จังหวัดนราธิวาส

จังหวัดในภาคใต้ในประเทศไทย

นราธิวาส (มลายูปัตตานี: منارا / มือนารา, มือนารอ) เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ของประเทศไทย เป็นหนึ่งในจังหวัดชายแดนใต้สุดของประเทศไทย มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลตะวันออกของแหลมมลายู ห่างจากกรุงเทพมหานคร ทางรถยนต์ประมาณ 1,149 กิโลเมตร โดยมีเนื้อที่ประมาณ 4,475.43 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,797,143.75 ไร่ ทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดปัตตานีในเขตอำเภอกะพ้อ อำเภอสายบุรี อำเภอไม้แก่น และอ่าวไทย ทิศตะวันออกติดต่อกับอ่าวไทยและรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ทิศใต้ติดต่อกับรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดยะลาในเขตอำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอบันนังสตา และอำเภอรามัน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้และภูเขา 2 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด มีป่าพรุประมาณ 361,860 ไร่ ทางแถบทิศตะวันตกเฉียงใต้จรดทิวเขาสันกาลาคีรีซึ่งเป็นแนวกั้นพรมแดนไทย-มาเลเซีย ลักษณะพื้นที่จะมีความลาดเอียงจากทิศตะวันตกไปสู่ทิศตะวันออก พื้นที่ราบส่วนใหญ่อยู่บริเวณติดกับอ่าวไทยและที่ราบลุ่มบริเวณแม่น้ำ 4 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำตากใบ และแม่น้ำโก-ลก ตามหลักฐานการทะเบียนราษฏรของกระทรวงมหาดไทย ปี พ.ศ. 2565[4] จังหวัดนราธิวาส มีประชากรจำนวน 812,924 คน แยกเป็นชาย 402,020 คน หญิง 410,905 คน โดยจังหวัดนราธิวาสมีศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน

จังหวัดนราธิวาส
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันChangwat Narathiwat
จากซ้ายไปขวา บนลงล่าง : มัสยิดตะโละมาเนาะ วัดชลธาราสิงเห หมู่บ้านชาวประมงในนราธิวาส เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา
คำขวัญ: 
ทักษิณราชตำหนัก ชนรักศาสนา
นราทัศน์เพลินตา ปาโจตรึงใจ
แหล่งใหญ่แร่ทอง ลองกองหอมหวาน
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดนราธิวาสเน้นสีแดงประเทศมาเลเซียประเทศพม่าประเทศลาวประเทศเวียดนามประเทศกัมพูชาจังหวัดนราธิวาสจังหวัดยะลาจังหวัดปัตตานีจังหวัดสงขลาจังหวัดสตูลจังหวัดตรังจังหวัดพัทลุงจังหวัดกระบี่จังหวัดภูเก็ตจังหวัดพังงาจังหวัดนครศรีธรรมราชจังหวัดสุราษฎร์ธานีจังหวัดระนองจังหวัดชุมพรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จังหวัดเพชรบุรีจังหวัดราชบุรีจังหวัดสมุทรสงครามจังหวัดสมุทรสาครกรุงเทพมหานครจังหวัดสมุทรปราการจังหวัดฉะเชิงเทราจังหวัดชลบุรีจังหวัดระยองจังหวัดจันทบุรีจังหวัดตราดจังหวัดสระแก้วจังหวัดปราจีนบุรีจังหวัดนครนายกจังหวัดปทุมธานีจังหวัดนนทบุรีจังหวัดนครปฐมจังหวัดกาญจนบุรีจังหวัดสุพรรณบุรีจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจังหวัดอ่างทองจังหวัดสิงห์บุรีจังหวัดสระบุรีจังหวัดลพบุรีจังหวัดนครราชสีมาจังหวัดบุรีรัมย์จังหวัดสุรินทร์จังหวัดศรีสะเกษจังหวัดอุบลราชธานีจังหวัดอุทัยธานีจังหวัดชัยนาทจังหวัดอำนาจเจริญจังหวัดยโสธรจังหวัดร้อยเอ็ดจังหวัดมหาสารคามจังหวัดขอนแก่นจังหวัดชัยภูมิจังหวัดเพชรบูรณ์จังหวัดนครสวรรค์จังหวัดพิจิตรจังหวัดกำแพงเพชรจังหวัดตากจังหวัดมุกดาหารจังหวัดกาฬสินธุ์จังหวัดเลยจังหวัดหนองบัวลำภูจังหวัดหนองคายจังหวัดอุดรธานีจังหวัดบึงกาฬจังหวัดสกลนครจังหวัดนครพนมจังหวัดพิษณุโลกจังหวัดอุตรดิตถ์จังหวัดสุโขทัยจังหวัดน่านจังหวัดพะเยาจังหวัดแพร่จังหวัดเชียงรายจังหวัดลำปางจังหวัดลำพูนจังหวัดเชียงใหม่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดนราธิวาสเน้นสีแดง
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดนราธิวาสเน้นสีแดง
ประเทศ ไทย
การปกครอง
 • ผู้ว่าราชการ ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม[1]
(ตั้งแต่ พ.ศ. 2566)
พื้นที่[2]
 • ทั้งหมด4,475.430 ตร.กม. (1,727.973 ตร.ไมล์)
อันดับพื้นที่อันดับที่ 49
ประชากร
 (พ.ศ. 2565)[3]
 • ทั้งหมด812,925 คน
 • อันดับอันดับที่ 30
 • ความหนาแน่น180.91 คน/ตร.กม. (468.6 คน/ตร.ไมล์)
 • อันดับความหนาแน่นอันดับที่ 18
รหัส ISO 3166TH-96
ชื่อไทยอื่น ๆบางนรา นรา
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
 • ต้นไม้ตะเคียนชันตาแมว
 • ดอกไม้บานบุรี
 • สัตว์น้ำปลาซิวข้างขวานใหญ่
ศาลากลางจังหวัด
 • ที่ตั้งหมู่ที่ 8 ถนนศูนย์​ราชการ ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส 96000
เว็บไซต์http://www.narathiwat.go.th/
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

