ชนาธิป สรงกระสินธ์
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
สิบตำรวจตรี ชนาธิป สรงกระสินธ์ ชื่อเล่น เจ (เกิด 5 ตุลาคม พ.ศ. 2536) เป็นนักฟุตบอลชาวไทย ปัจจุบันเล่นให้กับบีจี ปทุม ยูไนเต็ดในไทยลีก และทีมชาติไทย
ข้อมูลส่วนตัว | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | ชนาธิป สรงกระสินธ์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
วันเกิด | 5 ตุลาคม พ.ศ. 2536 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
สถานที่เกิด | จังหวัดนครปฐม ประเทศไทย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
ส่วนสูง | 1.58 m (5 ft 2 in) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตำแหน่ง | กองกลางตัวรุก / ปีก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลสโมสร | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน | บีจี ปทุม ยูไนเต็ด | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
หมายเลข | 18 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
สโมสรเยาวชน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
2010–2011 | บีอีซี เทโรศาสน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | ||||||||||||||||||||||||||||||||
2012–2015 | บีอีซี เทโรศาสน | 104 | (13) | ||||||||||||||||||||||||||||||||
2016–2018 | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด | 60 | (6) | ||||||||||||||||||||||||||||||||
2017–2018 | → คอนซาโดเล ซัปโปะโระ (ยืมตัว) | 46 | (8) | ||||||||||||||||||||||||||||||||
2019–2021 | คอนซาโดเล ซัปโปะโระ | 69 | (6) | ||||||||||||||||||||||||||||||||
2022–2023 | คาวาซากิ ฟรอนตาเล | 18 | (0) | ||||||||||||||||||||||||||||||||
2023– | บีจี ปทุม ยูไนเต็ด | 14 | (4) | ||||||||||||||||||||||||||||||||
ทีมชาติ‡ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
2011–2012 | ไทย อายุไม่เกิน 19 ปี | 8 | (1) | ||||||||||||||||||||||||||||||||
2012–2016 | ไทย อายุไม่เกิน 23 ปี | 30 | (7) | ||||||||||||||||||||||||||||||||
2012– | ไทย | 68 | (14) | ||||||||||||||||||||||||||||||||
เกียรติประวัติ
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 10 มีนาคม 2024 ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2024 |
ชนาธิปเริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่วินเฟรด เชเฟอร์ เรียกตัวเข้าไปร่วมการแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ในฐานะตัวแทนทีมชาติไทยชุดใหญ่ ได้ตำแหน่งรองแชมป์ ก่อนที่สองปีต่อมาจะพาทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จในรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 และคว้าแชมป์อีกครั้งในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 โดยได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมจากทั้งสองครั้งดังกล่าว
ทั้งนี้ ชนาธิปยังเป็นกำลังสำคัญของผู้เล่นทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี คว้าเหรียญทองในการแข่งขัน ซีเกมส์ 2013 ที่พม่า และซีเกมส์ 2015 ที่สิงคโปร์ รวมถึงคว้าอันดับ 4 ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2014 ที่เกาหลีใต้
ด้วยการมีรูปร่างที่เล็กแต่มีทักษะฟุตบอลที่ดี มีความคล่องแคล่วปราดเปรียวมีความเข้าใจเกมสูง ชนาธิปจึงได้รับฉายาว่า เมสซิเจ ตามชื่อของลิโอเนล เมสซิ นักฟุตบอลแชมป์โลกชาวอาร์เจนตินา
ประวัติ
ชนาธิป สรงกระสินธ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2536 ที่ตลาดสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม[1] เป็นบุตรชายของนายก้องภพและนางพรสวรรค์ สรงกระสินธ์[2] โดยบิดาเป็นผู้สอนให้เล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุได้ 4 ขวบ และเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังในขณะศึกษาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร จากนั้นได้ย้ายมาศึกษาต่อในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่โรงเรียนเพ็ญสมิทธ์ จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6[3]
หลังจบชั้นประถมศึกษา ชนาธิปกลับไปจังหวัดนครปฐมเพื่อศึกษาต่อในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนสามพรานวิทยา ในช่วงนี้เขาได้เล่นฟุตบอลเดินสายกับทีม ซีแอล ไฮสปีด ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลเดินสายชื่อดังในจังหวัดนครปฐม ร่วมกับรัชพล นาวันโน ที่ภายหลังกลายเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยอีกคนหนึ่ง
หลังจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ชนาธิปได้ศึกษาต่อในสาขาวิชาการตลาดที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชย์การราชดำเนิน และเล่นฟุตบอลในระดับนักเรียนให้กับสถาบันไปด้วย โดยช่วยให้พาณิชย์การราชดำเนินคว้าแชมป์ฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษารุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ประเภท ก. ได้ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2554
ในอดีต ชนาธิป เคยศึกษาอยู่ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ในปี พ.ศ. 2558 เขาได้ทำเรื่องย้ายคณะเพื่อไปศึกษาต่อที่ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาบริหารจัดการการกีฬา โดยสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ในปี พ.ศ. 2566[4]
ชนาธิปรับราชการตำรวจโดยเข้ารับการฝึกอบรมที่ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธร ภาค7
ฟุตบอลสโมสร
บีอีซี เทโรศาสน
ฤดูกาล 2554
ในสมัยที่ชนาธิป ยังเล่นฟุตบอลระดับนักเรียน เขาเคยถูกทีโอทีปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาด้วยเพราะรูปร่างเล็กเกินไปไม่เหมาะจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ก่อนที่บีอีซี เทโรศาสนจะนำตัวเขามาร่วมทีมชุดเยาวชนของสโมสร โดยให้ค่าแรงเดือนละ 10,000 บาท
ชนาธิป อยู่ในทีมชุดเยาวชน U-19 ของสโมสรและสามารถพาทีมเยาวชนของสโมสรคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 ได้สำเร็จ โดยในนัดชิงชนะเลิศ วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ที่สนามศุภชลาศัย เขาสามารถพาสโมสรเอาชนะทีมเยาวชน U-19 ของบุรีรัมย์ พีอีเอ ไปได้ 5-2 และได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังจบเกม
ด้วยผลงานที่ดีในทีมเยาวชนของบีอีซี เทโรศาสน ทำให้ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 เขาถูกสมชาย ชวยบุญชุม โค้ชทีมชาติชุดเยาวชนในขณะนั้น เรียกติดทีมชาติไทยชุดเยาวชน 19 ปี แข่งขันในรอบคัดเลือกของฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ปี 2012 โดยทีมชาติไทยได้แชมป์กลุ่มและได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในรอบคัดเลือกนี้ชนาธิป ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงและยิงประตูให้ทีมชาติไทยชุดเยาวชนอายุ 19 ปีได้ 1 ลูก ในเกมส์ที่ถล่มเยาวชนทีมชาติกวมไปถึง 13-0 ที่สนามเทพหัสดิน
ฤดูกาล 2555
หลังจากสามารถคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 ชนาธิปก็ได้รับโอกาสจากแอนดรูว์ อ็อด กุนซือใหญ่ของทีมในขณะนั้นให้ติดทีมชุดใหญ่ ชนาธิปได้รับโอกาสลงเล่นให้กับต้นสังกัดเป็นครั้งแรกในนัดเปิดสนามของไทยพรีเมียร์ลีก 2555 วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555 ที่ทีมของเขาต้องออกไปเยือนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดที่สนามไอโมบาย โดยชนาธิปลงเล่นเป็นตัวจริงแต่ทีมของเขาแพ้ไป 2-1 และมายิงประตูแรกได้ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ในนัดที่บีอีซี เทโรศาสนออกไปเยือนการท่าเรือไทย ที่แพตสเตเดียม ซึ่งเขาถูกเปลี่ยนลงมาแทนจักรกริช บุญคำในครึ่งหลัง โดยในการแข่งขันนัดดังกล่าวเขาทำผลงานให้เป็นที่จดจำของแฟนบอลด้วยการถูกส่งลงมาในฐานะตัวสำรองแล้วยิงคนเดียว 2 ประตูโดยลูกที่ 2 เป็นการกระชากด้วยความเร็วกว่าครึ่งสนามก่อนจะล็อกหลบวัลลภ แซ่จิ๋ว นายประตูเจ้าบ้านแล้วค่อย ๆ เลี้ยงบอลผ่านเส้นประตูเข้าไปอย่างเหนือชั้น ทำให้สโมสรบุกมาชนะการท่าเรือถึงถิ่น 2-0
