พรรคอนาคตใหม่

อดีตพรรคการเมืองในประเทศไทย

พรรคอนาคตใหม่ (ย่อ: อนค.) เป็นอดีตพรรคการเมืองในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561 โดยธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล [14] และถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 และสมาชิกเดิมย้ายไปสังกัดพรรคก้าวไกล

พรรคอนาคตใหม่
หัวหน้าธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
เลขาธิการปิยบุตร แสงกนกกุล
คำขวัญอนาคตใหม่คืออนาคตที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
ไทย 2 เท่า: คนเท่าเทียมกัน ไทยเท่าทันโลก
ก่อตั้ง15 มีนาคม 2561[1]
ยุบ21 กุมภาพันธ์ 2563[2] (1 ปี 343 วัน)
ถัดไปพรรคก้าวไกล
คณะก้าวหน้า
ที่ทำการ1768 ชั้น 5 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10320
ฝ่ายเยาวชนNew Gen Network (NGN)
จำนวนสมาชิก  (ปี 2563)​51,283 คน[3]
อุดมการณ์พิพัฒนนิยม[4][5]
ประชาธิปไตยสังคมนิยม[6][7][8]
จุดยืนซ้ายกลาง[9][10][11][12]
กลุ่มระดับสากลProgressive Alliance (สมาชิกสังเกตการณ์ตั้งแต่ปี 2561)[13]
สี     สีส้ม
เว็บไซต์
futureforwardparty.org
โฆษกพรรณิการ์ วานิช
การเมืองไทย
รายชื่อพรรคการเมือง
การเลือกตั้ง

ประวัติแก้ไข

 
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
 
ปิยบุตร แสงกนกกุล

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรองประธานบริหารบริษัทไทยซัมมิท และปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมทั้งผู้ร่วมจดจัดตั้งอีก 24 คน ยื่นจดแจ้งชื่อจัดตั้งพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561 ในการประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ธนาธรได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก และปิยบุตรได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคนแรก[15] พรรคอนาคตใหม่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้งให้มีสถานะเป็นพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ช่วงที่เพิ่งก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่นั้น ได้เกิดความขัดแย้งภายในพรรค 2 กรณี คือ กรณีกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่ตัดขาดกับพรรคหลังถูกผู้บริหารสั่งให้ยุติการดำเนินกิจกรรมเนื่องจากพบความไม่โปร่งใส และกรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งฝั่งธนบุรีไม่พอใจกับกระบวนการสรรหาผู้สมัครที่นำกลุ่มคนที่ใกล้ชิดกับผู้บริหารพรรคมาลงสมัคร[16]


การเลือกตั้งแก้ไข

ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต 26 ที่นั่ง[17] และได้คะแนนมหาชนมากเป็นอันดับสามรองจากพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย และยังเป็นพรรคที่ได้คะแนนมหาชนมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร หลังการเลือกตั้ง พรรคอนาคตใหม่แถลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองอีก 6 พรรค

วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นำสมาชิกลงนามสัตยาบันยืนยันจุดยืนทางการเมืองของพรรค ซึ่งมีใจความว่า จะส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย คัดค้านระบอบรัฐประหาร[18]

วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2562 จุมพิตา จันทรขจร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค จังหวัดนครปฐม เขต 5 ได้ลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากปัญหาสุขภาพ จึงต้องมีการจัดการเลือกตั้งซ่อมในเขตนั้น ผลปรากฏว่า เผดิมชัย สะสมทรัพย์ จากพรรคชาติไทยพัฒนาชนะการเลือกตั้ง

การเลือกตั้ง จำนวนที่นั่ง คะแนนเสียงมหาชน สัดส่วนคะแนนเสียง ผลการเลือกตั้ง ผู้นำเลือกตั้ง
2562
81 / 500
6,330,617 17.80% ฝ่ายค้าน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ยุบพรรคแก้ไข

 
การประท้วงที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตองครักษ์ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ โดยตัวเลขที่ถูกขีดฆ่าหมายถึง จำนวนคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศที่เลือกให้กับพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกขีดทิ้ง

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 10 ปี ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง และห้ามจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 สืบเนื่องจากกรณีที่ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวน 191 ล้านบาท ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

พรรคอนาคตใหม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไปในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 10 ปี ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง และห้ามจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง โดยธนาธรและคณะกรรมการบริหารพรรคได้ตั้งกลุ่มคณะขึ้นมาใหม่โดยให้ชื่อว่า คณะอนาคตใหม่ ภายในวันเดียวกัน (ต่อมาในอีกหนึ่งเดือนหลังจากนั้น คณะอนาคตใหม่ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "คณะก้าวหน้า" เพื่อเลี่ยงข้อกฎหมาย) [19] ส่วน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งได้รับมอบเข็มกลัดผู้นำพรรคจากธนาธร จะเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ และจะนำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรครวม 55 คนเข้าสังกัดพรรคนั้น โดยจะมีการประกาศชื่อในวันที่ 8 มีนาคม[20] โดยจะเป็นการย้ายเข้าไปสังกัดพรรคการเมืองที่จดทะเบียนกับทาง กกต. ไว้แล้วก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่สามัญของพรรคในช่วงต้นเดือนเมษายนเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค นโยบายพรรค และที่ทำการพรรค โดยจะย้ายออกจากอาคารไทยซัมมิทซึ่งเป็นอดีตที่ทำการของพรรคอนาคตใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดการร้องเรียนได้ในอนาคต รวมถึงเปลี่ยนแปลงชื่อพรรคและตราสัญลักษณ์พรรค ซึ่งเป็นรูปแบบที่คล้ายกันกับพรรคไทยรักษาชาติ โดยก่อนหน้านั้นในวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2563 กลุ่ม 55 ส.ส. จะประชุมเพื่อเลือกชื่อพรรคใหม่ โดยมีทั้งหมด 3 ชื่อคือ พรรคก้าวไกล พรรคไทยเท่าเทียม และพรรคอนาคตไทย ซึ่งเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบในชื่อพรรคก้าวไกล โดย 55 ส.ส. จะเดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใหม่พร้อมกันในวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2563 พร้อมกับประกาศชื่อพรรคใหม่ [21] แต่ในวันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2563 พิธาได้โพสต์ในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า ตัวเองและเพื่อน ส.ส. อีก 54 คนจะเดินทางไปสมัครสมาชิกพรรคพร้อมกันในวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2563 หรือ 1 อาทิตย์หลังจากประกาศชื่อพรรคใหม่[22]

หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563 ในระยะแรกจึงเริ่มขึ้น เกิดการเดินขบวนในมหาวิทยาลัย วิทยาลัยและโรงเรียนหลายแห่งทั่วประเทศตั้งแต่นั้นมา

นโยบายแก้ไข

นโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ได้แก่[23]

นโยบายฐานราก
  1. การกระจายอำนาจ
  2. รัฐสวัสดิการ
  3. ลงทุนการศึกษา
นโยบายเสาหลัก
  1. การต่อต้านการผูกขาด
  2. พัฒนาการขนส่งสาธารณะ
  3. การส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตร การแก้ปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และการพักหนี้เกษตรกร
  4. ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
  5. ส่งเสริมการปกครองแบบโปร่งใส
  6. ยอมรับความหลากหลาย
  7. การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
  8. การเลิกการเกณฑ์ทหาร และการปฏิรูปกองทัพ
สุดท้าย
  1. การล้างมรดกรัฐประหาร

ฐานเสียงแก้ไข

พรรคอนาคตใหม่มีจุดยืนต่อต้านรัฐประหารเช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย แต่ฐานเสียงของพรรคอนาคตใหม่จะเป็นกลุ่มที่อยู่นอกเหนือความขัดแย้งทางการเมืองในพุทธทศวรรษ 2540 และมองว่าชนชั้นนำหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เป็นแอกของคนรุ่นใหม่ อีกทั้งพรรคอนาคตใหม่ยังมีภาพลักษณ์เป็นหน้าใหม่ในการเมืองไทย มีลักษณะประชากรส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลางที่อาศัยอยู่ในเมือง นักศึกษา ผู้เบื่อหน่ายต่อความขัดแย้ง[24]

ดูเพิ่มแก้ไข

อ้างอิงแก้ไข

  1. ธนาธร-ปิยบุตร ตั้งพรรค "อนาคตใหม่" ประกาศไม่รับทุกส่วนประกอบ "อประชาธิปไตย"
  2. Boonbandit, Tappanai (2020-02-21). "Future Forward Party Found Guilty, Disbanded by Court". Khaosod English. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-02-29. สืบค้นเมื่อ 2020-03-08.
  3. ข้อมูลพรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ ณ วันที่ 24 มกราคม 2563
  4. Kaweewit Kaewjinda (15 มีนาคม 2018). "Thai billionaire registers new progressive political party". Washington Post. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 มีนาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 16 มีนาคม 2018. {{cite news}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |dead-url= ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=) (help)
  5. Saksith Saiyasombut (2018-03-15). "Thai billionaire forms new political party to woo younger voters". Channel News Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-03-16. สืบค้นเมื่อ 2019-02-11.
  6. ไทยรัฐฉบับพิมพ์ (2 พฤษภาคม 2018). "สู้ด้วยแนวคิดที่เหนือกว่า". thairath. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 มิถุนายน 2018. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2018. {{cite news}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |dead-url= ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=) (help)
  7. "A conversation with Thanathorn, Future Forward Party founder". newmandala. 2 พฤษภาคม 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 มิถุนายน 2018. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2018. {{cite news}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |dead-url= ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=) (help)
  8. "Isaan's future: Thanathorn on moving the region forward". isaanrecord. 2 พฤษภาคม 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 มิถุนายน 2018. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2018. {{cite news}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |dead-url= ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=) (help)
  9. Nadia Chevroulet (n.d.). "The Future Forward Party: Thailand's 'new hope'?". Asia News Network. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-12. สืบค้นเมื่อ 2019-02-11.
  10. "ทิ้งระเบิดใส่อนาคตใหม่!'เจียม'บีบหัวใจชง'ล้างม.112'เป็นนโยบายพรรค ถ้าไม่ได้อย่าอ้างเป็นฝ่ายซ้าย". ไทยโพสต์. 27 พฤษภาคม 2561. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  11. "เอาให้ชัด! ทางเดิน "สองหนุ่ม" พรรคซ้ายหรือพรรคชิน?". คมชัดลึก. 28 พฤษภาคม 2561. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  12. "La Thaïlande insoumise est en marche". Libération. 28 เมษายน 2018.
  13. "List of Participants Progressive Alliance Conference: "Together for Progress and Justice–facing new developments, supporting democracy and fostering renewal in times of change."" (PDF). Progressive Alliance. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 May 2019.
  14. "พรรคอนาคตใหม่". The Standard. สืบค้นเมื่อ 12 มิถุนายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  15. "คะแนนเสียงท่วมท้น หนุน "เอก ธนาธร" นั่งหัวหน้าพรรค "อนาคตใหม่"". ข่าวสด. 27 พฤษภาคม 2561. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  16. ""อนาคตใหม่" บทพิสูจน์บนความขัดแย้ง". โพสต์ทูเดย์. 18 ธันวาคม 2561. สืบค้นเมื่อ 27 มีนาคม 2562. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  17. "พรรคอนาคตใหม่กับการสร้างคะแนนนิยมผ่าน Social Media". ไทยรัฐออนไลน์. 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  18. "'อนาคตใหม่' ลั่นไม่มีงูเห่าสีส้มแน่นอน ว่าที่ ส.ส.ลงนามสัตยาบัน - ประกาศ 5 ข้อ". ประชาไท. 2019-03-30.
  19. McCargo, Duncan (October 2018). "Thailand's Changing Party Landscap" (PDF). ISEAS–YUSOF ISHAK INSTITUTE. 63 (2018). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-03-27. สืบค้นเมื่อ 2019-02-06.
  20. กรุงเทพธุรกิจ (1 มีนาคม 2563). "8 มี.ค.นี้ 'อดีตอนค.' พร้อม55ส.ส. เตรียมเปิดชื่อพรรคใหม่". www.bangkokbiznews.com. สืบค้นเมื่อ 2 มีนาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  21. เปิดตัว"ก้าวไกล" พรรคใหม่ อนค. 8มีค.นี้ คาด "55 สส." เข้าสังกัดครบ
  22. ประกาศชื่อพรรคใหม่
  23. "'อนาคตใหม่' เปิด 12 นโยบายพลิกประเทศ หยุดทุนใหญ่ ปฏิรูปกองทัพ ปักธงประชาธิปไตย". ข่าวสด. 16 ธันวาคม 2561. สืบค้นเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2562. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  24. ชัยพงษ์ สำเนียง (2019-03-11). "อ่านการเมือง 'ว่าด้วยการเลือกตั้งและจัดตั้ง : อนาคตใหม่และเพื่อไทย". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 2019-03-27.

แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข