | 36.36 | 17.88 | 6.32 | 2.56 | 3.04 | 2.96 | — | 18.68 | 5.20 | 18.48 |
10–15 มีนาคม 2565 | นิด้าโพล | 2,020 | 7.03 | 25.89 | 16.24 | 7.97 | 1.88 | 2.28 | 2.18 | — | 28.86 | 7.67 | 2.97 |
15–21 ธันวาคม 2564 | นิด้าโพล | 2,504 | 8.99 | 23.52 | 13.18 | 7.15 | 1.32 | 2.43 | 1.60 | — | 37.14 | 4.67 | 13.62 |
25–28 ตุลาคม 2564 | สวนดุสิตโพล | 1,186 | 24.61 | 32.94 | 25.21 | 6.18 | 4.28 | — | — | — | — | 6.78 | 7.73 |
20–23 กันยายน 2564 | นิด้าโพล | 2,018 | 9.51 | 22.50 | 15.11 | 7.78 | 1.14 | 2.68 | 1.93 | — | 35.68 | 2.28 | 13.18 |
11–16 มิถุนายน 2564 | นิด้าโพล | 2,515 | 10.70 | 19.48 | 14.51 | 9.54 | 2.43 | 2.90 | 2.47 | — | 32.68 | 2.82 | 13.20 |
23–26 มีนาคม 2564 | นิด้าโพล | 2,522 | 16.65 | 22.13 | 13.48 | 7.10 | 3.25 | 3.81 | — | — | 29.82 | 3.76 | 7.69 |
20–23 ธันวาคม 2563 | นิด้าโพล | 2,533 | 17.80 | 23.61 | 14.92 | 7.46 | 1.82 | 3.00 | — | — | 26.49 | 4.90 | 2.88 |
18–23 กันยายน 2563 | นิด้าโพล | 2,527 | 12.39 | 19.39 | 12.70 | 7.44 | 1.58 | 1.70 | — | — | 41.59 | 3.21 | 22.20 |
22–24 มิถุนายน 2563 | นิด้าโพล | 2,517 | 15.73 | 20.70 | 13.47 | 7.75 | 1.43 | 2.50 | — | — | 32.38 | 6.04 | 11.68 |
18–20 ธันวาคม 2562 | นิด้าโพล | 2,511 | 16.69 | 19.95 | 30.27 | 10.83 | 2.43 | 2.03 | — | — | 13.46 | 4.34 | 11.00 |
24 มีนาคม 2562 | การเลือกตั้ง 2562 | — | 23.74 | 22.16 | 17.80 | 11.13 | 10.50 | 2.32 | — | — | 1.58 | 10.77 | 1.58 |
นายกรัฐมนตรีที่ต้องการ
แก้ระยะเวลาการสำรวจ | องค์กรที่สำรวจ | กลุ่มตัวอย่าง | คะแนนนิยม (%) | คะแนนนำ (%) | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประยุทธ์ | สุดารัตน์ | แพทองธาร | เศรษฐา | พิธา | จุรินทร์ | เสรีพิศุทธ์ | กรณ์ | อนุทิน | ยังไม่ตัดสินใจ | อื่น ๆ | |||||
28 เมษายน - 3 พฤษภาคม 2566 | เนชั่นโพล | 115,399 | 8.85 | 1.23 | 27.55 | 13.28 | 29.37 | 2.49 | 1.11 | 0.38 | 4.05 | 5.35 | 4.22 | 1.82 | |
24–28 เมษายน 2566 | นิด้าโพล | 2,500 | 14.84 | 2.48 | 29.20 | 6.76 | 35.44 | 1.80 | 1.68 | 1.32 | 1.36 | 3.00 | 2.12 | 6.24 | |
22–28 เมษายน 2566 | โพลเดลินิวส์ x มติชน | 78,583 | 6.52 | 1.04 | 19.59 | 15.54 | 49.17 | — | 0.84 | 1.74 | 0.64 | 1.18 | 3.74 | 29.58 | |
8–14 เมษายน 2566 | โพลเดลินิวส์ x มติชน | 84,076 | 13.72 | 1.90 | 23.23 | 16.69 | 29.42 | 1.08 | 2.25 | 2.94 | 1.40 | 2.97 | 3.15 | 6.19 | |
7–12 เมษายน 2566 | เนชั่นโพล เก็บถาวร 2023-04-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน | 39,687 | 8.13 | 1.67 | 33.81 | 7.45 | 16.87 | 2.59 | 1.42 | 1.09 | 2.70 | 22.58 | 1.69 | 11.23 | |
3–7 เมษายน 2566 | นิด้าโพล | 2,000 | 13.60 | 4.15 | 35.70 | 6.05 | 20.25 | 2.20 | 3.45 | 1.95 | 2.55 | 6.10 | 4.00 | 15.45 | |
ระยะเวลาการสำรวจ | องค์กรที่สำรวจ | กลุ่มตัวอย่าง | ประยุทธ์ | สุดารัตน์ | แพทองธาร | ชลน่าน | พิธา | จุรินทร์ | เสรีพิศุทธ์ | กรณ์ | อนุทิน | ยังไม่ตัดสินใจ | อื่น ๆ | คะแนนนำ | |
2–8 มีนาคม 2566 | นิด้าโพล | 2,000 | 15.65 | 5.10 | 38.20 | 1.60 | 15.75 | 2.35 | 4.45 | 1.40 | 1.55 | 9.45 | 4.50 | 22.45 | |
17–22 ธันวาคม 2565 | นิด้าโพล | 2,000 | 14.05 | 6.45 | 34.00 | 2.60 | 13.25 | 2.30 | 6.00 | 2.65 | 5.00 | 8.25 | 5.45 | 19.95 | |
15–21 กันยายน 2565 | นิด้าโพล | 2,500 | 10.12 | 9.12 | 21.60 | 2.20 | 10.56 | 1.68 | 6.28 | 2.12 | 2.40 | 24.16 | 9.76 | 2.56 | |
20–23 มิถุนายน 2565 | นิด้าโพล | 2,500 | 11.68 | 6.80 | 25.28 | 2.92 | 13.24 | 1.56 | 6.60 | 3.76 | 1.52 | 18.68 | 7.96 | 12.04 | |
10–15 มีนาคม 2565 | นิด้าโพล | 2,020 | 12.67 | 8.22 | 12.53 | 3.96 | 13.42 | 2.58 | 7.03 | 2.77 | 1.63 | 27.62 | 7.57 | 14.20 | |
15–21 ธันวาคม 2564 | นิด้าโพล | 2,504 | 16.93 | 5.51 | 10.55 | 2.24 | 10.74 | 1.84 | 4.83 | 2.63 | — | 36.54 | 8.19 | 19.61 | |
25–28 ตุลาคม 2564 | สวนดุสิตโพล | 1,186 | 21.27 | 19.35 | — | — | 28.67 | — | — | — | — | — | 30.71 | 7.40 | |
ระยะเวลาการสำรวจ | องค์กรที่สำรวจ | กลุ่มตัวอย่าง | ประยุทธ์ | สุดารัตน์ | สมพงษ์ | พิธา | จุรินทร์ | เสรีพิศุทธ์ | กรณ์ | อนุทิน | ยังไม่ตัดสินใจ | อื่น ๆ | คะแนนนำ | ||
20–23 กันยายน 2564 | นิด้าโพล | 2,018 | 17.54 | 11.15 | 2.33 | 11.05 | 1.54 | 9.07 | 2.58 | 1.24 | 32.61 | 10.89 | 15.07 | ||
11–16 มิถุนายน 2564 | นิด้าโพล | 2,515 | 19.32 | 13.64 | 0.87 | 5.45 | 1.47 | 8.71 | 3.62 | 2.35 | 37.65 | 6.92 | 18.33 | ||
23–26 มีนาคม 2564 | นิด้าโพล | 2,522 | 28.79 | 12.09 | 1.90 | 6.26 | 0.99 | 8.72 | 2.70 | 2.02 | 30.10 | 6.43 | 1.31 | ||
20–23 ธันวาคม 2563 | นิด้าโพล | 2,533 | 30.32 | 13.46 | 1.03 | 7.74 | 0.63 | 7.50 | 1.65 | 1.34 | 32.10 | 4.23 | 1.78 | ||
