ผู้ใช้:Saran.cha412/ทดลองเขียน
เมืองนครประเทศราช
แก้นับตั้งแต่เจ้าในหัวเมืองฝ่ายเหนือได้ร่วมกันปลดแอกล้านนาจากอิทธิของพม่า และได้เข้ามาสวามิภักดิ์ต่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2317 เรื่อยมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ “เจ้านายฝ่ายเหนือ” มีอำนาจในการปกครองตนเองค่อนข้างมาก ดำรงฐานะเป็น “เจ้าประเทศราช” ที่มีหน้าที่แค่ส่งต้นไม้ทองต้นไม้เงินและเครื่องราชบรรณาการมาถวายพระมหากษัตริย์รัฐสยามทุกๆ 3 ปี เรื่อยมาจนกระทั่งรัฐสยามได้ปรับปรุงระบอบการปกครองใหม่ โดยรวบอำนาจเจ้าประเทศราชและผนวกดินแดนล้านนาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสยาม โดยกว่าระบอบเจ้าประเทศราชจะถึงกาลสิ้นสุดลงก็เมื่อปี พ.ศ. 2486
เนื่องจากล้านนามีการรวมตัวแบบรัฐหลวมๆ สานสัมพันธ์ด้วยระบอบเครือญาติ เจ้าประเทศราชในล้านนาจึงดำรงพระสถานะเป็น “เจ้าผู้ครองนคร” โดยแบ่งออกเป็น 3 สายหลัก คือ
- สายราชวงศ์ทิพย์จักร ที่ปกครองเมืองนครเชียงใหม่ , เมืองนครลำปาง , เมืองนครลำพูน
- สายราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ ที่ปกครองเมืองนครน่าน
- สายราชวงศ์เทพวงศ์ ที่ปกครองเมืองนครแพร่
หัวเมืองฝ่ายเหนือ
แก้หัวเมืองฝ่ายเหนือ
แก้หัวเมืองฝ่ายเหนือ หมายถึง ดินแดนทางภาคเหนือของประเทศไทยที่อดีตเคยเป็นพื้นที่ของอาณาจักรล้านนา ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสาละวินฝั่งซ้ายถึงแม่น้ำโขงฝั่งขวา มีหัวเมืองที่สำคัญ ได้แก่ เมืองนครเชียงใหม่, เมืองนครน่าน, เมืองนครลำปาง, เมืองนครลำพูน, เมืองนครแพร่, เมืองเถิน หัวเมืองเหล่านี้อดีตเคยเป็นนครรัฐอิสระปกครองตนเอง และบางครั้งตกเป็นเมืองประเทศราชของอาณาจักรสยามและพม่าสลับกันไปมา จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นหัวเมืองเหนือได้ตกเป็นเมืองประเทศราชของอาณาจักรสยามอย่างเด็ดขาด แต่กรุงรัตนโกสินทร์ฯได้ให้อิสระแก่บรรดาหัวเมืองประเทศราชฝ่ายเหนืออย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการปกครอง ด้านเศรษฐกิจและ ด้านการต่างประเทศ โดยกรุงรัตนโกสินทร์ไม่เคยส่งข้าราชการเข้ามาควบคุมหัวเมืองฝ่ายเหนือเลย จนกล่าวได้ว่าในช่วงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น หัวเมืองฝ่ายเหนือมีสถานะเป็นนครรัฐอิสระ มีหน้าที่แค่ และต้องถวายต้องต้นไม้เงินต้นไม้ทองและเครื่องราชบรรณาการต่างๆ ทุกๆ 3 ปี เพื่อเเสดงความจงรักภักดีต่อกรุงรัตนโกสินทร์ และรวมถึงการเกณฑ์ไพร่พลเมื่อมีศึกสงคราม
การปกครองของหัวเมืองฝ่ายเหนือ
แก้การปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือ คือ เมืองนครเชียงใหม่, เมืองนครน่าน, เมืองนครลำปาง, เมืองนครลำพูน, เมืองนครแพร่ ทุกหัวเมืองต่างมีสถานะที่เท่าเทียมกัน เพราะพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเจ้าผู้ครองเมืองให้มีฐานันดรศักดิ์เป็น "พระยาประเทศราช" ตลอดจนตำแหน่งต่างๆ เสมอกันทั้งหมด แต่ในส่วนเมืองนครเชียงใหม่นั้นจะมีอำนาจเหนือเมืองนครลำปางและเมืองนครลำพูน นับตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา
หัวเมืองฝ่ายเหนือนั้นมีโครงสร้างการปกครองภายในแต่ละหัวเมืองที่คล้ายกัน คือ อำนาจในการปกครองบ้านเมืองสูงสุดอยู่ที่ "เจ้าผู้ครองนคร" หรือ "เจ้าหลวง" และมีเจ้านายบุตรหลานที่เป็นผู้ช่วยอีก 4 ตำแหน่ง คือ "พระยาอุปราช" , "พระยาราชวงศ์" , "พระยาบุรีรัตน์" และ "พระยาราชบุตร" รวมกับตำแหน่งพระยาเมืองจะรวมเรียกว่า "เจ้าขัน 5 ใบ" ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งขึ้นอีก 3 ตำแหน่ง คือ "เจ้าราชภาคิไนย" "พระยาอุตรการโกศล" และ "พระยาไชยสงคราม"
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 4 อาณาจักรสยามได้กำลังถูกคุกคามจากลัทธิล่าอาณานิคมเพื่อเป็นการผูกใจกับเจ้าผู้ครองหัวเมืองฝ่ายเหนือ ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2399 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกวงศ์สกุล เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่, เจ้าผู้ครองนครลำปาง , เจ้าผู้ครองนครลำพูน และวงศ์สกุล เจ้าผู้ครองนครน่าน ขึ้นเป็น "เจ้า" ทั้ง 4 เมือง ให้สมควรที่ได้ยกขึ้นเป็นเมืองประเทศราชอันใหญ่ แต่ เจ้าเมือง, อุปราช, ราชวงษ์, บุรีรัตน์ ,ราชบุตร ของเมืองขึ้นนั้นให้ดำรงตำแหน่งเป็น "พระยาประเทศราช" อยู่ตามเดิม ยกเว้นเมืองนครแพร่เพราะ เจ้าผู้ครองนครแพร่ มิได้ลงไปเข้าเฝ้าในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
และต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเพิ่มอีก 3 ตำแหน่งคือ "เจ้าราชภาติกวงศ์" , "เจ้าราชสัมพันธวงศ์" และ "เจ้าสุริยวงศ์" และต่อมาในปี พ.ศ. 2438 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเพิ่มอีก 6 ตำแหน่ง คือ "เจ้าทักษิณนิเขตน์" , "เจ้านิเวศน์อุดร" , "เจ้าประพันธ์พงษ์" , "เจ้าวรญาติ" , "เจ้าราชญาติ" และ "เจ้าไชยวรเชษฐ์" และต่อมาในปี พ.ศ. 2446 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง คือ "เจ้าราชดนัย" (ซึ่งมีเฉพาะเมืองนครน่านเป็นกรณีพิเศษ)
ในการสถาปนาฐานันดรศักดิ์เจ้านายหัวเมืองฝ่ายเหนือ เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรสยาม ที่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรให้แก่เจ้านาย ตามที่เจ้าประเทศราชได้มีศุภอักษรขอกราบบังคมทูลเสนอมา
โครงสร้างการปกครองของหัวเมืองฝ่ายเหนือ
แก้โครงสร้างทางการปกครองภายในของหัวเมืองล้านนา (ฝ่ายเหนือ) แต่ละหัวเมืองมีโครงสร้างคล้ายๆกัน โดยตำแหน่งทางการปกครองสูงสุดอยู่ที่ "เจ้าผู้ครองนคร" หรือ "เจ้าหลวง" และมีเจ้านายบุตรหลานที่เป็นผู้ช่วยอีก 4 ตำแหน่ง คือ "เจ้าอุปราช" , "เจ้าราชวงศ์" , "เจ้าบุรีรัตน์" และ "เจ้าราชบุตร" รวมกับตำแหน่งเจ้าผู้ครองนครจะเรียกว่า "เจ้าขัน 5 ใบ" นอกจากตำแหน่งเจ้าขัน 5 ใบแล้ว ในการบริหารราชการบ้านเมืองต่างๆ ยังมี "เค้าสนามหลวง" หรือ เหล่าเสนาอำมาตย์อีกจำนวน 32 ตำแหน่ง ซึ่งล้วนแต่เป็นเหล่าขุนนางชั้นสูงที่เจ้าผู้ครองนครทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยในการบริหารราชการบ้านเมือง
เจ้าศักดินา ชั้น สัญญาบัตร หมายถึง เจ้านายบุตรหลานที่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เข้ารับราชการในตำแหน่งต่างๆ เพื่อเป็นผู้ช่วยในการบริหารบ้านเมืองของเจ้าผู้ครองนคร โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มที่ 1 คือ เจ้าผู้ครองนคร (เจ้าหลวง) และเหล่าเจ้านายระดับสูงผู้มีสิทธิที่จะได้ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนคร (เจ้าหลวง) องค์ต่อไปสืบต่อจากเจ้าผู้ครองนคร (เจ้าหลวง) องค์เดิม
ลำดับชั้นยศเจ้านายระดับสูงของหัวเมืองฝ่ายเหนือ ประกอบด้วย 5 ชั้นยศ ดังนี้
1.) เจ้าผู้ครองนคร หรือ เจ้าหลวง แบ่งออกเป็น 3 ชั้นยศ คือ
1. พระเจ้าประเทศราช | ศักดินา | 15,000 ไร่
| |
2. เจ้าประเทศราช | ศักดินา | 10,000 ไร่ | |
3. พระยาประเทศราช | ศักดินา | 8,000 ไร่ |
2.) เจ้าอุปราช หรือ เจ้าหอหน้า แบ่งออกเป็น 2 ชั้นยศ คือ
1. เจ้าอุปราช | ศักดินา | 5,000 ไร่
| |
2. พระยาอุปราช | ศักดินา | 3,000 ไร่ |
3.) เจ้าราชวงษ์ แบ่งออกเป็น 2 ชั้นยศ คือ
1. เจ้าราชวงษ์ | ศักดินา | 3,000 ไร่
| |
2. พระยาราชวงษ์ | ศักดินา | 2,400 ไร่ |
4.) เจ้าบุรีรัตน์ แบ่งออกเป็น 2 ชั้นยศ คือ
1. เจ้าบุรีรัตน์ | ศักดินา | 2,400 ไร่
| |
2. พระยาบุรีรัตน์ | ศักดินา | 2,000 ไร่ |
5.) เจ้าราชบุตร แบ่งออกเป็น 2 ชั้นยศ คือ
1. เจ้าราชบุตร | ศักดินา | 2,400 ไร่
| |
2. พระยาราชบุตร | ศักดินา | 2,000 ไร่ |
- กลุ่มที่ 2 คือ เหล่าเจ้านายบุตรหลานที่มีพระสถานะเกี่ยวดองกับเจ้าผู้ครองนคร (เจ้าหลวง) เป็นพระชามาดา (ลูกเขย) , พระภาคิไนย (หลานลุง/หลานน้า) เจ้านายในกลุ่มนี้จะต้องรับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเลื่อนยศขึ้นไปในกลุ่มที่ 1 ก่อนถึงมีสิทธิ์ที่จะขึ้นครองนครได้
ลำดับชั้นยศเจ้านายระดับรองของหัวเมืองฝ่ายเหนือ ประกอบด้วย 8 ชั้นยศ ดังนี้
1. เจ้าราชภาคินัย | ศักดินา | 2,000 ไร่
| |
2. เจ้าราชภาติกวงษ์ | ศักดินา | 2,000 ไร่ | |
3. เจ้าราชสัมพันธวงษ์ | ศักดินา | 2,000 ไร่ | |
4. เจ้าสุริยวงษ์ | ศักดินา | 2,000 ไร่ | |
5. เจ้าอุตรการโกศล | ศักดินา | 1,600 ไร่ | |
6. เจ้าไชยสงคราม | ศักดินา | 1,600 ไร่ | |
7. เจ้าทักษิณนิเกตน์ | ศักดินา | 1,600 ไร่ | |
8. เจ้านิเวศน์อุดร | ศักดินา | 1,600 ไร่ |
- กลุ่มที่ 3 คือ เหล่าเจ้านายบุตรหลานหรือพระญาติวงศ์กับเจ้าผู้ครองนคร (เจ้าหลวง) ที่ทรงสนิทเป็นอย่างมากและมีความสามารถจึงโปรดให้เข้ารับราชการในตำแหน่งต่างๆ
