คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 63
การแก้ไขบทความนี้ของผู้ใช้ใหม่หรือผู้ใช้ไม่ลงทะเบียนถูกปิดใช้งานจนถึง 27 ธันวาคม 2566 ดูนโยบายการป้องกันและปูมการป้องกันสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม หากคุณไม่สามารถแก้ไขบทความนี้และคุณประสงค์เปลี่ยนแปลง คุณสามารถส่งคำขอแก้ไข อภิปรายการเปลี่ยนแปลงทางหน้าคุย ขอเลิกป้องกัน ล็อกอิน หรือสร้างบัญชี |
คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 63 (1 กันยายน พ.ศ. 2566 – ปัจจุบัน) เป็นคณะรัฐมนตรีไทยซึ่งจัดตั้งขึ้นภายหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ส่งผลให้ไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมากเด็ดขาดในรัฐสภา โดยในระยะแรก พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผสมโดยรวบรวมเสียงพรรคการเมืองจำนวน 6 พรรค ต่อมาเพิ่มเป็น 8 พรรค และลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน เพื่อเสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แต่หลังจากพิธาได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด พรรคก้าวไกลจึงมอบสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ยกเลิกบันทึกความเข้าใจดังกล่าว จากนั้นรวบรวมเสียงพรรคการเมืองในรอบใหม่ ได้จำนวน 11 พรรค และเสนอชื่อเศรษฐา ทวีสิน อดีตประธานอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ซึ่งต่อมาได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจากวุฒิสภาไทย ชุดที่ 12 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตำรวจและทหารที่ใกล้ชิดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกจากนี้เศรษฐายังได้รับคะแนนเสียงจากพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ นับเป็นคณะรัฐมนตรีไทยที่นายกรัฐมนตรีได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบส่วนหนึ่งมาจากทหารตำรวจผู้มีส่วนในการเข้าร่วมรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 และรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 ได้แก่ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)[1] นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี บุตรชายของพลเอก อิสระพงศ์ หนุนภักดี เลขาธิการคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ยังได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด นับว่าคณะรัฐบาลนี้มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารสนับสนุนมากที่สุดคณะหนึ่ง
คณะรัฐมนตรีเศรษฐา | |
---|---|
คณะรัฐมนตรีคณะที่ 63 แห่งราชอาณาจักรไทย | |
พ.ศ. 2566 - ปัจจุบัน | |
![]() | |
วันแต่งตั้ง | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 (0 ปี 90 วัน) |
บุคคลและองค์กร | |
พระมหากษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว |
นายกรัฐมนตรี | เศรษฐา ทวีสิน (พท.) |
รองนายกรัฐมนตรี |
|
พรรคร่วมรัฐบาล | |
สถานะในสภานิติบัญญัติ | รัฐบาลผสม 315 / 500 (63%) |
พรรคฝ่ายค้าน | |
ผู้นำฝ่ายค้าน | ชัยธวัช ตุลาธน รอพระบรมราชโองการโปรดฯ แต่งตั้ง |
ประวัติ | |
การเลือกตั้ง | 14 พฤษภาคม 2566 |
การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี | 22 สิงหาคม 2566 |
สภานิติบัญญัติ | วุฒิสภาไทย ชุดที่ 12 สภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 26 |
วาระสภานิติบัญญัติ | 5 ปี (วุฒิสภา) 4 ปี (สภาผู้แทนราษฎร) |
งบประมาณ | พ.ศ. 2567 |
ก่อนหน้า | คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 62 |
ประวัติ
การจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคก้าวไกล
ภายหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 พรรคก้าวไกลซึ่งได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นอันดับที่ 1 ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในครั้งแรก โดยชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ทำหน้าที่ผู้จัดการรัฐบาล รวบรวมพรรคการเมืองซึ่งเคยเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านในรัฐบาลชุดก่อนหน้าทั้งหมดที่ได้รับการเลือกตั้งในครั้งนี้มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย และพรรคเสรีรวมไทย[2] และยังมีพรรคที่เข้าร่วมเพิ่มเติมภายหลังได้แก่ พรรคเป็นธรรม[3] พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคเพื่อไทรวมพลัง[4] โดยมีการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งทั้ง 8 พรรคมีมติสนับสนุนพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และบุคคลที่ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย, จัดตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาด้านต่าง ๆ[5] และจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการจัดตั้งรัฐบาลด้วยวิธีนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย[6] จากนั้นมีข่าวว่าพรรคใหม่และพรรคชาติพัฒนากล้าได้ตกลงเข้าร่วมรัฐบาลด้วย แต่ถูกคัดค้านจากประชาชนจึงถอนตัวในเวลาต่อมา[7][8]
บันทึกความเข้าใจจัดตั้งรัฐบาล
