พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (เกิด 5 กันยายน พ.ศ. 2523) ชื่อเล่น ทิม เป็นนักธุรกิจและอดีตนักการเมืองชาวไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดิมสังกัดพรรคอนาคตใหม่ จากการเลือกตั้งทั่วไปใน พ.ศ. 2562 เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในแวดวงการเมืองจากการอภิปรายนโยบายทางการเกษตร "ปัญหากระดุม 5 เม็ด" ภายใต้รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา[2] บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ผ่านการจัดอันดับของนิตยสารไทม์[3] หลังจากการยุบพรรคก้าวไกลเขาได้ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า[4]
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ | |
---|---|
พิธาในเดือนตุลาคม 2566 | |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ | |
ดำรงตำแหน่ง 24 มีนาคม พ.ศ. 2562[a] – 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567 (5 ปี 136 วัน) | |
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล | |
ดำรงตำแหน่ง 23 กันยายน พ.ศ. 2566 – 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567 (0 ปี 319 วัน) | |
ที่ปรึกษา | วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร เดชรัต สุขกำเนิด |
หัวหน้าพรรคก้าวไกล | |
ดำรงตำแหน่ง 14 มีนาคม พ.ศ. 2563 – 15 กันยายน พ.ศ. 2566 (3 ปี 185 วัน) | |
ก่อนหน้า | โดยนิตินัย: ราเชนธร์ ติยะวัชรพงศ์ โดยพฤตินัย: ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (พรรคอนาคตใหม่) |
ถัดไป | ชัยธวัช ตุลาธน |
ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567 (0 ปี 123 วัน) | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 5 กันยายน พ.ศ. 2523 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | อนาคตใหม่ (2561–2563) ก้าวไกล (2563–2567) คณะก้าวหน้า (2567–ปัจจุบัน) |
คู่สมรส | ชุติมา ทีปะนาถ (สมรส 2555; หย่า 2561) |
บุตร | 1 คน |
ศิษย์เก่า | |
อาชีพ |
|
ทรัพย์สินสุทธิ | 85 ล้านบาท[1] (พ.ศ. 2566) |
ภายใต้การนำของพิธา พรรคก้าวไกลกลายเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2566 ด้วย 151 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลโดยผลักดันให้เขาได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีของรัฐสภาครั้งที่หนึ่งเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 พิธาขาด 51 คะแนน ในการเป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไป ต่อมาในวันที่ 19 กรกฎาคม เขาถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราวเหตุถือหุ้นสื่อไอทีวี รัฐสภายังมีมติห้ามไม่ให้พิธาได้รับพิจารณาเห็นชอบนายกรัฐมนตรีรอบที่สองในวันเดียวกัน และภายหลังจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น ทำให้พรรคก้าวไกลมีสถานะเป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่พิธาไม่สามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้เนื่องจากถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่อยู่ เขาจึงลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 15 กันยายน โดยมีชัยธวัช ตุลาธน ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พิธากลับมาปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้อีกครั้ง
แต่ต่อมาในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 9:0 ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิ์ทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี[5] โดยมีจำนวน 11 คน ซึ่งพิธา เป็น 1 ใน 11 กรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์
ปฐมวัยและการศึกษา
แก้พิธาเกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2523[6] ในครอบครัวเชื้อสายไหหลำ[7] เขาเป็นบุตรชายคนโตในบรรดาพี่น้อง 2 คนของพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์ ลุงของเขา ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ช่วยคนสนิทของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี[8][9] และตามใจ ขำภโต อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นญาติฝ่ายมารดา[10] พิธามีน้องชาย 1 คนชื่อ ภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์[11] ยายของพิธาชื่ออนุศรี อนุรัฐนฤผดุง บุตรีของหลวงอนุรัฐนฤผดุง (แถม) และอนุศรีเป็นหลานปู่พระยาพิไชยบุรินทรา (ทิม) อนุศรีเคยสมรสกับเกษม อภัยวงศ์ บุตรชายของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) กับหม่อมลม้าย อันเป็นตระกูลขุนนางเขมรเก่าแก่จากเมืองพระตะบอง[12][13][14][15] ภายหลังทั้งสองได้หย่าร้าง และต่างสมรสใหม่ทั้งคู่ ซึ่งลิลฎาเป็นบุตรที่เกิดจากการสมรสครั้งหลังของอนุศรี ด้วยเหตุนี้พิธาจึงไม่มีความเกี่ยวดองทางเชื้อสายกับสกุลอภัยวงศ์[16]
พิธาเข้าศึกษาในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย แต่เป็นคนเกเร พงษ์ศักดิ์จึงส่งพิธาไปศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์เมื่ออายุ 11 ปี ในเมืองฮามิลตัน และอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ฐานะปานกลาง พิธาเริ่มสนใจการเมืองจากการรับชมการอภิปรายรัฐสภาและทำให้เขาเริ่มฟังสุนทรพจน์ของจิม โบลเจอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์[17][18][19] นอกจากการศึกษาในโรงเรียน พิธาทำงานพิเศษเพื่อหาเงินใช้จากการปั่นจักรยานส่งหนังสือพิมพ์[20] เก็บสตรอว์เบอร์รี และรับจ้างพาสุนัขเดินเล่น[21] เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา พิธาเข้าศึกษาต่อที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาการเงิน (ภาคภาษาอังกฤษ) จบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และจบที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน[22] พร้อมกันถึง 2 ปริญญานับเป็นคนไทยคนแรกที่จบ 2 มหาวิทยาลัยในไทยและเท็กซัสพร้อมกัน จากนั้นเข้าศึกษาต่อปริญญาโทที่วิทยาลัยการปกครองเคนเนดี มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในฐานะนักเรียนทุนต่างชาติชาวไทยคนแรก[23][24][25] ควบคู่กับการบริหารธุรกิจที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ใน พ.ศ. 2554[9]
งานธุรกิจ
แก้หลังการเสียชีวิตของบิดาด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด พิธาตัดสินใจพักการศึกษาและกลับมาประเทศไทยเพื่อดูแลธุรกิจน้ำมันรำข้าวที่เป็นหนี้ต่อ[17][26] สองปีหลังจากนั้นธุรกิจฟื้นตัวและทำให้พิธากลับไปยังสหรัฐเพื่อสำเร็จการศึกษาปริญญาโทต่อใน พ.ศ. 2554[27]