ชั้นยศเจ้านายระดับรอง (พิเศษ) ของหัวเมืองฝ่ายเหนือ ประกอบด้วย 8 ชั้นยศ ดังนี้
1. พระวังขวา | ศักดินา | 1,000 ไร่
| |
(หมายเหตุ : นครน่าน ได้เป็น พระยาวังขวา ศักดินา 1,200 ไร่) | |||
2. พระวังซ้าย | ศักดินา | 1,000 ไร่ | |
(หมายเหตุ : นครน่าน ได้เป็น พระยาวังซ้าย ศักดินา 1,200 ไร่) | |||
3. เจ้าราชสัมพันธวงษ์ | ศักดินา | 2,000 ไร่ | |
4. เจ้าสุริยวงษ์ | ศักดินา | 2,000 ไร่ | |
5. เจ้าอุตรการโกศล | ศักดินา | 1,600 ไร่ | |
6. เจ้าไชยสงคราม | ศักดินา | 1,600 ไร่ | |
7. เจ้าทักษิณนิเกตน์ | ศักดินา | 1,600 ไร่ | |
8. เจ้านิเวศน์อุดร | ศักดินา | 1,600 ไร่ |
- "พระวังขวา" : ถือศักดินา 1,000 ไร่ (ส่วนเมืองนครน่านได้รับการตั้งเป็น "พระยาวังขวา" : ถือศักดินา 1,200 ไร่)
- "พระวังซ้าย" : ถือศักดินา 1,000 ไร่ (ส่วนเมืองนครน่านได้รับการตั้งเป็น "พระยาวังซ้าย" : ถือศักดินา 1,200 ไร่)
- "พระวิไชยราชา" : ถือศักดินา 600 ไร่
- "พระไชยราชา" : ถือศักดินา 600 ไร่
- "พระเมืองราชา" : ถือศักดินา 600 ไร่
- "พระเมืองไชย" : ถือศักดินา 600 ไร่
- "พระเมืองแก่น" : ถือศักดินา 600 ไร่
- "พระเมืองน้อย" : ถือศักดินา 600 ไร่
พระเจ้าประเทศราช
แก้เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2399 เจ้าพระยามุขมนตรีได้นำเจ้านายบุตรหลานเมืองเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย เข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมีพระบรมราชโองการปฤกษาด้วยพระบรมวงษานุวงษ์ แลท่านอรรคมหาเสนาธิบดี ว่าหัวเมืองลาวพุงขาว (หลวงพระบาง) หัวเมืองแขก (มลายู) และหัวเมืองเขมร ซึ่งเป็นหัวเมืองประเทศราชเชื้อวงษ์เป็นเจ้าก็ได้ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ยกขึ้นเป็นเจ้าทุก ๆ หัวเมือง ยกเว้นแต่หัวเมืองลาวพุงดำ (เมืองเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย) นับตั้งแต่ พระเจ้าเชียงใหม่กาวิละ , พระเจ้านครลำปางดวงทิพ , พระเจ้าลำพูนไชยบุญมา ได้ถึงแก่พิราไลยไปนั้นแล้ว ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯตั้งเจ้าเมือง อุปราช ราชวงษ์ เมืองแก้ว ครั้งใด ก็โปรดเกล้าฯ ตั้งเป็นพระยาทุกๆ ครั้ง ครั้งนี้ทรงพระราชดำริห์ว่าจะทรงยกสกุลวงศ์เจ้าเมืองเชียงใหม่ เจ้าเมืองนครลำปาง เจ้าเมืองลำพูนไชย และสกุลวงศ์เจ้าเมืองน่าน ขึ้นเป็นเจ้าทั้ง 4 เมือง ให้สมควรที่ได้ยกขึ้นเป็นเมืองประเทศราชอันใหญ่
และทรงพระราชดำริถ้าเจ้าผู้ครองนครองค์ใดที่ความชอบมากพิเศษจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนพระเกียรติยศขึ้นเป็น "พระเจ้าประเทศราช" เฉพาะพระองค์ เช่น พระเจ้าเชียงใหม่กาวิละ ในรัชกาลที่ 1 , พระเจ้านครลำปางดวงทิพย์ และพระเจ้าลำพูนไชยบุญมา ในรัชกาลที่ 2
- ชั้นยศ "พระเจ้าประเทศราช" นั้นจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนอิสริยยศของเจ้าประเทศราช ที่ทรงมีชนมายุอาวุโสสูงสุดในบรรดา 5 หัวเมืองประเทศราชฝ่ายเหนือ ขึ้นเป็น "พระเจ้าประเทศราช" ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์พระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเลื่อนพระเกียรติยศเจ้าผู้ครองนครทั้ง 5 หัวเมืองประเทศราชฝ่ายเหนือ (เจ้าหลวง) ขึ้นดำรงพระอิสริยยศเป็น "พระเจ้าประเทศราช" รวมทั้งสิ้น 7 พระองค์ มีรายพระนามตามลำดับ ดังนี้
- องค์ที่ 1 พระบรมราชาธิบดี ศรีสุริยวงศ์อินทรสุรศักดิ์ สมญามหาขัตติยราชชาติราไชย
สวรรค์ เจ้าขัณฑเสมาพระนครเชียงใหม่ราชธานี พระเจ้านครเชียงใหม่
เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 1 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร
ครองราชย์ 12 มกราคม พ.ศ. 2329 - 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2358 รวม 29 ปี
พระเจ้าประเทศราช 14 กันยายน พ.ศ. 2345 - 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2358
- องค์ที่ 2 พระเจ้านครลำปางดวงทิพย์ พระเจ้านครลำปาง
เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร
ครองราชย์ พ.ศ. 2337 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2369 รวม 31 ปี
พระเจ้าประเทศราช 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2366 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2369
- องค์ที่ 3 พระเจ้าลำพูนไชยบุญมา พระเจ้านครลำพูน
เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร
ครองราชย์ พ.ศ. 2358 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2370 รวม 12 ปี
พระเจ้าประเทศราช 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2369 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2370
- องค์ที่ 4 พระเจ้ามโหตรประเทศราชาธิบดี นพิสีมหานคราธิฐาน ภูบาลบพิตร สถิตย์ในอุตม
ชิยางคราชวงษ์ เจ้านครเชียงใหม่
เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร
ครองราชย์ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2389 - 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2397 รวม 8 ปี
พระเจ้าประเทศราช 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2397 - 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2397
- องค์ที่ 5 พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ ดำรงนพิสีนคร สุนทรทศลักษณเกษตร วรฤทธิเดชศรี
โยนางคดไนย ราชวงษาธิบดี เจ้านครเชียงใหม่
เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร
ครองราชย์ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2399 - 29 มิถุนายน พ.ศ. 2413 รวม 14 ปี
พระเจ้าประเทศราช 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2404 - 29 มิถุนายน พ.ศ. 2413
- องค์ที่ 6 พระเจ้าอินทวิชยานนท์ พหลเทพยภักดี ศรีโยนางคราชวงษาธิปไตย์ มโหดดรพิ
ไสยธุรสิทธิธาดา ประเทศราชานุภาวบริหารภูบาลบพิตร สถิตยชิยางคราชวงษ
พระเจ้านครเชียงใหม่
เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร
ครองราชย์ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2416 - 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2440 รวม 24 ปี
พระเจ้าประเทศราช 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2424 - 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2440
- องค์ที่ 7 พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช กุลเชษฐมหันต์ ไชยนันทบุร มหาราชวงษาธิบดี สุจริต
จารีราชานุภาวรักษ์ วิบุลยศักดิกิตติไพศาล ภูบาลบพิตร์ สถิตย์ณนันทราชวงษ์
พระเจ้านครเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 63 และองค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2437 - 5 เมษายน พ.ศ. 2461 รวม 25 ปี
พระเจ้าประเทศราช 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2446 - 5 เมษายน พ.ศ. 2461
รายพระนามกษัตริย์และเจ้าผู้ครองนครน่าน
แก้รายพระนามเจ้าผู้ครองนครน่าน (พ.ศ. 1780 - พ.ศ. 2474)
แก้(Ruler of Nan Kingdom)
อาณาจักรนครน่าน สถาปนาขึ้นโดยพระเจ้าหลวงภูคา เจ้าเมืองย่าง และปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ภูคา โดยมีศูนย์กลาการปกครองอยู่ที่เมืองย่าง (บริเวณพื้นที่ตำบลยม อำเภอท่าวังผา และตำบลศิลาเพชร อำเภอปัว ในปัจจุบัน) ต่อมาได้สร้างเมืองไชยบุรีวรนคร หรือ เมืองปัว แล้วสถาปนาเจ้าขุนฟองพระราชโอรสองค์เล็กขึ้นเป็น พระเจ้าขุนคำฟอง ปฐมกษัตริย์น่านแห่งราชวงศ์ภูคา ทรงขึ้นปกครองเมืองไชยบุรีวรนคร หรือ เมืองปัว เมื่อปี พ.ศ. 1825 และมีกษัตริย์น่านแห่งราชวงศ์ภูคาสืบสันตติวงศ์ต่อเนื่องกันลงมาอีก 17 รัชกาล
รายพระนามกษัตริย์นครรัฐน่าน และเจ้าผู้ครองนครน่าน นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 1825 จนถึงปี พ.ศ. 2475 รวมระยะเวลา 662 ปี 229 วัน มีกษัตริย์และเจ้าผู้ครองนครทั้งสิ้น 64 พระองค์ มีรายพระนามตามลำดับ ดังนี้
องค์ปฐมวงศ์ : พระเจ้าหลวงภูคา เจ้าเมืองย่าง
ครองราชย์ พ.ศ. 1812 - พ.ศ. 1880 ดำรงราชย์สมบัติ 68 ปี
ปฐมบรมกษัตริย์นครรัฐน่านแห่งราชวงศ์ภูคา
- รายพระนามกษัตริย์นครรัฐน่าน 17 รัชกาล 16 พระองค์ แห่งราชวงศ์ภูคา (พ.ศ. 1825 - พ.ศ. 2004 รวมระยะเวลา 179 ปี) มีรายพระนามตามลำดับ ดังนี้
- องค์ที่ 1 พระเจ้าขุนคำฟอง กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 1 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1825 - พ.ศ. 1845 ดำรงราชย์สมบัติ 20 ปี