ทั้ง 8 พรรคได้ลงนามบันทึกความเข้าใจจัดตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 9 ปีของเหตุการณ์รัฐประหาร พ.ศ. 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลารัฐประหาร[6] โดยบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ยึดหลักการผลักดันนโยบายที่ไม่กระทบรูปแบบของรัฐ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดละเมิดไม่ได้ของพระมหากษัตริย์ ซึ่งหมายถึง ไม่มีวาระการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อยู่ในบันทึกความเข้าใจฉบับนี้[9] ประกอบด้วยวาระร่วม 23 ข้อ และแนวทางปฏิบัติ 5 ข้อ ซึ่งบรรจุประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่น การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ, สมรสเท่าเทียม, การปฏิรูปกองทัพและตำรวจ, การเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ, การกระจายอำนาจ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นต้น[10]
การจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย
ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีรอบแรกเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พิธาได้รับการลงมติเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรีจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาเพียง 324 เสียง ซึ่งไม่ถึง 376 เสียงตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กำหนดไว้[11] และวันที่ 19 กรกฎาคม มีการเสนอชื่อพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่รัฐสภามีมติให้การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีถือเป็นญัตติซ้ำ ทำให้ไม่สามารถเสนอชื่อพิธาได้อีกในสมัยประชุมเดียวกัน[12] สองวันถัดมา ชัยธวัชจึงประกาศมอบสิทธิ์ให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน โดยกล่าวว่ามีกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับตนไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ[13]
วันรุ่งขึ้น พรรคเพื่อไทยจึงได้เริ่มต้นเจรจากับพรรคภูมิใจไทย[14] พรรคชาติพัฒนากล้า[15] และพรรครวมไทยสร้างชาติ[16] และวันถัดมาเจรจากับพรรคชาติไทยพัฒนา[17] และพรรคพลังประชารัฐ[18] ซึ่งทั้ง 5 พรรคระบุตรงกันว่าไม่ร่วมรัฐบาลที่มีพรรคการเมืองที่มีนโยบายยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อมาเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พรรคเพื่อไทยประกาศเสนอชื่อเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาลงมติ[19] จากนั้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พรรคเพื่อไทยยกเลิกบันทึกความเข้าใจในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล[20] และเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พรรคเพื่อไทยได้ประกาศจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคภูมิใจไทย โดยมีเงื่อนไขไม่แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และไม่นำพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาล[21] จากนั้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม มีพรรคที่เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยเพิ่มเติมคือ พรรคประชาชาติ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคท้องที่ไทย[22] และวันถัดมาเพิ่มพรรคชาติไทยพัฒนาเข้ามาด้วย[23] ต่อมามีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ และอาจดึงมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งขัดกับหลักการที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้ง ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน[24] พรรคก้าวไกลจึงมีมติเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมว่า จะไม่สนับสนุนให้บุคคลที่ได้รับเสนอชื่อจากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี[25] วันเดียวกัน พรรคเพื่อไทยมีมติเสนอชื่อเศรษฐาให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี[26] สองวันถัดมาพรรครวมไทยสร้างชาติแถลงร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย[27]
และเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พรรคเพื่อไทยได้นำพรรคการเมืองทั้งหมดที่ตกลงเข้าร่วมรัฐบาล รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ รวมจำนวน 11 พรรค มาร่วมกันแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล โดยมีการจัดสรรกระทรวงภายในพรรคร่วมตามสัดส่วน และทุกพรรคตกลงที่จะร่วมผลักดันนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย เช่น โครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท, การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ, การเกณฑ์ทหารโดยสมัครใจ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ[28] สุดท้าย ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เศรษฐาได้รับการลงมติเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรีจากที่ประชุมร่วมรัฐสภา เป็นจำนวน 482 ต่อ 165 เสียง งดออกเสียง 81 เสียง ส่งผลให้เศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย[29]
การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีและการปฏิบัติหน้าที่
วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2566 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่[30] โดยการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้งเป็นระยะเวลา 110 วัน นับเป็นคณะรัฐมนตรีที่ใช้เวลาจัดตั้งนานที่สุดในประวัติศาสตร์คณะรัฐมนตรีไทย