พิธายังเป็นกรรมการบริหารบริษัทแกร็บ ประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2560–2561[28]
งานการเมือง
แก้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แก้พิธาก้าวเข้าสู่วงการเมืองด้วยการเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง[21] ต่อมาพิธาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ด้วยการเชื้อเชิญของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และเมื่อ พ.ศ. 2562 เขาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคในลำดับที่ 4[29][b] และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งแรกที่ลงรับเลือกตั้ง[31] โดยพิธาได้รับเลือกให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ในสัดส่วนของพรรคอนาคตใหม่[32]
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 พิธาอภิปรายครั้งแรกในสภาประเด็นนโยบายทางการเกษตรของรัฐบาลประยุทธ์ โดยเฉพาะ "ปัญหากระดุม 5 เม็ด" ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พิธาเสนอการแก้ปัญหาให้แก่เกษตรกรด้วยการติดกระดุม 5 เม็ด: ที่ดิน, หนี้สินการเกษตร, สารเคมีและการประกันราคาพืชผล, การแปรรูปและนวัตกรรม และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร[31] จากการอภิปรายดังกล่าวของเขา พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวชื่นชมการอภิปรายของพิธาแม้จะอยู่คนละฝ่ายกัน[33][34]
ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ในวันที่ 8 มีนาคม พิธาย้ายไปสังกัดพรรคก้าวไกลร่วมกับอดีตสมาชิกพรรคอีก 54 คน[35][36] โดยพิธาได้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค[37]
การเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2566
แก้หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 ในวันที่ 15 พฤษภาคม พิธาประกาศว่าเขาพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากที่พรรคก้าวไกลได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด และเชิญพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยพรรคการเมืองฝ่ายค้านในช่วงรัฐบาลประยุทธ์ทั้งหมดที่ได้รับการเลือกตั้ง พร้อมด้วยพรรคขนาดเล็กอีกจำนวนหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลผสม[38]
ในวันที่ 18 พฤษภาคม พิธาพร้อมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลดังกล่าว แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของเขา โดยทุกพรรคพร้อมสนับสนุนพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี และจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU)[39] ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่นำมาใช้ในการจัดตั้งรัฐบาลในการเมืองไทย[40] พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลของพิธาจัดงานแถลงข่าวอีกครั้งเพื่อเปิดบันทึกความเข้าใจแก่สาธารณชนเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ในบันทึกความเข้าใจมีการบรรจุประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่น การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ, สมรสเท่าเทียม, การปฏิรูปกองทัพและตำรวจ, การเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ, การกระจายอำนาจ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นต้น[41] ต่อมาพิธากล่าวว่าเขาได้ปรับนำกลยุทธ์หาเสียงของบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2551 มาใช้ในการเลือกตั้งครั้งนี้[42] นอกจากที่พิธาและพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลของเขาต้องได้เสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร พิธายังต้องได้เสียงสนับสนุนจากทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกในการได้รับพิจารณาให้ความเห็นชอบดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน[43]
ความพยายามจัดตั้งรัฐบาล
แก้หลังการเลือกตั้งทั่วไปและการประกาศจัดตั้งรัฐบาลผสมในเวลาต่อมาสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่จัดการประชุมสมัยสามัญประจำปีครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เพื่อพิจารณาเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยพิธาได้ลุกขึ้นเสนอชื่อวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาฯ ด้วยตนเอง[44] ช่วงเวลาก่อนวันประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี พิธาและพรรคก้าวไกลจัดขบวนแห่ขอบคุณคะแนนเสียงสนับสนุนในกรุงเทพมหานคร[45] พิธายังขอเสียงสนับสนุนพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลของเขาจากสมาชิกรัฐสภา เพื่อให้เป็นไปตามอาณัติที่ประชาชนมอบให้ในการเลือกตั้งทั่วไปที่ผ่านมา[46]
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปัดตก 3 คำร้องต่อพิธาเรื่องการครอบครองหุ้นสื่อไอทีวี บริษัทผู้ให้บริการโทรทัศน์[47] โดยรัฐธรรมนูญห้ามไม่ให้ผู้ใดที่ครอบครองหุ้นสื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง[48] อย่างไรก็ดี กกต. หันมาดำเนินคดีอาญาต่อพิธากรณีรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 151 ประกอบกับมาตรา 42(3) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร[48][49] พิธาโต้แย้งว่าเขาเป็นผู้ถือหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดกหลังการเสียชีวิตของบิดา ไอทีวียุติการออกอากาศใน พ.ศ. 2550 และถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยใน พ.ศ. 2557 ไอทีวีไม่มีรายได้จากการผลิตสื่อตลอดหลายปี แต่มีรายได้เล็กน้อยจากบริษัทย่อยที่ขอเช่าอุปกรณ์การออกอากาศ[48] พิธาเป็นหนึ่งในสมาชิกรัฐสภา 500 คน ที่กกต. ประกาศรับรองเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน แม้การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป[50]
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าได้รับคำร้องของกกต. ขอให้พิจารณากรณีพิธาและพรรคก้าวไกล เสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นความพยายามในการ "ล้มล้างระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"[51] กกต. ระบุว่าพิธาขาดคุณสมบัติในการเป็นสมาชิกรัฐสภา ขณะที่พิธากล่าวว่าขั้นตอนการดำเนินการของกกต. นั้นไม่ยุติธรรมและตัวเขาเองไม่ได้รับโอกาสในการชี้แจงก่อนจะยื่นคำร้องให้กับศาลรัฐธรรมนูญ[52] หนึ่งวันก่อนการพิจารณาในรัฐสภา พิธาเตือนสมาชิกรัฐสภาว่า "มันมีราคาที่ต้องจ่ายสูง" หากเขาไม่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี[53]
