สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
articleนี้ อาศัยการอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิมากเกินไป (เรียนรู้ว่าจะนำสารแม่แบบนี้ออกได้อย่างไรและเมื่อไร) |
พลเอก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ (28 เมษายน พ.ศ. 2406 – 10 มีนาคม พ.ศ. 2490) มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าจิตรเจริญ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพรรณราย
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ | |
---|---|
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 4 เจ้าฟ้าชั้นโท | |
![]() | |
เสนาบดีกระทรวงกลาโหม | |
ดำรงตำแหน่ง | พ.ศ. 2437 - พ.ศ. 2442 |
รัชสมัย | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ก่อนหน้า | เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (พุ่ม ศรีไชยันต์) |
ถัดไป | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม |
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ | |
ดำรงตำแหน่ง | 12 มกราคม พ.ศ. 2477[1][2] - 2 มีนาคม พ.ศ. 2478[2] |
รัชสมัย | พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว |
หม่อม | หม่อมราชวงศ์ปลื้ม จิตรพงศ์ หม่อมมาลัย จิตรพงศ์ ณ อยุธยา หม่อมราชวงศ์โต จิตรพงศ์ |
พระบุตร | 9 องค์ |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระมารดา | พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพรรณราย |
ประสูติ | 28 เมษายน พ.ศ. 2406 จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม |
สิ้นพระชนม์ | 10 มีนาคม พ.ศ. 2490 (83 ปี) จังหวัดพระนคร ประเทศไทย |
พระประวัติแก้ไข
เมื่อวันอังคารเดือน 6 ขึ้น 11 ค่ำ ปีกุน เบญจศก จ.ศ. 1225 ตรงกับวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2406 และได้รับพระราชทานพระนามจากสมเด็จพระชนกนาถโดยมีพระราชหัตถเลขา ดังนี้[3]
"สมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้ากรุงสยามผู้พระบิดา ขอตั้งนามบุตรชายที่ประสูติจากหญิงแฉ่พรรณรายผู้มารดา ในวันอังคาร เดือน 6 ขึ้น 11 ค่ำ ปีกุนเบญศกนั้นว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าจิตรเจริญ สิงหนาม ขอจงมีความเจริญชนมายุ พรรณ สุข พล ปฏิภาณ ศุภสารสมบัติ สุวรรณหิรัญรัตนยศบริวารศฤงคารศักดานุภาพ ตระบะเดชพิเศษคุณสุนทรศรีสวัสดิ พิพัฒนมงคลพิบุลยผลทุกประการ เทอญ"
เมื่อครั้งที่สมเด็จพระชนกนาถสวรรคต พระองค์มีพระชันษาเพียง 5 ปี แต่ทรงจำถึงตอนหนึ่งว่า "สมเด็จพระราชบิดาทรงประทับนั่งที่เก้าอี้ที่หมุนได้ ทรงฉลองพระองค์สีแดงสด"
ในปี พ.ศ. 2428 ได้รับการสถาปนาจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนนริศรานุวัติวงษ[4] นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังมีพระราชดำริว่า หม่อมเจ้าพรรณราย พระมารดาในพระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนนริศรานุวัติวงษนั้น นับเป็นพระเจ้าหลานเธอในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระขนิษฐาร่วมพระชนกในสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี (สมเด็จพระบรมราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ดังนั้น พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนนริศรานุวัติวงษจึงมีพระอัยการ่วมกับพระองค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีพระบรมราชโองการสถาปนา พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนนริศรานุวัติวงษ ขึ้นเป็นพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัติวงษ พร้อมกันนี้ทรงสถาปนาพระเชษฐภคินีในพระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนนริศรานุวัติวงษ ขึ้นเป็น พระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนขัตติยกัลยา ด้วย[5]
นอกจากนี้พระองค์ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นองคมนตรี[6][7] เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2430
หลังจากที่ได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ เสนาบดีกระทรวงพระคลัง เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการ ผู้บัญชาการทหารเรือ จนกระทั่งได้รับพระราชทานพระยศเป็น พลโท เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2444 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชดำริเห็นควรที่จะสถาปนาให้ดำรงพระอิสริยยศที่ "กรมหลวง" ได้ กอปรกับการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ ซึ่งเป็นพระโสทรานุชา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงสถาปนาพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัติวงษขึ้นเป็นเจ้าฟ้าต่างกรม มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัตติวงษ์ เมื่อ ปี พ.ศ. 2448[8]
เมื่อ พ.ศ. 2452 พระองค์ประชวรด้วยโรคพระหทัยโตขณะที่ยังทรงรับราชการในตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงวังจึงได้กราบถวายบังคมลาออกจากราชการ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตตามที่ทรงขอ จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึงแม้ด้วยพระโรคที่พระองค์เป็นอยู่นั้นไม่เอื้ออำนวยให้พระองค์ทรงสามารถรับราชการในตำแหน่งที่สำคัญ ๆ ได้ แต่พระองค์ก็ยังคงรับราชการส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยทรงออกแบบงานต่าง ๆ ตามพระราชประสงค์ เช่น พระโกศพระบรมอัฐิและพระวิมานทองคำลงยาราชาวดีสำหรับประดิษฐานพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นต้น ดังนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีพระบรมราชโองการเลื่อนกรมสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัตติวงษ์ขึ้นเป็นกรมพระ มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า[9] สมเด็จพระเจ้าบรมวงษ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ มหามกุฏพงศ์นฤบดินทร ปรมินทรานุชาธิเบนทร์ ปรเมนทรราชปิตุลา สวามิภักดิ์สยามวิชิต สรรพศิลปสิทธิวิทยาธร สุรจิตรกรศุภโกศล ประพนธปรีชาชาญโบราณคดี สังคีตวาทิตวิธีวิจารณ์ มโหฬารสีตลัธยาศรัย พุทธาทิไตรรัตนสรณานุวัติ ขัตติยเดชานุภาพบพิตร
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นอภิรัฐมนตรี[10] ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 ถึงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2475[11]
วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2488 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลจึงมีพระบรมราชโองการให้เลื่อนเป็นกรมพระยา มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ มหามกุฎพงศนฤบดินทร์ ปรมินทรานุชาธิเบนทร์ อัฐเมนทรราชอัยยกา สวามิภักดิ์สยามวิชิต สรรพศิลปสิทธิวิทยาธร สุรจิตรกรศุภโกศล ประพนธปรีชาชาญโบราณคดี สังคีตวาทิตวิธิวิจารณ์ มโหฬารสีตลัธยาศรัย พุทธาทิไตรรัตนสรณานุวัตน์ ขัตติยเดชานุภาพบพิตร ทรงศักดินา 50000[12]
ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่กับงานศิลปะและวิทยาการจนพระกำลังพระปัญญาเสื่อมลงทุกที ด้วยทรงพระชราด้วยโรคภัยเบียดเบียน คือ โรคพระหทัยโต หลอดลมอักเสบเรื้อรัง และโรคเส้นพระโลหิตแข็ง วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2490 จึงสิ้นพระชนม์โดยสงบ ขณะมีพระชันษาได้ 83 ปี เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงทราบจึงโปรดเกล้าฯ ให้มีการไว้ทุกข์ในพระราชสำนักมีกำหนด 15 วัน[13] มีการจัดพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2493 โดยใช้พระเมรุองค์เดียวกับพระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร[14] และนับเป็นพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีพระชนม์ชีพมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
พระกรณียกิจแก้ไข
ด้านราชการแก้ไข
พระองค์ทรงเป็นเสนาบดีหลายกระทรวง ประกอบไปด้วย กระทรวงโยธาธิการ[15] กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ กระทรวงกลาโหม กระทรวงวัง ทั้งยังดำรงตำแหน่งองคมนตรีและรัฐมนตรีสภา[16] และสมาชิกสภาการคลัง[17]
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงตำแหน่งอภิรัฐมนตรีที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน อุปนายกราชบัณฑิตยสภา แผนกศิลปากร และพระองค์ยังได้รับการแต่งให้ให้ดำรงตำแหน่งผู้กำกับการพระราชวงศ์ มีหน้าที่สนองพระเดชพระคุณในพระราชกรณียกิจส่วนพระองค์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระราชวงศ์พระองค์ใดที่มีกิจที่ไม่ต้องกราบบังคมทูลพระกรุณาก็ให้ติดต่อกราบบังคมทูลต่อพระองค์แทน[18] นอกจากนี้ ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จยังต่างประเทศ พระองค์ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2476[19] จนกระทั่ง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสละราชสมบัติ พระองค์จึงพ้นจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ด้านศิลปกรรมแก้ไข
งานสถาปัตยกรรมที่โปรดทำมากคือ แบบพระเมรุ โดยตรัสว่า "เป็นงานที่ทำขึ้นใช้ชั่วคราวแล้วรื้อทิ้งไป เป็นโอกาสได้ทดลองใช้ปัญญาความคิดแผลงได้เต็มที่ จะผิดพลาดไปบ้างก็ไม่สู้กระไร ระวังเพียงอย่างเดียวคือเรื่องทุนเท่านั้น"
ด้านสถาปัตยกรรมแก้ไข
- การออกแบบก่อสร้างพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2442
- การออกแบบก่อสร้างอาคารเรียนโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร เริ่มก่อสร้างเมื่อ วันที่ 4 มิถุนายน รัตนโกสินทรศก 121 (พ.ศ. 2445) หรือ ร.ศ. 121
งานด้านสถาปัตยกรรมเป็นงานที่พระองค์ทรงพิถีพิถันอย่างมาก เพราะตรัสว่า "ต้องระวังเพราะสร้างขึ้นก็เพื่อความพอใจ ความเพลิดเพลินตา ไม่ใช่สร้างขึ้นเพื่ออยากจะรื้อทิ้ง ทุนรอนที่เสียไปก็ใช่จะเอาคืนมาได้ ผลที่สุดก็ต้องทิ้งไว้เป็นอนุสาวรีย์สำหรับขายความอาย"
ด้านภาพจิตรกรรมแก้ไข
- ภาพเขียน
- ภาพเขียนสีน้ำมันประกอบพระราชพงศาวดาร แผ่นดินพระเจ้าท้ายสระครั้งกรุงศรีอยุธยา เป็นภาพช้างทรงพระมหาอุปราชแทงช้างพระที่นั่ง ภาพเขียนรถพระอาทิตย์ที่เพดานพระที่นั่งภานุมาศจำรูญ (พระที่นั่งบรมพิมาน)
- ภาพประกอบเรื่องธรรมาธรรมะสงคราม
- ภาพแบบพัดต่าง ๆ
ฯลฯ
ด้านออกแบบแก้ไข
- ออกแบบตรากระทรวงต่าง ๆ
- อนุสาวรีย์ทหารอาสา
- อนุสาวรีย์สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
- อุทกทาน (องค์พระธรณีบีบมวยผมที่เชิงสะพานผ่านพิภพลีลา)
- พระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชที่เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า
- พระเมรุมาศ และพระเมรุของพระบรมวงศ์หลายพระองค์
- พระพุทธไสยาสน์ ประดิษฐาน ห้องกรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย ตึกไชยันต์ โรงเรียนวัดราชาธิวาส สร้างอุทิศถวายและบรรจุพระอัฐิ และพระอังคาร ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย
ด้านวรรณกรรมแก้ไข
มีทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง เช่น โคลงประกอบภาพจิตรกรรมภาพพระราชพงศาวดาร โคลงประกอบเรื่องรามเกียรติ์ ทรงพระนิพนธ์เมื่องานฉลองพระนครครบรอบร้อยปี, ลายพระหัตถ์โต้ตอบประทานบุคคลต่าง ๆ เช่น จดหมายเวรโต้ตอบกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ลายพระหัตถ์ประทานความรู้ในลักษณะจดหมายโต้ตอบพระสารประเสริฐและพระยาอนุมานราชธน เรื่องภาษาและประเพณี ลายพระหัตถ์โต้ตอบเหล่านี้ เป็นเหมือนคลังความรู้สำหรับผู้สนใจใฝ่ศึกษาค้นคว้าทั่วไป
ด้านดุริยางคศิลป์และนาฏศิลป์แก้ไข
ทรงสนพระทัยทั้งดนตรีไทยและดนตรีสากล โดยเฉพาะดนตรีไทยนั้นทรงฝึกฝนมาแต่พระเยาว์ ทรงถนัดเล่นปี่พาทย์และระนาดมากกว่าเครื่องดนตรีอื่น ๆ
- เพลงพระนิพนธ์
- เพลงสรรเสริญพระบารมี (คำร้อง)
- เพลงเขมรไทรโยค
- เพลงตับ เช่น ตับแม่ศรีทรงเครื่อง ตับเรื่องขอมดำดิน
ด้านบทละครแก้ไข
ทรงนิพนธ์บทละครดึกดำบรรพ์ไว้หลายเรื่อง เช่น
- สังข์ทอง ตอนทิ้งพวงมาลัย ตีคลี และตอนถอดรูป
- คาวี ตอนเผาพระขรรค์ ชุบตัว และตอนหึง
- อิเหนา ตอนตัดดอกไม้ฉายกริช ไหว้พระ และตอนบวงสรวง
- รามเกียรติ์ ตอนศูรปนขาตีสีดา
พระโอรสและพระธิดาแก้ไข
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงเป็นต้นราชสกุลจิตรพงศ์ มีหม่อม 3 ท่าน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์ปลื้ม (ราชสกุลเดิม: ศิริวงศ์) พระธิดาในพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้เป็นสะใภ้หลวง
- หม่อมมาลัย (สกุลเดิม: เศวตามร์) ธิดาพระสาครสมบัติ (เผือก เศวตามร์)
- หม่อมราชวงศ์โต (ราชสกุลเดิม: งอนรถ) ธิดาในหม่อมเจ้าแดง งอนรถ กับหม่อมวัน งอนรถ ณ อยุธยา
โดยมีพระโอรสธิดารวมทั้งหมด 9 พระองค์ เป็นชาย 5 พระองค์ และหญิง 4 พระองค์
พระรูป | พระนาม | หม่อมมารดา | ประสูติ | สิ้นชีพิตักษัย | คู่สมรส |
---|---|---|---|---|---|
1. หม่อมเจ้าหญิงปลื้มจิตร (ท่านหญิงเอื้อย) |
หม่อมราชวงศ์ปลื้ม | 6 มกราคม 2433 | 29 ธันวาคม 2459 | ||
2. หม่อมเจ้าอ้าย (ท่านชายอ้าย) |
ที่ 1 ในหม่อมมาลัย | ไม่ทราบปี | 5 กันยายน 2446 | ||
3. หม่อมเจ้าเจริญใจ (ท่านชายยี่) |
ที่ 2 ในหม่อมมาลัย | 28 พฤษภาคม 2440 | 2 พฤษภาคม 2493 | หม่อมอ่อน | |
4. หม่อมเจ้าสาม (ท่านชายสาม) |
ที่ 1 ในหม่อมราชวงศ์โต | พ.ศ. 2447 | พ.ศ. 2447 | ||
5. หม่อมเจ้าหญิงประโลมจิตร ไชยันต์ (ท่านหญิงอี่) |
ที่ 2 ในหม่อมราชวงศ์โต | 8 มีนาคม 2448 | 31 ตุลาคม 2513 | หม่อมเจ้าตระนักนิธิผล ไชยันต์ | |
6. หม่อมเจ้าหญิงดวงจิตร (ท่านหญิงอาม) |
ที่ 3 ในหม่อมราชวงศ์โต | 26 กันยายน 2451 | 6 กันยายน 2548 | ||
7. หม่อมเจ้ายาใจ (ท่านชายไส) |
ที่ 4 ในหม่อมราชวงศ์โต | 28 ธันวาคม 2453 | 28 พฤศจิกายน 2539 | หม่อมจักลิน (ดูบัวส์) | |
8. หม่อมเจ้าเพลารถ (ท่านชายงั่ว) |
ที่ 5 ในหม่อมราชวงศ์โต | 3 ธันวาคม 2457 | 26 มีนาคม 2537 | หม่อมเจ้ากุมารีเฉลิมลักษณ์ (ดิศกุล) | |
9. หม่อมเจ้าหญิงกรณิกา (ท่านหญิงไอ) |
ที่ 6 ในหม่อมราชวงศ์โต | 11 ธันวาคม 2459 | 6 พฤษภาคม 2558 |
พระยศแก้ไข
พลเอก นายกองตรี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ | |
---|---|
รับใช้ | กองทัพบกสยาม กองเสือป่า |
ชั้นยศ | พลเอก นายกองตรี |
พระยศทหารแก้ไข
พระยศพลเรือนแก้ไข
- 22 กันยายน พ.ศ. 2455 - มหาเสวกเอก[22]
พระยศเสือป่าแก้ไข
- 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 นายกองตรี[23]
พระเกียรติยศแก้ไข
พระอิสริยยศแก้ไข
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ | |
---|---|
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
ตราประจำพระองค์ | |
การทูล | ใต้ฝ่าพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พะยะค่ะ/เพคะ |
- พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าจิตรเจริญ (28 เมษายน พ.ศ. 2406 – 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411)
- พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจิตรเจริญ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 – 10 มีนาคม พ.ศ. 2428)
- พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ (10 มีนาคม พ.ศ. 2428 – 18 ธันวาคม พ.ศ. 2430)
- พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ (18 ธันวาคม พ.ศ. 2430 – 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2448)
- สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์ (10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2448 – 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453)
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์ (23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 – 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456)
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ มหามกุฏพงศ์นฤบดินทร ปรมินทรานุชาธิเบนทร์ ปรเมนทรราชปิตุลา สวามิภักดิ์สยามวิชิต สรรพศิลปสิทธิวิทยาธร สุรจิตรกรศุภโกศล ประพนธปรีชาชาญโบราณคดี สังคีตวาทิตวิธีวิจารณ์ มโหฬารสีตลัธยาศรัย พุทธาทิไตรรัตนสรณานุวัติ ขัตติยเดชานุภาพบพิตร (11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2488)
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ มหามกุฎพงศนฤบดินทร์ ปรมินทรานุชาธิเบนทร์ อัฐเมนทรราชอัยยกา สวามิภักดิ์สยามวิชิต สรรพศิลปสิทธิวิทยาธร สุรจิตรกรศุภโกศล ประพนธปรีชาชาญโบราณคดี สังคีตวาทิตวิธิวิจารณ์ มโหฬารสีตลัธยาศรัย พุทธาทิไตรรัตนสรณานุวัตน์ ขัตติยเดชานุภาพบพิตร (31 ธันวาคม พ.ศ. 2488 – 10 มีนาคม พ.ศ. 2490)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์แก้ไข
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทยแก้ไข
พระองค์ทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลต่าง ๆ ดังนี้[24]
- พ.ศ. 2481 - เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.) (ฝ่ายหน้า) (ดาราประดับเพชร)[25]
- พ.ศ. 2436 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ (น.ร.) (ฝ่ายหน้า)[26]
- พ.ศ. 2443 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ (ป.จ.ว.) (สังวาลจุลจอมเกล้าทองคำลงยา)[27]
- พ.ศ. 2459 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนวราภรณ์ (ร.ว.) (ฝ่ายหน้า)[28]
- พ.ศ. 2468 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[29]
- พ.ศ. 2461 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[30]
- พ.ศ. 2436 - เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ))
- พ.ศ. 2433 - เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ))[31]
- พ.ศ. 2436 - เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)
- พ.ศ. 2447 - เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4 ชั้นที่ 2 (ม.ป.ร.2)[32]
- พ.ศ. 2451 - เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 1 (จ.ป.ร.1)[33]
- พ.ศ. 2453 - เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 1 (ว.ป.ร.1)[34]
- พ.ศ. 2469 - เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 1 (ป.ป.ร.1)[35]
- พ.ศ. 2481 - เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8 ชั้นที่ 1 (อ.ป.ร.1)[36]
- พ.ศ. 2441 - เหรียญราชินี (ส.ผ.)[37]
- พ.ศ. 2469 - เสมาบรมราชาภิเษกทอง รัชกาลที่ 7[38]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศแก้ไข
- พ.ศ. 2435 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฏอิตาลี ชั้นที่ 1, ประเทศอิตาลี[39]
พระสมัญญานามแก้ไข
การระฦกแก้ไข
วันที่ 28 เมษายนเป็นวันครบรอบวันประสูติของพระองค์ ทุกปีจะมีงาน "วันนริศ" ณ ตำหนักปลายเนิน คลองเตย มีการแสดงละคร การบรรเลงเพลงพระนิพนธ์ การตั้งแสดงงานฝีพระหัตถ์บางชิ้น และการมอบ "ทุนนริศรานุวัดติวงศ์" แก่นักศึกษาในสาขาวิชาศิลปะ
เนื่องในวาระฉลองวันประสูติครบ 100 พรรษาของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2506 องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ได้ประกาศยกย่องให้พระองค์เป็นบุคคลสำคัญของโลกประจำปี พ.ศ. 2506 นับเป็นบุคคลไทยคนที่ 2 ที่ได้รับการยกย่องดังกล่าว[44]
พงศาวลีแก้ไข
พงศาวลีของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ |
อ้างอิงแก้ไข
- เชิงอรรถ
- ↑ พระราชกฤษฎีกา ตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พุทธศักราช ๒๔๗๖ ราชกิจจานุเบกษา, 11 มกราคม 2476, เล่ม 50, หน้า 838, สืบค้นวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561
- ↑ 2.0 2.1 นับตามปีปฏิทินสากล
- ↑ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, คาถาพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระนามพระราชโอรสธิดา, โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, พ.ศ. 2472
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งกรม, เล่ม ๑, ตอน ๖๕, ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๘, หน้า ๕๖๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, คำประกาศตั้งเจ้าฟ้ากรมขุน (พระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนขัติยกัลยา และพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัติวงษ), เล่ม 4, ตอน 37, 30 ธันวาคม พ.ศ. 2430, หน้า 293
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวตั้งปริวีเคาน์ซิลเลอร์, เล่ม 4, หน้า 45
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, สัญญาบัตรปริวีเคาน์ซิลเลอร์, เล่ม 4, หน้า 47-48
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศเลื่อนกรมและตั้งเจ้าพระยา, เล่ม ๒๒, ตอน ๓๔, ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๘, หน้า ๗๓๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เลื่อนกรม ตั้งกรม ตั้งพระองค์เจ้า และตั้งเจ้าพระยา, เล่ม ๓๐, ตอน ก, ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๖, หน้า ๓๒๙
- ↑ "พระราชดำรัสทรงตั้งอภิรัฐมนตรีสภา" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 42 (0 ง): 2618. 28 พฤศจิกายน 2468. สืบค้นเมื่อ 8 มีนาคม 2562. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "พระบรมราชโองการ ประกาศ เลิกอภิรัฐมนตรีสภา" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 49 (0 ก): 2618. 17 กรกฎาคม 2475. สืบค้นเมื่อ 8 มีนาคม 2562. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัติวงศ์ ขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยา, เล่ม ๖๓, ตอนที่ ๑ ก, ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๙, หน้า ๕-๘
- ↑ "ข่าวในพระราชสำนัก วันอังคาร ที่ ๑๑ มีนาคม ๒๔๙๐ กำหนดการ พระราชกุศลทักษิณานุสรณ์พระราชทานสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ พุทธศักราช ๒๔๙๐" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 64 (13 ง): 491. 18 มีนาคม 2490. สืบค้นเมื่อ 13 สิงหาคม 2563. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "กำหนดการ ที่ ๗/๒๔๙๓ พระราชทานเพลิงศพจอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระศพพลเอก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ และพระศพ พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าพวงสร้อยสอางค์พระองค์เจ้าประภาพรรณพิไลย ณ พระเมรุท้องสนามหลวง พุทธศักราช ๒๔๙๓" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 67 (21 ง): 1525, 1540–1550. 11 เมษายน 2493. สืบค้นเมื่อ 14 มีนาคม 2562. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2445/006/84.PDF
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2437/044/367.PDF
- ↑ ประกาศตั้งสมาชิกสภาการคลังhttp://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2468/A/438.PDF
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งผู้กำกับการพระราชวงศ์(สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์), เล่ม ๔๔, ตอน ๐ ก, ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๐, หน้า ๒๓๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชกฤษฎีกาตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พุทธศักราช ๒๔๗๖, เล่ม ๕๐, ตอน ๐ ก, ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๖, หน้า ๘๓๘
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรทหารบก
- ↑ พระราชทานยศทหารบก
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา,ประกาศพระราชทานยศแก่ข้าราชการในกระทรวงวัง เล่ม 29 หน้า 1405 วันที่ 22 กันยายน 2455
- ↑ พระราชทานยศเสือป่า
- ↑ ผู้บัญชาการทหารบก พลเอก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ จากเว็บไซต์กองทัพบก
- ↑ "แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 55 (0 ง): 2801. 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "ถวายบังคมพระบรมรูป และ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 10 (34): 368. 16 พฤศจิกายน ร.ศ. 112. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า และ ฝ่ายใน" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 17 (35): 500. 25 พฤศจิกายน ร.ศ. 119. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "พระราชทานตรารัตนวราภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 0 ง: 2923. 21 มกราคม พ.ศ. 2459. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 42 (0 ง): 3670. 7 มีนาคม พ.ศ. 2468. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 35 (0 ง): 2848. 19 มกราคม พ.ศ. 2461. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 7 (43): 392. 25 มกราคม ร.ศ. 109. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ ๔" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 21 (32): 565. 6 พฤศจิกายน ร.ศ. 123. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลปัจจุบันฝ่ายหน้า" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 25 (35): 1012. 29 พฤศจิกายน ร.ศ. 127. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 27 (0 ง): 2410. 11 มกราคม ร.ศ. 129. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ฝ่ายหน้า" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 43 (0 ง): 3120. 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 55 (0 ง): 2960. 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "พระราชทานเหรียญราชินี" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 15 (26): 283. 21 กันยายน ร.ศ. 117. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "ประกาศกระทรวงวัง เรื่อง การประดับเสมาบรมราชาภิเษก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 43 (0 ง): 3721. 16 มกราคม พ.ศ. 2470. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 9 (ตอน 5): หน้า 12. 1 พฤษภาคม 2435. สืบค้นเมื่อ 23 มิถุนายน 2562. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ http://kingchulalongkorn.car.chula.ac.th/th/library/detail/13380
- ↑ https://tci-thaijo.org/index.php/EDUCU/article/download/20588/17888
- ↑ http://www.openbase.in.th/files/panya036.pdf
- ↑ https://thaipublica.org/2017/11/architect-royalcremationpyre01/
- ↑ การเฉลิมฉลองบุคคลสำคัญและเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ จากเว็บไซต์ สำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
- บรรณานุกรม
- สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. ราชสกุลวงศ์. กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2554. 296 หน้า. หน้า 73-74. ISBN 978-974-417-594-6
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ | เสนาบดีกระทรวงพระคลัง (21 มีนาคม พ.ศ. 2435 - 23 ธันวาคม พ.ศ. 2437) |
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนศิริธัชสังกาศ | ||
เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (พุ่ม ศรีไชยันต์) |
เสนาบดีกระทรวงกลาโหม (พ.ศ. 2437 - พ.ศ. 2442) |
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม | ||
พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นปราบปรปักษ์ | รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ (27 มีนาคม พ.ศ. 2441 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2442) |
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม | ||
สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช | ผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการ (8 สิงหาคม พ.ศ. 2444 - 11 ธันวาคม พ.ศ. 2453) |
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช | ||
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต |
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (12 มกราคม พ.ศ. 2476 - 2 มีนาคม พ.ศ. 2477) |
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์ |