ปฐมบรมกษัตริย์นครรัฐน่านแห่งราชวงศ์ภูคา - องค์ที่ 2 พระเจ้าเก้าเกื่อน กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1845 - พ.ศ. 1848 ดำรงราชย์สมบัติ 3 ปี - องค์ที่ 3 พระนางคำปินมหาเทวี กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1848 - พ.ศ. 1849 ดำรงราชย์สมบัติ 7 เดือน - องค์ที่ 4 พระเจ้าผานอง กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1866 - พ.ศ. 1896 ดำรงราชย์สมบัติ 30 ปี - องค์ที่ 5 พระเจ้าขุนไส กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1896 - พ.ศ. 1898 ดำรงราชย์สมบัติ 2 ปี - องค์ที่ 6 พระเจ้าการเมือง กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1898 - พ.ศ. 1906 ดำรงราชย์สมบัติ 8 ปี - องค์ที่ 7 พระเจ้าผากอง กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1906 - พ.ศ. 1931 ดำรงราชย์สมบัติ 25 ปี - องค์ที่ 8 พระเจ้าคำตัน กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 8 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1931 - พ.ศ. 1941 ดำรงราชย์สมบัติ 10 ปี - องค์ที่ 9 พระเจ้าศรีจันต๊ะ กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1941 - พ.ศ. 1942 ดำรงราชย์สมบัติ 1 ปี - องค์ที่ 10 พระเจ้าหุงราช กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1943 - พ.ศ. 1950 ดำรงราชย์สมบัติ 7 ปี - องค์ที่ 11 พระเจ้าคัมพลูราช (ภูเข็ง) กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1950 - พ.ศ. 1960 ดำรงราชย์สมบัติ 10 ปี - องค์ที่ 12 พระเจ้าสรีพันต้น กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 12 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1960 - พ.ศ. 1968 ดำรงราชย์สมบัติ 8 ปี - องค์ที่ 13 พระเจ้างั่วฬารผาสุม กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1969 - พ.ศ. 1976 ดำรงราชย์สมบัติ 7 ปี - องค์ที่ 14 พระเจ้าอินต๊ะแก่นท้าว กษัตริย์นครรัฐน่าน (ครั้งที่ 1)
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 14 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1976 - พ.ศ. 1977 ดำรงราชย์สมบัติ 3 เดือน - องค์ที่ 15 พระเจ้าคำแปงราช กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 15 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1977 - พ.ศ. 1978 ดำรงราชย์สมบัติ 1 ปี - องค์ที่ 16 พระเจ้าอินต๊ะแก่นท้าว กษัตริย์นครรัฐน่าน (ครั้งที่ 2)
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 16 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1978 - พ.ศ. 1993 ดำรงราชย์สมบัติ 15 ปี - องค์ที่ 17 พระเจ้าผาแสง กษัตริย์นครรัฐน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 17 แห่งราชวงศ์ภูคา
ครองราชย์ พ.ศ. 1993 - พ.ศ. 2004 ดำรงราชย์สมบัติ 11 ปี
- องค์ที่ 1 พระเจ้าขุนคำฟอง กษัตริย์นครรัฐน่าน
- ภายหลังจากที่พระเจ้าผาแสง ทรงสิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2004 พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ล้านนา ก็ได้ยกเลิกการสืบสันตติวงศ์ของราชวงศ์ภูคา จึงถือว่าเป็นการสิ้นสุดการปกครองระบอบกษัตริย์ในราชวงศ์ภูคานับตั้งแต่ พระยาขุนฟอง องค์ปฐมกษัตริย์
ยุคล้านนา
แก้นครน่าน (ภายใต้การปกครองของอาณาจักรล้านนา) พ.ศ. 2004 - พ.ศ. 2101
รวมระยะเวลา 97 ปี
นับตั้งแต่เมืองน่านถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนาในปี พ.ศ. 1994 พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา จึงได้โปรดเเต่งตั้งให้เจ้าผาแสง ผู้เป็นพระภาติยะ (หลานลุง) ในพระเจ้าอินต๊แก่นท้าว ขึ้นปกครองเมืองน่านตามเดิม ในฐานะเมืองประเทศราชของอาณาจักรล้านนา ต่อมาในปี พ.ศ. 2004 พระเจ้าผาแสง ได้สิ้นพระชนม์ พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ก็ได้โปรดให้ยกเลิกการสืบสันตติวงศ์ จึงถือว่าเป็นการสิ้นสุดการปกครองระบอบกษัตริย์แห่งราชวงศ์ภูคา นครรัฐน่านก็ถูกลดฐานะลงเป็นเพียงหัวเมืองหนึ่งในอาณาจักรล้านนา โดยเจ้าผู้ปกครองเมืองน่านจะเป็นขุนนางที่กษัตริย์เมืองเชียงใหม่จัดส่งให้มาปกครองผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทุกๆ 3 - 5 ปี เจ้าเมืองน่านในยุคนี้จึงมีสถานะเป็น “เจ้าเมือง” ที่ขึ้นตรงต่อ “กษัตริย์ล้านนา” ที่เมืองเชียงใหม่
- รายพระนามเจ้าผู้ครองเมืองน่าน 21 องค์ (ภายใต้การปกครองของอาณาจักรล้านนา)
มีรายพระนามตามลำดับ ดังนี้- องค์ที่ 18 หมื่นสร้อยเชียงของ เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 1 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2005 - พ.ศ. 2009 รวมระยะเวลา 4 ปี - องค์ที่ 19 หมื่นน้อยใน เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 2 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2009 - พ.ศ. 2011 รวมระยะเวลา 2 ปี - องค์ที่ 20 หมื่นขวาเถ้าบาจาย เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 3 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2012 - พ.ศ. 2016 รวมระยะเวลา 4 ปี - องค์ที่ 21 หมื่นคำ เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 4 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2016 - พ.ศ. 2018 รวมระยะเวลา 2 ปี - องค์ที่ 22 ท้าวขาก่าน เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 5 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2019 - พ.ศ. 2023 รวมระยะเวลา 4 ปี - องค์ที่ 23 ท้าวอ้ายยวม เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 6 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2024 - พ.ศ. 2028 รวมระยะเวลา 4 ปี - องค์ที่ 24 ท้าวเมืองตน เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 7 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2028 - พ.ศ. 2032 รวมระยะเวลา 4 ปี - องค์ที่ 25 หมื่นโมงเชียงเรื่อ เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 8 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2032 - พ.ศ. 2032 รวมระยะเวลา 6 เดือน - องค์ที่ 26 ท้าวบุญแฝง เจ้าเมืองน่าน (ครั้งที่ 1)
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 9 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2032 - พ.ศ. 2039 รวมระยะเวลา 7 ปี - องค์ที่ 27 หมื่นตีนเชียง เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 10 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2039 - พ.ศ. 2040 รวมระยะเวลา 1 ปี - องค์ที่ 28 ท้าวบุญแฝง เจ้าเมืองน่าน (ครั้งที่ 2)
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 11 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2040 - พ.ศ. 2050 รวมระยะเวลา 7 ปี - องค์ที่ 29 พระยาศรีบุญเรืองคำข่าย (หมื่นสามล้าน) เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 12 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2050 - พ.ศ. 2052 รวมระยะเวลา 2 ปี - องค์ที่ 30 พระยาสร้อยสุริยะ (เจ้าเมืองแพร่สร้อย) เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 13 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2052 - พ.ศ. 2056 รวมระยะเวลา 4 ปี - องค์ที่ 31 หมื่นเจ้าเมืองฝาง เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 14 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2056 - พ.ศ. 2058 รวมระยะเวลา 2 ปี - องค์ที่ 32 เจ้าเมืองฝาง เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 15 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2058 - พ.ศ. 2059 รวมระยะเวลา 10 เดือน - องค์ที่ 33 พระเจ้าคำยอดฟ้า เจ้าเมืองน่าน (ครั้งที่ 1)
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 16 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2059 - พ.ศ. 2060 รวมระยะเวลา 3 เดือน - องค์ที่ 34 พระยาหน่อเชียงแสน เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 17 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2060 - พ.ศ. 2062 รวมระยะเวลา 2 ปี - องค์ที่ 35 พระเจ้าคำยอดฟ้า เจ้าเมืองน่าน (ครั้งที่ 2)
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 18 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2062 - พ.ศ. 2069 รวมระยะเวลา 7 ปี - องค์ที่ 36 พระยาแสนสงคราม เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 19 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2069 - พ.ศ. 2069 รวมระยะเวลา 1 เดือน 11 วัน - องค์ที่ 37 พระเจ้าคำยอดฟ้า เจ้าเมืองน่าน (ครั้งที่ 3)
