คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 63

คณะรัฐมนตรีไทย

คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 63 (1 กันยายน พ.ศ. 2566 – ปัจจุบัน) เป็นคณะรัฐมนตรีไทยซึ่งจัดตั้งขึ้นภายหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ส่งผลให้ไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมากเด็ดขาดในรัฐสภา โดยในระยะแรก พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผสมโดยรวบรวมเสียงพรรคการเมืองจำนวน 6 พรรค ต่อมาเพิ่มเป็น 8 พรรค และลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน เพื่อเสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แต่หลังจากพิธาได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด พรรคก้าวไกลจึงมอบสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ยกเลิกบันทึกความเข้าใจดังกล่าว จากนั้นรวบรวมเสียงพรรคการเมืองในรอบใหม่ ได้จำนวน 11 พรรค และเสนอชื่อเศรษฐา ทวีสิน อดีตประธานอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ซึ่งต่อมาได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจากวุฒิสภาไทย ชุดที่ 12 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตำรวจและทหารที่ใกล้ชิดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกจากนี้เศรษฐายังได้รับคะแนนเสียงจากพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ นับเป็นคณะรัฐมนตรีไทยที่นายกรัฐมนตรีได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบส่วนหนึ่งมาจากทหารตำรวจผู้มีส่วนในการเข้าร่วมรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 และรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 ได้แก่ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)[1] นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี บุตรชายของพลเอก อิสระพงศ์ หนุนภักดี เลขาธิการคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ยังได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด นับว่าคณะรัฐบาลนี้มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารสนับสนุนมากที่สุดคณะหนึ่ง

คณะรัฐมนตรีเศรษฐา
คณะรัฐมนตรีคณะที่ 63 แห่งราชอาณาจักรไทย
พ.ศ. 2566 - ปัจจุบัน
วันแต่งตั้ง1 กันยายน พ.ศ. 2566
(0 ปี 90 วัน)
บุคคลและองค์กร
พระมหากษัตริย์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน (พท.)
รองนายกรัฐมนตรี
พรรคร่วมรัฐบาล
สถานะในสภานิติบัญญัติรัฐบาลผสม
315 / 500 (63%)
พรรคฝ่ายค้าน
ผู้นำฝ่ายค้านชัยธวัช ตุลาธน รอพระบรมราชโองการโปรดฯ แต่งตั้ง
ประวัติ
การเลือกตั้ง14 พฤษภาคม 2566
การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี22 สิงหาคม 2566
สภานิติบัญญัติวุฒิสภาไทย ชุดที่ 12
สภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 26
วาระสภานิติบัญญัติ5 ปี (วุฒิสภา)
4 ปี (สภาผู้แทนราษฎร)
งบประมาณพ.ศ. 2567
ก่อนหน้าคณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 62

ประวัติ

การจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคก้าวไกล

 
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมด้วยพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนั้น แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ภายหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 พรรคก้าวไกลซึ่งได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นอันดับที่ 1 ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในครั้งแรก โดยชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ทำหน้าที่ผู้จัดการรัฐบาล รวบรวมพรรคการเมืองซึ่งเคยเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านในรัฐบาลชุดก่อนหน้าทั้งหมดที่ได้รับการเลือกตั้งในครั้งนี้มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย และพรรคเสรีรวมไทย[2] และยังมีพรรคที่เข้าร่วมเพิ่มเติมภายหลังได้แก่ พรรคเป็นธรรม[3] พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคเพื่อไทรวมพลัง[4] โดยมีการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งทั้ง 8 พรรคมีมติสนับสนุนพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และบุคคลที่ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย, จัดตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาด้านต่าง ๆ[5] และจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการจัดตั้งรัฐบาลด้วยวิธีนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย[6] จากนั้นมีข่าวว่าพรรคใหม่และพรรคชาติพัฒนากล้าได้ตกลงเข้าร่วมรัฐบาลด้วย แต่ถูกคัดค้านจากประชาชนจึงถอนตัวในเวลาต่อมา[7][8]

บันทึกความเข้าใจจัดตั้งรัฐบาล

ทั้ง 8 พรรคได้ลงนามบันทึกความเข้าใจจัดตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 9 ปีของเหตุการณ์รัฐประหาร พ.ศ. 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลารัฐประหาร[6] โดยบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ยึดหลักการผลักดันนโยบายที่ไม่กระทบรูปแบบของรัฐ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดละเมิดไม่ได้ของพระมหากษัตริย์ ซึ่งหมายถึง ไม่มีวาระการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อยู่ในบันทึกความเข้าใจฉบับนี้[9] ประกอบด้วยวาระร่วม 23 ข้อ และแนวทางปฏิบัติ 5 ข้อ ซึ่งบรรจุประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่น การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ, สมรสเท่าเทียม, การปฏิรูปกองทัพและตำรวจ, การเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ, การกระจายอำนาจ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นต้น[10]

การจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย

ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีรอบแรกเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พิธาได้รับการลงมติเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรีจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาเพียง 324 เสียง ซึ่งไม่ถึง 376 เสียงตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กำหนดไว้[11] และวันที่ 19 กรกฎาคม มีการเสนอชื่อพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่รัฐสภามีมติให้การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีถือเป็นญัตติซ้ำ ทำให้ไม่สามารถเสนอชื่อพิธาได้อีกในสมัยประชุมเดียวกัน[12] สองวันถัดมา ชัยธวัชจึงประกาศมอบสิทธิ์ให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน โดยกล่าวว่ามีกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับตนไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ[13]

วันรุ่งขึ้น พรรคเพื่อไทยจึงได้เริ่มต้นเจรจากับพรรคภูมิใจไทย[14] พรรคชาติพัฒนากล้า[15] และพรรครวมไทยสร้างชาติ[16] และวันถัดมาเจรจากับพรรคชาติไทยพัฒนา[17] และพรรคพลังประชารัฐ[18] ซึ่งทั้ง 5 พรรคระบุตรงกันว่าไม่ร่วมรัฐบาลที่มีพรรคการเมืองที่มีนโยบายยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อมาเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พรรคเพื่อไทยประกาศเสนอชื่อเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาลงมติ[19] จากนั้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พรรคเพื่อไทยยกเลิกบันทึกความเข้าใจในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล[20] และเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พรรคเพื่อไทยได้ประกาศจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคภูมิใจไทย โดยมีเงื่อนไขไม่แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และไม่นำพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาล[21] จากนั้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม มีพรรคที่เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยเพิ่มเติมคือ พรรคประชาชาติ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคท้องที่ไทย[22] และวันถัดมาเพิ่มพรรคชาติไทยพัฒนาเข้ามาด้วย[23] ต่อมามีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ และอาจดึงมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งขัดกับหลักการที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้ง ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน[24] พรรคก้าวไกลจึงมีมติเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมว่า จะไม่สนับสนุนให้บุคคลที่ได้รับเสนอชื่อจากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี[25] วันเดียวกัน พรรคเพื่อไทยมีมติเสนอชื่อเศรษฐาให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี[26] สองวันถัดมาพรรครวมไทยสร้างชาติแถลงร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย[27]

 
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมด้วยพรรคร่วมรัฐบาลชุดปัจจุบัน แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2566

และเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พรรคเพื่อไทยได้นำพรรคการเมืองทั้งหมดที่ตกลงเข้าร่วมรัฐบาล รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ รวมจำนวน 11 พรรค มาร่วมกันแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล โดยมีการจัดสรรกระทรวงภายในพรรคร่วมตามสัดส่วน และทุกพรรคตกลงที่จะร่วมผลักดันนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย เช่น โครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท, การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ, การเกณฑ์ทหารโดยสมัครใจ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ[28] สุดท้าย ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เศรษฐาได้รับการลงมติเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรีจากที่ประชุมร่วมรัฐสภา เป็นจำนวน 482 ต่อ 165 เสียง งดออกเสียง 81 เสียง ส่งผลให้เศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย[29]

การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีและการปฏิบัติหน้าที่

วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2566 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่[30] โดยการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้งเป็นระยะเวลา 110 วัน นับเป็นคณะรัฐมนตรีที่ใช้เวลาจัดตั้งนานที่สุดในประวัติศาสตร์คณะรัฐมนตรีไทย

พรรคเพื่อไทยได้สัดส่วนผู้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดนี้มากที่สุด จำนวน 17 คน 20 ที่นั่ง รองลงมาเป็นพรรคภูมิใจไทย 8 คน 9 ที่นั่ง, พรรครวมไทยสร้างชาติ 4 คน 5 ที่นั่ง (รวมโควตาบุคคลภายนอก), พรรคพลังประชารัฐ 3 คน 4 ที่นั่ง, พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาชาติ พรรคละ 1 คน 1 ที่นั่ง ทั้งนี้ เศรษฐาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพิ่มอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย

ในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุด (41 ปี) ขณะที่เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นรัฐมนตรีอายุมากที่สุด (77 ปี)[31] และมีผู้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีที่เป็นสตรีจำนวน 5 คน[32]

วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 13:53 น. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ รวมจำนวน 34 คน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่[33] จากนั้นในวันรุ่งขึ้นได้มีการประชุมนัดพิเศษ[34] ก่อนเข้าแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 และ 12 กันยายน[35] และได้เริ่มประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 กันยายน[36]

รายชื่อรัฐมนตรี

  รัฐมนตรีว่าการกระทรวง   ดำรงตำแหน่งเมื่อตั้งคณะรัฐมนตรี   ดำรงตำแหน่งจนสิ้นสุดคณะรัฐมนตรี
  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง   แต่งตั้งเพิ่ม   เปลี่ยนแปลง/โยกย้ายไปตำแหน่งอื่น
  รัฐมนตรีลอย   ย้ายมาจากตำแหน่งอื่น   ออกจากตำแหน่ง
ตำแหน่ง ลำดับ รายนาม เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ หมายเหตุ พรรคการเมือง
นายกรัฐมนตรี * เศรษฐา ทวีสิน   22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
รองนายกรัฐมนตรี 1 ภูมิธรรม เวชยชัย   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
2 สมศักดิ์ เทพสุทิน   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
3 ปานปรีย์ พหิทธานุกร   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
4 อนุทิน ชาญวีรกูล   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน ภูมิใจไทย
5 พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน พลังประชารัฐ
6 พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน รวมไทยสร้างชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี   7 พวงเพ็ชร ชุนละเอียด   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
กลาโหม   8 สุทิน คลังแสง   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
การคลัง   * เศรษฐา ทวีสิน   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
  9 กฤษฎา จีนะวิจารณะ   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน อิสระ[a]
  10 จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
การต่างประเทศ   * ปานปรีย์ พหิทธานุกร   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
  11 จักรพงษ์ แสงมณี   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
การท่องเที่ยวและกีฬา   12 สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์   13 วราวุธ ศิลปอาชา   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน ชาติไทยพัฒนา
การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม   14 ศุภมาส อิศรภักดี   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน ภูมิใจไทย
เกษตรและสหกรณ์   15 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน พลังประชารัฐ
  16 ไชยา พรหมา   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
  17 อนุชา นาคาศัย   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน รวมไทยสร้างชาติ
คมนาคม   18 สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
  19 มนพร เจริญศรี   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
  20 สุรพงษ์ ปิยะโชติ   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย[b]
ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม   21 ประเสริฐ จันทรรวงทอง   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม   * พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน พลังประชารัฐ
พลังงาน   * พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน รวมไทยสร้างชาติ
พาณิชย์   * ภูมิธรรม เวชยชัย   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
  22 นภินทร ศรีสรรพางค์   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน ภูมิใจไทย
มหาดไทย   * อนุทิน ชาญวีรกูล   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน ภูมิใจไทย
  23 ทรงศักดิ์ ทองศรี   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน ภูมิใจไทย
  24 ชาดา ไทยเศรษฐ์   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน ภูมิใจไทย
  25 เกรียง กัลป์ตินันท์   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
ยุติธรรม   26 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน ประชาชาติ
แรงงาน   27 พิพัฒน์ รัชกิจประการ   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน ภูมิใจไทย
วัฒนธรรม   28 เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
ศึกษาธิการ   29 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน ภูมิใจไทย
  30 สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน ภูมิใจไทย
สาธารณสุข   31 ชลน่าน ศรีแก้ว   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน เพื่อไทย
  32 สันติ พร้อมพัฒน์   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน พลังประชารัฐ
อุตสาหกรรม   33 พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล   1 กันยายน พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน รวมไทยสร้างชาติ

คณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1

ดำรงตำแหน่งเมื่อตั้งคณะรัฐมนตรี  

นโยบาย

คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 63 ได้เข้าแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 และ 12 กันยายน[35] โดยมีนโยบายระยะเร่งด่วน 5 นโยบาย ดังนี้

  1. โครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า และวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
  2. การแก้ปัญหาหนี้สินในภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน เช่น การพักหนี้เกษตรกร การประคองภาระหนี้ให้กับกลุ่มเอสเอ็มอี
  3. การลดค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง และปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงาน โดยเน้นส่งเสริมพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน
  4. การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เช่น ปรับปรุงขั้นตอนการตรวจลงตราก่อนเข้าประเทศ เพิ่มสนามบินและเที่ยวบินเข้าประเทศไทย
  5. การแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ไม่มีการปรับแก้เนื้อหาในหมวดบททั่วไป และหมวดพระมหากษัตริย์

