พรรคไทยรักไทย

อดีตพรรคการเมืองไทย
(เปลี่ยนทางจาก ไทยรักไทย)

พรรคไทยรักไทย (ย่อ: ทรท. อังกฤษ: Thai Rak Thai Party) เป็นพรรคการเมืองไทยที่ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2541 ในช่วงเวลาสั้น ๆ พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งทั่วไปสามครั้ง 8 เดือนหลังการรัฐประหารทำให้ทักษิณต้องลี้ภัย พรรคถูกยุบเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 โดยคณะตุลาการรัฐธรรมนูญเนื่องจากละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยกรรมการบริหารพรรคจำนวน 111 คน ถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเป็นเวลา 5 ปี[12] หลังจากพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ทักษิณ ชินวัตร ได้มีบทบาทในการก่อตั้งพรรคพลังประชาชน และต่อมาพรรคพลังประชาชนถูกยุบอีก พรรคเพื่อไทย จึงมีบทบาททางการเมืองแทนพรรคไทยรักไทย

พรรคไทยรักไทย
ผู้ก่อตั้งทักษิณ ชินวัตร
หัวหน้าจาตุรนต์ ฉายแสง
(รักษาการ)
รองหัวหน้า
เลขาธิการวิเชษฐ์ เกษมทองศรี
(รักษาการ)
โฆษกศิธา ทิวารี
นโยบายคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน
(พ.ศ. 2544)
ไทยรักไทย หัวใจคือประชาชน
(พ.ศ. 2548)
ก่อตั้ง14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541
ถูกยุบ30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550
(8 ปี 320 วัน)
รวมตัวกับ(หลังการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544)
พรรคความหวังใหม่ (สมาชิกส่วนใหญ่)
พรรคชาติพัฒนา (พ.ศ. 2535)
พรรคเสรีธรรม (พ.ศ. 2535)
แยกจากพรรคพลังธรรม
ถัดไปพรรคพลังประชาชน (สมาชิกส่วนใหญ่)
พรรคมัชฌิมาธิปไตย (กลุ่มมัชฌิมา)
พรรคเพื่อแผ่นดิน
พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
พรรคเพื่อไทย (บ้านเลขที่ 111)
ที่ทำการเลขที่ 1770 (อาคารไอเอฟซีที)
ถนนเพชรบุรี แขวงบางกะปิ
เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
อุดมการณ์ชาตินิยมใหม่[1]
ลัทธิอิงสามัญชน[2][3]
ปฏิรูปนิยม[4][5]
เสรีนิยมใหม่[6][7][8]
จุดยืนขวากลาง[9][10][11]
สี  สีน้ำเงิน
  สีแดง
เพลงบทเพลงแห่งนโยบาย (พ.ศ. 2547)
เว็บไซต์
www.thairakthai.or.th
(ปัจจุบันใช้การไม่ได้แล้ว)
การเมืองไทย
รายชื่อพรรคการเมือง
การเลือกตั้ง

รายชื่อนายกรัฐมนตรี

แก้

ประวัติ

แก้

พรรคไทยรักไทยจดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 โดย ทักษิณ ชินวัตร นักธุรกิจโทรคมนาคม พร้อมผู้ร่วมก่อตั้งอีก 22 คนอาทิ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, ทนง พิทยะ, สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, ร้อยตำรวจเอกปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์, พลเอกธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา และนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช

พรรคไทยรักไทยใช้วิธีดึงตัวนักการเมืองหน้าเก่าจากพรรคต่างๆ เข้าร่วม จนทำให้พรรคไทยรักไทยกลายสภาพเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ในเวลาเพียงครึ่งปี โดยมี สส. เก่าอยู่แล้วประมาณ 130 คน ซึ่งสามารถแบ่งเป็นกลุ่มการเมืองได้ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มพลังธรรม – พลังไทย, กลุ่มวังน้ำเย็น, กลุ่มพรรคความหวังใหม่, กลุ่มพรรคชาติพัฒนา, กลุ่มพรรคชาติไทย, กลุ่มพรรคกิจสังคม, และกลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น[13]

พรรคไทยรักไทยมีนโยบายประชานิยม ดึงดูดเกษตรกรที่เป็นหนี้ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 โดยสัญญาว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง พรรคยังเข้าถึงหมู่บ้านในชนบทและธุรกิจที่กำลังดิ้นรน นโยบายของพรรคไทยรักไทย ได้แก่ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ขยายเวลาการพักชำระหนี้สำหรับเกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการประกาศสงครามกับสิ่งชั่วร้าย 3 ประการ ได้แก่ สงครามความยากจน สงครามยาเสพติดและสงครามคอร์รัปชั่น

อย่างไรก็ตาม เขาละเลยพื้นที่ชนบทบางแห่งและจังหวัดทางภาคใต้ เนื่องจากทักษิณระบุว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำอะไรให้กับพื้นที่ที่ไม่ได้ลงคะแนนเสียงให้เขา

ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย

แก้

บุคลากรในพรรค

แก้

หัวหน้าพรรค

แก้
ลำดับ รูป รายนาม เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ ตำแหน่งสำคัญ
1   ทักษิณ ชินวัตร
(26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 — ปัจจุบัน)
14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 2 ตุลาคม พ.ศ. 2549
  จาตุรนต์ ฉายแสง
(รักษาการ)
(1 มกราคม พ.ศ. 2499 — ปัจจุบัน)
2 ตุลาคม พ.ศ. 2549 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

เลขาธิการพรรค

แก้
ลำดับ รูป รายนาม เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ ตำแหน่งสำคัญ
1   ร้อยตำรวจเอก ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 27 มกราคม พ.ศ. 2545
2   สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 27 มกราคม พ.ศ. 2545 2 ตุลาคม พ.ศ. 2549
  วิเชษฐ์ เกษมทองศรี
(รักษาการ)
2 ตุลาคม พ.ศ. 2549 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

กรรมการบริหารพรรค

แก้

ชุดที่ขอจดทะเบียนพรรคการเมือง

แก้
อันดับ ชื่อ ตำแหน่ง[14]
1 ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรค
2 คณิต ณ นคร รองหัวหน้าพรรค
3 ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เลขาธิการพรรค
4 พันธุ์เลิศ ใบหยก รองเลขาธิการพรรค
5 สิริกร มณีรินทร์ เหรัญญิกพรรค
6 กันตธีร์ ศุภมงคล โฆษกพรรค
7 สารสิน วีระผล กรรมการบริหารพรรค
8 สุวรรณ วลัยเสถียร กรรมการบริหารพรรค
9 ปภัสรา ตรังคิณีนาถ กรรมการบริหารพรรค


ชุดเดิม 119 คน

แก้

ชุดก่อนการยุบพรรค

แก้
อันดับ ชื่อ ตำแหน่ง
1 จาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรค
2 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค
3 ไชยยศ สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรค
4 พลเอก ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองหัวหน้าพรรค
5 เนวิน ชิดชอบ รองหัวหน้าพรรค
6 ประชา มาลีนนท์ รองหัวหน้าพรรค
7 พงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรค
8 โภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรค
9 เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค
10 วันมูหะมัดนอร์ มะทา รองหัวหน้าพรรค
11 วิเชษฐ์ เกษมทองศรี รักษาการเลขาธิการพรรค
12 นายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รองเลขาธิการพรรค
13 ชานนท์ สุวสิน รองเลขาธิการพรรค
14 พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รองเลขาธิการพรรค
15 นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี โฆษกพรรค
16 กันตธีร์ ศุภมงคล กรรมการบริหารพรรค
17 จำลอง ครุฑขุนทด กรรมการบริหารพรรค
18 ประจวบ ไชยสาส์น กรรมการบริหารพรรค
19 พวงเพ็ชร ชุนละเอียด กรรมการบริหารพรรค
20 ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ กรรมการบริหารพรรค
21 วิชิต ปลั่งศรีสกุล กรรมการบริหารพรรค
22 สุชัย เจริญรัตนกุล กรรมการบริหารพรรค
23 เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช กรรมการบริหารพรรค
24 อดิศร เพียงเกษ กรรมการบริหารพรรค
25 อดิศัย โพธารามิก กรรมการบริหารพรรค
26 อนุทิน ชาญวีรกูล กรรมการบริหารพรรค
27 เอกพร รักความสุข กรรมการบริหารพรรค
28 เกรียง กัลป์ตินันท์ กรรมการบริหารพรรค
29 ประชาธิปไตย คำสิงห์นอก กรรมการบริหารพรรค
30 ว่าที่ร้อยตรี ไพโรจน์ สุวรรณฉวี กรรมการบริหารพรรค
31 วิชัย ชัยจิตวณิชกุล กรรมการบริหารพรรค
32 ศักดิ์สยาม ชิดชอบ กรรมการบริหารพรรค
33 อรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ กรรมการบริหารพรรค
34 ชาญชัย ปทุมารักษ์ กรรมการบริหารพรรค
35 พงษ์ศักดิ์ วรปัญญา กรรมการบริหารพรรค
36 พิมพา จันทร์ประสงค์ กรรมการบริหารพรรค
37 ลิขิต หมู่ดี กรรมการบริหารพรรค
38 ว่าที่ร้อยโท นายแพทย์ วัลลภ ยังตรง กรรมการบริหารพรรค
39 พรชัย เตชะไพบูลย์ กรรมการบริหารพรรค
40 อุดม ไกรวัตนุสสรณ์ กรรมการบริหารพรรค
41 ทศพล สังขทรัพย์ กรรมการบริหารพรรค
42 ปกรณ์ บูรณุปกรณ์ กรรมการบริหารพรรค
43 ไพโรจน์ โล่ห์สุนทร กรรมการบริหารพรรค
44 มยุรา มนะสิการ กรรมการบริหารพรรค
45 วิสาร เตชะธีราวัฒน์ กรรมการบริหารพรรค
46 วีระกร คำประกอบ กรรมการบริหารพรรค
47 กฤษ ศรีฟ้า กรรมการบริหารพรรค
48 วีระ มุสิกพงศ์ กรรมการบริหารพรรค
49 สุธรรม แสงประทุม กรรมการบริหารพรรค
50 สุรเชษฐ์ ดวงสอดศรี กรรมการบริหารพรรค
51 หม่อมราชวงศ์ดำรงดิศ ดิศกุล กรรมการบริหารพรรค
52 ศันสนีย์ นาคพงศ์ กรรมการบริหารพรรค

กลุ่มย่อยในพรรค

แก้

บทบาททางการเมือง

แก้

พรรคไทยรักไทยมีบทบาททางการเมืองครั้งแรก เริ่มจากการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ชุดที่ 8 ภายหลังที่ วิชาญ มีนชัยนันท์, วิไล สมพันธุ์, และ ณัฏฐพล กรรณสูต ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยได้รับเลือกตั้งทั้งหมด (วิรัตน์ มีนชัยนันท์, พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ, และ ศิริพงษ์ ลิมปิชัย)[17]

ใน การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2543 พรรคไทยรักไทยได้ส่ง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร[18] โดยสุดารัตน์ได้คะแนนรวมทั้งสิ้น 521,184 คะแนน ซึ่งเป็นลำดับที่สอง พ่ายแพ้ให้กับ สมัคร สุนทรเวช ซึ่งมีคะแนนเสียงมากกว่าเกือบสองเท่า (1,016,096 คะแนน)

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 พรรคไทยรักไทยชนะเหนือพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนำโดยชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นอย่างถล่มทลาย ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งสิ้น 248 คน คิดเป็นร้อยละ 49.6 หลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทักษิณประกาศคำมั่นสัญญาไว้ว่า “ผมจะไม่ยอมทำหน้าที่เป็นเพียงผู้นำตามกฎหมายเท่านั้น ผมจะขอเป็นผู้นำที่นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศไทย เพื่อประเทศไทยที่ดีขึ้น พี่น้องที่เคารพครับ ผมจะขอทำหน้าที่เป็นรัฐบาลที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต”[19]

โดยความสำเร็จของการชนะเลือกตั้งในครั้งนั้น สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ได้อธิบายไว้ว่า เกิดจากมีปัจจัย 3 ประการที่ทำให้พรรคไทยรักไทยชนะ กล่าวคือ[20]

  1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 สร้างระบบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คนขึ้นมา เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของระบบพรรคเป็นครั้งแรก และยังแบ่งเขตเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว เขตที่เล็กลง ทำให้ผู้สมัคร สส. หาเสียงแบบเข้าถึงประชาชนได้ทั่วถึงมากขึ้น ทุกพรรคการเมืองใช้เพียงเบอร์เดียวในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั้งประเทศ ทำให้ง่ายต่อการจดจำของประชาชนผู้มาเลือกตั้ง และการเกิดขึ้นของคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมของรัฐธรรมนูญฉบับนี้
  2. พรรคไทยรักไทยใช้การบริหารจัดการองค์กรสมัยใหม่ในการวางแผนเลือกตั้ง และส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่อายุ 30-40 ปีเข้ามาทำงานการเมือง โดยมีชื่อเล่นว่า “นกแล” ซึ่งเดินหาเสียงอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
  3. สส.ที่พรรคไทยรักไทยได้รับเลือกตั้งมาจำนวน 248 คน พบว่า เป็น สส.เก่าจาก การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2539 เพียง 93 คนเท่านั้น ที่เหลืออีก 155 คน บางคนเป็นอดีต สส.ที่ไม่ได้รับเลือกตั้งในปีนั้น แต่ส่วนใหญ่คือ “นกแล” ที่มีพลังสร้างสรรค์

ภายหลังจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ พรรคไทยรักไทยสามารถเจรจารวม พรรคความหวังใหม่ ของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ, ตามด้วย พรรคเสรีธรรม, และ พรรคชาติพัฒนา เข้ากับพรรคไทยรักไทย และเป็นพันธมิตรกับ พรรคชาติไทย[21]

และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2548 พรรคไทยรักไทยก็ยังคงครองตำแหน่งพรรคอันดับหนึ่ง และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทยที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ด้วยคะแนนเสียงมากถึง 377 เสียง

การเลือกตั้ง

แก้

ผลการเลือกตั้งทั่วไป

แก้
การเลือกตั้ง จำนวนที่นั่ง คะแนนเสียงทั้งหมด สัดส่วนคะแนนเสียง ผลการเลือกตั้ง สถานภาพพรรค ผู้นำเลือกตั้ง
2544
248 / 500
11,634,495 49.6%  248 ที่นั่ง แกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร
2548
377 / 500
18,993,073 61.17%  122 ที่นั่ง
2549
460 / 500
16,420,755 56.45%  83 ที่นั่ง การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
การเลือกตั้ง ผู้สมัคร คะแนนเสียงทั้งหมด สัดส่วนคะแนนเสียง ผลการเลือกตั้ง
2543 สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 521,184 23.52%   พ่ายแพ้
2547 ไม่ส่งผู้สมัคร (ให้การสนับสนุน ปวีณา หงสกุล ที่ลงสมัครในฐานะนักการเมืองอิสระ)
การเลือกตั้ง จำนวนที่นั่ง คะแนนเสียงทั้งหมด สัดส่วนคะแนนเสียง ที่นั่งเปลี่ยน หมายเหตุ
2545[22]
23 / 61
  23 ที่นั่ง
2549[23]
19 / 57
  4 ที่นั่ง

ยุบพรรค

แก้

ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 พรรคไทยรักไทย ได้คะแนนในระบบบัญชีรายชื่อถึง 18,993,073 เสียง แต่ถูกกล่าวหาว่าจ้างพรรคการเมืองขนาดเล็กลงเลือกตั้ง โดยอ้างว่าพรรคต้องการหลีกเลี่ยงกฎร้อยละ 20 คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงตั้งอนุกรรมการมาสอบ ซึ่งผลปรากฏว่ามีมูลทำให้พรรคไทยรักไทยอาจถูกยุบพรรคได้ และกำลังอยู่ในระหว่างการส่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค

หลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 ไม่นาน ดร.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งขณะนั้นพำนักอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรค โดยส่งจดหมายซึ่งเขียนด้วยลายมือ โดยได้ชี้แจงสาเหตุถึงการลาออก และขอบคุณสมาชิกพรรคและผู้ให้การสนับสนุน[24]

หลังจากที่หัวหน้าพรรคลาออกไม่นาน ความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรค โดยเฉพาะผู้บริหารพรรค ต่างก็ตัดสินใจลาออกจากกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคทันที มีการฟ้องร้องยุบพรรคไทยรักไทย มีการตรวจสอบเรื่องการทุจริต ซึ่งอาจมีผลทำให้กรรมการบริหารพรรคต้องเว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

ในวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักไทย พร้อมเพิกถอนสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรคจำนวน 111 คน เป็นจำนวน 5 ปี เหตุที่เพิกถอนสิทธิเพียง 111 คนใน 119 คน เนื่องจากใน 8 คนที่เหลือมีการลาออกหรือสิ้นสภาพกรรมการฯ ก่อนการกระทำผิด ได้แก่ เปรมศักดิ์ เพียยุระ, นายเสนาะ เทียนทอง, นายฐานิสร์ เทียนทอง, นายลิขิต ธีรเวคิน, นายสฤต สันติเมทนีดล, นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์, นายกร ทัพพะรังสี และนางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี ที่ถูกยิงเสียชีวิต[25][26]

ภายหลังการยุบพรรค สมาชิกพรรคที่เหลือรวมตัวกันเป็นกลุ่มไทยรักไทย โดยมีแกนนำอย่าง สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี[27] และ ปองพล อดิเรกสาร[28] เป็นต้น

28 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ที่ประชุมกลุ่มไทยรักไทย มีมติให้สมาชิกย้ายไปสังกัดอยู่กับพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก เนื่องจากเกรงว่ารัฐบาลจะหยิบยก รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาใช้ หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ผ่านการลงประชามติ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับกลุ่มไทยรักไทยให้ไม่สามารถส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ จากข้อกำหนดที่ให้ผู้สมัครต้องสังกัดพรรคการเมืองครบ 90 วัน[29]

การแยกไปตั้งพรรค

แก้

พรรคไทยรักไทยเคยมีสมาชิกพรรคที่ลาออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือย้ายไปเป็นกรรมการบริหารพรรค ทั้งช่วงก่อนการยุบพรรคและหลังการยุบพรรค[30] โดยมีดังนี้

พรรคที่จัดตั้งก่อนการยุบพรรค

แก้

พรรคที่จัดตั้งหลังการยุบพรรค

แก้

ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. Atchara Pantranuwong (2008). "มายาคติและอุดมการณ์ในโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 : การวิเคราะห์ด้วยวิธีสัญวิทยา" [Myths and ideology in Thai Rak Thai Party's February 6, 2005 general election advertisements: a semiotic analysis]. Thammasat University.
  2. Markou, Grigoris; Lasote, Phanuwat (June 26, 2015). "Populism in Asia: The case of Thaksin in Thailand" – โดยทาง ResearchGate.
  3. Forum, East Asia (September 12, 2011). "Thailand's populism has come close to its limit". Thailand Business News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-29. สืบค้นเมื่อ 2021-12-11.
  4. Hicken, Allen (December 12, 2006). "Party Fabrication: Constitutional Reform and the Rise of Thai Rak Thai". Journal of East Asian Studies. 6 (3): 381–407. doi:10.1017/S159824080000463X. ISSN 1598-2408. S2CID 9030903.
  5. Monaghan, Dermot (November 12, 2019). "Democracy in Thailand under Thai Rak Thai government" – โดยทาง ResearchGate. {{cite journal}}: Cite journal ต้องการ |journal= (help)
  6. Phongpaichit, Pasuk; Baker, Chris (2009). Thaksin (Second ed.). Silkworm Books. pp. 115–123.
  7. Jayasuriya, Kanishka; Hewison, Kevin (2004). "The Antipolitics of Good Governance From Global Social Policy to a Global Populism?" (PDF). Critical Asian Studies. 36 (4): 575.
  8. Ockey, James (July–August 2003). "Change and Continuity in the Thai Political Party System". Asian Survey. 43 (4): 673.{{cite journal}}: CS1 maint: date format (ลิงก์)
  9. Hassarungsee, Ranee; Tulaphan, Poonsap S.; Kardkarnklai, Yuwadee. "Unsound government policies, successful grassroots solutions". Social Watch. สืบค้นเมื่อ July 29, 2021.
  10. Chaloemtiarana, Thak (2007). "Distinctions with a Difference: The Despotic Paternalism of Sarit Thanarat and the Demagogic Authoritarianism of Thaksin Shinawatra". Crossroads: An Interdisciplinary Journal of Southeast Asian Studies. 19: 82–83.
  11. Hawkins, Kirk; Selway, Joel (2017). "Thaksin the Populist?". Chinese Political Science Review. 2: 387–390.
  12. "The Constitutional Tribunal disbands Thai Rak Thai". The Nation (Thailand). พฤษภาคม 30, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ มีนาคม 3, 2016. สืบค้นเมื่อ พฤษภาคม 21, 2016.
  13. "9 ปีบนเส้นทางการเมืองของ 'ไทยรักไทย'". mgronline.com. 2007-05-29.
  14. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง รับจดแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมือง พรรคไทยรักไทย
  15. "หญิงหน่อย ย้อนรำลึก 25 ปีแห่งชัยชนะเลือกตั้งท้องถิ่น 'พลังไทย' ก่อนก้าวสู่ 'ไทยรักไทย'". matichon.co.th.
  16. "ย้อนดู 'กลุ่มวังบัวบาน' อดีตผู้ยิ่งใหญ่ในไทยรักไทย". matichon.co.th.
  17. "สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ชุดที่ ๘ (๒๖ เมษายน ๒๕๔๑ - ๒๕ เมษายน ๒๕๔๕)". BMC.
  18. "ย้อนรอยเลือกตั้ง "มหา 5 ขัน" เขย่ากรุง "สมัคร" ฝ่าด่านทะลุล้านเสียง". www.thairath.co.th. 2022-05-22.
  19. "9 กุมภาพันธ์ 2544 - ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรก". THE STANDARD. 2022-02-09.
  20. "ปรากฏการณ์ "รัฐบาลพรรคเดียว" ไทยรักไทย ทำไมชนะถล่มทลาย14 ปีก่อน". www.thairath.co.th. 2019-03-14.
  21. Crampton, Thomas (2001-01-09). "Markets and Currency Rise on Strong Showing by New Party: Election Results Lift Thai Spirits". The New York Times. ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2016-05-21.
  22. "สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ชุดที่ ๙ (๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๕ – ๑๕ มิถุนายน ๒๕๔๙)". bmc.go.th.
  23. "สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ชุดที่ ๑๐ (๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๙ – ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๓)". bmc.go.th.
  24. "สาส์นจากลอนดอน "ทักษิณ"ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคทรท". prachatai.com.
  25. ทรท.ตายยกเข่ง! สั่งยุบพรรค-ตัดสิทธิ กก.บห.5 ปี 111 คน เก็บถาวร 2007-07-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 30 พฤษภาคม 2550
  26. สั่งยุบพรรคไทยรักไทย ตัดสิทธิ์ กก.บริหารพรรค 111 คน เก็บถาวร 2007-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 30 พฤษภาคม 2550
  27. "หมอเลี้ยบรับทาบ"จิ๋ว-สมัคร"เป็นหน.พรรคพลังประชาชน". ryt9.com.
  28. ""ปองพล"สงสัยมีคนปล่อยข่าว"บุญคลี"เป็นหัวหน้าพรรคใหม่หวังให้ตกเป็นเป้า". ryt9.com.
  29. "ปชป.แนะจับตาทรท.ย้ายซบพลังประชาชน แค่เอาตัวรอดไม่มุ่งประโยชน์ประชาชน". ryt9.com.
  30. "การเมือง การมุ้ง ย้อนรอยมุ้งใหญ่ "ไทยรักไทย" หรือจะมีงานรียูเนียน?". workpointTODAY.
  31. ""นพดล" ย้ายเข้าสังกัดพรรคพลังประชาชน แย้มอาจลงสมัคร". ryt9.com.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้

13°44′51″N 100°34′06″E / 13.747504°N 100.568268°E / 13.747504; 100.568268