ระยะเวลาการสำรวจ | องค์กรที่สำรวจ | กลุ่มตัวอย่าง | ประยุทธ์ | สุดารัตน์ | สมพงษ์ | พิธา | อภิสิทธิ์ | จุรินทร์ | เสรีพิศุทธ์ | กรณ์ | อนุทิน | ยังไม่ตัดสินใจ | อื่น ๆ | คะแนนนำ | |
18–23 กันยายน 2563 | นิด้าโพล | 2,527 | 18.64 | 10.57 | 1.07 | 5.70 | — | — | 3.92 | 1.54 | 0.67 | 54.13 | 3.76 | 35.49 | |
22–24 มิถุนายน 2563 | นิด้าโพล | 2,517 | 25.47 | 8.07 | 0.99 | 3.93 | 0.95 | 0.83 | 4.57 | 1.67 | 0.44 | 44.06 | 9.02 | 18.59 | |
ระยะเวลาการสำรวจ | องค์กรที่สำรวจ | กลุ่มตัวอย่าง | ประยุทธ์ | สุดารัตน์ | สมพงษ์ | ธนาธร | อภิสิทธิ์ | จุรินทร์ | เสรีพิศุทธ์ | กรณ์ | อนุทิน | ยังไม่ตัดสินใจ | อื่น ๆ | คะแนนนำ | |
18–20 ธันวาคม 2562 | นิด้าโพล | 2,511 | 23.74 | 11.95 | 0.40 | 31.42 | 0.67 | 2.47 | 3.90 | 0.04 | 1.08 | 17.32 | 7.01 | 7.68 | |
เลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 | |||||||||||||||
12 กุมภาพันธ์ – 20 มีนาคม 2562 | กรุงเทพโพลล์ | 10,062 | 28.70 | 20.60 | — | — | 19.20 | 14.80 | — | 4.80 | — | 1.00 | 3.20 | 7.70 | 8.10 |
เอกซิตโพล
แก้องค์กรที่สำรวจ/พรรค | เพื่อไทย | พลังประชารัฐ | ก้าวไกล | ประชาธิปัตย์ | ภูมิใจไทย | เสรีรวมไทย | ชาติไทยพัฒนา | ชาติพัฒนากล้า | รวมไทยสร้างชาติ | ไทยสร้างไทย |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สวนดุสิต | 246 | 22 | 106 | 28 | 45 | 2 | 9 | 2 | 25 | 4 |
ศรีปทุม | 180–200 | 20–40 | 110–130 | 20–40 | 40–60 | 2–4 | 3–5 | 45–65 | 4–6 | |
นิด้า | 164–172 | 53–61 | 80–88 | 33–41 | 72–80 | 0–1 | 7–11 | 2–6 | 45–53 | 5–9 |
เลือกตั้ง 2562 | 136 | 116 | 81 | 53 | 51 | 10 | 10 | 3 | 0 | 0 |
การเลือกตั้ง
แก้การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้งบประมาณแผ่นดินสูงถึง 5.9 พันล้านบาท[99] แต่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความผิดปกติและข้อผิดพลาดในการทำงานของ กกต.[99] ส่งผลให้แฮชแท็ก "#กกตมีไว้ทำไม" และ "#กกตต้องติดคุก" ขึ้นอันดับที่หนึ่งในทวิตเตอร์ พร้อมมีการล่ารายชื่อถอดถอน กกต.[100]
การเลือกตั้งครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เฝ้าระวัง โดยเกิดขึ้นแต่ในกรุงเทพมหานครที่มีการติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิดเฝ้าหีบบัตรเลือกตั้งทุกจุดไว้ตลอดเวลา และจัดตั้งศูนย์ควบคุมระบบดังกล่าวขึ้นที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนดูภาพจากกล้องวงจรปิดได้ตามเวลาจริงผ่านทางลิงก์ของกรุงเทพมหานคร[101][102][103]
การเลือกตั้งล่วงหน้า
แก้ในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 เกิดปัญหาหลายประการ เช่น ระบบคิวอาร์โค้ดล่มตั้งแต่เปิดหีบ[104] เจ้าหน้าที่กรอกข้อมูลในบัตรหรือซองเลือกตั้งผิด ทำให้ประชาชนวิตกว่า จะกลายเป็นบัตรเสียหรือเป็นคะแนนที่ไม่ตรงตามเจตนา[105] เช่น ในจังหวัดนนทบุรี มีบัตรถึง 100 ใบที่เจ้าหน้าที่กรอกข้อมูลผิด[106] และไปรษณีย์ไทยแถลงว่า มีบัตรกว่า 1 หมื่นซองที่ไม่สามารถอ่านลายมือของเจ้าหน้าที่ออก จึงต้องส่งคืน กกต. ไปวินิจฉัย[107][108][109] นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ยอมติดประกาศแนะนำพรรคการเมืองให้ครบทุกพรรค โดยมีรายงานว่า พรรคก้าวไกลหายไปมากที่สุด[106] และ กกต. ปฏิเสธที่จะรายงานผลการเลือกตั้งตามเวลาจริง[110] ทำให้สื่อมวลชนกว่า 50 องค์กรต้องร่วมมือกันรายงานผลให้แก่ประชาชนเอง[111]
การเลือกตั้งใหม่
แก้กกต. สั่งให้เลือกตั้งใหม่ในหน่วยเลือกตั้งที่ 10 เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐม เนื่องจากพายุฝนทำให้การเลือกตั้งในวันเลือกตั้งทั่วไปติดขัด การเลือกตั้งใหม่มีในวันที่ 21 พฤษภาคม 2566[112] โดยพรรคก้าวไกลชนะในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าว แต่ไม่มีผลต่อจำนวน ส.ส. ในเขตเลือกตั้งนั้น[113]
การเลือกตั้งทั่วไป
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ (พฤษภาคม 2023) |
ผลการเลือกตั้ง
แก้ภาพรวม
แก้↓ | |||||||
151 | 25 | 26 | 10 | 36 | 40 | 71 | 141 |
ก้าวไกล | ปชป. | อื่น ๆ | ชพน. | รทสช. | พปชร. | ภูมิใจไทย | เพื่อไทย |
(ซ้าย) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง, (ขวา) พรรคที่ได้คะแนนแบบบัญชีรายชื่อสูงสุดจำแนกตามเขตเลือกตั้ง
ก้าวไกล เพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ | |||||||||
พรรค | แบ่งเขต | บัญชีรายชื่อ | ที่นั่งรวม | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
คะแนนเสียง | % | ที่นั่ง | คะแนนเสียง | % | ที่นั่ง | ||||
ก้าวไกล | 9,665,433 | 25.98 |
112 | 14,438,851 | 38.48 |
39 | 151 / 500
| ||
เพื่อไทย | 9,340,082 | 25.11 |
112 | 10,962,522 | 29.22 |
29 | 141 / 500
| ||
ภูมิใจไทย | 5,133,441 | 13.80 |
68 | 1,138,202 | 3.03 |
3 | 71 / 500
| ||
พลังประชารัฐ | 4,186,441 | 11.25 |
39 | 537,625 | 1.43 |
1 | 40 / 500
| ||
รวมไทยสร้างชาติ | 3,607,575 | 9.70 |
23 | 4,766,408 | 12.70 |
