สถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA ในประเทศจีน
สถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA ในประเทศจีน หรือ สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A (จีน: 国家5A级旅游景区; อังกฤษ: AAAAA Tourist Attractions of China) เป็นการจัดจำแนกและการประเมินระดับคุณภาพของสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศจีน ตามมาตรฐานแห่งชาติ ประเมินโดย "คณะกรรมการจัดระดับคุณภาพสถานที่ท่องเที่ยวแห่งชาติ" และออกโดยกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มอบให้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด
ระดับ AAAAA (5A; 5 เอ) เป็นระดับสูงสุดในการจัดอันดับ ณ ปี 2563 มีสถานที่ท่องเที่ยว 279 แห่งที่ถูกจัดระดับเป็น 5A[1]
ประวัติ
ที่มาของระบบการจัดระดับสถานที่ท่องเที่ยวเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดครั้งแรกในปี 2542 โดยองค์การบริหารการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน (กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวในปัจจุบัน) และแก้ไขในปี 2547[2] เกณฑ์นี้รวมถึงปัจจัยด้านคุณภาพและการจัดการ ตามเงื่อนไข 12 ประการ ได้แก่ ความสะดวกในการคมนาคมขนส่ง, การจัดการการเที่ยวชมสถานที่, ความปลอดภัยของสถานที่, ความสะอาด, สุขภาพและสุขอนามัยในการท่องเที่ยว, บริการไปรษณีย์และโทรคมนาคม, การซื้อของเพื่อการท่องเที่ยว, การจัดการและการปกป้องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม, ความน่าดึงดูดใจของทรัพยากรการท่องเที่ยว, ความน่าดึงดูดของตลาด, จำนวนนักท่องเที่ยวประจำปี และอัตราความพึงพอใจในการสุ่มตัวอย่างนักท่องเที่ยว โดยคำนึงถึงเอกลักษณ์และการรับรู้ของการเสนอสถานที่ท่องเที่ยว[2] สถานที่ท่องเที่ยวได้รับการจัดลำดับตามเกณฑ์ในระดับเริ่มต้นจาก A ถึง AAAA ในระยะแรก และเพิ่มระดับ AAAAA หรือ 5A ในภายหลังเพื่อเป็นระดับสูงสุด
กลุ่มสถานที่ท่องเที่ยว 66 แห่งได้รับการรับรองว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการจัดอันดับ AAAAA ชุดแรกในปี 2550[2] ในการจัดระดับสถานที่ท่องเที่ยวชุดแรก มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุดหลายแห่งในประเทศจีนรวมอยู่เช่น พระราชวังต้องห้าม และ พระราชวังฤดูร้อน ซึ่งล่าสุดการจัดระดับในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 เพิ่มเติมใหม่ 20 แห่ง[3] ในบางครั้งซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก มีสถานที่บางแห่งถูกลดออกจากระดับสูงสุด เนื่องจากข้อบกพร่องจากการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้เข้าชม[4]
รายชื่อ
มณฑล / เขตปกครองพิเศษ | เมือง | ชื่อสถานที่ | ชื่อภาษาจีน | ปีที่ได้รับการจัดระดับ | รายละเอียด | ภาพ |
---|---|---|---|---|---|---|
ปักกิ่ง | ปักกิ่ง | พระราชวังต้องห้าม ("พิพิธภัณฑ์พระราชวัง") |
故宫博物院 | 2550 | พื้นที่ 72 ตารางกิโลเมตร อาคาร 980 แห่ง[5] เริ่มสร้างโดยจักรพรรดิหย่งเล่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 1949–1963[6] ใช้เป็นพระราชวังหลักของราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงตอนต้น ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์สาธารณะในปี พ.ศ. 2468[7] ด้านทิศใต้ประตูเทียนอันเหมิน แสดงภาพเหมือนที่มีชื่อเสียงของเหมา เจ๋อตง และเป็นสถานที่ของเหตุการณ์สำคัญมากมายในประวัติศาสตร์จีนสมัยใหม่ ได้แก่การเฉลิมฉลองการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2492 | |
ปักกิ่ง | ปักกิ่ง | หอสักการะฟ้า | 天坛公园 | 2550 | พื้นที่ 2.73 ตารางกิโลเมตร อาคาร 92 หลัง[8] สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิหย่งเล่อในปี พ.ศ. 1963[8][9] ใช้สำหรับบูชาสวรรค์ตามประเพณีในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง โดยถูกดัดแปลงเป็นสวนสาธารณะในปี 2461 [9] | |
ปักกิ่ง | ปักกิ่ง | พระราชวังฤดูร้อน
หรือ อี๋เหอ-ยฺเหวียน |
颐和园 | 2550 | พื้นที่ประมาณ 2.97 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,812.5 ไร่ ประกอบด้วยเนินเขาสูง 60 เมตร มีพระตำหนักอยู่บนเนินและทะเลสาบคุนหมิง[10] มีเนื้อที่ประมาณ 2.2 ตารางกิโลเมตร หรือ (1,375 ไร่) คิดเป็น 3 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมด อี๋เหอ-ยฺเหวียนเริ่มก่อสร้างในสมัยราชวงศ์จิน (พ.ศ. 1658–1777) โดยจักรพรรดิไหหลิงหวัง เมื่อย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ปักกิ่ง และเป็นที่ประทับของจักรพรรดิราชวงศ์หยวน จนกระทั่งถึงรัชกาลของจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง ทรงบูรณะและสร้างพระตำหนักแห่งใหม่บนเนินเขา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2293–2307[10] เพื่อย่อขนาดสถานที่ที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ของจีนและในตำนานจีน ใช้เป็นพระราชวังหลักอย่างไม่เป็นทางการสำหรับจักรพรรดิองค์ถัด ๆ มาในราชวงศ์ชิง[11] ในปี พ.ศ. 2403 ระหว่างสงครามฝิ่นครั้งที่สองถูกทำลายล้างโดยกองทหารยุโรป[12] ซึ่งสร้างขึ้นใหม่โดยซูสีไทเฮาและรัฐบาลราชวงศ์ชิงตอนปลาย ได้รับความเสียหายและถูกปล้นโดยชาวต่างชาติอีกครั้งในปี พ.ศ. 2443 ระหว่างกบฏนักมวย ดัดแปลงเป็นสวนสาธารณะในปี พ.ศ. 2467[10] และได้รับการบูรณะอย่างกว้างขวางตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 | |
ปักกิ่ง | ปักกิ่ง | กำแพงเมืองจีนช่วง ปาตาหลิง และ มู่เถียนยู่ | 八达岭-慕田峪长城 | 2550 | กำแพงเมืองจีนช่วงปาตาหลิง และ ช่วงมู่เถียนยู่ ยาว 3,741 เมตร[13] เริ่มสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2008 เพื่อป้องกันช่องเขาจูหยง[14] ได้รับการบูรณะหลังปี พ.ศ. 2495[15] และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในปี พ.ศ. 2501[13] กำแพงเมืองจีนให้การต้อนรับผู้นำต่างชาติมากมาย โดยเฉพาะประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันของสหรัฐฯ ในระหว่างการเยือนปี 2515[15] | |
ปักกิ่ง | ปักกิ่ง | สุสานหลวงราชวงศ์หมิง[16] | 明十三陵 | 2554 | พื้นที่ 34.35 ตารางกิโลเมตร[17] เป็นพระราชสุสานที่ฝังพระศพของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงทั้งสิ้น 13 พระองค์ (จากทั้งหมด 16 พระองค์ของราชวงศ์หมิง)[16] เริ่มจากจักรพรรดิหย่งเล่อสร้างสุสานของพระองค์เองขึ้นในปี พ.ศ. 1952–2187 ในหุบเขาหยานชาน | |
ปักกิ่ง | ปักกิ่ง | วังกง (อี้ซิน) ("Prince Kung's Mansion")[18] |
恭王府景区 | 2555 | ||