ส่วนนโยบายระยะกลางและระยะยาว เน้นการสร้างรายได้ โอกาส และคุณภาพชีวิตเป็นหลัก โดยแตกย่อยได้เป็นอย่างน้อย 22 นโยบาย นโยบายที่สำคัญในกลุ่มนี้ เช่น การยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค, การพัฒนากองทัพ ซึ่งเน้นการปรับรูปแบบการเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ, 1 ครอบครัว 1 ทักษะซอฟต์พาวเวอร์ เป็นต้น[37]

ข้อวิจารณ์

ดูเพิ่ม

เชิงอรรถ

  1. ถูกทาบทามเข้ามาในโควตาบุคคลภายนอกของพรรครวมไทยสร้างชาติ
  2. ถูกทาบทามเข้ามาในโควตาบุคคลภายนอกของพรรคเพื่อไทย

อ้างอิง

  1. มติรัฐสภา 482:165 โหวต เศรษฐา ทวีสิน นั่งนายกฯ 100 วันหลังเลือกตั้ง
  2. ""ชัยธวัช" รับบทมือดีล "พรรคฝ่ายค้านเดิม" ตั้งรัฐบาล นัดคุย "พท." เป็นหลัก "พิธา" ต่อสายทีละพรรค เล็งส่งคนถก "ส.ว." ปรับความเข้าใจ". สยามรัฐ. 2023-05-16. สืบค้นเมื่อ 2023-08-25.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  3. "เลือกตั้ง 2566 : ภาพแรกแกนนำ 6 พรรค "จับมือ" ตั้งรัฐบาลร่วมกับก้าวไกล". บีบีซีไทย. 2023-05-17. สืบค้นเมื่อ 2023-06-10.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  4. "เกาะติดสูตรจัดตั้งรัฐบาล ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2566". เดอะ แมทเทอร์. 2023-05-19. สืบค้นเมื่อ 2023-06-10.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  5. "พรรคร่วมรัฐบาล จ่อลงนาม MOU 22 พ.ค. ครบรอบ 9 ปีรัฐประหาร". ประชาชาติธุรกิจ. 2023-05-18. สืบค้นเมื่อ 2023-06-10.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  6. 6.0 6.1 "เลือกตั้ง 2566 : แก้ ม. 112-นิรโทษกรรมคดีการเมือง นโยบายก้าวไกลที่หายไปจาก MOU ตั้งรัฐบาล 8 พรรค". บีบีซีไทย. 2023-05-22. สืบค้นเมื่อ 2023-05-23.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  7. ""ก้าวไกล" ขอโทษประชาชน ยุติเจรจา ไม่ดึง "ชาติพัฒนากล้า" ร่วมรัฐบาล". พีพีทีวี. 2023-05-20. สืบค้นเมื่อ 2023-06-10.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  8. "เลือกตั้ง2566 : "พรรคใหม่" ถอนตัวร่วมรัฐบาลกับ "ก้าวไกล" - ยังโหวต "พิธา" เป็นนายกฯ". ไทยพีบีเอส. 2023-05-20. สืบค้นเมื่อ 2023-06-10.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  9. "เลือกตั้ง 2566 : แก้ ม. 112-นิรโทษกรรมคดีการเมือง นโยบายก้าวไกลที่หายไปจาก MOU ตั้งรัฐบาล 8 พรรค". บีบีซีไทย. 2023-05-22. สืบค้นเมื่อ 2023-05-23.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  10. "เลือกตั้ง2566 : เปิด "MOU 8 พรรค" แถลงจัดตั้งรัฐบาล". พีพีทีวี. 2023-05-22. สืบค้นเมื่อ 2023-05-23.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  11. "ด่วน โหวตนายกฯ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่ผ่านในครั้งแรก จ่อเสนอชื่อรอบ 2". ไทยรัฐ. 2023-07-13. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  12. "โหวตนายกฯ รอบ 2 : ถก 7 ชั่วโมง โหวตซ้ำ "พิธา" นายกฯ รอบ 2 ไม่ได้". ไทยพีบีเอส. 2023-07-19. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  13. "ก้าวไกล ส่งไม้ต่อ เพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล". mcot.net. สำนักข่าวไทย. 2023-07-21. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
  14. "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย โชว์ชนช็อกมิ้นต์! ภท. ยื่นเงื่อนไขเขี่ยก้าวไกล ร่วม รบ". โพสต์ทูเดย์. 2023-07-22. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
  15. ""ชาติพัฒนากล้า" พร้อมร่วมเพื่อไทย ตั้งรัฐบาล มีเงื่อนไขไม่แก้ ม.112". พีพีทีวี. 2023-07-22. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
  16. "รวมไทยสร้างชาติ เปิดเจรจาเพื่อไทย รับไม่ได้บางพรรคไม่ใช่แค่ 112". ประชาชาติธุรกิจ. 2023-07-22. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
  17. ""วราวุธ" ยันพร้อมหนุน "เพื่อไทย" ถ้าไม่แก้ ม.112 และต้องไม่มีพรรคที่แตะ ม.112". ไทยพีบีเอส. 2023-07-23. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
  18. "คำต่อคำ : ผลถก พลังประชารัฐ-เพื่อไทย หารือทางออกประเทศ 23 ก.ค. กับเรื่องเดิมๆ". สปริงนิวส์. 2023-07-23. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
  19. "'พท.'เสนอชื่อ 'เศรษฐา'ประชุมรัฐสภา4ส.ค.นี้ รับหนักใจสกรีนพรรคร่วม". เดลินิวส์. 2023-07-30. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
  20. "ย้อนรอย 72 วัน อวสาน MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล". ฐานเศรษฐกิจ. 2023-08-03. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
  21. "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย: ภูมิใจไทยถอนฟ้อง เศรษฐา ทวีสิน ประเดิมตั้งรัฐบาลขั้นต่ำ 212 เสียงร่วมกับเพื่อไทย". บีบีซีไทย. 2023-08-07. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
  22. "เพื่อไทย จับมือ 6 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล". ไทยพีบีเอส. 2023-08-09. สืบค้นเมื่อ 2023-08-10.
  23. "เปิดแถลงการณ์พรรคชาติไทยพัฒนา-เพื่อไทย สลายขั้วการเมือง". ไทยพีบีเอส. 2023-08-10. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  24. "สะพัด "เพื่อไทย" จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ 314 เสียง หลัง พปชร.-รทสช. ตอบรับ". ไทยรัฐ. 2023-08-11. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  25. "'ก้าวไกล' ไม่โหวตเห็นชอบให้แคนดิเดตนายกฯ ของรัฐบาลข้ามขั้ว ขัดเจตนารมณ์ประชาชน ดันวาระประชาชนไม่ได้". ประชาไท. 2023-08-15. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  26. "มติ พท.เสนอชื่อ'เศรษฐา'เป็นนายกฯ ต่อที่ประชุมรัฐสภา". ผู้จัดการออนไลน์. 2023-08-15. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  27. "ดีลจบ! รวมไทยสร้างชาติร่วมเพื่อไทย ตั้งรัฐบาล". ไทยพีบีเอส. 2023-08-17. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  28. ""เพื่อไทย" จับมือ 11 พรรค จัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง พรรค 2 ลุงมาครบ". พีพีทีวี. 2023-08-21. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  29. ""เศรษฐา" ฉลุย นั่งนายกฯ คนที่ 30 รัฐสภาโหวตเห็นชอบเกิน 374 เสียงแล้ว". ผู้จัดการออนไลน์. 2023-08-22. สืบค้นเมื่อ 2023-08-22.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  30. "ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 140 (พิเศษ 214 ง): 1–3. 2023-09-02. สืบค้นเมื่อ 2023-09-02.
  31. "ส่องอายุ ครม. "วัยเก๋า" เศรษฐา 1 เหล้าใหม่ ในขวดเดิม". ไทยพีบีเอส. 2023-08-31. สืบค้นเมื่อ 2023-09-05.
  32. "เปิดรายชื่อ 5 รัฐมนตรีหญิง ครม.เศรษฐา 1 ไม่พลิกโผ ประวัติแต่ละคนไม่ธรรมดา". www.sanook.com/news. 2023-09-02.
  33. "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำ คณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่". สำนักพระราชวัง. 2023-05-09. สืบค้นเมื่อ 2023-05-09.
  34. ""เศรษฐา" ประชุม ครม.นัดพิเศษ เร่งแก้ปัญหา "เอลนีโญ-ดูแลระบบขนส่ง"". ไทยรัฐ. 2023-09-06. สืบค้นเมื่อ 2023-09-28.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  35. 35.0 35.1 "ปิดฉากประชุมรัฐสภาแถลงนโยบาย เปิดฉากรัฐบาลใหม่ใต้การนำของ 'เศรษฐา ทวีสิน'". เดอะสแตนดาร์ด. 2023-09-13. สืบค้นเมื่อ 2023-09-28.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  36. "มติ ครม. แรก ในยุค "เศรษฐา 1" กระทบชีวิตความเป็นอยู่คนไทยอย่างไร". บีบีซีไทย. 2023-09-13. สืบค้นเมื่อ 2023-11-20.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  37. "คำแถลงนโยบายรัฐบาลเศรษฐา ปัดฝุ่น "ผู้ว่า CEO" แก้ รธน.ไม่แตะหมวดสถาบันฯ". บีบีซีไทย. 6 กันยายน 2023. สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2023.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)

แหล่งข้อมูลอื่น