วิทยา แก้วภราดัย

นักการเมืองชาวไทย

วิทยา แก้วภราดัย (เกิด 5 มกราคม พ.ศ. 2498) กรรมการใน คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรไทย (รัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร) กรรมการในคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช หลายสมัย อดีตประธานวิปรัฐบาล อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ

วิทยา แก้วภราดัย
วิทยา ใน พ.ศ. 2552
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ดำรงตำแหน่ง
20 ธันวาคม พ.ศ. 2551 – 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552
นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ก่อนหน้าเฉลิม อยู่บำรุง
ถัดไปจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แบบบัญชีรายชื่อ
เริ่มดำรงตำแหน่ง
14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้เป็นคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)
รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
เริ่มดำรงตำแหน่ง
3 สิงหาคม พ.ศ. 2565
(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้เป็นคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด5 มกราคม พ.ศ. 2498 (69 ปี)
อำเภอปากพนัง
จังหวัดนครศรีธรรมราช
พรรคการเมืองก้าวหน้า (2531–2532)
เอกภาพ (2532–2535)
พลังธรรม (2535–2538)
ประชาธิปัตย์ (2538–2565)
รวมไทยสร้างชาติ (2565–ปัจจุบัน)
คู่สมรสจิระประไพ แก้วภราดัย

ประวัติ

แก้

วิทยา เกิดวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2498 ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ชื่อเล่น น้อย

สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์บัณฑิต จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะเรียนปี 4 วิทยาเป็นหนึ่งในนิสิตที่เข้าร่วมการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ขาในเหตุการณ์ 6 ตุลา พ.ศ. 2519 ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 2 เดือน และต้องพักฟื้นที่บ้านอีก 7-8 เดือนจึงสามารถเดินได้เป็นปกติ และกลับเข้าเรียนต่อจนสำเร็จการศึกษาในที่สุด

การทำงาน

แก้

วิทยา ประกอบอาชีพเป็นทนายความก่อนเข้าสู่วงการเมือง และเมื่อเข้าสู่วงการเมืองแล้วยังเป็นหนึ่งในทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ได้รบเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ปี 2531, 2535/2, 2538, 2539, 2544, 2548, 2550, 2554

วิทยา ได้รับแต่งตั้งเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปี พ.ศ. 2537-2538[1] เป็นประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ปี พ.ศ. 2538-2539

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2550 นายวิทยาเป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบงาน "สมัชชาประชาธิปัตย์คืนอีสาน" การจัดงานหาเสียงครั้งใหญ่ในพื้นที่อีสานของพรรคประชาธิป้ตย์

ภายหลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 และมีการจัดตั้งรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวได้ประกาศจัดตั้ง รัฐบาลเงา หรือ ครม.เงา ขึ้น ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 และ วิทยา แก้วภราดัย ได้รับเลือกจากที่ประชุมพรรค ให้ทำหน้าที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเงา

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ตามข้อบังคับพรรค และ วิทยา แก้วภราดัย ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคใต้[2]

ในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 วิทยา แก้วภราดัย ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข [3] ซึ่งต่อมาได้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข [4] ไปรับตำแหน่งประธานวิปรัฐบาล

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2554 วิทยาได้ตัดสินใจจะลงสมัคร ส.ส. ระบบแบ่งเขตในพื้นที่เขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช และส่งปานระพี บุตรสาวคนที่สอง ลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 121[5]

เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง[6] กระทั่งวันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2565 วิทยาได้ให้สัมภาษณ์ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ผ่านทางเจ้าหน้าที่ของพรรค[7] และต่อมาได้เข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)[8] ทั้งนี้ในปีถัดมา เขาได้ลงสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อสังกัด รทสช. ลำดับที่ 7[9] และสนับสนุนให้พูน แก้วภราดัย บุตรชายลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 1 ในสังกัดพรรคเดียวกันด้วย[10]

วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557

แก้

ในวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 วิทยาเป็นหนึ่งใน 9 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรค และเข้าเป็นหนึ่งในแกนนำกปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข) โดยมีบทบาทเป็นแกนนำผู้ชุมนุมเมื่อเข้ายึดกระทรวงการคลัง[11] และเป็นแกนนำของเวทีชุมนุมที่แยกศาลาแดงและสวนลุมพินี [12]

ซึ่งในวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 จากการชุมนุมในครั้งนั้น ศาลอาญาอนุมัติหมายจับแกนนำ กปปส. รวม 43 คน ผู้ต้องหาคดีกบฏ และความผิดอื่น รวม 8 ข้อหา เพื่อติดตามตัวมาดำเนินกระบวนการตามกฎหมาย โดยวิทยาเป็นผู้ต้องหาหมายเลขที่ 6[13] [14]

หลังเหตุการณ์นี้ วิทยาได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุเข้าจำพรรษาที่วัดธารน้ำไหล จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับแกนนำและแนวร่วมคนอื่น ๆ ด้วย [15]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 120/2537 เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายวิทยา แก้วภราดัย รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี)
  2. "เว็บไซต์ ครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-25. สืบค้นเมื่อ 2021-08-29.
  3. พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี (รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)
  4. ""วิทยา" ไขก๊อกรับผิดชอบส่อโกง สธ.แล้ว". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-01. สืบค้นเมื่อ 2009-12-29.
  5. ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เก็บถาวร 2011-06-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนสืบค้นวันที่ 9 มิถุนายน 2554
  6. พลวุฒิ สงสกุล (19 กันยายน 2561). "แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ เตรียมหย่อนบัตรปี 62 ส.ส. ลด 23 จังหวัด อีสานหด 10 ที่นั่ง". THE STANDARD. สืบค้นเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. ช็อก!รุ่นใหญ่ลา'ปชป.' 'วิทยา แก้วภราดัย'ไขก๊อก-ทิ้งคำเตือนแรง
  8. มหกรรมการลาออกครั้งใหญ่ ส.ส.รุ่นใหญ่ รุ่นใหม่ ใครย้ายไปพรรคไหนบ้าง
  9. "เลือกตั้ง 2566 : เปิดลำดับบัญชีรายชื่อ 100 คน "พรรครวมไทยสร้างชาติ"". pptvhd36.com.
  10. เอ๋ (2023-03-03). "'ธนกร' นำทัพ รทสช. หาเสียงเมืองคอน เปิดตัวผู้สมัคร 9 เขต".
  11. "แกนนำ 'กปปส.' หารือ แนวทางเคลื่อนม็อบ บ่ายนี้ ลั่น ปักหลัก 'คลัง'". ไทยรัฐ. 6 ธันวาคม 2557. สืบค้นเมื่อ 16 เมษายน 2558. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  12. "วิทยาเผยย้ายเวทีไปศาลาแดงเพื่อความปลอดภัย". ไอเอ็นเอ็นนิวส์. 24 มกราคม 2557. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 16 เมษายน 2558. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  13. "ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ 30 แกนนำ กปปส. ที่เหลือยกคำร้อง". Thairath.co.th. 14 พฤษภาคม 2557. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-17. สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  14. "ศาลอนุมัติออกหมายจับแกนนำ กปปส. 30 ราย-ยกคำร้อง 13". Posttoday.com. 14 พฤษภาคม 2557. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-15. สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  15. "'อดีต ส.ส.ปชป.-แกนนำ กปปส.' แห่ลาบวช วัดสวนโมกข์". ไทยรัฐ. 28 พฤศจิกายน 2557. สืบค้นเมื่อ 16 เมษายน 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  16. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๐ ตอนที่ ๑๙ ข หน้า ๑, ๑ ธันวาคม ๒๕๔๖
  17. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๑๗ ตอนที่ ๒๕ ข หน้า ๑๑, ๑ ธันวาคม ๒๕๔๓
  18. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๖๐, เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๘ ข หน้า ๕, ๒๘ กันยายน ๒๕๖๐

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้
ก่อนหน้า วิทยา แก้วภราดัย ถัดไป
ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ครม. 59)
(20 ธันวาคม พ.ศ. 2551 – 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552)
  จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์