ปักกิ่ง | ปักกิ่ง | โอลิมปิกกรีน | 奥林匹克公园 | 2555 | สวนโอลิมปิกขนาด 11.59 ตารางกิโลเมตร[19] สร้างขึ้นสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2551 ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วยสนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง (สนามกีฬารังนก), สนามกีฬาในร่มแห่งชาติ, ศูนย์กีฬาทางน้ำ, อุทยานป่าโอลิมปิก, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์ | |
ปักกิ่ง | ปักกิ่ง | พระราชวังฤดูร้อนเดิม | 圆明园 | 2562 | ห่างจากพระราชวังต้องห้ามไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 8 กิโลเมตร ในบริเวณใกล้เคียงกับพระราชวังฤดูร้อนอี๋เหอ-ยฺเหวียน "พระราชวังฤดูร้อนเดิม" เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นผลงานชั้นสุดยอดของสวนและการออกแบบพระราชวังของจักรพรรดิจีน สวนที่กว้างขวาง สถาปัตยกรรมอาคาร และงานศิลปะและสมบัติทางประวัติศาสตร์มากมาย ขึ้นชื่อว่าเป็น "สวนแห่งหมื่นสวน" (万园之园; 萬園之園; wàn yuán zhī yuán) ในยุครุ่งเรือง | |
เทียนจิน | เทียนจิน | ถนนวัฒนธรรมโบราณ (กู่เหวินฮฺว่าเจีย) |
古文化街 | 2550 | ถนนยาว 560 เมตร[20] เรียงรายด้วยร้านค้าสร้างเลียนแบบสมัยชิงเปิดในปี 2529[21] โดยจำหน่ายของใช้และของว่าง[20][22] ตั้งข้างศาลเจ้าแม่มาจู่ และวัดลัทธิเต๋า (ซึ่งมีอายุย้อนไปถึงปี พ.ศ. 1869 และ 1913 ตามลำดับ)[21] และพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา[23] | |
เทียนจิน | เทียนจิน | เขาผาน ("จุดชมวิวเขาผาน") |
盘山 | 2550 | วนอุทยานขนาด 105 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมเขาผาน สูง 850 เมตร[23] ซึ่งมีวัดนี้ที่สร้างขึ้นหลายแห่งในช่วงราชวงศ์ฮั่น มี 4 วัดที่ยังหลงเหลืออยู่ รวมทั้งสถูป 13 ชั้น ซึ่งได้รับการซ่อมแซมทั้งหมดตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990[23] | |
เหอเป่ย์ | Qinhuangdao | ด่านชานไห่ | 2550 | กลุ่มป้อมปราการของกำแพงเมืองจีนซึ่งครั้งหนึ่งเคยปกป้องช่องเขาซานไห่ ยาว 10 กิโลเมตร กำแพงทอดตัวยาวไปบนภูเขาฮวนหลี่หลิ่ง และสิ้นสุดที่ทะเลปั๋ว (โป๋ไห่)[24] เคยใช้ปกป้อง "ดินแดนจีน" จากแมนจูเรีย สร้างขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ.1126[25][26] ระหว่างราชวงศ์สุยตอนต้น และรูปแบบปัจจุบันส่วนใหญ่จากการสร้างในปี พ.ศ. 1924 ในช่วงต้นราชวงศ์หมิง โดยจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่ปลายด้านตะวันออกสุดของกำแพงเมืองจีนสมัยราชวงศ์หมิง[24] ที่ทอดบรรจบไปในทะเลโป๋ไห่กว่า 20 เมตร ซึ่งจุดนี้เรียกว่า "เหล่าหลงโถว" (老龙头; แปลว่า หัวมังกรเฒ่า) | ||
เหอเป่ย์ | Baoding | ทะเลสาบไป๋หยาง | 白洋淀 | 2550 | ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของจีน ซึ่งตั้งแต่ปีคริสต์ทศวรรษ 1950 ได้ลดขนาดลงจากมากกว่า 1,000 ตารางกิโลเมตร จากการใช้น้ำในเขตเมืองและเพื่อการเกษตร จนแทบไม่เหลืออะไรในคริสต์ทศวรรษ 1980[27][28] ปัจจุบันประกอบด้วยทะเลสาบขนาดเล็กกว่า 143 แห่ง ที่มีพื้นที่รวมประมาณ 366 ตารางกิโลเมตร ใช้สำหรับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ[29] ปัจจุบันขนาดของทะเลสาบได้รับการดูแลรักษาอย่างไม่ยั่งยืน โดยอาศัยการสูบน้ำบาดาลที่มีมลพิษสูงมาเติม[27][30] | |
เหอเป่ย์ | Chengde | สถานที่พักร้อนและหมู่วัดในเฉิงเต๋อ | 承德避暑山庄和外八庙 | 2550 | พื้นที่ 6.1 ตารางกิโลเมตร[31] เริ่มสร้างระหว่างปี พ.ศ. 2246–2335 ช่วงราชวงศ์ชิง[31] พื้นที่ล้อมรอบด้วยพื้นที่ภูเขา ที่ราบ และริมฝั่งทะเลสาบ เลียนแบบภูมิทัศน์แบบจีนโดยรวม[32] วังฤดูร้อนบนเขา (避暑山庄) มีวัตถุประสงค์เป็นที่ประทับของพระราชวงศ์จีนในคราเสด็จไปเมืองเฉิ่นหยาง เมืองหลวงเก่า เป็นที่ชื่นชอบโดยเฉพาะของจักรพรรดิคังซี และเฉียนหลง ส่วนหมู่วัดที่หมายถึงนี้คือหมู่วัดบนเขาที่สร้างด้วยการผสมสถาปัตยกรรมระหว่างทิเบตกับจีน[31] | |
เหอเป่ย์ | Baoding | อุทยานแห่งชาติเย่ซานโพ | 野三坡 | 2554 | อุทยานแห่งชาติขนาด 334.8 ตารางกิโลเมตร[33] ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ท่องเที่ยว 3 แห่ง ได้แก่ Baili Gorge, Longmentian Pass และ Fodongta Peak พร้อมถ้ำ Yugu [33] | |
เหอเป่ย์ | Shijiazhuang | เมืองซีไป๋โพ | 2554 | หมู่บ้าน พิพิธภัณฑ์ และอนุสรณ์สถานอื่น ๆ ที่สร้างขึ้นใหม่ ในฐานะสำนักงานใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและกองทัพปลดแอกประชาชนในปลายปี 2491 และต้น 2492 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญของสงครามกลางเมืองจีน[34] (สถานที่เดิมจมอยู่ใต้น้ำแล้ว จากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในท้องถิ่น)[35] | ||
เหอเป่ย์ | Tangshan | สุสานหลวงตะวันออกแห่งราชวงศ์ชิง | 2558 | สุสานขนาด 78 ตารางกิโลเมตร[36] มีอาคาร 508 หลัง สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2204–2451[37] ในซอกเขาฉางรุ่ย[38] ซึ่งใช้เป็นสุสานของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ชิง 5 พระองค์[38] และซูสีไทเฮา[39] | ||
เหอเป่ย์ | Handan | วังนฺหวี่วา (วาหฺวางงกง)[40] |
2558 | พื้นที่ 1.7 ตารางกิโลเมตร[40] ข้างเขาเฟิ่งหวง[41] เพื่อเป็นเกียรติแก่เทพีนฺหวี่วา[40] ซึ่งวัดเริ่มสร้างในราชวงศ์ฮั่น[40] พระราชวังและวัดที่ยังหลงเหลืออยู่ถูกสร้างขึ้นในช่วงจักรพรรดิว่านหลี่แห่งราชวงศ์หมิง[41] ได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. 2533 จุดดึงดูดคือ งานแกะสลักหิน ได้แก่ อักษร 130,000 ตัวจากพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนาที่จารึกบนภูเขาตั้งแต่รัฐฉีเหนือ (คริสต์ศตวรรษที่ 6) หรือก่อนหน้า[40][42] | ||
เหอเป่ย์ | Handan | Guangfu Ancient City | 2560 | |||
เหอเป่ย์ | Baoding | Mount Baishi ("Whitestone Mountain Scenic Area")[43] |
2560 | |||
เหอเป่ย์ | Baoding | Western Qing tombs | 2562 | |||
ชานซี | Datong | Yungang Grottoes | 2550 | |||
ชานซี | Xinzhou | Mount Wutai | 2550 | |||
ชานซี | Jincheng | House of the Huangcheng Chancellor | 2554 | |||
ชานซี | Jinzhong | Mount Mian[44] | 2556 | |||
ชานซี | Jinzhong | Pingyao ("Pingyao Ancient City")[45] |
2558 | |||
ชานซี | Xinzhou | Yanmen Pass Scenic Area[46] | 2560 | |||
ชานซี | Linfen | Locust tree of Hongdong Scenic Area | 2561 | |||
ชานซี | Changzhi | Huguan Taihang Grand Canyon and Baquan Gorge | 2562 | |||
มองโกเลียใน | Ordos | Xiangshawan | 2554 | รีสอร์ททะเลทราย | ||
