จักรพรรดิคังซี
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
จักรพรรดิคังซี (จีน: 康熙帝; พินอิน: Kāngxīdì; เวด-ไจลส์: K'ang-hsi-ti; มองโกเลีย: Enkh Amgalan Khaan) หรือพระนามเต็ม อ้ายซินเจฺว๋หลัวเสฺวียนเย่ (愛新覺羅玄燁 Àixīn-Juéluó Xuányè) เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์ชิง และเป็นจักรพรรดิราชวงศ์ชิงองค์ที่ 2 ที่ปกครองเหนือแผ่นดินจีน
คังซี | |||||
---|---|---|---|---|---|
Emperor Hétiān Hóngyùn Wénwǔ Ruìzhé Gōngjiǎn Kuānyù Xiàojìng Chéngxìn Zhōnghé Gōngdé Dàchéng Rén 合天弘運文武睿哲恭儉寬裕孝敬誠信中和功德大成仁皇帝[ ![]() จักรพรรดิคังซี | |||||
![]() | |||||
จักรพรรดิราชวงศ์ชิง | |||||
ครองราชย์ | 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1661 – 20 ธันวาคม ค.ศ. 1722 (61 ปี 318 วัน) | ||||
ก่อนหน้า | จักรพรรดิซุ่นจื้อ | ||||
ถัดไป | จักรพรรดิยงเจิ้ง | ||||
พระราชสมภพ | 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1654 | ||||
สวรรคต | 20 ธันวาคม ค.ศ. 1722 | (68 ปี)||||
จักรพรรดินี | จักรพรรดินีเซี่ยวเฉิงเหริน จักรพรรดินีเซี่ยวเจาเหริน จักรพรรดินีเซี่ยวอี้เหริน จักรพรรดินีเซี่ยวกงเหริน | ||||
พระราชบุตร | พระราชโอรส 24 พระองค์ พระราชธิดา 20 พระองค์ | ||||
| |||||
พระราชบิดา | จักรพรรดิชุ่นจื้อ | ||||
พระราชมารดา | จักรพรรดินีเซี่ยวคังจาง | ||||
ช่วงเวลา | ![]() | ||||
เหตุการณ์สำคัญ |
|

จักรพรรดิคังซีครองสิริราชสมบัติทั้งสิ้น 61 ปี (จากปี ค.ศ. 1661 ถึงปี ค.ศ. 1722) ทำให้พระองค์เป็นจักรพรรดิที่ครองสิริราชสมบัติยาวนานที่สุดใน ประวัติศาสตร์จีน (แม้ว่าพระราชนัดดาของพระองค์ จักรพรรดิเฉียนหลง จะมีพระราชอำนาจ โดยพฤตินัย ในช่วงสมัยที่ยาวนาน) และเป็นหนึ่งใน พระมหากษัตริย์ที่ครองสิริราชสมบัติยาวนานที่สุดในโลก[1] อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพระองค์เสด็จขึ้นครองบัลลังก์เมื่อพระชนมายุได้ 7 พรรษา อำนาจที่แท้จริงตลอดหกปีอยู่ที่ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ สี่คนและพระอัยยิกาของพระองค์ จักรพรรดินีเซี่ยวจฺวัง พระพันปีหลวง
จักรพรรดิคังซีถือเป็นหนึ่งในจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน[2] พระองค์ปราบกบฏสามเจ้าศักดินา โจมตีอาณาจักรทุงหนิงในไต้หวัน และกบฏมองโกลจำนวนมากในภาคเหนือและภาคตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อให้ยอมจำนนต่อการปกครองของต้าชิง และปิดกั้น อาณาจักรซาร์รัสเซีย ใน แม่น้ำอามูร์ และปกป้องแมนจูเรียภายนอก และแมนจูเรียตะวันตกเฉียงเหนือภายนอก
รัชสมัยของจักรพรรดิคังซีนำมาซึ่งเสถียรภาพอันยาวนานและความมั่งคั่งสัมพัทธ์หลังจากหลายปีของสงครามและความวุ่นวาย พระองค์เริ่มสมัยที่เรียกว่า ยุครุ่งเรืองของคังซีและเฉียนหลง[3] ซึ่งคงอยู่ต่อไปหลายชั่วอายุคนหลังจากที่พระองค์สวรรคต ราชสำนักของพระองค์ยังประสบความสำเร็จในด้านวรรณกรรมเช่นการรวบรวม พจนานุกรมคังซี
