พระยามหาวงษ์

พระยาน่าน

เจ้ามหาวงศ์[3] หรือ เจ้าหลวงมหาวงศ์[4] ทรงเป็นเจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 61 และองค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ ทรงเป็นราชโอรสในเจ้าฟ้าหลวงมหาพรหม เจ้าฟ้าเมืองเทิง กับแม่เจ้านางเลิศอัครเทวี (ผู้เป็นพระธิดาในเจ้าไชยราชากับเจ้านางเทพ) ส่วนเจ้านางเทพ (ผู้เป็นพระธิดาในพระเจ้าหลวงติ๋นมหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 51 และปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ กับแม่เจ้าเมืองเชียงใหม่อัครเทวี) และทรงเป็นพระปนัดดา (เหลน) ในพระเจ้าหลวงติ๋นมหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 51 และปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ ทรงครองเมืองน่าน ระหว่างปี พ.ศ. 2381 - พ.ศ. 2394

เจ้ามหาวงศ์
พระยาน่าน
เจ้าผู้ครองนครน่าน
องค์ที่ 61 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
ราชาภิเษก23 เมษายน พ.ศ. 2381
ครองราชย์23 เมษายน พ.ศ. 2381 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2394
รัชกาล13 ปี 6 เดือน
พระอิสริยยศพระยาประเทศราช
ก่อนหน้าพระเจ้าอชิตวงษ์
ถัดไปเจ้าอนันตวรฤทธิเดช
ประสูติณ เมืองเทิง
พิราลัย23 ตุลาคม พ.ศ. 2394
ณ คุ้มหลวงนครน่าน (เวียงเหนือ)
พระชายาแม่เจ้ายอดทิพมโนลาอรรคราชเทวี
ชายาแม่เจ้าแปงเฮือนราชเทวี
พระราชบุตร6 พระองค์
พระนามเต็ม
เจ้ามหาวงศวรราชานราธิบดี เจ้านครเมืองน่าน[1]
ราชสกุลมหาวงศนันทน์ [2]
ราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์
พระบิดาเจ้าฟ้ามหาพรหม เจ้าฟ้าเมืองเทิง
พระมารดาแม่เจ้านางเลิศราชเทวี

พระประวัติ

แก้

เจ้าหลวงมหาวงษ์ หรือ เจ้ามหาวงษ์ หรือ เจ้ามหาวงศวรราชานราธิบดี สถิตพิสัยในวรชัยนันทเทพบุรีนครราชธานี (พระนามที่ปรากฎในจารึกการซ่อมพระธาตุแช่แห้ง ด้านที่ 1 พ.ศ. 2389)[5] ทรงเป็นราชโอรสองค์โตในเจ้าฟ้ามหาพรหม เจ้าฟ้าเมืองเทิง ประสูติแต่แม่เจ้านางเลิศอัครเทวี (ผู้เป็นพระธิดาในเจ้าไชยราชากับแม่เจ้านางเทพ) ส่วนแม่เจ้านางเทพ (ผู้เป็นพระธิดาในพระเจ้าหลวงติ๋นมหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 51 และปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ กับแม่เจ้าเมืองเชียงใหม่อัครเทวี) และทรงเป็นพระปนัดดา(เหลน)ในพระเจ้าหลวงติ๋นมหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 51 และปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ ทรงมีพระอนุชาและพระขนิษฐาร่วมเจ้ามารดา 8 พระองค์ ดังนี้

  1. เจ้ามหาวงษ์ ภายหลังเป็นได้ พระเจ้ามหาวงษ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 61
  2. เจ้าเมืองแก้ว
  3. เจ้าน้อยพิมพิสาร
  4. เจ้าวุฒนะ ภายหลังเป็นได้ เจ้าหลวงเมืองเทิง (เจ้าวุฒิ) และเป็นต้นตระกูลวงศ์วุฒิ และวุฒิพรหม
  5. เจ้าสุริยช่อฟ้า ต้นตระกูลสุริยะฉาน
  6. แม่เจ้าอุบลวรรณา
  7. แม่เจ้าศรีวรรณา
  8. แม่เจ้าจันทิมา

พระอิสริยยศ

แก้
  1. พระเมืองไชย (มหาวงษ์) พระเมืองไชยเมืองน่าน
  2. พระยาอุปราช (มหาวงษ์) พระยาอุปราชเมืองน่าน
  3. พระยาน่าน (มหาวงษ์) เจ้านครเมืองน่าน

