สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์
สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์[2] (10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2355 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2382) ต้นราชสกุลศิริวงศ์ เป็นสมเด็จพระชนกในสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี (สมเด็จพระบรมราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)
สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ | |
---|---|
พระองค์เจ้าชั้นเอก | |
หม่อม | 7 ท่าน |
พระบุตร |
|
ราชสกุล | ศิริวงศ์ |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระมารดา | เจ้าจอมมารดาทรัพย์ |
ประสูติ | 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2355[1] อาณาจักรรัตนโกสินทร์ |
สิ้นพระชนม์ | 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2382 (26 ปี) อาณาจักรรัตนโกสินทร์ |
ศาสนา | เถรวาท |
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ | |
---|---|
การทูล | ใต้ฝ่าพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ |
สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ เดิมมีพระนามเมื่อแรกประสูติว่า หม่อมเจ้าศิริวงศ์ เป็นพระราชโอรสลำดับที่ 6 ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และลำดับที่ 1 ในเจ้าจอมมารดาทรัพย์ พระสนมเอก ธิดาพระอักษรสมบัติ (ทับ) กับผ่อง ณ พัทลุง ประสูติเมื่อวันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2355 มีพระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดาหนึ่งพระองค์ คือ สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยิกาเธอ กรมพระยาสุดารัตน์ราชประยูร
พระโอรสและพระธิดาแก้ไข
กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์มีพระโอรสพระธิดารวม 9 พระองค์ คือ[3][4][5][6]
- หม่อมเจ้ามงคลเลิศ (ประสูติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2377 สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2404) ประสูติแต่หม่อมแพ ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระยศขึ้นเป็นพระองค์เจ้ามงคลเลิศ ในสมัยรัชกาลที่ 4 (พ.ศ. 2396) ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงเปลี่ยนคำนำหน้าเป็นพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามงคลเลิศ
- หม่อมเจ้าหญิงรำเพย (ประสูติเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2377 สวรรคตเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2404 ถวายเพลิงพระศพ ณ พระเมรุท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2405) ประสูติแต่หม่อมน้อย ศิริวงศ์ ณ อยุธยา โดยหม่อมเจ้าหญิงรำเพยทรงรับราชกาลฝ่ายในเป็นพระมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศขึ้นเป็นพระนางเธอ พระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์ (ปัจจุบันออกพระนามว่าสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี) มีพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้งหมด 4 พระองค์ หนึ่งในนั้นคือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- หม่อมเจ้าหญิงชมชื่น (ประสูติ พ.ศ. 2377 สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2436 พระราชทานเพลิง ณ วัดเทพศิรินทรสวาส เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2437) ประสูติแต่หม่อมงิ้ว ศิริวงศ์ ณ อยุธยา ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระยศขึ้นเป็นพระประพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงชมชื่น ในรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2418) และในภายหลังรัชกาลที่ 5 ทรงเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงชมชื่น
- หม่อมเจ้าหญิงพื้นพงศ์ (ประสูติ พ.ศ. 2378 สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2435 พระราชทานเพลิง ณ วัดเทพศิรินทราวาส พร้อมกับพระองค์เจ้าหญิงชมชื่น) ประสูติแต่หม่อมจาด ศิริวงศ์ ณ อยุธยา ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระยศขึ้นเป็นพระประพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงพื้นพงศ์ประยุรวงศ์สนิท ในรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2413) และในภายหลังรัชกาลที่ 5 ทรงเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพื้นพงศ์ประยุรวงศ์สนิท
- หม่อมเจ้าหญิงประสงค์สรร (ประสูติ พ.ศ. 2380 สิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2456 พระราชทานเพลิง ณ วัดราชาธิวาส เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2457) ประสูติแต่หม่อมราชวงศ์แสง ศิริวงศ์
- หม่อมเจ้าหญิงสารพัดเพ็ชร์ (สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2443 พระราชทานเพลิง ณ พระเมรุวัดราชาธิวาส เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2443) ประสูติแต่หม่อมน้อย ศิริวงศ์ ณ อยุธยา (คนละคนกับหม่อมน้อยผู้เป็นหม่อมมารดาของสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี) ซึ่งหม่อมน้อยผู้นี้มีสกุลเดิมว่าภมรมนตรี ธิดาพระยาราชมนตรี (ภู่ ภมรมนตรี) โดยในภายหลังเมื่อกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์สิ้นพระชนม์แล้ว หม่อมน้อยได้ไปเป็นหม่อมห้ามในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนราชสีหวิกรม จึงกลายเป็นหม่อมน้อย ชุมสาย ณ อยุธยา
- หม่อมเจ้าหญิงแฉ่ หรือ หม่อมเจ้าหญิงพรรณราย (ประสูติเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2381 สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2457 พระราชทานเพลิง ณ วัดเบญจมบพิตร เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2459) ประสูติแต่หม่อมกิม โดยหม่อมเจ้าหญิงพรรณรายทรงรับราชกาลฝ่ายในเป็นพระมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีประสูติการพระราชโอรสและพระราชธิดา 2 พระองค์ คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมขุนขัตติยกัลยาและ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 หม่อมเจ้าหญิงพรรณราย ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศขึ้นเป็น พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพรรณราย ซึ่งพระองค์เจ้าพรรณรายถือเป็นพระประยูรญาติที่สนิทสนมกับรัชกาลที่ 5 โดยรัชกาลที่ 5 โปรดเรียกพระองค์เจ้าพรรณรายแบบลำลองว่า “น้าแฉ่”