ที่มาของชื่อ แก้

"นราธิวาส" เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมาใหม่ใน พ.ศ. 2458 ชื่อเดิมของพื้นที่นี้คือ "เมอนารา" หรือ "เมอนารอ" (มลายู: Menara, منارا) ซึ่งมีความหมายว่า "หอคอย"[5] ที่กลายมาจากคำว่า "กัวลาเมอนารา" (มลายู: Kuala Menara) ที่มีความหมายว่า "กระโจมไฟ" หรือ "หอคอยที่ปากน้ำ"[5] ส่วนชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธจะเรียกว่า "บางนรา" หรือ "บางนาค"[5] ต่อมาใน พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมืองขึ้นใหม่ว่า "นราธิวาส"[6] อันมีความหมายว่า "ที่อยู่อันยิ่งใหญ่ของประชาชน"

ประวัติ แก้

จังหวัดนราธิวาส เดิมมีฐานะเป็นเพียงเมืองหนึ่งในอาณาจักรลังกาสุกะซึ่งพบหลักฐานโบราณคดีค่อนข้างน้อยเช่น ซากเจดีย์ 3 องค์บริเวณวัดเขากง อายุ 1,300 ปี (ต่อมาถูกรื้อถอนแล้วสร้างพระพุทธทักษิณมิ่งมงคลแทน) พระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์นิกายมนตยานบริเวณวัดเขากงเช่นกัน ต่อมาก็กลายเป็นอำเภอหนึ่ง เรียกว่า อำเภอบางนรา ขึ้นกับเมืองสายบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองภาคใต้ ต่อมาได้โอนไปขึ้นกับเมืองระแงะ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองเช่นกัน โดยประวัติความเป็นมาของนราธิวาสนั้น มีความเชื่อมโยงกับเรื่องราวของเมืองปัตตานี เมืองสายบุรี และเมืองระแงะ

