พระยาพัทลุง (ขุน)
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
พระยาพัทลุง (ขุน) หรือ ขุนคางเหล็ก (พ.ศ. 2277 - พ.ศ. 2332) เป็นบุตรชายของ พระยาราชบังสัน (ตะตา) บุตรชายของ พระยาพัทลุง (ฮุเซน) บุตร สุลต่านสุลัยมาน เกิดและเติบโตในกรุงศรีอยุธยา จึงพูดภาษาปักษ์ใต้ไม่เป็น เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็กในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เมื่ออายุ 14 ปี ต่อมา เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกได้เข้าถวายตัวช่วยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเป็นครั้งแรก ตามเสด็จลงไปปราบ ก๊กเจ้านครศรีธรรมราช พ.ศ. 2312 ขณะนั้นอายุ 35 ปี จึงได้เป็นพระยาภักดีนุชิต สิทธิสงคราม ผู้ช่วยราชการนครศรีธรรมราช ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2315 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โปรดฯให้ไปเป็นเจ้าเมืองพัทลุง ในราชทินนาม พระยาแก้วโกรพพิชัยฯ เช่นเดียวกับบิดา พระยาราชบังสัน (ตะตา) ซึ่งมีราชทินนามว่า พระยาแก้วโกรพพิชัยฯ เช่นกัน ทว่าสร้อยต่างกัน
พระยาพัทลุง (ขุน) | |
---|---|
เจ้าเมืองพัทลุง | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2315 – พ.ศ. 2332 (17 ปี) | |
กษัตริย์ | สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช |
ก่อนหน้า | พระยาพัทลุง (ฮุเซน) |
ถัดไป | พระศรีไกรลาศ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ขุน พ.ศ. 2277 กรุงศรีอยุธยา อาณาจักรอยุธยา |
เสียชีวิต | พ.ศ. 2332 (55 ปี) เมืองพัทลุง อาณาจักรรัตนโกสินทร์ |
คู่สมรส | คุณหญิงแป้น |
บุตร | พระยาพัทลุง (ทองขาว) |
บุพการี |
|
ญาติ | สุลต่านสุลัยมาน ชาห์ (ทวด) พระยาพัทลุง (ฮุเซน) (ตา) |
ภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตก พระยาพัทลุง (ขุน) กับพี่น้องญาติๆ ได้พากันอพยพมาอยู่หมู่บ้านบริเวณใกล้ ๆ วัดพลับ (วัดราชสิทธาราม) ไม่ห่างไกลกันนักกับพวกญาติ ๆ เชื้อสุลต่านสุลัยมาน ซึ่งตั้งเคหสถานอยู่ใกล้วัดหงส์รัตนาราม ในคลองบางกอกใหญ่ หรือคลองบางหลวง ใน พ.ศ. 2315 พระยาพัทลุงได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ[1]
ภรรยาพระยาพัทลุง(ขุน) คือ คุณหญิงแป้น น้องร่วมบิดามารดากับท้าวทรงกันดาล บุตร-ธิดา ที่สำคัญได้แก่
- เจ้าจอมมารดากลิ่น ในรัชกาลที่ 1 มีพระราชโอรส คือ พระองค์เจ้าสุทัศน์ (ต้นราชสกุล สุทัศน์)
- พระยาพัทลุง (ทองขาว) สามีของคุณหญิงปล้อง บุตรีพระยาราชวังสัน (น้องนางของพระชนนีเพ็งและมีศักดิ์เป็นน้านางของสมเด็จพระศรีสุลาลัย)
พระยาพัทลุง (ขุน) รับราชการอยู่ 17 ปี ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ พ.ศ. 2332 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช[2]
ภายในวัดวังมีอนุสาวรีย์พระยาพัทลุง (ขุน) สร้างโดย มูลนิธิพระยาพัทลุงขุนคางเหล็ก-สุลต่านสุลัยมาน
ลำดับสาแหรก
แก้ลำดับสาแหรกของพระยาพัทลุง (ขุน) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
แก้- เชิงอรรถ
- ↑ การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี, หน้า 332
- ↑ โรม บุนนาค (12 มิถุนายน 2562). "เหตุที่พระยาพัทลุงได้ฉายา "คางเหล็ก! ไก่เจ๊ก ไก่แขก ตีกันไม่แพ้ไม่ชนะ เจ้าของไก่รำมวยใส่กัน! !". ผู้จัดการออนไลน์.
- บรรณานุกรม
- นิธิ เอียวศรีวงศ์. การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี. กรุงเทพฯ : มติชน, 2559. 632 หน้า. ISBN 978-974-323-056-1