มองโกเลียใน | Ordos | Mausoleum of Genghis Khan | 2554 | |||
มองโกเลียใน | Manzhouli | Manzhouli China-Russia Border Tourist Area | 2559[47] | พื้นที่นี้รวมถึง Matryoshka Resort ซึ่งเป็นรีสอร์ทเชิงวัฒนธรรมในธีม Matryoshka และ National Gate Resort ซึ่งเป็นประตูชายแดนขนาดใหญ่ที่มีหอสังเกตการณ์อยู่ด้านบนเพื่อให้ผู้มาเยือนมองเห็นพื้นที่ชายแดนระหว่างจีนและรัสเซีย สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในบริเวณที่สวยงาม ได้แก่ อนุสาวรีย์ชายแดนที่ 41, Locomotive Square และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่หกของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งจัดขึ้นในปี ค.ศ. 1928 [47] | ||
มองโกเลียใน | Hinggan League | Mount Arxan and Chaihe River scenic area[48] | 2560 | |||
มองโกเลียใน | Chifeng | Ashatu Stone Formation | 2561 | |||
มองโกเลียใน | Alxa League | Populus euphratica Tourist Area | 2562 | |||
เหลียวหนิง | เสิ่นหยาง | Shenyang Botanical Garden | 2550 | |||
เหลียวหนิง | ต้าเหลียน | Tiger Beach Ocean Park, Tiger Beach Polar Museum | 2550 | |||
เหลียวหนิง | ต้าเหลียน | Golden Pebble Beach | 2554 | |||
เหลียวหนิง | Benxi | Benxi Shuidong National Park | 2558 | |||
เหลียวหนิง | Anshan | Qianshan National Park | 2560 | |||
เหลียวหนิง | Panjin | Red Beach Scenic Area | 2562 | |||
จี๋หลิน | Changchun | Museum of the Imperial Palace of Manchukuo | 2550 | |||
จี๋หลิน | Baishan | Changbai Mountains | 2550 | |||
จี๋หลิน | ฉางชุน | Jingyuetan National Forest Park | 2554 | |||
จี๋หลิน | ฉางชุน | Changchun Movie Wonderland | 2558 | |||
จี๋หลิน | Dunhua | Mount Liuding | 2558 | |||
จี๋หลิน | ฉางชุน | Changchun World Sculpture Park | 2560 | |||
จี๋หลิน | Tonghua | Goguryeo Heritage Sites | 2562 | |||
เฮย์หลงเจียง | ฮาร์บิน | Sun Island | 2550 | หนึ่งในพื้นที่จัดแสดงหลักสำหรับประติมากรรมน้ำแข็ง ในช่วงเทศกาลประติมากรรมน้ำแข็งและหิมะนานาชาติฮาร์บิน | ||
เฮย์หลงเจียง | Heihe | Wudalianchi | 2554 | |||
เฮย์หลงเจียง | Mudanjiang | Jingpo Lake | 2554 | (ได้รับคำเตือนอย่างร้ายแรงจากกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว) | ||
เฮย์หลงเจียง | Yichun | Stone Forest Scenic Area | 2556 | ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ Tanwanghe | ||
เฮย์หลงเจียง | Mohe | Arctic Village | 2558 | |||
เฮย์หลงเจียง | Hulin | Hutou Scenic Area | 2562 | |||
เซี่ยงไฮ้ | เซี่ยงไฮ้ | หอไข่มุกตะวันออก | 2550 | |||
เซี่ยงไฮ้ | เซี่ยงไฮ้ | สวนสัตว์เปิดเซี่ยงไฮ้ | 2550 | |||
เซี่ยงไฮ้ | เซี่ยงไฮ้ | พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเซี่ยงไฮ้ | 2553 | |||
เจียงซู | หนานจิง | สุสานซุนยัดเซน | 2550 | อยู่ในเขาจื่อจิน (紫金山) | ||
เจียงซู | อู๋ซี | สตูดิโอโทรทัศน์และภาพยนตร์ CCTV | 2550 | |||
เจียงซู | ซูโจว | สวนโบราณแห่งซูโจว | 2550 | |||
เจียงซู | ซูโจว | โจวจวง | 周庄 | 2550 | อยู่ในคุนชาน | |
เจียงซู | อู๋ซี | พระใหญ่แห่งเขาหลิง | 2553 | |||
เจียงซู | หนานจิง | วัดขงจื้อหนานจิง และแม่น้ำฉินไหฺว | 2553 | |||
เจียงซู | หยางโจว | ทะเลสาบตะวันตกน้อย | 瘦西湖 | 2553 | ||
เจียงซู | ซูโจว | ถงหลี่ | 同里 | 2553 | ||
เจียงซู | ฉางโจว | จูราสิกพาร์คตะวันออก (Oriental Jurassic Park) | 2553 | |||
เจียงซู | เจียงย่าน | จุดชมวิวทะเลสาบฉิน | 溱湖 | 2555 | ||
เจียงซู | ซูโจว | ทะเลสาบจินจี | 2555 | อยู่ในสวนอุตสาหกรรมซูโจว | ||
เจียงซู | หนานทง | Hao River | 2553 | |||
เจียงซู | Zhenjiang | Three Mountains of Zhenjiang (Jinshan, Jiaoshan and Beigushan) | 2555 | |||
เจียงซู | อู๋ซี | หยวนโถวจู่
(แหลมหัวเต่า) |
鼋头渚 | 2555 | ||
เจียงซู | ซูโจว | ทะเลสาบไท่ | 太湖 | 2555 | ||
เจียงซู | ฉางโจว | ทะเลสาบเทียนมู่ | 天目湖 | 2556 | ||
เจียงซู | ซูโจว | ชาเจียปัง และเขาหยู | 沙家浜镇, 虞山 | 2556 | ชาเจียปัง และเขาหยู อยู่ในเมืองฉางสู | |
เจียงซู | เจิ้นเจียง | เขาเหมา | 2557 | |||
เจียงซู | ไหฺวอาน | บ้านเก่าโจวเอินไหล | 2558 | |||
เจียงซู | หยานเฉิง | เขตอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งชาติกวางเอลค์ต้าเฟิง | 江苏大丰麋鹿国家级自然保护区 | 2558 | ||
เจียงซู | สูโจว | ทะเลสาบหยฺวินหลง | 云龙湖 | 2559 | ||
เจียงซู | เหลียนหยฺวินกั่ง | เขาฮฺวากั่ว | 花果山 | 2559 | ||
เจียงซู | ฉางโจว | ซากเมืองโบราณหยานเฉิง | 淹城遗址 | 2560 | ||
เจียงซู | อู๋ซี | Hui Shan Ancient Town | 2562 | |||
เจ้อเจียง | หางโจว | ทะเลสาบตะวันตก | 西湖 | 2550 | ||
เจ้อเจียง | เวินโจว | เขาเยี่ยนตั้ง | 2550 | |||
เจ้อเจียง | โจวซาน | เขาผู่ถัว | 2550 | |||
เจ้อเจียง | หางโจว | ทะเลสาบเชียนเต่า (ทะเลสาบพันเกาะ) | 2553 | |||
เจ้อเจียง | หนิงโป | ซีโข่ว-เถิงโถว
(Xikou-Tengtou scenic spot) |
溪口 | 2553 | อยู่ในเฟิ่งหฺวา | |
เจ้อเจียง | เจียซิง | อูเจิ้น | 2553 | |||
เจ้อเจียง | จินหฺวา | สตูดิโอเหิงเตี้ยน | 横店影视城 | 2553 | อยู่ในตงหยาง | |
เจ้อเจียง | เจียซิง | หนานหู (ทะเลสาบใต้) | 南湖 | 2554 | ||
เจ้อเจียง | หางโจว | อุทยานพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งชาติซีซี | 西溪国家湿地公园 | 2555 | ||
เจ้อเจียง | เช่าซิง | บ้านเกิดของหลู่ซุ่น | 鲁迅故里 | 2555 | เป็นบ้านในวัยเด็กและย่านใกล้เคียงของหลู่ ซุ่น (鲁迅; Lu Xun) ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเขียนวรรณกรรมจีนชั้นแนวหน้าในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตั้งอยู่ในเช่าซิง มณฑลเจ้อเจียง และได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นพิพิธภัณฑ์และพื้นที่การศึกษาวัฒนธรรม[49] | |
เจ้อเจียง | ฉูโจว | Root Palace Buddhist Cultural Tourism Zone | 2556 | อยู่ในเทศมณฑลไคฮฺว่า | ||
เจ้อเจียง | หูโจว | Nanxun Old Town | 2558 | อยู่ในเขตหนานสุน | ||
เจ้อเจียง | ไทโจว | เขาเทียนไท
(ภูเขาเทียนไถ) |
天台山 | 2558 | ||
เจ้อเจียง | ไทโจว | Shenxianju | 2558 | อยู่ในXianju County | ||
เจ้อเจียง | เจียซิง | ซีถาง | 西塘 | 2560 | ||
เจ้อเจียง | ฉูโจว | Mount Jianglang and Nianbadu | 2560 | |||
เจ้อเจียง | หนิงโป | เทียนอีเก๋อ และทะเลสาบพระจันทร์ | 2561 | |||
เจ้อเจียง | หลีสุ่ย | Xiandu | 2562 | อยู่ในJinyun County | ||
อานฮุย | หวงชาน | Huangshan ("Mount Huangshan Scenic Area") |
2550 | |||
อานฮุย | Chizhou | Mount Jiuhua | 2550 | |||
อานฮุย | Anqing | Mount Tianzhu | 2554 | |||
อานฮุย | หวงชาน | Xidi and Hongcun | 2554 | |||
อานฮุย | Lu'an | Tiantangzhai | 2555 | |||
อานฮุย | Xuancheng | Longchuan | 2555 | |||
อานฮุย | Fuyang | Bali River | 2556 | |||
อานฮุย | หวงชาน | Huizhou Cultural Area | 2557 | |||
อานฮุย | เหอเฝย์ | Sanhe Ancient Town | 2558 | |||
อานฮุย | Wuhu | Fantawild Adventure Wuhu | 2559 | |||
อานฮุย | Lu'an | Wanfo Lake | 2559 | |||
ฝูเจี้ยน | เซี่ยเหมิน | Gulangyu | 2550 | |||
ฝูเจี้ยน | Nanping | Wuyi Mountains ("Mount Wuyi") |
2550 | (ได้รับคำเตือนอย่างร้ายแรงจากกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว) | ||
ฝูเจี้ยน | Zhangzhou Longyan |
Fujian Tulou | 2554 | (ได้รับคำเตือนอย่างร้ายแรงจากกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว) | ||
ฝูเจี้ยน | Sanming | Taining | 2554 | |||
ฝูเจี้ยน | หนิงเต๋อ | Baishuiyang | 2555 | |||
ฝูเจี้ยน | ฉวนโจว | Mount Qingyuan | 2555 | |||
ฝูเจี้ยน | หนิงเต๋อ | เขาไท่หมู่ | 太姥山 | 2556 | ||
ฝูเจี้ยน | ฝูโจว | Sanfang Qixiang | 2558 | |||
ฝูเจี้ยน | Longyan | Gutian | 2558 | |||
เจียงซี | Jiujiang | เขาหลู | 2550 | |||
เจียงซี | จี๋อาน | เทือกเขาจิ่งกัง | 井冈山 | 2550 | ||
เจียงซี | ช่างเหรา | เขาซานชิง | 三清山 | 2554 | ||
เจียงซี | ยิงถาน | เขาหลงหู่
(เขามังกรเสือ) |
龙虎山 | 2555 | ||
เจียงซี | ช่างเหรา | Jiangwan Village | 2556 | อยู่ในWuyuan County. | ||
เจียงซี | จิ่งเต๋อเจิ้น | Ancient Kiln Folk Customs Museum | 2556 | |||
เจียงซี | อี๋ชุน | Mingyue Mountain | 2558 | |||
เจียงซี | รุ่ยจิน | แหล่งกำเนิดของสาธารณรัฐประชาชนจีน (Cradle of the People's Republic of China) | 2558 | |||
เจียงซี | ฝู่โจว | Mount Dajue | 2560 | |||
เจียงซี | ช่างเหรา | Guifeng Peak | 2560 | |||
เจียงซี | หนานชาง | หอเถิงหวัง | 滕王阁 | 2561 | ||
เจียงซี | Pingxiang | เทือกเขาอู่กง | 武功山 | 2562 | ||
ชานตง | Yantai | หอเผิงไหล | 蓬莱阁 | 2550 | ||
ชานตง | Jining | Temple and Cemetery of Confucius and the Kong Family Mansion in Qufu | 2550 | |||
ชานตง | ไท่อาน | เขาไท่ | 泰山 | 2550 | ||
ชานตง | ชิงเต่า | เขาเหลา
(เหลาชาน) |
崂山 | 2554 | ||
ชานตง | Yantai | Mount Nanshan | 2554 | |||
ชานตง | Weihai | Liugong Island | 2554 | |||
ชานตง | Zaozhuang | Taierzhuang Ancient Town | 2556 | อยู่ในTai'erzhuang District. | ||
ชานตง | จี่หนาน | Baotu Spring | 2556 | |||
ชานตง | Linyi | Yimeng Mountain | 2557 | อยู่ในYishui County. | ||
ชานตง | Weifang | Qingzhou Ancient Town | 2560 | |||
ชานตง | Weihai | Huaxiacheng | 2560 | |||
ชานตง | Dongying | Huanghekou | 2562 | |||
เหอหนาน | Dengfeng | Mount Song and Shaolin Monastery | 2550 | |||
เหอหนาน | ลั่วหยาง | Longmen Grottoes | 2550 | |||
เหอหนาน | Jiaozuo | Yuntai Mountain | 2550 | |||
เหอหนาน | ไคเฟิง | สวนภาพริมแม่น้ำในช่วงเทศกาลเชงเม้ง | 2554 | สวนสนุกวัฒนธรรมที่จำลองภาพวาด "ริมแม่น้ำในช่วงเทศกาลเชงเม้ง" (清明上河图; Along the River During the Qingming Festival) | ||
เหอหนาน | ลั่วหยาง | Baiyun Mountain | 2554 | |||
เหอหนาน | Anyang | Yinxu | 2554 | แหล่งโบราณคดีค้นพบกระดูกมังกร (กระดูกสะบักวัวขนาดใหญ่) และกระดูกจารึก ซึ่งระบุว่าเป็นหลักฐานอักษรจีนที่เก่าที่สุดที่รู้จักกัน | ||
เหอหนาน | Pingdingshan | เขาเหยา, พระพุทธปฏิมาจงหยวน | 尧山, 中原大佛 | 2554 | ||
เหอหนาน | ลั่วหยาง | เขาเหล่าจุน, ถ้ำจีกฺวาน | 老君山, 鸡冠洞 | 2555 | ||
เหอหนาน | ลั่วหยาง | หลงถานแกรนด์แคนยอน | 洛阳龙潭大峡谷 | 2556 | ||
เหอหนาน | Nanyang | Laojieling and Xixia Dinosaur Relics Park | 2557 | |||
เหอหนาน | Zhumadian | Mount Chaya | 2558 | |||
เหอหนาน | Anyang | Red Flag Canal and Taihangshan Gorge | 2559 | |||
เหอหนาน | Yongcheng | เขาหมางตั้ง | 芒砀山 | 2560 | ||
เหอหนาน | ซินเซียง | ปาหลี่โกว | 八里沟 | 2562 | ||
หูเป่ย์ | อู่ฮั่น | เจดีย์กระเรียนเหลือง
(เจดีย์หวงเห้อ) |
黄鹤楼 | 2550 | ||
หูเป่ย์ | อี๋ชาง | เขื่อนซานเสียต้าป้า | 长江三峡大坝 | 2550 | เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (พ.ศ. 2550) ของประเทศจีน ลักษณะของเขื่อนเป็นแบบเขื่อนคอนกรีตถ่วงน้ำหนัก (Concrete gravity dam) กั้นขวางแม่น้ำแยงซี เขื่อนซานเสียต้าป้า เป็นเขื่อนแรกของจีนที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อเต็มในภาษาอังกฤษของโครงการก่อสร้างเขื่อนนี้ คือ “Three Gorges multipurpose water control project” มีประวัติการก่อสร้างยาวนาน ตั้งแต่สมัย ดร.ซุน ยัตเซ็น ในปี พ.ศ. 2462 และเริ่มศึกษาโครงการฯ เมื่อปี พ.ศ. 2473 สภาประชาชน ลงมติให้ก่อสร้างได้ในปี พ.ศ. 2535 ในสมัยรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีหลี่เผิง มีผู้อพยพจากน้ำท่วมบริเวณโดยรอบมีถึงประมาณ 1.35 ล้านคน[50] | |
หูเป่ย์ | Shiyan | ทิวเขาอู่ตัง
(ทิวเขาบู๊ตึ๊ง) |
2554 | ป็นทิวเขาที่ตั้งอยู่ในมณฑลหูเป่ย์ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความสำคัญของลัทธิเต๋า ที่เล่าสืบมาว่า ปรมาจารย์เจินอู่ หรือเทพเจ้าเสวียนอู่ (玄武) ได้บำเพ็ญตบะบนยอดเขาแห่งนี้[51] ทิวเขาอู่ตังเป็นสถานที่ที่รวมสิ่งก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมจีนหลายยุคหลายสมัยเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ราชวงศ์ถัง ราชวงศ์ซ่ง ราชวงศ์หยวน เรื่อยมากระทั่งราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง รวมกันนับได้กว่าพันปี | ||
หูเป่ย์ | อี๋ชาง | Three Gorges Tribes Scenic Area | 2554 | |||
หูเป่ย์ | เอินซือ | ห้วยเสินหนง | 神农溪 | 2554 | ||
หูเป่ย์ | เสินหนงเจี้ย | เขตอนุรักษ์ธรรมชาติเสินหนงเจี้ย | 2555 | |||
หูเป่ย์ | อี๋ชาง | แม่น้ำชิง | 清江 | 2556 | ||
หูเป่ย์ | อู่ฮั่น | ทะเลสาบตะวัันออก
(ตงหู) |
东湖 | 2556 | ||
หูเป่ย์ | อู่ฮั่น | Huangpi Mulan Scenic Area | 2557 | |||
หูเป่ย์ | เอินซือ | เอินซือแกรนด์แคนยอน | 恩施大峡谷 | 2558 | ||
หูเป่ย์ | เสียนหนิง | ชื่อปี่ | 2561 | |||
หูเป่ย์ | เซียงหยาง | หลงจง | 隆中 | 2562 | ||
หูหนาน | เหิงหยาง | เขาเหิง
(เหิงชาน) |
衡山 | 2550 | ||
หูหนาน | จางเจียเจี้ย | Wulingyuan and Tianmen Mountain | 2550 | |||
หูหนาน | เยว่หยาง | Yueyang Tower and Junshan Island | 2554 | |||
หูหนาน | Xiangtan | เขาเฉา
(เฉาชาน) |
韶山 | 2554 | ||
หูหนาน | ฉางชา | Yuelu Mountain and Orange Isle | 2555 | |||
หูหนาน | ฉางชา | Huaminglou Town | 2557 | |||
หูหนาน | Chenzhou | Dongjiang Lake | 2558 | |||
หูหนาน | Shaoyang | Mount Langshan | 2559 | |||
หูหนาน | Zhuzhou | Yandi Mausoleum | 2562 | |||
กวางตุ้ง | กว่างโจว | Chimelong Tourist Resort | 2550 | |||
กวางตุ้ง | เชินเจิ้น | OCT | 2550 | |||
กวางตุ้ง | เชินเจิ้น | Mission Hills Resort | 2554 | |||
กวางตุ้ง | เหมย์โจว | Yannanfei Tea Fields | 2554 | |||
กวางตุ้ง | กว่างโจว | Baiyun Mountain | 2554 | |||
กวางตุ้ง | ชิงหยวน | Lianzhou Underground River | 2554 | |||
กวางตุ้ง | เฉากฺวาน | Mount Danxia | 2555 | |||
กวางตุ้ง | โฝซาน | Mount Xiqiao | 2556 | |||
กวางตุ้ง | โฝซาน | Changlu Park | 2557 | |||
กวางตุ้ง | ฮุ่ยโจว | Mount Luofu | 2557 | |||
กวางตุ้ง | จั้นเจียง | Dajiao Bay Maritime Silk Road Park | 2558 | |||
กวางตุ้ง | จงชาน | Former Residence of Sun Yat-sen | 2559 | อยู่ในCuiheng Village, Nanlang Town | ||
กวางตุ้ง | ฮุ่ยโจว | Huizhou West Lake | 2561 | |||
กวางตุ้ง | เจ้าชิ่ง | Xinghu | 2562 | |||
กว่างซี | กุ้ยหลิน | Li River | 2550 | |||
กว่างซี | กุ้ยหลิน | Merryland World | 2550 | |||
กว่างซี | กุ้ยหลิน | Jingjiang Princes' Palace | 2555 | |||
กว่างซี | หนานหนิง | Mount Qingxiu | 2557 | |||
กว่างซี | กุ้ยหลิน | Two Rivers and Four Lakes Scenic Area | 2560 | |||
กว่างซี | ฉงจั่ว | น้ำตกเต๋อเทียน-น้ำตกตักถิ่นบั๋นจ๊ก | 2561 | |||
กว่างซี | ไป่เซ่อ | Memorial Park of Baise Uprising | 2562 | |||
ไหหลำ | ซานย่า | วัดหนานชาน | 2550 | |||
ไหหลำ | ซานย่า | Nanshan Daxiaodongtian | 2550 | |||
ไหหลำ | เทศมณฑลปกครองตนเองชนชาติหลี่และเหมี่ยว เป่าถิง | Yanoda Rainforest | 2555 | |||
ไหหลำ | Lingshui | Boundary Island | 2556 | |||
ไหหลำ | Baoting | Binglang Canyon Scenic Area | 2558 | |||
ไหหลำ | ซานย่า | Wuzhizhou Island | 2559 | |||
ฉงชิ่ง | ฉงชิ่ง | งานแกะสลักหินแห่งต้าจู๋ | 大足石刻 | 2550 | เป็นแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในเขตนครฉงชิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเด่นในความงดงามของงานแกะสลักทั้งทางพุทธศาสนา ลัทธิขงจื๊อ ลัทธิเต๋า และชีวิตผู้คนบนผาแคบ ๆ ที่เริ่มแกะสลักเรื่อยมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 14 จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 | |
ฉงชิ่ง | ฉงชิ่ง | Small Three Gorges | 2550 | |||
ฉงชิ่ง | ฉงชิ่ง | Wulong Karst | 2554 | |||
ฉงชิ่ง | ฉงชิ่ง | Youyang Taohuayuan Scenic Area | 2555 | |||
ฉงชิ่ง | ฉงชิ่ง | Black Valley Scenic Area | 2555 | |||
ฉงชิ่ง | ฉงชิ่ง | เขาพระทอง
(เขาจินโฝ) |
2556 | เขาจินโฝเป็นภูเขาที่โดดเดี่ยว มีหน้าผาสูงถึง 300 ม. ล้อมรอบยอดเขาที่ค่อนข้างราบเรียบ ล้อมรอบด้วยป่าไม้ ด้วยคุณสมบัติของหินปูนที่โดดเด่นและความหลากหลายทางชีวภาพที่ยอดเยี่ยม เขาจินโฝได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเบื้องต้นตั้งแต่ปี 2544 | ||
ฉงชิ่ง | ฉงชิ่ง | ภูเขาสี่หน้า
(ภูเขาซื่อเมี่ยน) |
2558 | |||
ฉงชิ่ง | ฉงชิ่ง | Longgang Geological Park | 2560 | อุทยานธรณีวิทยาหลงกังมีลักษณะภูมิประเทศที่แปลกประหลาด เช่น หินปูน ถ้ำหินปูนลึก ทุ่งหญ้า และหินงอกหินย้อย และสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก | ||
ฉงชิ่ง | ฉงชิ่ง | Ayi River | 2562 | |||
เสฉวน | เฉิงตู | เขาชิงเฉิง และระบบชลประทานตูเจียงย่าน | 青城山 | 2550 | การก่อสร้างระบบชลประทานตูเจียงเอี้ยนเริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล ระบบนี้ยังคงควบคุมน่านน้ำของแม่น้ำหมินเจียงและกระจายไปยังพื้นที่เกษตรกรรมของที่ราบเฉิงตู เขาชิงเฉิงเป็นแหล่งกำเนิดของลัทธิเต๋า ซึ่งมีการเฉลิมฉลองในวัดโบราณหลายแห่ง[52] | |
เสฉวน | เล่อชาน | เขาเอ๋อเหมย์ | 峨眉山 | 2550 | วัดในพุทธศาสนาแห่งแรกในประเทศจีน สร้างขึ้นที่เขาเอ๋อเหมย์ในมณฑลเสฉวนในพุทธศตวรรษที่ 6 ในสภาพแวดล้อมที่สวยงามของยอดเขาเอ๋อเหม่ย์ เป็นหนึ่งในสี่ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาของจีน เนื่องจากเป็นสถานที่ที่พระสมันตภัทรโพธิสัตว์เคยสถิตอยู่ (ประกอบด้วยเขาอู่ไถ เขาจิ่วหัว เขาเอ๋อเหมย์ และเขาผู่ถัว) และอารามลัทธิเต๋าต่าง ๆ 151 แห่ง แต่ส่วนใหญ่ทรุดโทรม ยังคงเหลือที่เที่ยวชมได้ 20 แห่ง เขาเอ๋อเหมย์มียอดสูงถึง 3,099 เมตร[53] ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดหัวจ้วง และช่วงฤดูหนาวมีหิมะปกคลุม และยังเป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพของทั้งพรรณพืชและสัตว์ป่า[54][53] | |
เสฉวน | เขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตและเชียงอาป้า
(Ngawa) |
จิ่วไจ้โกว | 2550 | จิ่วไจ้โกวตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเทือกเขาหมินซาน ห่างจากเมืองเฉิงตูไปทางเหนือ 330 กิโลเมตร ถือเป็นส่วนหนึ่งของเทศมณฑล Nanping ในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตและเชียงอาป้า ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลเสฉวน ใกล้เขตแดนของมณฑลกานซู บริเวณหุบเขามีพื้นที่อย่างน้อย 240 ตารางกิโลเมตร ขณะที่องค์กรด้านการอนุรักษ์บางแห่งกำหนดให้มีพื้นที่ 600-700 ตารางกิโลเมตร โดยมีพื้นที่กันชนเพิ่มเข้ามา 400 - 600 ตารางกิโลเมตร ระดับความสูงจะแตกต่างไปตามแต่ละพื้นที่ โดยมีทั้งพื้นที่มีมีความสูง 1,998 - 2,140 เมตร (ที่ปากทางเข้าหุบเขาซูเจิ้ง) ไปจนถึง 4,558 - 4,764 เมตร เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีชื่อเสียงจากน้ำตกหลายระดับชั้นและทะเลสาบที่มีสีสันงดงาม และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2535 บริเวณนี้ยังมีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น แพนด้ายักษ์และทาคินเสฉวน[55] | ||
เสฉวน | เล่อชาน | พระพุทธรูปเล่อชาน | 2554 | เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก[54] ตั้งอยู่ในเขาเล่อ (เล่อชาน) เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกับภูเขาเอ๋อเหมย์เมื่อปี พ.ศ. 2539 สร้างเมื่อพุทธศตวรรษที่ 12 มีความสูงกว่า 70 เมตร[54] | ||
เสฉวน | เขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตและเชียงอาป้า
(Ngawa) |
หฺวางหลง | 2555 | ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเสฉวน หุบเขาหฺวางหลงประกอบด้วยยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะและอยู่ทางตะวันออกสุดของธารน้ำแข็งจีน นอกจากภูมิประเทศที่เป็นภูเขาแล้ว ยังมีระบบนิเวศของป่าไม้ที่หลากหลาย ตลอดจนการก่อตัวของหินปูน น้ำตก และน้ำพุร้อนที่สวยงาม บริเวณนี้ยังมีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น แพนด้ายักษ์และลิงจมูกเชิดสีทองเสฉวน[56] | ||
เสฉวน | กว่างอาน | บ้านเกิดของเติ้ง เสี่ยวผิง | 2556 | ที่พำนักเดิมของเติ้งเสี่ยวผิงสร้างขึ้นในปลายราชวงศ์ชิง (ศตวรรษที่ 19) อยู่ในหมู่บ้านไป่ฟาง เมืองเซี่ยซิง อำเภอกวงอัน เมืองกวงอัน มีพื้นที่อาคารประมาณ 833.4 ตร.ม. (8,971 ตารางฟุต) รวบรวมอาคารต่างๆ เช่น บ้านเก่า รูปปั้นเติ้งเสี่ยวผิง ลานเต๋อเจิ้ง หอนิทรรศการพระธาตุวัฒนธรรม ลานฮั่นหลิน | ||
เสฉวน | หนานชง | เมืองโบราณล่างจง | 2556 | ตั้งแต่ปี 2528 รัฐบาลจีนได้มอบรางวัลห้กับเมืองล่างจง สามครั้ง ในปี พ.ศ. 2529 สภาแห่งรัฐได้กำหนดให้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและประวัติศาสตร์ ในปีพ.ศ. 2534 ได้มีการอัปเกรดสถานะเมืองเป็นระดับเทศมณฑล | ||
เสฉวน | เหมียนหยาง | สถานท่องเที่ยวชนชาติเฉียง เป่ย์ชวน
(Beichuan Qiang City Tourist Area) |
2556 | อยู่ใน Beichuan Qiang Autonomous County พื้นที่ท่องเที่ยวประกอบด้วยซากปรักหักพังของสภาเทศมณฑลเป่ย์ชวนเก่า, สภาเทศมณฑลเป่ย์ชวนใหม่ และพิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหวเป่ย์ชวน เป็นต้น | ||
เสฉวน | เขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตและเชียงอาป้า
(Ngawa) |
สถานท่องเที่ยวพิเศษเวิ่นชฺวาน (สถานท่องเที่ยวรำลึกเหตุแผ่นดินไหวเวิ่นชฺวาน) | 2556 | เทศมณฑลเวิ่นชฺวาน (汶川县) เป็นเทศมณฑลใน Ngawa Tibetan และ Qiang Autonomous Prefecture ในมณฑลเสฉวน เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางของแผ่นดินไหวและเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากแผ่นดินไหวที่เสฉวน พ.ศ. 2551 หรือที่เรียกว่าแผ่นดินไหวเวิ่นชฺวาน | ||
เสฉวน | กว่างหยวน | จุดชมทัศนียภาพด่านเจี้ยนเหมิน | 剑门关 | 2558 | ด่านเจี้ยนเหมิน เป็นช่องเขาที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองกว่างหยวน ในมณฑลเสฉวน มันถูกเรียกว่า "ช่องด่านเจี้ยนเหมิน" ช่องเขานี้เป็นส่วนหนึ่งของถนนฉู่ (ถนนจ๊ก) การก่อสร้างด่านเกี่ยวข้องกับรัฐบุรุษและนักยุทธศาสตร์การทหารยุคสามก๊ก จูกัดเหลียง อัครมหาเสนาบดีแห่งรัฐฉู่ฮั่น (蜀漢)
|
|
เสฉวน | หนานชง | บ้านเก่าของจูเต๋อ | 2559 | ที่พำนักเดิมของจอมพลจูเต๋อ สร้างขึ้นในปลายราชวงศ์ชิงตอนปลาย ในหมู่บ้านหลินหลาง เมืองหม่าอัน เทศมณฑลอี้หลง มีพื้นที่อาคารประมาณ 2560 ตารางเมตร รวมอาคารต่างๆ เช่น บ้านเก่า หอรำลึกจูเต๋อ, รูปปั้นจูเต๋อ, หอนิทรรศการวัตถุทางวัฒนธรรม และสวน Lancao | ||
เสฉวน | กานจือ | อุทยานแห่งชาติธารน้ำแข็ง Hailuogou | 2560 | เป็นอุทยานแห่งชาติธารน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบต กานจือ ของมณฑลเสฉวน อยู่ทางทิศตะวันออกของเขาก้งก๋า (Miya Konka) ที่ขอบด้านตะวันออกของที่ราบสูงทิเบตตะวันออก ภายในอุทยานแห่งนี้มีธารน้ำแข็งแขวนอ ถ้ำน้ำแข็งนับร้อย น้ำตกน้ำแข็งขนาดยักษ์ และป่าที่เงียบสงบ Great Icefall มีความยาว 1,000 เมตรและกว้าง 1,100 เมตร ธารน้ำแข็งตั้งอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 2800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ความแตกต่างของพืชพรรณระหว่างแคมป์ฐานที่ Moxi และแคมป์ 4 ณ ตำแหน่งสูงสุดของอุทยาน[57] | ||
เสฉวน | หย่าอาน | ปึ้เฟิงเสีย | 碧峰峡 | 2562 | ||
กุ้ยโจว | อานชุน | น้ำตกหฺวังกั่วชู่ | 黄果树瀑布 | 2550 | ตั้งอยู่ห่างราว 45 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอันชุ่น ใกล้กับเมืองกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจว เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีความกว้าง 101 เมตร สูงถึง 77.8 เมตร ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกหฺวังกั่วชู่ ซึ่งเป็นกลุ่มน้ำตกขนาดใหญ่จำนวน 18 แห่ง นับเป็นกลุ่มน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย โดยมีน้ำตกหฺวังกั่วชู่เป็นหลัก[58] | |
กุ้ยโจว | อานชุน | Longgong National Park Scenic Area | 2550 | |||
กุ้ยโจว | ปี้เจี้ย | Baili Dujuan National Forest Park Scenic Area | 2556 | |||
กุ้ยโจว | เฉียนหนาน | Zhangjiang Scenic Area | 2558 | |||
กุ้ยโจว | กุ้ยหยาง | เมืองโบราณ Qingyan | 2560 | สร้างขึ้นในปี 1378 ในสมัยราชวงศ์หมิง ขาหมูของ Qingyan เป็นอาหารอันโอชะของท้องถิ่นที่พบในเมือง เท้าหมูเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี อยู่ในอำเภอหฺวาซี (花溪区) | ||
กุ้ยโจว | ถงเหริน | เขาฟ่านจิ้ง | 2561 | |||
กุ้ยโจว | เฉียนตงหนาน | เมืองเก่าเจิ้นหยวน | 2562 | |||
ยูนนาน | คุนหมิง | ป่าหิน | 2550 | |||
ยูนนาน | ลี่เจียง | ภูเขาหิมะมังกรหยก | 2550 | เทือกเขาขนาดเล็กที่อยู่ใกล้กับเมืองลี่เจียง ในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ยอดเขาที่สูงที่สุดมีชื่อว่า ช่านจึโต่ว (จีน: 扇子陡; พินอิน: Shànzi Dǒu) ทิวทัศน์ของเทือกเขาที่มองจากสวนที่สระมังกรดำในเมืองลี่เจียงนั้น กล่าวกันว่าเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของจีน | ||
ยูนนาน | ต้าหลี่ | เจดีย์สามองค์ | 2554 | |||
ยูนนาน | สิบสองปันนา | สวนพฤกษชาติเขตร้อนสิบสองปันนา | 中国科学院西双版纳热带植物园 | 2554 | ||
ยูนนาน | ลี่เจียง | เมืองเก่าลี่เจียง | 2554 | |||
ยูนนาน | ตี๋ชิ่ง | อุทยานแห่งชาติผู่ต้าชั่ว | 2555 | อยู่ในแชงกรี-ลา | ||
ยูนนาน | คุนหมิง | World Horti-Expo Garden | 2559 | |||
ยูนนาน | เป่าชาน | Tengchong Volcanic Scenic Area | 2559 | |||
ทิเบต | ลาซา | พระราชวังโปตาลา | 2556 | ทะไลลามะองค์ที่ 5 เริ่มก่อสร้างพระราชวังปาตาลาในปี พ.ศ. 2188 และเป็นที่ประทับขององค์ทะไลลามะ จนกระทั่งองค์ทะไลลามะองค์ที่ 14 หนีไปอินเดียระหว่างการจลาจลในทิเบตปี 2502 พระราชวังเป็นหมู่อาคาร 13 ชั้น ประกอบด้วยห้องพักกว่า 1,000 ห้อง ศาลเจ้า 10,000 แห่ง และรูปปั้นประมาณ 200,000 รูป ตัวพระราชวังสูง 117 เมตร ตั้งบนยอดมาร์โปรี "เนินแดง" ที่สูงรวมกว่า 300 เมตร (980 ขั้น) เหนือพื้นลานหุบเขาด้านหน้า | ||
ทิเบต | ลาซา | วัดโจคัง | 2556 | ตั้งอยู่ในจัตุรัสบาร์คฮอร์ในลาซา ส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของวัดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1195 โดยซงเซน กัมโป โดยทั่วไปแล้ว ชาวทิเบตถือว่าวัดนี้เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญที่สุดในทิเบต ปัจจุบันวัดได้รับการดูแลโดยโรงเรียน Gelug แต่รับผู้นับถือจากทุกนิกายของพุทธศาสนา | ||
ทิเบต | Nyingchi | อารามโซซงกองปา (Tsozong Gongba Monastery) | 2560 | อารามพุทธทิเบตขนาดเล็กก่อตั้งขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1400 ตามประเพณีญิงมา ตั้งอยู่บนเกาะ Tashi กลางทะเลสาบ Pagsum ในเทือกเขา Nyenchen Tanglha | ||
ทิเบต | Shigatse | อารามทาชิลุนโพ (Tashi Lhunpo Monastery) | 2560 | ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 1990 เป็นอารามที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซึ่งเป็นที่พำนักของปันเชนลามะตามประเพณี ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเมือง ชื่อเต็มของอารามในทิเบตหมายถึง "ที่รวมโชคลาภและความสุขทั้งหมด" | ||
ส่านซี | ซีอาน | สระหฺวาชิง | 华清池 | 2550 | ||
ส่านซี | หยานอัน | สุสานหวงตี้
(สุสานจักรพรรดิเหลือง) |
2550 | |||
ส่านซี | ซีอาน | สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้, กองทัพทหารดินเผา | 秦始皇陵 | 2550 | ||
ส่านซี | เว่ยหนาน | เขาฮฺว่า
(หัวซัว) |
2554 | |||
ส่านซี | ซีอาน | เจดีย์ต้าย่าน
(เจดีย์ห่านใหญ่) |
2554 | เป็นเจดีย์ที่ตั้งอยู่ในซีอานตอนใต้ มณฑลส่านซี ประเทศจีน สร้างขึ้นใน พ.ศ. 1195 ในสมัยราชวงศ์ถัง เดิมมี 5 ชั้น ต่อมาในรัชสมัยบูเช็กเทียน มีการสร้างขึ้นใหม่ใน พ.ศ. 1247 และในสมัยราชวงศ์หมิง มีการบูรณะด้านหน้าส่วนนอกที่เป็นอิฐ วัตถุประสงค์เพื่อไว้บรรจุพระสูตรกับพระพุทธรูปขนาดเล็กที่พระถังซัมจั๋งนำมาจากอินเดีย ปัจจุบันกำแพงส่วนในของเจดีย์มีรูปพระพุทธเจ้าที่ศิลปินหยัน ลี่เปิ่น สลักไว้ | ||
ส่านซี | เป่าจี | วัดฝ่าเหมิน | 法門寺 | 2557 | ||
ส่านซี | ชางหลัว | Golden Gorge Scenic Area | 2558 | |||
ส่านซี | เป่าจี | เขาไท่ไป๋ | 2559 | |||
ส่านซี | ซีอาน | ป้อมปราการแห่งซีอาน และ ป่าแผ่นศิลาจารึก | 2561 | |||
ส่านซี | หยานอัน | Yan'an Revolutionary Scenic Area | 2562 | |||
กานซู | ผิงเลี่ยง | เทือกเขาคงถง | 2550 | |||
กานซู | เจียยฺวี่กฺวัน | ด่านเจียยฺวี่ | 2550 | |||
กานซู | เทียนสุ่ย | ถ้ำม่ายจีชาน | 2554 | |||
กานซู | ตุนหฺวาง | ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว | 2558 | |||
กานซู | จางเย่ | Qicai Danxia | 2562 | |||
ชิงไห่ | ไห่เป่ย์ | ทะเลสาบชิงไห่ | 2554 | เป็นทะเลสาบน้ำเค็มใหญ่ที่สุดของประเทศจีน[59] อยู่ในมณฑลชิงไห่ สหประชาชาติจัดให้เป็น "พื้นที่ชุ่มน้ำแหล่งสำคัญของโลก" มีจุดเด่นคือมีน้ำจึงไหลเข้าอย่างเดียว พื้นที่ทั้งหมด 4,500 ตารางกิโลเมตร อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 3,196 เมตร มีความยาวจากตะวันออกถึงตะวันตก 106 กิโลเมตร และมีความกว้างจากใต้ถึงเหนือ 63 กิโลเมตร น้ำลึกโดยเฉลี่ย 19 เมตร และลึกที่สุด 39 เมตร โดยมีภูเขาโอบล้อมอยู่ทุกทิศทาง[60] | ||
ชิงไห่ | ซีหนิง | Kumbum Monastery | 2555 | |||
ชิงไห่ | ไห่ตง | Huzhu Homeland Park | 2560 | |||
หนิงเซี่ย | จงเว่ย | ชาโพโถว | 2550 | |||
หนิงเซี่ย | สือจุ่ยชาน | Shahu Lake Scenic Area | 2550 | |||
หนิงเซี่ย | หยินชฺวัน | Zhenbeibao West Film Art Center | 2554 | |||
หนิงเซี่ย | หยินชฺวัน | Shuidonggou | 2558 | |||
ซินเจียง | ชางจี๋ | Heavenly Lake of Tianshan ("Tianchi") |
2550 | |||
ซินเจียง | ถู่ลู่ฟาน | Grape Valley | 2550 | |||
ซินเจียง | อัลไต | ทะเลสาบคานาส ("สถานพักตากอากาศทะเลสาบคานาส") |
2550 | |||
ซินเจียง | อีลี่ | Nalati Grasslands | 2554 | |||
ซินเจียง | อัลไต | Koktokay | 2555 | |||
ซินเจียง | คัชการ์ | Jinhuyang Forest | 2556 | |||
ซินเจียง | บายินโกลิน | ทะเลเลสาบโบสทัง | 2557 | |||
ซินเจียง | อุรุมชี | เทียนชาน แกรนด์แคนยอน | 2557 | |||
ซินเจียง | คัชการ์ | เมืองเก่าคัชการ์ | 2558 | |||
ซินเจียง | อีลี่ | ทุ่งหญ้าคาลาจัน
Kalajun Grassland |
2559 | |||
ซินเจียง | บายินโกลิน | ทุ่งหญ้าบายานบูลัค | 巴音布鲁克 | 2559 | ||
ซินเจียง | Beitun | Baisha Lake | 2560 |
การปรับลดระดับ
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนพบว่ามีข้อบกพร่อง (สำนักงานนี้รวมเข้ากับกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีนในปี 2561) ถูกปรับลดระดับการรับรอง 5A เนื่องจากไม่สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่นักท่องเที่ยว[4] ในปี 2558 ช่องเขาซานไห่ Shanhai Pass ในเหอเป่ย์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกที่ถูกลดระดับจาก 5A และในปี 2559 โดยมีการถอด Orange Isle ในหูหนานและช่องเขา Shenlong Gorge ในฉงชิ่ง เนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย ราคาสูงเกินไป การจัดการสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี และการบำรุงรักษาสถานที่ไม่ดี ตลอดจนบริการที่ไม่ดีซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการขาดพนักงาน[4]
มณฑล | เมือง/เขต | ชื่อสถานที่ | ชื่อภาษาจีน | ปีที่ได้รับการจัดระดับ | ปีที่ได้รับการลดระดับ | รายละเอียด | ภาพ |
---|---|---|---|---|---|---|---|
ฉงชิ่ง | เขตหนานชฺวัน | Shenlong Gorge | 2556 | 2559 | |||
ชานซี | เทศมณฑลฉี | คฤหาสน์ตระกูลเฉียว | 乔家大院 | 2557 | 2562[61] |
อ้างอิง
- ↑ 国家5A级景区查询. Central People's Government of the People's Republic of China.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 Tourism in China: Destination, Cultures and Communities. p. 25.
- ↑ "20 additional tourist attractions receive 5A-level classification". China Daily. February 20, 2017.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 Su, Zhou (August 4, 2016). "Scenic sites stripped of top rating after inspection". China Daily.
- ↑ 故宫到底有多少间房:最多时两万 现时八千七百多 (ภาษาจีน). Singtaonet. 27 September 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 July 2007.. (ในภาษาจีน)
- ↑ "Timeline of the Ming & Qing Palace Events: Yongle Reign", Digital Palace Museum, Beijing: Palace Museum, 23 March 2015.
