เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิท
เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิท (อังกฤษ: AFC Champions League Elite) เป็นการแข่งขันฟุตบอลสโมสรประจำปีจัดโดยสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) แข่งขันระหว่างสโมสรฟุตบอลจากลีกสูงสุดในเอเชีย และถือเป็นการแข่งขันระดับสโมสรที่ทรงเกียรติที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลเอเชีย โดยแข่งขันระหว่างแชมป์ลีกสูงสุดของแต่ละประเทศ (และรองชนะเลิศมากกว่าหนึ่งสโมสรสำหรับบางประเทศ) ของสมาคมฟุตบอลในประเทศของตน[1]
![]() | |
ผู้จัด | เอเอฟซี |
---|---|
ก่อตั้ง | ค.ศ. 1967 | (ในชื่อ เอเชียนแชมเปียนคลับทัวร์นาเมนต์)
ภูมิภาค | เอเชีย |
จำนวนทีม | 24 (รอบลีก) |
ผ่านเข้าไปเล่นใน | ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ฟีฟ่าอินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ |
การแข่งขันที่เกี่ยวข้อง | เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกทู (ระดับที่ 2) เอเอฟซีแชลเลนจ์ลีก (ระดับที่ 3) |
ทีมชนะเลิศปัจจุบัน | ![]() |
ทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุด | ![]() |
ผู้แพร่ภาพโทรทัศน์ | พีพีทีวี |
เว็บไซต์ | www.the-afc.com |
![]() |
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1967 ในชื่อ เอเชียนแชมเปียนคลับทัวร์นาเมนต์ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ใน ค.ศ. 2002 หลังการรวมการแข่งขัน เอเชียนคลับแชมเปียนชิป, เอเชียนคัพวินเนอร์สคัพ และเอเชียนซูเปอร์คัพ และเปลี่ยนชื่ออีกครั้งใน ค.ศ. 2024 เป็นชื่อปัจจุบัน
การแข่งขันประกอบด้วย 24 สโมสรที่เข้าแข่งขันในรอบลีก โดยแบ่งเป็นภูมิภาคตะวันออกและตะวันตก (ภูมิภาคละ 12 สโมสร) ผู้ชนะเลิศจะได้ผ่านเข้าไปแข่งขันในฟีฟ่าอินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก และเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิทรอบลีกในฤดูกาลถัดไป หากพวกเขาไม่ได้ผ่านเข้ารอบจากผลงานภายในประเทศแล้ว
สโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ อัลฮิลาล โดยพวกเขาชนะเลิศรายการนี้สี่สมัย ผู้ชนะเลิศปัจจุบันคือ อัลไอน์ โดยชนะโยโกฮามะ เอ็ฟ มารินอสในนัดชิงชนะเลิศ 2024
ประวัติ
แก้ค.ศ. 1967–1972: เอเชียนแชมเปียนคลับทัวร์นาเมนต์
แก้สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) มีการหารือกันเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันสำหรับแชมป์ของประเทศต่าง ๆ ในเอเอฟซีในการประชุมที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1963 โดยเลขาธิการ ลี ไว ตง ได้ประกาศถึงความตั้งใจของเอเอฟซีที่จะจัดการแข่งขันที่คล้ายคลึงกับยูโรเปียนคัพ[2] การแข่งขันจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1967 ในชื่อเอเชียนแชมเปียนคลับทัวร์นาเมนต์ มีรูปแบบการแข่งขันที่หลากหลายในช่วงแรก โดยการแข่งขันครั้งแรกจัดขึ้นในรูปแบบแพ้คัดออกอย่างเดียว และอีกสามครั้งถัดมาประกอบด้วยรอบแบ่งกลุ่ม
แม้ว่าสโมสรจากอิสราเอลจะชนะเลิศรายการนี้สามในสี่ครั้งแรก แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะสโมสรอาหรับปฏิเสธที่จะเล่นกับพวกเขา ในปี 1970 โฮมเน็ตเมน สโมสรจากเลบานอนปฏิเสธที่จะเล่นกับฮาโปเอลเทลอาวีฟในรอบรองชนะเลิศ ทำให้นัดดังกล่าวถูกยกเลิกและทำให้ฮาโปเอลผ่านเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศ ในปี 1971 อาลียาตอัลชอร์ตา สโมสรจากอิรักปฏิเสธที่จะเล่นกับมัคคาบีเทลอาวีฟสามครั้ง ได้แก่ รอบเบื้องต้น (ซึ่งมีการจับสลากใหม่), รอบแบ่งกลุ่ม และนัดชิงชนะเลิศซึ่งถูกยกเลิก ทำให้มัคคาบีเป็นผู้ชนะเลิศ[3] ในระหว่างพิธีมอบรางวัลให้กับมัคคาบี ผู้เล่นของอาลียาตอัลชอร์ตาโบกธงปาเลสไตน์ไปรอบ ๆ สนาม มีการจัดการแข่งขันโดยเอเอฟซีและสมาคมฟุตบอลไทยระหว่างมัคคาบี และทีมรวมกรุงเทพฯ แทนการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ[4] สื่ออิรักถือว่า อาลียาตอัลชอร์ตาคือผู้ชนะเลิศการแข่งขัน โดยทีมได้จัดขบวนพาเหรดรถบัสเปิดประทุนในกรุงแบกแดด[5]
หลังการแข่งขันในปี 1972 ถูกยกเลิกโดยเอเอฟซีด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงการที่สโมสรอาหรับสองสโมสรถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากปฏิเสธที่จะลงเล่นพบกับมัคคาบีเนทันยา สโมสรจากอิสราเอล ทำให้เอเอฟซีระงับการแข่งขันเป็นเวลา 14 ปี ก่อนที่อิสราเอลจะถูกขับออกจากเอเอฟซีในปี 1974[6]
ค.ศ. 1985–2002: กลับมาในชื่อเอเชียนคลับแชมเปียนชิป
แก้การแข่งขันสโมสรระดับชั้นนำของเอเชียกลับมาในปี 1985 ในชื่อเอเชียนคลับแชมเปียนชิป[7]
สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียเปิดตัวการแข่งขัน เอเชียนคัพวินเนอร์สคัพ ใน ค.ศ. 1990 เป็นการแข่งขันระหว่างผู้ชนะเลิศฟุตบอลชิงถ้วยของแต่ละชาติในเอเอฟซี และยังได้เปิดตัวการแข่งขัน เอเชียนซูเปอร์คัพ ใน ค.ศ. 1995 เป็นการแข่งขันระหว่างผู้ชนะเลิศเอเชียนคลับแชมเปียนชิป และเอเชียนคัพวินเนอร์สคัพ
ค.ศ. 2002–2024: เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก
แก้ฤดูกาล 2002–03 เห็นการรวมตัวของการแข่งขันเอเชียนคลับแชมเปียนชิป, เอเชียนคัพวินเนอร์สคัพ และเอเชียนซูเปอร์คัพ กลายเป็น เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ผู้ชนะเลิศลีกสูงสุดและผู้ชนะเลิศฟุตบอลชิงถ้วยจะผ่านเข้ารอบคัดเลือกเพลย์ออฟ โดยแปดสโมสรที่ดีที่สุดจากเอเชียตะวันออกและแปดสโมสรที่ดีที่สุดจากเอเชียตะวันตกจะผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม สโมสรแรกที่ชนะเลิศในชื่อเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกคือ อัลไอน์ โดยชนะ บีอีซี เทโรศาสน ด้วยผลประตูรวม 2–1 ในปี 2004 มีสโมสร 29 แห่งจากสิบสี่ประเทศเข้าร่วมและกำหนดการแข่งขันมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน
ในรอบแบ่งกลุ่ม 28 สโมสรจะถูกแบ่งออกเป็น 7 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ตามภูมิภาค โดยแยกสโมสรจากเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันตกออกจากกันเพื่อลดต้นทุนการเดินทาง และกลุ่มต่าง ๆ จะถูกเล่นแบบเหย้าและเยือน ทีมชนะเลิศทั้ง 7 กลุ่ม รวมถึงแชมป์เก่า จะได้ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ โดยรอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ และนัดชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกันแบบสองนัด โดยจะใช้กฏประตูทีมเยือน, การต่อเวลาพิเศษ และการดวลลูกโทษเป็นการตัดสินเสมอ
การขยาย
แก้สโมสรจากซีเรียเข้าร่วมการแข่งขันในฤดูกาล 2005 ทำให้จำนวนประเทศที่เข้าร่วมเพิ่มเป็น 15 ประเทศ และสองปีต่อมา สโมสรจากออสเตรเลียก็เข้าร่วมการแข่งขันด้วยเช่นกัน หลังย้ายมายังเอเอฟซีใน ค.ศ. 2006 อย่างไรก็ตาม หลายสโมสรตำหนิว่าเงินรางวัลที่ต่ำในเวลานั้นและค่าเดินทางที่แพงเป็นเหตุผลบางประการ แชมเปียนส์ลีกขยายเพิ่มเป็น 32 สโมสรใน ค.ศ. 2009 โดยให้สโมสรในลีกเอเชียสิบอันดับแรกเข้าสู่การแข่งขันโดยตรง แต่ละประเทศสามารถส่งได้สูงสุด 4 สโมสร แม้ว่าจะไม่เกินหนึ่งในสามของจำนวนสโมสรในดิวิชันสูงสุดของประเทศนั้น โดยจะปัดลงขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของลีก โครงสร้างลีกอาชีพ ความสามารถในการทำตลาด สถานะทางการเงิน รวมถึงเกณฑ์อื่น ๆ ที่กำหนดโดยคณะกรรมการเอเอฟซีโปรลีก[8] เอเอฟซีจะปรับปรุงเกณฑ์การประเมินและจัดอันดับสมาคมที่เข้าร่วมทุก ๆ สองปี[9]
การแข่งขันรูปแบบเก่าประกอบด้วย ผู้ชนะเลิศของกลุ่มแปดทีมและรองชนะเลิศของแปดทีม ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยผู้ชนะเลิศของกลุ่มจะได้เป็นเจ้าภาพพบกับรองชนะเลิศในการแข่งขันแบบสองนัดซึ่งจะแข่งขันกันในระดับภูมิภาค โดยใช้กฏประตูทีมเยือน, ต่อเวลาพิเศษ และการดวลจุดโทษเป็นตัวตัดสินผลเสมอ ข้อจำกัดทางภูมิภาคจะยังมีต่อไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศ แม้ว่าสโมสรจากประเทศเดียวกันจะไม่สามารถพบกันในรอบก่อนรองชนะเลิศได้ เว้นแต่ประเทศนั้นจะมีตัวแทนในรอบก่อนรองชนะเลิศสามสโมสรหรือมากกว่า ตั้งแต่ ค.ศ. 2013 นัดชิงชนะเลิศจะแข่งขันแบบสองนัดเหย้าและเยือน[10][11]
รอบแบ่งกลุ่มขยายจาก 32 ทีมเป็น 40 ทีม ใน ค.ศ. 2021 โดยทั้งภูมิภาคตะวันตกและตะวันออกจะแบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม การจัดสรรจำนวนทีมสำหรับสมาคมสมาชิกหกอันดับแรกในแต่ละภูมิภาคยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ผู้ชนะเลิศของกลุ่ม 10 ทีม และรองชนะเลิศ 3 อันดับแรกของแต่ละภูมิภาค จะได้รับการจัดอันดับตามตารางรวมสำหรับรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยนัดต่าง ๆ จะยังคงจับคู่ตามภูมิภาคจนถึงนัดชิงชนะเลิศ[12]
เอเอฟซีประกาศเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 ว่า เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกจะกลับไปใช้ตารางการแข่งขันแบบระหว่างปี (ฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูใบไม้ผลิ) โดยเริ่มต้นในฤดูกาล 2023–24 นอกจากนี้ กฎ "3+1" ที่ใช้อยู่สำหรับผู้เล่นต่างชาติในระหว่างการแข่งขัน (ผู้เล่นต่างชาติ 3 คนและผู้เล่นต่างชาติชาวเอเชีย 1 คน) ได้รับการขยายเป็น "5+1" (ผู้เล่นต่างชาติ 5 คนและผู้เล่นต่างชาติชาวเอเชีย 1 คน)[13]
สิทธิสตรีในฟุตบอลอิหร่าน
แก้เมื่อ ค.ศ. 2021 ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับฝ่ายอิหร่านได้ดึงดูดความสนใจจากสื่อมวลชน สื่ออาหรับ และภาษาอังกฤษระดับนานาชาติรายงานเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิสตรีในสนามกีฬาของฝ่ายอิหร่าน
นอกจากนี้ ผู้หญิงชาวอิหร่านยังถูกห้ามไม่ให้เข้าสนามฟุตบอลเป็นเวลาประมาณ 40 ปี โดยรัฐบาลอิหร่าน[14][15] ผู้หญิงชาวอิหร่านได้รับอนุญาตให้ชมฟุตบอลในสนามกีฬาเป็นครั้งแรกใน ค.ศ. 2019 แต่ไม่ใช่ระหว่างเกมเอซีแอล[15][16] ก่อนหน้านี้ ฟีฟ่า ได้กดดันอิหร่านให้ผู้หญิงเข้าสนามกีฬาได้ แต่อิหร่านก็ยอมแต่จำกัดจำนวนผู้หญิงที่เข้าชมนัดชิงชนะเลิศ 2018[15][17] เอเอฟซีได้ทำการสอบสวนเรื่องดังกล่าวใน ค.ศ. 2021 โดยหวังว่าจะอนุญาตให้เข้าชมได้อย่างไม่มีข้อจำกัด เมื่อใดก็ตามที่มีสโมสรจากอิหร่านเข้าร่วม[18]
ค.ศ. 2024–25 เป็นต้นไป: เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิท
แก้เอเอฟซีประกาศเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 2022 ว่า โครงสร้างฟุตบอลระดับสโมสรของตนจะต้องปฏิรูปใหม่ โดยการแข่งขันระดับสโมสรสูงสุดจะลดจำนวนทีมลงจาก 40 ทีมในเวทีหลักเหลือ 24 ทีม โดยแบ่งออกเป็นภูมิภาคตะวันออกและตะวันตก (ภูมิภาคละ 12 ทีม) โดยแต่ละทีมในภูมิภาคตะวันออกและตะวันตกจะต้องเจอกับทีมอื่นอีกแปดทีมจากภูมิภาคของตน (เหย้าสี่ทีม และเยือนสี่ทีม) ทีมที่จบแปดอันดับแรกจากแต่ละภูมิภาคจะผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออก โดยในเฉพาะรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่จะเล่นสองนัด ตั้งแต่รอบก่อนรองชนะเลิศเป็นต้นไปจะเล่นในรูปแบบนัดเดียวที่สนามกลาง[19] เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2023 มีการยืนยันแล้วว่ารูปแบบใหม่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ฤดูกาล 2024–25 โดยชื่อของการแข่งขันจะเปลี่ยนเป็น เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิท[20] นอกจากนี้ เอเอฟซียังยืนยันด้วยว่า บันทึกและสถิติของเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกจะถูกส่งต่อไปยังเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิท[21] ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2023 ซาอุดีอาระเบียได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพในรอบสุดท้ายของสองฤดูกาลแรก[22]
รูปแบบ
แก้การคัดเลือก
แก้การแข่งขันในฤดูกาล 2024–25 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิทใช้รอบลีกซึ่งมี 24 ทีม โดยจะมีการแข่งขันรอบคัดเลือกสำหรับทีมที่ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันโดยตรงก่อน นอกจากนี้ ทีมต่าง ๆ จะถูกแบ่งออกเป็นโซนตะวันออกและตะวันตก
จำนวนทีมที่แต่ละสมาคมส่งเข้าแข่งขันเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิทจะถูกกำหนดเป็นประจำทุกปีโดยใช้เกณฑ์ที่กำหนดโดยคณะกรรมการการแข่งขันเอเอฟซี[23] เกณฑ์ดังกล่าวดัดแปลงจากค่าสัมประสิทธิ์ยูฟ่า โดยใช้วัดสิ่งต่าง ๆ เช่น ความสามารถในการทำตลาดและสนาม เพื่อกำหนดจำนวนทีมที่สมาคมจะได้รับโดยเฉพาะ ยิ่งสมาคมมีอันดับสูงขึ้นตามเกณฑ์ที่กำหนด ทีมต่าง ๆ จะได้เป็นตัวแทนสมาคมในการแข่งขันมากขึ้น
การแข่งขัน
แก้การแข่งขันอย่างเป็นทางการจะเริ่มด้วยรอบลีกที่มี 24 ทีม ซึ่งแบ่งออกเป็นสองลีก (ตะวันออกและตะวันตก) โดยแต่ละทีมจะต้องเจอกับคู่แข่งแปดทีมจากลีกของตนเอง (เหย้าสี่ทีมและเยือนสี่ทีม)[24] ทีมที่จบแปดอันดับแรกในแต่ละลีกจะเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในรอบนี้ แต่ละสโมสรจะพบกับสโมสรอื่นจากภูมิภาคเดียวกันในการแข่งขันแบบสองนัดเหย้า-เยือน เพื่อตัดสินว่าแปดสโมสรใดจะเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศแบบรวมศูนย์[24] หากผลประตูรวมของทั้งสองนัดเสมอกันหลังจาก 180 นาที จะมีการต่อเวลาพิเศษ หากยังเสมอกันหลังช่วงต่อเวลาพิเศษ จะตัดสินด้วยการดวลลูกโทษ การแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ และนัดชิงชนะเลิศ ทั้งหมดจะมีการจับคู่ข้ามภูมิภาค และจะจัดการแข่งขันแบบนัดเดียวที่สถานที่กลาง[24]
การจัดสรร
แก้มีทีมจาก 24 ประเทศในเอเอฟซีเคยผ่านเข้าสู่รอบลีกของเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิทแล้ว การจัดสรรทีมตามประเทศสมาชิกมีดังต่อไปนี้ เครื่องหมายดอกจันหมายถึงโอกาสที่ทีมอย่างน้อยหนึ่งทีมตกรอบการคัดเลือกก่อนเข้าสู่รอบลีก มี 32 ประเทศในเอเอฟซีที่มีทีมเข้าร่วมรอบคัดเลือก และไม่แสดงประเทศที่ไม่เคยมีทีมผ่านเข้ารอบลีก
สมาคม | ผู้เข้าร่วม | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2002–03 | 2004 | 2005 | 2006 | 2007 | 2008 | 2009 | 2010 | 2011 | 2012 | 2013 | 2014 | 2015 | 2016 | 2017 | 2018 | 2019 | 2020 | 2021 | 2022 | 2023–24 | 2024–25 | |
เอเชียตะวันออก | ||||||||||||||||||||||
ออสเตรเลีย | ส่วนหนึ่งของโอเอฟซี | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 3 | 1* | 3 | 2* | 2* | 3 | 2* | 2* | 3 | 0 | 2* | 1 | 1 | |||
จีน | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 4 | 4 | 4 | 3 | 4 | 4 | 4 | 4 | 3* | 4 | 4 | 4 | 2* | 2 | 3* | 2* |
ฮ่องกง | 0* | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 1* | 1* | 0* | 0* | 1 | 1 | 1* | 0 |
อินโดนีเซีย | 0* | 2 | 2 | 0 | 2 | 0 | 1* | 1* | 1* | 0* | 0 | 0 | 0* | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 0 | 0 | 0* | 0 |
ญี่ปุ่น | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 3 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 3* | 4 | 4 | 4 | 3 |
เกาหลีใต้ | 2 | 2 | 2 | 2 | 3 | 2 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 3 |
มาเลเซีย | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 0* | 1* | 1* | 1 | 1 | 1 | 1 |
ฟิลิปปินส์ | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 0* | 2 | 1* | 1 | 0 |
สิงคโปร์ | 0* | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 0* | 0* | 0* | 0* | 1 | 1 | 1 | 0 |
ไทย | 2 | 2 | 2 | 0 | 1 | 2 | 0* | 0* | 0* | 1* | 2 | 1* | 1* | 1* | 1* | 1* | 1* | 1* | 4 | 2* | 3* | 1* |
เวียดนาม | 0* | 2 | 2 | 2 | 1 | 2 | 0 | 0* | 0 | 0 | 0 | 0* | 1* | 1* | 0* | 0* | 0* | 0* | 1 | 1 | 1* | 0 |
รวม | 8 | 12 | 12 | 8 | 13 | 13 | 16 | 16 | 15 | 15 | 15 | 16 | 16 | 16 | 16 | 16 | 16 | 16 | 20 | 19 | 20 | 11 |
เอเชียตะวันตก | ||||||||||||||||||||||
บาห์เรน | 0* | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0 | 0 | 0* | 0 | 0* | 0* | 0 | 0 | 0 |
อินเดีย | 0* | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 0* | 0* | 0* | 0* | 1 | 1 | 1 | 0 |
อิหร่าน | 2 | 2 | 2 | 2 | 1 | 2 | 4 | 4 | 4 | 3* | 3* | 4 | 4 | 3* | 4 | 4 | 3* | 4 | 4 | 2 | 3* | 2* |
อิรัก | 1* | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0 | 0 | 0 | 0 | 1* | 1* | 2* | 1* | 1 | 1 |
จอร์แดน | 0* | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 0* | 0* | 0* | 0* | 1 | 1 | 1* | 0 |
คูเวต | 0* | 1 | 2 | 2 | 2 | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 0 | 0 | 0 |
กาตาร์ | 1* | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 3 | 4 | 4 | 4 | 2* | 2* | 2* | 4 | 3* | 2* | 3* | 4 | 2* | 2* |
ซาอุดีอาระเบีย | 1* | 2 | 3 | 3 | 2 | 2 | 4 | 4 | 4 | 3* | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 2 | 4 | 4 | 3* | 4 | 4 | 3 |
ซีเรีย | 0* | 0 | 2 | 2 | 2 | 2 | 0 | 0* | 0* | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0 | 0 |
ทาจิกิสถาน | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 1 | 1 | 1 | 0 |
เติร์กเมนิสถาน | 1* | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 1 | 0 |
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 1* | 3 | 2 | 2 | 2 | 2 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 3* | 2* | 3* | 4 | 4 | 3* | 4 | 3* | 3* | 2* | 1* |
อุซเบกิสถาน | 1* | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 3* | 2* | 1* | 4 | 4 | 2* | 2* | 2* | 1* | 2 | 2 | 4 | 1 |
รวม | 8 | 14 | 17 | 17 | 15 | 16 | 16 | 16 | 17 | 17 | 17 | 16 | 16 | 16 | 16 | 16 | 16 | 16 | 20 | 20 | 20 | 11 |
รวม | ||||||||||||||||||||||
รอบสุดท้าย | 16 | 26 | 29 | 25 | 28 | 29 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 40 | 39 | 40 | 22 |
รอบคัดเลือก | 53 | 26 | 29 | 25 | 28 | 29 | 35 | 37 | 36 | 37 | 35 | 47 | 49 | 45 | 47 | 46 | 51 | 52 | 45 | 46 | 53 | 27 |
เงินรางวัล
แก้เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2024–25 การแจกจ่ายเงินรางวัลจะเป็นดังต่อไปนี้:[25]
รอบ | ทีม | จำนวน | |
---|---|---|---|
ต่อทีม | รวม | ||
ชิงชนะเลิศ (ชนะเลิศ) | 1 | $10 ล้าน | |
ชิงชนะเลิศ (รองชนะเลิศ) | 1 | $4 ล้าน | |
รองชนะเลิศ | 4 | $600,000 | $2.4 ล้าน |
ก่อนรองชนะเลิศ | 8 | $400,000 | $3.2 ล้าน |
16 ทีมสุดท้าย | 16 | $200,000 | $3.2 ล้าน |
ลีก | 24 | $800,000 | $19.2 ล้าน |
รวม | 24 | $42 ล้าน |
การตลาด
แก้ผู้สนับสนุน
แก้เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิทได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มบริษัทข้ามชาติ ซึ่งแตกต่างจากลีกสูงสุดในแต่ละประเทศที่มีผู้สนับสนุนหลักรายเดียว
หุ้นส่วนระดับโลกอย่างเป็นทางการ
ผู้สนับสนุนระดับโลกอย่างเป็นทางการ
วิดีโอเกม
แก้ผู้ถือลิขสิทธิ์ปัจจุบันสำหรับวิดีโอเกมเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิทคือ โคนามิ ซึ่งเป็นเจ้าของวิดีโอเกมชุด อีฟุตบอล[33] ลิขสิทธิ์นี้ยังรวมถึงทีมที่เข้าแข่งขันด้วย
บันทึกและสถิติ
แก้ผลงานแบ่งตามสโมสร
แก้
ผลงานแบ่งตามชาติ
แก้ชาติ
|
ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | รวม |
---|---|---|---|
เกาหลีใต้ | 12 | 7 | 19 |
ญี่ปุ่น | 8 | 5 | 13 |
ซาอุดีอาระเบีย | 6 | 10 | 16 |
อิหร่าน | 3 | 6 | 9 |
จีน | 3 | 2 | 5 |
อิสราเอล | 3 | 1 | 4 |
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 2 | 3 | 5 |
กาตาร์ | 2 | 1 | 3 |
ไทย | 2 | 1 | 3 |
ออสเตรเลีย | 1 | 1 | 2 |
อิรัก | 0 | 2 | 2 |
มาเลเซีย | 0 | 1 | 1 |
โอมาน | 0 | 1 | 1 |
ซีเรีย | 0 | 1 | 1 |
ผลงานแบ่งตามภูมิภาค
แก้โซน | สหพันธ์ (ภูมิภาค) | ชนะเลิศ | รวม |
---|---|---|---|
ตะวันออก | อีเอเอฟเอฟ (เอเชียตะวันออก) | 23 | 26 |
เอเอฟเอฟ (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) | 3 | ||
ตะวันตก | ดับเบิลยูเอเอฟเอฟ (เอเชียตะวันตก) | 10 | 13 |
ซีเอเอฟเอ (เอเชียกลาง) | 3 | ||
เอสเอเอฟเอฟ (เอเชียใต้) | 0 |
หมายเหตุ: ไม่รวมสโมสรจากอิสราเอล ผู้ชนะเลิศการแข่งขันในปี 1967, 1969 และ 1971
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ "AFC Champions League: The drama, the glory..." the-AFC.com (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 17 February 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 June 2021. สืบค้นเมื่อ 2021-07-12.
- ↑ "Asian nations soccer contest". The Iraq Times. 18 April 1963. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 June 2024. สืบค้นเมื่อ 11 November 2023.
- ↑ Amitsur, D. (22 August 1971). "The Arabs' leg up to Israel in Asian football" (ภาษาฮิบรู). Davar. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 July 2020. สืบค้นเมื่อ 25 May 2020.
- ↑ "Asian Club Competitions 1971". RSSSF. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 July 2022. สืบค้นเมื่อ 15 January 2024.
- ↑ "Al-Mal'ab Newspaper – April 1971 – Champions of Asia Return to Baghdad". Kooora (ภาษาอาหรับ). April 1971. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 July 2020. สืบค้นเมื่อ 20 December 2017.
- ↑ "Why does Israel play in European football leagues? – DW – 11/09/2024". dw.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-02-21.
- ↑ "History of the Asian Club Championship". Asian Football. 9 April 1997. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 April 1997. สืบค้นเมื่อ 5 November 2021.
- ↑ "Asian Football Confederation" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2009. สืบค้นเมื่อ 26 พฤษภาคม 2008.
- ↑ "Criteria for Participation in AFC Club Competitions" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 18 August 2012. สืบค้นเมื่อ 5 January 2010.
- ↑ "ACL base widened from 2014". AFC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 June 2013. สืบค้นเมื่อ 26 January 2022.
- ↑ "AFC Slots". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 December 2013. สืบค้นเมื่อ 4 July 2014.
- ↑ "AFC to invest in new era of national team and club competitions". AFC. 26 October 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 February 2020. สืบค้นเมื่อ 26 October 2019.
- ↑ "AFC Executive Committee unveils dynamic enhancements to the AFC Club Competitions". the-AFC.com (ภาษาอังกฤษ). Asian Football Confederation. 25 February 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 March 2022. สืบค้นเมื่อ 25 February 2022.
- ↑ "ENSPIRE winner Maryam Shojaei on her fight to get Iranian women back in the soccer stadium". ESPN. 18 June 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 November 2021. สืบค้นเมื่อ 2 November 2021.
- ↑ 15.0 15.1 15.2 "زنان در آزادی؛ حاشیهای فراتر از فینال | DW | 11.11.2018". dw.com (ภาษาเปอร์เซีย). Deutsche Welle. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 June 2021. สืบค้นเมื่อ 2 November 2021.
- ↑ "Iranian women allowed to watch football at stadium for first time in decades". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). Agence France-Presse. 9 October 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 June 2024. สืบค้นเมื่อ 2 November 2021.
- ↑ "In a first for Iran, hundreds of women attend a major soccer match in Tehran". ABC News (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 November 2021. สืบค้นเมื่อ 2 November 2021.
- ↑ "استقلال و پرسپولیس از لیگ قهرمانان فوتبال آسیا حذف شدند!". ایمنا (ภาษาเปอร์เซีย). 31 October 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 November 2021. สืบค้นเมื่อ 2 November 2021.
- ↑ "AFC Competitions Committee recommends strategic reforms to elevate Asian club football". AFC. 23 December 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 December 2022. สืบค้นเมื่อ 24 December 2022.
- ↑ "AFC Executive Committee approves biggest prize purse in Asian club football history from 2024/25; announces AFC Women's Champions League". AFC. 14 August 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 October 2023. สืบค้นเมื่อ 14 August 2023.
- ↑ "Pivotal reforms approved by AFC Competitions Committee". AFC. 24 May 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 May 2024. สืบค้นเมื่อ 24 May 2024.
- ↑ "Saudi Arabia to host AFC Champions League Elite – Final Stage". AFC. 1 December 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 February 2024. สืบค้นเมื่อ 18 December 2023.
- ↑ "AFC ExCo okays ACL slots, format". the-afc.com. Asian Football Confederation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 December 2013. สืบค้นเมื่อ 4 July 2014.
- ↑ 24.0 24.1 24.2 "Explained: Asia's new $23m Champions League format as Mariners, Sydney FC chase big payday". A-Leagues (ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย). 19 June 2024. สืบค้นเมื่อ 24 June 2024.
- ↑ The AFC Hub (19 June 2024). AFC Champions League Elite™ 2024/25. สืบค้นเมื่อ 20 June 2024 – โดยทาง YouTube.
- ↑ "AFC and NEOM announce global multi-year partnership extension". the-afc.com. Asian Football Confederation. 10 July 2024. สืบค้นเมื่อ 12 July 2024.
- ↑ Long, Michael (18 December 2023). "AFC lands six-year Qatar Airways sponsorship deal". SportsPro. สืบค้นเมื่อ 19 December 2023.
- ↑ "AFC and Qatar Airways announce global partnership". the-afc.com. Asian Football Confederation. 16 December 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 May 2024. สืบค้นเมื่อ 20 December 2023.
- ↑ "AFC and KONAMI sign new sponsorship and licensing deal". the-afc.com. Asian Football Confederation. 25 January 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 September 2021. สืบค้นเมื่อ 23 November 2023.
- ↑ "AFC appoints world-leading ball manufacturer Molten as official match ball supplier". the-afc.com. Asian Football Confederation. 5 May 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 May 2018. สืบค้นเมื่อ 23 November 2023.
- ↑ "TECNO becomes Official Global Supporter of AFC Club Competitions". the-afc.com. Asian Football Confederation. 13 August 2024. สืบค้นเมื่อ 14 August 2024.
- ↑ "AFC and Visa expand partnership". the-afc.com. Asian Football Confederation. 3 February 2025. สืบค้นเมื่อ 4 February 2025.
- ↑ Wicherek, Michael (12 October 2023). "Konami adds huge new license to eFootball 2024". VideoGamer. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 December 2023. สืบค้นเมื่อ 6 December 2023.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- เว็บไซต์เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอย่างเป็นทางการ เก็บถาวร 2003-03-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (อังกฤษ)