เจลีก
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
เจลีก (ญี่ปุ่น: Jリーグ; โรมาจิ: J Rīgu; ทับศัพท์จาก อังกฤษ: J-League) หรือ ฟุตบอลลีกอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น: 日本プロサッカーリーグ; โรมาจิ: Nippon Puro Sakkā Rīgu; อังกฤษ: Japan Professional Football League) เป็นการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันเจลีกแบ่งออกเป็น 3 ดิวิชัน คือ เจลีก ดิวิชัน 1, เจลีก ดิวิชัน 2 และ เจลีก ดิวิชัน 3
ก่อตั้ง | ค.ศ. 1992 |
---|---|
ประเทศ | ญี่ปุ่น |
สมาพันธ์ | เอเอฟซี |
ดิวิชัน | เจลีก ดิวิชัน 1 เจลีก ดิวิชัน 2 เจลีก ดิวิชัน 3 |
จำนวนทีม | 58 |
ถ้วยระดับประเทศ | ถ้วยพระจักรพรรดิ ลูวาน คัพ ฟูจิซีร็อกซ์ ซูเปอร์คัพ |
ถ้วยระดับนานาชาติ | เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก |
ทีมชนะเลิศปัจจุบัน | J1: โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส (2023) J2: ชิมิซุ เอส-พัลส์ J3: โอมิยะ อาร์ดิจา |
ชนะเลิศมากที่สุด | คาชิมะ แอนต์เลอส์ (8 ครั้ง) |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ทางการ |
ปัจจุบัน ผู้ให้การสนับสนุนหลักของเจลีกคือ บริษัทประกันภัยเมจิ ยาซูดะ ไลฟ์ (Meiji Yasuda Life ญี่ปุ่น: 明治安田生命保険相互会社; โรมาจิ: Meiji Yasuda Seimei Hoken Sōgo Kaisha) ดังนั้น ชื่ออย่างเป็นทางการของเจลีกจึงเป็นเมจิ ยาซูดะ เจลีก
ประวัติ
แก้ก่อนยุคลีกอาชีพ (ก่อน 1992)
แก้ก่อนจะเริ่มเข้าสู่ยุคเจลีก การแข่งขันระดับสูงสุดของสโมสรในญี่ปุ่น Japan Soccer League (JSL) ซึ่งจัดว่าเป็นลีกสมัครเล่น[1] แม้ในยุคทศวรรษที่ 1960 และ 1970 จะได้รับความนิยมขึ้นมา (ช่วงที่ทีมชาติญี่ปุ่นได้เหรียญทองแดงจากกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1968 ที่เม็กซิโก) แต่ JSL ก็เริ่มซบเซาอีกครั้งในช่วงทศวรรษที่ 1980 เช่นเดียวกับฟุตบอลลีกทั่วโลก แฟนบอลลดน้อยลง สนามคุณภาพไม่ดี และทีมชาติญี่ปุ่นก็ไม่ได้ทีมชั้นนำของเอเชียแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น (JFA) จึงได้ตัดสินใจก่อตั้งลีกอาชีพขึ้นมาเพื่อยกระดับของทีมชาติ เพิ่มความนิยมให้กับลีกในประเทศ และให้มีแฟนบอลมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ เจลีกจึงได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 โดยมีสโมสรจาก JSL ดิวิชัน 1 เข้าร่วมการแข่งขัน 8 สโมสร ดิวิชัน 2 อีก 1 สโมสร และมีสโมสรชิมิซุ เอส-พัลส์ สโมสรน้องใหม่เข้าร่วมการแข่งขันอีก 1 สโมสร และได้มีการเปลี่ยนชื่อการแข่งขันเป็น ลีกฟุตบอลญี่ปุ่น (Japan Football League: JFL) จัดว่าเป็นลีกกึ่งอาชีพ แต่เจลีกก็ยังไม่ได้เริ่มอย่างเป็นทางการเพราะในตอนนั้นยังมีการแข่งขันยามาซากิ นาบิสโก คัพอยู่ ซึ่งเป็นการแข่งขันเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดฤดูกาลจริงในปี 1993
ฤดูกาลแรกและยุครุ่งเรือง (1993-1995)
แก้เจลีก เริ่มต้นอย่างเป็นทางการฤดูกาลแรกในวันที่ 15 พฤษภาคม 1993 โดยมี 10 ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน นัดเปิดสนามเป็นการพบกันระหว่างเวอร์ดี คาวาซากิ (ปัจจุบันคือโตเกียว เวอร์ดี) กับโยโกฮามะ เอฟ มารินอสที่สนามกีฬาแห่งชาติคาซูมิงาโอกะ