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเรียกประชุมเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยการเสนอชื่อของชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พิธาเป็นคนเดียวของสมาชิกรัฐสภาที่ได้รับการเสนอชื่อ[54] แม้จะได้รับเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของสภาล่าง แต่พิธาไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้งสองสภาในการพิจารณาครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวุฒิสภาที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2562[55][56] สมาชิกรัฐสภา 324 คน ลงคะแนนเสียงสนับสนุนเห็นชอบให้พิธาเป็นนายกรัฐมนตรี (311 คนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ 13 คน เป็นวุฒิสมาชิกที่รัฐบาลทหารแต่งตั้ง) 182 คน ไม่เห็นชอบ และ 199 คน งดออกเสียง จากผู้ลงคะแนนเสียงทั้งหมด 705 คน พิธาขาด 51 คะแนนจะได้กึ่งหนึ่งของทั้งสองสภา คือ 375 คะแนน ในการได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี[57][58] เกิดการประท้วงในเวลาต่อมาในช่วงเย็นหลังการพิจารณาเห็นชอบ ระบบการลงคะแนนเสียงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย และไม่เป็นไปตามอาณัติที่ประชาชนมอบให้[59][60] ความผิดพลาดของรัฐสภาในการได้มาซึ่งผู้จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทำให้หุ้นตก[61] หนังสือพิมพ์ข่าวสดอธิบายว่าการลงคะแนนเสียงว่าเป็นการ 'วางกับดักไว้ล่วงหน้า'[62] อย่างไรก็ดี พิธายังคงตั้งเป้าเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ และไม่หันหลังให้สัญญาที่ให้ไว้ว่าจะปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์[63][64]
การประท้วงต่อเนื่องไป โดยหลายคนต้องการให้วุฒิสมาชิกลาออก[65] เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พิธาประกาศว่าพรรคร่วมรัฐบาลของเขาตกลงที่จะเสนอชื่อของเขาในการพิจารณาเลือกรอบถัดไป ขณะเดียวกันยังกล่าวว่าเขายังพร้อมที่จะให้การสนับสนุนบุคคลจากพรรคเพื่อไทยในการได้รับการเสนอชื่อหากการพิจารณาเลือกรอบที่สองไม่สำเร็จ หรือเขาไม่สามารถได้เสียงสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกัน[66] เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม รัฐสภาเรียกประชุมพิจารณาเห็นชอบนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง[67] ในวันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องกรณีพิธาถือหุ้นสื่อไอทีวีอย่างเป็นเอกฉันท์ และยังมีมติ 7 ต่อ 2 สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเป็นอื่น แต่การหยุดปฏิบัติหน้าที่ของเขาไม่ได้ทำให้ไม่สามารถถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้[68][69][70] ระหว่างการประชุมรัฐสภา พิธากล่าวรับทราบคำวินิจฉัยและออกจากโถงประชุม[71] ในการอภิปรายต่อมา รัฐสภามีมติไม่เห็นชอบให้เสนอชื่อเขาเป็นนายกรัฐมนตรีซ้ำอีกครั้งในรอบถัดไป[72] สมาชิกรัฐสภาจากพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อพิธา[73] แต่ถูกโต้แย้งว่าขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่ห้ามไม่ให้เสนอญัตติซ้ำ[74][75][76][77] ในการลงคะแนนให้สามารถเสนอชื่อบุคคลซ้ำได้อีก มีผู้ให้ความเห็นชอบ 312 คน ไม่เห็นชอบ 394 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวุฒิสมาชิก และงดออกเสียง 8 คน โดยที่พิธาไม่ได้ลงคะแนนเสียง[75][78][79]
หลังการเลือกตั้งและการลาออก
แก้—พิธา ลิ้มเจริญรัตน์[80]
จากผลการลงคะแนนดังกล่าวในรัฐสภา พิธาไม่สามารถได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกจนกว่าจะถึงสมัยประชุมใหม่หลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งถัดไป[81] แม้พิธายังคงถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขาส่งสัญญาณเป็นนัยสนับสนุนบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี (แคนดิเดต) จากพรรคเพื่อไทย[82][83] เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2566 พรรคเพื่อไทยถอนตัวออกจากพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลของพิธา หลังพรรคก้าวไกลปฏิเสธที่จะล้มเลิกความพยายามแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตามที่ได้ให้คำมั่นไว้ในช่วงหาเสียง[84]
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พิธาเริ่มหาเสียงให้กับสมาชิกพรรคที่ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในเขตเลือกตั้งที่ 3 ของจังหวัดระยอง[85] หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลที่ชนะการเลือกตั้งในเขตดังกล่าวลาออก ซึ่งมีพรรคอื่นส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งด้วยเช่นกัน โดยคู่แข่งสำคัญในพื้นที่นี้คือพรรคประชาธิปัตย์[86]
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (แคนดิเดต) จากพรรคเพื่อไทย คือ เศรษฐา ทวีสิน ชนะการลงมติให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของรัฐสภา[87] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลที่อยู่ในที่ประชุมทุกคน (149 คน) ลงมติไม่เห็นชอบให้เศรษฐาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี[88]
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 106 ระบุว่า ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นหัวหน้าพรรคที่มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุดในกลุ่มพรรคการเมืองที่ไม่มีสมาชิกเป็นรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่ปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลกของพรรคก้าวไกล ยังคงดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ทำให้หัวหน้าพรรคก้าวไกลไม่สามารถดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านได้[89] และแม้ปดิพัทธ์จะลาออกหรือพ้นจากสมาชิกพรรคก้าวไกล พิธาซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลก็ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน พิธาจึงประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อให้พรรคก้าวไกลดำเนินการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่มาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เพื่อทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งจากการลาออกจากหัวหน้าพรรคของพิธาส่งผลให้คณะกรรมการบริหารชุดเดิมพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ โดยมีการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เมื่อวันที่ 23 กันยายน[90] เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน และกล่าวว่าจะต้องมีการ "ตรวจสอบและถ่วงดุล" รัฐบาล[91] ทั้งนี้ พิธายังกล่าวอีกว่าเขาจะยังมีบทบาทในการเมืองไทยและพรรคของเขา[92] ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน[93] และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของพรรคนอกสภาเป็นหลัก โดยมีพิธาเป็นประธานที่ปรึกษา และมีที่ปรึกษาอีก 2 คน คือ วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ทีมเศรษฐกิจของพรรค และ เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต ซึ่งชัยธวัชกล่าวว่าการดำรงตำแหน่งของเขาเป็นส่วนหนึ่งของ "การปรับทัพชั่วคราว" และ "ยินดีที่จะลงจากตำแหน่งเมื่อสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพิธากลับมาอีกครั้ง"[94]