13 | 36 / 500
| ||
ประชาธิปัตย์ | 2,278,857 | 6.12 |
22 | 925,349 | 2.47 |
3 | 25 / 500
| ||
ชาติไทยพัฒนา | 585,205 | 1.57 |
9 | 192,497 | 0.51 |
1 | 10 / 500
| ||
ประชาชาติ | 334,051 | 0.89 |
7 | 602,645 | 1.61 |
2 | 9 / 500
| ||
ไทยสร้างไทย | 872,893 | 2.34 |
5 | 340,178 | 0.91 |
1 | 6 / 500
| ||
ชาติพัฒนากล้า | 297,946 | 0.80 |
1 | 212,676 | 0.57 |
1 | 2 / 500
| ||
เพื่อไทรวมพลัง | 94,345 | 0.26 |
2 | 66,830 | 0.17 |
0 | 2 / 500
| ||
เสรีรวมไทย | 277,007 | 0.74 |
0 | 351,376 | 0.94 |
1 | 1 / 500
| ||
ประชาธิปไตยใหม่ | 13,583 | 0.03 |
0 | 273,428 | 0.73 |
1 | 1 / 500
| ||
ใหม่ | 1,365 | 0.00 |
0 | 249,731 | 0.67 |
1 | 1 / 500
| ||
ท้องที่ไทย | 1,202 | 0.00 |
0 | 201,411 | 0.54 |
1 | 1 / 500
| ||
เป็นธรรม | 9,653 | 0.00 |
0 | 184,817 | 0.49 |
1 | 1 / 500
| ||
พลังสังคมใหม่ | 20,353 | 0.05 |
0 | 177,8379 | 0.47 |
1 | 1 / 500
| ||
ครูไทยเพื่อประชาชน | 4,464 | 0.01 |
0 | 175,182 | 0.47 |
1 | 1 / 500
| ||
อื่น ๆ | 466,175 | 14.61 |
0 | 4,191,255 | 10.15 |
0 | 0 / 500
| ||
คะแนนสมบูรณ์ | 37,190,071 | 94.12 | 400 | 37,522,746 | 94.96 | 100 | 500 | ||
คะแนนเสีย | 1,457,899 | 3.69 | 1,509,836 | 3.82 | |||||
ไม่ประสงค์ลงคะแนน | 866,885 | 2.19 | 482,303 | 1.22 | |||||
จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง | 39,514,973 | 75.71 | 39,514,964 | 75.71 | |||||
จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง | 52,238,594 | 100.00 | 52,238,594 | 100.00 | |||||
ที่มา: คณะกรรมการการเลือกตั้ง[114] |
ผลการเลือกตั้งรายจังหวัด
แก้จังหวัด | ที่นั่งรวม | พรรคที่ชนะ | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ก.ก. | พท. | ภท. | พปชร. | รทสช. | ปชป. | ชทพ. | ปชช | ทสท. | ชพก. | พทล. | อื่น ๆ | ||
กระบี่ | 3 | 3 | |||||||||||
กรุงเทพมหานคร | 33 | 32 | 1 | ||||||||||
กาญจนบุรี | 5 | 4 | 1 | ||||||||||
กาฬสินธุ์ | 6 | 4 | 1 | 1 | |||||||||
กำแพงเพชร | 4 | 4 | |||||||||||
ขอนแก่น | 11 | 3 | 6 | 2 | |||||||||
จันทบุรี | 3 | 3 | |||||||||||
ฉะเชิงเทรา | 4 | 1 | 2 | ||||||||||
ชลบุรี | 10 | 7 | 1 | 1 | 1 | ||||||||
ชัยนาท | 2 | 1 | 1 | ||||||||||
ชัยภูมิ | 7 | 3 | 2 | 2 | |||||||||
ตรัง | 4 | 1 | 1 | 2 | |||||||||
ชุมพร | 3 | 3 | |||||||||||
เชียงราย | 7 | 3 | 4 | ||||||||||
เชียงใหม่ | 10 | 7 | 2 | 1 | |||||||||
ตราด | 1 | 1 | |||||||||||
ตาก | 3 | 2 | 1 | ||||||||||
นครนายก | 2 | 2 | |||||||||||
นครปฐม | 6 | 2 | 1 | 3 | |||||||||
นครพนม | 4 | 2 | 2 | ||||||||||
นครราชสีมา | 16 | 3 | 12 | 1 | |||||||||
นครศรีธรรมราช | 10 | 2 | 1 | 1 | 6 | ||||||||
นครสวรรค์ | 6 | 1 | 1 | 2 | 1 | 1 | |||||||
นนทบุรี | 8 | 8 | |||||||||||
นราธิวาส | 5 | 1 | 2 | 1 | 1 | ||||||||
น่าน | 3 | 3 | |||||||||||
บึงกาฬ | 3 | 1 | 2 | ||||||||||
บุรีรัมย์ | 10 | 10 | |||||||||||
ปทุมธานี | 7 | 6 | 1 | ||||||||||
ประจวบคีรีขันธ์ | 3 | 1 | 2 | ||||||||||
ปราจีนบุรี | 3 | 1 | 2 | ||||||||||
ปัตตานี | 5 | 1 | 1 | 3 | |||||||||
พระนครศรีอยุธยา | 5 | 2 | 3 | ||||||||||
พะเยา | 3 | 3 | |||||||||||
พังงา | 2 | 1 | 1 | ||||||||||
พัทลุง | 3 | 1 | 2 | ||||||||||
พิจิตร | 3 | 3 | |||||||||||
พิษณุโลก | 5 | 2 | 2 | 1 | |||||||||
เพชรบุรี | 3 | 1 | 2 | ||||||||||
เพชรบูรณ์ | 6 | 6 | |||||||||||
แพร่ | 3 | 3 | |||||||||||
ภูเก็ต | 3 | 3 | |||||||||||
มหาสารคาม | 6 | 5 | 1 | ||||||||||
มุกดาหาร | 2 | 1 | 1 | ||||||||||
แม่ฮ่องสอน | 2 | 1 | 1 | ||||||||||
ยโสธร | 3 | 1 | 1 | 1 | |||||||||
ยะลา | 3 | 3 | |||||||||||
ร้อยเอ็ด | 8 | 5 | 1 | 1 | 1 | ||||||||
ระนอง | 1 | 1 | |||||||||||
ระยอง | 5 | 5 | |||||||||||
ราชบุรี | 5 | 3 | 2 | ||||||||||
ลพบุรี | 5 | 1 | 2 | 2 | |||||||||
ลำปาง | 4 | 3 | 1 | ||||||||||
ลำพูน | 2 | 1 | 1 | ||||||||||
เลย | 4 | 3 | 1 | ||||||||||
ศรีสะเกษ | 9 | 7 | 2 | ||||||||||
สกลนคร | 7 | 5 | 1 | 1 | |||||||||
สงขลา | 9 | 1 | 1 | 1 | 6 | ||||||||
สตูล | 2 | 2 | |||||||||||
สมุทรปราการ | 8 | 8 | |||||||||||
สมุทรสงคราม | 1 | 1 | |||||||||||
สมุทรสาคร | 3 | 3 | |||||||||||
สระแก้ว | 3 | 1 | 2 | ||||||||||
สระบุรี | 4 | 1 | 1 | 1 | 1 | ||||||||
สิงห์บุรี | 1 | 1 | |||||||||||
สุโขทัย | 4 | 4 | |||||||||||
สุพรรณบุรี | 5 | 5 | |||||||||||
สุราษฎร์ธานี | 7 | 1 | 6 | ||||||||||
สุรินทร์ | 8 | 3 | 5 | ||||||||||
หนองคาย | 3 | 2 | 1 | ||||||||||
หนองบัวลำภู | 3 | 3 | |||||||||||
อ่างทอง | 2 | 2 | |||||||||||
อำนาจเจริญ | 2 | 2 | |||||||||||
อุดรธานี | 10 | 1 | 7 | 2 | |||||||||
อุตรดิตถ์ | 3 | 3 | |||||||||||
อุทัยธานี | 2 | 2 | |||||||||||
อุบลราชธานี | 11 | 4 | 3 | 1 | 1 | 2 | |||||||