หลังยุครุ่งเรือง (1996-1999)
แก้สามปีแรกของเจลีกประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ในต้นปี 1996 แฟนบอลลดลงอย่างรวดเร้ว และในปี 1997 มีแฟนบอลเข้าชมเฉลี่ยต่อเกมเหลือเพียงแค่ 10,131 คนเท่านั้น เทียบกับในปี 1994 มีแฟนบอลเกมละ 19,000 คน
เปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานและรูปแบบเกม (1999-2004)
แก้ฝ่ายจัดการแข่งขันมองว่าแนวทางในขณะนั้นน่าจะเป็แนวทางที่ผิด จึงได้เริ่มแก้ปัญหา โดยมีทางแก้ไขอยู่สองวิธีด้วยกัน
วิธีแรก คือการออก วิสัยทัศน์ เจลีก 100 ปี โดยตั้งเป้าว่าจะต้องมีสโมสรอาชีพ 100 สโมสรในประเทศญี่ปุ่นภายในปี 2092 ซึ่งจะเป็นปีที่ครบรอบ 100 ปีของลีกพอดี นอกจากนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขันลีกยังสนับสนุนให้สโมสรต่างๆช่วยกันสนับสนุนกีฬาฟุตบอลและกีฬาอื่นๆในท้องถิ่นเพื่อให้ได้รับความนิยมจากคนพื้นที่มากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มรากหญ้า และสนับสนุนให้หาผู้สนับสนุนเป็นธุรกิจใหญ่ในท้องที่นั้นๆ ทางลีกเชื่อว่าความสัมพันธ์กับเมืองและชาวเมืองนั้นจะทำให้สโมสรดีขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน มากกว่าการมุ่งหาผู้สนับสนุนที่เป็นนักธุรกิจเจ้าใหญ่ๆระดับประเทศอย่างเดียวเท่านั้น
วิธีที่สองคือ การปรับโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ของลีกในปี 1999 โดยมี 9 สโมสรจากลีกกึ่งอาชีพ JFL และอีก 1 สโมสรจากเจลีก ร่วมสร้าง เจลีก ดิวิชัน 2 เริ่มทำการแข่งขันตั้งแต่ปี 1999 และดันให้ลีกอันดับสองอย่าง JFL กลายเป็นลีกอันดับ 3 ไป
และในยุคนี้จนถึงปี 2004 (ยกเว้นปี 1996) เจลีกถูกแบ่งเป็น 2 เลก และนำแชมป์เลกแรกกับเลกที่สองมาเพลย์ออฟหาแชมป์และรองแชมป์ของลีกไป แต่ถ้าแชมป์เลกแรกกับเลกสองเป็นทีมเดียวกันก็ถือว่าเป็นแชมป์ไปโดยปริยาย แต่ระบบนี้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 2005
ใช้ระบบลีกยุโรปและเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก (2005-2008)
แก้นับตั้งแต่ฤดูกาล 2005 เจลีก ดิวิชัน 1 มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 18 ทีม (จากที่เคยมี 16 ทีมในปี 2004) และระบบฤดูกาลแข่งขันเริ่มเปลี่ยนมาใช้แบบสโมสรในยุโรป ทีมที่ต้องตกชั้นเพื่มจาก 2 เป็น 2.5 ทีม นั่นคือ ทีมอันดับสามจากท้ายตารางจะต้องไปเล่นเพลย์ออฟกับทีมอันดับ 3 ในเจลีกดิวิชัน 2 เพื่อหาผู้ที่ต้องตกไปอยู่ดิวิชัน 2
อย่างไรก็ตาม ในสมัยก่อน สโมสรเจลีกไม่ค่อยจะจริงจังกับการแข่งชันเอเชียนแชมเปียนส์ลีกเท่าไหร่นักเนื่องจากต้องเดินทางไกลและคุณภาพของทีมที่ต้องแข่งด้วยนั้นยังไม่น่าสนใจเท่าไรนัก แต่ในปี 2008 มีทีมญี่ปุ่นผ่านเข้าไปสู่รอบก่อนรองชนะเลิศถึง 3 ทีมด้วยกัน[2]
แต่เมื่อได้มีการผนวกเอลีกเข้าสู่ฟุตบอลเอเชียตะวันออก และเริ่มมีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ชาวเอเชียเริ่มหันมาสนใจฟุตบอลรายการนี้กันมากขึ้น ทำให้ลีกญี่ปุ่นและสโมสรต่างๆของญี่ปุ่นเริ่มหันมาให้ความสนใจฟุตบอลรายการเอเชียมากขึ้น เช่นคาวาซากิ ฟรอนตาเลที่เริ่มสร้างฐานแฟนบอลในฮ่องกงได้หลังจากที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ในฤดูกาล 2007[3] และจากการที่อูราวะ เรดไดมอนส์และกัมบะ โอซากะคว้าแชมป์เอเชียได้ในปี 2007 และ 2008 ความนิยมและความสนใจในฟุตบอลเวทีเอเชียก็เริ่มมีกขึ้น ด้วยเหตุนี้ ประกอบกับการจัดการลีกที่ดี สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียจึงได้ยกย่องให้เจลีกเป็นลีกที่อยู่ในอันดับสงสุด และมีโอกาสเล่นฟุตบอลเอเชียถ้วยใหญ่ถึง 4 ทีมนับตั้งแต่ปี 2009 และลีกยังได้โอกาสในการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดให้กับต่างประเทศ โดยเฉพาะในชาติเอเชียด้วยกัน
นับตั้งแต่ปี 2008 แชมป์รายการถ้วยพระจักรพรรดิสามารถเข้าร่วมการแข่งขันแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลต่อไปได้เลย แทนที่จะต้องรอไปเล่นในปีถัดไป (เช่น โตเกียว เวอร์ดีที่เคยได้แชมป์รายการนี้ในปี 2005 แต่ต้องไปแข่งระดับเอเชียในฤดูกาล 2007 แทนที่จะเป็นฤดูกาล 2006) ด้วยเหตุนี้ จึงมีหนึ่งทีมที่ต้องเสียสละ นั่นคือ คาชิมะแอนต์เลอส์ที่ได้แชมป์ในปี 2007 ก็ถูกระงับสิทธิ์ในการไปเล่นแทน แต่อย่างไรก็ตาม คาชิมะแอนต์เลอส์ก็ยังสามารถไปเล่นฟุตบอลเอเชียในปี 2009 ได้เนื่องจากสามารถคว้าแชมป์เจลีก ดิวิชัน 1 ในปี 2008 ได้นั่นเอง
เจลีกยุคใหม่ (2009-2014)
แก้ในปี 2009 เกิดการเปลี่ยนแปลงในลีกครั้งใหญ่อีกครั้ง เริ่มจากการมี 4 สโมสรเข้าร่วมรายการเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ต่อด้วยการมีทีมตกชั้นเพิ่มเป็น 3 ทีม นอกจากนี้ ด้วยกฎใหม่ของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย เจลีกจึงต้องตั้งกฎให้มีผู้เล่นต่างชาติได้เพียง 4 คน แต่ต้องมี 1 คนที่มาจากชาติสมาชิกของสมาพันธ์ (ที่ไม่ใช่ญี่ปุ่น) นอกจากนั้น ยังมีการบังคับใช้ระบบไลเซนส์ของสโมสรเจลีกเพื่อตั้งมาตรฐานการอยู่ในลีกอาชีพสูงสุด
เจลีกยุคปัจจุบัน (2015-)
แก้นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ระบบลีกของเจลีกถูกแบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน โดยในหนึ่งปีจะถูกแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ช่วง ส่วนช่วงที่สามจะเป็นช่วงสำหรับการเพลย์ออฟเพื่อตัดสินแชมป์ โดยมีทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน 5 ทีม ได้แก่ ทีมที่ทำคะแนนรวมสูงสุด 1 ทีม ทีมที่เก็บคะแนนได้มากที่สุดสองทีมในช่วงที่ 1 และทีมที่เก็บคะแนนได้มากที่สุดสองทีมในช่วงที่ 2 แต่ระบบนี้ได้มีการยกเลิกและเปลี่ยนไปเป็นระบบตารางคะแนนเดียวเช่นเดิมตั้งแต่ปี 2017 หลังจากได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์และได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ดีจากแฟนบอล
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ "When Saturday Comes - How Japan created a successful league". Wsc.co.uk. 2010-07-18. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-09. สืบค้นเมื่อ 2013-12-12.
- ↑ John Duerden (11 August 2008). "Asian Debate: Is Japan Becoming Asia's Leader?". Goal.com. สืบค้นเมื่อ 19 August 2012.
- ↑ 川崎Fが香港でブレーク中、生中継で火 (ภาษาญี่ปุ่น). NikkanSports. March 8, 2008. สืบค้นเมื่อ March 8, 2008.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เก็บถาวร 2011-03-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน