อดิศร เพียงเกษ
เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูหน้าอภิปรายประกอบ |
รองศาสตราจารย์พิเศษ อดิศร เพียงเกษ[2][3] (เกิด 6 กันยายน พ.ศ. 2495) ชื่อเล่น ตุ๊ ประธานกรรมการมูลนิธิไกวแก้ว เพียงเกษ เป็นข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง [4]ตำแหน่งโฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์)[5] อดีตประธานสถานีประชาชน อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รองศาสตราจารย์พิเศษ อดิศร เพียงเกษ ม.ป.ช., ม.ว.ม. | |
---|---|
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม | |
ดำรงตำแหน่ง 11 มีนาคม พ.ศ. 2548 – 2 สิงหาคม พ.ศ. 2548 | |
นายกรัฐมนตรี | ทักษิณ ชินวัตร |
ก่อนหน้า | ประชา มาลีนนท์ พงศกร เลาหวิเชียร นิกร จำนง พิเชษฐ สถิรชวาล วิเชษฐ์ เกษมทองศรี |
ถัดไป | สรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม |
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | |
ดำรงตำแหน่ง 3 สิงหาคม พ.ศ. 2548 – 19 กันยายน พ.ศ. 2549 | |
นายกรัฐมนตรี | ทักษิณ ชินวัตร |
ก่อนหน้า | เนวิน ชิดชอบ |
ถัดไป | รุ่งเรือง อิศรางกูร ณ อยุธยา |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 6 กันยายน พ.ศ. 2495 อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย |
พรรค | เพื่อไทย |
คู่สมรส | ดร.เยาวนิตย์ เพียงเกษ[1] |
ศาสนา | พุทธ |
ประวัติแก้ไข
รองศาสตราจารย์พิเศษอดิศรเกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2495 ที่อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร เป็นบุตรของนายทองปักษ์ เพียงเกษ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น[1] กับนางไกวแก้ว เพียงเกษ
การศึกษาแก้ไข
รองศาสตราจารย์พิเศษอดิศร เพียงเกษ จบการศึกษาระดับประถมปีที่ 1-2 ที่โรงเรียนหลักเมือง อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม และย้ายไประดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-4 ที่โรงเรียนบ้านขามเฒ่า (ขามเฒ่าผดุงศิลป์) ตำบลขามเฒ่าพัฒนา อำเภอกันทรวิชัย และระดับชั้นประถมปีที่ 5-7 ที่โรงเรียนมาตุภูมิอนุสรณ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนราษฎร์ ที่ก่อตั้งโดยทองปักษ์ บิดาของเขา ใช้ศาลาวัดบ้านขามเฒ่า เป็นสถานที่เรียน จากนั้นจบการศึกษามัธยมต้น ที่โรงเรียนบำรุงไทย 1, โรงเรียนสงเคราะห์นิยมวิทยา, และโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จังหวัดขอนแก่น แล้วจบการศึกษามัธยมปลาย ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ รุ่น 10-12 (DSA84) เลขประจำตัวนักเรียน ท.ศ.11260
ในระดับอุดมศึกษา อดิศรสำเร็จนิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, พุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พระพุทธศาสนา) จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยมคธ ประเทศอินเดีย, ประกาศนียบัตรชั้นสูง หลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.1) จากสถาบันพระปกเกล้า, ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ศิลปศาสตรดุษฏีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
การเมืองแก้ไข
ขณะที่รศ.พิเศษอดิศรเป็นนักศึกษา เขาร่วมชุมนุมขับไล่พระถนอม เมื่อกลางเดือนกันยายน ถึงต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2519 อันเป็นชนวนสำคัญของเหตุการณ์ 6 ตุลา หลังจากนั้นครอบครัวของเขาได้เข้าเป็นแนวร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดยพำนักอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และมีชื่อจัดตั้งว่า "สหายศรชัย" หรือ "สหายสอง"
รศ.พิเศษอดิศรเริ่มเข้าสู่การเมืองเมื่อปี พ.ศ. 2526 โดยสังกัดพรรคแรงงานประชาธิปไตย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ[6] กระทั่งได้รับการเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดขอนแก่น สังกัดพรรคมวลชน เมื่อปี พ.ศ. 2531 และต่อมา ย้ายไปสังกัดพรรคพลังธรรม และเข้ารับตำแหน่ง รองเลขาธิการให้กับพรรคนำไทย[7] ในที่สุดจึงย้ายมาร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ตัดสิทธิทางการเมืองของเขา เป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549[8]
รศ.พิเศษอดิศรเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมา 4 สมัย ได้แก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ[9] เมื่อ พ.ศ. 2535 และเป็น ส.ส.สังกัดพรรคพลังธรรม ชนะการเลือกตั้งแบบยกทีมในเขต 1 จังหวัดขอนแก่น ในการเลือกตั้ง 35/2 เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม[10] เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (11 มีนาคม 2548)[11] และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (2 สิงหาคม 2548) คราวล่าสุด ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 40[12]
ด้านภรรยา ดร.เยาวนิตย์ เพียงเกษ ในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชนและกองทุน[13]
ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 23[14] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากกว่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพึงมีตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
งานสื่อสารมวลชนแก้ไข
- ผู้ดำเนินรายการวิทยุ “กุญแจเมืองไทย” (อดิศร เพียงเกษ, วิสา คัญทัพ และ ไพจิตร อักษรณรงค์) ทาง FM 105 MHz
- ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ “สร้างบ้านแปงเมือง” ทาง MVTV
- ประธานสถานีประชาธิปไตย D-Station
- ประธานสถานีประชาชน People Channel และผู้ดำเนินรายการ "คุยกับอดิศร"
- ประธานที่ปรึกษาสถานีโทรทัศน์ทีวี 24 และวิทยากรประจำรายการ "ตรงไปตรงมา"
- ผู้ก่อตั้งเพจ "ตรงไปตรงมาทีวี" และจัดรายการออนไลน์ผ่านเพจตรงไปตรงมาทีวี
- ผู้ดำเนินรายการคลิปสั้น "ประเด็นร้อนกลอนผะหยา" ทางเพจ Voice Online
ผลงานเพลงแก้ไข
ขับร้องแก้ไข
- เพลงแคน
- เพลงพิณ
- ลำน้ำพอง
ประพันธ์เนื้อร้อง และขับร้องแก้ไข
- น่าอาย
- มือถือสากปากถือศีล
- สู้ทุกเมื่อเพื่อประชาธิปไตย
- ตีนโตประชาธิปไตย
ประพันธ์เนื้อร้องแก้ไข
- ประชาธิปไตยของประชาชน (2552,วันชนะ เกิดดี) ขับร้อง)
- ความไม่เป็นธรรม (2552, มุกข์ เมทินี ขับร้อง และ วันชนะ เกิดดี นำมาขับร้องใหม่ในปี พ.ศ. 2557)
- คนธรรมดา (จตุพร พรหมพันธุ์ ขับร้อง)
ชีวิตส่วนตัวแก้ไข
รศ.พิเศษอดิศร เพียงเกษ สมรสกับ ดร.เยาวนิตย์ เพียงเกษ (สกุลเดิม: พินสำริด) ผู้มีชื่อจัดตั้งว่า "สหายการะเกด" ปัจจุบันเป็นอาจารย์ ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น นอกจากนี้ ยังมีบุตรนอกสมรสจำนวน 3 คน กับนภาพร รักษ์สัจจะ เจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นชัญชนา ศรีสัตย์)[15]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์แก้ไข
- พ.ศ. 2539 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[16]
- พ.ศ. 2537 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[17]
- พ.ศ. 2536 – เหรียญลูกเสือสดุดี ชั้นที่ 1[18]
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ 1.0 1.1 อดิศร เพียงเกษ
- ↑ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- ↑ รองศาสตราจารย์พิเศษประจำมหาวิทยาลัย
- ↑ ประธานกรรมการมูลนิธิไกวแก้ว เพียงเกษ เป็นข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
- ↑ ชวน เซ็นตั้ง 3 แกนนำเพื่อไทย ประยุทธ์-อดิศร-ภูมิธรรม นั่งทีมงานผู้นำฝ่ายค้านฯ
- ↑ ปากพารุ่ง? "เฉลิม-อดิศร" คู่บุญคู่กรรม - คมชัดลึก
- ↑ ประกาศสำนักงานนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง พรรคนำไทยเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอน 56ง 13 กรกฎาคม 2538
- ↑ "เปิดรายชื่อ ทั้ง 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นระยะเวลา 5 ปี !!!". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-08. สืบค้นเมื่อ 2011-06-02.
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๔๘ ราย)
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๔๙ ราย)
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี
- ↑ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (พรรคเพื่อไทย)
- ↑ ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
- ↑ เปิด 97 บัญชีรายชื่อเพื่อไทย 'บรรยิน'ลุ้นได้เป็นส.ส.
- ↑ "ไทกร" ยื่น ป.ป.ช.เชือด "อดิศร" ไม่แจ้งชื่อลูกนอกสมรส สงสัยซุกทรัพย์สิน 20 ล้าน เก็บถาวร 2011-11-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน หนังสือพิมพ์แนวหน้า 12 มีนาคม 2550
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2014-04-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๓ ตอนที่ ๒๒ ข หน้า ๑, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2007-01-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๑ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๕, ๓ ธันวาคม ๒๕๓๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี, เล่ม ๑๑๑ ตอนที่ ๑๕ ข หน้า ๙๘, ๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๗