น้ำมันรำข้าว (อังกฤษ: rice bran oil) เป็นน้ำมันพืชที่สกัดมาจากเปลือกแข็งสีน้ำตาลนอกของข้าว คือ แกลบ/รำข้าว มีจุดก่อควัน (อุณหภูมิต่ำสุดที่ไขมันจะเกินควันสีน้ำเงินอย่างต่อเนื่องซึ่งในที่สุดก็จะมองเห็นได้) สูง คือ 232 องศาเซลเซียส (450 องศาฟาเรนไฮต์) มีรสอ่อน ๆ เหมาะทำอาหารที่ใช้ความร้อนสูง เช่นผัดหรือทอด และยังเหมาะทำน้ำสลัดและขนมอบอีกด้วย[1] เป็นน้ำมันประกอบอาหารที่นิยมในประเทศเอเชียบางประเทศรวมทั้งบังกลาเทศ ญี่ปุ่น อินเดีย และจีน[2]

น้ำมันรำข้าว
องค์ประกอบไขมัน
ไขมันอิ่มตัว
ไขมันอิ่มตัวทั้งหมด25%
Myristic: 0.6%
กรดปาล์มิติก: 21.5%
Stearic acid: 2.9%
ไขมันไม่อิ่มตัว
ไขมันไม่อิ่มตัวทั้งหมด75%
Monounsaturated38%
กรดโอเลอิก38%
Polyunsaturated37%
กรดไขมันโอเมกา-3กรดลิโนเลนิกอัลฟา: 2.2%
กรดไขมันโอเมกา-6กรดลิโนเลอิก: 34.4%
คุณสมบัติ
พลังงานต่อ 100 ก.3,700 kJ (880 kcal)
จุดก่อควัน
(Smoke point)
232 °C (450 °F)
Iodine value99-108
Acid value1.2
Saponification value180-190
Unsaponifiable3-5

น้ำมันรำข้าวอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยปรับปรุงรูปแบบลิพิด/คอเลสเตอรอลในเลือด (จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดคอเลสเตอรอลแบบ LDL) บรรเทาอาการเนื่องด้วยวัยหมดระดู และอาจลดการดูดซึมแคลเซียมซึ่งอาจลดการเกิดนิ่วไตบางประเภท มีสารต้านอนุมูลอิสระหลัก ๆ สองอย่างคือวิตามินอีและโอรีซานอล (oryzanol) ซึ่งสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า[1] มีกรดไขมันอิ่มตัว 23% กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่เดี่ยว 45% และกรดไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่หลายคู่ 32%[2]

การใช้

แก้

น้ำมันรำข้าวใช้ทานและใช้ทำเนยใส (ghee) ได้ ขี้ผึ้งรำข้าวที่ทำจากน้ำมันสามารถใช้แทนขี้ผึ้งคานอบา/ขี้ผึ้งบราซิล/ขี้ผึ้งปาล์มเพื่อทำเครื่องสำอาง ทำขนมหวาน/ลูกกวาด และทำสารประกอบขัดเงา

องค์ประกอบ

แก้

น้ำมันรำข้าวมีองค์ประกอบคล้ายกับน้ำมันถั่วลิสง คือมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่เดี่ยว 38% กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่หลายคู่ 37% และกรดไขมันอิ่มตัว 25% องค์ประกอบกรดไขมันรวมทั้ง[2]

กรดไขมัน อัตราร้อยละ
C14:0 Myristic acid 0.6%
C16:0 กรดปาล์มิติก 21.5%
C18:0 Stearic acid 2.9%
C18:1 กรดโอเลอิก (เป็นกรดไขมันโอเมกา-9 อย่างหนึ่ง) 38.4%
C18:2 กรดลิโนเลอิก (เป็นกรดไขมันโอเมกา-6 อย่างหนึ่ง) 34.4%
C18:3 กรดลิโนเลนิกอัลฟา (เป็นกรดไขมันโอเมกา-3 อย่างหนึ่ง) 2.2%
คุณสมบัติของน้ำมันรำข้าวทั้งดิบและกลั่น[3][4]
คุณสมบัติ ดิบ กลั่น
ความชื้น 0.5-1.0% 0.1-0.15%
ความหนาแน่น (15-15 °C) 0.913-0.920 0.913-0.920
ดรรชนีหักเห 1.4672 1.4672
Iodine value[A] 85-100 95-104
Saponification value[B] 187 187
ส่วนที่ไม่กลายเป็นสบู่
(Unsaponifiable matter)
4.5-5.5 1.8-2.5
กรดไขมันอิสระ 5-15% 0.15-0.2%
โอรีซานอล 2.0 1.5-1.8
โทโคฟีรอล 0.15 0.05
สี (Tintometer) 20Y+2.8R 10Y+1.0R