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ สส. ของพิธาไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) เนื่องจากแม้พิธาจะถือหุ้นไอทีวีจริง โดยถือว่าแม้การถือหุ้นเพียงหุ้นเดียวก็ถือว่าเป็นการถือหุ้นตามความหมายในรัฐธรรมนูญแล้ว และเป็นการถือหุ้นในฐานะทายาทผู้รับมรดกนอกเหนือจากการเป็นผู้จัดการมรดกด้วย แต่ไม่พบการประกอบกิจการสื่อมวลชนของไอทีวี ในวันที่พิธาลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. และแม้ไอทีวีจะชนะคดีที่ฟ้องร้องสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในศาลปกครอง ก็ไม่สามารถทำให้บริษัทกลับมาประกอบธุรกิจสื่อได้อีก[95] ส่งผลให้พิธาสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ สส. ได้ตามปกติในทันที โดยหลังการตัดสิน พิธาได้กล่าวว่า การกลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการประชุมพรรคสามัญประจำปีในเดือนเมษายนปีเดียวกัน[96] อย่างไรก็ตาม เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในสัปดาห์ถัดมาว่าพรรคก้าวไกลใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง จึงทำให้ในการประชุมพรรคสามัญประจำปีดังกล่าว ที่ประชุมได้มีมติให้เลื่อนการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคออกไป เพื่อต่อสู้กับคดียุบพรรค จนกว่าคดีดังกล่าวจะมีข้อสรุป[97]
ประวัติการลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.
แก้- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคอนาคตใหม่ → พรรคก้าวไกล
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคก้าวไกล
จุดยืนทางการเมือง
แก้พิธาในบริบทการเมืองไทยได้รับการจัดว่าเป็นคนที่มีอุดมการณ์แบบก้าวหน้า (progressive)[98][99][100] พรรคก้าวไกลภายใต้การนำของเขาตั้งแต่ พ.ศ. 2563 ถูกจัดว่าเป็นการทำการเมืองแบบฝ่ายซ้ายกลางและก้าวหน้า[101]
พิธามักกล่าวถึงช่วงเวลาระหว่าง พ.ศ. 2557 และ พ.ศ. 2566 ว่าเป็น "ทศวรรษที่สาบสูญ" ของประเทศไทยในแง่ของทั้งเศรษฐกิจและความเสื่อมถอยของประชาธิปไตย[102][103] พิธาเชื่อว่ากองทัพไทยมีอิทธิพลในการเมืองพลเรือนมากเกินไป และได้ให้คำมั่นว่าจะลดอิทธิพลนั้นลง พิธายังกล่าวว่าประเทศไทยจะต้อง "ลดขนาดกองทัพ"[104] พิธายังสัญญาว่าพรรคของเขาจะแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เป็นที่ครหา ซึ่งให้ความคุ้มครองประมุขจากคำวิจารณ์[105] ด้านนโยบายทางเศรษฐกิจ พิธาเชื่อในการยกเลิกการผูกขาด และการกระจายอำนาจในเศรษฐกิจ[106] เขายังกล่าวว่าเขาจะทำให้อุตสาหกรรมสุราเป็นเสรี[107][108]
พิธาสนับสนุนการผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมและสิทธิในการให้ที่ลี้ภัย เขาได้เข้าร่วมไพรด์พาเรดในกรุงเทพมหานคร[109] พิธายังเชื่อในการเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ[110]
พิธามีจุดยืนในนโยบายต่างประเทศด้วยหลัก "3อาร์": รีไวฟ์ (revive, "ฟื้นฟู"), รีบาแลนซ์ (rebalance, "ปรับสมดุล") และ รีคอลิเบรต (recalibrate, "เปลี่ยนวิธีทำ")[111] เขายังระบุว่าประเทศไทยควรจะยืนหยัดในเวทีโลกและเปิดประเด็นพูดคุยกับประเทศมหาอำนาจ และคุณค่าทางประชาธิปไตยควรเป็นแกนหลักของนโยบายต่างประเทศ[112] พิธาประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซียโดยเรียกท่าทีของรัฐบาลไทยว่า "สองหน้า"[113][114]
ในการสัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ พิธากล่าวว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจจาก ลี กวนยู นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และเปรียบเทียบการเมืองว่าเป็นเหมือนการแข่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น โดยระบุว่า "ผมมีพลังกายสำหรับการวิ่งระยะเวลานาน"[115] อีกหนึ่งบุคคลตัวอย่างทางการเมืองที่พิธากล่าวถึงคือเบอร์นี แซนเดอร์ส สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ และมีหนังสือที่เขาเขียนชื่อ "It's OK To Be Angry About Capitalism" อีกด้วย[116][117]
ชีวิตส่วนตัว
แก้พิธาสมรสกับ ชุติมา ทีปะนาถ นักแสดง เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555[118][119] ทั้งสองหย่าร้างในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562[120] ชุติมากล่าวอ้างกับสาธารณะว่าพิธาคอยควบคุมและละเมิดเธอตลอด[121] นักกิจกรรมสิทธิสตรีและผู้สนับสนุนประชาธิปไตยเรียกร้องให้พิธาออกมาพูดเกี่ยวกับคำกล่าวหานี้[122][121] ชุติมาส่งคำร้องฟ้องพิธาในข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ศาลเยาวชนและครอบครัวยกฟ้องและพิสูจน์ว่าไม่เป็นความจริง[123][124] ภายหลัง เธอกล่าวว่า "มีการทำร้ายร่างกายจริงแต่ไม่ถึงกับเป็นความรุนแรงในครอบครัว แต่ว่ามันก็กระทบจิตใจของเรา"[125] ตั้งแต่นั้น ชุติมาไม่ได้กล่าวถึงข้อกล่าวหาในอดีตและให้ความสนับสนุนงานการเมืองของพิธา[123][124] ทั้งสองมีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อ พิพิม[125][126]
ใน พ.ศ. 2551 พิธาได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่งใน "50 หนุ่มโสดในฝัน" (Most Eligible Bachelors) ของคลีโอ[9][127][128]
เชิงอรรถ
แก้- ↑ หยุดปฎิบัติหน้าที่ระหว่าง 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 – 24 มกราคม พ.ศ. 2567
- ↑ เขาเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรลำดับที่ 3 หลังธนาธรผู้เป็นหัวหน้าพรรคและสมาชิกผู้แทนราษฎรลำดับที่ 1 ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ขาดคุณสมบัติในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2562[30]
อ้างอิง
แก้- ↑ เปิดบัญชีทรัพย์สิน "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" อู้ฟู่ 85 ล้าน หนี้ 20 ล้าน
- ↑ "เปิดประวัติ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" จากกระดุม 5 เม็ด… สู่ดาวฤกษ์ดวงใหม่". workpointTODAY. สืบค้นเมื่อ 2023-04-06.