ต้นรัชสมัย แก้
จักรพรรดิคังซีประสูติเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1654 เป็นพระราชโอรสของ จักรพรรดิชุ่นจื้อ และ จักรพรรดินีเซี่ยวคังจาง ที่ พระตำหนักจิ่งเหริน พระราชวังต้องห้าม กรุงปักกิ่ง จักรพรรดิคังซีมีพระนามเดิมว่า เสฺวียนเย่ (จีน: 玄燁; พินอิน: Xuanye) พระองค์ขึ้นครองสิริราชสมบัติเมื่อพระชนมายุได้ 7 พรรษา (หรือ 8 ตามการคำนวณอายุแบบเอเชียตะวันออก) เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1661[a] ศักราช คังซี ของพระองค์เพิ่งจะเริ่มใช้เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1662 วันแรกของปีจันทรคติถัดมา
เฮอร์เบิร์ต ไจลส์ นักวิชาการจีนศึกษาพรรณนาถึงจักรพรรดิคังซีโดยอาศัยแหล่งข้อมูลร่วมสมัยว่า "ค่อนข้างสูงและสมส่วน พระองค์ชอบการออกกำลังกายแบบลูกผู้ชาย และอุทิศเวลาสามเดือนต่อปีในการออกล่า ดวงพระเนตรขนาดใหญ่เป็นประกายบนพระพักตร์ของพระองค์ ซึ่งมีไข้ทรพิษเป็นรูพรุน"[4]
ก่อนที่จักรพรรดิคังซีจะเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ จักรพรรดินีเซี่ยวจฺวัง พระพันปีหลวง (ในพระนามของ จักรพรรดิชุ่นจื้อ) ได้แต่งตั้งบุคคลผู้ทรงอำนาจคือ สั่วหนี เอ๋าไป้ ซูเค่อซาฮา และ เออปี้หลุน เป็น ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ สั่วหนีถึงแก่กรรมหลังจากที่หลานสาวของเขากลายเป็น จักรพรรดินีเซี่ยวเฉิงเหริน ทิ้งให้ซูเค่อซาฮากับเอ๋าไป้อยู่ในการเมือง ในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจอันดุเดือด เอ๋าไป้ประหารชีวิตซูเค่อซาฮาและยึดอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เพียงผู้เดียว
ในฤดูใบไม้ผลิ ปี ค.ศ. 1662 ผู้สำเร็จราชการมีคำสั่งให้กวาดล้างครั้งใหญ่ในภาคใต้ของจีนโดยการอพยพประชากรออกจากชายทะเลเพื่อตอบโต้ขบวนการต่อต้านที่เริ่มต้นโดยผู้ภักดีต่อราชวงศ์หมิงภายใต้การนำของขุนพลหมิงในไต้หวัน เจิ้ง เฉิงกง หรือ โคซิงกา
ในปี ค.ศ. 1669 จักรพรรดิคังซีได้จับกุมเอ๋าไป้ด้วยความช่วยเหลือจากพระอัยยิกาของพระองค์ จักรพรรดินีเซี่ยวจฺวัง พระพันปีหลวง ที่ได้เลี้ยงดูพระองค์[5] และเริ่มต้นปกครองจักรวรรดิด้วยพระองค์เอง พระองค์ระบุประเด็นที่น่ากังวลสามประเด็น การควบคุมอุทกภัยของ แม่น้ำหวง ซ่อมแซม คลองใหญ่ ปราบ กบฏสามเจ้าศักดินา ในจีนทางตอนใต้ พระอัยยิกามีอิทธิพลต่อพระองค์อย่างมากและพระองค์ดูแลพระนางด้วยพระองค์เองจนกระทั่งพระนางสวรรคตในปี ค.ศ. 1688[5]
ความสำเร็จทางทหาร แก้
กองทัพ แก้
