สฤต สันติเมทนีดล
ดร.สฤต สันติเมทนีดล เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น 1 สมัย และแบบบัญชีรายชื่อ 2 สมัย สังกัดพรรคไทยรักไทย และเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111
สฤต สันติเมทนีดล | |
---|---|
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ | |
ดำรงตำแหน่ง 25 ตุลาคม พ.ศ. 2537 – 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 1 ธันวาคม พ.ศ. 2489 |
ศาสนา | พุทธ |
พรรคการเมือง | ไทยรักไทย |
คู่สมรส | ศิริพร สันติเมทนีดล |
ประวัติ แก้
สฤต สันติเมทนีดล เกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2489[1] สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทางด้านเศรษฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโททางด้านวิศวกรรมและแผนการขนส่ง จากประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาเอกทางด้านวิศวกรรมการขนส่ง จากมหาวิทยาลัยโตรันโต
การทำงาน แก้
สฤต สันติเมทนีดล ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขต 4 สังกัดพรรคพลังธรรม ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป กันยายน พ.ศ. 2535 และได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ในปี พ.ศ. 2537 แทนนายอดิศร เพียงเกษ ซึ่งถูกปรับออกจากตำแหน่ง[2]
จากนั้นในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 และการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2548 เขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคไทยรักไทย และได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ต่อมาเขาได้ลาออกเพื่อไปร่วมงานกับพรรคพลังแผ่นดินไทย พร้อมกับ ลิขิต ธีรเวคิน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้
- พ.ศ. 2538 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[3]
- พ.ศ. 2537 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[4]
อ้างอิง แก้
- ↑ ประวัติผู้สมัคร ส.ส.[ลิงก์เสีย]
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี และแต่งตั้งรัฐมนตรี
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2010-02-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๒ ตอนที่ ๑๗ ข หน้า ๒, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2007-01-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๑ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๕, ๓ ธันวาคม ๒๕๓๗