ตราประจำจังหวัดของไทย

บทความรายชื่อวิกิมีเดีย

ตราประจำจังหวัดของไทย มีพัฒนาการมาจากตราประจำตำแหน่งของเจ้าเมืองในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และตราประจำธงประจำกองลูกเสือ 14 มณฑล ในสมัยรัชกาลที่ 6 - 7 ในสมัยที่จอมพลแปลก พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น รัฐบาลได้กำหนดให้แต่ละจังหวัดมีตราประจำจังหวัดของตนเองใช้เมื่อ พ.ศ. 2483 โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบตราตามแนวคิดที่แต่ละจังหวัดกำหนดไว้ ปัจจุบัน เมื่อมีการตั้งจังหวัดขึ้นใหม่ ก็จะมีการออกแบบตราประจำจังหวัดด้วยเสมอ แต่ตราของบางจังหวัดที่ใช้อยู่นั้นบางตราก็ไม่ใช่ตราที่กรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบ บางจังหวัดก็เปลี่ยนไปใช้ตราประจำจังหวัดเป็นแบบอื่นเสียก็มี บางที่ลักษณะของตราก็เพี้ยนไปจากลักษณะที่กรมศิลปากรออกแบบไว้ แต่ยังคงลักษณะหลัก ๆ ของตราเดิมไว้อยู่บ้างก็มี

ตราประจำจังหวัด

แก้

ภาคเหนือ

แก้
จังหวัด ภาพตรา เริ่มใช้งาน คำอธิบาย ตราอื่น หมายเหตุ
จังหวัดเชียงราย   พ.ศ. 2483 รูปช้างสีขาวกับเมฆ ลายที่ขอบตรามีรูปนาคเกี้ยว   ตราประจำจังหวัดรูปนี้จะเป็นตราแบบขาวดำ
จังหวัดเชียงใหม่   พ.ศ. 2483 รูปช้างเผือกยืนอยู่ในเรือนแก้ว ตรานี้เป็นตราเดิมในธงประจำกองลูกเสือมณฑลพายัพ
จังหวัดน่าน   พ.ศ. 2483 รูปพระธาตุแช่แห้งบนหลังโคอุสุภราช   มีคำอธิบายชื่อจังหวัดอยู่ด้วย
จังหวัดพะเยา   พ.ศ. 2520 รูปพระเจ้าตนหลวงวัดศรีโคมคำ ประทับเหนือกว๊านพะเยา มีช่อรวงข้าวประดับอยู่สองข้าง เบื้องบนมีลายกนกเปลว 7 ลายลอยอยู่
จังหวัดแพร่   พ.ศ. 2483 รูปพระธาตุช่อแฮบนหลังม้าแก้วมหาพลอัศวราช   แบบที่ทางจังหวัดเลือกใช้ในทางราชการปัจจุบันมีการเพิ่มแถบป้ายชื่อจังหวัดและตราพระครุฑพ่าห์
จังหวัดแม่ฮ่องสอน   พ.ศ. 2483 รูปช้างเล่นน้ำ
จังหวัดลำปาง   พ.ศ. 2483 รูปไก่ ยืนอยู่ในประตูมณฑปวัดพระธาตุลำปางหลวง  
จังหวัดลำพูน   พ.ศ. 2483 รูปพระบรมธาตุหริภุญไชย
จังหวัดอุตรดิตถ์   พ.ศ. 2483 รูปมณฑปประดิษฐานพระแท่นศิลาอาสน์ มีลวดลายกนกประกอบ   เป็นรูปอีกแบบหนึ่ง แต่ไม่มีคำอธิบายชื่อจังหวัดและตราพระครุฑพ่าห์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แก้
จังหวัด ภาพตรา เริ่มใช้งาน คำอธิบาย ตราอื่น หมายเหตุ
จังหวัดกาฬสินธุ์   พ.ศ. 2490 รูปติณชาติ (หญ้า) กาฬสินธุ์ (บึงน้ำสีดำ) ภูเขา และเมฆ
จังหวัดขอนแก่น   พ.ศ. 2483 รูปพระเจดีย์ก่อไว้บนตอไม้ หมายถึง พระธาตุขามแก่น
จังหวัดชัยภูมิ   พ.ศ. 2483 รูปธงสามชายอันเป็นธงชัยประจำกองทัพสมัยโบราณ
จังหวัดนครพนม   พ.ศ. 2483 รูปพระธาตุพนม
จังหวัดนครราชสีมา   พ.ศ. 2483 รูปอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีหน้าประตูชุมพล
จังหวัดบึงกาฬ   พ.ศ. 2554 รูปภูทอก บึงโขงหลง และต้นไม้[1]
จังหวัดบุรีรัมย์   พ.ศ. 2483 รูปเทพยดาฟ้อนรำหน้าปราสาทหินพนมรุ้ง
จังหวัดมหาสารคาม   พ.ศ. 2483 รูปทุ่งนาและต้นรัง มาจากชื่อเมืองมหาสาลคาม แปลว่า หมู่บ้านต้นรังใหญ่ มีที่มาจากที่ตั้งเมืองอันมีชื่อเดิมว่า บ้านลาดกุดยางใหญ่ หรือบ้านลาดกุดนางใย ซึ่งภายหลังสะกดเพี้ยนมาเป็นมหาสารคามในปัจจุบัน
จังหวัดมุกดาหาร   พ.ศ. 2525 รูปปราสาทสองนางสถิต ประดิษฐานแก้วมุกดาหาร ตรานี้กรมศิลปากรไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ
จังหวัดยโสธร   พ.ศ. 2515 รูปพระธาตุอานนท์ พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองในวัดมหาธาตุ มีสิงห์ขนาบสองข้าง มาจากชื่อที่ตั้งเมืองเมื่อแรกสร้างคือบ้านสิงห์ท่า รูปดอกบัวบานหมายถึงจังหวัดยโสธรแยกมาจากจังหวัดอุบลราชธานี รัศมีบนยอดแปดแฉกหมายถึงอำเภอทั้งแปดของจังหวัด ไฟล์:Seal Yasothon.png
จังหวัดร้อยเอ็ด   พ.ศ. 2545 รูปศาลหลักเมืองบนเกาะกลางบึงพลาญชัย เบื้องหลังเป็นรูปพระมหาเจดีย์ชัยมงคล โดยมีกรอบวงกลมเป็นรูปรวงข้าวล้อมรอบ  
 
เดิมตราประจำจังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งกรมศิลปากรออกแบบไว้มีเพียงรูปศาลหลักเมืองบนเกาะกลางบึงพลาญชัยเท่านั้น ส่วนตราปัจจุบันซึ่งประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ พ.ศ. 2547 เป็นผลงานออกแบบโดยนายรังสรรค์ ต้นทัพไทย
จังหวัดเลย   พ.ศ. 2483 รูปพระธาตุศรีสองรัก เบื้องหลังเป็นทิวเขา
จังหวัดศรีสะเกษ  
 
พ.ศ. 2512 รูปปรางค์กู่ มีดอกลำดวน 6 กลีบรองรับอยู่เบื้องล่าง   ตราปราสาทพระวิหาร ตราประจำจังหวัดศรีสะเกษระหว่าง พ.ศ. 2483 - 2512 ต่อมาได้เปลี่ยนตราใหม่ เพราะไทยเสียปราสาทเขาพระวิหารให้กัมพูชาตามคำตัดสินของศาลโลกเมื่อ พ.ศ. 2505 การจะใช้ตราเดิมต่อไปจึงเป็นการไม่สมควร
จังหวัดสกลนคร   พ.ศ. 2483 รูปพระธาตุเชิงชุม หน้าหนองหานหลวงและดอนสวรรค์
จังหวัดสุรินทร์   พ.ศ. 2483 รูปพระอินทร์ประทับบนแท่นศีรษะช้างเอราวัณ หน้าปราสาทหินศีขรภูมิ เดิมเรียกปราสาทหินศีขรภูมิว่าปราสาทหินบ้านระแงง
จังหวัดหนองคาย   พ.ศ. 2483 รูปกอไผ่ริมหนองน้ำ  
จังหวัดหนองบัวลำภู   พ.ศ. 2537 รูปพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชประทับยืนหน้าศาล เบื้องหลังเป็นหนองบัวลำภู   ในระยะแรก ตราที่ทางจังหวัดออกแบบเองมีเฉพาะรูปศาลสมเด็จพระนเรศวรในวงกลมเท่านั้น
จังหวัดอุดรธานี   พ.ศ. 2483 รูปท้าวเวสสุวัณหรือท้าวกุเวร เทพเจ้าประจำทิศเหนือ ตรานี้เป็นตราเดิมในธงประจำกองลูกเสือมณฑลอุดร
จังหวัดอุบลราชธานี   พ.ศ. 2483 รูปดอกบัวบานชูช่อพ้นน้ำ
จังหวัดอำนาจเจริญ   พ.ศ. 2537 รูปพระมงคลมิ่งเมือง พระพุทธรูปสำคัญประจำจังหวัด ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดใช้ตราอีกแบบหนึ่ง แต่มีลักษณะคล้ายตราในปัจจุบัน

ภาคกลาง

แก้
เขตการปกครอง/จังหวัด ภาพตรา เริ่มใช้งาน คำอธิบาย ตราอื่น หมายเหตุ
กรุงเทพมหานคร   พ.ศ. 2516 รูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ พระหัตถ์ซ้ายทรงขอช้าง พระหัตถ์ขวาทรงวชิราวุธ ซึ่งเป็นอาวุธประจำกายของพระอินทร์ ตรานี้กรมศิลปากรออกแบบโดยอาศัยภาพเขียนฝีพระหัตถ์ของสมเด็จกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์เป็นต้นแบบ เริ่มใช้ในปี พ.ศ. 2516 ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 ฉบับที่ 60 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 (สมัยเมื่อยังเป็นจังหวัดพระนครนั้นใช้ตราพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเป็นตราประจำจังหวัด)[2] ตรานี้เคยใช้เป็นตราเทศบาลนครหลวงกรุงเทพธนบุรี โดยข้อความที่อยู่เหนือรูปพระอินทร์ทรงช้างนั้นเป็นคำว่า "เทศบาลนครหลวง"
จังหวัดกำแพงเพชร   พ.ศ. 2483 รูปกำแพงเมืองมีใบเสมาประดับเพชร
จังหวัดชัยนาท   พ.ศ. 2483 รูปธรรมจักรหน้าภูเขา ซึ่งหมายเอาได้ทั้งเขาสรรพยาและเขาธรรมามูล   แบบที่จังหวัดใช้ในปัจจุบัน เพิ่มตราครุฑไว้ที่ส่วนล่างของตราด้วย
จังหวัดนครนายก   พ.ศ. 2547 รูปช้างชูรวงข้าว   ตราประจำจังหวัดนครนายกแบบเดิม เป็นรูปช้างชูรวงข้าว เบื้องหลังเป็นลอมฟาง วันที่ประกาศใช้ดวงตราแบบปัจจุบันอ้างอิงตามราชกิจจานุเบกษา
จังหวัดนครปฐม   พ.ศ. 2483 รูปพระปฐมเจดีย์ ประดับด้วยเครื่องหมายเลข 4 ไทยในพระมหาพิชัยมงกุฎ ตรานี้เป็นตราเดิมในธงประจำกองลูกเสือมณฑลนครชัยศรี
จังหวัดนครสวรรค์   พ.ศ. 2483 รูปวิมาน 3 ยอด ตรานี้ดัดแปลงจากตราในธงประจำกองลูกเสือ มณฑลนครสวรรค์
จังหวัดนนทบุรี   พ.ศ. 2483 รูปหม้อน้ำดินเผาลายวิจิตร หมายถึง ชาวจังหวัดนนทบุรีมีอาชีพทำเครื่องปั้นดินเผาซึ่งมีชื่อเสียงมาช้านาน
จังหวัดปทุมธานี   พ.ศ. 2483 รูปบัวหลวงและช่อรวงข้าวชูช่อเหนือน้ำ   ตราที่จังหวัดใช้ในปัจจุบันเขียนขึ้นใหม่ โดยเพิ่มแถบชื่อจังหวัดไว้ที่ส่วนล่างของตรา
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา   พ.ศ. 2483 รูปสังข์ทักษิณาวัตร ประดิษฐานบนพานแว่นฟ้าในปราสาทใต้ต้นหมัน ตรานี้เป็นตราเดิมในธงประจำกองลูกเสือมณฑลอยุธยา
จังหวัดพิจิตร   พ.ศ. 2483 รูปต้นโพธิ์ริมสระหลวง
จังหวัดพิษณุโลก  
 
พ.ศ. 2514 รูปพระพุทธชินราช พระคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก   เดิมกรมศิลปากรออกแบบให้ใช้ตราพระเจดีย์จุฬามณีอยู่เหนือลูกโลก 3 ลูก โดยหมายเอานามเมืองพิษณุโลกเป็นหลักในการผูกตรา
จังหวัดเพชรบูรณ์   พ.ศ. 2483 รูปเพชรกับภูเขาและไร่ยาสูบ
จังหวัดลพบุรี   พ.ศ. 2483 รูปพระนารายณ์สี่กร ประทับยืนหน้าพระปรางค์สามยอด
จังหวัดสมุทรปราการ   พ.ศ. 2483 รูปพระสมุทรเจดีย์  
จังหวัดสมุทรสงคราม   พ.ศ. 2483 รูปกลองลอยน้ำ  
จังหวัดสมุทรสาคร   พ.ศ. 2483 รูปสำเภาจีนในแม่น้ำท่าจีน
จังหวัดสระบุรี   พ.ศ. 2483 รูปมณฑปพระพุทธบาทสระบุรี   ตรานี้เขียนขึ้นจากภาพถ่ายจริงของมณฑปพระพุทธบาทสระบุรี ภายหลังมีการปรับปรุงรายละเอียดดวงตราเพิ่มเติมตามภูมิทัศน์จริงที่เปลี่ยนแปลงไป และประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษาเป็นหลักฐานในปี พ.ศ. 2564
จังหวัดสิงห์บุรี ไฟล์:Seal Sing Buri 2545.png พ.ศ. 2547 รูปอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจันในวงกลม ขอบวงกลมเป็นแถบสีธงชาติ[3]  
  เดิมทางจังหวัดใช้ตรารูปค่ายบางระจัน
จังหวัดสุโขทัย   พ.ศ. 2483 รูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราชประทับบนพระแท่นมนังคศิลาอาสน์  
 
จังหวัดสุพรรณบุรี   พ.ศ. 2483 รูปการทำยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราชมังกะยอชวาที่ตำบลหนองสาหร่าย เมื่อ พ.ศ. 2135
จังหวัดอ่างทอง   พ.ศ. 2483 รูปรวงข้าวในอ่างน้ำสีทอง
จังหวัดอุทัยธานี   พ.ศ. 2520 รูปศาลสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก เบื้องหลังคือเขาสะแกกรัง   เดิมจังหวัดใช้ตราเขาปฐวีและพระอาทิตย์อุทัย

ภาคตะวันออก

แก้
จังหวัด ภาพตรา เริ่มใช้งาน คำอธิบาย ตราอื่น หมายเหตุ
จังหวัดจันทบุรี   พ.ศ. 2483 รูปกระต่ายในดวงจันทร์ ตรานี้เป็นตราเดิมในธงประจำกองลูกเสือมณฑลจันทบุรี
จังหวัดฉะเชิงเทรา   พ.ศ. 2550 รูปพระอุโบสถหลังใหม่วัดโสธรวรารามวรวิหาร  
 
ตราเดิมเป็นรูปพระอุโบสถหลังเก่าของวัดโสธรวรารามวรวิหาร
จังหวัดชลบุรี   พ.ศ. 2483 รูปเขาสามมุก ริมทะเลอ่าวไทย
จังหวัดตราด   พ.ศ. 2529 รูปโป๊ะ เรือใบ และเกาะช้าง   เดิมจังหวัดใช้ตรารูปเรือรบหลวงเพื่อเป็นอนุสรณ์ในยุทธนาวีเกาะช้าง
จังหวัดปราจีนบุรี   พ.ศ. 2483 รูปต้นพระศรีมหาโพธิ์  
จังหวัดระยอง   พ.ศ. 2483 รูปพลับพลาที่ประทับของรัชกาลที่ 5 บนเกาะเสม็ด  
จังหวัดสระแก้ว ไฟล์:Seal Sakaeo.png พ.ศ. 2536 รูปพระพุทธรูปปางสรงสรีระ ประทับยืนบนดอกบัว ด้านหลังเป็นภาพพระอาทิตย์ยามรุ่ง ตอนกลางเป็นภาพปราสาทเขาน้อยสีชมพู ตรานี้กรมศิลปากรไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ

ภาคตะวันตก

แก้
จังหวัด ภาพตรา เริ่มใช้งาน คำอธิบาย ตราอื่น หมายเหตุ
จังหวัดกาญจนบุรี   พ.ศ. 2483 รูปด่านพระเจดีย์สามองค์ แบบที่จังหวัดใช้อยู่ในปัจจุบันมีการเพิ่มชื่อจังหวัดทั้งอักษรไทยและอักษรโรมันไว้ที่ขอบภาพด้วย
จังหวัดตาก   พ.ศ. 2483 รูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงหลั่งทักษิโณทกเหนือคอช้าง
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  

 

พ.ศ. 2483 รูปพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ และมีภาพเกาะหลักอยู่เบื้องหลัง  
จังหวัดเพชรบุรี   พ.ศ. 2483 รูปทุ่งนา ต้นตาลโตนด และพระนครคีรีหรือเขาวัง
จังหวัดราชบุรี   9 มิถุนายน พ.ศ. 2509 รูปเครื่องราชกกุธภัณฑ์ 2 ชนิด คือ ฉลองพระบาทเชิงงอนและพระแสงขรรค์ชัยศรี   ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดใช้ตรารูปเขางู มีงูล้อมรอบ ส่วนรูปฉลองพระบาทในดวงตราแบบปัจจุบันมีที่มาจากตราในธงประจำกองลูกเสือมณฑลราชบุรี

ภาคใต้

แก้
จังหวัด ภาพตรา เริ่มใช้งาน คำอธิบาย ตราอื่น หมายเหตุ
จังหวัดกระบี่   พ.ศ. 2483 รูปกระบี่ไขว้ เบื้องหลังเป็นรูปภูเขาและทะเล
จังหวัดชุมพร   พ.ศ. 2483 รูปเทวสตรียืนประทานพรหน้าค่าย มีต้นมะเดื่อขนาบอยู่ 2 ข้าง  
จังหวัดตรัง   พ.ศ. 2483 รูปกระโจมไฟ ท่าเรือ และลูกคลื่นในท้องทะเล  
จังหวัดนครศรีธรรมราช   พ.ศ. 2483 รูปพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช มีตรา 12 นักษัตรล้อมรอบ. ทั้ง 12 นักษัตรเป็นตัวแทนของ 12 เมืองนักษัตรหรือนครรัฐซึ่งเคยเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรนครศรีธรรมราช
จังหวัดนราธิวาส  
 
พ.ศ. 2520 รูปเรือกอและกางใบแล่นรับลมเต็มที่ ภายในใบเรือเป็นรูปช้างเผือกทรงเครื่องคชาภรณ์ รูปช้างนั้นหมายถึงพระศรีนรารัฐราชกิริณีฯ ช้างสำคัญซึ่งจังหวัดนราธิวาสได้น้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อ พ.ศ. 2520  
 
จังหวัดนราธิวาสได้เปลี่ยนแปลงตรามาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกใช้ตรารูปใบเรือขึงอยู่บนพื้น ภายในมีภาพกริชคดและพญานาคอยู่ เบื้องหลังเป็นรูปอาทิตย์อุทัย ต่อมาเปลี่ยนเป็นรูปคนงานกรีดยางพารา
จังหวัดปัตตานี   พ.ศ. 2483 รูปปืนใหญ่ศรีปัตตานีหรือนางพญาตานี
จังหวัดพังงา   พ.ศ. 2547 รูปเรือขุดเหมือง เขารูปช้าง และเกาะตาปู   ตราประจำจังหวัดพังงาแบบเดิมไม่มีรูปเกาะตาปู ภาพตราแบบปัจจุบันเป็นแบบที่ได้รับการปรับปรุงและประกาศให้ใช้เป็นเครื่องหมายราชการตามประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อ พ.ศ. 2547
จังหวัดพัทลุง   พ.ศ. 2483 รูปเขาอกทะลุ
จังหวัดภูเก็ต   พ.ศ. 2528 รูปอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร วาดจากของจริง   ตราเดิมที่กรมศิลปากรออกแบบไว้เป็นรูปสองวีรสตรี คือ ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทรยืนถือดาบ เบื้องหลังเป็นภาพเกาะถลาง
จังหวัดยะลา   พ.ศ. 2483 รูปคนงานทำเหมืองดีบุก
จังหวัดระนอง   พ.ศ. 2483 รูปปราสาทตั้งอยู่บนภูเขา มีรูปเลข 5 ไทย ประดิษฐานอยู่บนพานแว่นฟ้า
จังหวัดสงขลา   พ.ศ. 2483 รูปขอนสังข์วางอยู่บนพานแว่นฟ้า ตรานี้เป็นตราเดิมในธงประจำกองลูกเสือมณฑลนครศรีธรรมราช แต่ข้อมูลของทางจังหวัดกล่าวถึงที่มาของตราประจำจังหวัดนี้ว่า เดิมตราสังข์เคยใช้เป็นตรากระดุมฉลองพระองค์ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ต่อมากรมศิลปากรจึงได้ออกแบบตราสังข์ใช้เป็นเครื่องหมายประจำจังหวัดสงขลา
จังหวัดสตูล   พ.ศ. 2483 รูปพระสมุทรเทวาประทับนั่งบนแท่นหิน เบื้องหลังเป็นพระอาทิตย์อัสดง  
จังหวัดสุราษฎร์ธานี   พ.ศ. 2483 รูปพระบรมธาตุไชยา

ตราประจำจังหวัดในอดีต

แก้
จังหวัด ภาพตรา การใช้งาน คำอธิบาย หมายเหตุ
จังหวัดธนบุรี   พ.ศ. 2483-2514 รูปพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
จังหวัดพระนคร   พ.ศ. 2483-2514 รูปพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
จังหวัดนครจัมปาศักดิ์ ไม่มีภาพ พ.ศ. 2484-2489 รูปปราสาทวัดภู ในหนังสือ "ตราประจำจังหวัด" ซึ่งกรมศิลปากรจัดพิมพ์ เมื่อปี พ.ศ. 2542
มิได้ตีพิมพ์ภาพตราดังกล่าวประกอบไว้ มีเพียงข้อความบรรยายลักษณะตราเท่านั้น
จังหวัดพระตะบอง   พ.ศ. 2484-2489 รูปพระยาโคตรบองเงื้อกระบองทำท่าจะขว้าง
จังหวัดพิบูลสงคราม   พ.ศ. 2484-2489 รูปอนุสาวรีย์ไก่กางปีก
จังหวัดลานช้าง   พ.ศ. 2484-2489 รูปโขลงช้างยืนอยู่กลางลานกว้าง

ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. "เว็บไซต์สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-03. สืบค้นเมื่อ 2011-11-09.
  2. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดภาพเครื่องหมายราชการ ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พุทธศักราช ๒๔๘๒ (ฉบับที่ ๖๐)
  3. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-06-13. สืบค้นเมื่อ 2007-03-19.

บรรณานุกรม

แก้