กองทัพหลักของจักรวรรดิต้าชิง กองทัพ แปดกองธง เสื่อมถอยลงภายใต้จักรพรรดิคังซี โดยมีขนาดเล็กกว่าที่เคยอยู่ในจุดสูงสุดภายใต้จักรพรรดิ หฺวัง ไถจี๋ และช่วงต้นรัชสมัยของ จักรพรรดิชุ่นจื้อ อย่างไรก็ตามยังมีขนาดใหญ่กว่าในรัชสมัยของ จักรพรรดิยงเจิ้ง และ จักรพรรดิเฉียนหลง นอกจากนี้ กองธงเขียวยังคงทรงพลังด้วยขุนพลเช่น ตูไห่ เฟย์ หยางกู จาง หย่ง โจว เพ่ย์กง ชื่อ หลัง มู่ จาน ชุน ชื่อเก๋อ และ หวัง จิงเป่า
สาเหตุหลักของการเสื่อมถอยนี้คือการเปลี่ยนแปลงระบบระหว่างรัชสมัยของจักรพรรดิคังซีและจักรพรรดิเฉียนหลง จักรพรรดิคังซียังคงใช้ระบบทหารตามอย่างรัชกาลก่อน ซึ่งมีประสิทธิภาพและเข้มงวด ตามระบบ แม่ทัพที่กลับมาจากการสู้รบเพียงลำพัง (คนของเขาตายหมด) จะถูกประหารชีวิต เช่นเดียวกันสำหรับทหารราบ สิ่งนี้มีขึ้นเพื่อกระตุ้นทั้งแม่ทัพและทหารต้องต่อสู้อย่างกล้าหาญในสงครามเพราะไม่มีประโยชน์สำหรับผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในการต่อสู้
โดยรัชสมัยของจักรพรรดิเฉียนหลง ผู้บัญชาการทหารหละหลวม และการฝึกของกองทัพก็ถือว่ามีความสำคัญน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงจักรพรรดิรัชกาลก่อน
กบฏสามเจ้าศักดินา แก้
หลังจากต้าชิงเข้ายึดครองประเทศจีนในปี ค.ศ. 1644 พื้นที่ส่วนใหญ่ทางทิศใต้และทิศตะวันตกมอบให้เป็นศักดินาแก่ 3 ขุนพลหมิงที่ได้ช่วยเหลือราชวงศ์ชิง ในปี ค.ศ. 1673 ระบบศักดินาทั้งสามถูกควบคุมโดย อู๋ซานกุ้ย, เกิงจิ้งจง และ ซ่างจื่อซิน จักรพรรดิคังซีปฏิเสธคำแนะนำของที่ปรึกษาส่วนใหญ่ของพระองค์ จักรพรรดิคังซีพยายามบังคับเจ้าศักดินาให้สละที่ดินและเกษียณอายุใน แมนจูเรีย ก่อให้เกิดการกบฏที่กินเวลานานแปดปี หลายปีหลังจากนั้น จักรพรรดิคังซี ครุ่นคิดเกี่ยวกับความผิดพลาดของพระองค์และโทษตัวของพระองค์เองว่ามีส่วนทำให้มีการเสียชีวิตระหว่างการจลาจล[6]
พระบรมวงศานุวงศ์ แก้
- พระราชบิดา: จักรพรรดิชุ่นจื้อ
- พระราชมารดา: จักรพรรดินีเซี่ยวคังจาง
จักรพรรดินีและพระสนม แก้
พระรูป | พระนาม | สกุลเดิม |
---|---|---|
จักรพรรดินีเซี่ยวเฉิงเหริน (孝诚仁皇后) |
สกุลเฮ่อเซ่อหลี่ (赫舍里) | |
จักรพรรดินีเซี่ยวเจาเหริน (孝昭仁皇后) |
สกุลหนิ่วฮู่ลู่ (钮祜禄) | |
จักรพรรดินีเซี่ยวอี้เหริน (孝懿仁皇后) |
สกุลถงเจีย (佟佳) | |
จักรพรรดินีเซี่ยวกงเหริน (孝恭仁皇后) [พระอัครชายาเต๋อ (德妃)] |
สกุลอูหยา (呉雅) |
- พระมเหสี (皇贵妃) - หวงกุ้ยเฟย
- พระมเหสีเชวี้ยฮุ่ย (悫惠皇贵妃) จากสกุลถงเจีย (佟佳)
- พระมเหสีตุนอี๋ (惇怡皇贵妃) จากสกุลกัวเอ่อร์เจีย (瓜尔佳)
- พระมเหสีจิ้งหมิ่น (敬敏皇贵妃) จากสกุลจางเจีย (章佳)
- พระราชเทวี (贵妃) - กุ้ยเฟย
- พระราชเทวีเวินซี (温僖贵妃) จากสกุลหนิ่วฮู่ลู่ (钮祜禄)
- พระอัครชายา (妃) - เฟย
- พระอัครชายาซุ่นอี้มี่ (顺懿密妃) จากสกุลหวัง (王)
- พระอัครชายาฉุนอี้ฉิน (纯裕勤妃) จากสกุลเฉิน (陈)
- พระอัครชายาฮุ่ย (惠妃) จากสกุลน่าลา (那拉)
- พระอัครชายาอี้ (宜妃) จากสกุลกัวลั่วหลัว (郭络罗)
- พระอัครชายาหรง (荣妃) จากสกุลหม่าเจีย (马佳)