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 20 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2069 - พ.ศ. 2070 รวมระยะเวลา 1 ปี - องค์ที่ 38 พระยาพลเทพฦๅไชย เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 21 (ภายใต้อาณาจักรล้านนา)
ครองราชย์ พ.ศ. 2070 - พ.ศ. 2101 รวมระยะเวลา 31 ปี
- องค์ที่ 18 หมื่นสร้อยเชียงของ เจ้าเมืองน่าน
ยุคพม่า
แก้นครน่าน (ภายใต้การปกครองของอาณาจักรพม่า) พ.ศ. 2101 - พ.ศ. 2331
รวมระยะเวลา 230 ปี
ในปี พ.ศ. 2101 พระเจ้าบุเรงนอง พระมหากษัตริย์พม่า รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์ตองอู ได้ยกกองทัพพม่าขึ้นตีเมืองเชียงใหม่ได้สำเร็จ เมืองเชียงใหม่จึงตกเป็นเมืองประเทศราชของอาณาจักรพม่าแห่งราชวงศ์ตองอู ต่อมากองทัพของพระเจ้าบุเรงนอง ได้ยกมาตีเมืองน่าน พระยาพลเทพฦๅไชย เจ้าเมืองน่าน ในขณะนั้นก็ได้นำครอบครัวแสนท้าวเมืองน่านหลบหนีไปพึ่งเจ้าผู้ครองนครหลวงพระบาง ต่อมาในปี พ.ศ. 2103 พระเจ้าบุเรงนอง จึงทรงแต่งตั้งให้ พระยาหน่อคำเสถียรไชยสงคราม มาเป็นเจ้าเมืองน่าน สืบต่อไป ในยุคนี้เจ้าเมืองน่านทรงรับพระราชบัญชาจากพระมหากษัตริย์พม่าโดยตรง เจ้าเมืองน่านที่พระมหากษัตริย์พม่าส่งให้มาปกครองนั้นมาจากหลากหลายตำแหน่งทั้งมาจากเจ้าฟ้าในรัฐฉานและเจ้านายขุนนางในหัวเมืองล้านนา และมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาปกครองตามที่พระมหากษัตริย์พม่าโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
- รายพระนามเจ้าผู้ครองเมืองน่าน 15 องค์ (ภายใต้การปกครองของอาณาจักรพม่า)
มีรายพระนามตามลำดับ ดังนี้- องค์ที่ 39 พระยาหน่อคำเสถียรไชยสงคราม เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 1 (ภายใต้อาณาจักรพม่า)
ครองราชย์ พ.ศ. 2103 - พ.ศ. 2134 รวมระยะเวลา 31 ปี - องค์ที่ 40 พระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ พระเจ้าเมืองน่าน (ครั้งที่ 1)
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 2 (ภายใต้อาณาจักรพม่า)
ครองราชย์ พ.ศ. 2134 - พ.ศ. 2140 รวมระยะเวลา 6 ปี - พระยาแขก (ขุนนางต่างพระเนตรพระกรรณกษัตริย์พม่า)
รักษาเมืองน่าน พ.ศ. 2140 - พ.ศ. 2143 รวมระยะเวลา 3 ปี - องค์ที่ 41 พระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ พระเจ้าเมืองน่าน (ครั้งที่ 2)
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 3 (ภายใต้อาณาจักรพม่า)
ครองราชย์ พ.ศ. 2143 - พ.ศ. 2146 รวมระยะเวลา 3 ปี - องค์ที่ 42 พระเจ้าศรีสองเมือง พระเจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 4 (ภายใต้อาณาจักรพม่า)
ครองราชย์ พ.ศ. 2146 - พ.ศ. 2158 รวมระยะเวลา 12 ปี - องค์ที่ 43 พระเจ้าอุ่นเมือง พระเจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 5 (ภายใต้อาณาจักรพม่า)
ครองราชย์ พ.ศ. 2158 - พ.ศ. 2168 รวมระยะเวลา 10 ปี - องค์ที่ 44 พระยานครลำปาง เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 6 (ภายใต้อาณาจักรพม่า)
ครองราชย์ พ.ศ. 2168 - พ.ศ. 2181 รวมระยะเวลา 14 ปี - องค์ที่ 45 พระยาเชียงราย เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 7 (ภายใต้อาณาจักรพม่า)
ครองราชย์ พ.ศ. 2181 - พ.ศ. 2191 รวมระยะเวลา 10 ปี - องค์ที่ 46 พระยาแหลมมุม เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 8 (ภายใต้อาณาจักรพม่า)
ครองราชย์ พ.ศ. 2192 - พ.ศ. 2205 รวมระยะเวลา 13 ปี - องค์ที่ 47 พระยายอดใจ เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 9 (ภายใต้อาณาจักรพม่า)
ครองราชย์ พ.ศ. 2208 - พ.ศ. 2230 รวมระยะเวลา 22 ปี - องค์ที่ 48 พระยาเมืองราชา เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 10 (ภายใต้อาณาจักรพม่า)
ครองราชย์ พ.ศ. 2232 - พ.ศ. 2246 รวมระยะเวลา 14 ปี - พระนาซ้าย (น้อยอินทร์) (ครั้งที่ 1)
(ขุนนางต่างพระเนตรพระกรรณของพระมหากษัตริย์พม่า)
รักษาเมืองน่าน พ.ศ. 2246 - พ.ศ. 2251 รวมระยะเวลา 5 ปี - องค์ที่ 49 เจ้าฟ้าเมืองคอง (เงี้ยว) เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 11 (ภายใต้อาณาจักรพม่า)
ครองราชย์ พ.ศ. 2251 - พ.ศ. 2257 รวมระยะเวลา 6 ปี - องค์ที่ 50 เจ้าฟ้าเมียวซา (พม่า) เจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ลำดับที่ 12 (ภายใต้อาณาจักรพม่า)
ครองราชย์ พ.ศ. 2257 - พ.ศ. 2259 รวมระยะเวลา 2 ปี - พระนาขวา (น้อยอินทร์) (ครั้งที่ 2)
(ขุนนางต่างพระเนตรพระกรรณของพระมหากษัตริย์พม่า)
รักษาเมืองน่าน พ.ศ. 2259 - พ.ศ. 2269 รวมระยะเวลา 10 ปี - องค์ที่ 51 พระเจ้าหลวงติ๋นมหาวงศ์ พระเจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 51 และปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2269 - 16 มิถุนายน พ.ศ. 2294 (25 ปี) - องค์ที่ 52 พระเจ้าอริยวงศ์ พระเจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 52 และองค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 30 กันยายน พ.ศ. 2297 - 4 ตุลาคม พ.ศ. 2311 (14 ปี) - องค์ที่ 53 พระเจ้านายอ้าย พระเจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 53 และองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2311 - 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2312 (1 ปี) - องค์ที่ 54 พระเจ้ามโนราชา พระเจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 54 และองค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 10 กันยายน พ.ศ. 2312 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2317 (4 ปี) - องค์ที่ 55 พระเจ้าวิธูรราชา พระเจ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 55 และองค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 25 มีนาคม พ.ศ. 2317 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2321 (4 ปี)
- องค์ที่ 39 พระยาหน่อคำเสถียรไชยสงคราม เจ้าเมืองน่าน
ยุครัตนโกสินทร์
แก้นครน่าน (ภายใต้การปกครองของอาณาจักรรัตนโกสินทร์) พ.ศ. 2326 - พ.ศ. 2474
รวมระยะเวลา 148 ปี
ในปี พ.ศ. 2331 พระยาอัตถวรปัญโญ เจ้าเมืองน่าน ได้นำแสนท้าวขุนนางเมืองน่าน เสด็จลงไปเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อขอเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารเป็นข้าขอบขัณฑสีมาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในการนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ พระยาอัตถวรปัญโญ ขึ้นเป็น "เจ้าผู้ครองนครน่าน" ต่อไปตามเดิม และต่อมาในปี พ.ศ. 2347 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนอิสริยยศ เจ้าพระยาอัตถวรปัญโญ เจ้าพระยาน่าน ขึ้นเป็น สมเด็จเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ สมเด็จเจ้าฟ้าเมืองน่าน
- รายพระนามเจ้าผู้ครองนครน่าน 9 องค์ (ภายใต้การปกครองของอาณาจักรรัตนโกสินทร์)
มีรายพระนามตามลำดับ ดังนี้- องค์ที่ 56 พระยามงคลวรยศประเทศราช พระยานครน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 56 และองค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 2 เมษายน พ.ศ. 2326 - 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2329 (3 ปี) - องค์ที่ 57 สมเด็จเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ สมเด็จเจ้าฟ้าเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 57 และองค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2329 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2353 (24 ปี) - องค์ที่ 58 พระเจ้าสุมนเทวราช พระเจ้านครน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 58 และองค์ที่ 8 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2354 - 26 มิถุนายน พ.ศ. 2368 (15 ปี) - องค์ที่ 59 พระเจ้ามหายศ พระเจ้านครน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 59 และองค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 6 กันยายน พ.ศ. 2368 - 30 มกราคม พ.ศ. 2378 (10 ปี) - องค์ที่ 60 พระเจ้าอชิตวงษ์ พระเจ้านครน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 60 และองค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 28 มกราคม พ.ศ. 2380 - 11 ตุลาคม พ.ศ. 2380 (8 เดือน) - องค์ที่ 61 พระเจ้ามหาวงศวรราชานราธิบดี พระเจ้านครน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 61 และองค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 23 เมษายน พ.ศ. 2381 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2394 (13 ปี) - องค์ที่ 62 พระเจ้าอนันตวรฤทธิเดชฯ เจ้านครเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 62 และองค์ที่ 12 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2395 - 28 พฤษภาคม พ.ศ.2435 (40 ปี) - องค์ที่ 63 พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ พระเจ้านครเมืองน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 63 และองค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2437 - 5 เมษายน พ.ศ. 2461 (25 ปี) - องค์ที่ 64 พระเจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้านครน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64 และองค์ที่ 14 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ครองราชย์ 22 เมษายน พ.ศ. 2461 - 17 สิงหาคม พ.ศ. 2474 (13 ปี)