ด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่จากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม ทำให้ชนาธิป ยึดตำแหน่งภายในทีมได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ขึ้นมาจากทีมเยาวชน โดยในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เขาได้ลงสนามในรายการ โตโยต้า ลีกคัพ 2555 ในรอบ 32 ทีมสุดท้ายซึ่งเป็นการลงเล่นรายการนี้เป็นนัดแรกของเขา ในเกมส์นัดดังกล่าวทีมของเขาต้องออกไปเยือนลำพูน วอร์ริเออร์ที่แม่กวงสเตเดียม และเขาก็ช่วยให้ทีมชนะ 2-1 ต่อมาในวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เขายิงได้อีก 1 ประตูในเกมส์ไทยพรีเมียร์ลีกที่บีอีซี เทโรศาสน ต้องออกไปเยือนสงขลา ยูไนเต็ด ที่สนามติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา โดยเขายิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ทีมของเขาจะชนะเจ้าบ้านไป 2-1
วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ลงเล่นฟุตบอลชิงถ้วยไทยคม เอฟเอคัพ เป็นครั้งแรก โดยเป็นเกมส์รอบ 32 ทีมสุดท้าย ที่สโมสรต้องออกไปเยือนพัทยา ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬาเทศบาลหนองปรือ โดยเขาเป็นคนเปิดให้กิลเบิร์ต คุมสัน ยิงประตูชัยให้บีอีซี บุกมาชนะ 1-0 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย และต่อมาในเกมส์ไทยพรีเมียร์ลีกวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ระหว่างบีบีซียูกับบีอีซี เทโรศาสน ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ชนาธิป ยิงให้ทีมขึ้นนำ 2-1 ก่อนจะจบลงด้วยผลเสมอ 2-2
ชนาธิปได้ลงสนามในฤดูกาลนี้รวม 33 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 28 นัด, โตโยต้า ลีกคัพ 3 นัด, เอฟเอ คัพ 2 นัด) ยิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้ 4 ประตู และบีอีซี เทโรศาสนจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 จากผลงานและลีลาการเล่นในฤดูกาลนี้ทำให้ชนาธิป สรงกระสินธ์ได้เล่นให้ทีมชาติไทยชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ไปแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียรอบสุดท้ายที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากเคยเล่นในรอบคัดเลือกเมื่อปีที่แล้ว และติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012
ฤดูกาล 2556
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2556 ชนาธิป ถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 และได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแต่ทำได้เพียงแค่คว้าอันดับ 3 ร่วมกับทีมชาติเกาหลีเหนือ
ในฤดูกาลนี้สโมสรเปลี่ยนแปลงโค้ชเป็นสเตฟาเน่ เด โมล และชนาธิป เริ่มต้นฤดูกาล 2556 ในเกมส์ที่บีอีซี-เทโรศาสนบุกไปชนะราชบุรี 1-0 ที่สนามกีฬาจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม โดยเป็นตัวสำรองและถูกส่งลงมาแทนคลีตัน ซิลวา ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมส์
การยิงประตูแรกในฤดูกาลนี้ของเขาเกิดขึ้นในเกมส์ไทยพรีเมียร์ลีกที่เสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-1 ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมายิงตีเสมอให้กับทีม ซึ่งประตูที่เขายิงได้ในนัดนี้ถือเป็นประตูแรกที่เขายิงได้ต่อหน้าแฟนบอลที่สนามเหย้าของสโมสร
ต่อมาวันที่ 18 สิงหาคม เขายิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้อีก 1 ประตู โดยยิงให้บีอีซี เทโรศาสนตีเสมอบางกอกกล๊าส 1-1 ก่อนจะจบลงด้วยการบุกมาชนะ 3-2 ที่ลีโอสเตเดียม แต่ในช่วงท้ายเกมเขากลับถูกใบแดงไล่ออกจากสนามเพราะไปมีปัญหากับฟลาเวียง มิเชลินี่ และธีรเทพ วิโนทัย นักเตะของบางกอกกล๊าส โดยถือเป็นการได้ใบแดงครั้งแรกของเขาในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ
วันที่ 27 ตุลาคม เขายิงได้ 1 ประตูในเกมส์เปิดบ้านเสมอเมืองทอง ยูไนเต็ด 2-2 ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา
จบฤดูกาลชนาธิปลงสนาม 28 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 26 นัด, เอฟเอคัพ 1 นัด, ลีกคัพ 1 นัด) ยิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้ 3 ประตู พาบีอีซี เทโรศาสนต้นสังกัดคว้าอันดับ 6 ในลีก และเกียรติศักดิ์ เสนาเมืองได้เรียกติดฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี แข่งขันในกีฬาซีเกมส์ 2013 ที่ประเทศพม่าในเดือนธันวาคม