บัญชีรายชื่อ | 100 | 39 | 29 | 3 | 1 | 13 | 3 | 1 | 2 | 1 | 1 | 7 | |
รวม | 500 | 151 | 141 | 71 | 40 | 36 | 25 | 10 | 9 | 6 | 2 | 2 | 7 |
ที่มา: Thai PBS |
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลครบ 400 เขตเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ยกเว้นหน่วยเลือกตั้งที่ 10 เขต 1 จังหวัดนครปฐม ที่ประสบวาตภัยทำให้ไม่สามารถลงคะแนนได้ ซึ่ง กกต. กำหนดให้การลงคะแนนในหน่วยดังกล่าวใหม่อีกสามวันหลังจากนั้น หลังจากนั้นจึงประกาศผลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ทั้งนี้ มีผู้มาใช้สิทธิ์คิดเป็น 75.71% สูงที่สุดนับตั้งแต่ กกต. จัดการเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองที่ได้ ส.ส. จำนวน 18 พรรค ในจำนวนนี้มี 10 พรรค ได้ ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ, มี 1 พรรค ได้ ส.ส. เฉพาะแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง นอกนั้นได้ ส.ส. เฉพาะแบบบัญชีรายชื่อเท่านั้น[115]
พรรคก้าวไกลได้ที่นั่งในสภามากที่สุด 151 ที่นั่ง[116] มากกว่าคู่แข่งหลักคือพรรคเพื่อไทยถึง 10 ที่นั่ง นักวิเคราะห์ตีความว่านี่เป็นแผ่นดินไหวทางการเมืองและการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในความคิดเห็นของประชาชน ในขณะที่ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลและนักวิเคราะห์การเมือง เรียกปรากฏการณ์ที่เกิดในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าเป็น "สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง" และ "รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่"[117] พรรคก้าวไกลทำสำเร็จเหนือความคาดหมาย เอาชนะพรรคเพื่อไทยที่ตั้งเป้าจะชนะขาดลอย ทำลายสถิติของพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคที่มี ส.ส. มากที่สุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 (ตั้งแต่ พรรคไทยรักไทย และ พรรคพลังประชาชน)[118] ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านเก่า 2 พรรคหลัก คือ พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ได้ตกลงจัดตั้งรัฐบาลผสมที่ 'สนับสนุนประชาธิปไตย' พร้อมกับอีก 6 พรรค คือ พรรคประชาชาติ, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคเป็นธรรม, พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคเพื่อไทรวมพลัง[119] โดยมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2566[120] อย่างไรก็ตามในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2566 พรรคเพื่อไทยได้ขอถอนตัวออกจากการร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล รวมทั้งจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และจะไม่มีพรรคก้าวไกลเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่า พรรคก้าวไกลไม่ยอมถอยเรื่องแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทำให้พรรคบางพรรคและสมาชิกวุฒิสภาไม่โหวตสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล[121] โดยท้ายที่สุด ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2566 พรรคเพื่อไทยสามารถรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ 315 เสียง จากพรรคร่วมทั้งสิ้น 12 พรรค (พรรคเพื่อไทย 141 เสียงกับอีก 11 พรรค[f]) ส่วนการแบ่งตำแหน่งรัฐมนตรีจะใช้เกณฑ์ 9 ที่นั่งต่อ 1 ตำแหน่งรัฐมนตรี[122]
สติธร ธนานิธิโชติ วิเคราะห์ว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้คือความพ่ายแพ้ของฝ่ายอนุรักษนิยม ส่วน รองศาตราจารย์ ดร. ประจักษ์ ก้องกีรติ อดีตรองคณบดี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าคะแนนเสียงนี้ส่งเสียงเตือนไปยังสมาชิกวุฒิสภามิให้ลงมติฝืนมติมหาชน บีบีซีไทยวิเคราะห์ว่าความพ่ายแพ้นี้เกิดจากการตัดคะแนนกันเองระหว่างพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ, ระบบเลือกตั้งที่ไม่เอื้อต่อพรรคเกิดใหม่, ความเบื่อหน่ายต่อการบริหารประเทศของประยุทธ์ รวมถึงการหาเสียงของพรรคฝ่ายค้านเดิมที่ต้องการตัดวงจรของทหารออกจากการเมืองอย่างเด็ดขาด[123] นอกจากนี้ยังวิเคราะห์ว่า การที่พรรคเพื่อไทยพลาดเป้า "แลนด์สไลด์" นั้น เกิดจากการวางแผนที่ผิดพลาด, จุดยืนทางการเมืองที่ไม่ชัดเจน, การไม่ลงดีเบตเองของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รวมถึงการประกาศพร้อมกลับประเทศไทยของทักษิณ ชินวัตร ทำให้พรรคเพื่อไทยเสียคะแนนในพื้นที่ กทม. และหัวเมือง[124]
วาสนา นาน่วม วิเคราะห์ว่าคะแนนของพรรคก้าวไกลบางส่วนที่มาจากพลทหารและนักเรียนนายร้อย อาจสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการปฏิรูปกองทัพของบุคคลกลุ่มดังกล่าว[125]
การเลือกตั้งซ่อม
แก้- 10 กันยายน พ.ศ. 2566 - ระยอง เขต 3 นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ จากพรรคก้าวไกล ชนะการเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขต 3
- 15 กันยายน พ.ศ. 2567 - พิษณุโลก เขต 1 แทน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี
หลังการเลือกตั้ง
แก้คำร้องคัดค้านการเป็น สส.
