สมชาย วงศ์สวัสดิ์
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ (เกิด 31 สิงหาคม พ.ศ. 2490) นายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย[1][2] อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตผู้พิพากษา อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน ในขณะที่สมชายดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นเขาไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาล เพราะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังคงยึดพื้นที่ไว้ตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช โดยใช้สนามบินดอนเมืองเป็นที่ทำการแทน
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ม.ป.ช., ม.ว.ม. | |
---|---|
![]() | |
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ใน พ.ศ. 2551 | |
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 26 | |
ดำรงตำแหน่ง 18 กันยายน พ.ศ. 2551 – 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 (0 ปี 75 วัน) | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร |
รองนายกรัฐมนตรี | มั่น พัธโนทัย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล โอฬาร ไชยประวัติ สนั่น ขจรประศาสน์ |
ผู้ว่าการแทน | ชวรัตน์ ชาญวีรกูล |
ก่อนหน้า | สมัคร สุนทรเวช |
ถัดไป | อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ |
รักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี | |
ดำรงตำแหน่ง 2 กันยายน พ.ศ. 2551 – 16 กันยายน พ.ศ. 2551 (0 ปี 14 วัน) | |
ก่อนหน้า | สมัคร สุนทรเวช |
ถัดไป | สมชาย วงศ์สวัสดิ์ |
รองนายกรัฐมนตรี | |
ดำรงตำแหน่ง 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 – 9 กันยายน พ.ศ. 2551 (0 ปี 215 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | สมัคร สุนทรเวช |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม | |
ดำรงตำแหน่ง 18 กันยายน พ.ศ. 2551 – 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 (0 ปี 75 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | สมชาย วงศ์สวัสดิ์ |
ผู้ว่าการแทน | อภิชาติ เพ็ญกิตติ |
ก่อนหน้า | สมัคร สุนทรเวช |
ถัดไป | ประวิตร วงษ์สุวรรณ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ | |
ดำรงตำแหน่ง 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 – 9 กันยายน พ.ศ. 2551 (0 ปี 215 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | สมัคร สุนทรเวช |
ก่อนหน้า | วิจิตร ศรีสอ้าน |
ถัดไป | ศรีเมือง เจริญศิริ |
หัวหน้าพรรคพลังประชาชน | |
ดำรงตำแหน่ง 30 กันยายน พ.ศ. 2551 – 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 (0 ปี 63 วัน) | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 31 สิงหาคม พ.ศ. 2490 (73 ปี) จังหวัดนครศรีธรรมราช ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | พลังประชาชน (2550–2551) เพื่อไทย (2554–2561) เพื่อธรรม (2561-2563) |
คู่สมรส | เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ |
ศาสนา | พระพุทธศาสนา |
ลายมือชื่อ | ![]() |
ประวัติ
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2490 ที่ตำบลสวนขัน อำเภอฉวาง (ปัจจุบันคือ อำเภอช้างกลาง[3]) จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายเจิม-นางดับ วงศ์สวัสดิ์ สมรสกับ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นน้องสาวของทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 23[4]
มีบุตร - ธิดา 3 คน คือ
- ผศ.ดร.ยศธนัน วงศ์สวัสดิ์ (เชน) สมรสกับ นางสาวนันทกานต์ บุตรสาวของนายวิโรจน์ และนางภาวิณี ศิลป์เสวีกุล เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558
- น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ (เชียร์) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ เขต 1
- น.ส.ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ (เชอรี่) สมรสกับ นายนัม ลีนาล เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานคณะรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
การศึกษา
สำเร็จการศึกษาชั้นต้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ชั้นมัธยมจากโรงเรียนอำนวยศิลป์[5] สำเร็จนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2513 ต่อมาปี 2516 เข้าศึกษาต่อเนติบัณฑิตไทย (นบท.) สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา เมื่อ 2539 ปริญญาบัตร หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 38 และในปี 2545 รัฐประศาสนศาสตร์ มหาบัณฑิต หลักสูตรการจัดการภาครัฐและภาคเอกชนมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ในปี พ.ศ. 2555 ได้รับพระราชทานปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (การจัดการ) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การงาน
หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วสอบบรรจุเข้าเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษา กระทรวงยุติธรรม เมื่อ พ.ศ. 2517 ต่อมาได้เป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาประจำกระทรวง พ.ศ. 2518 ผู้พิพากษาศาลแขวงเชียงใหม่ พ.ศ. 2519 จากนั้นได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2520 แล้วจึงย้ายไปเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2526 จากนั้นย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพังงา พ.ศ. 2529 ต่อมาได้เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลคดีเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง พ.ศ. 2530 ย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดชลบุรี พ.ศ. 2531 ย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนนทบุรี พ.ศ. 2532 ย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญาธนบุรี พ.ศ. 2533 เลื่อนตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 พ.ศ. 2536 ย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 2 พ.ศ. 2540
ต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายวิชาการ พ.ศ. 2541 หลังจากนั้นได้ย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายบริหาร พ.ศ. 2542 หลังจากนั้นได้เลื่อนตำแหน่งสูงสุดเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม 11 พ.ย. 2542 หลังจากนั้นจึงย้ายไปเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน 8 มีนาคม 2549 และได้ลาออกจากราชการในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2550
นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติสาขานิติศาสตร์ พ.ศ. 2542–2549
- กรรมการเนติบัณฑิตยสภา
- ประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษ
- กรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
- กรรมการบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)
- กรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)[6]
- กรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
- กรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
- กรรมการบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
- กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
- กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)
- กรรมการคณะกรรมการกฤษฎีกา
- กรรมการคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.)
- กรรมการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)
- กรรมการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.)
- กรรมการคณะกรรมการอัยการ (กอ.)
- กรรมการคณะกรรมการตุลาการ
- กรรมการคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารแห่งชาติ
- กรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
การดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ในปี พ.ศ. 2550 เป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551 ได้รับเลือกจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี[7]
17 กันยายน 2551 ได้รับการเลือกจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย[8] โดยผลการลงคะแนนปรากฏว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ 298 เสียง ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้ 163 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง ทำให้นายสมชาย ได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ จึงได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย[9][10]
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 2[11]
การปฏิบัติงาน
- เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
ความมั่นคง
- แก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
- ส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาและสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีในภูมิภาค
- จัดตั้งสภาเกษตรกรและสร้างระบบประกันความเสี่ยง
เศรษฐกิจ
- แก้ไขปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินในประเทศ
- เร่งรัดการลงทุนที่สำคัญของประเทศ
- สร้างกลไกในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดจากวิกฤติการเงินของโลกที่ส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว
สิทธิมนุษยชน
- เร่งรัดปราบปรามการค้ายาเสพติด ปราบปรามผู้มีอิทธิพล อบายมุขและสิ่งยั่วยุเยาวชน
ฉายานาม
วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 อ.ธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พร้อมทั้ง ตั้งฉายารัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ว่าเป็น รัฐบาล "ชายกระโปรง"[12]
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรค
เมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย อันเนื่องมาจากกรณีทุจริตการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช จากพรรคพลังประชาชน นายมณเฑียร สงฆ์ประชา จากพรรคชาติไทย และนายสุนทร วิลาวัลย์ จากพรรคมัชฌิมาธิปไตย ภายหลังนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย แถลงด้วยวาจาเสร็จสิ้นแล้ว โดยไม่รอพรรคพลังประชาชนไม่ได้ส่งตัวเข้าแถลงปิดคดีแต่อย่างใด
ต่อมา ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยในส่วนของพรรคพลังประชาชน ด้วยมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้ยุบพรรคพลังประชาชน และตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค 5 ปี (รวม 37 คน) ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชนต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยปริยาย
จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยในส่วนของพรรคมัชฌิมาธิปไตย โดยมีมติให้ยุบพรรคมัฌชิมาฯ และตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค 5 ปี (รวม 43 คน) ตามประกาศ คปค. เช่นกัน
ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ให้ยุบพรรคชาติไทยตามไปอีกพรรค โดยศาลฯได้วินิจฉัยว่ามีความผิดตามมาตรา 237 วรรค 2 และมาตรา 68 ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ และกฎหมายได้เอาไว้เป็นเด็ดขาด แม้จะมีการโต้แย้งว่าหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคคนอื่นฟังไม่ขึ้น (รวม 29 คน) ตามประกาศ คปค.[13]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2540 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[14]
- พ.ศ. 2535 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2542 - เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
- พ.ศ. 2551 - The Grand Cross of the Order of the Sun of Peru
อ้างอิง
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์)
- ↑ "สภาฯ เท298เสียงเลือก'สมชาย'เป็นนายกฯ". กรุงเทพธุรกิจ. 2008-09-17. สืบค้นเมื่อ 2008-09-17.
- ↑ วิเคราะห์คอลัมนิสต์ 15 05 58
- ↑ Ahuja, Ambika (2008-09-09). "Cooking show stint derails Thai prime minister". Associated Press/Google. สืบค้นเมื่อ 2008-09-10.
- ↑ วาจาสิทธิ์พ่อท่านคล้าย "สมชาย"นั่งนายกฯ สยามรัฐ 17 กันยายน 2551
- ↑ tvnz.co.nz/view, FACTBOX - Somchai Wongsawat
- ↑ "Thai party names nominee for PM". BBC News. 2008-09-15. สืบค้นเมื่อ 2008-09-15.
- ↑ Somchai elected new prime minister
- ↑ edition.cnn.com, Thai lawmakers elect Thaksin's in-law as PM
- ↑ google.com, Thaksin's brother-in-law elected Thai PM
- ↑ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (พรรคเพื่อไทย)
- ↑ Sanook.com, ธีรยุทธขาประจำมาแล้ว ตั้งรัฐบาล 'ชายกระโปรง' เรียกข้อมูลวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551
- ↑ ผู้จัดการออนไลน์, ศาล รธน.มติเอกฉันท์! สั่งยุบ “พปช.” ตัดสิทธิ กก.บห.5 ปี - “ชายอำมหิต” หลุดเก้าอี้, เรียกข้อมูลวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (ชั้นสายสะพาย ในวโรกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๐ จำนวน ๔,๗๙๙ ราย)
แหล่งข้อมูลอื่น
- ประวัติสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จากเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลนักการเมือง - ThaisWatch.com
- สมชาย วงศ์สวัสดิ์ - ศูนย์ข้อมูลการเมืองไทย[ลิงก์เสีย]
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: สมชาย วงศ์สวัสดิ์ |
ก่อนหน้า | สมชาย วงศ์สวัสดิ์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมัคร สุนทรเวช | นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย (ครม. 58) (18 กันยายน พ.ศ. 2551 – 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551) |
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | ||
สมัคร สุนทรเวช | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (24 กันยายน พ.ศ. 2551 – 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551) |
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ | ||
วิจิตร ศรีสอ้าน | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 – 24 กันยายน พ.ศ. 2551) |
ศรีเมือง เจริญศิริ | ||
สมัคร สุนทรเวช | หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (30 กันยายน พ.ศ. 2551 – 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551) |
พรรคถูกยุบ |