- ↑ "2023 TIME100 Next: Pita Limjaroenrat". Time (ภาษาอังกฤษ). 2023-09-13.
- ↑ {{Cite web|date=2024-10-31|พิธามั่นใจ เท้ง-พรรคประชาชน ผ่านทุกความกดดัน ยังมีเวลาจนถึงเลือกตั้งประชาชาติ|url=https://www.prachachat.net/politics/news-1685209}
- ↑ "มติ ศาลรัฐธรรมนูญ ยุบ "ก้าวไกล" เพิกถอนสิทธิการเมือง กก.บห.พรรค 10 ปี". Thai PBS.
- ↑ "ประวัติทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หนุ่มนักเรียนทุนฮาร์วาร์ดคนแรกของไทย". Sanook. 2023-04-23. สืบค้นเมื่อ 2023-05-16.
- ↑ "'โกทิม' เชื้อ 'ไหหลำ' อีกตำนาน 'การเมืองไทย'". SPACEBAR. 2023-07-10. สืบค้นเมื่อ 2023-10-30.
- ↑ "เปิดประวัติ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.อนาคตใหม่ รู้จริงเรื่องเกษตรไทย (คลิป)". ไทยรัฐ. 2019-07-27. สืบค้นเมื่อ 2020-06-10.
- ↑ 9.0 9.1 9.2 "Real tests await Pita as leader of Future Forward's reincarnation". ไทยพีบีเอส. 2020-05-09. สืบค้นเมื่อ 2020-06-10.
- ↑ ทิม พิธา : กระดุม 5 เม็ดของอนาคตใหม่ กับปณิธานใหม่ขอเป็น "พรรคที่เล่นการเมืองน้อยที่สุด"
- ↑ "เปิดประวัติ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.อนาคตใหม่ รู้จริงเรื่องเกษตรไทย". ไทยรัฐ. 2019-07-27. สืบค้นเมื่อ 2023-05-16.
- ↑ วีระศักดิ์ จันทร์ส่องแสง. เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) เจ้าเมืองพระตะบองคนสุดท้ายใต้ปกครองสยาม. กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2557, หน้า 40
- ↑ อาทิตย์ ทรงกลด. เรื่องลับเขมรที่คนไทยควรรู้. กรุงเทพฯ : สยามบันทึก, 2552, หน้า 43
- ↑ "ไล่ไทม์ไลน์ ดราม่าเดือด บ้านคุณยาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โยงตระกูลอภัยวงศ์". มติชนออนไลน์. 2024-02-08. สืบค้นเมื่อ 2024-02-08.
- ↑ เรื่องเล่านอกสาแหรก ‘พระยาแบน-อภัยวงศ์’ ฉบับไทย-เขมร (1)
- ↑ "บ้านเก่าคุณยายของพิธา นอกสาแหรก "อภัยวงศ์" เจ้าตัวจ่อจ้อรายการ". ผู้จัดการออนไลน์. 2024-02-08. สืบค้นเมื่อ 2024-02-08.
- ↑ 17.0 17.1 "เลือกตั้ง2566 : รู้จัก (ว่าที่) นายกฯ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์"". ThaiPBS. 2023-05-15. สืบค้นเมื่อ 2023-05-15.
- ↑ ""อยากเป็น เลขาฯยูเอ็น " ความฝันสูงสุด "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์"". Thai PBS. 2022-05-23. สืบค้นเมื่อ 2023-05-16.
- ↑ "The cigar-rolling, NZ schooled Harvard grad set to be Thailand's PM". Australian Financial Review (ภาษาอังกฤษ). 2023-05-18. สืบค้นเมื่อ 2023-05-19.
- ↑ "รู้จัก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ดีกรีนักเรียนนอก ม.ดัง ระดับโลก". NationTV. 2023-05-15. สืบค้นเมื่อ 2023-05-16.
- ↑ 21.0 21.1 "ทิม พิธา: หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้สร้างคำนิยามของการประสบความสำเร็จเอง" (Interview). สัมภาษณ์โดย Cariber. 2021-09-07. สืบค้นเมื่อ 2023-05-16.
- ↑ "BBA International Program, Thammasat Business School" (PDF). BBA Thammasat Business School. 2009-05-06. p. 2. สืบค้นเมื่อ 2020-06-10.