แก้15 มิถุนายน พ.ศ. 2566 มีเอกสารที่นำเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ครั้งที่ 1 ปรากฎว่ามี ว่าที่ ส.ส.ที่ประกาศผลรับรอง 329 คน ขณะที่มี 71 เขต ที่มีเรื่องร้องคัดค้าน มีรายงานว่า เอกสารดังกล่าวอาจเป็นเอกสารสรุปของฝ่ายปฏิบัติการ แจ้งเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ที่ยังไม่ได้นำเสนอต่อที่ประชุม กกต.[126] มีทั้งสิ้น 8 พรรค โดยมีดังนี้
สีแสดง | สิ้นสภาพการเป็น สส. | |
---|---|---|
ศาลฎีการับคำร้อง และถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ | ||
อยู่ระหว่างยื่นคำร้อง | ||
ถูกยกคำร้อง |
ลำดับ | รายชื่อ สส. | เขตที่ลงเลือกตั้ง | ข้อกล่าวหา | สถานะปัจจุบัน |
---|---|---|---|---|
พรรคก้าวไกล | ||||
1 | รักชนก ศรีนอก | กรุงเทพมหานคร เขต 28 | โพสต์พาดพิงอดีตผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ในเฟซบุ๊ก เหตุจากการถูกผู้สนับสนุนพรรคดังกล่าวปล่อยข่าวเท็จ[127] |
ยังดำรงตำแหน่ง |
2 | ชริน วงศ์พันธ์เที่ยง | พระนครศรีอยุธยา เขต 2 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
3 | ปดิพัทธ์ สันติภาดา | พิษณุโลก เขต 1 | ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เป็นเวลา 10 ปี จากคดียุบพรรค | |
4 | จรัส คุ้มไข่น้ำ | ชลบุรี เขต 8 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
5 | ยอดชาย พึ่งพร | ชลบุรี เขต 9 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
6 | เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู | เชียงใหม่ เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
7 | สมชาติ เตชถาวรเจริญ | ภูเก็ต เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
พรรคไทยสร้างไทย | ||||
1 | สุภาพร สลับศรี | ยโสธร เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
2 | หรั่ง ธุระพล | อุดรธานี เขต 3 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
พรรคประชาธิปัตย์ | ||||
1 | อวยพรศรี เชาวลิต | นครศรีธรรมราช เขต 9 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
2 | สุพัชรี ธรรมเพชร | พัทลุง เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
3 | เดชอิศม์ ขาวทอง | สงขลา เขต 5 | โฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพ หรือการรื่นเริงต่างๆ | ยังดำรงตำแหน่ง (ยกคำร้อง)[128] |
พรรคพลังประชารัฐ | ||||
1 | ไผ่ ลิกค์ | กำแพงเพชร เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
2 | สะถิระ เผือกประพันธุ์ | ชลบุรี เขต 10 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
3 | อัครแสนคีรี โล่ห์วีระ | ชัยภูมิ เขต 7 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
4 | นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ | เชียงใหม่ เขต 9 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
5 | ทวี สุระบาล | ตรัง เขต 2 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
6 | ฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ | พังงา เขต 2 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
7 | จักรัตน์ พั้วช่วย | เพชรบูรณ์ เขต 2 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
8 | วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ | เพชรบูรณ์ เขต 5 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
9 | อัคร ทองใจสด | เพชรบูรณ์ เขต 6 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
10 | วิริยะ ทองผา | มุกดาหาร เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
11 | รัชนี พลซื่อ | ร้อยเอ็ด เขต 3 | ทุจริตแจกเงินชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จูงใจลงคะแนนสมัย เลือกตั้งซ่อมนายก อบจ. พ.ศ. 2565[129] |
ยังดำรงตำแหน่ง[g] |
12 | ชัยมงคล ไชยรบ | สกลนคร เขต 5 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
13 | ขวัญเรือน เทียนทอง | สระแก้ว เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
14 | โชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ | สิงห์บุรี เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
พรรคเพื่อไทย | ||||
1 | อัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ | กาญจนบุรี เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
2 | ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ | กาญจนบุรี เขต 4 | การขุดบ่อผิดแบบและส่อทุจริต เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล[130] |
ยังดำรงตำแหน่ง (ยกคำร้อง)[131] |
3 | ศักดิ์ชาย ตันเจริญ | ฉะเชิงเทรา เขต 3 | ใช้อาชีพพิธีกรของ คชาภา ตันเจริญ พี่ชายของตน ปราศรัยหาเสียงเอื้อประโยชน์ จูงใจคนลงคะแนนเลือกตั้ง |
ยังดำรงตำแหน่ง (ยกคำร้อง)[132] |
4 | ศิวะ พงศ์ธีระดุลย์ | ชัยภูมิ เขต 5 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
5 | ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ | นครพนม เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
6 | มนพร เจริญศรี | นครพนม เขต 2 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
7 | สมเกียรติ ตันดิลกตระกูล | นครราชสีมา เขต 5 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
8 | อภิชา เลิศพชรกมล | นครราชสีมา เขต 10 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
9 | นรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล | นครราชสีมา เขต 12 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
10 | ไชยวัฒนา ติณรัตน์ | มหาสารคาม เขต 2 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
11 | เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล | เลย เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
12 | ศรัณย์ ทิมสุวรรณ | เลย เขต 2 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
13 | สมเจตน์ แสงเจริญรัตน์ | เลย เขต 4 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
14 | ธเนศ เครือรัตน์ | ศรีสะเกษ เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
15 | สุรชาติ ชาญประดิษฐ์ | ศรีสะเกษ เขต 2 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
16 | วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ | อุบลราชธานี เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
17 | กิตติ์ธัญญา วาจาดี | อุบลราชธานี เขต 4 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
18 | สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ | อุบลราชธานี เขต 7 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
19 | พัฒนา สัพโส | สกลนคร เขต 4 | โพสต์หาเสียงเกินเวลาในเฟซบุ๊ก[133] | ยังดำรงตำแหน่ง |
20 | สรวงศ์ เทียนทอง | สระแก้ว เขต 3 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
พรรคเพื่อไทรวมพลัง | ||||
1 | สมศักดิ์ บุญประชม | อุบลราชธานี เขต 10 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
พรรคภูมิใจไทย | ||||
1 | ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน | กาญจนบุรี เขต 3 | โพสต์เข้าข่ายหาเสียงเกินเวลาในเฟซบุ๊ก | ยังดำรงตำแหน่ง (ยกคำร้อง)[134] |
2 | สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ | ชัยภูมิ เขต 3 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
3 | เอกราช ช่างเหลา | ขอนแก่น เขต 4 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
