พรรคเพื่อแผ่นดิน

พรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นพรรคการเมืองไทยซึ่งก่อตั้งในกลางปี พ.ศ. 2550 มีสุวิทย์ คุณกิตติ เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก เป็นพรรคการเมืองที่เคยได้รับเลือกตั้งมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภาผู้แทนราษฎร 1 สมัย

พรรคเพื่อแผ่นดิน
ผู้ก่อตั้งสุวิทย์ คุณกิตติ
หัวหน้าไตรเทพ รัตนาจารย์ (รักษาการ)
รองหัวหน้าไตรเทพ รัตนาจารย์
เลขาธิการยศพนต์ สุธรรม
เหรัญญิกมาโนชญ์ เชื้อชาติ
นายทะเบียนสมาชิกกฤตธี จันทร์สง่า
โฆษกไตรเทพ รัตนาจารย์
กรรมการบริหารณรง ชุมพล
ประธานที่ปรึกษาพรรคสุวิทย์ คุณกิตติ
คำขวัญสร้างชาติ ธำรงศาสน์ เทิดราชบัลลังก์ (2550-2563)
คุณธรรมสร้างคน ประชาชนสร้างชาติ (2563 - 2566)
ก่อตั้ง2 ตุลาคม พ.ศ. 2550
ถูกยุบ13 มีนาคม พ.ศ. 2566 (15 ปี)
แยกจากพรรคไทยรักไทย
พรรคมหาชน
พรรคกิจสังคม
ที่ทำการ7/1 หมู่ 14 ตำบลโนน อำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ 32130
สมาชิกภาพ  (ปี 2566)6,427 คน[1]
เว็บไซต์
http://www.ppdth.com/
การเมืองไทย
รายชื่อพรรคการเมือง
การเลือกตั้ง

ประวัติ

แก้

ยุคก่อตั้ง

แก้
 
ตราสัญลักษณ์เดิมของพรรคเพื่อแผ่นดินในปี พ.ศ. 2550 – 2563 แต่ก่อนสิ้นสภาพพรรคเพื่อแผ่นดินก่อนการเลือกตั้ง ปี 2566

ในช่วงก่อตั้ง สุวิทย์ คุณกิตติ เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ยุทธศาสตร์หาเสียงของพรรคคือ "นำรอยยิ้มกลับสู่สังคมไทย" มีอดีต สส.ภาคอีสานเป็นสมาชิก เช่น กลุ่มของพินิจ จารุสมบัติ, ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ, วัฒนา อัศวเหม, โสภณ เพชรสว่าง, กลุ่มอดีต สส.กรุงเทพมหานคร ในกลุ่มกรุงเทพ 50 ของสุรนันท์ เวชชาชีวะ, กลุ่มบ้านริมน้ำของสุชาติ ตันเจริญ, และกลุ่มทางภาคเหนือของกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ อีกด้วย ในส่วนของกลุ่มบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นนักการเมืองมาก่อน แต่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคด้วยก็ได้แก่ นายสุระ แสนคำ หรือ เขาทราย แกแล็คซี่ อดีตแชมป์โลกชาวไทย [2] และ นาวาอากาศตรีปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นต้น

ย้ายไปพรรคชาติพัฒนา

แก้

ต่อมาในเดือนเมษายน พ.ศ. 2554 ผู้บริหารของพรรครวมชาติพัฒนา และพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ประกาศรวมตัวกันและตั้งพรรคใหม่ขึ้น ชื่อว่า "พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน" โดยสมาชิกของพรรคเพื่อแผ่นดินจำนวนมาก โดยเฉพาะอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ลาออกจากพรรคเพื่อแผ่นดินและสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมชาติพัฒนา[3]

กลางเดือนธันวาคม พ.ศ. 2556 กรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดินมีมติให้ ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เป็นหัวหน้าพรรค และนำสมาชิกพรรคสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง[4] ในนามพรรคเพื่อแผ่นดิน เบอร์ 53

ยุคหลังการเลือกตั้ง 2562

แก้

ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 พรรคเพื่อแผ่นดินได้จัดการประชุมใหญ่สามัญพรรคเพื่อแผ่นดิน ครั้งที่ 1/2563 ที่โรงแรมเชียงใหม่ออร์คิด จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จำนวน 12 คนพร้อมกับเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์พรรคซึ่งที่ประชุมมีมติเลือกนายประมวล เอมเปีย อดีตรองโฆษก พรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ พร้อมกรรมการบริหารพรรคอีก 11 คน[5] ต่อมาพรรคเพื่อแผ่นดินได้ถูกยุบพรรคเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2566 เนื่องจากทางพรรคไม่มีการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมากว่า 1 ปีเพราะคณะกรรมการบริหารพรรคลาออกจากสมาชิกพรรคทั้งคณะ[6]

บทบาททางการเมือง

แก้

การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี มกราคม พ.ศ. 2551

แก้

ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีไทย มกราคม พ.ศ. 2551 มีกระแสข่าวว่า สส.กลุ่มสัจจานุภาพทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายแพทย์ แวมาฮาดี แวดาโอะ สส.นราธิวาส, นิมุคตาร์ วาบา สส.ปัตตานี, ยุซรี ซูสารอ สส.ปัตตานี, และมานพ ปัตนวงศ์ สส.ระบบสัดส่วนกลุ่ม 8 ขอให้พรรคเพื่อแผ่นดินได้โควตารัฐมนตรี 4 ที่ ไม่เช่นนั้นจะโหวตสวนมติพรรค ซึ่งจะลงมติเห็นชอบให้ สมัคร สุนทรเวช ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่แล้ว สส.กลุ่มสัจจานุภาพ ก็ได้ลงมติเห็นชอบในเวลาต่อมา

การถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล สมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี

แก้

ในค่ำวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 นายสุวิทย์ คุณกิตติ ในฐานะหัวหน้าพรรคได้จัดแถลงข่าวที่กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกรรมการบริหารพรรคอีก 2 คน ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลคณะรัฐมนตรีคณะที่ 57 โดยอ้างถึงมีความพยายามของรัฐบาลที่จะดึงดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ การจาบจ้วงเบื้องสูง และความไม่ชัดเจนในกรณีปราสาทเขาพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก แต่ต่อมา บรรดาสมาชิกได้แถลงว่า การลาออกครั้งนี้เป็นการกระทำของนายสุวิทย์คนเดียว มิได้ผ่านมติของกรรมการบริหารพรรค[7] [8]

การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ธันวาคม พ.ศ. 2551

แก้

ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในประเทศไทย ธันวาคม พ.ศ. 2551 ต่อจาก สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากรณียุบพรรคพลังประชาชน การลงมติครั้งนี้มีกระแสข่าวถึงความไม่แน่นอนในการเปลี่ยวขั้วรัฐบาล ของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งรวมถึงพรรคเพื่อแผ่นดินด้วยเช่นกัน ก่อนการลงมติมีการแถลงข่าวที่สร้างความสับสนถึงมติของพรรคเพื่อแผ่นดินอยู่เป็นระยะว่าจะเป็นเช่นไร จนมีเมื่อ เสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ได้เสนอชื่อพลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินในขณะนั้น ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุว่าเป็นคนกลางและมีคุณวุฒิ เหมาะกับสถานการณ์บ้านเมือง แต่เมื่อถึงวันลงมติ เสียงของ สส. ในพรรคเพื่อแผ่นดินทั้งหมด 21 เสียงในเวลานั้น ได้แตกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

สส.ที่ลงมติเลือกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

แก้
  1. ไชยยศ จิรเมธากร สส.อุดรธานี
  2. นรพล ตันติมนตรี สส.เชียงใหม่
  3. ประนอม โพธิ์คำ สส.นครราชสีมา
  4. พิกิฏ ศรีชนะ สส.ยโสธร
  5. พิเชษฐ์ ตันเจริญ สส.ฉะเชิงเทรา
  6. พลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา
  7. ร้อยตรีหญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา
  8. รณฤทธิชัย คานเขต สส.ยโสธร
  9. อนุวัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ สส.นครราชสีมา
  10. วิทยา บุตรดีวงศ์ สส.มุกดาหาร
  11. สุชาติ ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลราชธานี
  12. อลงกต มณีกาศ สส.นครพนม

สส.ที่ลงมติเลือกพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก เป็นนายกรัฐมนตรี

แก้
  1. พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก สส.สัดส่วน กลุ่มจังหวัดที่ 3
  2. หม่อมราชวงศ์กิติวัฒนา ไชยันต์ สส.สัดส่วน กลุ่มจังหวัดที่ 6
  3. จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.นครราชสีมา
  4. ปุระพัฒน์ วิเศษจินดาวัฒนา สส.สัดส่วน กลุ่มจังหวัดที่ 5
  5. มานพ ปัตนวงศ์ สส.สัดส่วน กลุ่มจังหวัดที่ 8
  6. วัลลภ ไทยเหนือ สส.สัดส่วน กลุ่มจังหวัดที่ 4
  7. แวมาฮาดี แวดาโอะ สส.นราธิวาส
  8. สมเกียรติ ศรลัมพ์ สส.สัดส่วน กลุ่มจังหวัดที่ 2
  9. สุรเดช ยะสวัสดิ์ สส.สัดส่วน กลุ่มจังหวัดที่ 1

การลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี พ.ศ. 2553

แก้

การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี 5 คน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม และวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ซึ่งมีการลงมติในวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553 โดย สส.ของพรรคเพื่อแผ่นดินบางส่วน ได้ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในรัฐบาล 2 คน คือ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล และโสภณ ซารัมย์ จากพรรคภูมิใจไทย ทำให้แกนนำของพรรคภูมิใจไทยแสดงความไม่พอใจ และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีปรับพรรคเพื่อแผ่นดินออกจากพรรคร่วมรัฐบาล[9]

ต่อมาได้มีการปรับรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดิน จำนวน 3 คน คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกจากตำแหน่ง และมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคมาตุภูมิ แทนในโควตาของพรรค โดยให้โควตารัฐมนตรีให้พรรคเพื่อแผ่นดินเพียง 1 ตำแหน่ง คือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ไชยยศ จิรเมธากร)

การเลือกตั้งภายหลังการย้ายออกของอดีต สส.

แก้

กว้าง รอบคอบ รักษาการหัวหน้าพรรค ประกาศแสดงเจตนารมณ์ของพรรคว่าจะไม่มีการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 เพื่อป้องกันความสับสันระหว่างพรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ซึ่งสมาชิกของพรรคเพื่อแผ่นดินส่วนใหญ่ได้ย้ายเข้าไปร่วมงานทางการเมืองด้วย ส่วนกิจกรรมของพรรคเพื่อแผ่นดินยังคงมีต่อไป

พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งในการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดเชียงใหม่ เขต 3 แทนนางสาวชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ เมื่อวันที 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 ซึ่งกำหนดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 มีหมายเลขประจำพรรคคือ หมายเลข 53 แต่การเลือกตั้งในครั้งนั้นเป็นโมฆะตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

บุคลากรพรรค

แก้

รายนามหัวหน้าพรรค

แก้
หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน
ลำดับที่ รูป รายนาม เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ ตำแหน่งสำคัญ
1   สุวิทย์ คุณกิตติ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2550 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551
2   พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก 9 ธันวาคม พ.ศ. 2551 27 มีนาคม พ.ศ. 2552
3   ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง 20 เมษายน พ.ศ. 2552 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 * อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
4   เฉลิมชัย ตันติวงศ์ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
5   จันทนา อินทฉิม 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 5 เมษายน พ.ศ. 2556
6   ชัยยงค์ พรหมวงศ์ ธันวาคม พ.ศ. 2556 พ.ศ. 2561
7   พีระ จันทร 24 มกราคม พ.ศ. 2562 27 มิถุนายน พ.ศ. 2562
8   ไตรเทพ รัตนาจารย์ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
9   ประมวล เอมเปีย 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 20 มีนาคม พ.ศ. 2565 * อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี

รายนามเลขาธิการพรรค

แก้

กรรมการบริหารพรรค

แก้
กรรมการบริหารพรรค (2 ตุลาคม พ.ศ. 2550 - 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551)
ชื่อ ตำแหน่ง
สุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค
จิรายุ วสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรค
ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง
ไชยยศ จิรเมธากร
พลเอก ธงชัย เกื้อสกุล
ปาน พึ่งสุจริต
พฤฒิชัย ดำรงรัตน์
มั่น พัธโนทัย
ศุภรักษ์ ควรหา
สิทธิชัย โควสุรัตน์
สุรเดช ยะสวัสดิ์
กริช กงเพชร
พิเชษฐ์ ตันเจริญ
แวมาฮาดี แวดาโอะ
สาคร สุขศรีวงศ์
สานิต ว่องสัธนพงษ์
สุรชาติ ชำนาญศิลป์
วัชระ พรรณเชษฐ์ เลขาธิการพรรค
สันติ สาทิพย์พงษ์ รองเลขาธิการพรรค
กัษณ คินิมาน
กุสุมาลวตี ศิริโกมุท
จีรวงศ์ สนิทวงศ์ชัย
นพดล พลซื่อ
พูลพล อัศวเหม
พิริยะ โตสกุลวงศ์
ภัทรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์
มุกดา พงษ์สมบัติ
ศราวุธ เพชรพนมพร
สิทธิชัย จันทร์ธารักษ์
อนันต์ แสงวัณณ์
วชิระมณฑ์ คุณะเกษมธนาวัฒน์ โฆษกพรรค
ปรียาภา แสงสุรินทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค
ลักษณา การะเกตุ เหรัญญิกพรรค

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551 สุวิทย์ คุณกิตติ ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทำให้กรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดินต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ[10]

กรรมการบริหารพรรค (9 ธันวาคม พ.ศ. 2551 - 27 มีนาคม พ.ศ. 2552)
ชื่อ ตำแหน่ง
พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก[11] หัวหน้าพรรค
พลเอก ธงชัย เกื้อสกุล รองหัวหน้าพรรค
สิทธิชัย จันทร์ธารักษ์
ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม
รณฤทธิชัย คานเขต
ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง
เลขาธิการพรรค
ไชยยศ จิรเมธากร โฆษกพรรค

การเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดดังกล่าวนี้ มีปัญหาตามมาซึ่งมีสมาชิกพรรคบางส่วนอ้างว่าการที่พลตำรวจเอกประชา ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ถือเป็นโมฆะ เนื่องจากผิดข้อบังคับพรรค กระทั่งต้องมีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา โดยพลตำรวจเอกประชายังคงดำรงตำแหน่งเรื่อยมาระหว่างรอผลพิจารณา เรื่องราวได้ลุกลามจนถึงขั้นพยายามลงมติขับพลตำรวจเอกประชาออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา ท้ายสุดผลของการพิจารณาจาก กกต. หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องข้อบังคับต่างๆ มติ กกต.เสียงข้างมากเห็นว่า การประชุมดังกล่าวไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติพรรคการเมือง และข้อบังคับพรรคเพื่อแผ่นดิน จึงทำให้มติการเลือกพลตำรวจเอกประชา พรหมนอกเป็นหัวหน้าพรรค ถือเป็นโมฆะ[12]

กรรมการบริหารพรรค (20 เมษายน พ.ศ. 2552 - 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554)
ชื่อ ตำแหน่ง
ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรค
ร้อยตรีหญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี
(ลาออก 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553)
รองหัวหน้าพรรค
สิทธิชัย โควสุรัตน์
พฤฒิชัย ดำรงรัตน์
(ลาออก 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553)
กว้าง รอบคอบ
สุรเดช ยะสวัสดิ์
นิมุคตาร์ วาบา
ธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา
(ลาออก 24 กุมภาพันธ์ 2553)
ไชยยศ จิรเมธากร
(ลาออก 4 มีนาคม 2553)
เลขาธิการพรรค
ประนอม โพธิ์คำ
(ลาออก 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553)
รองเลขาธิการพรรค
สมพงษ์ พิศาลกิจวนิช
(ลาออก 5 มีนาคม 2553)
พรรณี จารุสมบัติ
อดุลย์ นิลเปรม นายทะเบียนสมาชิกพรรค
อนุวัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์
(ลาออก 24 กุมภาพันธ์ 2553)
เหรัญญิกพรรค
อลงกต มณีกาศ โฆษกพรรค

การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหาร[13][14][15]

กรรมการบริหารพรรค (26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 -13 มีนาคม พ.ศ. 2566)
ชื่อ ตำแหน่ง
ประมวล เอมเปีย
(ลาออกเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2565)
หัวหน้าพรรค
ไตรเทพ รัตนาจารย์ รองหัวหน้าพรรค
เฉลิมชัย ตันเจริญ
(ลาออกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2563)[16]
พันตำรวจเอก สนธยา แสงเภา
(ลาออกเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2565)
สดใส โรจนวิชัย
(ลาออกเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2565)
โสภณ ศรีมาเหล็ก
(ลาออกเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564)[17]
เลขาธิการพรรค
ยศพนต์ สุธรรม
(แต่งตั้งแทน 4 เมษายน พ.ศ. 2564)
เลขาธิการพรรค
มาโนชญ์ เชื้อชาติ เหรัญญิกพรรค
กฤตธี จันทร์สง่า นายทะเบียนสมาชิกพรรค
ว่าที่ร้อยตรี พิทักษ์ จิระวนิชกุล
(ลาออกเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2565)
โฆษกพรรค
เอกรินทร์ นิลสวัสดิ์ กรรมการบริหารพรรค
ณรง ชุมพล
ชัยพร ภูผารัตน์
(ลาออกเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2565)
ไพฑูรย์ วชิรวงศ์ภิญโญ
(ลาออกเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2565)

สภานโยบายและยุทธศาสตร์พรรค

แก้

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2550 พรรคเพื่อแผ่นดินได้แต่งตั้ง สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นประธานสภานโยบายและยุทธศาสตร์พรรค โดยมีคณะกรรมการสภาฯ ประกอบด้วย วิจิตร สุพินิจ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ศุภชัย พิศิษฐวานิช อดีตปลัดกระทรวงการคลัง บรรพต หงษ์ทอง อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วิเชียร เตชะไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน และ นิทิต พุกกะณะสุต ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน โดยทั้งหมดจะเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อแผ่นดินด้วย [18]

ต่อมานายสุรเกียรติ ได้ลาออกจากตำแหน่ง ประธานสภานโยบายและยุทธศาสตร์พรรค เนื่องจากเป็นหนึ่งใน 111 อดีตกรรมกรรมบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี และ กกต. วินิจฉัยว่าไม่สมควรดำรงตำแหน่งใดๆ ในพรรคการเมืองระหว่างที่ถูกตัดสิทธิ์ดังกล่าว

กลุ่มย่อยในพรรค

แก้

การเลือกตั้ง

แก้
ผลการเลือกตั้ง จำนวนที่นั่ง คะแนนเสียงทั้งหมด สัดส่วนคะแนนเสียง ที่นั่งเปลี่ยน ผลการเลือกตั้ง ผู้นำเลือกตั้ง
2550
24 / 480
1,981,021 5.44%   24 ร่วมรัฐบาล สุวิทย์ คุณกิตติ
2554 ไม่ส่งผู้สมัคร
2557 การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ชัยยงค์ พรหมวงศ์
2562
0 / 500
31,307   24 ไม่ได้รับเลือกตั้ง
 
รถหาเสียงของพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2550

หมายเหตุ

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. ข้อมูลพรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ ณ วันที่ 8 มีนาคม 2566
  2. หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 17 ตุลาคม 2550
  3. เพื่อแผ่นดิน-รวมชาติพัฒนา แถลงจับมือทำงานการเมือง[ลิงก์เสีย]
  4. สมาชิกพรรคสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง[ลิงก์เสีย]
  5. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน
  6. ราชกิจจาฯ ประกาศ 'พรรคเพื่อแผ่นดิน' สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง
  7. “หมัก” แพแตก! “เพื่อแผ่นดิน” ถอนตัวต้านแก้ รธน.-ไม่พอใจเสีย “พระวิหาร” เก็บถาวร 2012-11-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, ผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2551
  8. “เพื่อแผ่นดิน” ถอนตัวชักวุ่น! ส.ส.ยังอาลัยเก้าอี้ อ้างไม่ใช่มติพรรค เก็บถาวร 2012-11-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, ผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2551
  9. พรรคภูมิใจไทยจี้พรรคประชาธิปัตย์ ปรับพรรคเพื่อแผ่นดินออก
  10. "สุวิทย์ คุณกิตติ ลาออก พรรคเพื่อแผ่นดิน ข่าวการเมือง รายงาน". kapook.com. 2008-10-30. สืบค้นเมื่อ 2025-03-19.
  11. มติเพื่อแผ่นดินเลือก ประชา นั่งหัวหน้าพรรคฯ
  12. โมฆะ “ประชา” หน.พรรค
  13. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง ตอบรับการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคและกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน10 มิถุนายน 2553
  14. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง ตอบรับการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน17 มิถุนายน 2553
  15. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง ตอบรับการเปลี่ยนแปลงกรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน6 มกราคม 2554
  16. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน
  17. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน
  18. "หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 28 ตุลาคม 2550". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-30. สืบค้นเมื่อ 2021-09-26.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้