- ↑ "เปิดประวัติ "ทิม พิธา" สามี "ต่าย ชุติมา" ดีกรี นักเรียนทุนฮาร์วาร์ดคนแรกของไทย". ช่อง 3. 2019-03-29. สืบค้นเมื่อ 2020-06-10.
- ↑ "Young Entrepreneur of the Year Award". Enterprise Asia. Asia Pacific Entrepreneurship Awards. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-10. สืบค้นเมื่อ 2020-06-10.
Physical labor did not faze the high school valedictorian who graduated with first class honors in finance from Thammasat University in Thailand, where he also spent two years at the University of Texas at Austin.
- ↑ "Pita Limjaroenrat". generationt.asia. Generation T. 2018-12-12. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-10. สืบค้นเมื่อ 2020-06-10.
He was also the first Thai student to receive Harvard's International Student Scholarship.
- ↑ "เปิดประวัติ! "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 30". MGR Online. 2023-05-15. สืบค้นเมื่อ 2023-05-16.
- ↑ "เปิดประวัติ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" จากกระดุม 5 เม็ด… สู่ดาวฤกษ์ดวงใหม่". Workpoint News. 2020-02-02. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-10. สืบค้นเมื่อ 2020-06-10.
- ↑ Issaree Chulakasem (2017-09-14). "Grab Thailand announces Pita Limjaroenrat as its new Country Head Public Affairs". techsauce.co. สืบค้นเมื่อ 2020-06-10.
- ↑ "ทิม พิธา จากเด็กเกเร สู่การเป็นนักธุรกิจหนุ่มคนเก่ง – เรียนจบมหาลัยอันดับหนึ่งของโลก". campus-star.com. Campus Star. 2019-04-06. สืบค้นเมื่อ 2020-06-10.
- ↑ "Thanathorn: Thai opposition leader disqualified as MP". BBC News. 20 November 2019. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.
- ↑ 31.0 31.1 "เปิดประวัติ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเตตนายกฯ พรรคก้าวไกล เลือกตั้ง 66". ประชาชาติ. 2023-05-15. สืบค้นเมื่อ 2023-05-16.
- ↑ "'ทิม พิธา' นั่งแท่น ประธานกมธ.ที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม". Siamrath. 2019-09-13. สืบค้นเมื่อ 2023-05-16.
- ↑ ""อนุพงษ์" ชื่นชม "พิธา" อภิปรายตรงประเด็น แจงมีทั้งทำแล้ว ทำได้ และไม่ได้". ไทยรัฐ. 26 July 2019. สืบค้นเมื่อ 2020-6-10.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "เปิดประวัติ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" จากกระดุม 5 เม็ด… สู่ดาวฤกษ์ดวงใหม่". Workpoint Today. 2021-07-22. สืบค้นเมื่อ 2023-05-16.
- ↑ Thana Boonlert (2020-03-09). "Pita takes helm of new party in wake of FFP demise". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-06-10.
- ↑ Hathai Techakitteranun (2020-03-08). "New Thai party to replace dissolved Future Forward". The Straits Times. สืบค้นเมื่อ 2020-06-10.
- ↑ "ก้าวไกล เลือก ทิม พิธา นั่งหัวหน้า ประกาศสานต่ออุดมการณ์อนาคตใหม่ 54 ส.ส. พร้อมเดินเคียงข้างประชาชน". The Standard. 2020-03-14. สืบค้นเมื่อ 2023-05-16.
- ↑ "ประวัติ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย". AMARIN TV HD. 2023-05-15. สืบค้นเมื่อ 2023-05-15.
- ↑ "เลือกตั้ง 66 'พิธา' นำแถลง 8 พรรค ตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน 22 พ.ค.นี้ เปิด MOU". Workpoint Today. 2023-05-18. สืบค้นเมื่อ 2023-05-23.
- ↑ "เลือกตั้ง 2566 : แก้ ม. 112-นิรโทษกรรมคดีการเมือง นโยบายก้าวไกลที่หายไปจาก MOU ตั้งรัฐบาล 8 พรรค". BBC Thai. 2023-05-22. สืบค้นเมื่อ 2023-05-23.
- ↑ "เลือกตั้ง2566 : เปิด "MOU 8 พรรค" แถลงจัดตั้งรัฐบาล". PPTV. 2023-05-22. สืบค้นเมื่อ 2023-05-23.
- ↑ Ahn, Jack Detsch, Ashley (2023-07-01). "Thailand's Obama Moment". Foreign Policy (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2023-07-11.
- ↑ Tan, Clement; CNBC (2023-07-12). "Thailand's Parliament is about to pick a new prime minister — and a generation's hopes are at stake". www.cnbc.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-12.
- ↑ Setboonsarng, Chayut; Wongcha-um, Panu (2023-07-04). "Thai alliance unites on house leadership after spat over speaker". Reuters (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ Reuters (2023-07-09). "Hundreds gather to show support for Thailand's Pita ahead of vote for PM". Reuters (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "Pita sends message to MPs, senators ahead of Thursday's vote". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ "EC votes to investigate Pita". Bangkok Post. 2023-06-09. สืบค้นเมื่อ 2023-06-18.
- ↑ 48.0 48.1 48.2 "Video recording questions accuracy of minutes of iTV shareholders' meeting". Bangkok Post. 2023-06-12. สืบค้นเมื่อ 2023-06-18.
- ↑ "Organic law probe could doom Pita". Bangkok Post. 2023-06-11. สืบค้นเมื่อ 2023-06-18.
- ↑ "MPs endorsed, House to convene within 15 days". Bangkok Post. 2023-06-20. สืบค้นเมื่อ 2023-06-20.
- ↑ Thepgumpanat, Panarat; Wongcha-Um, Panu (2023-07-12). "Double blow for Thailand's Pita as legal cases mount on eve of PM vote". Reuters. สืบค้นเมื่อ 2023-07-12.
- ↑ "Thai poll body seeks to suspend frontrunner for prime minister". www.aljazeera.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-12.