เปรียบเทียบกับอาหารและไขมันอื่น ๆ

แก้
น้ำมันพืช[5][6]
ประเภท การ
แปรรูป
กรดไขมัน
อิ่มตัว
กรดไขมันไม่อิ่มตัว
มีพันธะคู่เดี่ยว
กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่หลายคู่ จุดก่อควัน
มีพันธะเดียว
รวม[5]
กรดโอเลอิก
(ω-9)
มีหลายพันธะ
รวม[5]
กรดลิโนเลนิก
(ω-3)
กรดลิโนเลอิก
(ω-6)
อาโวคาโด[7] 11.6 70.6 13.5 1 12.5 249 องศาเซลเซียส (480 องศาฟาเรนไฮต์)[8]
คาโนลา[9] 7.4 63.3 61.8 28.1 9.1 18.6 238 องศาเซลเซียส (460 องศาฟาเรนไฮต์)[10]
มะพร้าว[11] 82.5 6.3 6 1.7 175 องศาเซลเซียส (347 องศาฟาเรนไฮต์)[10]
ข้าวโพด[12] 12.9 27.6 27.3 54.7 1 58

232 องศาเซลเซียส (450 องศาฟาเรนไฮต์)[13]

เมล็ดฝ้าย[14] 25.9 17.8 19 51.9 1 54 216 องศาเซลเซียส (420 องศาฟาเรนไฮต์)[13]
เมล็ดแฟลกซ์[15] 9.0 18.4 18 67.8 53 13

107 องศาเซลเซียส (225 องศาฟาเรนไฮต์)

เมล็ดองุ่น 10.5 14.3 14.3 74.7 - 74.7 216 องศาเซลเซียส (421 องศาฟาเรนไฮต์)[16]
น้ำมันกัญชง[17] 7.0 9.0 9.0 82.0 22.0 54.0 166 องศาเซลเซียส (330 องศาฟาเรนไฮต์)[18]
มะกอก[19] 13.8 73.0 71.3 10.5 0.7 9.8 193 องศาเซลเซียส (380 องศาฟาเรนไฮต์)[10]
ปาล์ม[20] 49.3 37.0 40 9.3 0.2 9.1 235 องศาเซลเซียส (455 องศาฟาเรนไฮต์)
ถั่วลิสง[21] 20.3 48.1 46.5 31.5 31.4 232 องศาเซลเซียส (450 องศาฟาเรนไฮต์)[13]
คำฝอย[22] 7.5 75.2 75.2 12.8 0 12.8 212 องศาเซลเซียส (414 องศาฟาเรนไฮต์)[10]
ถั่วเหลือง[23] 15.6 22.8 22.6 57.7 7 51 238 องศาเซลเซียส (460 องศาฟาเรนไฮต์)[13]
เมล็ดทานตะวัน (มาตรฐาน, 65% ไลโนเลอิก)[24] 10.3 19.5 19.5 65.7 0 65.7
เมล็ดทานตะวัน (<60% ไลโนเลอิก)[25] 10.1 45.4 45.3 40.1 0.2 39.8

227 องศาเซลเซียส (440 องศาฟาเรนไฮต์)[13]

เมล็ดทานตะวัน (>70% โอเลอิก)[26] 9.9 83.7 82.6 3.8 0.2 3.6

227 องศาเซลเซียส (440 องศาฟาเรนไฮต์)[13]

เมล็ดฝ้าย[27] ไฮโดรจีเนต 93.6 1.5 0.6 0.3
ปาล์ม[28] ไฮโดรจีเนต 88.2 5.7 0
ถั่วเหลือง[29] ไฮโดรจีเนตบางส่วน 14.9 43.0 42.5 37.6 2.6 34.9
ค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) ของน้ำหนักไขมันรวม
องค์ประกอบไขมันของอาหารต่าง ๆ
 
