สุรยุทธ์ จุลานนท์

ประธานองคมนตรีไทย

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ป.จ. ม.ป.ช. ม.ว.ม. ร.ม. ว.ป.ร. ๓ (เกิด 28 สิงหาคม พ.ศ. 2486) เป็นทหารบกและนักการเมืองชาวไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรี[2] นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 24 จากการแต่งตั้งโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ภายหลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

สุรยุทธ์ จุลานนท์
สุรยุทธ์ใน พ.ศ. 2550
ประธานองคมนตรี
เริ่มดำรงตำแหน่ง
2 มกราคม พ.ศ. 2563
(4 ปี 254 วัน)[1]
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ก่อนหน้าเปรม ติณสูลานนท์
องคมนตรี
ดำรงตำแหน่ง
29 ธันวาคม พ.ศ. 2559 – 2 มกราคม พ.ศ. 2563
(3 ปี 4 วัน)
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 24
ดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 – 29 มกราคม พ.ศ. 2551
(1 ปี 120 วัน)
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
รองหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล
โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์
ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
สนธิ บุญยรัตกลิน
ก่อนหน้าสนธิ บุญยรัตกลิน
(หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข)
ถัดไปสมัคร สุนทรเวช
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ดำรงตำแหน่ง
3 ตุลาคม พ.ศ. 2550 – 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
(0 ปี 126 วัน)
นายกรัฐมนตรีตนเอง
ก่อนหน้าอารีย์ วงศ์อารยะ
ถัดไปเฉลิม อยู่บำรุง
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม พ.ศ. 2545 – 30 กันยายน พ.ศ. 2546
(0 ปี 364 วัน)
ก่อนหน้าพลเรือเอก ณรงค์ ยุทธวงศ์
ถัดไปพลเอก สมทัต อัตตะนันทน์
ผู้บัญชาการทหารบก
ดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม พ.ศ. 2541 – 30 กันยายน พ.ศ. 2545
(3 ปี 364 วัน)
ก่อนหน้าพลเอก เชษฐา ฐานะจาโร
ถัดไปพลเอก สมทัต อัตตะนันทน์
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด28 สิงหาคม พ.ศ. 2486 (81 ปี)
อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ประเทศไทย
คู่สมรส
บุตร
  • นนท์
  • สันต์
  • จุล
บุพการี
ลายมือชื่อ
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ ไทย
สังกัดกองทัพบกไทย
ประจำการพ.ศ. 2508–2546
ยศ พลเอก
พลเรือเอก
พลอากาศเอก
หน่วยกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์
บังคับบัญชากองทัพบกไทย (2541–2545)
กองบัญชาการทหารสูงสุด (2545–2546)
ผ่านศึกการก่อการกำเริบคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย

ก่อนเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พลเอก สุรยุทธ์ เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และองคมนตรี

ประวัติ

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2486 ในค่ายจักรพงษ์ที่จังหวัดปราจีนบุรี เป็นบุตรของ พันโท พโยม จุลานนท์ บุตรของ พันเอก พระยาวิเศษสิงหนาถ (ยิ่ง จุลานนท์) ต้นตระกูลจุลานนท์ บิดาเคยดำรงตำแหน่งสูงระดับแกนนำของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และเป็นที่รู้จักกันในนาม "สหายคำตัน" กับมารดาชื่ออัมโภช จุลานนท์ (สกุลเดิม ท่าราบ) บุตร พันเอก พระยาศรีสิทธิสงคราม (ดิ่น ท่าราบ)

ชีวิตครอบครัว พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ สมรสครั้งแรกกับนางสาวดวงพร รัตนกรี มีบุตรชาย 1 คนคือ พันโท นนท์ จุลานนท์ ผู้บังคับกองร้อยปฏิบัติการจิตวิทยาที่ 1 กองทัพภาคที่ 1[3] สมรสครั้งที่สองกับ พันเอกหญิง ท่านผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์ (สันทัดเวช)[4] มีบุตรชาย 2 คน คือ

  1. นายสันต์ จุลานนท์ (ข้าว)
  2. นายจุล จุลานนท์ (น้ำ)

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นผู้นิยมการเดินป่าชมธรรมชาติ เป็นประธาน "มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" และเป็นที่ปรึกษาของเยาวชนกลุ่ม "รักษ์เขาใหญ่" ตั้งแต่ พ.ศ. 2535