- ↑ Ratcliffe, Rebecca; Siradapuvadol, Navaon (2023-07-13). "Leading Thailand candidate for PM warns of 'high price' if blocked from power". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "Pita is sole PM candidate in parliament". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ "Thailand's Election Winner Fails First Parliament Vote to Become Prime Minister—What to Know and What Comes Next". Time. 2023-07-13. สืบค้นเมื่อ 2023-07-13.
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "Pita loses first PM vote". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ Lohatepanont, Ken Mathis (2023-07-13). "Explainer: Why Pita Didn't Become Prime Minister - Thai Enquirer Current Affairs". Thai Enquirer (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ "Thailand's only candidate for PM was blocked from power. Here's why that could trigger 'an uprising'". ABC News (ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย). 2023-07-13. สืบค้นเมื่อ 2023-07-14.
- ↑ "Thailand: Protests possible nationwide through at least mid-July following general elections /update 1". Thailand: Protests possible nationwide through at least mid-July following general elections /update 1 | Crisis24 (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ Ratcliffe, Rebecca; Siradapuvadol, Navaon (2023-07-13). "Thailand's winning candidate for PM blocked from power". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ Thusoo, Nausheen (2023-07-13). "Thai political uncertainty grips markets, rest of Asia rally after US CPI". สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Lawfare Has Begun; Pita's Fate Repeats Thailand's Political Turmoil".
- ↑ Ford, Mazoe; Vimonsuknopparat, Supattra (2023-07-13). "Thailand's only candidate for PM was blocked from power. Here's why that could trigger 'an uprising'". ABC News (ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย). สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "Pita: 'I'm not giving up'". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ "Bangkok: protests begin after Thailand's winning candidate blocked from power – video report". the Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2023-07-13. ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "Pita: Ready to give way to Pheu Thai if necessary". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ Olarn, Helen Regan,Kocha (2023-07-13). "Critical moment for Thai democracy as parliament fails to elect new prime minister". CNN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ "Charter court suspends Pita". Bangkok Post. 19 July 2023. สืบค้นเมื่อ 19 July 2023.
- ↑ Ives, Mike (2023-07-19). "An Anxious Thailand Awaits a New Leader: Here's What to Know". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ "Thai court suspends prime minister hopeful Pita's lawmaker status after his reformist party swept elections". Yahoo News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2023-07-19. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ "Thai court suspends Pita as lawmaker as parliament votes on PM". CNA (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-07-24. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ "Thai Parliament Bars Election Winner From Running for PM Post". Bloomberg.com (ภาษาอังกฤษ). 2023-07-19. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ "Pita's Renomination Rejected by Parliament". MCOT. 2023-07-19. สืบค้นเมื่อ 2023-07-20.
- ↑ Ives, Mike; Suhartono, Muktita (2023-07-19). "Protesters Gather in Thailand as Parliament Faces Gridlock". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2023-07-20.
- ↑ 75.0 75.1 "Parliament rejects Pita's renomination for PM". The Bangkok Post. 2023-07-19. สืบค้นเมื่อ 2023-07-20.
- ↑ "Thai parliament rejects Pita's PM nomination – DW – 07/19/2023". dw.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ "Thai Parliament Bars Election Winner From Running for PM Post". Bloomberg.com (ภาษาอังกฤษ). 2023-07-19. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ Mendonca, Kocha Olarn,Duarte (2023-07-19). "Thai parliament blocks election-winner's bid to become prime minister". CNN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-20.
- ↑ "Protests in Thailand as rivals derail Pita's PM bid". www.aljazeera.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-21.
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=j1vQ32RNY0A
- ↑ Setboonsarng, Chayut; Thepgumpanat, Panarat (2023-07-19). "Turmoil in Thailand as rivals derail election winner's PM bid". Reuters (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
- ↑ "Thailand's Pita to give nod to Pheu Thai if his next PM bid fails". Nikkei Asia (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2023-08-23.
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "Pita: Ready to give way to Pheu Thai if necessary". Bangkok Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-08-23.
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "Pheu Thai bloc 'excludes Move Forward'". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2023-08-02.
- ↑ "'Not a game of cards': Thailand's Pita on how Lee Kuan Yew's words keep his focus on political goal, not PM job". CNA (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-08-22.
- ↑ "Three parties to contest Rayong by-election". Bangkok Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-08-22.
- ↑ "Thai Parliament Picks Real Estate Mogul as Next Prime Minister" (ภาษาอังกฤษ). 2023-08-22. สืบค้นเมื่อ 2023-08-23.
- ↑ "Thai PBS เลือกนายกฯ #เลือกอนาคตประเทศไทย". Thai PBS. สืบค้นเมื่อ 2023-08-23.
- ↑ "ชี้ "ปดิพัทธ์" ไม่ลาออก รองปธ.สภา "ผู้นำฝ่ายค้าน" หล่นไปที่หัวหน้า ปชป". ไทยรัฐ. 2023-08-25. สืบค้นเมื่อ 2023-08-25.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ด่วน! พิธา ลาออกหัวหน้าพรรค เปิดทางก้าวไกล รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน". มติชน. 2023-09-15. สืบค้นเมื่อ 2023-09-15.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Thailand's Pita resigns as Move Forward leader". Nikkei Asia (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2023-09-16.
- ↑ "Blocked Thai PM challenger Pita resigns as leader of opposition party". www.aljazeera.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-09-16.
- ↑ "Chaithawat voted new Move Forward leader". www.thaipbsworld.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2023-09-23.
- ↑ "Thailand's opposition Move Forward Party names new leader". www.aljazeera.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-09-23.
- ↑ "คดีหุ้นไอทีวี: สรุปข้อโต้แย้ง พิธา กับ 3 ประเด็นหลักจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ". BBC News ไทย. 2024-01-24.
- ↑ ""พิธา"คัมแบ็กหัวหน้าพรรคก้าวไกลในเดือนเมษายนนี้". thansettakij. 2024-01-24.
- ↑ "'ก้าวไกล' เลื่อนเคาะ กก.บห.ชุดใหม่ จนกว่า 'คดียุบก้าวไกล' จะได้ข้อยุติ". กรุงเทพธุรกิจ. 6 เมษายน 2024. สืบค้นเมื่อ 4 กรกฎาคม 2024.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "What to Know About the Controversy That Could Keep Thailand's Progressive Party Leader From Taking Office". Time (ภาษาอังกฤษ). 2023-06-16. สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ "Thailand's parliament votes to reject progressive leader Pita Limjaroenrat as next prime minister". Yahoo News (ภาษาอังกฤษ). 2023-07-13. สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ "Thailand's Move Forward Party leader falls short in vote for prime minister". NBC News (ภาษาอังกฤษ). 2023-07-13. สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "50 MPs join Move Forward". Bangkok Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ "This Harvard Alum Wants to Help Thailand Reclaim Lost Decade as Election Race Heats Up". Bloomberg.com (ภาษาอังกฤษ). 2023-04-19. สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "This Harvard alum wants to help Thailand reclaim lost decade". Bangkok Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ Regan, Kocha Olarn,Mark Phillips,Zain Asher,Helen (2023-05-17). "Projected winner of Thailand's election says he will 'demilitarize' country". CNN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ "Pita vows to push for the amendment of lèse majesté law". www.thaipbsworld.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ Thailand's Move Forward Party's Pita Limjaroenrat speaks to CNN | CNN (ภาษาอังกฤษ), 2023-05-16, สืบค้นเมื่อ 2023-07-15
- ↑ "Thailand braces for liquor industry disruption under Move Forward". Nikkei Asia (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ "Pita vows to liberalise liquor industry in 100 days of govt". nationthailand (ภาษาอังกฤษ). 2023-05-27. สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ Kuhakan, Jiraporn (2023-06-05). "Thai PM frontrunner attends Pride parade, promising same-sex marriage, gender identity rights". Reuters (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ "Move Forward pledges better welfare for military, end to conscription if it comes to power". nationthailand (ภาษาอังกฤษ). 2023-01-18. สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ "Move Forward Party unveils its foreign policy approach". www.thaipbsworld.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ "What Would Thailand's Foreign Policy Look Like Under Pita Limjaroenrat's Leadership?". thediplomat.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ "@Pita_MFP". Twitter (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ "Late Bhichai integral to Democrat Party's "good side"". www.thaipbsworld.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2023-07-15.
- ↑ "'Not a game of cards': Thailand's Pita on how Lee Kuan Yew's words keep his focus on political goal, not PM job". CNA (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-08-30.
- ↑ "Thailand's Conservative Old Guard Has Snuffed Out the Popular Demand for Change". jacobin.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2023-09-14.
- ↑ "Thai PM Hopeful Seeks to End Cycle of Coups". VOA (ภาษาอังกฤษ). 2023-05-10. สืบค้นเมื่อ 2023-09-14.
- ↑ Mae Moo (7 April 2019). "James' lucky break, Tim stakes claim, stork brings twins". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.
The couple married on the auspicious date of 12/12/2012 but have been having problems for the past year or so, and separated five or six months ago.
- ↑ "Winter 2016". hks.harvard.edu. Harvard Kennedy School. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.
Pita Limjaroenrat MPP and wife, Chutima, are expecting their first child this coming March.
- ↑ "Domestic Violence Allegations Stalk Thanathorn's Successor". NewsDay24. 13 March 2020. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.
Pita and Chutima filed for divorce in March 2019.
[ลิงก์เสีย] - ↑ 121.0 121.1 "Domestic Violence Allegations Stalk Thanathorn's Successor". Khaosod English. 12 March 2020.
In an interview in October 2019 to Khaosod’s Thai edition, Chutima said Pita forbid her from having male and gay friends, and once instructed her to prostrate (graab) to him in apology for mentioning that Hollywood star Rober Downey Jr. was handsome.
- ↑ "PARINA SLAMS FUTURE FORWARD MP'S SEPARATION WITH SERIES OF COMMANDMENTS". Khaosod English. 30 July 2019.
A few days after Parliament heated up during debate over the new government’s core policies, Phalang Pracharath MP Parina Kraikup took to Facebook to pen yet another social media outburst, this time aimed at Future Forward MP Pita Limjaroenrat’s alleged abuse of his ex-wife.
- ↑ 123.0 123.1 "Move Forward Party leader Pita's ex-wife plays down domestic abuse". The Nation. 21 April 2023. สืบค้นเมื่อ 16 May 2023.
- ↑ 124.0 124.1 "Tai Chutima Insists On Cheering Her Ex-Husband, Pita". Khaosod English. 22 April 2023. สืบค้นเมื่อ 16 May 2023.
- ↑ 125.0 125.1 Mae Moo (26 May 2019). "Music master finds new pet, Tye flings mud, Toy's tantrum". สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.
It comes after the court earlier varied a custody order awarding to Tim sole custody rights to the couple's child, Nong PiPim, aged three.
- ↑ "จ่ำม่ำมาก ! ยลโฉม 'น้องพิพิม' ลูกสาวคนแรกของ พิธา – ชุติมา ลิ้มเจริญรัตน์". hellomagazine.com. Hello Magazine. January 2014. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.
- ↑ "เปิดประวัติไม่ธรรมดา 'ทิม พิธา' ดาวสภาดวงใหม่ รู้จริงเรื่องเกษตรกรไทย เคยติดโผ 50 หนุ่ม CLEO 2008". Matichon. 28 July 2019. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.
- ↑ "50 หนุ่มโสดในฝันของนิตยสารคลีโอประจำปี 2008". mthai.com. MThai. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 January 2020. สืบค้นเมื่อ 10 June 2020.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่เฟซบุ๊ก
- พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่เอกซ์ (ทวิตเตอร์)
- พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่อินสตาแกรม
ก่อนหน้า | พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (ในนามพรรคอนาคตใหม่) ราเชนธร์ ติยะวัชรพงศ์ (หัวหน้าพรรคเดิม) |
หัวหน้าพรรคก้าวไกล (14 มีนาคม พ.ศ. 2563 – 15 กันยายน พ.ศ. 2566) |
ชัยธวัช ตุลาธน |