4 | องอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ | ขอนแก่น เขต 11 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
5 | ษฐา ขาวขำ | นครศรีธรรมราช เขต 7 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
6 | มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล | นครศรีธรรมราช เขต 8 | การซื้อเสียง[135] | ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่[136] |
7 | สุวรรณา กุมภิโร | บึงกาฬ เขต 2 | ให้ทรัพย์สินวัด หาเสียงรื่นเริง[137] | ยังดำรงตำแหน่ง |
8 | รังสิกร ทิมาตฤกะ | บุรีรัมย์ เขต 4 | การซื้อเสียง[138] | ยังดำรงตำแหน่ง |
9 | โสภณ ซารัมย์ | บุรีรัมย์ เขต 5 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
10 | ศักดิ์ ซารัมย์ | บุรีรัมย์ เขต 6 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
11 | พรชัย ศรีสุริยันโยธิน | บุรีรัมย์ เขต 7 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
12 | พิมพฤดา ตันจรารักษ์ | พระนครศรีอยุธยา เขต 3 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
13 | ประดิษฐ์ สังขจาย | พระนครศรีอยุธยา เขต 5 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
14 | อรรถพล ไตรศรี | พังงา เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
15 | ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ | พิจิตร เขต 1 | การซื้อเสียง | ยังดำรงตำแหน่ง (ยกคำร้อง)[139] |
16 | ฤกษ์ อยู่ดี | เพชรบุรี เขต 2 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
17 | สังคม แดงโชติ | ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
18 | ธนา กิจไพบูลย์ชัย | ศรีสะเกษ เขต 3 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
19 | อาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ | ศรีสะเกษ เขต 8 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
20 | สุขสมรวย วันทนียกุล | อำนาจเจริญ เขต 1 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
21 | ญาณีนาถ เข็มนาค | อำนาจเจริญ เขต 2 | ทำร้ายร่างกายอดีตผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ[140] | ยังดำรงตำแหน่ง |
พรรครวมไทยสร้างชาติ | ||||
1 | พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล | นครศรีธรรมราช เขต 10 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
2 | พงษ์มนู ทองหนัก | พิษณุโลก เขต 3 | ยังดำรงตำแหน่ง | |
3 | พิพิธ รัตนรักษ์ | สุราษฎร์ธานี เขต 2 | ยังดำรงตำแหน่ง |
แต่ถึงกระนั้น กกต. ก็ประกาศรับรอง สส. ทั้ง 500 คนก่อน โดยได้ชี้แจงว่าจะดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง
ยื่นศาลตัดสิทธิ์ผู้สมัคร และ สส.
แก้หลังการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งมีการให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้สมัครดังต่อไปนี้
รูปแบบ | ความหมาย |
---|---|
ศาลสั่งให้มีการเลือกตั้ง สส. ใหม่ | |
เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง-ดำเนินคดีอาญา | |
เพิกถอนสิทธิสมัคร-ดำเนินคดีอาญา |
ลำดับ | รายชื่อ | จังหวัด | ข้อกล่าวหา | มติ กกต. | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|
พรรคประชาธิปัตย์ | |||||
1 | เกศกานดา อินช่วย | กรุงเทพมหานคร เขต 16 (อดีตผู้สมัคร) |
ซื้อเสียง[141] | ||
พรรคพลังประชารัฐ | |||||
2 | พรวิศิษฐ์ แจ่มใส | นครสวรรค์ เขต 5 (อดีตผู้สมัคร) |
ซื้อเสียง[142] | ||
3 | รัชนี พลซื่อ | ร้อยเอ็ด เขต 3 | ทุจริตแจกเงินชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านจูงใจลงคะแนนสมัยเลือกตั้งซ่อม นายก อบจ. พ.ศ. 2565 |
อยู่ระหว่างการยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาตัดสิทธิ์ทางการเมือง | |
พรรคภูมิใจไทย | |||||
4 | มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล | นครศรีธรรมราช เขต 8 | ซื้อเสียง | ||
5 | สมชาย ภิญโญ | นครราชสีมา เขต 6 (อดีตผู้สมัคร) |
ซื้อเสียง[143] | ||
6 | สมชาย เล่งหลัก | สงขลา เขต 9 (อดีตผู้สมัคร) |
ซื้อเสียง[144] | ||
7 | สุวรรณา กุมภิโร | บึงกาฬ เขต 2 | ให้ทรัพย์สินวัด หาเสียงรื่นเริง |
ดูเพิ่ม
แก้หมายเหตุ
แก้- ↑ ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย หัวหน้าพรรคคือ นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว
- ↑ จำนวนที่นั่งเดิมของพรรคก้าวไกล เปรียบเทียบจากจำนวนที่นั่งที่พรรคอนาคตใหม่เคยได้รับ
- ↑ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค หัวหน้าพรรคคือ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
- ↑ ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 ประยุทธ์เป็นผู้ที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เขามิได้เป็นสมาชิกพรรคดังกล่าว ต่อมาใน พ.ศ. 2566 เขาได้สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
- ↑ ดูเพิ่มเติมในส่วนเขตเลือกตั้ง
- ↑ พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง พรรคพลังสังคมใหม่ 1 เสียง พรรคท้องที่ไทย 1 เสียง และพรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง
- ↑ คณะกรรมการการเลือกตั้งจะยื่นฟ้องคดีต่อศาลอุทธรณ์ ซึ่งจะไม่มีคำขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้รัชนีหยุดปฏิบัติหน้าที่
อ้างอิง
แก้- ↑ "Thailand sets May 7, 2023 as the tentative date of next general election".
- ↑ "Election Commission sets May 7 as date for next general election". Bangkok Post.
- ↑ "Election Results".
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 "เปิดตัวเลขจำนวน ส.ส.ในสภาฯ คงเหลือ 429 คน พรรคเพื่อไทยสูงสุด 117 คน". www.thairath.co.th. 2023-02-07.
- ↑ "'ประยุทธ์' ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว". workpointTODAY.
- ↑ "ประยุทธ์ แจงไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ ไม่เกี่ยวเป็นนายกฯ ได้แค่ 2 ปี". Thairath Online. สืบค้นเมื่อ 29 มีนาคม 2023.
- ↑ "เลือกตั้ง 66 กกต.กางปฏิทินเลือกตั้ง เคาะหย่อนบัตร 14 พ.ค.นี้". workpointTODAY.
- ↑ "ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566". สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง. 16 กุมภาพันธ์ 2023. pp. 76–79. สืบค้นเมื่อ 21 มีนาคม 2023.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "กกต. เห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และร่างประกาศ กกต. ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. จำนวน 5 ฉบับ". สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง. 22 มีนาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2023.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "กางไทม์ไลน์ กกต. เลือกตั้งปี 2566 นับถอยหลังสภาหมดวาระ". THE STANDARD. 2022-09-22.
- ↑ Thongsak (2022-09-21). "กกต.เคาะ 7 พ.ค.2566 เลือกตั้งใหญ่หากสภาอยู่ครบวาระ!".
- ↑ วันนอร์ นัดประชุมรัฐสภา 22 สิงหาคม โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
- ↑ ไร้รัฐบาล 66 วัน ยังตั้งไม่ได้! เลือกตั้ง '66 ทะลุขึ้นอันดับสองของการ "รอรัฐบาลใหม่"
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "Election Commission says MFP won Sunday's election". Bangkok Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 15 May 2023.
- ↑ "Thailand's Election Commission declares victory for Move Forward Party". Thai PBS World. 15 May 2023. สืบค้นเมื่อ 16 May 2023.
- ↑ Lohatepanont, Ken Mathis (15 May 2023). "Three takeaways from Thailand's 2023 Election - Thai Enquirer Current Affairs". Thai Enquirer (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 15 May 2023.
- ↑ จับตาพรรคการเมือง บลัฟนโยบาย "ตัวเลข" แจก-จ่าย
- ↑ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท สายล่อฟ้า เพื่อไทยตั้งรับเกมยุบพรรค
- ↑ "Thailand: Junta Bans Referendum Monitoring". Human Rights Watch. New York: Human Rights Watch. 2016-06-21. สืบค้นเมื่อ 2016-07-05.
- ↑ "ทนายดังมอบตัวสู้คดีทำผิด พ.ร.บ. ออกเสียงประชามติ". Matichon Online. Bangkok: มติชน. 2016-07-17. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-19. สืบค้นเมื่อ 2016-07-17.
- ↑ "Thai Senate to be appointed at junta's behest". Nikkei Asia (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2022-03-18.
- ↑ Rojanaphruk, Pravit; Writer, Senior Staff (2018-11-30). "Parties Fume Over New 'Gerrymandered' Electoral Map". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2022-03-17.
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "Prayut counts on his allies". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2022-03-18.
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "PM defies efforts to oust him from office". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2022-05-08.
- ↑ Rojanaphruk, Pravit; Writer, Senior Staff (2021-12-30). "Prawit Says He's Willing to Serve With Prayut Till '2027'". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2022-03-18.
- ↑ Ltd.Thailand, VOICE TV (2021-12-29). "ฝ่าย ก.ม. ชี้วาระ 8 ปี 'ประยุทธ์' ลากยาวได้ถึงปี 2570". VoiceTV. สืบค้นเมื่อ 2022-03-18.
- ↑ Thailand's New Electoral System Thai Data Points
- ↑ Thongnoi, Jitsiree; Jaipragas, Bhavan (22 March 2019). "Thai election a battle royale for junta's Prayuth and the Shinawatras". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 26 June 2020.
- ↑ 29.0 29.1 29.2 "อธิบายความต่างการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ที่สภาเพิ่งเห็นชอบผ่าน 3 วาระรวด". pptvhd36.com.
- ↑ "Thai Parliament passes election changes favouring ruling party". The Business Times (ภาษาอังกฤษ). 10 September 2021. สืบค้นเมื่อ 26 June 2020.
- ↑ "สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ : สภาล่มตามคาด ปิดม่านสูตรหาร 500 กลับไปใช้สูตรหาร 100". BBC News ไทย. 15 August 2022. สืบค้นเมื่อ 15 August 2022.
- ↑ "เปิดโมเดลรวมพรรคชพน.-กล้าเสริมจุดแข็งเศรษฐกิจ-สร้างกระแสปาร์ตี้ลิสต์". bangkokbiznews. 2022-09-02.
- ↑ "2 ส.กากี่นั้ง "สมคิด-สุดารัตน์" ลงตัวแบรนด์ใหม่ "สร้างไทย"". mgronline.com. 2023-01-07.
- ↑ "ไม่ได้ควบรวม 2 พรรค "สมคิด-สุดารัตน์" แถลงแค่จับมือเป็นพันธมิตรกัน". www.thairath.co.th. 2022-12-29.
- ↑ ""บัญญัติ" วิเคราะห์การเมืองไทย ฟันธงเลือกตั้งปี 66 ใช้เงินสู้เต็มรูปแบบ". โพสต์ทูเดย์. 3 January 2023. สืบค้นเมื่อ 18 January 2023.
- ↑ "ราชกิจจา ประกาศแล้ว! กฎหมายเลือกตั้ง 2 ฉบับ". pptvhd36.com.
- ↑ "ด่วน! มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ กฎหมายลูกเกี่ยวกับเลือกตั้ง 2 ฉบับแล้ว". thansettakij. 2023-01-28.
- ↑ "โปรดเกล้าฯ กฎหมายเลือกตั้ง – พรรคการเมือง ให้มีผลบังคับหลังวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา". workpointTODAY.
- ↑ "นับถอยหลัง45วัน วัดใจนายกฯประยุทธ์ จะยุบสภาหรืออยู่ครบเทอม". posttoday. 2023-01-29.
- ↑ "กกต.ไฟเขียวรัฐบาล"ยุบสภา"ได้ คาดตั้งแต่ 15 มี.ค.ไร้ปัญหา". thansettakij. 2023-01-28.
- ↑ "เปิดจำนวน ส.ส. 400 เขตเลือกตั้งใหม่ กทม.ยังมากสุด 33 คน". workpointTODAY.
- ↑ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปครั้งแรก ภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑) พุทธศักราช ๒๕๖๔ (PDF), vol. 110/8 ก, ราชกิจจานุเบกษา, 31 มกราคม 2023, pp. 31–35, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2023-04-04, สืบค้นเมื่อ 2023-03-03
- ↑ ฐานเศรษฐกิจ (2023-02-08). "กกต.ยันไม่ยื่นศาลรธน. ตีความปมแบ่งเขตนับรวมต่างด้าว". thansettakij.
- ↑ "เลือกตั้ง 2566 : ศาลรธน. ชี้ขาดสูตรคำนวณส.ส.เขต ไม่นับรวมต่างด้าว". pptvhd36.com.
- ↑ 45.0 45.1 "เช็กที่นี่! กกต.คำนวณแบ่งเขตเลือกตั้ง 66 ใหม่ 8 จังหวัด ส.ส.เพิ่ม - ลด". bangkokbiznews. 2023-03-03.
- ↑ 46.0 46.1 "กกต.ประกาศจำนวน ส.ส.ใหม่ หลังตัดต่างด้าว กทม.มากสุด 33 โคราช รองมา 16 ภาคอีสานแยะสุด 133". mgronline.com. 2023-03-03.
- ↑ "เช็กเลย! รวมไว้แล้ว ปาร์ตี้ลิสต์พรรคไหนเบอร์อะไร". mgronline.com. 2023-04-04.
- ↑ "กกต.เปิดยอดสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์วันแรก 54 พรรค 1,670 คน เสนอแคนดิเดตนายกฯ 35 รายชื่อ". mgronline.com. 2023-04-04.
- ↑ "อุ๊งอิ๊ง สั่งเพื่อไทยขึ้นป้ายหาเสียงทั่วประเทศ ปีใหม่นายกฯ คนใหม่". ประชาชาติธุรกิจ. 2022-12-29.
- ↑ "ปชป. สั่งทุกเขตเลือกตั้ง ติดป้าย "สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ" ทั่วประเทศ". www.thairath.co.th. 2022-12-30.
- ↑ "ไม่ต้องเหนียม"เลือกตั้ง66" รวมไทยสร้างชาติปล่อยภาพ"นายกฯประยุทธ์"รัวๆ". Nation Multimedia Group Public Company Limited. 2023-01-04.
- ↑ matichon (2022-12-10). "ครูใหญ่ ปักป้าย ประกาศตัวลง ส.ส.ขอนแก่น ให้พรรคก้าวไกล". มติชนออนไลน์.
- ↑ "ทุบสถิติ ส.ส.ลาออก ทิ้งเก้าอี้แล้ว 36 คน สภาฯ เหลือส.ส.แค่ 442 คน". workpointTODAY.
- ↑ "ฝ่ายค้านเปิดยุทธการ "ถอดหน้ากากคนดี" ยื่นซักฟอก 'ประยุทธ์-ครม.' แบบไม่ลงมติ". workpointTODAY. สืบค้นเมื่อ 18 January 2023.
- ↑ "รัฐพร้อมรับมือ "ซักฟอก" 15 ก.พ.เป็นต้นไป เตรียม 40 ประเด็นโต้ฝ่ายค้าน". ฐานเศรษฐกิจ. 12 January 2023. สืบค้นเมื่อ 18 January 2023.
- ↑ "ข่าวลึกปมลับ : บิ๊กตู่ลุยเต็มสูบ เปิดคิวยุบสภา". mgronline.com. 2023-01-10.
- ↑ "ฝ่ายค้าน ดักคออย่าชิง 'ยุบสภาฯ' หนีก่อน สภาฯ คาดเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ต้นเดือน ก.พ.นี้". workpointTODAY. สืบค้นเมื่อ 18 January 2023.
- ↑ มติชนสุดสัปดาห์ (2023-01-19). "ตี ป.ปลาหน้าไซ แก้ รธน.นายกฯ อยู่เกิน 8 ปี ยุบสภาหนี 'ซักฟอก'". มติชนสุดสัปดาห์.
- ↑ "'ทักษิณ' เชื่อ 'ประยุทธ์' ไม่กล้ายุบสภา! เพราะ 'รทสช.' ยังไม่พร้อม!". www.thebangkokinsight.com. 2023-02-08.
- ↑ ""บิ๊กตู่" พูดชัดยุบสภาต้นเดือนมีนาคม วันกาบัตร 7 พฤษภาคม 2566 (คลิป)". www.thairath.co.th. 2023-02-22.
- ↑ isranews (2023-01-12). "'ณัฐวุฒิ' ประกาศพบเวทีใหญ่พท. 15 ม.ค. ที่อุดร จวก 'รทสช.' เป็นเหล้าเก่าในขวดแตก". สำนักข่าวอิศรา.
- ↑ "สว.แบไต๋ เสนอ'แก้รัฐธรรมนูญ'ปลดล็อกนายกฯ8ปี". คมชัดลึกออนไลน์. 13 January 2023. สืบค้นเมื่อ 18 January 2023.
- ↑ Ltd.Thailand, VOICE TV (2023-01-13). "'ดิเรกฤทธิ์' แตะเบรกปลดล็อกวาระ 8 ปี 'ประยุทธ์' แค่ความเห็นบางคน ไม่ใช่ ส.ว. ทั้งหมด". VoiceTV.
- ↑ "แถลงการณ์ 'เครือข่ายประชาชนสังเกตการณ์การเลือกตั้ง 2566' ขอ ปชช.จับตา-รบ.คุ้มครองเสรีภาพ". The MATTER. 11 January 2023. สืบค้นเมื่อ 1 February 2023.
- ↑ "ตะวัน แบม : การอดอาหารประท้วงระลอก 3 ของนักกิจกรรมคดีหมิ่นสถาบันฯ". BBC News ไทย. 19 January 2023. สืบค้นเมื่อ 1 February 2023.
- ↑ "พรรคร่วมฝ่ายค้าน ออกแถลงการณ์กรณี แบม-ตะวัน อดอาหารแลกอิสรภาพ". ประชาชาติธุรกิจ. 26 January 2023. สืบค้นเมื่อ 1 February 2023.
- ↑ "'ราษฎร' ร้อง 'เพื่อไทย' รับ 3 ข้อ #แบมตะวัน แกนนำพรรครับฟัง ชี้แก้ ม.116 ทำได้ ยันต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 1 February 2023.
- ↑ "'แบ่งเขตเลือกตั้ง' เสี่ยงทำให้ 'การเลือกตั้งเป็นโมฆะ'". คมชัดลึกออนไลน์. 2023-02-09.
- ↑ "'ก้าวไกล' หวั่นความไม่ชัดเจน ปมแบ่งเขตอาจนำไปสู่เลือกตั้งโมฆะ หากผลออกมาไม่ถูกใจผู้มีอำนาจ". prachatai.com.
- ↑ ""ชัยธวัช" หวั่นปมคำนวณราษฎร สร้างอภินิหารทางกฎหมาย ทำเลือกตั้ง 66 โมฆะ". bangkokbiznews. 2023-02-09.
- ↑ ""โรม" อัด กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง 66 พิสดาร หวั่นเปิดช่องร้องศาลตีความ". bangkokbiznews. 2023-02-10.
- ↑ "กกต.ยกคำพูด "อนุพงษ์" ปมคนไม่มีสัญชาติไทยคำนวณแบ่งเขตเลือกตั้ง 66". bangkokbiznews. 2023-02-10.
- ↑ "กกต.แจงราษฎรแบ่งเขตไม่นับแรงงานต่างด้าว ซัดคนปูดโง่หรือหวังผลการเมือง". bangkokbiznews. 2023-02-09.
- ↑ 64 (2023-02-07). "อนุพงษ์ ชี้คำนวณราษฎร แบ่งเขตเลือกตั้ง นับต่างด้าว-เด็กต่ำกว่า 18 ด้วย แม้ไร้สิทธิ์เลือก". ข่าวสด.
{{cite web}}
: CS1 maint: numeric names: authors list (ลิงก์) - ↑ ""บิ๊กป๊อก" แจง ครม.นับต่างด้าว-เด็กต่ำ 18 ปี คำนวณแบ่งเขตเลือกตั้ง แต่ไม่มีสิทธิลงคะแนน". mgronline.com. 2023-02-07.
- ↑ "เลือกตั้ง 2566 : ศาลรธน. ชี้ขาดสูตรคำนวณส.ส.เขต ไม่นับรวมต่างด้าว". pptvhd36.com.
- ↑ "ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดคำว่า "ราษฎร" ไม่หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย". BBC News ไทย. 2023-03-03.
- ↑ ด่วน พระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภา
- ↑ Ltd.Thailand, VOICE TV (2023-03-20). "โปรดเกล้าฯ ยุบสภาฯ! มีผลแล้ว ย้ำคืนอำนาจประชาชน". VoiceTV.
- ↑ "เลือกตั้ง 66: ยุบสภาโค้งสุดท้าย ไม่ใช่การคืนอำนาจ แต่เป็นการ "ยื้อเวลา" ให้เลือกตั้งช้าลง". ilaw.ot.th - เลือกตั้ง 66: ยุบสภาโค้งสุดท้าย ไม่ใช่การคืนอำนาจ แต่เป็นการ "ยื้อเวลา" ให้เลือกตั้งช้าลง.
- ↑ "ด่วน! กกต.เคาะเลือกตั้ง 14 พ.ค. 66 เตรียมชง ครม.รับทราบ". ฐานเศรษฐกิจ. 2023-03-21. สืบค้นเมื่อ 2023-03-21.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "เลือกตั้ง 2566 : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โปรดเกล้ายุบสภาแล้ว". BBC News ไทย. 2023-03-20.