ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ
ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ มีอักษรย่อว่า ป.จ.ว. เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานเฉพาะฝ่ายหน้า (บุรุษ) เท่านั้น โดยไม่จำกัดจำนวน ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษจัดเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่มีลำดับเกียรติอันดับที่ 4 และถือเป็นชั้นสูงสุดของเครื่องอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ | |
---|---|
![]() เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ | |
มอบโดย พระมหากษัตริย์ไทย | |
อักษรย่อ | ป.จ.ว. |
ประเภท | สายสะพายมีดารา มีสายสร้อย |
วันสถาปนา | พ.ศ. 2443 |
ประเทศ | ![]() |
ภาษิต | เราจะบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ |
จำนวนสำรับ | ไม่จำกัดจำนวน |
แพรแถบ | ![]() |
ผู้สมควรได้รับ | พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้า (พระราชทานตามพระราชอัธยาศัย) |
มอบเพื่อ | เป็นเครื่องหมายแสดงอิสริยยศและระลึกถึงความดีความชอบของบุคคลซึ่งได้รักษาแผ่นดินมาแต่ก่อนถึงปัจจุบัน |
สถานะ | ยังพระราชทานอยู่ |
ผู้สถาปนา | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ประธาน | พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว |
สถิติการมอบ | |
รายแรก | พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 21 กันยายน พ.ศ. 2443 |
รายล่าสุด | พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2519 |
ทั้งหมด | 30 ราย |
ลำดับเกียรติ | |
สูงกว่า | นพรัตนราชวราภรณ์ |
รองมา | ปฐมจุลจอมเกล้า |
หมายเหตุ | พระราชทานสืบตระกูลจนกว่าจะหาทายาทที่เป็นชายมิได้ |
ประวัติ
แก้เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2416 โดยการสถาปนาในคราวแรกนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชั้น ได้แก่
- ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า
- ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ, ทุติยจุลจอมเกล้า)
- ชั้นที่ 3 ตติยาจุลจอมเกล้า (ตติยจุลจอมเกล้า, ตติยานุจุลจอมเกล้า)[1]
หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2443 พระองค์มีพระราชดำริเห็นสมควรเพิ่มชั้นพิเศษสำหรับชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้าอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้เป็นเกียรติยศและประโยชน์แก่ผู้รับราชการยิ่งขึ้น เรียกว่า "ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ" โดยทรงเพิ่มดวงตราตติยานุจุลจอมเกล้าเป็นเครื่องหมายเพิ่มเติมสำหรับชั้นปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษนี้[2]
องค์ประกอบ
แก้เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ จัดเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชนิดมีสายสะพายและดารา มีลำดับเกียรติอันดับที่ 4[3] และถือเป็นชั้นสูงสุดของเครื่องอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า โดย 1 สำรับ ประกอบด้วย[4]
- ดวงตรา ใช้สำหรับห้อยกับสายสะพายสีชมพู กว้าง 10 เซนติเมตร สำหรับสะพายบ่าซ้ายเฉียงลงทางขวา หรือห้อยกับสายสร้อยจุลจอมเกล้า โดยมีลักษณะ ดังนี้
- ด้านหน้า มีลักษณะเป็นรัศมี 8 แฉก ลงยาสีชมพู มีรัศมีทองแทรกตามระหว่างแฉก มีใบชัยพฤกษ์สองข้าง ลงยาสีเขียว กลางดวงตรามีพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอบลงยาสีขาบ มีอักษรทองว่า "เราจะบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ" เบื้องบนมี พระจุลมงกุฎเปล่งรัศมีลงยาสีเขียว สีแดง สีขาบ สีขาว
- ด้านหลัง มีลักษณะเหมือนด้านหน้า แต่ที่กลางดวงตราเป็นรูปช้างไอราพต ลงยาสีขาว บนหลังช้างเป็นรูปตรีศูล ลงยาสีขาว ที่ขอบมีอักษรทองว่า "ปีระกา เบญจศก ศักราช ๑๒๓๕" รอบขอบเป็นรูปจักร ลงยาสีขาวพื้นแดง
- ดารา มีลักษณะเป็นรัศมีทอง 8 แฉก รัศมีเงิน 8 แฉก กลางดารา พื้นสีชมพู มีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ "จ.จ.จ." (จุฬาลงกรณ์จุลจอมเกล้า) ทองประดับเพชร ขอบลงยาสีขาบ และมีอักษรทองว่า "เราจะบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ" รอบขอบเป็นเพชรสร่งเงิน ใช้สำหรับประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
หมายเหตุ: สำหรับพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ที่ได้รับพระราชทานเป็นกรณีพิเศษ ดาราจะประดับเพชรทั้งดวง
- สายสร้อยลงยา หรือ สายสร้อยทอง จะได้รับพระราชทานอย่างใดอย่างหนึ่ง สำหรับชาวต่างประเทศนั้น พระราชทานหรือไม่ก็สุดแต่ทรงพระราชดำริเห็นสมควร โดยสายสร้อยมีลักษณะเป็นรูปอักษรพระปรมาภิไธยย่อ "จ.ป.ร." (จุฬาลงกรณ์ปรมราชาธิราช) ไขว้ 16 องค์ ดอกบัว 17 ดอก สลับกันไปตลอดสาย กลางสายสร้อยเป็นรูปช้างไอราพต มีพระจุลมงกุฎเปล่งรัศมี มีเครื่องสูง 2 ข้าง มีราชสีห์ คชสีห์เชิญฉัตร สำหรับห้อยดวงตราสวมแทนสายสะพาย กับมีแพรจีบสีขาวกลัดทับสายสร้อยเหนือบ่าทั้ง 2 ข้าง
- ดวงตราตติยานุจุลจอมเกล้า สำหรับประดับที่อกเสื้อด้านซ้าย
สำหรับการประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษนั้น ให้สวมสายสร้อยพร้อมดวงตราหรือสายสะพายพร้อมดวงตราอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่หมายกำหนดการระบุไว้ ถ้าหากสวมสายสร้อยจุลจอมเกล้าร่วมกับการสวมสายสะพาย ให้สวมสายสะพายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลอื่นที่ได้รับพระราชทาน[5]
เครื่องยศ
แก้ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษนั้นจะได้รับพระราชทานเครื่องประกอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ได้แก่ พานหมากทองคำลายสลัก เครื่องพร้อม คนโทน้ำลายสลักพร้อมพานรอง กาน้ำทองคำลายสลักพร้อมโต๊ะทองคำ กระโถนทองลายสลัก อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีระเบียบกำหนดเครื่องยศประกอบ แต่ก็มิได้พระราชทานให้ครอบครองอย่างประเพณีเดิม คงเชิญเครื่องยศมาตั้งประกอบในพิธีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าเท่านั้น[6]
การสืบตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้ดูบทความหลัก การสืบตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษนั้นสามารถสืบตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้และมีความพิเศษกว่าเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าชั้นอื่น ๆ เนื่องจากผู้สืบตระกูลของผู้ได้รับพระราชทานปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษจะได้รับพระราชทานตราตติยจุลจอมเกล้าตั้งแต่บิดายังมีชีวิตอยู่ เมื่อบุตรชายใหญ่ผู้ได้รับตราสืบตระกูลแล้วล่วงลับไป จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานตราตติยานุจุลจอมเกล้าแก่หลานเหลนใหญ่โดยตรงและให้รับสืบตลอดไปจนหาตัวผู้สืบสายโลหิตเป็นชายมิได้[4][2]
การพระราชทาน
แก้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษเฉพาะฝ่ายหน้า (บุรุษ) สามารถพระราชทานโดยไม่จำกัดจำนวน ผู้ได้รับพระราชทานปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ ตั้งแต่สถาปนาเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นนี้ เช่น[7]
ผู้ได้รับพระราชทาน ป.จ.ว. ที่ยังทรงพระชนม์
พระราชวงศ์ไทย
แก้ชาวต่างประเทศ
แก้วันที่ | ประเทศ | พระนาม | อ้างอิง |
---|---|---|---|
19 พฤษภาคม พ.ศ. 2501 | เดนมาร์ก | สมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 แห่งเดนมาร์ก | [16] |
4 ตุลาคม พ.ศ. 2503 | เบลเยียม | สมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง |
อ้างอิง
แก้- ↑ พระราชบัญญัติเครื่องราชอิศริยยศจุลจอมเกล้าสำหรับตระกูล ปีระกาเบญจศก จุลศักราช ๑๒๓๕
- ↑ 2.0 2.1 ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับตระกูลจุลจอมเกล้าเพิ่มเติม รัตนโกสินทร ศก ๑๑๙, เล่ม ๑๗, ตอน ๓๑, ๒๘ ตุลาคม ร.ศ. ๑๑๙, หน้า ๔๐๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ลำดับเกียรติเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย เก็บถาวร 2011-11-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๐, ตอน ๒๙ง ฉบับพิเศษ, ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๖, หน้า ๑
- ↑ 4.0 4.1 ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า พุทธศักราช ๒๔๘๔, เล่ม ๕๘, ตอน ๐ ก, ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๔, หน้า ๑๕๕๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย พ.ศ. ๒๕๔๑, เล่ม ๑๑๕, ตอนพิเศษ ๑๑๘ ง เล่มที่ ๒, ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๑, หน้า ๑๒-๑๓
- ↑ ปถพีรดี, เครื่องยศ เก็บถาวร 2011-07-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, สกุลไทย, ฉบับที่ 2502, ปีที่ 48, ประจำวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2545
- ↑ สมเด็จกรมพระยาดำรงเดชานุภาพ, ตำนานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า, โรงพิมพ์พระจันทร์, พ.ศ. 2512
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้า ฝ่ายน่า แลฝ่านใน, เล่ม ๑๗, ตอน ๓๕, ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๓, หน้า ๕๐๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา,พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๒๐, ตอน ๒๗, ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๖, หน้า ๔๔๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้าฝ่ายหน้า , เล่ม ๒๒, ตอน ๓๕, ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๘, หน้า ๗๖๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้าฝ่ายหน้า, เล่ม ๒๖, ตอน ๐ ง, ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๒, หน้า ๑๘๔๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2015-10-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๒๘, ตอน ๐ ง, ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๔, หน้า ๑๗๘๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, รายพระนามและนามผู้ที่จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในงานพระราชพิธีฉัตรมงคล, เล่ม ๒๙, ตอน ๐ ง, ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๕, หน้า ๑๘๒๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๓๒, ตอน ๐ ง, ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๘, หน้า ๑๘๙๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๙๓, ตอน ๘๐ ง, ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๙, หน้า ๑๓๕๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๗๕, ตอน ๔๖ ง, ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๑, หน้า ๑๗๙๔
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ เก็บถาวร 2007-12-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จาก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
- สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, สำนักนายกรัฐมนตรี. เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย. กรุงเทพฯ : จัดพิมพ์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ วันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2535, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2546. 411 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-7771-17-9