ผู้ใช้:Stirz117/ทดลองเขียน10

รายชื่อการยิงเป้าจากการเผยแพร่ของอรรถยุทธพวงสุวรรณกับเนื้อหาที่โดเด่นไม่เพียงพอจะเป็นบทความ

วาด ขุนจันทร์(อ้างอิงน้อย) แก้

วาด ขุนจันทร์ เป็นผู้ต้องโทษประหารชีวิตคนที่ 284 ของประเทศไทยด้วยการยิงเป้า ในความผิดฐานวางเพลิงบ้านพักคนงานก่อสร้างเพื่อสังหารหมู่ครอบครัวแก้วเกลี้ยงจนเป็นเหตุให้นางสาววันดี แก้วเกลี้ยง อายุ 16 ปี เสียชีวิต และนายจำนงค์ แก้วเกลี้ยง อายุ 40 ปี กับเด็กหญิง สายสุณี แก้วเกลี้ยง อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส

วาด ขุนจันทร์
เกิดพ.ศ 2517
ตำบลควนชะริส อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช
เสียชีวิต19 กรกฎาคม พ.ศ.2542 (อายุ 25 ปี)
เรือนจำกลางบางขวาง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ประเทศไทย
สาเหตุเสียชีวิตประหารชีวิตด้วยการยิง
ชื่ออื่นเขียว, จุล
อาชีพคนงานก่อสร้าง
สถานะทางคดีถูกประหารชีวิต
เหตุจูงใจล้างแค้น
ข้อหาวางเพลิงโรงเรือนที่คนอยู่อาศัยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และกักขังหน่วงเหนี่ยวให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
บทลงโทษประหารชีวิต
รายละเอียด
วันที่25 สิงหาคม พ.ศ.2538
ประเทศประเทศไทย
รัฐจังหวัดสงขลา
ตำแหน่งหมู่บ้านวาสนาวิลเลส หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านพลุ อำเภอหาดใหญ่
เป้าหมายครอบครัวแก้วเกลี้ยง
ตายนางสาววันดี แก้วเกลี้ยง อายุ 16 ปี
บาดเจ็บนายจำนงค์ แก้วเกลี้ยง อายุ 40 ปี
เด็กหญิง สายสุณี แก้วเกลี้ยง อายุ 13 ปี
วันที่ถูกจับ
29 กันยายน พ.ศ.2538

ประัวิตอาชญกรรมก่อนหน้า แก้

วาด ขุนจันทร์เป็นชาวตำบลควนชะริส โดยเขาเคยถูกจับกุมในคดีกระทำผิดฐานบุกรุกและกระทำอนาจาร โดยถูกตัดสินจำคุก 2 ปี และถุกตัดสินจำคุก 2 เดือนฐานหลบหนีการควบคุม ก่อนจะพ้นโทษออกจากเรือนจำเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2538 หลังจากที่เขาพ้นโทษเขาได้ไปทำงานเป็นคนงานก่อสร้างที่หมู่บ้านจัดสรรในอำเภอหาดใหญ่ ทำให้เขารู้จักกับครอบครัวแก้วเกลี้ยง หลังจากที่เขาได้พบกับวันดี แก้วเกลี้ยวเขาก้รู้สึกชอบเธอจึงพยายามจีบ แต่เธอไม่ได้สนใจ ส่วนพ่อของเธอแสดงความรังเกียจวาด ทำให้เขาจึงเก็บความแค้นเอาไว้ ในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2538 วาดได้บุกเข้าไปในบ้านของวันดีซึ่งเธอไม่สบายทำให้ต้องนอนอยู่บ้าน วาดจึงใช้มีดจี้วันดีและได้ข่มขืนเธอจนสำเร็จความใคร่ไป 2 ครั้ง และสั่งวันดีว่าเรื่องที่ข่มขืนไปบอกใครอย่างเด็ดขาด แต่วันดีไม่เชื่อวาดและได้นำเรื่องดังกล่าวบอกพ่อของเธอพร้อมกับแจ้งความ วาดจึงส่งจดหมายมาข่มขู่วันดีว่า"เตือนแล้วไม่เชื่อก็อย่าอยู่ร่วมโลกกันอีกเลย" และเขาก็หาโอกาสล้างแค้นครอบครัวของวันดี

การก่อเหตุ แก้

วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2538 วาดได้วางแผนล้างแค้นครอบครัววันดีโดยการเผาให้หมดทั้งครอบครัว เขาจึงไปซื้อน้ำมันและเตรียมโซ่กับกุญแจเพื่อล็อกประตูห้อง หลังจากนั้นเขาได้ไปดื่มเหล้าเพื่อย้อมใจจนคนในครอบครัววันหลับทั้งหมด วาดจึงใช้กุญแจและโซ่ปิดทางออกก่อนจะใช้น้ำราดจนทั่วแล้วจุดไฟเผาก่อนจะหลบหนีไป หลังจากเกิดไฟไหม้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลาควบคุมเพลิงเป็นเวา 1 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือจำนงค์กับสายสุณีได้ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือวันดีได้ หลังจากควบลคุมเพลิงได้พบว่าบ้านพักคนงานก่อสร้างถูกเผาไป 11 ห้องและพบศพของันดีในที่เกิดเหตุ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคืนวาด ขุนจันทร์

การจับกุม การพิจารณาคดีแและการประหารชีวิต แก้

วาดถูกจับกุมเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ.2538 โดยวาดได้ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาในชั้นสืบสวน ต่อมาศาลจังหวัดสงขลาได้ตัดสินประหารชีวิตวาด และเชื่อว่าวาดได้กระทำผิดจริงตามฟ้อง และมีพฤติการณ์ที่โหดเหี้ยมอำมหิต ตั้งใจที่จะฆ่าคนให้ตายอย่างทรมาน โดยการปิดล็อกประตูห้องซึ่งเป็นทางออก แล้วทำการจุดไฟเพื่อวางเพลิงเผาบ้านในขณะที่มีคนนอนหลับอยู่ข้างใน จนมีคนตายและบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังได้เคยกระทำการข่มขืนผู้ตายอีก เมื่อผู้ตายแจ้งความเอาผิด ยังได้เคยกระทำการข่มขู่อาฆาตผู้ตาย โดยการเขียนจดหมายมาข่มขู่อีกด้วย และยังได้เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้มาก่อน จนถูกตัดสินลงโทษให้จำคุกมาแล้ว แต่เมื่อพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน กลับมาก่อเหตุซ้ำขึ้นอีก แสดงว่าไม่มีความหลาบจำต่อโทษทัณฑ์ที่ได้รับ ไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง มีสันดานเป็นผู้ร้ายก่อเหตุซ้ำซ้อน เจตนาที่จะฆ่าได้แม้กระทั่งผู้หญิงและเด็กซึ่งไม่มีทางต่อสู้ เห็นควรให้ลงโทษขั้นสูงสุด คือประหารชีวิต ต่อมาวาดถูกศาลอุทธรณ์แต่เขาไม่ยื่นฎีกาประหารชีวิต เขาทำหนังสือถวายฎีกาทูลเกล้าเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ฎีกาดังกล่าวก็ถูกยก