การศึกษา

จบการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์, โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เลขประจำตัว ส.ก.12129 ก่อนเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 1 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 12 โดยสำเร็จการศึกษาเมื่อ พ.ศ. 2508

เมื่อเข้ารับราชการแล้วยังผ่านการอบรมในหลายหลักสูตรคือ

  • พ.ศ. 2509 หลักสูตรชั้นนายร้อย เหล่าทหารราบ
  • พ.ศ. 2509 หลักสูตรส่งกำลังทางอากาศจู่โจม
  • พ.ศ. 2511 หลักสูตรชั้นนายพัน เหล่าทหารราบ สหรัฐอเมริกา
  • พ.ศ. 2516 หลักสูตรเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 52
  • พ.ศ. 2517 หลักสูตรเสนาธิการทหารบก สหรัฐอเมริกา
  • พ.ศ. 2517 หลักสูตรการบริหารทรัพยากร กระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา
  • พ.ศ. 2536 หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร

การทำงาน

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เริ่มรับราชการในยศร้อยตรี ตั้งแต่ พ.ศ. 2508 จากนั้นจึงไปศึกษาต่อหลักสูตรเสนาธิการทหารบก ที่สหรัฐอเมริกา และทำงานในหน่วยรบต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ ในขณะที่บิดาก็ยังเป็นแกนนำของพรรคคอมมิวนิสต์ในขณะนั้น ใน พ.ศ. 2529–2531 พลเอก สุรยุทธ์ เป็นนายทหารคนสนิทของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในเวลานั้น

ต่อมาสมัยชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้ง พลเอก สุรยุทธ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2541[5]

ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2545 พลเอก สุรยุทธ์ ถูกทักษิณ ชินวัตร ปรับย้ายพ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีฐานผลิตยาเสพติดในประเทศพม่าโดยพลการ[6]

หลังจากเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2546 พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ วางเป้าหมายไว้ว่า จะอุปสมบทและออกธุดงค์ไปในภาคอีสาน แต่ยังไม่ทันได้เข้าอุปสมบทดังที่ตั้งใจไว้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรีเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2546 จนเมื่อดำรงตำแหน่งองคมนตรีได้สักระยะจึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตลาอุปสมบทเป็นเวลา 1 พรรษา ณ วัดป่าแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน

การดำรงตำแหน่งที่สำคัญ

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เคยดำรงตำแหน่งทางทหาร และตำแหน่งพิเศษอื่นดังนี้

ราชการทหาร

  • พ.ศ. 2508 รับราชการประจำศูนย์การทหารราบ
  • พ.ศ. 2509 ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 1 กรมผสมที่ 31
  • พ.ศ. 2513 ผู้บังคับชุดปฏิบัติการ กองร้อยพิเศษ กองรบพิเศษ (พลร่มป่าหวาย) ที่ 2
  • พ.ศ. 2515 ครูโรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ
  • พ.ศ. 2521 ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 4 กรมผสมที่ 23
  • พ.ศ. 2526 ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 1 กองพลรบพิเศษที่ 1
  • พ.ศ. 2529 นายทหารคนสนิทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
  • พ.ศ. 2532 ผู้บัญชาการกองรบพิเศษที่ 1
  • พ.ศ. 2535 ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
  • พ.ศ. 2537 แม่ทัพภาคที่ 2
  • พ.ศ. 2540 ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก
  • พ.ศ. 2540 ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก
  • พ.ศ. 2541 - 2545 ผู้บัญชาการทหารบก
  • พ.ศ. 2545 -2546 ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

ตำแหน่งพิเศษ

  • พ.ศ. 2526 ราชองค์รักษ์เวร
  • พ.ศ. 2529 - 2531 นายทหารคนสนิท นายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
  • พ.ศ. 2531 นายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์
  • พ.ศ. 2535 และ 2539 สมาชิกวุฒิสภา ครั้งที่ 1 และ 2
  • พ.ศ. 2546 ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี

เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ

ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ภายหลังจากที่ พลเอก สุจินดา คราประยูร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีประชาชนรวมตัวกันชุมนุมตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อขับไล่ พลเอก สุจินดา ให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลของ พลเอก สุจินดา ต้องสลายการชุมนุม โดย พลเอก สุรยุทธ์ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จังหวัดลพบุรี ได้เป็นผู้สั่งการกองกำลังทหารเข้าตรวจค้นในบริเวณโรงแรมรัตนโกสินทร์ โดยไม่ให้ใช้อาวุธ[7][8][9]

การเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

หลังจากการเชิญเพื่อให้ช่วยรับภาระในการนำรัฐบาลชั่วคราวถึง 2 ครั้งจาก พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ จึงเข้าดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 โดยมี พลเอก สนธิ หัวหน้า คปค. เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

การปฏิบัติงานของรัฐบาล

  • วางยุทธศาสตร์ประชาชนอยู่ดีมีสุข โดยเน้นการพัฒนาคนและครอบครัวให้พึ่งพาตนเองได้ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีงบประมาณส่วนกลาง 5,000 ล้านบาท ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ประสานงานจากส่วนกลางสู่ชุมชน[10]

การคลัง

  • นำพระราชบัญญัติคุ้มครองเงินฝาก มาใช้[11]

วัฒนธรรม

  • ห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด แต่สามารถโมษณาได้ในเวลา 22 นาฬิกาเป็นต้นไป[12]
  • ออกมาตรการคุมเข้มไม่ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เต้นโคโยตี้[13]

สาธารณสุข

  • ยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เปลี่ยนเป็น รักษาฟรีทุกโรค และให้คนไทยห่างไกลจากโรค[12]

พลังงาน

  • ยกเลิกแผนการนำเข้าพลังงานไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติจากประเทศพม่า[14]

การศึกษา

  • ให้โรงเรียนดัง 430 แห่งทั่วประเทศรับเด็กนักเรียนจากพื้นที่ใกล้เคียงจำนวนครึ่งหนึ่ง ส่วนโรงเรียนอื่นจะต้องรับนักเรียนเข้าทั้งหมดโดยไม่มีการสอบ หากมีผู้สมัครเกินจำนวนที่รับ ให้ใช้วิธีจับสลาก[15]

สิทธิมนุษยชน

  • ยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูปฯ เรื่องห้ามการชุมนุมประท้วง แต่ยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึก[16]
  • การสั่งห้ามคนขับรถแท็กซี่ และมอเตอร์ไซค์รับจ้างในกรุงเทพเข้าร่วมการประท้วงรัฐบาล สมัชชาคนจนหลายพันคนถูกสกัดกั้นไม่ให้เข้าร่วมการประท้วงในกรุงเทพฯ โดยอ้างว่าพวกเขาไม่มีใบอนุญาตให้เดินทางตามกฎอัยการศึก (ซึ่งยังมีผลครอบคลุม 30 กว่าจังหวัดในเวลานั้น)[17]
  • สิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ภายใต้รัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ กล่าวว่า "การวิพากษ์วิจารณ์ประธานองคมนตรีถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ" ดังนั้น การปิดเว็บไซต์ที่มีข้อความวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวจึงเป็นเรื่องเหมาะสม[18]
  • รัฐบาลพลเอก สุรยุทธ์ผลักดันกฎหมายที่ระบุว่า ผู้ที่พยายามเข้าเว็บไซต์ใด ๆ ที่รัฐบาลได้เซ็นเซอร์ไว้หนึ่งหมื่นกว่าเว็บ จะต้องรับโทษตามกฎหมาย และเอาผิดผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ไม่เปิดเผยไอพีแอดเดรสของผู้ใช้แก่รัฐบาล[19]
  • การปิดวิทยุชุมชนที่ต่อสายตรงสัมภาษณ์ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเกิดรัฐประหารเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 โดยได้โทรศัพท์เข้ามาที่สถานีวิทยุชุมชนคลื่น 87.75FM และคลื่น 92.75FM วันต่อมา รัฐบาลทหาร กรมประชาสัมพันธ์ และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในได้เข้ามาตรวจสอบวิทยุชุมชนแห่งนี้ ทำให้วิทยุชุมชนนี้งดออกอากาศ[20]
  • การก่อตั้งเครือข่ายสนับสนุนรัฐบาลทหารจำนวน 700,000 คน เพื่อสกัดกั้นผู้ประท้วงรัฐบาลทหาร ผู้อำนวยการ กอ.รมน. กล่าวว่า "เราต้องสกัดกั้นผู้ประท้วงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ถ้ามีผู้ประท้วงน้อยกว่า 50,000 คน ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร"[21]
  • วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2550 รัฐบาลสั่งเซ็นเซอร์การแพร่ภาพการสัมภาษณ์ ทักษิณ ชินวัตร ทางซีเอ็นเอ็นในประเทศไทย[22]

สื่อสารมวลชน

บัญชีทรัพย์สิน

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2549 พบว่า พลเอก สุรยุทธ์ มีทรัพย์สินรวม 25,246,091 บาท โดยเป็นเงินฝากธนาคารพาณิชย์ 5 บัญชี จำนวน 7,283,341 บาท หลักทรัพย์และเงินลงทุนอื่น 82,500 บาท ที่ดิน 9 แปลง มูลค่า 17,880,250 บาท

พันเอกหญิง คุณหญิงจิตรวดี จุลานนท์ (ภริยาของ พลเอก สุรยุทธ์) มีทรัพย์สินรวม 65,566,363 บาท โดยเป็นเงินฝากธนาคารพาณิชย์ 15 บัญชี จำนวน 20,620,933 บาท เงินลงทุนในหลักทรัพย์รัฐบาล 10,030,000 บาท เงินลงทุนอื่น 33,430 บาท ที่ดิน 3 แปลง มูลค่า 7 ล้านบาท บ้าน 3 หลัง มูลค่า 10 ล้าน ยานพาหนะ 3 คัน มูลค่า 3,725,000 ทรัพย์อื่น 14,157,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับอัญมณี ทั้งสองคนมีทรัพย์สินรวม 90,812,454 บาท[23]

ฉายานาม

เนื่องจากรัฐบาลของ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประกอบไปด้วยรัฐมนตรีที่เป็นผู้สูงอายุ และข้าราชการประจำที่เกษียณอายุแล้วจำนวนมาก สื่อมวลชนจึงตั้งฉายาให้ว่า "รัฐบาลขิงแก่" แต่ก็มีสื่อมวลชนบางแขนง ตั้งฉายาให้ว่า ยุทธ ยายเที่ยง เนื่องจากมีคดีพัวพันเกี่ยวกับการโกงที่ดินเขายายเที่ยง และโดยที่นายกรัฐมนตรีเองถูกมองว่ามุ่งเน้นการรักษาคุณธรรม จริยธรรม และในขณะเดียวกันก็ทำงานเชื่องช้า ทำให้ได้รับฉายาจากธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าเป็น "ฤๅษีเลี้ยงเต่า" โดยตั้งล้อกับฉายาของ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยได้รับฉายาว่า "ฤๅษีเลี้ยงลิง"[24]

ข้อวิพากษ์วิจารณ์

นอกจากจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากรับตำแหน่งจากคณะรัฐประหารแล้ว พลเอก สุรยุทธ์ ยังถูกกล่าวหาในเรื่องการบุกรุกป่าสงวนและการคอรัปชั่นด้วย

การบุกรุกป่าสงวน

พลเอก สุรยุทธ์ ถูกกล่าวหาว่าครอบครองพื้นที่ป่าสงวนเขายายเที่ยง ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งขัดต่อกฎหมายพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อย่างไรก็ดี กรมป่าไม้ได้พิสูจน์แล้วว่าที่ผืนนี้เป็นหนึ่งในจำนวนหลายร้อยแปลงที่เรียกว่า "พื้นที่จัดสรรแบบหมู่บ้านป่าไม้" และเอกสารสิทธิ์คือ ภบท.5 ซึ่งสามารถตกทอดได้ทางทายาทโดยธรรมเท่านั้น และแปลงที่พลเอกสุรยุทธ์ครอบครองนั้นผู้ได้รับจัดสรรโดยถูกต้องแต่แรกคือ นายเบ้า สินนอก เมื่อพลเอกสุรยุทธ์เป็นผู้นำแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ซื้อที่ดินมาจากพันเอก สุรฤทธิ์ จันทราทิพ ซึ่งก็ซื้อมาอีกทอดหนึ่ง โปรดสังเกตว่าช่องว่างทางกฎหมายนี้ที่ทำให้บุคคลมากมายทั่วประเทศยอมเสียเงินซื้อที่ ภบท.5 ที่ไม่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ยกเว้นตกทอด ทั้ง ๆ รู้แก่ใจว่าเมื่อรัฐเรียกคืนก็ต้องคืน พลเอก สุรยุทธ์กล่าวว่าเขาจะลาออกและคืนที่ดินนี้ (ซึ่งเขาไม่ได้ปฏิเสธว่าเขาเป็นเจ้าของ) ทันทีหากพบความผิด[25] อารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวปกป้องสุรยุทธ์ว่า "พลเอก สุรยุทธ์ ซื้อที่ดินนี้มาจากคนอื่น ดังนั้นจะต้องไปถามคน ๆ นั้นว่าที่ดินนี้เป็นพื้นที่สงวนหรือไม่"

จรัญ ดิษฐาอภิชัย อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษชนแห่งชาติ กล่าวว่า "ผมรับไม่ได้ที่ใครคนหนึ่งสร้างบ้านหรูหราในพื้นที่ป่าสงวน กลับเรียกตัวเองว่าเป็นผู้มีจริยธรรมและความพอเพียง"[26]

อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ปปช.) ปฏิเสธที่จะตรวจสอบคดีนี้โดยให้เหตุผลว่าไม่มีอำนาจไปตรวจสอบ กล้าณรงค์ จันทิก หนึ่งในกรรมการ ปปช. กล่าวว่า พลเอก สุรยุทธ์ เกษียณจากกองทัพเมื่อ พ.ศ. 2546 แต่เพิ่งมาฟ้องร้องกัน 4 ปีหลังเกษียณ คณะกรรมการ ปปช. ไม่สามารถสอบสวนคดีที่มีอายุเกิน 2 ปีหลังจากเกษียณได้[27]

การฉ้อราษฎร์บังหลวง

พลเอก สุรยุทธ์ ชื่นชอบสะสมโมเดลรถไฟ เขาถูกกล่าวหาว่าครอบครองโบกี้รถไฟ 4 โบกี้ ไว้ที่บ้านเขายายเที่ยง จังหวัดนครราชสีมา อย่างผิดกฎหมาย พลเอก สุรยุทธ์กล่าวว่าจริง ๆ แล้วเขามีมากกว่า 4 โบกี้ แต่ทั้งหมดเป็นรถไฟจำลองขนาดเล็กวิ่งด้วยไฟฟ้า อยู่ในกรุงเทพฯ และได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย[28]

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ข่าวสดฉบับวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ได้เผยแพร่ภาพสิ่งปลูกสร้างคล้ายรางรถไฟที่อยู่บนเขาใกล้ที่พักของ พลเอก สุรยุทธ์ ที่เขายายเที่ยง ซึ่งก่อนการสิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง พลเอก สุรยุทธ์ ได้เชิญสื่อมวลชนราว 40 คน ขึ้นไปเยี่ยมชมและทานอาหารกลางวัน ณ บ้านพักบนเขายายเที่ยงดังกล่าว จึงปรากฏความจริงว่าสิ่งที่ดูคล้ายโบกี้รถไฟนั้นคืออาคารที่ปลูกอยู่ใกล้กับตัวบ้านพัก[29]

หลังจากที่มีการชุมนุมบนหมู่บ้านเขายายเที่ยง และด้วยเกรงว่าชาวบ้านอีกมากที่ครอบครองที่ดินลักษณะเดียวกันจะได้รับผลกระทบ พลเอก สุรยุทธ์ จึงให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมารับมอบที่ดินที่มีปัญหาของตนกลับไปพร้อมสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดโดยไม่รื้อถอน[29][30]

รางวัลและเกียรติยศ

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้รับพระราชทานยศนายกองใหญ่แห่งกองอาสารักษาดินแดนเป็น พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก นายกองใหญ่ สุรยุทธ์ จุลานนท์ เมื่อ พ.ศ. 2550[31]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ[32] ดังนี้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ

  •   อินโดนีเซีย :
    • พ.ศ. 2545 –   เครื่องอิสริยาภรณ์ดาราการติกาเอกปักษี ชั้นที่ 1[46]
  •   เกาหลีใต้ :
    • พ.ศ. 2545 –   เครื่องอิสริยาภรณ์กิตติคุณสำหรับการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ชั้นที่ 1[46]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ภายใต้สุลต่านแห่งมาเลเซีย

  •   รัฐกลันตัน :
    • พ.ศ. ไม่ปรากฏ –   เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งกลันตันหรือดาราแห่งมูฮัมหมัด

ยศทางทหาร

  • พ.ศ. 2508 ว่าที่ร้อยตรี
  • พ.ศ. 2508 ร้อยตรี[48]
  • พ.ศ. 2509 ร้อยโท[49]
  • พ.ศ. 2513 ร้อยเอก[50]
  • พ.ศ. 2517 พันตรี[51]
  • พ.ศ. 2521 พันโท[52]
  • พ.ศ. 2523 พันเอก[53]
  • พ.ศ. 2529 พลตรี[54]
  • พ.ศ. 2535 พลโท[55]
  • พ.ศ. 2540 พลเอก[56]
  • พ.ศ. 2542 พลอากาศเอก พลเรือเอก[57]

ลำดับสาแหรก

อ้างอิง

  1. ประกาศ เรื่อง แต่งตั้งประธานองคมนตรี, ราชกิจจานุเบกษา, สืบค้นวันที่ 4 มกราคม 2563
  2. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งประธานองคมนตรี
  3. "ชีวิตครอบครัวพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-14. สืบค้นเมื่อ 2013-01-11.
  4. ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ในพระราชพิธีวันฉัตรมงคล 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 1
  5. The Nation, NLA 'doesn' t represent' all of the people เก็บถาวร 2006-11-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 14 October 2006
  6. ย้อนตำนาน ย้าย ผบ.ทบ. The Untouchable หลังกระแสเปลี่ยน ‘ทบ.1’ ‘บิ๊กตู่’ ทิ้งทวน จัดทัพ ‘บิ๊กแก้ว-บิ๊กบี้-บิ๊กต่อ-บิ๊กโต’/รายงานพิเศษ มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 เมษายน 2565
  7. เผยผู้จุดชนวนพฤษภาทมิฬ ‘สุรยุทธ์’ รับนำพลบุกรอยัล
  8. "รำลึก 15 ปี พฤษภาทมิฬเสียงแตก แบ่งขั้วจัดงาน "ทรท.ร่วม 12 องค์กรต้านรัฐประหาร"จัดโชว์ละครล้อเลียนทหารฆ่าประชาชน ส่วน "ปชป.จับมือพันธมิตร-ญาติวีรชน"ร่วมทำบุญ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-09. สืบค้นเมื่อ 2009-09-25.
  9. สุรยุทธ์ จุลานนท์ คนดีที่ตายแล้ว
  10. วางยุทธศาสตร์ประชาชนอยู่ดีมีสุข[ลิงก์เสีย]
  11. "นำ พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝาก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-18. สืบค้นเมื่อ 2011-12-03.
  12. 12.0 12.1 The Nation, NHSO backs plan to ditch Bt30 fee เก็บถาวร 2007-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 31 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
  13. The Nation, No 'coyote dances' for Loy Krathong: Culture Ministry, 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
  14. Asia Times, Unplugging Thailand, Myanmar energy deals เก็บถาวร 2009-02-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
  15. The Nation, Famous schools ordered to take in half of new students from neighbourhood, 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
  16. The Nation, NLA revokes ban on demonstrations, 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
  17. The Nation, Some 1,000 villagers prevented from catching buses to Bangkok
  18. The Nation, Sitthichai gets no kick from the Net เก็บถาวร 2007-05-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 15 เมษายน พ.ศ. 2550
  19. Bangkok Post, Thailand gets new cyber crime law, 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2550
  20. Bangkok Post, After Thaksin calls, officials drop by, May 2007
  21. The Nation, Govt in move to head off violence เก็บถาวร 2007-05-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2550
  22. Thai generals pull plug on Thaksin CNN interview
  23. "เปิดทรัพย์สิน "ครม.สุรยุทธ์" ฮือฮา "อุ๋ย-ภรรยา" กว่าพันล้าน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-30. สืบค้นเมื่อ 2006-12-02.
  24. ธีรยุทธ เปรียบ รบ.ฤๅษีเลี้ยงเต่า! ให้แสดงผู้นำแบบ ขุนพันธ์
  25. The Nation, Activists call on Surayud to resign for alleged forest encroachment, 29 ธันวาคม พ.ศ. 2549
  26. The Nation, Thumbs down for the next charter, 15 มกราคม พ.ศ. 2549
  27. The Nation, NCCC rules against probe into Surayud's land, 22 มิถุนายน พ.ศ. 2549
  28. The Nation, Surayud denies train carriages allegation เก็บถาวร 2007-09-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 28 ธันวาคม พ.ศ. 2549
  29. 29.0 29.1 สุรยุทธ์ ณ เขายายเที่ยง ไม่คืน ไม่ออก ไม่จบ ข่าวสด สืบค้นเมื่อ 26 ธันวาคม 2549 แหล่งสำรอง
  30. ปิดฉาก บ้าน"สุรยุทธ์" บนเขายายเที่ยง โพสต์ทูเดย์ สืบค้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2553
  31. ได้รับพระราชทานยศนายกองใหญ่แห่งกองอาสารักษาดินแดน
  32. "นายกรัฐมนตรี คนที่ 24 พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์". รัฐบาลไทย. สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม พ.ศ. 2564. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  33. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า, เล่ม 135 ตอนที่ 1 ข หน้า 1, 3 มกราคม 2561
  34. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2010-02-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 112 ตอนที่ 17 ข หน้า 1, 3 ธันวาคม 2538
  35. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2015-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 109 ตอนที่ 153 ง ฉบับพิเศษ หน้า 6, 3 ธันวาคม 2535
  36. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี, เล่ม 107 ตอนที่ 55 ง หน้า 2660, 5 เมษายน 2533
  37. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม 91 ตอนที่ 188 ง ฉบับพิเศษ หน้า 2, 11 พฤศจิกายน 2517
  38. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญราชการชายแดน, เล่ม 106 ตอนที่ 13 ง หน้า 363, 23 มกราคม 2532
  39. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม 96 ตอนที่ 92 ง ฉบับพิเศษ หน้า 37, 8 มิถุนายน 2522
  40. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเหรียญรัตนาภรณ์ เก็บถาวร 2019-08-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 136 ตอนที่ 36 ข หน้า 1, 16 สิงหาคม 2562
  41. DEPUTY PRIME MINISTER & MINISTER FOR DEFENCE DR. TONY TAN CONFERS THE COMMANDER-IN-CHIEF OF THE ROYAL THAI ARMY (RTA) GENERAL SURAYUD CHULANONT THE MERITORIOUS SERVICE MEDAL (MILITARY) AT MINDEF
  42. 42.0 42.1 ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม 117 ตอนที่ 28 ข หน้า 86, 28 ธันวาคม 2543
  43. President Nathan Confers Top Military Award on Supreme Commander of the Royal Thai Armed Forces
  44. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม 118 ตอนที่ 1 ข หน้า 5, 26 มกราคม 2544
  45. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม 118 ตอนที่ 2 ข หน้า 3, 8 กุมภาพันธ์ 2544
  46. 46.0 46.1 ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม 119 ตอนที่ 13 ข หน้า 2, 30 สิงหาคม 2545
  47. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม 120 ตอนที่ 3 ข หน้า 6, 7 มีนาคม 2546
  48. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร (หน้า 83)
  49. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร (หน้า 69)
  50. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร (หน้า 63)
  51. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร (หน้า 75)
  52. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร (หน้า 59)
  53. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร (หน้า 50)
  54. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร (หน้า 7)
  55. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร (หน้า 5096)
  56. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร
  57. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร

แหล่งข้อมูลอื่น

ก่อนหน้า สุรยุทธ์ จุลานนท์ ถัดไป
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์    
ประธานองคมนตรี
(2 มกราคม พ.ศ. 2563 – ปัจจุบัน)
  อยู่ในตำแหน่ง
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
(ประธานองคมนตรี)
   
รักษาการประธานองคมนตรี
(27 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 – 2 มกราคม พ.ศ. 2563)
  พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
(ประธานองคมนตรี)
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร    
นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย (ครม. 56)
(1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 – 29 มกราคม พ.ศ. 2551)
  สมัคร สุนทรเวช
อารีย์ วงศ์อารยะ    
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
(3 ตุลาคม พ.ศ. 2550 – 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551)
  ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง
พลเรือเอก ณรงค์ ยุทธวงศ์    
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
(1 ตุลาคม พ.ศ. 2545 – 1 ตุลาคม พ.ศ. 2546)
  พลเอก สมทัต อัตตะนันทน์
พลเอก เชษฐา ฐานะจาโร    
ผู้บัญชาการทหารบก
(1 ตุลาคม พ.ศ. 2541 – 1 ตุลาคม พ.ศ. 2545)
  พลเอก สมทัต อัตตะนันทน์
พลโท อานุภาพ ทรงสุนทร    
แม่ทัพภาคที่ 2
(พ.ศ. 2537–2540)
  พลโท เรวัต บุญทับ