- หม่อมเจ้าฉายฉันเฉิด มีพระนามเดิมว่าหม่อมเจ้าขาว โดยพระนามฉายฉันเฉิดนั้นได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 4 เมื่อปี พ.ศ. 2395[7] (สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2439 พระราชทานเพลิง ณ วัดสระเกศ เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2441) ประสูติแต่หม่อมเชย ศิริวงศ์ ณ อยุธยา ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระยศขึ้นเป็น พระประพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าฉายเฉิด ในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2418) และทรงเลื่อนเป็นกรมหมื่นนฤบาลมุขมาตย์ โดยในภายหลังรัชกาลที่ 5 ทรงเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น พระสัมพันธวงศ์เธอ กรมหมื่นนฤบาลมุขมาตย์
- หม่อมเจ้าประเสริฐศักดิ์ มีพระนามเดิม หม่อมเจ้าชายดำ (สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2424) ประสูติแต่หม่อมน้อย ศิริวงศ์ ณ อยุธยา (คนละคนกับหม่อมน้อยผู้เป็นหม่อมมารดาของสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี) โดยหม่อมน้อยผู้นี้มีสกุลเดิมว่าภมรมนตรี ซึ่งในภายหลังเมื่อกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์สิ้นพระชนม์แล้ว หม่อมน้อยได้ไปเป็นหม่อมห้ามในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนราชสีหวิกรม จึงกลายเป็นหม่อมน้อย ชุมสาย ณ อยุธยา หม่อมเจ้าประเสริฐศักดิ์ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระยศขึ้นเป็น พระประพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์ ในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2412) และในภายหลังรัชกาลที่ 5 ได้เปลี่ยนคำนำหน้าเป็น พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์
สิ้นพระชนม์แก้ไข
กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 3 เมื่อวันเสาร์เดือน 7 ขึ้น 5 ค่ำ ปีกุน [8]ตรงกับวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2382 พระชันษา 26 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระอัฐิขึ้นเป็น สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ[9] (สมเด็จตา) เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่พระชนกในสมเด็จพระบรมราชชนนี
โดยเมื่อสิ้นพระชนม์นั้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระอาลัยเป็นอันมาก ด้วยเป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในขณะนั้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการปลูกพระเมรุ พระราชทานเพลิงพระศพ ณ ท้องสนามหลวงเป็นการใหญ่ แล้วให้อัญเชิญพระอัฐิบรรจุในพระโกศทองคำ มาประดิษฐานไว้ ณ ตำหนักกรมสมเด็จพระศรีสุลาไลย ในพระบรมมหาราชวัง ครั้นภายหลังเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ช่างทำพระโกศทองคำจำหลักลายลงยาราชาวดีเปลี่ยนถวายใหม่[10]
สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ ทรงเป็นต้นราชสกุลศิริวงศ์ และยังทรงเป็นพระบรมราชบรรพบุรุษในราชสกุลในสายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และราชสกุลจักรพันธุ์ ภาณุพันธุ์ (โดยทางสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี) และ ราชสกุลจิตรพงศ์ (โดยทางพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพรรณราย)
พระอิสริยยศแก้ไข
- หม่อมเจ้าศิริวงศ์ (10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2355 - สมัยรัชกาลที่ 3)
- พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าศิริวงศ์ (สมัยรัชกาลที่ 3 - 1 สิงหาคม พ.ศ. 2381)
- พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ (1 สิงหาคม พ.ศ. 2381 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2382)
- พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ (ในสมัยรัชกาลที่ 4)
- สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ (สถาปนาในสมัยรัชกาลที่ 5)
พงศาวลีแก้ไข
พงศาวลีในสมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ ธำรงศักดิ์ อายุวัฒนะ. ราชสกุลจักรีวงศ์ และราชสกุลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2544. 490 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-222-648-2
- ↑ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. พระราชพิธีสิบสองเดือน. กรุงเทพฯ : พิมพ์ครั้งที่ 21, รัตนชัยการพิมพ์, 2552. 296 หน้า. หน้า 26. ISBN 978-974-417-594-6
- ↑ ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร. พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2549. 360 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-221-818-8
- ↑ จุลลดา ภักดีภูมินทร์, 'พระสัมพันธวงศ์เธอ' เก็บถาวร 2011-07-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, สกุลไทย, ฉบับที่ 2421, ปีที่ 47, ประจำวันอังคารที่ 13 มีนาคม 2544
- ↑ จุลลดา ภักดีภูมินทร์, สถาปนาคำนำพระนาม เก็บถาวร 2011-07-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, สกุลไทย, ฉบับที่ 2448, ปีที่ 47, ประจำวันอังคารที่ 18 กันยายน 2544
- ↑ จุลลดา ภักดีภูมินทร์, เล่าเรื่องมอญ เก็บถาวร 2011-07-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, สกุลไทย, ฉบับที่ 2486, ปีที่ 48, ประจำวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2545
- ↑ ประชุมประกาศรัชกาลที่ 4. [ม.ป.ท.]:หอพระสมุดวชิรญาณ, 2464. สืบค้นเมื่อวันที่ 2464-2469. https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:48177.
- ↑ กิตติพงษ์ วิโรจน์ธรรมากูร. ย้อนรอยราชสกุลวงศ์ "วังหลวง". กรุงเทพ : สำนักพิมพ์ดอกหญ้า, พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2549. 304 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-941-205-2
- ↑ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. ราชสกุลวงศ์. พิมพ์ครั้งที่ 14, กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2554. 296 หน้า. หน้า 38. ISBN 978-974-417-594-6
- ↑ เทศนากัณฑ์ที่ 1 เรื่องพระราชสันตติวงศ์