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีรับสั่งให้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ยกทัพหลวงลงมาปักษ์ใต้เพื่อปราบปรามข้าศึกที่เข้ามาทางปักษ์ใต้ เมื่อข้าศึกแตกพ่ายหนีไปหมดแล้ว จึงเสด็จประทับ ณ เมืองสงขลา และได้มีรับสั่งออกไปถึงหัวเมืองมลายูทั้งหลาย ที่เคยขึ้นกับอยุธยามาก่อน ให้มาอ่อนน้อมดังเดิม โดยพระยาไทรบุรี และพระยาตรังกานูยอมอ่อนน้อมแต่โดยดี แต่พระยาปัตตานีแข็งเมืองไม่ยอมอ่อนน้อม จึงรับสั่งให้ยกทัพไปเมืองปัตตานีเมื่อ พ.ศ. 2332 เมื่อได้เมืองปัตตานีแล้ว ได้โปรดเกล้าฯ ให้พระราชทานตราตั้งให้แก่พระยาสงขลา (บุญฮุย) เป็นพระยาปัตตานี และให้อยู่ในความกำกับดูแลของเมืองสงขลาต่อไป และตั้งในเป็นเมืองมนตรีขึ้นอยู่กับกรุงรัตนโกสินทร์โดยตรง ในระหว่างที่พระยาปัตตานี (ขวัญซ้าย) ว่าราชการเมืองปัตตานีอยู่นั้น บ้านเมืองสงบเรียบร้อยปกติสุขตลอดมา ครั้นเมื่อพระยาปัตตานีถึงแก่กรรม โปรดเกล้าฯ ให้นายพ่าย น้องชายพระยาหลวงสวัสดิภักดีผู้ช่วยราชการเมืองปัตตานี และได้ย้ายที่ว่าการเมืองปัตตานีจากบ้านมะนา (อ่าวนาเกลือ) ไปตั้งอยู่ที่บ้านยามู

ในระหว่างนั้นพวกของซาเห็ดรัตนวงศ์ฯ และพวกโมเซฟได้เริ่มก่อกวนความสงบสุขของบ้านเมือง โดยคบคิดกับปล้นบ้านพระยาปัตตานี และบ้านหลวงสวัสดิภักดี แต่ก็ได้ถูกตีถอยหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านกะลาพอ แขวงเมืองสายบุรี นอกจากนั้นเมืองปัตตานีซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวาง และมีโจรผู้ร้ายชุกชุม เที่ยวปล้นบ้านเรือนราษฎรจนเหลือกำลังที่พระยาปัตตานีจะปราบให้ราบคาบได้ จึงแจ้งราชการไปยังเมืองสงขลา พระยาสงขลา (เถียนจ๋อง) ออกมาปราบปราม และจัดนโยบายแบ่งแยกเมืองปัตตานีออกเป็น 7 เมือง ได้แก่ เมืองปัตตานี เมืองหนองจิก เมืองยะลา เมืองรามันห์ เมืองระแงะ เมืองสายบุรี และเมืองยะหริ่ง ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้มีพระยาปัตตานี (ต่วนสุหลง) พระยาหนองจิก (ต่วนกะจิ) พระยายะลา (ต่วนบางกอก) และพระยาระแงะ (หนิเดะ) โดยเจ้าเมืองทั้ง 4 ได้สมคบคิดกันเป็นกบฏขึ้น จึงโปรดเกล้าให้พระยาเพชรบุรี และพระยาสงขลา (เถี้ยนเส้ง) ลงมาปราบ และพิจารณาเห็นว่า หนิบอสูชาวบ้านบางปูซึ่งพระยายะหริ่งแต่งตั้งให้เป็นกรมการเมืองยะหริ่งได้เป็นกำลังสำคัญ และได้ทำการต่อสู้ด้วยความกล้าหาญยิ่ง ด้วยคุณงามความดีนี้จึงได้แต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาราชการเมืองระแงะ สืบต่อจากพระยาระแงะ (หนิเดะ) ที่หนีไป และได้ย้ายที่ว่าราชการจากบ้านระแงะมาตั้งใหม่ที่ตำบลตันหยงมัส

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงให้ยกเลิกการปกครองแบบเก่า เพราะการแบ่งเขตแขวงการปกครอง และตำแหน่งหน้าที่ราชการในหัวเมืองทั้ง 7 ที่ยังทับซ้อนกันอยู่หลายแห่ง จึงได้วางระเบียบแผนการปกครองและตำแหน่งหน้าที่ราชการให้เป็นระเบียบตามสมควรแก่กาลสมัย เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2444

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2449 มีประกาศพระบรมราชโองการให้แยกบริเวณ 7 หัวเมืองออกมาจากมณฑลเทศาภิบาล เรียกว่า มณฑลปัตตานี เพื่อสะดวกแก่ราชการ และทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญขึ้นกว่าแต่ก่อน ในปี พ.ศ. 2458 ได้ย้ายที่ว่าราชการจากเมืองระแงะ ตำบลตันหยงมัส มาตั้งที่บ้านมะนาลอ (บางมะนาวในปัจจุบัน) อำเภอบางนรา ส่วนท้องที่เมืองระแงะ และได้ยกฐานะอำเภอบางนราขึ้นเป็นเมืองบางนรา มีอำเภอในการปกครองได้แก่ อำเภอบางนรา อำเภอตันหยงมัส กิ่งอำเภอยะบะ อำเภอสุไหงปาดี และกิ่งอำเภอโต๊ะโมะ

ครั้นต่อมาสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้เสด็จประพาสมณฑลปักษ์ใต้ เมื่อพระองค์เสด็จถึงเมืองบางนรา ทรงพระราชทานพระแสงศาสตราแก่เมืองบางนรา และทรงดำริว่าบางนรานั้นเป็นชื่อตำบลบ้าน และควรที่จะมีชื่อเมืองไว้เป็นหลักฐานสืบไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเป็น "เมืองนราธิวาส" ซึ่งหมายถึงที่อยู่ของคนดี เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2458

ในปีพ.ศ. 2476 ได้มีการปรับปรุงระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาคครั้งยิ่งใหญ่ และให้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นจังหวัด เมืองนราธิวาสจึงเป็นเปลี่ยนเป็น "จังหวัดนราธิวาส" จากนั้นเป็นต้นมา

รายชื่อผู้ว่าราชการจังหวัด แก้

รายชื่อผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส
ลำดับ ชื่อ ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง
1 พระนราภิบาล 2458
2 พระภิศัยสุนทรการ ไม่ทราบแน่ชัด
3 หลวงปริวรรตวรวิจิตร ไม่ทราบแน่ชัด
4 พระยานราศัยสุนทร 2462
5 พระยาสุรพลพิพิธ 2465-2469
6 พระยาศรีสุทัศน์ 2469-2472
7 พระเพชราภิบาลนฤเบศร 2472-2475
8 พระศรีสุทัศน์ 2475-2480
9 พระพิชิตบัญชาการ 2480-2481
10 หม่อมทวีวงศ์วัลย์ศักดิ์ 2481-2484
11 หลวงภูวนารถนฤบาล 2484-2484
12 พระพินิจเสนาการ 2484-2485
13 หลวงจรูญบูรกิจ 2485-2487
14 นายอิน ตุงคะผลิน 2487-2490
15 นายยุทธ จรัญยานนท์ 2490-2491
16 หลวงจรูญบูรกิจ 2491-2492
17 นายสง่า สุขรัตน์ 2492-2494
18 นายพุก ฤกษ์เกษม 2494-2496
19 นายวิทุร จักกะพาก 2496-2497
20 พ.ต.อ.จำรัส โรจนจันทร์ 2497-2497
21 นายผาด นาคพิน 2497-2499
22 ขุนวรคุตคณารักษ์ 2499-2501
23 นายอ้วน สุรกุล 2501-2501
24 นายเทียน อัชกุล 2501-2504
25 นายพันธุ สายตระกูล 2504-2512
26 นายวรวิทย์ รังสิโยทัย 2512-2514
27 นายจรูญ โลกะกะลิน 2514-2517
28 นายวัชระ สิงคิวิบูลย์ 2517-2520
29 นายชัด รัตนราช 2520-2523
30 นายชิต นิลพานิช 2523-2526
31 นายธวัชชัย สมสมาน 2526-2528
32 นายประจวบ พัฒกุล 2528-2532
33 นายผัน จันทรปาน 2532-2534
34 ร้อยเอกเคียงศักดิ์ ธรรมราชรักษ์ 2534-2536
35 นายสวัสดิ์ กฤตรัชตนันต์ 2536-2540
36 นายชูชาติ พูลศิริ 2540-2541
37 นายพงศ์โพยม วาศภูติ 2541-2543
38 นายปริญญา อุดมทรัพย์ 2543-2545
39 นายธีระ โรจนพรพันธุ์ 2545-2546
40 นายวิชม ทองสงค์ 2546-2547
41 นายประชา เตรัตน์ 2547-2549
42 นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ 2549-2551
43 นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ 2551-2552
44 นายธนน เกชกรกานนท์ 2552-2554
45 นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ 2554-2556
46 นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ 2556-2558
47 นายสิทธิชัย ศักดา 2558-2560
48 นายสุรพร พร้อมมูล 2560-2561
49 นายเอกรัฐ หลีเส็น 2561-2563
50 นายเจษฎา จิตรัตน์ 2563-2564
51 นายสนั่น พงษ์อักษร 2564-2566
52 ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม 2566-ปัจจุบัน

การเมืองการปกครอง แก้

อำเภอ แก้

การปกครองแบ่งออกเป็น 13 อำเภอ 77 ตำบล 589 หมู่บ้าน

  1. อำเภอเมืองนราธิวาส
  2. อำเภอตากใบ
  3. อำเภอบาเจาะ
  4. อำเภอยี่งอ
  5. อำเภอระแงะ
  6. อำเภอรือเสาะ
  7. อำเภอศรีสาคร
  8. อำเภอแว้ง
  9. อำเภอสุคิริน
  10. อำเภอสุไหงโก-ลก
  11. อำเภอสุไหงปาดี
  12. อำเภอจะแนะ
  13. อำเภอเจาะไอร้อง
  

เทศบาล แก้

อำเภอเมืองนราธิวาส

อำเภอตากใบ

อำเภอบาเจาะ

อำเภอยี่งอ

อำเภอระแงะ

อำเภอรือเสาะ

อำเภอศรีสาคร

อำเภอแว้ง

อำเภอสุคิริน

อำเภอสุไหงโก-ลก

อำเภอสุไหงปาดี

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด แก้

ดอกไม้ประจำจังหวัด แก้

ดอกบานบุรีเหลือง

ตราประจำจังหวัด แก้

รูปเรือใบแล่นกางใบ ตรงกลางใบมีรูปช้างเผือกประดับเครื่องคชาภรณ์ อยู่ในวงกลม มีความหมายดังนี้ รูปเรือใบแล่นกางใบ หมายถึง ที่ตั้งอยู่ริมทะเล มีการค้าขาย การประมง และการ ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ในเรือมีรูปช้างเผือกประดับเครื่องคชาภรณ์อยู่ในวงกลม หมายถึง ช้างสำคัญคู่บุญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชื่อว่า “พระศรีนรารัฐราชกิริณี”

ต้นไม้ประจำจังหวัด แก้

ตะเคียนชันตาแมว (Neobalanocarpus heimii)

คำขวัญประจำจังหวัด แก้

ทักษิณราชตำหนัก ชนรักศาสนา นราทัศน์เพลินตา ปาโจตรึงใจ แหล่งใหญ่แร่ทอง ลองกองหอมหวาน

— คำขวัญประจำจังหวัดนราธิวาส

ชาวจังหวัดนราธิวาสส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น การทำนา การเพาะปลูกพืชทางเศรษฐกิจ คือ ยางพารา ลองกอง เงาะ ทุเรียน เป็นต้น พืชที่สร้างชื่อเสียงของนราธิวาสคือ ลองกองบ้านซีโปตันหยงมัส มีรสชาติหวานนุ่มหอมอร่อยสามารถขายได้ราคาดี นอกจากการเกษตรแล้วบางส่วนก็ทำธุรกิจค้าขาย และทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน เป็นต้น

เศรษฐกิจ แก้

ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด GPP p1 (ปี 2548) 35,135 ล้านบาท แก้

  • เกษตรกรรม 48.66 %
  • อุตสาหกรรม 4.97 %
  • โรงแรม/ภัตตาคาร 0.63 %
  • ค้าปลีก-ค้าส่ง 13.69 %
  • ก่อสร้าง 2.68 %
  • อื่นๆ 29.37 %

ภาวะราคาสินค้า แก้

  • รายได้เฉลี่ยต่อหัว (ปี 2548 p1) 44,553 บาท
  • อัตราการว่างงาน (เม.ย.–มิ.ย.49) 2.11 %
  • ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท/วัน
  • อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.–ส.ค. 49/เม.ย.–ส.ค. 48) 5.4 %

การจำหน่ายสินค้า OTOP (ม.ค.–สค. 49) แก้

  • ยอดจำหน่ายสินค้า OTOP19.73 ล้านบาท

มูลค่าการค้าชายแดน (ม.ค.–ส.ค.49) แก้

  • การค้ารวม 3,329.69 ล้านบาท
  • การส่งออก 1,248.96 ล้านบาท
  • การนำเข้า 2,080.73 ล้านบาท
  • ดุลการค้า -831.77 ล้านบาท

สังคมและวัฒนธรรม แก้

ศาสนาในจังหวัดนราธิวาส (พ.ศ. 2555–57)[7][8]
ศาสนา ร้อยละ
อิสลาม
  
89.05%
พุทธ
  
10.74%
อื่น ๆ
  
0.20%

ปัจจุบันมีสถานศึกษารวมทั้งหมด 488 แห่ง (ไม่รวมแหล่งวิชาการนอกระบบ) สังกัด สปช. 255 แห่ง สังกัด สศ. 18 แห่ง สังกัด สช. 82 แห่ง สังกัด กศป. 15 แห่ง สังกัดเทศบาล 10 แห่ง สถาบันศึกษาปอเนาะที่จดทะเบียน 76 สถาบัน จำนวนนักศึกษาก่อนประถมศึกษา 31,200 คน ระดับประถมศึกษา 88,200 คน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 17,300 คน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและหรือ ปวช. 9,400 คน ระดับอุดมศึกษา (ปวส.) 900 คน ระดับอุดมศึกษา (วิทยาลัยพยาบาล) 800 คน รวม 147,700 ค

การศึกษา แก้

โรงเรียน แก้

ระดับอุดมศึกษา แก้

การขนส่ง แก้

ระยะทางจากตัวจังหวัดไปอำเภอต่างๆ แก้


แหล่งท่องเที่ยว แก้

การคมนาคม แก้

ทางบก แก้

ระยะทาง 1,149 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จังหวัดชุมพร และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ผ่านจังหวัดสุราษฎร์ธานีจังหวัดนครศรีธรรมราชจังหวัดพัทลุงอำเภอหาดใหญ่ และต่อด้วยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 เข้าสู่จังหวัดปัตตานี–จังหวัดนราธิวาส มีรถโดยสารประจำทางกรุงเทพฯ–นราธิวาส–สุไหงโก-ลก บริการทุกวัน

ทางรถไฟ แก้

การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดบริการเดินรถไฟระหว่างกรุงเทพ–สุไหงโก-ลก ยะลา–สุไหงโก-ลก นครศรีธรรมราช–สุไหงโก-ลก สุราษฎ์ธานี–สุไหงโก-ลก ชุมทางหาดใหญ่–สุไหงโก-ลก พัทลุง–สุไหงโก-ลก ทุกวันทั้งรถด่วน รถเร็ว รถท้องถิ่น โดยผู้ที่ต้องการเดินทางมายังอำเภอเมืองนราธิวาสจะต้องลงที่สถานีรถไฟตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อต่อรถเข้าสู่อำเภอเมืองนราธิวาส


สามารถเดินทางได้กับขบวนรถ ดังนี้
รถด่วนพิเศษที่ 37/38 กรุงเทพ–สุไหงโก-ลก-กรุงเทพ
รถเร็วที่ 171/172 กรุงเทพ–สุไหงโก-ลก-กรุงเทพ
รถเร็วที่ 175/176 ชุมทางหาดใหญ่–สุไหงโก-ลก-ชุมทางหาดใหญ่
รถท้องถิ่นที่ 451/452 นครศรีธรรมราช–สุไหงโก-ลก-นครศรีธรรมราช
รถท้องถิ่นที่ 463/464 พัทลุง-สุไหงโกลก-พัทลุง
รถท้องถิ่นที่ 447/448 สุราษฎร์ธานี–สุไหงโก-ลก-สุราษฎร์ธานี
รถท้องถิ่นที่ 453/454 ยะลา-สุไหงโก-ลก-ยะลา

ทางอากาศ แก้

ท่าอากาศยานนราธิวาส ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือ ระยะทาง 13 กิโลเมตร ปัจจุบันมีสายการบินเปิดให้บริการ ดังนี้

สายการบินแอร์เอเซีย

  • เที่ยวไป
  • เดินทางจากดอนเมือง FD3130 เวลา 10:30 น. ถึง นราธิวาส เวลา 12:05 น. [ทุกวัน]
  • เดินทางจากดอนเมือง FD3133 เวลา 14:25 น. ถึง นราธิวาส เวลา 15:50 น. [อังคาร พฤหัสบดี เสาร์]
  • เที่ยวกลับ
  • เดินทางจากนราธิวาส FD3131 เวลา 12:30 น. ถึง ดอนเมือง เวลา 14:00 น. [ทุกวัน]
  • เดินทางจากนราธิวาส FD3134 เวลา 14:20 น.ถึง ดอนเมือง เวลา 17:45 น. [อังคาร พฤหัสบดี เสาร์]

สายการบินไทยสมายล์

  • เที่ยวไป
  • เดินทางจากสุวรรณภูมิ WE293 เวลา 08:05น. ถึง นราธิวาส เวลา 09:35 น. [ทุกวัน]
  • เดินทางจากสุวรรณภูมิ WE291 เวลา 13:05 น. ถึง นราธิวาส เวลา 14:35 น. [ทุกวัน]
  • เที่ยวกลับ
  • เดินทางจากนราธิวาส WE294เวลา 10:05 น. ถึง สุวรรณภูมิ เวลา 11:45 น. [ทุกวัน]
  • เดินทางจากนราธิวาส WE292เวลา 15:05 น. ถึง สุวรรณภูมิ เวลา 16:45 น. [ทุกวัน]
  • (ข้อมูล ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2563)

ชาวนราธิวาสที่มีชื่อเสียง แก้

อ้างอิง แก้

  1. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 140 ตอน 318 ง หน้า 14 วันที่ 19 ธันวาคม 2566
  2. ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm เก็บถาวร 2016-03-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
  3. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [1] 2565. สืบค้น 25 มกราคม 2566.
  4. https://ratchakitcha.soc.go.th/pdfdownload/?id=140D016S0000000002100
  5. 5.0 5.1 5.2 ประพนธ์ เรืองณรงค์. "บทผนวกเกียรติยศ". ใน รัฐปัตตานี ใน ศรีวิชัย เก่าแก่กว่ารัฐสุโขทัยในประวัติศาสตร์. สุจิตต์ วงษ์เทศ (บรรณาธิการ). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ:มติชน. 2547, หน้า 350
  6. "ประกาศ เปลี่ยนชื่อเมืองบางนรา เป็นเมืองนราธิวาส" (PDF). Royal Gazette. 32 (0 ก): 145. August 8, 1915. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-04-09. สืบค้นเมื่อ 2013-02-20.
  7. "เอกสารข้อมูลทั่วไป ประจำปี พ.ศ. 2555 จังหวัดนราธิวาส" (PDF). จังหวัดนราธิวาส. สืบค้นเมื่อ 30 July 2019.
  8. "ข้อมูลทั่วไปจังหวัดนราธิวาส" (PDF). กระทรวงสาธารณสุข. 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-07-29. สืบค้นเมื่อ 30 July 2019.

ดูเพิ่ม แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

พิกัดภูมิศาสตร์: 6°26′N 101°49′E / 6.43°N 101.82°E / 6.43; 101.82