พ.ศ. 2381 เจ้ามหาอุปราชามหาวงษ์ ท่านก็ได้ลงไปเข้าเฝ้า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว กาลนั้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จิงมีพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตร แต่งตั้ง เจ้ามหาอุปราชามหาวงษ์ ให้เป็น เจ้าพระยาน่านมหาวงษ์ เจ้านครเมืองน่าน

พระชายา และราชบุตร

แก้

 เจ้ามหาวงษ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 60 ทรงมีพระชายา 2 องค์ และพระโอรส/พระธิดา รวม 6 พระองค์ มีรายพระนามดังนี้

  • พระชายาที่ 1 แม่เจ้ายอดทิพมโนราอรรคราชเทวี ประสูติพระโอรส/พระธิดา 4 องค์ ดังนี้
    1. เจ้าอินปั๋น ภายหลังได้เป็น เจ้าบุรีรัตน์นครน่าน
    2. เจ้าคำเครื่อง ภายหลังได้เป็น พระยาวังขวานครน่าน เสกสมรสกับเจ้านางภูคา ณ น่าน มีธิดา 1 ท่าน ได้แก่
      1. เจ้านางศรีโสภา ณ น่าน ภายหลังเป็นอัครชายาในเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 64
    3. เจ้าหน่อเมือง
    4. เจ้านางอ้อม
  • พระชายาที่ 2 แม่เจ้าแปงเฮือนราชเทวี ประสูติพระโอรส 2 องค์ ดังนี้
    1. เจ้าพิมพิสาร
    2. เจ้าตุ้ย ภายหลังได้เป็น พระยาไชยสารวงศา เจ้าเมืองเทิง

พระกรณียกิจ

แก้
  • ด้านพระศาสนา
    1. สร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถาน ในนครน่าน
      ในปี พ.ศ. 2381 เจ้ามหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 61 ทรงโปรดให้สร้างและบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่างๆ ในเขตนครน่าน เช่น บูรณปฏิสังขรณ์พระวิหารและพระธาตุ วัดสถารส สร้างพระวิหาร วัดพระเกิด และบูรณปฏิสังขรณ์พระวิหารพระธาตุแช่แห้งน้อย เป็นต้น
    2. สร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุ ในวัดพระธาตุแช่แห้ง
      ในปี พ.ศ. 2389 เจ้ามหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 61 ทรงโปรดให้สร้างพระเจดีย์น้อย ประจำทิศบนฐานองค์พระธาตุแช่แห้ง พร้อมกันนั้นได้บูรณปฏิสังขรณ์ศาลาราย พระวิหารหลวง ลานพระธาตุ ซุ้มประตู และศาลานางป้อง นอกจากนี้ยังได้ทรงบูรณะยอดฉัตรขึ้นอีก 2 ใบ ดอกบัวเงิน 6 ดอก ดอกบัวคำ 6 ดอก สร้างกระดิ่งห้อย 10 ลูก สร้างพระพุทธรูป 3 องค์ แล้วทำบุญเฉลิมฉลอง
    3. สร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถาน ในนครน่านเป็นคำรบที่ 2
      เจ้ามหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 61 ทรงโปรดให้ดำเนินการก่อสร้างบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่างๆ เช่น พระธาตุดอนหนาม เมืองปัว พระธาตุวัดท่าล้อ นครน่าน พระวิหาร วัดช้างเผือก นครน่าน พระวิหารวัดปงสนุก เมืองสา เป็นต้น
  • ด้านการปกครอง
    1. ตั้งเมืองเชียงของ
      ในปี พ.ศ.2386 เจ้ามหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 61 ทรงโปรดให้ดำเนินการบูรณะและตั้งเมืองเชียงของขึ้นเป็นเมืองหน้าด่าน ทางตอนเหนือของนครน่าน ความตอนหนึ่งในจดหมายเหตุรัชกาลที่ ๓ จ.ศ. ๑๒๐๕ ความว่า

