สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อกำเนิดขึ้นมาเมื่อ พ.ศ. 2503 โดยพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2503 เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2503 ซึ่งเป็นการโอนงานของกรมตรวจราชการแผ่นดินมาเป็นงานของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่เป็นสำนักงานปลัดกระทรวงของสำนักนายกรัฐมนตรี ในระยะเริ่มแรกผู้บริหารของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีคือ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นข้าราชการการเมือง และได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ เมื่อ พ.ศ. 2508 โดยพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2508

สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ภาพรวมหน่วยงาน
ก่อตั้ง14 เมษายน พ.ศ. 2503; 64 ปีก่อน (2503-04-14)
เขตอำนาจทั่วราชอาณาจักร
สำนักงานใหญ่ไทย
ทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 10300
งบประมาณต่อปี2,478.2038 ล้านบาท (พ.ศ. 2559)[1]
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน
ต้นสังกัดหน่วยงานสำนักนายกรัฐมนตรี
เว็บไซต์[1]

ต่อมาได้มีการปรับปรุงระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2534 ได้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งได้มีการใช้บังคับมาจนถึงปัจจุบัน

อำนาจหน้าที่

แก้

สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีภารกิจเกี่ยวกับราชการประจำทั่วไปของนายกรัฐมนตรี และสำนักนายกรัฐมนตรี การติดตามและประเมินผลการปฏิบัติราชการ การปฏิบัติภารกิจพิเศษ และราชการที่คณะรัฐมนตรีมิได้กำหนด ให้เป็นหน้าที่ของกรมใดกรมหนึ่งในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะ รวมทั้งกำกับและเร่งรัดการปฏิบัติราชการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีให้เป็นไปตามนโยบาย แนวทาง และแผนการปฏิบัติราชการของสำนักนายกรัฐมนตรี ยกเว้นราชการของส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี

โครงสร้าง

แก้
 
โครงสร้างของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี่ยังมีตําเเหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ที่เป็นนักบริหารระดับสูง(ระดับ11เดิม)

ที่ตั้ง

แก้
 

ตึกสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตึกสูง 3 ชั้น แบบสากลนิยม สร้างอยู่ในแนวเดียวกันกับตึกสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี สร้างในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อใช้เป็นสถานที่ประชุมขององค์การสนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (องค์การซีอาโต้) ซึ่งมีการประชุมในปี พ.ศ. 2500 โดยใช้เงินขององค์การซีอาโต้ ตึกหลังนี้มีชื่อว่า "ตึกพัฒนา" และหลังจากที่สำนักงานองค์การซีอาโต้ได้ย้ายออกไปแล้ว จึงได้ใช้เป็นที่ทำการของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจนถึงปัจจุบัน[2]

อ้างอิง

แก้