- พระอัครชายาติ้ง (定妃) จากสกุลว่านหลิวฮา (万琉哈)
- พระอัครชายาซวน (宣妃) จากสกุลโป๋เอ่อร์จี้จี๋เท่อ (博爾濟吉特)
- พระอัครชายาเฉิง (成妃) จากสกุลไต้เจีย (戴佳)
- พระอัครชายาเหลียง (良妃) จากสกุลเว่ย (卫)
- พระอัครชายาผิง (平妃) จากสกุลเฮ่อเซ่อหลี่ (赫舍里)
- พระอัครชายาฮุ่ย (慧妃) จากสกุลโป๋เอ่อร์จี้จี๋เท่อ (博爾濟吉特)
- พระชายา (嬪) - ผิน
- พระชายาอัน (安嬪) จากสกุลหลี่ (李)
- พระชายาจิ้ง (敬嬪) จากสกุลจางเจีย (章佳)
- พระชายาตวน (端嬪) จากสกุลต่ง (董)
- พระชายาซี (僖嬪) จากสกุลเหอเซ่อหลี่ (赫舍里)
- พระชายาทง (通嬪) จากสกุลหน่าลา (纳喇)
- พระชายาเซียง (襄嬪) จากสกุลเกา (高)
- พระชายาจิ่น (谨嬪) จากสกุลเซ่อเฮ่อถู (色赫图)
- พระชายาจิ้ง (静嬪) จากสกุลฉือ (石)
- พระชายาซี (熙嬪) จากสกุลเฉิน (陈)
- พระชายามู่ (穆嬪) จากสกุลเฉิน (陈)
- พระสนมขั้นกุ้ยเหริน (贵人)
- พระสนมกัว (郭贵人) จากสกุลกัวลั่วหลัว (郭络罗)
- พระสนมปู้ (布贵人) จากสกุลจ้าวเจีย (兆佳)
- พระสนมหยวน (袁贵人) จากสกุลหยวน (袁)
- พระสนมอี (伊贵人) จากสกุลอี้ (易)
- พระสนม จากสกุลเฉิน (陳)
- พระสนม จากสกุลหน่าลา (纳喇)
- พระสนม จากสกุลหน่าลา (纳喇)
- พระสนมซิน (新貴人)
- พระสนมหม่า (馬貴人)
- พระสนมอิ่น (尹貴人)
- พระสนมเลย (勒貴人)
- พระสนมเหวิน (文貴人)
- พระสนมหลาน (藍貴人)
- พระสนมฉาง (常貴人)
- พระสนมขั้นชู่เฟย (庶妃)
- พระสนม จากสกุลนิ่วฮู่ลู่ (钮祜禄)
- พระสนม จากสกุลจาง (张)
- พระสนม จากสกุลหวาง (王)
- พระสนม จากสกุลหลิว (刘)
- พระสนมขั้นฉางไจ้ (常在)
- พระสนมอิ่น (尹常在)
- พระสนมเซ่อ (色常在)
- พระสนมลู่ (路常在)
- พระสนมโช่ว (壽常在)
- พระสนมฉาง (常常在)
- พระสนมรุ่ย (瑞常在)
- พระสนมกุ้ย (貴常在)
- พระสนมสวี (徐常在)
- พระสนมฉือ (石常在)
- พระสนมขั้นตาอิ้ง (答应)
- พระสนมหลิง (靈答應)
- พระสนมชุน (春答應)
- พระสนมเสี่ยว (曉答應)
- พระสนมชิ่ง (慶答應)
- พระสนมซิ่ว (秀答應)
- พระสนมจื้อ (治答應)
- พระสนมเมี่ยว (妙答應)
- พระสนมจี๋ (即答應)
- พระสนมหนี่ (旎答應)
- พระสนมชู (菽答應)
- พระสนมฮ่าว (好答應)
พระราชโอรส แก้
ลำดับ | พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | พระมารดา | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|
องค์ชายเฉิงรุ่ย 承瑞 |
5 พฤศจิกายน 1667 | 10 กรกฎาคม 1670 | พระอัครชายาหรง สกุลหม่าเจีย | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ | |
องค์ชายเฉิงฮู่ 承祜 |
4 มกราคม 1669 | 3 มีนาคม 1672 | จักรพรรดินีเซี่ยวเฉิงเหริน สกุลเฮ่อเซ่อหลี่ | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ | |
องค์ชายเฉิงชิ่ง 承慶 |
21 มีนาคม 1670 | 26 พฤษภาคม 1671 | พระอัครชายาฮุ่ย สกุลโป๋เอ่อร์จี้จี๋เท่อ | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ | |
องค์ชายไซ่อินฉาฮุน 賽音察渾 |
24 มกราคม 1671 | 6 มีนาคม 1674 | พระอัครชายาหรง สกุลหม่าเจีย | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ | |
1 | องค์ชายอิ้นถี 胤禔 |
12 มีนาคม 1672 | 7 มกราคม 1735 | พระอัครชายาฮุ่ย สกุลน่าลา | สถาปนาเป็นจื้อจวิ้นหวัง ในปี 1698 ปลดจากพระอิสริยยศในปี 1708 |
องค์ชายฉางหัว 長華 |
11 พฤษภาคม 1674 | 12 พฤษภาคม 1674 | พระอัครชายาหรง สกุลหม่าเจีย | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ | |
2 | องค์ชายอิ้นเหริง 胤礽 |
6 มิถุนายน 1674 | 27 มกราคม 1725 | จักรพรรดินีเซี่ยวเฉิงเหริน สกุลเฮ่อเซ่อหลี่ | พระนามเดิม “องค์ชายป่าวเฉิง” (保成) สถาปนาเป็นมกุฎราชกุมาร (皇太子) เมื่อปี 1675 ปลดจากพระอิสริยยศในปี 1708 สถาปนาเป็นมกุฎราชกุมาร อีกครั้งในปี 1709 |
องค์ชายชางเซิง 長生 |
12 สิงหาคม1675 | 27 เมษายน 1677 | พระอัครชายาหรง สกุลหม่าเจีย | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ | |
องค์ชายหวั่นผู 萬黼 |
4 ธันวาคม 1675 | 11 มีนาคม 1679 | พระชายาทง สกุลหน่าลา | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ | |
3 | องค์ชายอิ้นจื่อ 胤祉 |
23 มีนาคม 1677 | 10 กรกฎาคม 1732 | พระอัครชายาหรง สกุลหม่าเจีย | สถาปนาเป็นเฉิงจวิ้นหวัง ในปี 1698 ลดพระอิสริยยศเป็นเป้ยเล่อ ในปี 1699 สถาปนาเป็นเฉิงชินหวัง ในปี 1709 ลดพระอิสริยยศเป็นเฉิงจวิ้นหวัง ในปี 1728 และสถาปนาเป็นจิ้งชินอ๋อง ในปี 1730 ถูกปลดจากพระอิสริยยศในปี 1730 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “หยิ่น” (隐) |
4 | องค์ชายอิ้นเจิน 胤禛 |
13 ธันวาคม 1678 | 8 ตุลาคม 1735 | จักรพรรดินีเซี่ยวกงเหริน สกุลอูหย่า | สถาปนาเป็นเป้ยเล่อ ในปี 1698 สถาปนาเป็นยงชินหวัง ในปี 1709 ขึ้นครองราชสมบัติเป็น จักรพรรดิยงเจิ้ง เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 1722 |
องค์ชายอิ้นจ้าน 胤禶 |
10 เมษายน 1679 | 30 เมษายน 1680 | พระชายาทง สกุลหน่าลา | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ | |
5 | องค์ชายอิ้นฉี 胤祺 |
5 มกราคม 1680 | 10 กรกฎาคม 1732 | พระอัครชายาอี้ สกุลกัวลั่วหลัว | สถาปนาเป็นเป้ยเล่อ ในปี 1698 สถาปนาเป็นเหิงชินหวัง ในปี 1698 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “เวิน” (溫) |
6 | องค์ชายอิ้นจั้ว 胤祚 |
5 มีนาคม 1680 | 15 มิถุนายน 1685 | จักรพรรดินีเซี่ยวกงเหริน สกุลอูหย่า | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ |
7 | องค์ชายอิ้นโย่ว 胤祐 |
19 สิงหาคม 1680 | 18 พฤษภาคม 1730 | พระอัครชายาเฉิง สกุลไต้เจีย | สถาปนาเป็นเป้ยเล่อ ในปี 1698 สถาปนาเป็นฉุนจวิ้นหวัง ในปี 1709 สถาปนาเป็นฉุนชินหวัง ในปี 1723 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “ตู้” (度) |
8 | องค์ชายอิ้นซื่อ 胤禩 |
29 มีนาคม 1681 | 5 ตุลาคม 1726 | พระอัครชายาเหลียง สกุลเว่ย | สถาปนาเป็นเป้ยเล่อ ในปี 1698 สถาปนาเป็นเหลียนชินหวัง ในปี 1723 ถูกปลดจากพระอิสริยยศในปี 1726 และถูกบังคับให้เปลี่ยนพระนามเป็น "อาฉีน่า" คืนพระอิสริยยศในปี 1778 |
องค์ชายอิ้นจุ่ย 胤䄔 |
13 กันยายน 1683 | 17 กรกฎาคม 1684 | พระสนมกัว สกุลกัวลั่วหลัว | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ | |
9 | องค์ชายอิ้นถัง 胤禟 |
17 ตุลาคม 1683 | 22 กันยายน 1726 | พระอัครชายาอี้ สกุลกัวลั่วหลัว | สถาปนาเป็นเป้ยจื่อ ในปี 1709 ถูกปลดจากพระอิสริยยศในปี 1726 และถูกบังคับให้เปลี่ยนพระนามเป็น "ไซซือเฮย" คืนพระอิสริยยศในปี 1778 |
10 | องค์ชายอิ้นเอ๋อ 胤䄉 |
28 พฤศจิกายน 1683 | 18 ตุลาคม 1741 | พระราชเทวีเวินซี สกุลหนิ่วฮู่ลู่ | สถาปนาเป็นตุนจวิ้นอ๋อง ในปี 1709 ถูกปลดลงเป็นฝู่กั๋วกงในปี 1724 |
11 | องค์ชายอิ้นจือ 胤禌 |
8 มิถุนายน 1685 | 22 สิงหาคม 1696 | พระอัครชายาอี้ สกุลกัวลั่วหลัว | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ |
12 | องค์ชายอิ้นเถา 胤祹 |
18 มกราคม 1686 | 2 กันยายน 1763 | พระอัครชายาติ้ง สกุลว่านหลิวฮา | สถาปนาเป็นเป้ยจื่อ ในปี 1709 สถาปนาเป็นลวี่จวิ้นอ๋อง ในปี 1722 สถาปนาเป็นลวี่ชินอ๋อง ในปี 1735 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “อี้” (懿) |
13 | องค์ชายอิ้นเสียง 胤祥 |
16 พฤศจิกายน 1686 | 18 มิถุนายน 1730 | พระมเหสีจิ้งหมิ่น สกุลจางเจีย | สถาปนาเป็นอี๋ชินอ๋อง ในปี 1722 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “เสียน” (賢) |
14 | องค์ชายอิ้นที 胤禵 |
16 มกราคม 1688 | 13 มกราคม 1756 | จักรพรรดินีเซี่ยวกงเหริน สกุลอูหย่า | สถาปนาเป็นเป้ยจื่อ ในปี 1709 สถาปนาเป็นสวินจวิ้นอ๋อง ในปี 1723 ลดพระอิสริยยศเป็นเป้ยจื่อ ในปี 1725 ถูกปลดจากพระอิสริยยศในปี 1726 สถาปนาเป็นเป้ยเล่อ ในปี 1747 สถาปนาเป็นสวินจวิ้นอ๋อง ในปี 1748 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “ฉิน” (勤) |
องค์ชายอิ้นจี้ 胤禨 |
23 กุมภาพันธ์ 1691 | 30 มีนาคม 1691 | พระอัครชายาผิง สกุลเฮ่อเซ่อหลี่ | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ | |
15 | องค์ชายอิ้นอู๋ 胤禑 |
24 ธันวาคม 1693 | 8 มีนาคม 1731 | พระอัครชายาซุ่นอี้มี่ สกุลหวัง | สถาปนาเป็นเป้ยเล่อ ในปี 1726 สถาปนาเป็นหยูจวิ้นอ๋อง ในปี 1730 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “เค่อ” (恪) |
16 | องค์ชายอิ้นลู่ 胤祿 |
28 กรกฎาคม 1695 | 20 มีนาคม 1767 | พระอัครชายาซุ่นอี้มี่ สกุลหวัง | สถาปนาเป็นจวงชินอ๋อง ในปี 1723 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “เค่อ” (恪) |
17 | องค์ชายอิ้นหลี่ 胤禮 |
24 มีนาคม 1697 | 21 มีนาคม 1738 | พระอัครชายาฉุนอี้ฉิน สกุลเฉิน | สถาปนาเป็นกั่วจวิ้นอ๋อง ในปี 1723 สถาปนาเป็นกั่วจวิ้นอ๋อง ในปี 1728 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “อี้” (毅) |