พรรคเพื่อไทยได้สัดส่วนผู้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดนี้มากที่สุด จำนวน 17 คน 20 ที่นั่ง รองลงมาเป็นพรรคภูมิใจไทย 8 คน 9 ที่นั่ง, พรรครวมไทยสร้างชาติ 4 คน 5 ที่นั่ง (รวมโควตาบุคคลภายนอก), พรรคพลังประชารัฐ 3 คน 4 ที่นั่ง, พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาชาติ พรรคละ 1 คน 1 ที่นั่ง ทั้งนี้ เศรษฐาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพิ่มอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
ในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุด (41 ปี) ขณะที่เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นรัฐมนตรีอายุมากที่สุด (77 ปี)[31] และมีผู้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีที่เป็นสตรีจำนวน 5 คน[32]
วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 13:53 น. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ รวมจำนวน 34 คน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่[33] จากนั้นในวันรุ่งขึ้นได้มีการประชุมนัดพิเศษ[34] ก่อนเข้าแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 และ 12 กันยายน[35] และได้เริ่มประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 กันยายน[36]
รายชื่อรัฐมนตรี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวง | ดำรงตำแหน่งเมื่อตั้งคณะรัฐมนตรี | ดำรงตำแหน่งจนสิ้นสุดคณะรัฐมนตรี | ||
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง | แต่งตั้งเพิ่ม | เปลี่ยนแปลง/โยกย้ายไปตำแหน่งอื่น | ||
รัฐมนตรีลอย | ย้ายมาจากตำแหน่งอื่น | ออกจากตำแหน่ง |
ตำแหน่ง | ลำดับ | รายนาม | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ | หมายเหตุ | พรรคการเมือง | ||||
นายกรัฐมนตรี | * | เศรษฐา ทวีสิน | 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | |||||
รองนายกรัฐมนตรี | 1 | ภูมิธรรม เวชยชัย | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | |||||
2 | สมศักดิ์ เทพสุทิน | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | ||||||
3 | ปานปรีย์ พหิทธานุกร | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | ||||||
4 | อนุทิน ชาญวีรกูล | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | ภูมิใจไทย | ||||||
5 | พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | พลังประชารัฐ | ||||||
6 | พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | รวมไทยสร้างชาติ | ||||||
สำนักนายกรัฐมนตรี | 7 | พวงเพ็ชร ชุนละเอียด | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | |||||
กลาโหม | 8 | สุทิน คลังแสง | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | |||||
การคลัง | * | เศรษฐา ทวีสิน | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | |||||
9 | กฤษฎา จีนะวิจารณะ | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | อิสระ[a] | ||||||
10 | จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | ||||||
การต่างประเทศ | * | ปานปรีย์ พหิทธานุกร | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | |||||
11 | จักรพงษ์ แสงมณี | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | ||||||
การท่องเที่ยวและกีฬา | 12 | สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | |||||
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ | 13 | วราวุธ ศิลปอาชา | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | ชาติไทยพัฒนา | |||||
การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม | 14 | ศุภมาส อิศรภักดี | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | ภูมิใจไทย | |||||
เกษตรและสหกรณ์ | 15 | ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | พลังประชารัฐ | |||||
16 | ไชยา พรหมา | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | ||||||
17 | อนุชา นาคาศัย | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | รวมไทยสร้างชาติ | ||||||
คมนาคม | 18 | สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | |||||
19 | มนพร เจริญศรี | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | ||||||
20 | สุรพงษ์ ปิยะโชติ | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย[b] | ||||||
ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม | 21 | ประเสริฐ จันทรรวงทอง | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | |||||
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | * | พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | พลังประชารัฐ | |||||
พลังงาน | * | พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | รวมไทยสร้างชาติ | |||||
พาณิชย์ | * | ภูมิธรรม เวชยชัย | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | |||||
22 | นภินทร ศรีสรรพางค์ | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | ภูมิใจไทย | ||||||
มหาดไทย | * | อนุทิน ชาญวีรกูล | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | ภูมิใจไทย | |||||
23 | ทรงศักดิ์ ทองศรี | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | ภูมิใจไทย | ||||||
24 | ชาดา ไทยเศรษฐ์ | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | ภูมิใจไทย | ||||||
25 | เกรียง กัลป์ตินันท์ | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | ||||||
ยุติธรรม | 26 | พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | ประชาชาติ | |||||
แรงงาน | 27 | พิพัฒน์ รัชกิจประการ | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | ภูมิใจไทย | |||||
วัฒนธรรม | 28 | เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | |||||
ศึกษาธิการ | 29 | พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | ภูมิใจไทย | |||||
30 | สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | ภูมิใจไทย | ||||||
สาธารณสุข | 31 | ชลน่าน ศรีแก้ว | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | เพื่อไทย | |||||
32 | สันติ พร้อมพัฒน์ | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | พลังประชารัฐ | ||||||
อุตสาหกรรม | 33 | พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล | 1 กันยายน พ.ศ. 2566 | ปัจจุบัน | รวมไทยสร้างชาติ |
คณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1
ดำรงตำแหน่งเมื่อตั้งคณะรัฐมนตรี
- เศรษฐา ทวีสิน เป็น นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
- ภูมิธรรม เวชยชัย เป็น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
- สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็น รองนายกรัฐมนตรี
- ปานปรีย์ พหิทธานุกร เป็น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
- อนุทิน ชาญวีรกูล เป็น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
- พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
- พวงเพ็ชร ชุนละเอียด เป็น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
- สุทิน คลังแสง เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- กฤษฎา จีนะวิจารณะ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
- จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
- จักรพงษ์ แสงมณี เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
- สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
- วราวุธ ศิลปอาชา เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- ศุภมาส อิศรภักดี เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
- ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- ไชยา พรหมา เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- อนุชา นาคาศัย เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
- มนพร เจริญศรี เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
- สุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
- ประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
- นภินทร ศรีสรรพางค์ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
- เกรียง กัลป์ตินันท์ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
- ทรงศักดิ์ ทองศรี เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
- ชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
- ทวี สอดส่อง เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
- พิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
- เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
- เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
- สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
- ชลน่าน ศรีแก้ว เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
- สันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
- พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
- ชัย วัชรงค์ เป็น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
- คารม พลพรกลาง เป็น รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
- รัดเกล้า สุวรรณคีรี เป็น รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
- เกณิกา อุ่นจิตร์ เป็น รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นโยบาย
คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 63 ได้เข้าแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 และ 12 กันยายน[35] โดยมีนโยบายระยะเร่งด่วน 5 นโยบาย ดังนี้
- โครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า และวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
- การแก้ปัญหาหนี้สินในภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน เช่น การพักหนี้เกษตรกร การประคองภาระหนี้ให้กับกลุ่มเอสเอ็มอี
- การลดค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง และปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงาน โดยเน้นส่งเสริมพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน
- การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เช่น ปรับปรุงขั้นตอนการตรวจลงตราก่อนเข้าประเทศ เพิ่มสนามบินและเที่ยวบินเข้าประเทศไทย
- การแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ไม่มีการปรับแก้เนื้อหาในหมวดบททั่วไป และหมวดพระมหากษัตริย์
ส่วนนโยบายระยะกลางและระยะยาว เน้นการสร้างรายได้ โอกาส และคุณภาพชีวิตเป็นหลัก โดยแตกย่อยได้เป็นอย่างน้อย 22 นโยบาย นโยบายที่สำคัญในกลุ่มนี้ เช่น การยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค, การพัฒนากองทัพ ซึ่งเน้นการปรับรูปแบบการเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ, 1 ครอบครัว 1 ทักษะซอฟต์พาวเวอร์ เป็นต้น[37]
ข้อวิจารณ์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ (พฤศจิกายน 2023) |
ดูเพิ่ม
เชิงอรรถ
- ↑ ถูกทาบทามเข้ามาในโควตาบุคคลภายนอกของพรรครวมไทยสร้างชาติ
- ↑ ถูกทาบทามเข้ามาในโควตาบุคคลภายนอกของพรรคเพื่อไทย
อ้างอิง
- ↑ มติรัฐสภา 482:165 โหวต เศรษฐา ทวีสิน นั่งนายกฯ 100 วันหลังเลือกตั้ง
- ↑ ""ชัยธวัช" รับบทมือดีล "พรรคฝ่ายค้านเดิม" ตั้งรัฐบาล นัดคุย "พท." เป็นหลัก "พิธา" ต่อสายทีละพรรค เล็งส่งคนถก "ส.ว." ปรับความเข้าใจ". สยามรัฐ. 2023-05-16. สืบค้นเมื่อ 2023-08-25.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "เลือกตั้ง 2566 : ภาพแรกแกนนำ 6 พรรค "จับมือ" ตั้งรัฐบาลร่วมกับก้าวไกล". บีบีซีไทย. 2023-05-17. สืบค้นเมื่อ 2023-06-10.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "เกาะติดสูตรจัดตั้งรัฐบาล ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2566". เดอะ แมทเทอร์. 2023-05-19. สืบค้นเมื่อ 2023-06-10.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "พรรคร่วมรัฐบาล จ่อลงนาม MOU 22 พ.ค. ครบรอบ 9 ปีรัฐประหาร". ประชาชาติธุรกิจ. 2023-05-18. สืบค้นเมื่อ 2023-06-10.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 6.0 6.1 "เลือกตั้ง 2566 : แก้ ม. 112-นิรโทษกรรมคดีการเมือง นโยบายก้าวไกลที่หายไปจาก MOU ตั้งรัฐบาล 8 พรรค". บีบีซีไทย. 2023-05-22. สืบค้นเมื่อ 2023-05-23.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ""ก้าวไกล" ขอโทษประชาชน ยุติเจรจา ไม่ดึง "ชาติพัฒนากล้า" ร่วมรัฐบาล". พีพีทีวี. 2023-05-20. สืบค้นเมื่อ 2023-06-10.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "เลือกตั้ง2566 : "พรรคใหม่" ถอนตัวร่วมรัฐบาลกับ "ก้าวไกล" - ยังโหวต "พิธา" เป็นนายกฯ". ไทยพีบีเอส. 2023-05-20. สืบค้นเมื่อ 2023-06-10.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "เลือกตั้ง 2566 : แก้ ม. 112-นิรโทษกรรมคดีการเมือง นโยบายก้าวไกลที่หายไปจาก MOU ตั้งรัฐบาล 8 พรรค". บีบีซีไทย. 2023-05-22. สืบค้นเมื่อ 2023-05-23.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "เลือกตั้ง2566 : เปิด "MOU 8 พรรค" แถลงจัดตั้งรัฐบาล". พีพีทีวี. 2023-05-22. สืบค้นเมื่อ 2023-05-23.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ด่วน โหวตนายกฯ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่ผ่านในครั้งแรก จ่อเสนอชื่อรอบ 2". ไทยรัฐ. 2023-07-13. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "โหวตนายกฯ รอบ 2 : ถก 7 ชั่วโมง โหวตซ้ำ "พิธา" นายกฯ รอบ 2 ไม่ได้". ไทยพีบีเอส. 2023-07-19. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ก้าวไกล ส่งไม้ต่อ เพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล". mcot.net. สำนักข่าวไทย. 2023-07-21. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
- ↑ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย โชว์ชนช็อกมิ้นต์! ภท. ยื่นเงื่อนไขเขี่ยก้าวไกล ร่วม รบ". โพสต์ทูเดย์. 2023-07-22. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
- ↑ ""ชาติพัฒนากล้า" พร้อมร่วมเพื่อไทย ตั้งรัฐบาล มีเงื่อนไขไม่แก้ ม.112". พีพีทีวี. 2023-07-22. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
- ↑ "รวมไทยสร้างชาติ เปิดเจรจาเพื่อไทย รับไม่ได้บางพรรคไม่ใช่แค่ 112". ประชาชาติธุรกิจ. 2023-07-22. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
- ↑ ""วราวุธ" ยันพร้อมหนุน "เพื่อไทย" ถ้าไม่แก้ ม.112 และต้องไม่มีพรรคที่แตะ ม.112". ไทยพีบีเอส. 2023-07-23. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
- ↑ "คำต่อคำ : ผลถก พลังประชารัฐ-เพื่อไทย หารือทางออกประเทศ 23 ก.ค. กับเรื่องเดิมๆ". สปริงนิวส์. 2023-07-23. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
- ↑ "'พท.'เสนอชื่อ 'เศรษฐา'ประชุมรัฐสภา4ส.ค.นี้ รับหนักใจสกรีนพรรคร่วม". เดลินิวส์. 2023-07-30. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
- ↑ "ย้อนรอย 72 วัน อวสาน MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล". ฐานเศรษฐกิจ. 2023-08-03. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
- ↑ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย: ภูมิใจไทยถอนฟ้อง เศรษฐา ทวีสิน ประเดิมตั้งรัฐบาลขั้นต่ำ 212 เสียงร่วมกับเพื่อไทย". บีบีซีไทย. 2023-08-07. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
- ↑ "เพื่อไทย จับมือ 6 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล". ไทยพีบีเอส. 2023-08-09. สืบค้นเมื่อ 2023-08-10.
- ↑ "เปิดแถลงการณ์พรรคชาติไทยพัฒนา-เพื่อไทย สลายขั้วการเมือง". ไทยพีบีเอส. 2023-08-10. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "สะพัด "เพื่อไทย" จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ 314 เสียง หลัง พปชร.-รทสช. ตอบรับ". ไทยรัฐ. 2023-08-11. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "'ก้าวไกล' ไม่โหวตเห็นชอบให้แคนดิเดตนายกฯ ของรัฐบาลข้ามขั้ว ขัดเจตนารมณ์ประชาชน ดันวาระประชาชนไม่ได้". ประชาไท. 2023-08-15. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "มติ พท.เสนอชื่อ'เศรษฐา'เป็นนายกฯ ต่อที่ประชุมรัฐสภา". ผู้จัดการออนไลน์. 2023-08-15. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ดีลจบ! รวมไทยสร้างชาติร่วมเพื่อไทย ตั้งรัฐบาล". ไทยพีบีเอส. 2023-08-17. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ""เพื่อไทย" จับมือ 11 พรรค จัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง พรรค 2 ลุงมาครบ". พีพีทีวี. 2023-08-21. สืบค้นเมื่อ 2023-08-21.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ""เศรษฐา" ฉลุย นั่งนายกฯ คนที่ 30 รัฐสภาโหวตเห็นชอบเกิน 374 เสียงแล้ว". ผู้จัดการออนไลน์. 2023-08-22. สืบค้นเมื่อ 2023-08-22.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 140 (พิเศษ 214 ง): 1–3. 2023-09-02. สืบค้นเมื่อ 2023-09-02.
- ↑ "ส่องอายุ ครม. "วัยเก๋า" เศรษฐา 1 เหล้าใหม่ ในขวดเดิม". ไทยพีบีเอส. 2023-08-31. สืบค้นเมื่อ 2023-09-05.
- ↑ "เปิดรายชื่อ 5 รัฐมนตรีหญิง ครม.เศรษฐา 1 ไม่พลิกโผ ประวัติแต่ละคนไม่ธรรมดา". www.sanook.com/news. 2023-09-02.
- ↑ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำ คณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่". สำนักพระราชวัง. 2023-05-09. สืบค้นเมื่อ 2023-05-09.
- ↑ ""เศรษฐา" ประชุม ครม.นัดพิเศษ เร่งแก้ปัญหา "เอลนีโญ-ดูแลระบบขนส่ง"". ไทยรัฐ. 2023-09-06. สืบค้นเมื่อ 2023-09-28.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 35.0 35.1 "ปิดฉากประชุมรัฐสภาแถลงนโยบาย เปิดฉากรัฐบาลใหม่ใต้การนำของ 'เศรษฐา ทวีสิน'". เดอะสแตนดาร์ด. 2023-09-13. สืบค้นเมื่อ 2023-09-28.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "มติ ครม. แรก ในยุค "เศรษฐา 1" กระทบชีวิตความเป็นอยู่คนไทยอย่างไร". บีบีซีไทย. 2023-09-13. สืบค้นเมื่อ 2023-11-20.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "คำแถลงนโยบายรัฐบาลเศรษฐา ปัดฝุ่น "ผู้ว่า CEO" แก้ รธน.ไม่แตะหมวดสถาบันฯ". บีบีซีไทย. 6 กันยายน 2023. สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2023.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
แหล่งข้อมูลอื่น
- "บันทึกความเข้าใจร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล" (PDF). พรรคก้าวไกล. 2023-05-22. สืบค้นเมื่อ 2023-06-10.