- องค์ที่ 56 พระยามงคลวรยศประเทศราช พระยานครน่าน
เมืองประเทศราช (ฝ่ายเหนือ)
แก้หัวเมืองประเทศราช (ฝ่ายเหนือ) (Nakhon Lanna Pradesh Raja) | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พ.ศ. 2325–พ.ศ. 2442 | |||||||||||||||||
ธงชาติ | |||||||||||||||||
แผนที่แสดงอาณาเขตของแต่ละนครในหัวเมืองประเทศราชล้านนา (ด้านบน) | |||||||||||||||||
สถานะ | หัวเมืองประเทศราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รัฐในอารักขาของอาณาจักรสยาม (พ.ศ. 2325 - พ.ศ. 2442) | ||||||||||||||||
เมืองหลวง | นครเชียงใหม่ นครน่าน นครลำปาง นครลำพูน นครแพร่ | ||||||||||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาไทล้านนา หรือ ไทพื้นมือง | ||||||||||||||||
การปกครอง | สมบูรณาญาสิทธิราชย์ | ||||||||||||||||
เจ้าผู้ครองนครทั้ง 5 นคร | |||||||||||||||||
• พ.ศ. 2325 - พ.ศ. 2482 | เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ | ||||||||||||||||
• พ.ศ. 2325 - พ.ศ. 2465 | เจ้าผู้ครองนครลำปาง | ||||||||||||||||
• พ.ศ. 2357 - พ.ศ. 2486 | เจ้าผู้ครองนครลำพูน | ||||||||||||||||
• พ.ศ. 2326 - พ.ศ. 2474 | เจ้าผู้ครองนครน่าน | ||||||||||||||||
• พ.ศ. 2330 - พ.ศ. 2445 | เจ้าผู้ครองนครแพร่ | ||||||||||||||||
เค้าสนามหลวง | |||||||||||||||||
• ปฐมอรรคมหาเสนาธิบดี | มุขมนตรี ประธานขุนนางเค้าสนามหลวง | ||||||||||||||||
• อรรคมหาเสนาธิบดี | รองมุขมนตรี ลำดับที่ 1 หัวหน้าฝ่ายกรมเวียง | ||||||||||||||||
• อรรคมหาเสนาธิบดี | รองมุขมนตรี ลำดับที่ 2 หัวหน้าฝ่ายกรมวัง | ||||||||||||||||
• อรรคมหาเสนาธิบดี | รองมุขมนตรี ลำดับที่ 3 หัวหน้าฝ่ายกรมคลัง | ||||||||||||||||
• อรรคมหาเสนาธิบดี | รองมุขมนตรี ลำดับที่ 4 หัวหน้าฝ่ายกรมนา | ||||||||||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||||||||||
• ก่อตั้ง | พ.ศ. 2325 | ||||||||||||||||
• นครแพร่ สวามิภักดิ์ในปี | พ.ศ. 2314 | ||||||||||||||||
• นครเชียงใหม่ สวามิภักดิ์ในปี | พ.ศ. 2317 | ||||||||||||||||
• นครลำปาง สวามิภักดิ์ในปี | พ.ศ. 2317 | ||||||||||||||||
• นครน่าน สวามิภักดิ์ในปี | พ.ศ. 2331 | ||||||||||||||||
• นครลำพูน ตั้งขึ้นเมื่อปี | พ.ศ. 2357 | ||||||||||||||||
• ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับอาณาจักรสยาม | พ.ศ. 2442 | ||||||||||||||||
พื้นที่ | |||||||||||||||||
• รวม | 46,752.23 ตารางไมล์ (121,087.7 ตารางกิโลเมตร) | ||||||||||||||||
ประชากร | |||||||||||||||||
• พ.ศ. 2440 ประมาณ | 6,721,562 | ||||||||||||||||
55 ต่อตารางกิโลเมตร (142.4 ต่อตารางไมล์) | |||||||||||||||||
| |||||||||||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย และบางส่วนของประเทศพม่าและประเทศลาว ในปัจจุบัน |
หัวเมืองประเทศราช (ฝ่ายเหนือ) (Nakhon Lanna Pradesh Raja) | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พ.ศ. 2325–พ.ศ. 2442 | |||||||||||||||||
ธงชาติ | |||||||||||||||||
แผนที่แสดงอาณาเขตของแต่ละนครในหัวเมืองประเทศราชล้านนา (ด้านบน) | |||||||||||||||||
สถานะ | หัวเมืองประเทศราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รัฐในอารักขาของอาณาจักรสยาม (พ.ศ. 2325 - พ.ศ. 2442) | ||||||||||||||||
เมืองหลวง | นครเชียงใหม่ นครน่าน นครลำปาง นครลำพูน นครแพร่ | ||||||||||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาไทล้านนา หรือ ไทพื้นมือง | ||||||||||||||||
การปกครอง | สมบูรณาญาสิทธิราชย์ | ||||||||||||||||
เจ้าผู้ครองนครทั้ง 5 นคร | |||||||||||||||||
• พ.ศ. 2325 - พ.ศ. 2482 | เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ | ||||||||||||||||
• พ.ศ. 2325 - พ.ศ. 2465 | เจ้าผู้ครองนครลำปาง | ||||||||||||||||
• พ.ศ. 2357 - พ.ศ. 2486 | เจ้าผู้ครองนครลำพูน | ||||||||||||||||
• พ.ศ. 2326 - พ.ศ. 2474 | เจ้าผู้ครองนครน่าน | ||||||||||||||||
• พ.ศ. 2330 - พ.ศ. 2445 | เจ้าผู้ครองนครแพร่ | ||||||||||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||||||||||
• ก่อตั้ง | พ.ศ. 2325 | ||||||||||||||||
• นครแพร่ สวามิภักดิ์ในปี | พ.ศ. 2314 | ||||||||||||||||
• นครเชียงใหม่ สวามิภักดิ์ในปี | พ.ศ. 2317 | ||||||||||||||||
• นครลำปาง สวามิภักดิ์ในปี | พ.ศ. 2317 | ||||||||||||||||
• นครน่าน สวามิภักดิ์ในปี | พ.ศ. 2331 | ||||||||||||||||
• นครลำพูน ตั้งขึ้นเมื่อปี | พ.ศ. 2357 | ||||||||||||||||
• ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับอาณาจักรสยาม | พ.ศ. 2442 | ||||||||||||||||
พื้นที่ | |||||||||||||||||
• รวม | 46,752.23 ตารางไมล์ (121,087.7 ตารางกิโลเมตร) | ||||||||||||||||
| |||||||||||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย และบางส่วนของประเทศพม่าและประเทศลาว ในปัจจุบัน | ||||||||||||||||
3 |
รายพระนามพระเจ้าประเทศราชล้านนาทั้ง 7 พระองค์
แก้(Phra Chao of Lanna States)
สถาปนา
อิสริยยศ “เจ้าผู้ครองนครล้านนา” ทั้ง 5 นครต่างมีพระสถานะที่เท่าเทียมกัน เพราะพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรสยาม ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเจ้าผู้ครองนครทั้ง 5 นคร ให้ดำรงฐานันดรศักดิ์เป็น “ พระยาประเทศราช”เสมอกันทั้งหมด นับตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี เป็นต้นมา
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี ในช่วงเวลานั้นอาณาจักรสยามกําลังถูกคุกคามจากจักรวรรดิอังกฤษและจักรวรรดิฝรั่งเศส พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมีพระบรมราชโองการปฤกษาด้วยพระบรมวงษานุวงษ์ แลท่านอรรคมหาเสนาธิบดี ว่าด้วยหัวเมืองลาวพุงขาว (เมืองนครหลวงพระบาง) หัวเมืองแขก (เมืองมลายู) และหัวเมืองเขมร ซึ่งเป็นหัวเมืองประเทศราชเชื้อวงษ์เป็นเจ้า ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกอิสริยยศขึ้นเป็น "เจ้า" ทุกๆ หัวเมือง ยกเว้นแต่หัวเมืองลาวพุงดำ (ได้แก่ เมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองนครลำพูน เมืองนครน่าน และเมืองนครแพร่) นับตั้งแต่ พระเจ้าเชียงใหม่กาวิละ, พระเจ้าน่านอัตถวรปัญโญ , พระเจ้านครลำปางดวงทิพย์ , พระเจ้าลำพูนไชยบุญมา ได้เสด็จถึงแก่พิราไลยไปนั้นแล้ว ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้ง เจ้าผู้ครองนคร ครั้งใด ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งขึ้นเป็น "พระยาประเทศราช" ทุกๆ ครั้ง และในครั้งนี้ทรงมีพระราชดำริห์ว่าเพื่อเป็นการผูกใจกับเจ้านายฝ่ายเหนือ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกสกุลวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ , เจ้าผู้ครองนครลำปาง , เจ้าผู้ครองนครลำพูน และสกุลวงศ์เจ้าผู้ครองนครน่าน ขึ้นเป็น "เจ้า" ทั้ง 4 นคร ให้สมกับที่ได้ยกขึ้นเป็นหัวเมืองประเทศราชอันใหญ่
และทรงมีพระราชดำริห์ว่าถ้าเจ้าผู้ครองนครองค์ใดที่มีความชอบมากพิเศษ ก็จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนพระเกียรติยศขึ้นเป็น "พระเจ้าผู้ครองนคร" (His Royal Highness Prince Ruler of Lanna State)
รายพระนามพระเจ้าประเทศราช 7 พระองค์ แห่งนครประเทศราชล้านนา มีรายพระนามตามลำดับ ดังนี้
ลำดับ | พระรูป | พระนาม | ครองราชย์ | สถาปนาขึ้นเป็น (พระเจ้าประเทศราช) |
สิ้นรัชกาล | รวมเวลา |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | พระบรมราชาธิบดี พระเจ้านครเชียงใหม่ |
12 มกราคม พ.ศ.2329 | 14 กันยายน พ.ศ.2345 | 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2358 | 13 ปี | |