ฤดูกาล 2557
ในช่วงต้นฤดูกาล ชนาธิปต้องพลาดโอกาสในการลงสนามเนื่องจากได้รับบาดเจ็บกระดูกหน้าแข้งหักจากการลงเล่นให้ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในกีฬาซีเกมส์เมื่อปลายปีก่อน และมาได้ลงสนามนัดแรกในฤดูกาลนี้เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ในเกมที่เปิดบ้านเสมอกับเมืองทอง ยูไนเต็ด 1-1 โดยเป็นตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงมาเล่นในช่วง 20 นาทีสุดท้าย
วันที่ 22 มิถุนายน ชนาธิป ยิงประตูแรกในฤดูกาลนี้ และช่วยให้บีอีซี-เทโรศาสนเปิดบ้านเสมอกับเชียงราย ยูไนเต็ด 1-1 ในเกมส์ไทยพรีเมียร์ลีก และนัดต่อมา วันที่ 25 มิถุนายน เขายิงให้ทีมขึ้นนำ 1-0 และจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูได้อีก 1 ลูก ในเกมที่เอาชนะสมุทรสงคราม 2-0 ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา
ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของบีอีซี เทโรศาสน และในเกมส์ระหว่างบีอีซี เทโรศาสน เปิดบ้านพบอาร์มี่ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม เขายิงไกลเป็นประตูชัยให้บีอีซี ชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 2-0 โดยประตูดังกล่าวเป็นประตูที่ 10 ที่ชนาธิปยิงให้บีอีซี เทโรศาสนในไทยพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสร
เดือนกันยายน ชนาธิปถูกเกียรติศักดิ์ เสนาเมืองเรียกตัวติดทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ และพาทีมชาติคว้าอันดับ 4 มาครอง
หลังจากกลับมาจากเอเชียนเกมส์ ชนาธิป ลงสนามให้บีอีซี เทโรศาสน ในเกมส์โตโยต้าลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557 และช่วยให้ทีมชนะบุรีรัมย์ไปได้ 2-0 และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ โดยเป็นแชมป์รายการแรกของเขากับบีอีซี-เทโรศาสน
ในเกมส์ไทยพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาล วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่พบกับเชียงราย ยูไนเต็ด ชนาธิปยิงได้อีก 1 ประตู แต่จบเกมบีอีซีแพ้ไป 2-1 และจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3
ฤดูกาล 2558
ชนาธิปเริ่มต้นฤดูกาลนี้ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกนัดที่เปิดบ้านเสมอกับเชียงราย ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 และยิงประตูแรกในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ได้ในนัดที่บุกไปชนะสโมสรโอสถสภา 3-2 ฤดูกาลนี้เขาถูกอาการบาดเจ็บรบกวนทำให้ไม่ได้ลงสนามมากเท่าที่ควร โดยบีอีซี เทโรศาสนทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในลีก ทำให้เขาต้องย้ายไปร่วมสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว
ฤดูกาล 2559
28 มกราคม 2559 ชนาธิป เปิดตัวเป็นนักเตะคนใหม่ของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดในไทยพรีเมียร์ลีกร่วมกับธนบูรณ์ เกษารัตน์และพีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา 2 นักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งทั้งสามมาร่วมทีมเมืองทองด้วยสัญญายืมตัวพร้อมตัวเลือกซื้อขาดจากบีอีซี เทโรศาสน โดยชนาธิปพร้อมกับพีระพัฒน์และธนบูรณ์ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะของเมืองทองเป็นการถาวร
ชนาธิปลงสนามนัดแรกให้เมืองทอง ยูไนเต็ดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 ในการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือกนัดที่พบกับยะโฮร์ ดารุล ตะก์ซิมจากมาเลเซีย และจากผลงานที่ยอดเยี่ยมของชนาธิปทำให้เมืองทอง ยูไนเต็ดสามารถคว้าแชมป์ไทยลีกได้เป็นสมัยที่ 4 ซึ่งผลงานดังกล่าวทำให้สโมสรคอนซาโดเล ซัปโปะโระทีมฟุตบอลจากเจลีกของญี่ปุ่นได้ติดต่อมายังสโมสรเมืองทองเพื่อดึงตัวชนาธิปไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว
ฤดูกาล 2560-เลก 2
ชนาธิปเปิดตัวกับคอนซาโดเล ซัปโปะโระในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ในสัญญายืมตัวจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยชนาธิปได้ย้ายไปเล่นเจลีกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2560 และเริ่มเข้าร่วมทีมตั้งแต่เลก 2 ของฤดูกาล