- ↑ World Heritage List № 439: The Imperial Palace of the Ming and Qing Dynasties, Paris: International Council on Monuments and Sites, 29 Dec 1986.
- ↑ 8.0 8.1 "Temple of Heaven: An Imperial Sacrificial Altar in Beijing", World Heritage Center, Paris: United Nations Educational, Scientific, and Cultural Organization, สืบค้นเมื่อ 7 Nov 2017.
- ↑ 9.0 9.1 "A Brief Introduction", Official site, Beijing: Temple of Heaven Park, สืบค้นเมื่อ 7 Nov 2017.
- ↑ 10.0 10.1 10.2 "Summer Palace, an Imperial Garden in Beijing", World Heritage Center, Paris: United Nations Educational, Scientific, and Cultural Organization, สืบค้นเมื่อ 7 Nov 2017.
- ↑ Barmé, Geremie R. (Dec 2007), "Prince Gong's Folly", China Heritage Quarterly, vol. No. 12, Canberra: Australian National University.
- ↑ Bowlby, Chris (2 Feb 2015), "The Palace of Shame that Makes China Angry", BBC News, London: British Broadcasting Corporation.
- ↑ 13.0 13.1 "About the Tourism", Official site, Badaling: Badaling Scenic Area.
- ↑ "Badaling Great Wall", Beijing Attractions, Beijing: China Tour, สืบค้นเมื่อ 7 Nov 2017.
- ↑ 15.0 15.1 "History of Badaling Great Wall", Official site, Badaling: Badaling Scenic Area.
- ↑ 16.0 16.1 "The Thirteen Ming Tombs in Beijing", China.org, Beijing: China Internet Information Center, สืบค้นเมื่อ 7 Nov 2017.
- ↑ "Imperial Tombs of the Ming and Qing Dynasties", World Heritage Center, Paris: United Nations Educational, Scientific, and Cultural Organization, สืบค้นเมื่อ 7 Nov 2017.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อpgm
- ↑ Beijing 2008 Olympic Games: An Environmental Review, Nairobi: United Nations Environmental Program, 2007, p. 73, ISBN 9789280728880.
- ↑ 20.0 20.1 "Ancient Culture Street", Visit Our China, Guilin: Guilin Tianyuan International Travel Service, สืบค้นเมื่อ 8 Nov 2017.
- ↑ 21.0 21.1 "Guwenhua Jie", Advisor Travel, สืบค้นเมื่อ 8 Nov 2017.
- ↑ "Ancient Culture Street", Official site, Tianjin: Tianjin Open, 2017, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-11-18, สืบค้นเมื่อ 2017-11-08.
- ↑ 23.0 23.1 23.2 "72 Hours in Tianjin", China Like Never Before, New York: China National Tourist Office, 2017.
- ↑ 24.0 24.1 "The Great Wall at Shanhaiguan: First Pass under Heaven", China Highlights, Guilin: China Highlights, 5 Apr 2017.
- ↑ "Qinhuangdao", English Service, Beijing: China Radio International, 30 July 2008.
- ↑ "Shanhaiguan Pass", China.org, Beijing: China Internet Information Center, 25 July 2007.
- ↑ 27.0 27.1 Liu Qin (27 Apr 2017), "Water Scarcity Might Be Xiong'an's Undoing", Official site, London: China Dialogue.
- ↑ Chen, Stephen (23 Apr 2017), "The Polluted Lake at Heart of Xi Jinping's New City Dream", South China Morning Post, Hong Kong.
- ↑ "Baiyang Lake", China: Beyond Your Imagination, China National Tourism Administration, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 November 2017, สืบค้นเมื่อ 9 Nov 2017.
- ↑ Minter, Adam (11 May 2017), "China's Hidden Pollution", Bloomberg View, New York: Bloomberg.
- ↑ 31.0 31.1 31.2 "Mountain Resort and Its Outlying Temples, Chengde", World Heritage Center, Paris: United Nations Educational, Scientific, and Cultural Organization, สืบค้นเมื่อ 7 Nov 2017.
- ↑ "Chengde Mountain Resort", China: Beyond Your Imagination, China National Tourism Administration, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 November 2017, สืบค้นเมื่อ 9 Nov 2017.
- ↑ 33.0 33.1 "Introduction to Yesanpo Geoarea, Fangshan Global Geopark of China", Official site, Baoding: Yesanpo National Park, 2010, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-09-19.
- ↑ "Xibaipo", China: Beyond Your Imagination, China National Tourism Administration, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 November 2017, สืบค้นเมื่อ 9 Nov 2017.
- ↑ Pomeranz, Kenneth (22 July 2010), "Musings on a Museum: A Trip to Xibaipo", The China Beat.
- ↑ WHC Nomination Documentation 1004: Imperial Tombs of the Ming and Qing Dynasties (PDF), Beijing: State Administration of Cultural Heritage of the People's Republic of China, 2000, p. 49.
- ↑ WHC Nomination Documentation 1004: Imperial Tombs of the Ming and Qing Dynasties (PDF), Beijing: SACHPRC, 2000, p. 56.
- ↑ 38.0 38.1 WHC Nomination Documentation 1004: Imperial Tombs of the Ming and Qing Dynasties (PDF), Beijing: SACHPRC, 2000, p. 57.
- ↑ "Eastern Qing Tombs", China: Beyond Your Imagination, China National Tourism Administration, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 November 2017, สืบค้นเมื่อ 9 Nov 2017.
- ↑ 40.0 40.1 40.2 40.3 40.4 Introduction of Wahuang Palace, Handan: Wahuang Imperial Palace, สืบค้นเมื่อ 23 Feb 2014. (ในภาษาจีน) & (ในภาษาอังกฤษ)
- ↑ 41.0 41.1 《全国重点文物保护单位》, vol. I, Beijing: Wenwu Chubanshe, 2004, p. 214. (ในภาษาจีน)
- ↑ Official site, Handan: Nüwa Imperial Palace, 2013. (ในภาษาจีน)
- ↑ "Whitestone Mountain Scenice Area", China: Beyond Your Imagination, China National Tourism Administration, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 November 2017, สืบค้นเมื่อ 9 Nov 2017.
- ↑ "Mount Mian", Scenic Spots, Taiyuan: Shanxi Provincial Tourism Bureau, 2012, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-18, สืบค้นเมื่อ 2017-11-19.
- ↑ "Pingyao Ancient City", Scenic Spots, Taiyuan: Shanxi Provincial Tourism Bureau, 2012, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-18, สืบค้นเมื่อ 2017-11-19.
- ↑ "20 National Tourist Attractions Receive 5A-Level Classification", Official site, Changsha: Hunan Provincial People's Government, 20 Feb 2017.
- ↑ 47.0 47.1 "Manzhouli China-Russia Border Tourist Area". China Daily. December 12, 2017.
- ↑ "About Us", Arxan Tourism Official Website, Arxan: Inner Mongolia Greater Khingan Tourism Development Co..
- ↑ http://govt.chinadaily.com.cn/s/201812/19/WS5c19bcbe498ee2f0291e40aa/lu-xun-native-place-zhejiang-province.html
- ↑ ผู้อพยพจากเขตเขื่อนซันเสียของจีนจะมีจำนวนสูงขึ้นถึง 1.35 ล้านคน
- ↑ http://www.manager.co.th/china/ViewNews.aspx?newsID=4715344521403 หมู่ตึกโบราณบนเขาบู๊ตึ๊ง
- ↑ Centre, UNESCO World Heritage. "Mount Qingcheng and the Dujiangyan Irrigation System". UNESCO World Heritage Centre (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-08-22.
- ↑ 53.0 53.1 นายเฉินฉวน (2007-05-02). "เขาง้อไบ๊ (เอ๋อเหมยซาน)". โอเคเนชั่น.
- ↑ 54.0 54.1 54.2 Centre, UNESCO World Heritage. "Mount Emei Scenic Area, including Leshan Giant Buddha Scenic Area". UNESCO World Heritage Centre (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-08-22.
- ↑ Centre, UNESCO World Heritage. "Jiuzhaigou Valley Scenic and Historic Interest Area". UNESCO World Heritage Centre (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-08-22.
- ↑ Centre, UNESCO World Heritage. "Huanglong Scenic and Historic Interest Area". UNESCO World Heritage Centre (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-08-22.
- ↑ "Hailuogou Travel Guide - Transportation, Time to Go, Things to Do". www.sichuantravelguide.com. สืบค้นเมื่อ 2019-08-22.
- ↑ "สารคดี WORLD EXPERIENCE ATLAS ท่องโลก ส่องชีวิต ตอน 4". ช่อง 7. 2018-06-19.
- ↑ http://www.trippergang.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538867363&Ntype=2
- ↑ http://thai.cri.cn/221/2009/11/02/3s161584.htm
- ↑ "文化和旅游部公告". www.mct.gov.cn. สืบค้นเมื่อ 2019-08-23.