อาหาร ไขมันอิ่มตัว ไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่เดี่ยว ไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่หลายคู่
เป็นเปอร์เซ็นต์ (%) ของน้ำหนักไขมันทั้งหมด
น้ำมันประกอบอาหาร
น้ำมันคาโนลา 08 64 28
น้ำมันมะพร้าว 87 13 00
น้ำมันข้าวโพด 13 24 59
น้ำมันเมล็ดฝ้าย[30] 27 19 54
น้ำมันมะกอก[31] 14 73 11
Palm kernel oil[30] 86 12 02
น้ำมันปาล์ม[30] 51 39 10
น้ำมันถั่วลิสง[32] 17 46 32
น้ำมันรำข้าว 25 38 37
น้ำมันเมล็ดคำฝอยมีกรดโอเลอิกสูง[33] 06 75 14
น้ำมันเมล็ดคำฝอยเป็นกรดลิโนเลอิก[30][34] 06 14 75
น้ำมันถั่วเหลือง 15 24 58
น้ำมันเมล็ดทานตะวัน[35] 11 20 69
Mustard oil 11 59 21
ผลิตภัณฑ์นม
ไขมันเนย[30] 66 30 04
ชีสธรรมดา 64 29 03
ชีสไขมันน้อย 60 30 00
ไอศกรีมพิเศษ (gourmet) 62 29 04
ไอศกรีมไขมันน้อย 62 29 04
นมไม่พร่องส่วนผสม 62 28 04
นม 2% 62 30 00
*Whipping cream[36] 66 26 05
เนื้อสัตว์
เนื้อวัว 33 38 05
เนื้อสันนอกบด 38 44 04
Pork chop 35 44 08
แฮม 35 49 16
อกไก่ 29 34 21
ไก่ 34 23 30
อกไก่งวง 30 20 30
ขาไก่งวง 32 22 30
ปลา orange roughy 23 15 46
ปลาแซลมอน 28 33 28
ฮอตดอกเนื้อ 42 48 05
ฮอตดอกไก่งวง 28 40 22
แฮมเบอร์เกอร์ อาหารจานด่วน 36 44 06
ชีสเบอร์เกอร์ อาหารจานด่วน 43 40 07
แซนด์วิชไก่โรยเศษขนมปัง 20 39 32
แซนด์วิชไก่ย่าง 26 42 20
ไส้กรอกโปแลนด์ 37 46 11
ไส้กรอกไก่งวง 28 40 22
พิซซาหน้าไส้กรอก 41 32 20
ชีสพิซซ่า 60 28 05
เมล็ดถั่ว
อัลมอนด์คั่วแห้ง 09 65 21
มะม่วงหิมพานต์คั่วแห้ง 20 59 17
แมคาเดเมียคั่วแห้ง 15 79 02
ถั่วลิสงคั่วแห้ง 14 50 31
พีแคนคั่วแห้ง 08 62 25
Flaxseeds บด 08 23 65
เมล็ดงา 14 38 44
ถั่วเหลือง 14 22 57
เมล็ดทานตะวัน 11 19 66
วอลนัตคั่วแห้ง 09 23 63
ของหวานและของอบ
ช็อกโกแลตแท่ง 59 33 03
Candy, fruit chews 14 44 38
คุกกี้ข้าวโอ๊ตแลละลูกเกด 22 47 27
คุกกี้ช็อกโกแลตชิ๊พ 35 42 18
yellow cake 60 25 10
ขนมเดนนิช 50 31 14
ไขมันเติมใส่ในอาหาร
เนย 63 29 03
เนยวิ๊ป 62 29 04
เนยเทียมก้อน 18 39 39
เนยเทียมกล่อง 16 33 49
เนยเทียมกล่องไขมันน้อย 19 46 33
น้ำมันหมู 39 45 11
Shortening 25 45 26
ไขมันไก่ 30 45 21
ไขมันเนื้อ 41 43 03
ไขมันห่าน[37] 33 55 11
น้ำสลัดบลูชีส 16 54 25
น้ำสลัดอิตาเลียนไขมันน้อย 14 24 58
อื่น ๆ
ไขมันไข่แดง[38] 36 44 16
อาโวคาโด[39] 16 71 13
ถ้าไม่ได้กำหนดในตาราง แหล่งอ้างอิงก็คือ[40]
* เป็นไขมันทรานส์ 3%
คุณสมบัติเปรียบเทียบของน้ำมันประกอบอาหาร (ต่อ 100 ก.)
ประเภทไขมัน ไขมันทั้งหมด (ก.) ไขมันอิ่มตัว (ก.) ไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่เดี่ยว (ก.) ไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่หลายคู่ (g) จุดก่อควัน
น้ำมันดอกทานตะวัน 100 11 20 69 225 องศาเซลเซียส (437 องศาฟาเรนไฮต์)[41]
น้ำมันดอกทานตะวัน (กรดโอเลอิกสูง) 100 12 84[42] 4[42]
น้ำมันถั่วเหลือง 100 16 23 58 257 องศาเซลเซียส (495 องศาฟาเรนไฮต์)[41]
น้ำมันคาโนลา 100 7 63 28 205 องศาเซลเซียส (401 องศาฟาเรนไฮต์)[42][43]
น้ำมันมะกอก 100 14 73 11 190 องศาเซลเซียส (374 องศาฟาเรนไฮต์)[41]
น้ำมันข้าวโพด 100 15 30 55 230 องศาเซลเซียส (446 องศาฟาเรนไฮต์)[41]
น้ำมันถั่วลิสง 100 17 46 32 225 องศาเซลเซียส (437 องศาฟาเรนไฮต์)[41]
น้ำมันรำข้าว 100 25 38 37 250 องศาเซลเซียส (482 องศาฟาเรนไฮต์)[44]
เนยขาว (น้ำมันพืชเติมไฮโดรเจน) 71 23 8 37 165 องศาเซลเซียส (329 องศาฟาเรนไฮต์)[41]
มันหมู 100 39 45 11 190 องศาเซลเซียส (374 องศาฟาเรนไฮต์)[41]
Suet (มันแข็งริมไตสัตว์) 94 52 32 3 200 องศาเซลเซียส (392 องศาฟาเรนไฮต์)
เนย 81 51 21 3 150 องศาเซลเซียส (302 องศาฟาเรนไฮต์)[41]
น้ำมันมะพร้าว 100 86 6 2 177 องศาเซลเซียส (351 องศาฟาเรนไฮต์)

ประโยชน์ต่อสุขภาพ

แก้

น้ำมันมีองค์ประกอบเป็นสารต้านอนุมูลอิสระคือโอรีซานอลแบบแกมมา (γ-oryzanol) อยู่ประมาณ 2% แม้จะเชื่อว่าเป็นสารประกอบเพียงอย่างเดียวเมื่อแยกได้ในเบื้องต้น แต่ปัจจุบันรู้ว่าเป็นสารผสมคือ เอสเทอร์ sterol บวกกับเอสเทอร์ triterpene ของกรดเฟรูลิก (ferulic acid)[2] มีอัตราส่วนค่อนข้างสูงของโทโคฟีรอลและ tocotrienol รวมกันเป็นวิตามินอี และยังมี phytosterol อื่น ๆ มากด้วย

โอรีซานอลแบบแกมมา (จีน: 谷维素) แบบสกัดยังมีขายในประเทศจีนโดยเป็นยาที่ซื้อได้เอง[45] และในประเทศอื่นโดยเป็นอาหารเสริม

ประโยชน์

แก้

ประโยชน์มีอยู่ในเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวและจมูกข้าวที่อุดมด้วยสารสำคัญทางธรรมชาติ จึงมีคุณค่าสูงหลายชนิดต่อร่างกาย เช่น

  • กลุ่มสารฟอสโฟลิพิด เช่น เลซิติน (lecithin) เซฟฟาลิน (cephalin) ไลโซเลซิติน (lysolecithin) ซึ่งสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์ประสาทสมอง และช่วยป้องกันเซลล์ประสาทจากสารที่เป็นพิษและอนุมูลอิสระต่างๆ ช่วยลดความเครียด และช่วยเสริมสร้างความจำ
  • กลุ่มเซราไมด์ (ceramide) ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของชั้นใต้ผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวหนังยืดหยุ่น เซราไมด์ที่ได้เพียงพอ จากการรับประทานหรือการทาผิวหนังด้วยครีมหรือโลชัน จะช่วยรักษาผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง ปราศจากริ้วรอยย่นก่อนเวลาอันควร เซราไมด์ยังมีคุณสมบัติเป็นไวท์เทนเนอร์ (whitener) ซึ่งสามารถยับยั้งการสังเคราะห์เมลานิน อันเป็นสาเหตุให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำบนผิวพรรณได้ดี และยังเป็นสารให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว (moisturizer) อีกด้วย
  • กลุ่มโทคอล (tocols) เป็นวิตามินอีธรรมชาติ ในรูปของโทโคฟีรอล (tocopherol) และโทโคไทรอีนอล (tocotrienol) มีประโยชน์ช่วยสร้างและซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย และยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันต้านโรคต่าง ๆ ช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นเหตุสำคัญของมะเร็ง
  • กลุ่มกรดไขมันลิโนเลอิก (linoleic Acid) ซึ่งเป็นส่วนของกลุ่มกรดไขมันโอเมกา-6 และ กรดลิโนเลนิกอัลฟา (linolenic acid) ซึ่งเป็นส่วนของกลุ่มกรดไขมันโอเมกา-3 ที่เป็นกรดไขมันจำเป็น
  • กลุ่มวิตามินบีคอมเพล็กซ์ ซึ่งช่วยระบบประสาททำงานดีขึ้น
  • กลุ่มโอรีซานอลแบบแกมมา มีฤทธิ์ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ลดการตีบตันของหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือด มีฤทธิ์ลดความเครียด และรักษาอาการผิดปกติของสตรีวัยทอง นอกจากนี้ยังเป็นสารอนุมูลอิสระ ป้องกันแสงยูวีได้เมื่อใช้กินหรือใช้ทา ทำให้ผิวหนังชุ่มชื่นและต้านการอักเสบ

ปรับคอเลสเตอรอล

แก้

งานทบทวนวรรณกรรมแสดงว่า น้ำมันรำข้าวและองค์ประกอบที่มีฤทธิ์ต่าง ๆ ปรับปรุงคอเลสเตอรอลในเลือด โดยลดคอเลสเตอรอลรวมกับไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มอัตราส่วนของคอเลสเตอรอลแบบ HDL[46] งานศึกษาในสัตว์[47] แสดงว่า คอเลสเตอรอลรวมจะลด 42% และคอเลสเตอรอลแบบ LDL จะลด 62% เมื่อให้ทานอาหารเสริมเป็นวิตามินอีที่ได้จากน้ำมันรำข้าว

บรรเทาอาการวัยหมดระดู

แก้

งานศึกษาขนาดเล็กในเรื่องโอรีซานอลแบบแกมมา (γ-oryzanol) ซึ่งเป็นส่วนผสมของน้ำมันรำข้าวพบว่า หญิง 90% จะบรรเทาอาการร้อนวูบ (hot flashes) ในช่วงวัยหมดระดูเมื่อทานสารสกัดบริสุทธิ์เข้มข้นเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์[48]

ความเสถียรของสารต้านอนุมูลอิสระ

แก้

โอรีซานอลในน้ำมันรำข้าวที่ใส่ในกระทะจะคงยืนเท่ากันโดยประมาณแม้เมื่อให้ความร้อนถึง 180 ˚C เป็นเวลา 8 ชม. แต่การอุ่นด้วยเตาอบไมโครเวฟที่อุณหภูมิเดียวกันปรากฏกว่าลดปริมาณโอรีซานอล[49]

ดูดซึมแคลเซียม

แก้

น้ำมันรำข้าวอาจลดคอเลสเตอรอลเพราะมีสารลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลและเพิ่มการกำจัดคอเลสเตอรอล อนึ่ง สารอย่างหนึ่งในน้ำมันอาจลดการดูดซึมแคลเซียม ซึ่งอาจช่วยลดการเกิดนิ่วไตบางประเภท[50]

ลดการดื้ออินซูลิน (insulin resistance)

แก้

ในหนู การได้รับข้าวกล้องที่เริ่มงอกแล้วและสารสกัดโอรีซานอลเมื่อยู่ในครรภ์พบว่า ลดการดื้ออินซูลิน (insulin resistance) เนื่องกับอาหารไขมันสูง[51]

เชิงอรรถ

แก้
  1. ในสาขาเคมี iodine value หรือ iodine adsorption value หรือ iodine number หรือ iodine index เป็นมวลของไอโอดีนมีหน่วยเป็นกรัมที่หมดไปเนื่องกับการทำปฏิกิริยากับสารเคมี 100 กรัม เป็นค่าที่มักใช้ระบุความไม่อิ่มตัวของกรดไขมัน ค่ายิ่งสูงเท่าไร กรดไขมันก็ไม่อิ่มตัวยิ่งขึ้นเท่านั้น
  2. Saponification value หรือ saponification number หรือ Koettstorfer number หรือ sap เป็นจำนวนโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์มีหน่วยเป็นมิลลิกรัมที่จำเป็นเพื่อทำไขมัน 1 กรัมให้เป็นสบู่ภายใต้ภาวะโดยเฉพาะ ๆ มันเป็นตัววัดมวลโมเลกุลเฉลี่ย (หรือความยาวโซ่เฉลี่ย) ของกรดไขมันทั้งหมดที่มี

อ้างอิง

แก้
  1. 1.0 1.1 "เราจะเลือกน้ำมันอะไรดีในการปรุงอาหาร". ASTV/ผู้จัดการออนไลน์. 2009-02-06. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-05. สืบค้นเมื่อ 2019-01-05.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 Orthoefer, F. T. (2005). "Chapter 10: Rice Bran Oil". ใน Shahidi, F. (บ.ก.). Bailey's Industrial Oil and Fat Products. Vol. 2 (6th ed.). John Wiley & Sons, Inc. p. 465. ISBN 978-0-471-38552-3. สืบค้นเมื่อ 2012-03-01.
  3. SEA HandBook-2009, By The Solvent Extractors'Association of India
  4. "What is Rice Bran Oil?". AP Refinery. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-07-12. สืบค้นเมื่อ 2018-12-26.
  5. 5.0 5.1 5.2 "US National Nutrient Database, Release 28". United States Department of Agriculture. May 2016. All values in this column are from the USDA Nutrient database unless otherwise cited.
  6. "Fats and fatty acids contents per 100 g (click for "more details") example: avocado oil; user can search for other oils". Nutritiondata.com, Conde Nast for the USDA National Nutrient Database, Standard Release 21. 2014. สืบค้นเมื่อ 7 September 2017. Values from Nutritiondata.com (SR 21) may need to be reconciled with most recent release from the USDA SR 28 as of Sept 2017.
  7. "Avocado oil, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  8. What is unrefined, extra virgin cold-pressed avocado oil?, The American Oil Chemists’ Society
  9. "Canola oil, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  10. 10.0 10.1 10.2 10.3 Katragadda, H. R.; Fullana, A. S.; Sidhu, S.; Carbonell-Barrachina, Á. A. (2010). "Emissions of volatile aldehydes from heated cooking oils". Food Chemistry. 120: 59. doi:10.1016/j.foodchem.2009.09.070.
  11. "Coconut oil, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  12. "Corn oil, industrial and retail, all purpose salad or cooking, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  13. 13.0 13.1 13.2 13.3 13.4 13.5 Wolke, Robert L. (16 May 2007). "Where There's Smoke, There's a Fryer". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ 5 March 2011.
  14. "Cottonseed oil, salad or cooking, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  15. "Linseed/Flaxseed oil, cold pressed, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  16. Garavaglia J, Markoski MM, Oliveira A, Marcadenti A (2016). "Grape Seed Oil Compounds: Biological and Chemical Actions for Health". Nutr Metab Insights. 9: 59–64. doi:10.4137/NMI.S32910. PMC 4988453. PMID 27559299.
  17. "Efficacy of dietary hempseed oil in patients with atopic dermatitis". Journal of Dermatological Treatment. 2005. สืบค้นเมื่อ 25 October 2017.
  18. https://www.veghealth.com/nutrition-tables/Smoke-Points-of-Oils-table.pdf
  19. "Olive oil, salad or cooking, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  20. "Palm oil, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  21. "Oil, peanut". FoodData Central. usda.gov.
  22. "Safflower oil, salad or cooking, high oleic, primary commerce, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  23. "Soybean oil, salad or cooking, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  24. "Sunflower oil, 65% linoleic, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 15 November 2018.
  25. "Sunflower oil, less than 60% of total fats as linoleic acid, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  26. "Sunflower oil, high oleic - 70% or more as oleic acid, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  27. "Cottonseed oil, industrial, fully hydrogenated, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  28. "Palm oil, industrial, fully hydrogenated, filling fat, fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  29. "Soybean oil, salad or cooking, (partially hydrogenated), fat composition, 100 g". US National Nutrient Database, Release 28, United States Department of Agriculture. May 2016. สืบค้นเมื่อ 6 September 2017.
  30. 30.0 30.1 30.2 30.3 30.4 Anderson. "Fatty acid composition of fats and oils" (PDF). UCCS. สืบค้นเมื่อ April 8, 2017.
  31. "NDL/FNIC Food Composition Database Home Page". Nal.usda.gov. สืบค้นเมื่อ May 21, 2013.
  32. USDA → Basic Report: 04042, Oil, peanut, salad or cooking Retrieved on January 16, 2015
  33. nutritiondata.com → Oil, vegetable safflower, oleic Retrieved on April 10, 2017
  34. nutritiondata.com → Oil, vegetable safflower, linoleic Retrieved on April 10, 2017
  35. nutritiondata.com → Oil, vegetable, sunflower Retrieved on September 27, 2010
  36. USDA Basic Report Cream, fluid, heavy whipping
  37. "Nutrition And Health". The Goose Fat Information Service.
  38. nutritiondata.com → Egg, yolk, raw, fresh Retrieved on August 24, 2009
  39. "09038, Avocados, raw, California". National Nutrient Database for Standard Reference, Release 26. United States Department of Agriculture, Agricultural Research Service. สืบค้นเมื่อ 14 August 2014.
  40. "Feinberg School > Nutrition > Nutrition Fact Sheet: Lipids". Northwestern University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-20.
  41. 41.0 41.1 41.2 41.3 41.4 41.5 41.6 41.7 The Culinary Institute of America (2011). The Professional Chef (9th ed.). Hoboken, New Jersey: John Wiley & Sons. ISBN 978-0-470-42135-2. OCLC 707248142.
  42. 42.0 42.1 42.2 "Nutrient database, Release 25". United States Department of Agriculture.
  43. Katragadda, H. R.; Fullana, A. S.; Sidhu, S.; Carbonell-Barrachina, Á. A. (2010). "Emissions of volatile aldehydes from heated cooking oils". Food Chemistry. 120: 59. doi:10.1016/j.foodchem.2009.09.070.
  44. "Rice Bran Oil FAQ's". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-08-14. สืบค้นเมื่อ 2020-05-12.
  45. "National Drug Standard for 谷维素片 / Oryzanol Tablets (DRAFT)" (PDF). 国家食品药品监督管理总局. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2018-07-29. สืบค้นเมื่อ 2018-07-29.
  46. A.F. Cicero; A. Gaddi (2001). "Rice bran oil and gamma-oryzanol in the treatment of hyperlipoproteinaemias and other conditions". Phytother Res. 15 (4): 277–286. doi:10.1002/ptr.907. PMID 11406848. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-26. สืบค้นเมื่อ 2006-10-09.
  47. Minhajuddin, M; Beg, ZH; Iqbal, J (2005). "Hypolipidemic and antioxidant properties of tocotrienol rich fraction isolated from rice bran oil in experimentally induced hyperlipidemic rats". Food and Chemical Toxicology. 43 (5): 747–53. doi:10.1016/j.fct.2005.01.015.
  48. Ishihara, M; Ito, Y; Nakakita, T; Maehama, T; Hieda, S; Yamamoto, K; Ueno, N (1982). "gamma-oryzanol on climacteric disturbance". Nihon Sanka Fujinka Gakkai zasshi. 34 (2): 243–51. PMID 7061906.
  49. Paul, A.; Masih, D., Masih, J., Malik, P. (2012). "COMPARATIVE ANALYSIS OF HEAT DEGRADATION OF ORYZANOL IN RICE BRAN OIL, MUSTARD OIL AND SUNFLOWER OIL BY MICROWAVE AND PAN HEATING" (PDF). International Journal of Food and Nutritional Sciences. 1 (1): 110–117. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2014-02-03. สืบค้นเมื่อ 2019-01-05.{{cite journal}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)
  50. "Find a Vitamin or Supplement: Rice Bran". WebMD. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-17.
  51. Hadiza, Altine .; Mustapha Umar Imam, Der-Jiun Ooi, Norhaizan Mohd Esa, Rozita Rosli (2017). "In utero exposure to germinated brown rice and its oryzanol-rich extract attenuated high fat diet-induced insulin resistance in F1 generation of rats" (PDF). BMC Complementary and Alternative Medicine. 17: 67. doi:10.1186/s12906-017-1571-0. PMC 5251246. PMID 28109299.{{cite journal}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)