      "ซึ่งพญาน่านให้ พญาราชบุตร พญาเมืองเลน ขึ้นไปทำระเนียดเมืองเชียงของให้เป็นภูมิฐานบ้านเมืองขึ้นให้มั่นคงนั้น ก็ชอบด้วยราชการต้องกับกระแสพระราชดำริอยู่แล้ว ให้จัดแจงตั้งเมืองเชียงของขึ้นให้ได้ ให้จัดผู้คนในแขวงเมืองน่านขึ้นไปใส่บ้านเมือง ให้ควรกับเมืองหน้าด่าน กำชับให้ไร่นาที่ทำมาหากินตั้งให้ติดให้จงได้ ให้คิดอ่านหาผู้คนครอบครัวปลายเขตแดนอ้ายพม่ามาใส่บ้านเมืองให้บ้านเมืองบริบูรณ์มั่งคั่งถึงขั้นจะได้เป็นเมืองใหญ่ เมืองโต ชั้นนอกเมืองน่าน และให้คิดอ่านตั้งเมืองหน้าด่านต่อออกไป เขตแดนบ้านเมืองจะได้กว้างขวางเปนเกียรติยศสืบไปภายหน้า" ……

    2. ให้ชาวไทลื้อตั้งเมืองอยู่ที่เมืองเชียงของ[6]
       ในปีเถาะ เบณจศก พ.ศ.2386 เกิดจราจลในเมืองเชียงรุ้ง เจ้าหม่อมมหาวัง เจ้าเมืองเชียงรุ้ง ถึงอนิจกรรม เจ้ามหาขนานเปนอาว์เจ้าหม่อมมหาวังขึ้นนั่งเมืองแทน เจ้าสาระวันบุตรเขยเจ้าหม่อมมหาวังเป็นตำแหน่งราชบุตรอยู่แต่ก่อน คบคิดกับเจ้าหม่อมมหาไชยผู้เปนน้องเขยของเจ้าหม่อมมหาวัง จับเจ้ามหาขนานปู่น้อยซึ่งขึ้นนั่งเมืองฆ่าเสีย แล้วเจ้าสาระวันตั้งตัวขึ้นเป็น เจ้าแสนหวีฟ้า เจ้าฟ้าเมืองเชียงรุ้ง แล้วให้น้องชายชื่อออละนาวุดเปนเจ้าอุปราช
       ส่วนหม่อมหน่อคำซึ่งเป็นราชบุตรของเจ้ามหาขนานที่ถูกฆ่าตาย ได้หนีไปพึ่งกษัตริย์พม่าที่เมืองอังวะ กษัตริย์พม่าจึงให้เกณฑ์กองทัพพม่าสมทบกับพวกไทยใหญ่แลเมืองเชียงตุง รวมพลได้ 3,000 คน แล้วให้ยกทัพมาช่วยกู้เมืองเชียงรุ้งคืน กองทัพพม่าอังวะตีเมืองเชียงรุ้งแตก เจ้าหม่อมมหาไชยได้อพยพครอบครัวหนีไปเมืองพง ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของตัวมาอยู่เมืองหลวงภูคาปลายเขตเมืองน่านประมาณ 10,000 คน กษัตริย์พม่าจึงตั้งหม่อมหน่อคำขึ้นเป็นเจ้าเมืองเชียงรุ้ง
       ฝ่ายเจ้าหม่อมมหาไชย ซึ่งอพยพครอบครัวมาอาศัยอยู่ที่เมืองหลวงภูคาในเขตแดนนครน่าน พระยาน่านมหาวงศ์ จะส่งตัวลงมากรุงเทพก็ดื้อดึงอยู่ไม่ลงมา จึ่งโปรดเกล้าฯให้พระยาศรีสหเทพ(ปาน) ขึ้นไปเกลี้ยกล่อมเอาตัวลงมาให้จงได้ ท้าวขุนนายครัวรู้ว่ามีข้าหลวงขึ้นไปเอาตัว ก็พากันแตกหนีกลับไปเมืองเชียงรุ้งเสียเป็นอันมากแต่ได้ตัวเจ้าหม่อมมหาไชยกลับมา ส่วนครอบครัวนั้น พระยาน่านมหาวงศ์ ได้กันไว้ได้ 1,800 คนเศษ แล้วให้มาตั้งอยู่เมืองเชียงของ แขวงเมืองน่าน พระยาศรีสหเทพ(ปาน) ก็พาตัวเจ้าหม่อมมหาไชยลงมากรุงเทพฯ เมื่อ ณ เดือน ๔ (พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๓)

สถานที่อันเนื่องมาจากพระนาม

แก้
  1. ถนนมหาวงศ์

ราชตระกูล

แก้

ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้
ก่อนหน้า พระยามหาวงษ์ ถัดไป
พระเจ้าอชิตวงษ์   เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 61
และองค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์

(พ.ศ. 2381 - พ.ศ. 2394)
  พระเจ้าอนันตวรฤทธิเดช