18 | องค์ชายอิ้นเซี่ย 胤祄 |
15 พฤษภาคม 1701 | 17 ตุลาคม 1708 | พระอัครชายาซุ่นอี้มี่ สกุลหวัง | สิ้นพระชนม์ที่สถานที่พักร้อนและหมู่วัดในเฉิงเต๋อ ด้วยพระโรคไข้ป่า |
19 | องค์ชายอิ้นจี๋ 胤禝 |
25 ตุลาคม 1702 | 28 มีนาคม 1704 | พระชายาเซียง สกุลเกา | สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ |
20 | องค์ชายอิ้นอี 胤禕 |
1 กันยายน 1706 | 30 มิถุนายน 1755 | พระชายาเซียง สกุลเกา | สถาปนาเป็นเป้ยเล่อ ในปี 1726 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “เจี่ยนจิ้ง” (簡靖) |
21 | องค์ชายอิ้นสี่ 胤禧 |
27 กุมภาพันธ์ 1711 | 26 มิถุนายน 1758 | พระชายาซี สกุลเฉิน | สถาปนาเป็นเป้ยจื่อ ในปี 1730 และสถาปนาเป็นเป้ยเล่อ ในปีเดียวกัน สถาปนาเป็นเชิ่นจวิ้นอ๋อง ในปี 1735 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “จิ้ง” (靖) |
22 | องค์ชายอิ้นหู 胤祜 |
10 มกราคม 1712 | 12 กุมภาพันธ์ 1744 | พระชายาจิ่น สกุลเซ่อเฮ่อถู | สถาปนาเป็นเป้ยเล่อ ในปี 1730 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “กงฉิน” (恭勤) |
23 | องค์ชายอิ้นฉี 胤祁 |
14 มกราคม 1714 | 31 สิงหาคม1785 | พระชายาจิ้ง สกุลฉือ | สถาปนาเป็นเป้ยเล่อ ในปี 1730 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “เฉิง” (誠) |
24 | องค์ชายอิ้นมี่ 胤祕 |
5 กรกฎาคม 1716 | 3 ธันวาคม 1773 | พระชายามู่ สกุลเฉิน | สถาปนาเป็นเสียนอ๋อง ในปี 1733 พระนามหลังสิ้นพระชนม์คือ “เค่อ” (恪) |
องค์ชายอิ้นย่วน 胤禐 |
2 มีนาคม 1718 | 2/3 มีนาคม 1718 | พระสนมขั้นกุ้ยเหริน สกุลเฉิน | สิ้นพระชนม์หลังจากประสูติ |
พระราชธิดา แก้
ลำดับ | พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | พระมารดา |
---|---|---|---|---|
1 | องค์หญิง (ไม่มีพระนาม) | 23 ธันวาคม 1668 | พฤศจิกายน 1671 | พระสนมขั้นชู่เฟย สกุลจาง |
2 | องค์หญิง (ไม่มีพระนาม) | 17 เมษายน 1671 | 8 มกราคม 1674 | พระชายาตวน สกุลต่ง |
3 | องค์หญิงกู้หลุนหรงเซียน 固倫榮憲公主 |
20 มิถุนายน 1673 | 29 พฤษภาคม 1728 | พระอัครชายาหรง สกุลหม่าเจีย |
4 | องค์หญิง (ไม่มีพระนาม) | 16 มีนาคม 1674 | 1678 | พระสนมขั้นชู่เฟย สกุลจาง |
5 | องค์หญิงเหอซั่วตวนจิ้ง 和碩端靜公主 |
9 มิถุนายน 1674 | เมษายน 1710 | พระสนมปู้ สกุลจ้าวเจีย |
6 | องค์หญิงกู้หลุนเค่อจิ้ง 固倫恪靖公主 |
4 กรกฎาคม1679 | 1735 | พระสนมกัว สกุลกัวลั่วหลัว |
7 | องค์หญิง (ไม่มีพระนาม) | 5 กรกฎาคม 1682 | กันยายน 1682 | จักรพรรดินีเซี่ยวกงเหริน |
8 | องค์หญิง (ไม่มีพระนาม) | 13 กรกฎาคม1683 | สิงหาคม 1683 | จักรพรรดินีเซี่ยวอี้เหริน |
9 | องค์หญิงกู้หลุนเวินเซี่ยง 固倫溫憲公主 |
10 พฤศจิกายน 1683 | กันยายน 1702 | จักรพรรดินีเซี่ยวกงเหริน |
10 | องค์หญิงกู้หลุนเฉวียนเฉวี่ย 固倫純愨公主 |
20 มีนาคม 1685 | 1710 | พระชายาทง สกุลหน่าลา |
11 | องค์หญิง (ไม่มีพระนาม) | 24 ตุลาคม 1685 | มิถุยน หรือ กรกฎาคม 1686 | พระราชเทวีเวินซี สกุลหนิ่วฮู่ลู่ |
12 | องค์หญิง (ไม่มีพระนาม) | 14 มิถุนายน 1686 | มีนาคม 1697 | จักรพรรดินีเซี่ยวกงเหริน |
13 | องค์หญิงเหอซั่วเวินเค่อ 和碩溫恪公主 |
1 มกราคม 1688 | สิงหาคม 1709 | พระมเหสีจิ้งหมิ่น สกุลจางเจีย |
14 | องค์หญิงเหอซั่วเฉว่จิ้ง 和碩愨靖公主 |
16 มกราคม 1690 | 1736 | พระสนมหยวน สกุลหยวน |
15 | องค์หญิงเหอซั่วตุนเค่อ 和碩敦恪公主 |
3 กุมภาพันธ์ 1691 | มกราคม 1710 | พระมเหสีจิ้งหมิ่น สกุลจางเจีย |
16 | องค์หญิง (ไม่มีพระนาม) | 27 พฤศจิกายน 1695 | พฤศิกายน 1707 | พระสนมขั้นชู่เฟย สกุลหวาง |
17 | องค์หญิง (ไม่มีพระนาม) | 12 มกราคม 1699 | ธันวาคม 1700 | พระสนมขั้นชู่เฟย สกุลหลิว |
18 | องค์หญิง (ไม่มีพระนาม) | 17 พฤศจิกายน1701 | ไม่ทราบปี | พระมเหสีตุนอี๋ สกุลกัวเอ่อร์เจีย |
19 | องค์หญิง (ไม่มีพระนาม) | 30 มีนาคม 1703 | lมีนาคม 1705 | พระชายาเซียง สกุลเกา |
20 | องค์หญิง (ไม่มีพระนาม) | 20 พฤศจิกายน 1708 | กุมภาพันธ์ 1709 | พระสนมขั้นชู่เฟย สกุลนิ่วฮู่ลู่ |
บุญธรรม | องค์หญิงกู้หลุนฉุนสี่ 固伦纯禧公主 |
1671 | 1741 | พระธิดาในองค์ชายฉางหนิง |
บรรณานุกรม แก้
- ↑ Note that Xuanye was born in May 1654, and was therefore less than seven years old at the time. Both Spence 2002 and Oxnam 1975 (p. 1) nonetheless claim that he was "seven years old." Dennerline 2002 (p. 119) and Rawski 1998 (p. 99) indicate that he was "not yet seven years old." Following East Asian age reckoning, Chinese documents concerning the succession say that Xuanye was eight sui (Oxnam 1975, p. 62 ).
อ้างอิง แก้
- ↑ "Emperor Kangxi - The Emperor Who Reigned for the Longest Period in Chinese History". Cultural China. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 March 2013. สืบค้นเมื่อ 21 March 2013.
- ↑ Magill, editor, Larissa Juliet Taylor ; editor, first edition, Frank N. (2006). Great lives from history. Pasadena, CA: Salem Press. ISBN 978-1-58765-222-6.
{{cite book}}
:|first=
มีชื่อเรียกทั่วไป (help) - ↑ Rowe (2009), p. 63.
- ↑ Giles 1912, p. 40.
- ↑ 5.0 5.1 Peterson, Bennet. Notable Women of China. p. 328.
- ↑ Spence, Jonathan D. (1974). Emperor of China: Self-portrait of Kʻang-hsi (Vintage books ed.). New York. pp. xvi–xvii, 36–38. ISBN 0-679-72074-X. OCLC 18931977.
ก่อนหน้า | จักรพรรดิคังซี | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
จักรพรรดิชุ้นจื้อ | จักรพรรดิจีน (พ.ศ. 2204 - พ.ศ. 2265) |
จักรพรรดิยงเจิ้ง |