ชนาธิป สามารถคว้าตำแหน่ง MVP ของสโมสรประจำฤดูกาล2018 ไปครองโดยได้ผลคะแนนโหวตมาเป็นอันดับหนึ่งจากเพื่อนร่วมทีมทั้ง 22 คน และนอกเหนือจากนี้ ชนาธิปยังได้รับการโหวตให้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งเจลีกในฤดูกาล 2018 อีกด้วย นับว่าเป็นนักเตะชาวไทยที่ได้รับการยอมรับในฝีเท้าจากแฟนบอลในแดนปลาดิบอย่างมาก
หลังจากที่ชนาธิป ถูกซัปโปะโระยืมตัวเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง ทางสโมสรได้ทำการเซ็นสัญญาถาวรตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 โดยมีสัญญาถึงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568 [5]
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 ชนาธิปย้ายไปร่วมงานกับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล ด้วยค่าตัวราวๆ 100 ล้านบาท ทำลายสถิติสูงสุดของเจลีกสำหรับการโอนย้ายภายในประเทศ[6]
ทีมชาติ
ชนาธิปลงเล่นในระดับชาติให้กับทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก ในรายการฟุตบอลเยาวชนอายุ 19 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2012 ในรอบคัดเลือกที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้การคุมทีมของสมชาย ชวยบุญชุม โดยรอบคัดเลือกไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มอี ร่วมกับทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปีของเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน และ กวม
ชนาธิป ลงสนามในนัดแรกของการแข่งขันรอบคัดเลือก วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ในเกมส์ที่ทีมชาติไทยชนะเกาหลีใต้ 1-0 ที่สนามเทพหัสดิน โดยถือเป็นการลงเล่นให้ทีมชาติไทยในระดับเยาวชนเป็นครั้งแรกของเจ้าตัวด้วย และมายิงได้ 1 ประตู ในเกมส์ถล่มทีมชาติทีมชาติกวม 13-0 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 โดยการแข่งขันในรอบคัดเลือก ชนาธิป สรงกระสินธ์ ทำผลงานกับทีมชาติไทยชุดอายุ 20 ปี ได้อย่างยอดเยี่ยมสามารถคว้าแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ ด้วยการชนะเกาหลีใต้ 1-0, ชนะไต้หวัน 1-0, ชนะกวม 13-0 และเสมอญี่ปุ่น 0-0 ได้เข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม
โดยในการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนอายุ 19 ปีชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้ายที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไทยอยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับเกาหลีใต้, จีน และอิรัก ซึ่งการแข่งขันทั้ง 3 นัด จะแข่งที่สนามกีฬาฟูไจราห์ คลับ เมืองฟูไจราห์ โดยไทยลงแข่งขันนัดแรกกับจีน ในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ชนาธิป สามารถผ่านบอลให้ วรนาถ ทองเครือ เข้าไปยิงประตูได้ และช่วยให้ทีมชาติไทยเอาชนะจีนไปได้ 2-1 ต่อมาในการแข่งขันกับเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ไทยกลับแพ้ไป 1-2 และการแข่งขันนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ไทยแพ้อิรักไป 0-3 ตกรอบไปในที่สุด
เดือนธันวาคม พ.ศ. 2556 เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองได้เรียกชนาธิปที่ขณะนั้นเคยเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วในยุคของวินฟรีด เชเฟอร์ มาเป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในแข่งขันซีเกมส์ 2013 ที่กรุงเนปยีดอ ประเทศพม่า
โดยชนาธิป ลงเล่นในซีเกมส์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ในการแข่งขันนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มที่ทีมชาติไทย เอาชนะติมอร์-เลสเต ไป 3-1 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ในช่วง 25 นาทีสุดท้าย ซึ่งในการแข่งขันซีเกมส์ 2013 นี้ ชนาธิป รับบทบาทเป็นผู้เล่นตัวสำรองที่มักจะถูกส่งลงสนามเพื่อสร้างสรรค์เกมส์รุกในช่วงครึ่งหลังอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสามารถทำผลงานได้อย่างดี โดยได้เล่นเป็นตัวจริง 1 นัด ในเกมส์ที่เสมอกับกัมพูชา 0-0 และสามารถช่วยให้ทีมชาติไทยผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