2 | พระเจ้านครลำปางดวงทิพย์ พระเจ้านครลำปาง |
พ.ศ. 2337 | 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2366 | 30 มีนาคม พ.ศ.2369 | 3 ปี | |
3 | พระเจ้าลำพูนบุญมา พระเจ้านครลำพูน |
26 พฤษภาคม พ.ศ.2359 | 20 พฤษภาคม พ.ศ.2369 | 25 มีนาคม พ.ศ.2370 | 1 ปี | |
4 | พระเจ้ามโหตรประเทศ พระเจ้านครเชียงใหม่ |
28 พฤษภาคม พ.ศ.2389 | 16 พฤษภาคม พ.ศ.2397 | 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2397 | 5 เดือน | |
5 | พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ พระเจ้านครเชียงใหม่ |
16 ตุลาคม พ.ศ.2399 | 3 กรกฎาคม พ.ศ.2404 | 29 มิถุนายน พ.ศ.2413 | 9 ปี | |
6 | พระเจ้าอินทวิชยานนท์ พระเจ้านครเชียงใหม่ |
8 พฤษภาคม พ.ศ.2416 | 14 กรกฎาคม พ.ศ.2424 | 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2440 | 16 ปี | |
7 | พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช พระเจ้านครน่าน |
21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2436 | 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2446 | 5 เมษายน พ.ศ.2461 | 15 ปี |
เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่
แก้เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ 9 พระองค์ แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร
แก้(พ.ศ. 2325 - พ.ศ. 2482)
การสถาปนา
ในปี พ.ศ. 2325 เจ้าพระยาจักรี ได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งพระราชพิธีอุปราชาภิเษกสมเด็จพระอนุชาธิราชให้เสด็จเถลิงพระราชมนเทียร เป็น กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ต่อมาพระยากาวิละ เจ้าเมืองนครลำปาง ได้นำข้าวของและเชลยศึกลงไปถวาย เมื่อนั้น รัชกาลที่ 1 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้ง พระยากาวิละ เจ้าเมืองนครลำปาง ซึ่งขณะนั้นอายุ 40 ปี ขึ้นเป็น พระยาวิเชียร ปราการ เจ้าเมืองเชียงใหม่ พระยากาวิละ (ยศในขณะนั้น) ได้รวบรวมผู้คนได้ประมาณพันคนยกไปตั้งเวียงป่าซาง สะสมกำลังพลในเวียงป่าซางนานถึง 14 ปี ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2339 พระยากาวิละ จึงยกไพร่พลออกจากเวียงป่าซางเดินทางเป็นเวลา 5 วัน เข้าสู่เมืองเชียงใหม่ และเริ่มฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ หลังจากที่เป็นเมืองร้าง ไปนานกว่า 20 ปี พระยากาวิละ ได้ฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองและเป็นปึกแผ่นมั่นคงอีกครั้ง
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2325 เป็นต้นมาจนถึงปี พ.ศ. 2482 เมืองนครเชียงใหม่ มีเจ้าผู้ครองนคร 9 พระองค์ แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร
รายพระนามเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ 9 พระองค์ แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร มีรายพระนามตามลำดับ ดังนี้
ลำดับ | พระรูป | พระนาม | ครองราชย์ | ||
---|---|---|---|---|---|
เริ่มรัชกาล | สิ้นสุดรัชกาล | รวมเวลา (ปี) | |||
1 | พระบรมราชาธิบดี | 12 มกราคม พ.ศ. 2329 | 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2358 | 29 ปี | |
2 | พระยาธรรมลังกา | 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2359 | 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2365 | 6 ปี | |
3 | พระยาคำฟั่น | 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2366 | 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2368 | 2 ปี | |
4 | พระยาพุทธวงศ์ | 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2369 | 7 มิถุนายน พ.ศ. 2389 | 20 ปี | |
5 | พระเจ้ามโหตรประเทศ | 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2390 | 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2397 | 7 ปี | |
6 | พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ | 16 ตุลาคม พ.ศ. 2399 | 29 มิถุนายน พ.ศ. 2413 | 14 ปี | |
7 | พระเจ้าอินทวิชยานนท์ | 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2416 | 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2440 | 24 ปี | |
8 | เจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ | 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2444 | 5 มกราคม พ.ศ. 2453 | 8 ปี | |
9 | เจ้าแก้วนวรัฐ | 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2454 | 3 มิถุนายน พ.ศ. 2482 | 28 ปี |
เจ้าผู้ครองนครน่าน
แก้เจ้าผู้ครองนครน่าน 9 พระองค์ แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
แก้(พ.ศ. 2326 - พ.ศ. 2474)
การสถาปนา
ราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ หรือ ราชวงศ์น่าน ได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2269 โดย เจ้าพระยาติ๋น เจ้านายเมืองเชียงใหม่ ได้รับการราชาภิเษกขึ้นเป็น "เจ้าผู้ครองนครน่าน" เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2269 ภายหลังปรากฎพระนามว่า ..พระเจ้านครน่านหลวงติ๋นมหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 51 (พ.ศ. 2269 - พ.ศ. 2294) และปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ .. ในระยะแรกเมืองนครน่านอยู่ภายใต้การปกครองของพระมหากษัตริย์พม่า เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2311 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้สถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานี เมืองนครน่านจึงเป็นอิสระจากพม่า มีกษัตริย์สืบสันตติวงศ์ต่อเนื่องลงมา 14 รัชกาล
ราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ ปกครองเมืองนครน่านและหัวเมืองขึ้น 45 เมือง มาจนถึงปี พ.ศ. 2474 ในสมัยเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64 และองค์ที่ 14 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ ได้เสด็จถึงแก่พิราลัย ต่อมาในปี พ.ศ. 2475 อาณาจักรสยามได้เปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงถือเป็นการสิ้นสุดราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์และเจ้าผู้ครองนครแห่งพระนครเมืองน่าน นับตั้งแต่นั้นมา และนับเป็นนครรัฐสุดท้ายที่ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับอาณาจักรสยามโดยสมบูรณ์ในยุคล่าอาณานิคม
รายพระนามเจ้าผู้ครองนครน่าน 9 พระองค์ แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ มีรายพระนามตามลำดับ ดังนี้
ลำดับ | พระรูป | พระนาม | ครองราชย์ | ||
---|---|---|---|---|---|
เริ่มรัชกาล | สิ้นสุดรัชกาล | รวมเวลา (ปี) | |||
1 | พระเจ้ามงคลวรยศ | 2 เมษายน พ.ศ. 2326 | 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2329 | 3 ปี | |
2 | พระเจ้าอัตถวรปัญโญ | 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2329 | 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2353 | 24 ปี | |
3 | พระเจ้าสุมนเทวราช | 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2354 | 26 มิถุนายน พ.ศ. 2368 | 14 ปี | |
4 | พระเจ้ามหายศ | 6 กันยายน พ.ศ. 2368 | 30 มกราคม พ.ศ. 2378 | 10 ปี | |
5 | พระเจ้าอชิตวงษ์ | 28 มกราคม พ.ศ. 2380 | 11 ตุลาคม พ.ศ. 2380 | 8 เดือน | |
6 | พระเจ้ามหาวงษาธิราช | 23 เมษายน พ.ศ. 2381 | 23 ตุลาคม พ.ศ. 2394 | 13 ปี | |
7 | พระเจ้าอนันตวรฤทธิเดช | 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2395 | 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2435 | 40 ปี | |
8 | พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช | 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2437 | 5 เมษายน พ.ศ. 2461 | 25 ปี | |
9 | เจ้ามหาพรหมสุรธาดา | 22 เมษายน พ.ศ. 2461 | 17 สิงหาคม พ.ศ. 2474 | 13 ปี |
เจ้าผู้ครองนครลำปาง
แก้เจ้าผู้ครองนครลำปาง 9 พระองค์ แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร
แก้รายพระนามเจ้าผู้ครองนครลำปาง 9 พระองค์ แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร (พ.ศ. 2325 - พ.ศ. 2465) | ||||||
ลำดับ | พระนาม | ครองราชย์ | รวมระยะเวลา | |||
---|---|---|---|---|---|---|
เริ่ม (พ.ศ.) | สิ้นสุด (พ.ศ.) | |||||
1 | พระยาคำโสม | พ.ศ. 2325 | พ.ศ. 2337 | 13 ปี | ||
2 | พระเจ้าดวงทิพย์ | พ.ศ. 2337 | พ.ศ. 2369 | 31 ปี | ||
3 | พระยาไชยวงศ์ | พ.ศ. 2369 | พ.ศ. 2380 | 12 ปี | ||
4 | พระยาขัติยะ | พ.ศ. 2380 | พ.ศ. 2381 | 6 เดือน | ||
5 | พระยาน้อยอินท์ | พ.ศ. 2381 | พ.ศ. 2391 | 10 ปี | ||
6 | เจ้าวรญาณรังษี | 16 ตุลาคม พ.ศ. 2399 | 7 มิถุนายน พ.ศ. 2414 | 15 ปี | ||
7 | เจ้าพรหมาภิพงษธาดา | 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2416 | 25 มกราคม พ.ศ. 2435 | 19 ปี | ||
8 | เจ้านรนันทไชยชวลิต | 25 มกราคม พ.ศ. 2435 | 30 มีนาคม พ.ศ. 2438 | 3 ปี | ||
9 | เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต | 3 มกราคม พ.ศ. 2440 | 5 ตุลาคม พ.ศ. 2465 | 25 ปี | ||
ยกเลิกตำแหน่ง เจ้าผู้ครองนครลำปาง |
เจ้าผู้ครองนครลำพูน
แก้เจ้าผู้ครองนครลำพูน 10 พระองค์ แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร
แก้รายพระนามเจ้าผู้ครองนครลำพูน 10 พระองค์ แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร (พ.ศ. 2357 - พ.ศ. 2486) | ||||||
ลำดับ | พระนาม | ครองราชย์ | รวมระยะเวลา | |||
---|---|---|---|---|---|---|
เริ่ม (พ.ศ.) | สิ้นสุด (พ.ศ.) | |||||
1 | พระยาคำฟั่น | พ.ศ. 2357 | พ.ศ. 2358 | 1 ปี | ||
2 | พระเจ้าบุญมา | พ.ศ. 2358 | พ.ศ. 2370 | 12 ปี | ||
3 | พระยาน้อยอินท์ | พ.ศ. 2370 | พ.ศ. 2381 | 11 ปี | ||
4 | พระยาคำตัน | พ.ศ. 2381 | พ.ศ. 2384 | 3 ปี | ||
5 | พระยาน้อยลังกา | พ.ศ. 2384 | พ.ศ. 2386 | 2 ปี | ||
6 | เจ้าไชยลังกาพิศาลโสภาคย์คุณ | พ.ศ. 2391 | พ.ศ. 2414 | 23 ปี | ||
7 | เจ้าดาราดิเรกรัตนไพโรจน์ | 12 มีนาคม พ.ศ.2418 | 17 กันยายน พ.ศ. 2434 | 16 ปี | ||
8 | เจ้าเหมพินธุไพจิตร | 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2436 | 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2439 | 3 ปี | ||
9 | เจ้าอินทยงยศโชติ | 3 มกราคม พ.ศ. 2440 | 18 มีนาคม พ.ศ. 2454 | 14 ปี | ||
10 | เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ | 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2454 | 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2486 | 32 ปี | ||
ยกเลิกตำแหน่ง เจ้าผู้ครองนครลำพูน |
เจ้าผู้ครองนครแพร่
แก้เจ้าผู้ครองนครแพร่ 5 พระองค์ แห่งราชวงศ์เทพวงศ์
แก้รายพระนามเจ้าผู้ครองนครแพร่ 5 พระองค์ แห่งราชวงศ์เทพวงศ์ (พ.ศ. 2331 - พ.ศ. 2445) | ||||||
ลำดับ | พระนาม | ครองราชย์ | รวมระยะเวลา | |||
---|---|---|---|---|---|---|
เริ่ม (พ.ศ.) | สิ้นสุด (พ.ศ.) | |||||
1 | พระยาแสนซ้าย | พ.ศ. 2331 | พ.ศ. 2348 | 17 ปี | ||
2 | พระยาเทพวงศ์ | พ.ศ. 2348 | พ.ศ. 2359 | 11 ปี | ||
3 | พระยาอินทวิไชย | พ.ศ. 2359 | พ.ศ. 2390 | 31 ปี | ||
4 | พระยาพิมพิสารราชา | พ.ศ. 2390 | 19 ตุลาคม พ.ศ.2429 | 39 ปี | ||
5 | เจ้าพิริยเทพวงษ์ | 5 เมษายน พ.ศ. 2432 | 25 กันยายน พ.ศ. 2445 | 13 ปี | ||
ยกเลิกตำแหน่ง เจ้าผู้ครองนครแพร่ |
นครรัฐน่าน
แก้นครรัฐน่าน หรือ อาณาจักรน่าน เป็นอาณาจักรหรือนครรัฐขนาดเล็กของชนชาติกาวน่านในอดีต ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำน่าน และลำน้ำสาขา เดิมเรียกว่า นันทสุวรรณนคร , กาวราชนคร , นันทบุรีศรีนครน่าน หรือ กาวน่าน
นครรัฐน่าน | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
พ.ศ. 1825–พ.ศ. 2474 | |||||||
สถานะ | นครรัฐอิสระ | ||||||
เมืองหลวง | เมืองย่าง หรือ เมืองล่าง (พ.ศ. 1780 - พ.ศ. 1848) เมืองวรนคร หรือ เมืองปัว (พ.ศ. 1825 - พ.ศ. 1902) เมืองภูเพียงแช่แห้ง (พ.ศ. 1902 - พ.ศ. 1911) เมืองน่าน หรือ เมืองนันทบุรี (พ.ศ. 1911 - พ.ศ. 2386) เวียงเหนือ (ดงพระเนตรช้าง) (พ.ศ. 2362 - พ.ศ. 2399) เมืองนครน่าน (พ.ศ. 2400 - พ.ศ. 2474) | ||||||
การปกครอง | ราชาธิปไตย | ||||||
กษัตริย์และเจ้าผู้ครองนครน่าน | |||||||
พ.ศ. 1825 - พ.ศ. 1845 | |||||||
• พญาผานอง | พ.ศ. 1866 - พ.ศ. 1896 | ||||||
• พญาผากอง | พ.ศ. 1906 - พ.ศ. 1931 | ||||||
พ.ศ. 1950 - พ.ศ. 1960 | |||||||
พ.ศ. 2017 - พ.ศ. 2022 | |||||||
พ.ศ. 2070 - พ.ศ. 2101 | |||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||
• สถาปนา | พ.ศ. 1825 | ||||||
• ถูกผนวกเข้ากับล้านนา | พ.ศ. 2474 | ||||||
| |||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ |
ประวัติศาสตร์เมืองน่าน
แก้นครรัฐน่าน หรือ เมืองนครน่าน เป็นเมืองที่มีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งแต่สถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1825 ในลุ่มบริเวณลุ่มน้ําย่างและลุ่มน้ําปัว ต่อมาพัฒนาขึ้นเป็นอาณาจักรน่านในฐานะรัฐอิสระ ต่อมาถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนา จนกระทั่งกลายเป็นนครรัฐในฐานะประเทศราชของอาณาจักรสยาม และสุดท้ายถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยที่เรียกว่า “จังหวัดน่าน” สืบมาถึงปัจจุบัน สามารถแบ่งจากพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของเมืองนครน่านออกเป็น 5 ยุคสมัย ได้แก่
1.) สมัยนครรัฐน่านอิสระ (พ.ศ. 1825 - พ.ศ. 2004)
เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1825 มีคนไทยกลุ่มหนึ่งในการนำของพระยาภูคา ได้ครอบครองพื้นที่ราบตอนบนของจังหวัดน่าน ตั้งศูนย์การปกครองอยู่ที่เมืองย่าง (เชื่อกันว่าอยู่บริเวณริมฝั่งด้านใต้ของแม่น้ำย่างใกล้เทือกเขาดอยภูคา ในเขตบ้านหาดเสี้ยว ตำบลยม อำเภอท่าวังผา) เนื่องจากพบร่องรอยชุมชนในสภาพที่เป็นคูน้ำคันดิน กำแพงเมืองซ้อนกันอยู่ ต่อมาพระยาภูคาได้ขยายอาณาเขตของตนออกไป โดยส่งบุตรบุญธรรมสองคนไปสร้างเมืองใหม่ ทางตะวันออกบนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ให้ขุนนุ่นผู้พี่ไปสร้างเมืองจันทบุรี (หลวงพระบาง) ให้ขุนฟองผู้น้องไปสร้างเมืองวรนคร หรือเมืองปัว อยู่ไกลจากแม่น้ำน่านประมาณ 5,000 วา
ภายหลังจากพญาขุนฟอง ปฐมกษัตริย์นครรัฐน่านแห่งราชวงศ์ภูคา (พ.ศ. 1825 - พ.ศ. 1845) ในสิ้นพระชนม์ เจ้าเก้าเกื่อน ผู้เป็นพระราชบุตรก็ได้ครองนครรัฐน่าน และเมื่อพระยาภูคาถึงแก่พิราลัย พญาเก้าเกื่อน กษัตริย์น่าน องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ภูคา (พ.ศ. 1845 - พ.ศ. 1848) ก็ได้ย้ายครองเมืองย่างแทน และให้พระชายา คือ พระนางคำปินเทวี ดูแลรักษาเมืองวรนครสืบแทน เมืองน่านในระยะแรกที่เริ่มสร้างบ้านแปงเมืองมีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่เมืองวรนคร (เมืองปัว) และมีความใกล้ชิดกับเมืองหลวงพระบางในฐานะเมืองพี่เมืองน้อง
พระยางำเมือง เจ้าเมืองพะเยา ก็เข้ามายึดเมืองวรนครเป็นเมืองขึ้น การเข้ามาถือเอาซึ่งเมืองวรนครครั้งนี้เป็นการง่ายมาก มิได้มีการรบพุ่งแต่อย่างใด เพราะทางฝ่ายวรนครไม่ทันรู้ตัว เตรียมการป้องกันไม่ทัน ครั้งนั้นเจ้าเมืองวรนครเป็นผู้หญิง เป็นชายาของพระเจ้าเก้าเถื่อนเจ้าเมืองวรนครอันดับที่ ๒ ซึ่งได้ละเมืองวรนครไว้ให้แก่ชายา แล้วไปครอบครองเมืองย่างอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง การที่เสียเมืองวรนครให้แก่แคว้นพะเยาครั้งนี้ ไม่ปรากฏว่าพระเจ้าเก้าเถื่อนทำการแก้มือแก่พระยางำเมืองแต่ประการใด เห็นจะไม่มีกำลังพอที่จะทำการตอบแทนนั่นเอง ในพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า ในขณะที่พระยางำเมืองเข้ามาถึงวรนครนั้น นางพระยาวรนครได้หนีออกไปจากเมืองได้ไปคลอดบุตรระหว่างทางเป็นชาย ภายหลังเมื่อกุมารนั้นมีอายุ ๑๖ ปี ได้ถวายตัวอยู่ในราชสำนักพระยางำเมือง และพระยางำเมืองโปรดปรานให้นามว่า ขุนใส่ยศ และให้ไปครองเมืองปราด ส่วนเมืองวรนครนั้น พระยางำเมืองให้นางชายาผู้หนึ่งชื่อว่า อั้วลิมกับบุตรชายชื่อว่าอามป้อมมาครอง ภายหลังนางอั้วลิมเกิดผิดใจกับพระยางำเมืองด้วยเรื่องเป็นเชิงว่าพระยางำเมืองระแวงในความจงรักภักดีของนาง นางเจ็บใจจึงร่วมคิดกับขุนใส่ยศ เจ้าเมืองปราดแข็งเมืองต่อพระงำเมืองและมาตั้งอยู่ที่วรนคร แล้วขุนใส่ยศกับนางอั้วลิมก็สมสู่อยู่ด้วยกันฉันท์สามีภริยา ความทั้งนี้ทราบถึงพระยางำเมืองจึงยกกองทัพมาตีวรนคร ทางฝ่ายเมืองวรนครให้เจ้าอามป้อมเป็นทัพยกออกไปเมื่อกองทัพทั้งสองฝ่ายได้ปะทะทำการรบกันเพียงเล็กน้อย พระยางำเมืองก็เลิกทัพกลับไป นับว่าเกิดความสลดพระทัยในการที่บิดากับบุตรต้องมาทำสงครามกัน
ต่อจากนี้ขุนใส่ยศได้อภิเษกเป็นเจ้าเมืองวรนคร มีนามว่า “พระยาผานอง” ในปี ๑๘๖๕
พญาการเมือง ครองเมืองปัวอยู่ระหว่าง พ.ศ.๑๘๙๖ - ๑๙๐๑ นับเป็นราชวงศ์ภูคาองค์ที่ห้า เมืองปัวได้ขยายตัวมากขึ้น และมีความสัมพันธ์กับเมืองสุโขทัยอย่างใกล้ชิด พญาการเมืองได้สร้างพระธาตุแช่แห้งบนภูเพียงแช่แห้ง ระหว่างแม่น้ำเตี๋ยนกับแม่น้ำลิง อยู่ทางด้านทิศตะวันออก (ฝั่งซ้าย) ของแม่น้ำน่าน ห่างออกไปประมาณสามกิโลเมตร และได้อพยพผู้คนจากเมืองปัวลงมาทางใต้ มาสร้างเมืองใหม่บริเวณพระธาตุแช่แห้ง ในปี พ.ศ.๑๙๐๒ โดยมีพระธาตุแช่แห้งเป็นศูนย์กลาง