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2542 เวลา 16.00น. วาดถูกเบิดตัวจากห้องขังในแดน 1 เพื่อนำตัวไปประหารชีวิต ในระหว่างการเบิกตัววาดมีอาการตัวสั่นและหน้าซีดพร้อมกับขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน เมื่อนำตัววาดออกจากห้องขังเขามีอาการเข่าอ่อนทำให้ต้องพยุงตัวมายังหมวดผู้ช่วยเหลือ เพื่อตรวจสอบประวัติบุคคลและพิมพ์ลายนิ้วมือนักโทษ หลังจากที่เจ้าหน้าที่พิมพ์ลายนิ้วมือเสร็จ เวรผู้ใหญ่ได้เข้ามาทำการอ่านคำสั่งจากสำนักนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นได้ให้ทำพินัยกรรมและเขียนจดหมายตามสะดวก เขาได้เขียนจดหมายมีใจความว่า “ลูกหมดเวรกรรมที่ได้ก่อมาแล้ว ขอฝากให้น้องๆช่วยกันดูแลพ่อแม่ด้วย” วาดได้ขออาหารมื้อสุดท้ายเป็นแกงไตปลากับข้าวเหนียวสังขยา เจ้าหน้าที่ราชฑัณฑ์คนหนึ่งซึ่งมาดูนักโทษประหารทั้งสามคนได้ยกกับข้าวมื้อเย็นซึ่งประกอบดด้วยแกงไตปลาและข้าวเหนียวสังขยา วาดจึงกล่าวขอบคุณและกินอาหารจนหมด โดยวาดได้กล่าวว่า “คนใต้อย่างผม แกงไตปลาถือว่าเป็นอาหารโปรดที่สุด ขอขอบคุณทุกคนมากครับ” วาดถูกประหารชีวิตเมื่อเวลา 17.05 น. โดยใช้กระสุนจำนวน 9 นัด เชาวเรศน์ จารุบุณย์เป็นเพชณฆาต หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวของเก้า ปั้นหยัด นักโทษปะหารในคดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิงอายุ 10 ขวบ ที่จังหวัดนครปฐม เข้าสู่ห้องประหารเป็นคนที่ 2 หลังจากนั้นประหารชีวิตเก้าได้นำตัวของอุทัย กัญชนะกาญจน์ มือปืนรับจ้าง มาประหารชีวิตเป็นคนสุดท้าย

ก่อนหน้า
เดชา สุวรรณสุก
บุคคลที่ถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าในประเทศไทย
วาด ขุนจันทร์ , เก้า ปั้นหยัด และ อุทัย กัญชนะกาญน์
ถัดไป
นพดล แขกเต้า

อุทัย กัญชนะกาญจน์ แก้

อุทัย กัญชนะกาญจน์
เกิดพ.ศ. 2504
ป. จังหวัดนครศรีธรรมราช
เสียชีวิต19 กรกฎาคม พ.ศ.2542 (อายุ 38 ปี)
เรือนจำกลางบางขวาง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ประเทศไทย
สาเหตุเสียชีวิตประหารชีวิตด้วยการยิง
ชื่ออื่นชื่อ:อนุรักษ์,ทัย
สกุล:กัญชนะกาญจน์,กัญจนกาญจน์
อาชีพมือปืนรับจ้าง
สถานะทางคดีถูกประหารชีวิต
ข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา (2525)
ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (2 กระทง) (2535)
บทลงโทษไม่ทราบลดโทษเหลือจำคุกน้อยกว่า 7 ปี (ติดจริง 7 ปี) (2525)
ประหารชีวิต (2535)
รายละเอียด
ผู้เสียหาย5 (ถูกพิจารณาคดี)
8+ (รวมคดีที่ถูกอายัดไว้)
50+ (กล่าวอ้าง)
ระยะเวลาอาชญากรรม
ประมาณพ.ศ. 2520–20 พฤษภาคม พ.ศ.2535
ประเทศประเทศไทย
รัฐจังหวัดนครศรีธรรมราช (ถูกตัดสิน)
จังหวัดระนอง (ถูกตัดสิน)
ตำแหน่งภาคใต้ของประเทศไทย
อาวุธปืน
วันที่ถูกจับ
20 พฤษภาคม พ.ศ.2535 (เป็นครั้งสุดท้าย)

อุทัย กัญชนะกาญจน์ เป็นมือปืนรับจ้างและผู้ต้องโทษประหารชีวิตคนที่ 286 ของประเทศไทยด้วยการยิงเป้า ในความผิดฐานจากยิงนายเอียด พรหมนุชจนเสียชีวิต ที่อำเภอกระบุรี เมื่อวันที่20 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 และถูกศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิตในคดีฆาตกรรมในพื้นที่สถานีภูธรราชกรูด อำเภอเมืองระนอง แต่เขาถูกยกฎีกาและประหารชีวิตจากคดีฆาตกรรมที่อำเภอกระบุรี โดยเขายังมีคดีฆาตกรรมที่ถูกอายัดเอาไว้แล้วยังไม่ได้ฟ้องอีกอย่างน้อย 3 คดี ก่อนการประหารชีวิตเขายังอ้างว่าเขาฆ่ามาคนมาอย่างน้อย 50 ศพ