ในนัดชิงชนะเลิศ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ต้องพลาดโอกาสในการลงแข่งกับอินโดนีเซีย เนื่องจากได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าแข้ง แต่ทีมชาติไทยก็เอาชนะไปได้ 1-0 คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ
ทีมชาติชุดใหญ่
ชนาธิป ได้ลงสนามให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในการแข่งขันนัดอุ่นเครื่องกับภูฏาน เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังและทำให้ทีมชาติไทยชนะไป 5-0
จากนั้น วินฟรีด เชเฟอร์ได้คัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 โดยชนาธิปเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดภายในทีม และได้ลงสนามในรายการนี้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ที่ไทยพบกับเวียดนามในรอบแบ่งกลุ่ม โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทนปิยพล บรรเทาที่มีอาการบาดเจ็บ (จบเกมไทยชนะ 3-1) จากนั้นเขามีโอกาสลงสนามอีกครั้งหนึ่งในนัดชิงชนะเลิศนัดที่ 2 พบกับทีมชาติสิงคโปร์ ชนาธิปมีโอกาสเลี้ยงกระชากหนีนักเตะสิงคโปร์และยิงประตูหนึ่งครั้ง แต่ไม่สำเร็จ และได้รองแชมป์ในที่สุด
พ.ศ. 2556 ได้เล่นในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 ปี พ.ศ. 2556 ที่จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีทีมที่เข้าร่วมแข่งขันคือเกาหลีเหนือ, สวีเดน และฟินแลนด์
ในการแข่งขันนัดแรกที่ทีมชาติไทยพบทีมชาติฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ชนาธิป ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่จบด้วยการแพ้ฟินแลนด์ 1-3 ทำให้ต้องชิงที่ 3 กับเกาหลีเหนือ โดยการแข่งขันนัดชิงที่ 3 ในวันที่ 26 มกราคม ชนาธิปลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้ง ก่อนจะเสมอกันไป 2-2 คว้าอันดับ 3 ร่วมไปครอง
ในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2015 รอบคัดเลือก ไทยอยู่ร่วมสายกับ อิหร่าน คูเวต และเลบานอน นัดแรก 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ไทยเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน พบกับคูเวต ชนาธิปมีชื่อเป็นตัวสำรองและได้ลงสนามแทนจักรพันธ์ พรใสในนาทีที่ 72 ถัดจากนั้น 3 นาที ชนาธิปสามารถทำประตูตีไข่แตกได้ และจบเกมส์ไทยเปิดบ้านแพ้คูเวตไป 1-3 โดยประตูดังกล่าวถือว่าประตูแรกของชนาธิป ในการเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่
ชนาธิป เป็นตัวหลักในยุคของซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือที่รับหน้าที่กุนซือขัดตาทัพสำหรับทีมชาติชุดใหญ่แทนวินฟรีด เชเฟอร์ โดยซิโก้ประเดิมคุมทีมชาติชุดใหญ่เมื่อ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 โดยได้นำนักเตะชุดซีเกมส์ 2013 ไปอุ่นเครื่องกับทีมชาติจีน และถล่มทีมชาติจีนคาบ้านถึง 5-1 โดยชนาธิปเป็นหนึ่งในผู้ทำประตูด้วย
ในการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ชนาธิปเล่นได้อย่างโดดเด่น และเป็นผู้เล่นที่ถูกจับตามองในการแข่งขันครั้งนี้ ในนัดชิงชนะเลิศที่ไทยพบกับมาเลเซีย ทางมาเลเซียระบุว่าชนาธิปเป็น 1 ใน 3 ผู้เล่นของไทยที่ต้องระวัง (อีก 2 คน คือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และ ชาริล ชับปุยส์) ในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศนัดที่ 2 ที่ไทยเป็นฝ่ายแพ้ไป 3-2 แต่โดยผลการแข่งขันรวมแล้ว ไทยชนะไป 4-3 ชนาธิปเป็นผู้ยิงประตูที่ 2 ให้กับไทยได้ในนาทีที่ 86 จากลูกยิงนอกเขตโทษ ทำให้ไทยได้แชมป์รายการนี้ไปเป็นสมัยที่ 4 และเป็นแชมป์ครั้งแรกในรอบ 12 ปี นอกจากแล้ว ชนาธิป ยังได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในรายการนี้ไปอีกด้วย[7]
เกียรติประวัติ
รางวัลระดับสโมสร
- เอฟเอ ยูธ คัพ 2554 :ชนะเลิศ (บีอีซี เทโรศาสน U-19)
- โตโยต้า ลีกคัพ 2557 :ชนะเลิศ (บีอีซี เทโรศาสน)
- โตโยต้า ไทยลีก 2559 :ชนะเลิศ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
- เจลีกคัพ 2562 :รองชนะเลิศ (คอนซาโดเล ซัปโปโระ)
- เจแปนนิส ซูเปอร์คัพ 2565 :รองชนะเลิศ (คาวาซากิ ฟรอนตาเล)
