เดชอิศม์ ขาวทอง
เดชอิศม์ ขาวทอง (เกิด 10 เมษายน พ.ศ. 2507) ชื่อเล่น ชาย เป็นนักการเมืองชาวไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา 2 สมัย ที่ปรึกษามูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลก และที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอลสงขลา[1] อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้[2] และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
เดชอิศม์ ขาวทอง | |
---|---|
เดชอิศม์ ใน พ.ศ. 2566 | |
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 3 กันยายน พ.ศ. 2567 (0 ปี 142 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | แพทองธาร ชินวัตร |
รัฐมนตรีว่าการ | สมศักดิ์ เทพสุทิน |
ก่อนหน้า | สันติ พร้อมพัฒน์ |
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 9 ธันวาคม พ.ศ. 2566 (1 ปี 45 วัน) | |
ก่อนหน้า | เฉลิมชัย ศรีอ่อน |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 (5 ปี 305 วัน) | |
ก่อนหน้า | ประพร เอกอุรุ |
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ | |
ดำรงตำแหน่ง 18 ธันวาคม พ.ศ. 2564 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2566 (1 ปี 356 วัน) | |
ก่อนหน้า | นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ |
ถัดไป | ชัยชนะ เดชเดโช |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | วรวิทย์ ขาวทอง 10 เมษายน พ.ศ. 2507 อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | ไทยรักไทย (2542–2550) ประชาธิปัตย์ (2551–ปัจจุบัน) |
คู่อาศัย | สุภาพร กำเนิดผล |
คู่สมรส | จาราณกุมารี กุมแก้ว |
บุตร | 6 |
ทรัพย์สินสุทธิ | 311.81 ล้านบาท |
ชื่อเล่น | ชาย |
ประวัติ
แก้เดชอิศม์ เกิดวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2507 ที่ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เป็นบุตรนายเฟือน และนางแก้ว ขาวทอง ด้านครอบครัว สมรสกับนางจาราณกุมารี กุมแก้ว และมีบุตรนอกสมรส กับนางสาวสุภาพร กำเนิดผล รวมมีบุตร-ธิดา 6 คน 1 ในนั้นคือ ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลา เขต 9
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และระดับปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ [3]
งานการเมือง
แก้เดชอิศม์ เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่น เช่น สมาชิกสภาจังหวัดสงขลา เขตอำเภอรัตภูมิ และ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา[4] เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคไทยรักไทย เมื่อปี พ.ศ. 2548 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง และย้ายมาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ในปี พ.ศ. 2550 ก่อนที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2562 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
ในปี 2564 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แทน นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ[5]
ในปี 2566 เขาได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังการเลือกตั้งเขามีบทบาทในการพยายามนำพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยการพบปะหารือกับทักษิณ ชินวัตร ในต่างประเทศ[6][7] ต่อมาในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 พรรคประชาธิปัตย์ได้มีมติให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค งดออกเสียงให้กับเศรษฐา ทวีสิน แต่ท้ายที่สุดเขากับสมาชิกในกลุ่มได้ลงมติสวนทางกับมติพรรคประชาธิปัตย์ โดยลงมติเห็นชอบให้เศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี[8]
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แก้เดชอิศม์ ขาวทอง ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 2 สมัย คือ
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จังหวัดสงขลา สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 จังหวัดสงขลา สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2565 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)[9]
- พ.ศ. 2563 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)[10]
อ้างอิง
แก้- ↑ “เงือกสมิหลา” สโมสรสงขลา FC เปิดตัว 4 บิ๊กการเมืองเป็นกุนซือ ฟื้นฟูสงขลา FC ในเส้นทางฟุตบอลลีก
- ↑ เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค-แม่ทัพปักษ์ใต้ ปชป.
- ↑ นายเดชอิศม์ ขาวทอง
- ↑ ผ่าวิชั่นนายกชาย เดชอิศม์ ขาวทอง การเมืองยุคใหม่ต้องเดินหน้าหมดเวลาขัดแย้ง
- ↑ เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค-แม่ทัพปักษ์ใต้ ปชป.
- ↑ หึ่ง!! “เดชอิศม์” บินพบ ”ทักษิณ” เพิ่มปชป.ร่วมซูเปอร์ดีล
- ↑ "เดชอิศม์" ยอมรับเจอ "ทักษิณ" ที่ฮ่องกงจริง! ชี้ ปชป. ควรร่วมรัฐบาล
- ↑ 16 สส.ประชาธิปัตย์ แหกมติพรรค โหวตนายก “เศรษฐา ทวีสิน”
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๕, เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๕, ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓[ลิงก์เสีย], เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๑๐, ๒๒ มกราคน ๒๕๖๔