ประวัติ แก้

ในช่วงวัยรุ่นอุทัยได้มีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่น และเขาได้ก่อเหตุฆาตกรรมวัยรุ่นคนหนึ่งระหว่างการทะเลาะวิวาท เขาจึงหนีการจับกุมของตำรวจไปอยู่กับผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งผู้ใหญ่คนดังกล่าวให้ความช่วยเหลือเขามาโดยตลอด เนื่องจากผู้ใหญ่คนดังกล่าวมีศัตรูมาก เขาจึงรับงานฆ่าเพื่อตอบแทนบุญคุณ ในบางครั้งผู้ใหญ่ได้มอบหมายงานนอกให้ทำ ซึ่งเขาได้ทำงานฆ๋าสำเร็จทำครั้งโดยไม่เคยพลาดเลย จนกระทั่งเขามือชื่อเสียงโด่งดังในวงการมือปืน ต่อมาผู้ใหญ่คนดังกล่าวถูกยิงเสียชีวิตทำให้เขาไร้ที่พึ่งพิงและถูกตำรวจับกุึมในปีพ.ศ.2525 ก่อนจะถูกศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชตัดสินในคดีฆ่าคนตาย 3 คดี และพ้นโทษออกจากเรือนจำเมื่อ 25 ตุลาคม พ.ศ.2532 หลังจากพ้นโทษเขาได้ไปทำงานให้ซุ้มมือปืนชื่อดังในภาคใต้ และรับงานฆ่าคนหลายคนโดยในบางครั้งได้รับค่าจ้างสูงถึง 1 ล้านบาท และยังมีหมายจับในคดีฆาตกรรมที่ตำบลราชกรูด

เหตุฆาตกรรมเอียด พรหมนุช แก้

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 ได้มีรถกระบะยี่ห้อนิสสันสีดำจอดรอเอียด พรหมนุชที่ร้านกาแฟในตลาดทับหลี ได้มีชายคนหนึ่งเข้ามานั่งรอเอียดในร้านกาแฟ เมื่อเอียดเดินทางมาถึง ชายคนดังกล่าวจึงทำท่าคล้ายจะชักอาวุธออกจากหน้าท้อง ส่งผลให้ให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งเห็นความผิดปกติจึงได้วิทยุขอกำลังมาตรวจสอบชายคนดังกล่าว แต่ชายคนดังกล่าวไหวตัวทันและหลบหนีขึ้นรถไป วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2535 ระหว่างที่เอียดกำลังขับรถจักรยานยนต์ถนนเพชรเกษม ที่อำเภอกระบุรี ได้มีชาย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายขับรถเข้าประกบรถของเอียด ก่อนที่ชายคนซ้อนท้ายจะใช้ปืนจ่อยิงเอียดจนเสียชีวิต แล้วขับรถจักรยานยนต์ออกจากจากที่เกิดเหตุ ก่อนจะเปลี่ยนไปขับรถกระบะยี่ห้อนิสสันสีดำซึ่งไม่ติดทะเบียนหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถหยุดรถกระบะคันดังกล่าวที่ถนนเพชรเกษมขณะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดชุมพร โดยพบแผ่นทะเบียนซ่อนอยู่ใต้ที่นั่งและอุทัย กัญชนะกาญน์ กับนายศรีพัฒน์ กัญชนะกาญน์ อยู่บนรถยนต์ ซึ่งเขากับศรีพัฒน์ได้ปฎิเสธว่าไม่มีส่วนร่วมกับการฆาตกรรม ก่อนนำนำตัวของทั้งสองไปยังสถานีตำรวจและนำพยานมาชี้ตัว จากการสอบสวนทราบว่าเอียดมีหน้าที่ดูแลบ่อนการพนันในประเทศพม่าให้นายแก้ว ข้าราชการอำเภอกระบุรี ต่อมานายสุขสวัสดิ์ ข้าราชการของอำเภอกระบุรีอีกคน ได้เปิดบ่อนการพนันขึ้นในประเทศพม่าเช่นกัน แต่สู้บ่อนที่เอียดดูแลอยู่ไม่ได้ จึงขอร้องในายประเทืองบอกนายแก้วให้ปิดบ่อนการพนัน เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาเล่นที่บ่อนแห่งใหม่ แต่ก็นายแก้วถูกปฎิเสธ

การพิจารณาคดีและการประหารชีวิต แก้

ศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้องศรีพัฒน์และอุทัยในคดีฆาตกรรมเอียด และทั้งคู่ยังคงถูกฝากขังที่เรือนจำจังหวัดระนอง ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดระนองได้ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ได้พิพากษาประหารชีวิตอุทัย ส่วนศรีพัฒน์พิพากษษยืนยกฟ้อง และย้ายตัวอุทัยจากเรือนจำจังหวัดระนองไปเรือนจำกลางบางขวาง เขาจึงยื่นฎีกา แต่ศาลฏีกาพิพากษายืนประหารชีวิต ส่วนคดีฆาตกรรมในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรราชกรูดเขาถูกตัดสินประหารชีวิตแต่คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นอุทธรณ์ ส่วนคดีอื่นๆถูกอายัดไว้ไม่ได้ฟ้อง เขาจึงทำหนังสือถวายฎีกาทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ฎีกาดังกล่าวก็ถูกยก

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2542 เจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงได้เบิกตัวของอุทัย, เก้า ปั้นหยัด นักโทษประหารในคดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิงอายุ 10 ขวบ ที่จังหวัดนครปฐม และ วาด ขุนจันทร์ ในคดีวางเพลิงบ้านพักคนงานก่อสร้างที่จังหวัดสงขลา เพื่อล้างแค้นเนื่องจากผู้เสียหายนำเรื่องที่ถูกข่มขืนไปแจ้งความ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บสาหัส 2 คน ระหว่างการเบิกตัวอุทัยได้มีสีหน้ายิ้มแย้มและสามารถเดินได้ตามปกติ เมื่อนำตัวเขามาถึงหมวดผู้ช่วยเหลือเพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือและตรวจสอบประวัติอาชญกรรม ระหว่างการพิมพ์ลายนิ้วมือได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจถามอุทัยว่า “คุณอุทัย คุณถูกตัดสินประหารชีวิตถึง 2 คดีเชียวหรือ แล้วรู้สึกว่าจะมีคดีอายัดอีกตั้งหลายคดี” อุทัยตอบว่า “ใช่ครับ ผมถูกตัดสินมาถึงสองประหาร แล้วยังมีคดีอายัดที่ยังไม่ได้ฟ้องอีก ถ้ารอให้ตัดสินหมดทุกคดี ผมคงจะมีถึง 5 หรือ 6 ประหารเป็นอย่างต่ำ ก็ผมเป็นมือปืนอาชีพนี่ครับ” เมื่อพี่เลี้ยงได้ถามเขาว่า “อุทัยเคยฆ่าคนมาแล้วกี่ศพพอจะจำได้ไหม” ้ เขาตอบว่า “เท่าที่ผมพอจะจำได้คิดว่าไม่ต่ำกว่า 50 ศพ บางคดีเรื่องก็เงียบไปเลย บางคดีตำรวจตามเต็มที่ ผมทำคดีดังๆมาเยอะ งานมันง่ายเงินก็ดี แค่เดินเข้าไปหาเหยื่อแล้วกดโป้งเข้าให้ เสร็จแล้วเก็บตัวสักพักรอเรื่องเงียบ ค่อยออกมาใช้เงินอย่างสบายใจ มือปืนอาชีพอย่างพวกผม ไปหลบอยู่ที่ไหนก็มีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือดูแลตลอดแหละครับ ถ้าไม่พลาดซะอย่างตำรวจทำอะไรไม่ได้ง่ายๆหรอกครับ”

เขาได้อ้างว่าเขาไม่ได้ก่อคดีฆ่าเอียด แต่ก่อคดีฆาตกรรมที่ตำบลราชกรูด ซึ่งในระหว่างเกิดเหตุเขาอยู๋บริเวณจังหวัดระนอง โดยเขาไปรับงานยิงคนอีกคนแต่ยังไม่ได้ก่อเหตุ เมื่อเกิดเหตุพยานได้บอกรูปพรรณสัณฐานของมือปืนให้ตำรวจฟัง ทำให้ตำรวจคิดว่าเป็นเขาเพราะคนร้ายที่ฆ่าเอียดมีรูปร่างคล้ายกับเขา และสามารถจับตัวเขากับศรีพัฒน์ทั้งที่บนรถไม่มีหลักฐาน เขากับศรีพัฒน์จึงปฎิเสธข้อกล่าวหาไป ส่วนคนที่ฆาตกรรมเอียดถูกตัดสินขำคุกตลาดชีวิตจากคดีที่ไม่ได้ก่อ และถูกคุมขังที่แดน 2 ของเรือนจำกลางบางขวาง อทุยได้กล่าวเสริมว่า"แต่ถ้ามาเปรียบเทียบดูแล้ว ระหว่างชีวิตคนที่ผมฆ่าตั้ง 50 กว่าศพ ส่วนผมแค่ชีวิตเดียวเท่านั้น ผมว่าผมคุ้มมากๆ ผมตายแค่ครั้งเดียวเท่านั้นจะกลัวอะไร ถ้าคดีนี้ไม่ประหารผม คดีอื่นก็ต้องประหารผมอยู่ดีแหละครับ"

พี่เลี้ยงคนดังกล่าวจึงถามว่า “อุทัยฆ่าคนมามากขนาดนี้ไม่กลัวบาปกรรมบ้างหรือ” เขาหัวเราะแล้วตอบว่า “บาปหน้าตาเป็นยังไงหรือครับ ผมเองก็นับถือพุทธ แต่ผมไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์อะไรหรอกครับ คนตายไปแล้วก็เป็นอันสิ้นสุด ไม่มีใครย้อนกลับมาเกิดใหม่ได้หรอกครับ ที่จริงคนที่ผมฆ่าบางคน เลวยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น สิ่งไหนที่ผิดกฎหมายมันเอาหมด บางคนต่อหน้าทำตัวดูเป็นนักบุญ แต่เบื้องหลังมันค้าทั้งยา ค้าผู้หญิง บ่อนซ่องเป็นของมันหมด เวลาผมยิงกบาลมัน เห็นสมองมันกระจาย ผมรู้สึกสะใจดีพิลึกครับ เวลาตายมันก็นอนตายเหมือนหมา ไม่เห็นมันจะมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่น ผมยังไม่เคยเห็นผีคนที่ผมฆ่ามาหาผมสักที ไม่มีหรอกครับเรื่องบาปกรรม คนเราสมมุติกันขึ้นมาเองมากกว่า ถ้าคนตายแล้วเกิดใหม่ได้ ป่านนี้คนล้นโลกไปแล้วละครับเชื่อผมเถอะ” หลังจากพิมพ์ลายนิ้วมือ เวรผู้ใหญ่ได้เข้ามาอ่านคำสั่งจากสำนักนายกรัฐมนตรีและให้เซ็นทราบในคำสั่งนั้นตามระเบียบ หลังจากนั้นให้ทำพินัยกรรมและเขียนจดหมาย เขาได้เขียนจดหมายถึงพ่อแม่โดยมีใจความว่า “เมื่อพ่อและแม่ได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ลูกได้จากโลกนี้ไปแล้ว ขอให้พ่อและแม่ดูแลตัวเองให้ดี ลูกขอลาก่อน ลูกทำผิดมามาก สมควรแล้วที่จะต้องมาถูกประหาร ขอให้พ่อและแม่มาจัดการเรื่องศพของลูกด้วย” หลังจากเขียนจดหมาย เขาปฎิเสธอาหารมื้อสุดท้ายและดื่มน้ำเย็นเท่านั้น ถัดจากนั้นจึงนำทั้งหมดไปฟังเทศนาธรรมจากพระสงฆ์ทุกคนได้ตั้งใจฟังอย่างสงบ หลังจากนั้นได้นำตัววาดไปประหารชีวิตก่อน แล้วนำตัวเก้าไปประหารชีวิตต่อเป็นคนที่ 2 ก่อนจะนำตัวของเขามาประหารชีวิตเป็นคนสุดท้าย

ในระหว่างที่ผูกมัดอุทัยกับหลักประหารอุทัยได้พูดกับอรรถยุทธ พวงสุวรรณ ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงนักโทษประหารว่าว่า “ช่วยเร่งให้เสร็จเร็วๆหน่อยเถอะครับ จะได้ตายให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปสักที” อรรถยุทธตอบว่า “นึกถึงพระไว้นะอุทัย” เขาพูดว่า “ครับหัวหน้า ผมแค่ชีวิตเดียวเท่านั้น คุ้มเหลือเกินครับ” อุทัยถูกประารีชวิตเมื่อเวลา 18.23 น. ใช้กระสุนจำนวน 8 นัด โดยเพชรฆาตเชาวเรศน์ จารุบุณย์ และเป็นบุคคลที่ 287 ที่ถูกประหารชีวิตโดยประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478

ก่อนหน้า
เดชา สุวรรณสุก
บุคคลที่ถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าในประเทศไทย
วาด ขุนจันทร์ , เก้า ปั้นหยัด และ อุทัย กัญชนะกาญน์
ถัดไป
นพดล แขกเต้า

อาหารมื้อสุดท้ายของนักโทษในไทย แก้

ชื่อ อาชญกรรม ศาล ปี วิธีการประหารชีวิต อาหารมื้อสุดท้าย
ฉลาด หิรัญศิริ บ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักร ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน,ร่วมกันเป็นตัวการสำคัญในการสะสมกำลังพลและอาวุธเพื่อเป็นกบฎ, ฆ่าเจ้าพนักงานโดยทารุณโหดร้าย ประหารชีวิตตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี 2520 ยิงเป้า น้ำส้ม 1 ขวด

คำพูดก่อนประหาร แก้

ชื่อ อาชญกรรม ศาล ปี วิธีการประหารชีวิต คำพูด
ณ เณร ตาละลักษมณ์ กบฎ ศาลพิเศษ 2482 ยิงเป้า เมื่อยเต็มที เมื่อไหร่จะยิง
ครอง จันดาวงศ์ บ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักร ประหารตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี(สกลนคร) 2504 ยิงเป้าเป็นชุด ของผมยังดีอยู่ จะยิงก็ยิงเร็วๆ เถอะ
ฉลาด หิรัญศิริ บ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักร ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน,ร่วมกันเป็นตัวการสำคัญในการสะสมกำลังพลและอาวุธเพื่อเป็นกบฎ, ฆ่าเจ้าพนักงานโดยทารุณโหดร้าย ประหารชีวิตตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี 2520 ยิงเป้า ถ้าพร้อมแล้วบอกนะ
กิ่งแก้ว ลอสูงเนิน ลักพาตัวเด็กเพื่อเรียกค่าไถ่, ฆ่าคนตายโดยเจตนา ประหารชีวิตตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี 2522 ยิงเป้า หาหมอ หาหมอ
สมศักดิ์ พรนารายณ์ ฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน,ข่มขืนกระทำชำเรา เลย 2542 ยิงเป้า ครับหัวหน้า
สำรวย โตสุข ลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย สิงห์บุรี 2542 ยิงเป้า ทำไมผูกแน่นจังเลย ผมจะหายใจไม่ออกแล้ว
เดชา สุวรรณสุก ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบสามปีจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายหรือทรมาน มีนบุรี 2542 ยิงเป้า ผมขออโหสิกรรมให้ทุกคน รวมทั้งตำรวจที่มาจับกุมผมด้วย ผมไม่ขอมีเวรกรรมกับใครอีก แต่ผมขอยืนยันครั้งสุดท้ายว่าไม่ได้ทำน้องนุ่น
วาด ขุนจันทร์ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบสามปีจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายหรือทรมาน สงขลา 2542 ยิงเป้า ผมกลัวจังเลยครับหัวหน้า อย่าให้ผมต้องทรมานนะครับ
อุทัย กัญชนะกาญจน์ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ระนอง 2542 ยิงเป้า ครับหัวหน้า ผมแค่ชีวิตเดียวเท่านั้น คุ้มเหลือเกินครับ
นพดล แขกเต้า ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน สุราษฎร์ธานี 2542 ยิงเป้า หัวหน้าต้องโทรให้ได้ภายในวันนี้นะครับ บอกด้วยว่าผมคิดถึงบ้านคิดถึงทุกคนผมอยากกลับบ้าน อย่าลืมมารับผมกลับบ้านด้วย หลังจากที่ถูกยิงชุดแรกนพดลไม่เสียชีวิตจากการยิงชุดแรกและส่งเสียงร้อง
สุรศักดิ์ ยิคซัง ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, ชิงทรัพย์จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย กาญจนบุรี 2542 ยิงเป้า โอย โอย ปวดเหลือเกิน โอย (สุรศักดิ์หลังจากถูกยิงชุดแรกซึ่งเขาต้องยิงถึง 3 ชุดจึงจะเสียชีวิต)
สมพร เชยชื่นจิตร ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตรัง 2542 ยิงเป้า ต้องขอโทษหัวหน้าด้วยครับที่ต้องช่วยกันหิ้วปีกผมมา ผมพยายามทำใจให้เข้มแข็งแล้ว แต่จู่ๆขาของผมมันอ่อนทรุดลงไปเอง รีบๆยิงผมเถอะครับ ผมเสียวเหลือเกิน เอาให้ตายทันทีเลยนะครับ ผมไม่อยากทรมาน ผมขออโหสิกรรมให้หัวหน้าทุกคนครับ
สมัย ปานอินทร์ ผลิต นำเข้า หรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เพื่อจำหน่าย อาญากรุงเทพ 2542 ยิงเป้า จะให้ท่องในใจใช่ไหม ได้ตกลง
ประยุทธ์ ผลพันธ์ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พัทลุง 2542 ยิงเป้า ปอยโว้ย ผู้หญิงได้ไปรอเราอยู่แล้ว เราตาม…
ตะปอยโฮ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ สีคิ้ว 2542 ยิงเป้า ขอให้หัวหน้าโชคดีมีเงินมากๆผมขอลาก่อน
ลี ยวน กวง ร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัมขึ้นไป อาญากรุงเทพ 2544 ยิงเป้า ผงซี้เลี้ยวทังบุงให้ล่วย
บุญเกิด จิตปราณี อาญากรุงเทพ 2544 ยิงเป้า เฮียเขาไปแล้วใช่ไหมครับ
วิเชียร แสนมหายักษ์ นำเข้ายาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เพื่อจำหน่าย และครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัมขึ้นไป เชียงราย 2544 ยิงเป้า ทำไมนานเหลือเกิน ผมเสียวหลังจนไม่รู้ว่าจะเสียวยังไงแล้ว จะฆ่าจะแกงก็รีบๆทำเถอะ มันทรมานจิตใจผมเหลือเกิน
รอมาลี ตาเย๊ะ จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน นราธิวาส 2544 ยิงเป้า ขอโทษทีเพื่อนที่ให้รอ ผมละหมาดนานไปหน่อย
โปร่ง เกตุศิริ ครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัมขึ้นไป อาญากรุงเทพ 2544 ยิงเป้า ครับหัวหน้า ผมขออโหสิกรรมให้กับทุกคน ผมขอลาก่อนนะครับ
อำไพ ไสโพธิ์ กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, พรากผู้เยาวน์เพื่อการอนาจาร และฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน บุรีรัมย์ 2544 ยิงเป้า หัวหน้าครับ ฝากเตือนคนทั่วไปด้วยนะครับ เหล้ายาเป็นสิ่งไม่ดี เป็นต้นเหตุของความผิดหลายๆอย่าง ถ้าใครเลิกได้ก็ขอให้เลิกซะ แต่ถ้าเลิกไม่ได้ ก็ขอให้กินอย่างมีสติ อย่าให้เหมือนอย่างผมเลยนะครับ
สุรกิจ ลิ้มเจริญวงศ์ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน, ทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย, กักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันปล้นทรัพย์โดยผู้กระทำแม้แต่คนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วย สีคิ้ว 2545 ยิงเป้า กลัวแล้ว อย่ายิงผมเลยครับ ผมกลัวแล้ว อย่ายิ…
จาย ส่างออ ครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัมขึ้นไป อาญากรุงเทพ 2545 ยิงเป้า หยุดร้องได้หรือยังวะ จะตายกันอยู่แล้วยังจะร้องอยู่ได้ เสียสมาธิหมด มันก็กลัวกันทุกคนแหละวะ จะร้องไปทำไม
กุลชนก อินเทศราช 2545 ยิงเป้า ป่านนี้ไอ้จายมันไปรอเราอยู่แล้ว พวกเราตามมันไปเป็นเพื่อนกันเถอะวะ
เนตรน้อย ส่างคิด 2545 ยิงเป้า ตกลง
คง สุเพือน กักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเพื่อให้ได้ค่าไถ่จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย สุรินทร์ 2545 ยิงเป้า ที่เหนอะหนะอยู่นี่คือเลือดพี่ชาติใช่ไหมครับ
จิรวัฒน์ พุ่มพฤกษ์ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย อาญากรุงเทพ 2552 ฉีดสารพิษ เฮียครับ ผมลาก่อน ผมขออโหสิกรรมให้เฮีย และขอให้เฮียอโหสิกรรมให้ผมด้วย เราจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อกันอีกต่อไปนะเฮีย

บทความที่น่าจะโดดเด่นพอ แก้

นั่นคือนักโทษคนสุดท้านที่ถูกยิงเป้าซึ่งผมจะเขียนภายในสัปดาห์นี้คดีของสุดใจมีความน่าสนใจหลายขั้นตอน ซึ่งอตนนี่้มีคำพิพกาษาคดีและข้อมูลจากหนังสือของเชาว์เรศน์ จารุบุศย์ ซึ่งจะเขียนได้ในเร็วๆนี้ ส่วนสุพจน์ เพ็งคล้าย ตำรวจสถานีตำรวจป่าพยอม ที่ยิงชายคนหนึ่งจนเสียชีวิต และ 2 คนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะหลบหนีไปเป็นเวลา 1 เดือน ก่อนจะขว้างะเบิดมือใส่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บหลายราย ตอนนี้คดียังอยู่ระหว่างหาข้อมูล ซึ่งจะเขียนร่างในทดลองเขียนเพราะอ้างอิงมีแค่ของแอมเนสตี้เท่านั้น กับหนังสือพิมพ์ในงานวิจัยโทษประหาร ซึ่งยืนยันได้อีกขั้นว่าข้อมูลคดีจากแอมเนสตี้น่าจะถูกโดยมีคำพิพากษษคดีอยู่ แต่สุพจน์ไม่น่ามีข้อมู,มากพอจะเขียนในบทความ แต่สุดใจชนะน่าจัะเป็นบทความได้

เกริ่น แก้

รายชื่อบุคคลที่ถูกยิงเป้าตั้งแต่ปีพ.ศ.2478 แก้

ลำดับที่ ชื่อ อายุ เพศ วันที่ถูกประหารชีวิต ศาล/คำสั่งนายกรัฐมนตรี ความผิดฐาน เพชรฆาต นายกรัฐมนตรี
1 สวัสดิ์ มะหะหมัด - ชาย 11 กันยายน พ.ศ 2478 ศาลพิเศษ ประทุษร้ายต่อพระบรมราชตระกูล ทิพย์ มียศ พระยาพหลพลพยุหเสนา
2 เขียน บุญกันสอน 40 ชาย 12 กรกฎาคม พ.ศ 2480 พิษณุโลก สมคบคิดกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
3 เคลิ้ม น้ำทอง - ชาย 27 กันยายน พ.ศ 2481 อ่างทอง ฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
4 คูณ นกอิน 41 ชาย 16 ธันวาคม พ.ศ 2481 สุโขทัย ฆ่าคนตายด้วยความพยาบาทมาดหมาย
5 เขียว จ้อยขำ 32 ชาย 7 มกราคม พ.ศ 2481 นครนายก ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แปลก พิบูลสงคราม
6 นิตย์ อินสมุทร์ - ชาย 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2481 สมุทรปราการ ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
7 สมบุญ พรรณขาม 41 ชาย 28 พฤศจิกายน พ.ศ 2482 ราชบุรี ฆ่าคนตายด้วยความพยาบาทมาดหมาย,ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, วางเพลิงและเผาเคหะสถาน เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
8 เจียม ใจเลิศ 26 ชาย สุพรรณบุรี ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น ทิพย์ มียศ
9 จอม ใจเลิศ 24 ชาย
10 เบี่ยง สังข์พันธ์เคราะห์ 27 ชาย เพชรบุรี ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
11 หับ พัดริน - ชาย 29 พฤศจิกายน พ.ศ 2482 สุราษฎร์ธานี ฆ่าคนตายโดยเจตนา ทิพย์ มียศ
12 พุด วงษ์เจริญ 37 ชาย ชลบุรี ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเพื่อจะเอาผลประโยชน์และสะดวกในการปล้น เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
13 ชม พึ่งยนต์ 31 ชาย นครนายก ฆ่าคนตายด้วยความพยาบาทมาดหมาย
14 ปาน จุนทอง 36 ชาย พัทลุง ฆ่าคนตายโดยเจตนา
15 พระสุวรรณชิต (วร กังสวร) - ชาย 30 พฤศจิกายน พ.ศ 2482 ศาลพิเศษ กบฎ ทิพย์ มียศ
16 เผ่าพงษ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา - ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
17 ผุดพันธ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา - ชาย ทิพย์ มียศ
18 บุญมาก ฤทธิสิงห์ - ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง


19 ขุนคลี่พลพฤณฑ์ (คลี่ สุนทรารชุน) - ชาย 1 ธันวาคม พ.ศ 2482 ทิพย์ มียศ
20 แม้น เลิศนาวี - ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
21 หลวงมหิทธิโยธี (สุ้ย ยุกตวิสาร) - ชาย ทิพย์ มียศ
22 พระสิทธิเรืองเดชพล (แสง พันธ์ประภาส) - ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง


23 แสง วัณณะศิริ - ชาย 2 ธันวาคม พ.ศ 2482 ทิพย์ มียศ
24 ขุนไววิทยาศร (เสงี่ยม ไวยวิทย์) - ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
25 ขุนนามนฤนาท (นาม ประดิษฐานนท์) - ชาย ทิพย์ มียศ
26 จรัส สุนทรภักดี - ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
27 สัย เกษจินดา - ชาย 3 ธันวาคม พ.ศ 2482 ทิพย์ มียศ
28 ทง ช่างชาญกล - ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
29 เสริม พุ่มทอง - ชาย
30 พวง พลนาวี - ชาย ทิพย์ มียศ
31 ณเณร ตาละลักษณ์ - ชาย
32 ลี บุญตา - ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
33 หยุง ซิมแซ 34 ชาย 5 มกราคม พ.ศ. 2482 กาญจนบุรี ฆ่าคนตายด้วยความพยาบาทมาดหมาย ทิพย์ มียศ
34 มิ่ง อิ่มอ้น 41 ชาย สุโขทัย ฆ่าคนตายด้วยความพยาบาทมาดหมาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
35 หง แซ่เซียว 26 ชาย กาญจนบุรี ฆ่าคนตายโดยเจตนา ทิพย์ มียศ
36 มัด ศรีมัย - ชาย 6 มกราคม พ.ศ. 2482 อุตรดิตถ์ ฆ่าคนตายโดยเจตนา ทิพย์ มียศ
37 ค่ำ สระทองสังข์ 47 ชาย นครปฐม ฆ่าคนตายด้วยความพยาบาทมาดหมาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
38 ผาย อุทัยวรรณ 36 ชาย พิจิตร ร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนา ทิพย์ มียศ
39 ยัง เม่นรักษ์ 48 ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
40 นงค์ ขันอาษา 28 ชาย ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนาและฉุดคร่าเพื่อทำอนาจาร ทิพย์ มียศ
41 เทียบ เขียวไปรเวศ 28 ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
42 เหลา โกฏละออง 33 ชาย 8 มกราคม พ.ศ. 2482 สวรรคโลก ฆ่าคนตายด้วยความพยาบาทมาดหมาย ทิพย์ มียศ
43 กราน ใจแน่ 37 ชาย พิษณุโลก ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
44 แคล้ว สังข์ลอย 31 ชาย ราชบุรี ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทิพย์ มียศ
45 เถา อารมย์ดี 31 ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
46 ใบ เพ็ชร์นิลบุตร์ 43 ชาย ทิพย์ มียศ
47 นวม ขันอาษา 31 ชาย ประจวบคีรีขันธ์ ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
48 สังข์ สว่างใจ 33 ชาย 10 มกราคม พ.ศ. 2482 ธนบุรี ฆ่าคนตายด้วยความพยาบาทมาดหมาย ทิพย์ มียศ
49 ใช้ วะตัญญู 40 ชาย ราชบุรี ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
50 จันทา สายทัน 29 ชาย อุบลราชธานี ฆ่าคนตายด้วยความพยาบาทมาดหมาย ทิพย์ มียศ
51 ชั้น น้ำจันทร์ 26 ชาย ชัยนาท ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
52 วัน มายัง 31 ชาย พิจิตร สมคบคิดกันปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ ทิพย์ มียศ
53 สวัสดิ์ ชูนาม 28 ชาย ราชบุรี ร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วยความพยาบาทมาดหมายและลักทรัพย์ เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
54 อันตรา คาน 29 ชาย 15 มกราคม พ.ศ. 2482 พิษณุโลก ร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนา ทิพย์ มียศ
55 หลวงทิพอักษร (ทิพ รัตตะพันธ์) - ชาย 22 มกราคม พ.ศ. 2484 ศาลพิเศษ กบฏภายนอกราชอาณาจักร ทิพย์ มียศ
56 ทอง สุทธิโสภา - ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
57 เจริญ แซ่ลี้ - ชาย 3 มีนาคม พ.ศ. 2484 กบฏภายนอกราชอาณาจักร ทิพย์ มียศ
58 งาม ใยบัวเทศ 40 ชาย 7 มีนาคม พ.ศ. 2484 อาญากรุงเทพ ฆ่าคนตายโดยเจตนาและพยายามลักทรัพย์ ทิพย์ มียศ
59 มงคล อินสอน 25 ชาย สรรคโลก ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
60 ไปล่ บุญเพ็ชร์ 48 ชาย สุโขทัย ร่วมกันฆ่าวางเพลิงและฆ่าคนตายด้วยความพยาบาทมาดหมาย ทิพย์ มียศ
61 ย้อย แสงอ่ำ 48 ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
62 ปัน ธรรมวงศ์ 40 ชาย ลำพูน ฆ่าคนตายด้วยความพยาบาทมาดหมายเพื่อจะปกปิดการกระทำผิดและหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ทิพย์ มียศ
63 เม้า ดิษฐวงษ์ - ชาย 1 สิงหาคม พ.ศ. 2484 ศาลพิเศษ กบฏภายนอกราชอาณาจักร ทิพย์ มียศ
64 อิ๊ด เป้าจินดา 41 ชาย 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2485 นครปฐม ใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดและปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ ทิพย์ มียศ
65 ใย สนบำรุง 62 หญิง เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
66 มี เจนสาริกิจ 41 ชาย อุทัยธานี ฆ่าคนตายโดยเจตนา ทิพย์ มียศ
67 พุด สานะเสน - ชาย 14 ธันวาคม พ.ศ. 2485 ศาลมลฑลทหารบกที่ 3 ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทิพย์ มียศ
68 สวัสดิ์ นิ่มละม่อม - ชาย 24 ธันวาคม พ.ศ. 2485 ศาลมลฑลทหารบกที่ 5 ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทิพย์ มียศ
69 หมู มูนดา - ชาย ศาลมลฑลทหารบกที่ 4 ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
70 มี มินโสด - ชาย ศาลทหารกรุงเทพ ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและฆ่าเจ้าพนักงาน ทิพย์ มียศ
71 สนอง คชริทธิ์ - ชาย 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 ศาลมลฑลทหารบกที่ 4 ฆ่าคนตายโดยเจตนา ทิพย์ มียศ
72 ตุง แซ่หว่อง 28 ชาย 15 เมษายน พ.ศ. 2486 เลย ฆ่าคนตายด้วยความพยาบาทมาดหมายและซ่อนเร้นศพ เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
73 อ่อน แดงกูล - ชาย กาญจนบุรี ปล้นทรัพย์, ฆ่าคนตายโดยเจตนา และพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
74 กุลยา มันคาล - ชาย ปัตตานี ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
75 น้อย ลังกะวงส์ - ชาย 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2486 ศาลทหารกรุงเทพ ฆ่าคนตายโดยเจตนา ทิพย์ มียศ
76 แอ๊ว ชูนาม - ชาย 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2486 ศาลทหารกรุงเทพ ฆ่าเจ้าพนักงาน ทิพย์ มียศ
77 พัน จูจัน - ชาย ศาลทหารกรุงเทพ ฆ่าเจ้าพนักงาน เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
78 โปร่ง สมบุญ - ชาย 12 กรกฎาคม พ.ศ 2486 ศาลทหารกรุงเทพ ร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วยความพยาบาทมาดหมาย ทิพย์ มียศ
79 ก๋อ สมบุญ - ชาย ศาลทหารกรุงเทพ เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
80 สอน กันสิริ - ชาย ศาลทหารกรุงเทพ ทิพย์ มียศ
81 เปล่ง สมบุญ - ชาย ศาลทหารกรุงเทพ เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
82 หวน สานุสิส - ชาย 30 ตุลาคม พ.ศ 2486 ศาลมลฑลทหารบกที่4 ฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วยความพยาบาทมาดหมายและละทิ้งเด็ก ทิพย์ มียศ
83 ผิน เจริญสุข - ชาย ศาลทหารกรุงเทพ ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
84 แสง ปัญญาวุทโท หรือ สังวาล กสิรัต - ชาย 4 มกราคม พ.ศ 2487 ศาลทหารกรุงเทพ ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
85 อุดม บุนนาค - ชาย 10 มีนาคม พ.ศ 2487 ศาลทหารกรุงเทพ ฆ่าเจ้าพนักงาน เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
86 ฉาย ยิ้มสุข - ชาย 19 เมษายน พ.ศ 2487 ศาลทหารกรุงเทพ ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
87 สุชิต เหล็งสิทธิ - ชาย 24 พฤษภาคม พ.ศ 2487 ศาลทหารกรุงเทพ ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
88 แว่ว อำพันภูธร - ชาย 1 กรกฎาคม พ.ศ 2487 ศาลทหารกรุงเทพ ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
89 กี่ โพธิ์สลัก - ชาย 1 พฤศจิกายน พ.ศ 2494 ตราด ฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
90 จิตต์ ศิริสวัสดิ์ - ชาย สงขลา ฆ่าคนตายเพื่อปกปิดความผิดฐานปล้นทรัพย์ เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
91 บุรี ศรีรอดบาง - ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
92 เฉลียว ปทุมรส 52 ชาย 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 อาญากรุงเทพ สมคบกันประทุษร้ายต่อองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
93 บุศย์ ปัทมศริน 55 ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
94 ชิต สิงหเสนี 50 ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
95 สิงห์ อินทนนท์ 26 ชาย 11 มิถุนายน พ.ศ. 2498 เชียงใหม่ ฆ่าคนตายโดยเจตนาและพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
96 ประถม อุบลอิ่มชัย - ชาย 31 สิงหาคม พ.ศ. 2499 บุรีรัมย์ ร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนา เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
97 ประยูร กกประโคน - ชาย เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง
98 ซีอุย แซ่อึ้ง 32 ชาย 16 กันยายน พ.ศ. 2502 ระยอง ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย เพี้ยน คนแรงดี
99 โฉม ฉิมมา - ชาย 30 ธันวาคม พ.ศ. 2502 ศาลมลฑลทหารบกที่ 2 ร่วมกันฆ่าคนตายเพื่อปกปิดความผิดฐานปล้นทรัพย์ เพี้ยน คนแรงดี
100 ใจ ฉิมมา - ชาย เพี้ยน คนแรงดี

|- |101 |เชื่อม เมฆอ่ำ| - | ชาย| 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2503| ศาลมลฑลทหารบกที่ 4| ร่วมกันฆ่าคนตายโดยเหตุฉกรรจ์ |มุ่ย จุ้ยเจริญ |- |102 |ดุ่ย ศุภรังษี | - | ชาย| 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2503| ศาลมลฑลทหารบกที่ 4| ร่วมกันฆ่าคนตายโดยเหตุฉกรรจ์ |มุ่ย จุ้ยเจริญ |- |103 |ม้วน คล้ายสกุล | - | ชาย| 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2503| นครสวรรค์| ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้ายเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น,ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย |เพี้ยน คนแรงดี |- |104 |กอง ผาวัน | - | ชาย| 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2503| อุบลราชธานี| ฆ่าคนตายโดยเหตุฉกรรจ์ |เพี้ยน คนแรงดี |- |105 |บัน ใจกล้า | - | ชาย| 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2503| ศาลมลฑลทหารบกที่7| ฆ่าคนตายโดยเหตุฉกรรจ์ |เพี้ยน คนแรงดี |- |106 |อั้น แซ่พู่ | - | ชาย| 19 สิงหาคม พ.ศ.2503 | ระนอง | เป็นโจรสลัดปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ |มุ่ย จุ้ยเจริญ |- |107 |เล็ก วิเชียรลักษณ์ | - | ชาย| 19 สิงหาคม พ.ศ.2503 | ระนอง | เป็นโจรสลัดปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ |เพี้ยน คนแรงดี |- |108 |สง ทองสองแก้ว | - | ชาย| 11 ตุลาคม พ.ศ.2503 | ศาลมลฑลทหารบกที่5 | ฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ |มุ่ย จุ้ยเจริญ |- |109 |เลี้ยงฮ้อ แซ่เล้า | - | ชาย| 29 สิงหาคม พ.ศ.2504 | ประหารชีวิตตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีโดยอาศันอำนาจมาตรา 17 | ผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย |มุ่ย จุ้ยเจริญ |- |110 |ลี อยู่พงษ์ | - | ชาย| 31 ตุลาค พ.ศ.2504 | ศาลทหารกรุงเทพ| ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย |มุ่ย จุ้ยเจริญ