รางวัลระดับทีมชาติ
- เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 : รองแชมป์
- ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 ปี พ.ศ. 2556 : อันดับสาม
- ซีเกมส์ 2013 : เหรียญทอง
- เอเชียนเกมส์ 2014 : อันดับสี่
- เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 : ชนะเลิศ
- ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 ปี พ.ศ. 2558 : รองชนะเลิศ
- ซีเกมส์ 2015 : เหรียญทอง
- ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 44 ปี พ.ศ. 2559 : ชนะเลิศ
- เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 : ชนะเลิศ
- เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 : ชนะเลิศ
- ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 ปี พ.ศ. 2567 : ชนะเลิศ
รางวัลส่วนบุคคล
- นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยม สยามโกลเดนบอล ประจำปี พ.ศ. 2554 และปี พ.ศ. 2557
- ผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยม ไทยพรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2555
- ผู้เล่นยอดเยี่ยม โตโยต้า ลีกคัพ ประจำฤดูกาล 2557
- ผู้เล่นยอดเยี่ยม เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ : 2014[7], 2016, 2020
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยม, รางวัลคะแนนเสียงยอดนิยม (Popular Vote), นักฟุตบอลรวมดารา (All-Stars) รายการไทยพรีเมียร์ลีก และผู้ยิงประตูประทับใจ สยามโกลเดนบอล ประจำปี พ.ศ. 2557
- นักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยม ประเภทชาย และรางวัลสุดยอดประทับใจแห่งปี สยามกีฬาอวอร์ดส์ ประจำปี พ.ศ. 255
- นักเตะยอดเยื่ยมประจำทีม คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ประจำฤดูกาล 2018
- นักเตะยอดเยื่ยมประจำสนามซัปโปโรโดม ประจำฤดูกาล 2018
- 1 ใน 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมของ เจลีก ดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2018
สถิติ
สโมสรอาชีพ
- ณ วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2565[8]
สโมสร | ชื่อลีก | ฤดูกาล | ลีก | ถ้วยในประเทศ | ลีกคัพ | เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก | อื่น ๆ | รวม | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | |||
บีอีซี เทโรศาสน | ไทยลีก | 2555 | 28 | 4 | 2 | 0 | 3 | 0 | – | – | 33 | 4 | ||
2556 | 26 | 3 | 1 | 0 | 1 | 0 | – | – | 28 | 3 | ||||
2557 | 27 | 4 | 0 | 0 | 5 | 0 | – | – | 32 | 4 | ||||
2558 | 23 | 2 | 1 | 0 | 1 | 0 | – | – | 25 | 2 | ||||
รวมทั้งหมด | 104 | 13 | 4 | 0 | 10 | 0 | – | – | 118 | 13 | ||||
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด | ไทยลีก | 2559 | 27[a] | 3 | 1 | 0 | 3 | 0 | 2[b] | 0 | 1[c] | 0 | 33 | 3 |
2560 | 17 | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 8[d] | 1 | 1[e] | 0 | 26 | 3 | ||
รวมทั้งหมด | 44 | 5 | 1 | 0 | 3 | 0 | 10 | 1 | 2 | 0 | 60 | 6 | ||
คอนซาโดเล ซัปโปะโระ | เจลีก ดิวิชัน 1 | 2017 | 16 | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | – | – | 17 | 0 | ||
2018 | 30 | 8 | 1 | 1 | 0 | 0 | – | – | 31 | 9 | ||||
2019 | 28 | 4 | 2 | 0 | 0 | 0 | – | – | 30 | 4 | ||||
2020 | 18 | 1 | 0 | 0 | 2 | 0 | – | – | 20 | 1 | ||||
2021 | 23 | 1 | 0 | 0 | 2 | 0 | – | – | 25 | 1 | ||||
รวมทั้งหมด | 115 | 15 | 1 | 1 | 7 | 0 | – | – | 123 | 16 | ||||
คาวาซากิ ฟรอนตาเล | เจลีก ดิวิชัน 1 | 2022 | 7 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 1 | 1 | 0 | 9 | 1 |
รวมทั้งหมด | 7 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 1 | 1 | 0 | 9 | 1 | ||
รวมตลอดอาชีพ | 263 | 34 | 6 | 1 | 20 | 0 | 11 | 2 | 3 | 0 | 310 | 36 |
- ↑ สโมสรได้ลงเล่นเพียง 31 นัดหลังจาก ไทยลีก ระงับการแข่งขันที่เหลือเนื่องจากการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
- ↑ ลงเล่นในรอบคัดเลือกรอบสอง และรอบสาม
- ↑ ลงเล่นในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก.
- ↑ ลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่มและรอบแพ้คัดออก
- ↑ ลงเล่นในไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ
ทีมชาติ
- ณ วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563[8]
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
ไทย | 2555 | 2 | 0 |
2556 | 4 | 2 | |
2557 | 6 | 2 | |
2558 | 3 | 0 | |
2559 | 16 | 1 | |
2560 | 4 | 0 | |
2561 | 4 | 0 | |
2562 | 10 | 3 | |
2563 | – | ||
2564 | 7 | 4 | |
รวม | 56 | 12 |
ประตูในนามทีมชาติ
- รายการคะแนนและผลการทำประตูของไทยจะอยู่ด้านซ้าย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2558 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 7 เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ (ร.ง.ภ.)[11]
ชีวิตส่วนตัว
ชนาธิปเคยคบหาดูใจกับดาราสาว พิชญ์นาฏ สาขากร แต่สิ้นสุดความสัมพันธ์แล้ว
อ้างอิง
- ↑ "ขอนแก่นจัดงานต้อนรับ "ซิโก้" คึกคัก". ไทยพีบีเอส. 30 ธันวาคม 2557. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-01-06. สืบค้นเมื่อ 31 ธันวาคม 2557.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ชนาธิป สรงกระสินธ์ สลัดเดี้ยงคัมแบ็กซ้อมทัพ บีจี ปทุมฯ แล้ว". สยามกีฬา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-26.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "เจ-ชนาธิป นักฟุตบอลร่างเล็ก (แต่ใจใหญ่) ที่ใช้ผลลัพธ์เป็นบทพิสูจน์ความทุ่มเท". GQ Thailand (ภาษาอังกฤษ). 2023-01-27.
- ↑ ยินดีด้วย “ชนาธิป” เรียนจบแล้ว เตรียมรับปริญญา ม.ดัง แฟนฟุตบอลแห่ร่วมยินดี
- ↑ เปิดสัญญา "ชนาธิป" เซ็นซัปโปโร ค่าตัวประวัติศาสตร์
- ↑ "เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์" ย้ายซบ "ฟรอนตาเล่" ค่าตัวทุบสถิติเจลีก
- ↑ 7.0 7.1 หน้า 1 ต่อ 9, ได้กำลังใจจากในหลวง 'ช้างศึก' สู้ยิบตา ครึ่งหลังฮึดชนะมาเลย์ประตูรวม 4-3 พลิกคว้าแชมป์ซูซูกิคัพสุดยิ่งใหญ่ !. เดลินิวส์ฉบับที่ 23,810: วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 2 ปีมะเมีย
- ↑ 8.0 8.1 #18 Chanathip Songkrasin transfermarkt.com สืบค้นเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
- ↑ "Sport - Manager Online - ซิโก้นำ ช้างศึก บุกถล่มจีน 5-1". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-19. สืบค้นเมื่อ 2013-06-22.
- ↑ "บอลไทยอุ่นเครื่องเจ๋งบุกถล่มจีนเละคาบ้าน 5-1 ประเดิมซิโก้คุมทัพชุดใหญ่". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2013-06-22.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๕๘ เก็บถาวร 2015-12-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๓๒ ข หน้า ๓๐, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๘
แหล่งข้อมูลอื่น
- บทสัมภาษณ์พิเศษ
- Goal.com/th เก็บถาวร 2016-03-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ชนาธิป สรงกระสินธ์ เก็บถาวร 2021-12-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน