สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์
สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ (เกิด 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491) เป็นนักการเมืองชาวไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช และอดีตผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ | |
---|---|
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช |
พรรคการเมือง | ประชาธิปัตย์ (2535–2565) รวมไทยสร้างชาติ (2565–ปัจจุบัน) |
ประวัติ
แก้สุรเชษฐ์ เกิดวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 เป็นบุตรนายสุรินทร์ มาศดิตถ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กับนางสุดา มาศดิตถ์ (สกุลเดิม: เทียมศรไชย) มีน้องสาวคือคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ก่อนหน้าเข้าสู่วงการเมืองสุรเชษฐ์ รับราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
การศึกษา
แก้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ สาขาสุขศึกษา จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2524 และระดับปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ปี 2538
การทำงาน
แก้สุรเชษฐ์ เริ่มรับราชการในตำแหน่งนักวิชาการสุขศึกษา สังกัดโรงพยาบาลพัทลุง ต่อมาเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช กระทั่งในปี พ.ศ. 2528 เขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดนครศรีธรรมราช เขตอำเภอพรหมคีรี และในปี พ.ศ. 2535 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้รับเลือกตั้งต่อเนื่องอีกหลายสมัย (พ.ศ. 2535/2, 2538, 2539, 2544, 2548, 2550, 2554)
เขาเคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ (อาทิตย์ อุไรรัตน์) ในรัฐบาลชวน 2 และเป็นประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุและผู้พิการ
เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง[1] ต่อมาในวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เขาได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยให้เหตุผลว่าไม่พอใจที่ทางพรรคเปิดตัวผู้สมัครคนอื่นในเขตของตัวเอง[2] ในวันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 สุรเชษฐ์ได้เดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมกับพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ น้องชายของเทพไท เสนพงศ์[3]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2548 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[4]
- พ.ศ. 2545 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[5]
อ้างอิง
แก้- ↑ พลวุฒิ สงสกุล (19 กันยายน 2561). "แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ เตรียมหย่อนบัตรปี 62 ส.ส. ลด 23 จังหวัด อีสานหด 10 ที่นั่ง". THE STANDARD. สืบค้นเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ “สุรเชษฐ์” โบกมือลา ปชป.ยื่นออกเป็นสมาชิกพรรคแล้ว
- ↑ ไม่ได้มาคนเดียว! ‘น้องเทพไท’กราบลาพระแม่ธรณีบีบมวยผม สมัครซบ‘รทสช.’
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2005-12-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๒ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๒, ๓ ธันวาคม ๒๕๔๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2022-05-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๙ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๙, ๔ ธันวาคม ๒๕๔๕