พญาการเมืองพิราลัย เมื่อปี พ.ศ.๑๙๐๖ โอรสคือ พระยาผากอง ขึ้นครองราชย์ได้ ๖ ปี ต้องประสบปัญหาน้ำแล้งในฤดูแล้งทุกปี เนื่องจากเมืองตั้งอยู่ไกลแหล่งน้ำมากเกินไป จึงได้ย้ายเมืองมาสร้างใหม่ อยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำน่านทางด้านทิศตะวันตก (ฝั่งขวา) ของแม่น้ำน่าน ตรงบริเวณบ้านห้วยไค้ คือ บริเวณที่ตั้งของจังหวัดน่านในปัจจุบัน เมื่อวันอังคาร ขึ้นหกค่ำ เดือนสิบสอง พ.ศ.๑๙๑๑
กษัตริย์น่าน
แก้- พญาภูเข่ง กษัตริย์น่าน องค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์ภูคา ครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 1950 - พ.ศ. 1960
พญาภูเข่ง | |
---|---|
กษัตริย์น่าน องค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์ภูคา ปกครองอาณาจักรน่าน | |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ภูคา |
ครองราชย์ | พ.ศ. 1950 - พ.ศ. 1960 |
ก่อนหน้า | พญาหุง |
ถัดไป | พญาพันต้น |
พระมเหสี | 1.) พระนางวิมลาเทวี 2.) พระนางปทุมมาวดี |
สวรรคต | พ.ศ. 1960 |
งานสำคัญ | 1.) พ.ศ. 1949 ทรงสร้างวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ขึ้นเป็นวัดหลวงกลางเวียงนครน่าน เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพระพิธีสำคัญทางพุทธศาสนา 2.) พ.ศ. 1955 ทรงสร้างวัดสวนตาล พร้อมกับพระชายาองค์ที่ 2 คือ พระนางปทุมมาวดี |
- พญาพันต้น กษัตริย์น่าน องค์ที่ 12 แห่งราชวงศ์ภูคา ครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 1960 - พ.ศ. 1968
พญาศรีพันต้น | |
---|---|
กษัตริย์น่าน องค์ที่ 12 แห่งราชวงศ์ภูคา ปกครองอาณาจักรน่าน | |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ภูคา |
ครองราชย์ | พ.ศ. 1960 - พ.ศ. 1968 |
ก่อนหน้า | พญาภูเข่ง |
ถัดไป | พญางั่วฬารผาสุม |
สวรรคต | พ.ศ. 1968 |
งานสำคัญ | พ.ศ. 1964 ทรงสร้างวัดศรีพันต้น |
- พญางั่วฬารผาสุม กษัตริย์น่าน องค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์ภูคา ครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 1969 - พ.ศ. 1976
พญางั่วฬารผาสุม | |
---|---|
กษัตริย์น่าน องค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์ภูคา ปกครองอาณาจักรน่าน | |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ภูคา |
ครองราชย์ | พ.ศ. 1969 - พ.ศ. 1976 |
ก่อนหน้า | พญาพันต้น |
ถัดไป | พญาอินต๊ะแก่นท้าว |
สวรรคต | พ.ศ. 1976 |
งานสำคัญ | พ.ศ. 1969 ทรงสร้าง "พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี" |
- ท้าวขาก่าน เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 22 (ภายใต้การปกครองของอาณาจักรล้านนา) ปกครองเมืองน่าน ระหว่างปี พ.ศ. 2019 - พ.ศ. 2023
พระเจ้าหลวงติ๋นมหาวงศ์ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
กษัตริย์ประเทศราช | |||||||||
รัชสมัย | 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2269 - 16 มิถุนายน พ.ศ. 2294 | ||||||||
ราชาภิเษก | 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2269 | ||||||||
รัชกาลก่อนหน้า | เจ้าฟ้าเมืองคอง | ||||||||
รัชกาลถัดไป | พระเจ้าอริยวงษ์ | ||||||||
พิราลัย | 16 มิถุนายน พ.ศ. 2294 | ||||||||
พระมเหสี | พระนางเมืองเชียงใหม่อรรคราชเทวี | ||||||||
พระชายา | พระนางยอดราชเทวี | ||||||||
| |||||||||
พระบุตร | 7 พระองค์ | ||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ | ||||||||
ศาสนา | พุทธ นิกายเถรวาท |
เจ้าผู้ครองนคร แห่งเมืองนครลำพูน | |
---|---|
ราชาธิปไตยในอดีต | |
4 | |
5 | |
พระเจ้าลำพูนไชยบุญมา เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร | |
| |
ปฐมกษัตริย์ | พระยาคำฟั่น |
องค์สุดท้าย | เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ |
อิสริยยศ | พระยานครลำพูนไชย เจ้านครลำพูนไชย |
สถานพำนัก | คุ้มหลวงเมืองนครลำพูน |
ผู้แต่งตั้ง | พระมหากษัตริย์สยาม |
เริ่มระบอบ | 17 ตุลาคม พ.ศ. 2357 |
สิ้นสุดระบอบ | 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2486 |
ผู้อ้างสิทธิ์ | เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน |
เจ้าผู้ครองนคร แห่งเมืองนครลำปาง | |
---|---|
ราชาธิปไตยในอดีต | |
พระเจ้าทิพย์จักรสุลวะฤๅไชยสงคราม ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร | |
| |
ปฐมกษัตริย์ | พระเจ้าทิพย์จักรสุลวะฤๅไชยสงคราม |
องค์สุดท้าย | เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต |
อิสริยยศ | พระยานครลำปาง เจ้านครลำปาง |
สถานพำนัก | คุ้มหลวงเมืองนครลำปาง |
ผู้แต่งตั้ง | พระมหากษัตริย์สยาม |
เริ่มระบอบ | พ.ศ. 2275 |
สิ้นสุดระบอบ | 5 ตุลาคม พ.ศ. 2465 |
ผู้อ้างสิทธิ์ | เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน |
พระราชวงศ์ฝ่ายเหนือ
แก้เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่
แก้เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่
เจ้าผู้ครองนคร แห่งเมืองนครลำปาง | |
---|---|
ราชาธิปไตยในอดีต | |
พระเจ้าทิพย์จักรสุลวะฤๅไชยสงคราม ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร | |
| |
ปฐมกษัตริย์ | พระเจ้าทิพย์จักรสุลวะฤๅไชยสงคราม |
องค์สุดท้าย | เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต |
อิสริยยศ | พระยานครลำปาง เจ้านครลำปาง |
สถานพำนัก | คุ้มหลวงเมืองนครลำปาง |
ผู้แต่งตั้ง | พระมหากษัตริย์สยาม |
เริ่มระบอบ | พ.ศ. 2275 |
สิ้นสุดระบอบ | 5 ตุลาคม พ.ศ. 2465 |
ผู้อ้างสิทธิ์ | เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน |
เจ้าผู้ครองนครน่าน
แก้เจ้าผู้ครองนครน่าน
เจ้าผู้ครองนคร แห่งเมืองนครลำพูน | |
---|---|
ราชาธิปไตยในอดีต | |
4 | |
5 | |
พระเจ้าลำพูนไชยบุญมา เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร | |
| |
ปฐมกษัตริย์ | พระยาคำฟั่น |
องค์สุดท้าย | เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ |
อิสริยยศ | พระยานครลำพูนไชย เจ้านครลำพูนไชย |
สถานพำนัก | คุ้มหลวงเมืองนครลำพูน |
ผู้แต่งตั้ง | พระมหากษัตริย์สยาม |
เริ่มระบอบ | 17 ตุลาคม พ.ศ. 2357 |
สิ้นสุดระบอบ | 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2486 |
ผู้อ้างสิทธิ์ | เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน |
เจ้าผู้ครองนครลำปาง
แก้เจ้าผู้ครองนครลำปาง
เจ้าผู้ครองนคร แห่งเมืองนครลำปาง | |
---|---|
ราชาธิปไตยในอดีต | |
พระเจ้าทิพย์จักรสุลวะฤๅไชยสงคราม ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร | |
| |
ปฐมกษัตริย์ | พระเจ้าทิพย์จักรสุลวะฤๅไชยสงคราม |
องค์สุดท้าย | เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต |
อิสริยยศ | พระยานครลำปาง เจ้านครลำปาง |
สถานพำนัก | คุ้มหลวงเมืองนครลำปาง |
ผู้แต่งตั้ง | พระมหากษัตริย์สยาม |
เริ่มระบอบ | พ.ศ. 2275 |
สิ้นสุดระบอบ | 5 ตุลาคม พ.ศ. 2465 |
ผู้อ้างสิทธิ์ | เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน |
เจ้าผู้ครองนครลำพูน
แก้เจ้าผู้ครองนครลำพูน
เจ้าผู้ครองนคร แห่งเมืองนครลำพูน | |
---|---|
ราชาธิปไตยในอดีต | |
4 | |
5 | |
พระเจ้าลำพูนไชยบุญมา เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร | |
| |
ปฐมกษัตริย์ | พระยาคำฟั่น |
องค์สุดท้าย | เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ |
อิสริยยศ | พระยานครลำพูนไชย เจ้านครลำพูนไชย |
สถานพำนัก | คุ้มหลวงเมืองนครลำพูน |
ผู้แต่งตั้ง | พระมหากษัตริย์สยาม |
เริ่มระบอบ | 17 ตุลาคม พ.ศ. 2357 |
สิ้นสุดระบอบ | 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2486 |
ผู้อ้างสิทธิ์ | เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน |
เจ้าผู้ครองนครแพร่
แก้เจ้าผู้ครองนครแพร่
เจ้าผู้ครองนคร แห่งเมืองนครลำปาง | |
---|---|
ราชาธิปไตยในอดีต | |
พระเจ้าทิพย์จักรสุลวะฤๅไชยสงคราม ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร | |
| |
ปฐมกษัตริย์ | พระเจ้าทิพย์จักรสุลวะฤๅไชยสงคราม |
องค์สุดท้าย | เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต |
อิสริยยศ | พระยานครลำปาง เจ้านครลำปาง |
สถานพำนัก | คุ้มหลวงเมืองนครลำปาง |
ผู้แต่งตั้ง | พระมหากษัตริย์สยาม |
เริ่มระบอบ | พ.ศ. 2275 |
สิ้นสุดระบอบ | 5 ตุลาคม พ.ศ. 2465 |
ผู้อ้างสิทธิ์ | เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน |