หมื่นสร้อยเชียงของ
หมื่นสร้อยเชียงของ หรือ เจ้าหลวงสร้อยเชียงของ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 18 (ภายใต้การปกครองของอาณาจักรล้านนา) ปกครองเมืองน่าน ระหว่างปี พ.ศ. 2005 - พ.ศ. 2009 หลังจากพระเจ้าติโลกราช พระมหากษัตริย์ล้านนา รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์มังราย สามารถตีเมืองน่านได้ในปี พ.ศ. 2101 ก็ทรงแต่งตั้งให้พระยาผาแสง ปกครองเมืองน่านตามเดิม สืบต่อมาจนถึงปี พ.ศ. 2005 พระยาผาแสง กษัตริย์น่าน องค์ที่ 17 แห่งราชวงศ์ภูคา ทรงสิ้นพระชนม์ ราชสำนักล้านนาที่เมืองเชียงใหม่จึงได้ให้หมื่นสร้อยเชียงของมาเป็นเจ้าครองเมืองน่าน สืบต่อไป [1]
| หมื่นสร้อยเชียงของ | |
|---|---|
| เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 18 (ภายใต้การปกครองของล้านนา) | |
| สถาปนา | พ.ศ. 2005 |
| ดำรงตำแหน่ง | พ.ศ. 2005 - พ.ศ. 2009 |
| ระยะเวลา | 4 ปี |
| ก่อนหน้า | พระเจ้าผาแสง |
| ถัดไป | หมื่นน้อยใน |
พระประวัติ
แก้เมื่อนั้นพระเปนเจ้าติโลกก็หื้อหมื่นสร้อยเชียงของลงมากินแทนในปีกดสี จุลศักราชได้๘๒๔ ตัว กินเมืองได้ ๔ ปี ก็ย้ายไปกินเมืองฝางปีนั้นแล ได้ ๑๘ ตนเสวยเมืองแล
กรณียกิจ
แก้ในปี พ.ศ. 2246 พระยาเมืองราชา ร่วมกับลาวแสนแก้วทำการก่อกบฏต่อพม่าไม่สำเร็จ พระเจ้าสเน่ห์มิน พระมหากษัตริย์พม่า องค์ที่ 12 แห่งราชวงศ์ตองอู จึงได้ยกกองทัพมาปราบปรามเมืองน่าน ครั้นถึงวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2247 กองทัพพม่าได้เดินทางมาถึงเมืองน่าน และสามารถตีเมืองน่านได้สำเร็จ กองทัพพม่าเข้าเมืองน่านได้ ก็เผาเมืองน่านทำลายศาสนสถานในเมืองน่าน เช่น ทำลายยอดพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุช้างค้ำ ทำลายพระเจดีย์ทิพย์ พระพุทธรูปวัดภูมินทร์ และเผาวัดวาอารามในเมืองน่านจนสูญสิ้น ส่วนพระยาเมืองราชาได้หลบหนีไปเมืองล้านช้างหลวงพระบาง เมืองน่านจึงถูกทิ้งร้างไปถึง 5 ปี
อ้างอิง
แก้ดูเพิ่ม
แก้| ก่อนหน้า | หมื่นสร้อยเชียงของ | ถัดไป | ||
|---|---|---|---|---|
| พระเจ้าผาแสง | 
|
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 18 (ภายใต้การปกครองของล้านนา) (พ.ศ. 2005 - พ.ศ. 2009) |
|
หมื่นน้อยใน |