สโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโร

สโมสรฟุตบอลในประเทศไทย

สโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโร (อังกฤษ: Police Tero F.C.) เป็นสโมสรฟุตบอลในประเทศไทย โดยปัจจุบันลงทำการแข่งขันอยู่ใน ไทยลีก ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2535 ในนาม โรงเรียนศาสนวิทยา และได้เปลี่ยนชื่อเป็นปัจจุบันในปี พ.ศ. 2561

โปลิศ เทโร
Police Tero
ชื่อเต็มสโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโร
Police Tero Football Club
ฉายามังกรโล่ห์เงิน
The Silver Shield Dragon
ก่อตั้งพ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992; 32 ปีที่แล้ว (1992))
สนามสนามบุณยะจินดา
ความจุ3,500 ที่นั่ง
เจ้าของเทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์
จักรทิพย์ ชัยจินดา
ประธานชัยธัช ชัยจินดา
ผู้จัดการอาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทน์
ผู้ฝึกสอนตัน เชง โฮ
ลีกไทยลีก
2565–66อันดับที่ 7
สีชุดทีมเยือน
สีชุดที่สาม
ฤดูกาลปัจจุบัน

ประวัติสโมสร แก้

เริ่มต้น แก้

สโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโรเริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2535 โดย นายวรวีร์ มะกูดี ในชื่อ โรงเรียนศาสนวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียน ในเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร และได้ส่งเข้าแข่งขัน ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ง ซึ่งสโมสรทำผลงานได้ดี จนเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นใน ถ้วยพระราชทาน ค ในปี พ.ศ. 2536 และ ถ้วยพระราชทาน ข ในปี พ.ศ. 2537

ในปี พ.ศ. 2538 สโมสรฯ สร้างสีสรรในฟุตบอลไทย โดยหลังจากที่ได้เลื่อนชั้นมาเล่นใน ถ้วยพระราชทาน ก สโมสรฯ ได้ย้ายที่ตั้งสโมสรมาที่ จังหวัดสุราษฏร์ธานี[1] และ เริ่มมีนักฟุตบอลต่างประเทศมาเล่นในไทย เช่น อุสมัน ไนยี, จอร์จี้ คริสเตียน, และ ลอเรนโซ่ ยูจิน ลอเรนท์ โดยมีนักฟุตบอลชาวไทยที่เป็นตัวหลักในขณะนั้นอย่าง ดุสิต เฉลิมแสน, รุ่งเพชร เจริญวงศ์, ณรงค์ พรไพบูลย์ เป็นต้น

สิงห์-เทโรศาสน แก้

 
 
 
 
 
2539-40: ชุดแข่งในยุคแรกของสโมสรฯ ในระบบฟุตบอลลีก

ต่อมา ในปี พ.ศ. 2539 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้จัดลีกฟุตบอลอาชีพขึ้นในนาม ไทยแลนด์ซอกเกอร์ลีก ทางสโมสรฯ ได้รับเงินสนับสนุนจาก บริษัท บุญรอด บริวเวอรี จำกัด และ บริษัท เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น สิงห์-เทโรศาสน และได้มีการเปลื่ยนสีเสื้อมาเป็นสีเหลือง รวมไปถึงมีการจ้างผู้ฝึกสอนเป็นชาวต่างชาติ และใช้สนามเหย้าคือ สนามกีฬาสิรินธร ใน โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และเริ่มเสริมทีมด้วยนักฟุตบอลไทยที่มีชื่อเสียงเช่น วัชรพงษ์ สมจิตร และ ยังได้ วรวุฒิ ศรีมะฆะ, สะสม พบประเสริฐ และ สิงห์ โตทวี ของธนาคารกสิกรไทย ในเลกที่สองฤดูกาลนั้น [1] ซึ่งทำให้สโมสรฯ ได้รับสมญานามว่า ทีมเจ้าบุญทุ่มเมืองไทย แต่อย่างไรก็ดี สโมสรฯกลับทำผลงาน ต่ำกว่าเป้าหมาย โดยจบฤดูกาล 2539-2540 ด้วยอันดับที่ 12 ของลีก

ก่อนมังกรไฟ แก้

ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 ทาง เบียร์สิงห์ ยกเลิกการสนับสนุนทีม ทำให้สโมสรเปลื่ยนชื่อมาเป็น เทโรศาสน และได้เปลื่ยนแปลงผู้ฝึกสอน มาเป็น พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ และได้นักฟุตบอลจาก องค์การโทรศัพท์ฯ อย่าง อนุรักษ์ ศรีเกิด, จตุพงษ์ ทองสุข, ทิวากร สุขสด เป็นต้น[1] ซึ่งสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 5 แต่ว่าได้สิทธิเป็นตัวแทนประเทศไทย ลงแข่งขันใน เอเชียนคลับแชมเปียนชิพ และนักเตะของสโมสรอย่าง วรวุฒิ ศรีมะฆะ ยังเป็นดาวซัลโวของลีกอีกด้วยการยิงไป 17 ประตู

บีอีซี เทโรศาสน แก้

ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 กลุ่มบีอีซี เวิลด์ ได้เข้าซื้อกิจการของ บจก.เทโร และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท บีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) จึงเปลี่ยนชื่อสโมสรใหม่อีกครั้งเป็น บีอีซี เทโรศาสน โดยสโมสรฯสามารถจบอันดับที่ 3 ใน ฤดูกาล 2541 แล้วยังได้สิทธิซึ่งเป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปเล่น เอเอฟซีแชมเปียนส์คัพ ในฐานะสโมสรชนะเลิศ สิงห์ เอฟเอคัพ

หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2542 สโมสรฯ ได้ เจสัน วิธ ลูกชายของ ปีเตอร์ วิธ ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ในขณะนั้นมาร่วมทีม และได้ อเดบาโย่ กาเดโบ้ กองหลังชาวไนจีเรีย ที่มีดีกรีระดับทีมชาติไนจีเรีย ระดับเยาวชน รุ่นเดียวกับ เอ็นวานโก้ คานู, เจย์ เจย์ โอโคชา มาร่วมทีม ซึ่งสโมสรจบฤดูกาลที่อันดับที่ 3 ของลีก แต่ผลงานในบอลถ้วย กลับไม่ดีนัก โดยในการแข่งขัน สิงห์ เอฟเอคัพ ก็ตกรอบแปดทีมสุดท้าย ส่วนผลงานในฟุตบอลเอเซีย อย่าง เอเอฟซีแชมเปียนส์คัพ ก็ทำผลงานได้ไม่สมบูรณ์เท่าไรโดยนัดแรกเอาชนะ ทรีสตาร์คลับ ของเนปาลไป 6-1 แต่นัดที่สองแพ้ให้กับ ต้าเลียน วันด้า ไป 3-1 จึงต้องตกรอบ

สู่จุดสูงสุด แก้

ต่อมาในปี พ.ศ. 2543 สโมสรฯสร้างเกียรติประวัติที่สูงสุดได้สำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ ไทยลีก ได้เป็นสมัยแรกของสโมสร และนักเตะของสโมสรอย่าง อนุรักษ์ ศรีเกิด ก็ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย จากนั้นในปี พ.ศ. 2544 สโมสรฯ เปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนมาเป็นคนไทย อย่าง พิชัย ปิตุวงศ์ ซึ่งในฤดูกาลนั้นได้ตัว เทิดศักดิ์ ใจมั่น จาก กรุงเทพมหานคร และแจ้งเกิดนักเตะดาวรุ่งในยุคนั้นอย่าง ดัสกร ทองเหลา ที่ ณ ขณะนั้นมีอายุเพียง 16 ปี เล่นในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก และสามารถสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์ ไทยลีก 2544/2545 ได้สำเร็จ และเป็นแชมป์ไทยลีก 2 สมัยซ้อนเป็นครั้งแรก

ในปี พ.ศ. 2545 สโมสรฯ เปลื่ยนแปลงผู้ฝึกสอนจาก พิชัย ปิตุวงศ์ เป็น อรรถพล บุษปาคม ซึ่งสโมสรฯ สามารถสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ของวงการฟุตบอลไทยในการแข่งขัน เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก โดยเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศกับสโมสร อัล ไอน์ ตัวแทนจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งแข่งขันแบบเหย้า-เยือน โดยนัดแรกสโมสรฯบุกไปเยือนแล้วแพ้ไป 2-0 แต่ในนัดที่สองได้เล่นเป็นทีมเหย้าโดยแข่งที่ ราชมังคลากีฬาสถาน สโมสรเอาชนะไปได้ 1-0 จากการยิงลูกโทษของ เทิดศักดิ์ ใจมั่น แต่ก็แพ้ไปด้วยสกอร์รวม 2-1 ได้แค่รองชนะเลิศ ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดของสโมสรฟุตบอลจากประเทศไทยที่ทำได้ในการแข่งขันนี้ นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อการแข่งขันเป็นเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ขณะเดียวกัน สโมสรฯก็ยังได้รองชนะเลิศการแข่งขัน อาเซียนคลับแชมเปียนชิพ โดยแพ้ให้กับ อิสต์ เบงกอล ของ อินเดีย 3-1 ซึ่งในทีมชุดนั้นมีนักเตะที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศมากมายเช่น วรวุฒิ ศรีมะฆะ, ดุสิต เฉลิมแสน, ขวัญชัย เฟื่องประกอบ, เทิดศักดิ์ ใจมั่น, ปณัย คงประพันธ์, จตุพงษ์ ทองสุข, ดัสกร ทองเหลา รวมไปถึง นักฟุตบอลต่างชาติอย่าง อาดู ซันเดย์ กองกลางชาว ไนจีเรีย

หลังจากได้รองชนะเลิศ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก มาตรฐานของสโมสรฯ เริ่มตกลง แต่ยังถือว่าเป็นสโมสรที่มีลุ้นแชมป์ได้ในหลายฤดูกาล ใน ไทยลีก 2547/48 สโมสรได้แต่งตั้ง สะสม พบประเสริฐ มาคุมทีมแม้ผลงานของทีมกลับต้องมาหนีตกชั้น แต่ก็ยังสามารถจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 6 และในปีนั้นเอง สโมสรฯได้ดันนักฟุตบอลอย่าง ชาคริต บัวทอง และ ธีรเทพ วิโนทัย ขึ้นมาประดับวงการฟุตบอลไทย

ร่วมมือกับอาร์เซนอล แก้

ในปี พ.ศ. 2548 ทางสโมสรฯ ได้ลงนามในสัญญาร่วมกับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล ในพรีเมียร์ลีก ก่อตั้งบริษัทที่ทำธุรกิจด้านฟุตบอลโดยเฉพาะขึ้นมา ซึ่งมีร้านขายของที่ระลึกที่เซ็นทรัลเวิลด์ และได้มีการเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ของสโมสรใหม่ทั้งหมด โดยโลโก้ของสโมสรนั้น ทางสโมสรอาร์เซนอลเป็นผู้ออกแบบให้ และชุดแข่งของสโมสรให้มีความคล้ายคลึงกับทางสโมสรอาร์เซนอลอีกด้วย[1] และในปีนั้นสโมสรได้เปลื่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็น เดวิด บูท และเสริมนักฟุตบอลไทยที่มีชื่อเสียงอย่าง พิพัฒน์ ต้นกันยา, ปรัชญ์ สมัคราษฎร์, คัมภีร์ ปิ่นฑะกูล เป็นต้น และยังได้ตัว ไนออล ควินน์ อดีตนักฟุตบอลของ ซันเดอร์แลนด์ และ แมนเชสเตอร์ซิตี มาร่วมทีม[2] ทำให้สโมสรฯจบด้วยอันดับ 3 ใน ฤดูกาล 2553 สโมสรฯ ทำการย้ายสนามเหย้าแข่งขันจาก สนามบีอีซี เทโรศาสน หนองจอก (สนามทิวสน) มาที่ สนามเทพหัสดิน เนื่องจากสนามหนองจอกนั้นไม่ได้มาตรฐานจาก ไทยพรีเมียร์ลีก และเดินทางยากลำบาก โดยที่สนามเทพหัสดิน สามารถเดินทางสะดวกเพราะสามารถเดินทางด้วย รถไฟฟ้าบีทีเอส มาลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติได้

เปลื่ยนแปลง แก้

 
สโมสรบีอีซี เทโรศาสน ในปี 2009

ใน ฤดูกาล 2555 สโมสรได้จ้าง โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ มาเป็นผู้อำนวยการสโมสร และในช่วงนี้เองที่สโมสรฯ ปั้นเยาวชนขึ้นสู่ทีมเป็นจำนวนมาก โดยทีมเยาวชนของสโมสร สามารถคว้าแชมป์ ไทยเอฟเอ ยูธคัพ ได้สำเร็จ ซึ่งในทีมชุดนั้น มีนักฟุตบอลอย่าง อภิสิทธิ์ คำวัง, ชนาธิป สรงกระสินธ์, อัครพล มีสวัสดิ์, ศนุกรานต์ ถิ่นจอม เป็นต้น [3] ซึ่งภายหลังนักฟุตบอลในทีมชุดนี้ก็ได้ถูกดันขึ้นมาในทีมชุดใหญ่ และได้ติดทีมชาติไทยในเวลาต่อมา

ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 บีอีซี เทโรศาสน เปิดตัว สเวน-เยอราน เอริกซอน ชาวสวีดิช อดีตผู้จัดการ ทีมชาติอังกฤษ ซึ่งรับตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ของสโมสร โดยพาสโมสรจบอันดับ 3 ของไทยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนั้น และในปี พ.ศ. 2556 สโมสรฯ ย้ายสนามเหย้าแข่งขันไปอยู่ที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เขตมีนบุรี เนื่องจากสนามเทพหัสดินไม่พร้อมที่จะใช้งาน และกลายเป็นการกลับสู่ถิ่นที่อยู่เดิมของสโมสรอีกครั้งในย่านมีนบุรี หนองจอก

ในฤดูกาล 2557 ภายใต้การคุมทีมของ โจเซ่ อัลเวส บอจีส สโมสรฯ สร้างประวัติศาสตร์ ชนะเลิศการแข่งขัน ไทยลีกคัพ โดยเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปได้ 2-0 จากการทำประตูของ ไดกิ อิวามาสะ และ จอร์จี้ เวลคัม โดย ชนาธิป สรงกระสินธ์ คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าอีกด้วย[5] และเป็นตำแหน่งชนะเลิศครั้งแรกของสโมสรฯ ในรอบ 12 ปี

ปัญหาภายในทีม แก้

ฤดูกาล 2558 สโมสรฯ ชนะเลิศการแข่งขัน โตโยต้า พรีเมียร์คัพ 2014 โดยเอาชนะจุดโทษ ซากัน โทสุ ตัวเทนจาก เจลีก ไปได้ 4-3 หลังจบการแข่งขันเสมอกันด้วยสกอร์ 0-0[6] แต่ผลงานใน ไทยพรีเมียร์ลีก 2558 กลับย่ำแย่จนต้องหนีตกชั้น สนเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน สโมสรฯต้องตกชั้นลงไปเล่นใน ไทยลีกดิวิชัน 1 โดย จบอันดับที่ 16 มีคะแนนเพียง 35 คะแนนเท่านั้น แม้นัดสุดท้ายจะเอาชนะ สโมสร เชียงราย ยูไนเต็ด ไปได้ถึง 0-5 ก็ตาม [7] จากนั้นก็มีกระแสข่าวที่ว่าอาจจะไม่ต้องตกชั้น เนื่องจากในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้าจะมีการปรับสโมสรที่ลงแข่งขันให้เป็น 20 ทีม

ต่อมาในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559 นายไบรอัน แอล มาคาร์ ประธานสโมสรได้ให้สัมภาษณ์ว่าได้ขายสโมสรให้กับกลุ่มทุนกลุ่มหนึ่งซึ่งคาดกันว่าน่าจะเป็นกลุ่ม สยามกีฬา ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปด้วยราคา 300 ล้านบาท จากราคาที่เคยตั้งไว้ 500 ล้านบาท พร้อมกันนั้นทางสโมสรยังได้ปล่อยนักเตะแกนหลักของทีม 3 คนคือ ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ไปเล่นกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลา 1 ปี

ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน มีความชัดเจนว่า บีอีซี เทโรศาสน ต้องตกชั้นไปเล่นในไทยลีกดิวิชั่น 1 อย่างแน่นอน เมื่อ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ได้ประชุมและมีมติให้ไทยพรีเมียร์ลีก 2559 ยังคงมี 18 ทีมเหมือนเดิม[8] แต่ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 การเจรจาระหว่าง วีระพล อดิเรกสาร ประธานสโมสรสระบุรี เอฟซี กับ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักประสบความล้มเหลวทำให้สระบุรี เอฟซีประกาศถอนทีม ทำให้บอร์ดบริหารบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก มีมติให้ บีอีซี เทโรศาสน ได้ลงเล่นในศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2559 แทนที่ สระบุรี เอฟซี

โปลิศ เทโร แก้

 
โปลิศ เทโร ย้ายมาเล่นที่สนามบุณยะจินดาตั้งแต่ฤดูกาล 2560 เป็นต้นมา

เปลี่ยนแปลงการบริหาร แก้

หลังจาก ฤดูกาล 2559 สี้นสุดลง สโมสรฯได้รับความสนใจที่จะมาทำทีมต่อ โดยในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 กลุ่มนายทุนของ อุดรธานี เอฟซี ซึ่งเคยมีข่าวจะเข้ามาเทคโอเวอร์ พัทยา ยูไนเต็ด ได้พยายามเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรด้วยงบประมาณ 60 ล้านบาท แต่การเจรจาไม่ลงตัวทำให้ไม่เกิดขึ้น

แต่จากนั้นไม่นานได้มีกระแสข่าวออกมาว่ามีกลุ่มทุนอีกกลุ่มที่นำโดย นายตำรวจระดับสูง ติดต่อเข้ามาเพื่อขอบริหารสโมสร ซึ่งต่อมาก็ได้มีการเปิดเผยว่าเป็นกลุ่มของ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยทาง พล.ต.อ. จักรทิพย์ เป็นประธานสโมสรและได้เปลี่ยนชื่อเป็น โปลิศ เทโร (Police Tero Football Club) และได้ย้ายสนามไปอยู่ที่ สนามบุณยะจินดา โดยได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวสโมสรเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 [9] ทางด้านนายไบรอันได้ร่วมเป็นประธานสโมสรร่วมด้วย โดยที่ต่อมาทาง บริษัท ไทยลีก ไม่อนุมัติการเปลื่ยนชื่อและสัญลักษณ์ของสโมสรฯ เนื่องจากผิดข้อบังคับ คลับไลเซนนิ่งส์ ทำให้สโมสรต้องกลับมาใช้ชื่อ บีอีซี เทโรศาสน อย่างน้อย 1 ฤดูกาล[10]

การตกชั้นครั้งแรก และการเลื่อนชั้นกลับสู่ไทยลีก แก้

ในฤดูกาล 2561 การแข่งขันนัดที่ 33 หรือนัดรองสุดท้าย โปลิศ เทโร ต้องบุกไปเยือนราชนาวีซึ่งตกชั้นไปแล้วที่สนามกีฬากองทัพเรือ กม. 5 โดยโปลิศ เทโรได้ประตูขึ้นนำก่อน 0–1 จากกฤษพรหม บุญสาร แต่ก็ถูกยิงแซงจนพ่ายแพ้ไป 4–2[11] ทำให้โปลิศ เทโรตกชั้นสู่ไทยลีก 2 เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร[12]

ในการแข่งขันนัดสุดท้ายของไทยลีก 2 ฤดูกาล 2562 โปลิศ เทโร เปิดบ้านเอาชนะ ระยอง ไปได้ 7–0 ทำให้ทั้งสองสโมสรได้เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก ฤดูกาล 2563 โดยโปลิศ เทโร เลื่อนชั้นกลับสู่ไทยลีกหลังจากตกชั้นลงมาเล่นในไทยลีก 2 เพียงฤดูกาลเดียว ส่วนระยองเลื่อนชั้นสู่ไทยลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร

กลุ่มทุนใหม่ แก้

ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 สโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโร ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวกลุ่มทุนใหม่ที่เข้ามาลงทุนและบริหารสโมสรคือกลุ่มของเจ้านายเชื้อพระวงศ์จากกัมพูชา 3 พระองค์ได้แก่ พระองค์เจ้านโรดม อัมฤทธิวงศ์, สมเด็จพระนโรดม นรินทรพงษ์ และเจ้าชายนโรดม รวิจักร์ พร้อมด้วยเงินลงทุนจำนวน 200 ล้านบาทและได้เข้ามาถือหุ้นในสโมสรสัดส่วน 49%[13][14]

ตราสโมสร แก้

ผู้เล่น แก้

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน แก้

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
1 GK   อุกฤษณ์ วงศ์มีมา
2 MF   เอกชัย สำเร
3 DF   ธวัชชัย อินทร์ประโคน (ยืมตัวจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
4 DF   ภาคิณ หาราภี
5 MF   สิทธิโชค ทัศนัย
6 MF   แวลิงตง พรีโอรี
7 FW   นัฐวุฒิ มูลสุวรรณ
8 MF   ธีรวุธ ชูโลก
9 FW   ฌูเวล ซูมู
10 FW   ควาเม คารีคารี
11 DF   สุขสันต์ บุญตา (ยืมตัวจาก ชลบุรี)
13 DF   อับดุลฮาฟิส บือราเฮง
14 MF   พีรพัฒน์ ขมิ้นทอง
15 DF   ชุมพล บัวงาม
18 MF   สงครามสมุทร น้ำผึ้ง
19 FW   ยศศักดิ์ เชาวนะ
เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
20 DF   อนุกูล ฟอมไธสง
22 GK   สินทวีชัย หทัยรัตนกุล
24 GK   ศรุฒ ณะศรี
25 GK   ยศพล เทียงดาห์ (ยืมตัวจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
27 DF   เดอนี่ ดาร์เบอเล่ย์
29 GK   ณัฐภัทร มากท้วม
30 DF   แมกซ์ ปีเตอร์ ครีเวย์ (ยืมตัวจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
31 MF   อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์
32 MF   เดนนิส วิลลานูเอวา
33 FW   ยะชิร อิสละมี (ยืมตัวจาก ตราด)
35 DF   ไอแซค ฮันนี (กัปตันทีม)
37 DF   ศรัญญ์ ภักดี
42 MF   สรวิทย์ พานทอง (ยืมตัวจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด)
44 MF   รชต หมอรักษา (ยืมตัวจาก ชลบุรี)
70 FW   ชเว โฮ-จู

ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว แก้

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
26 DF   พิชิตชัย เศียรกระโทก (ไป ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี จนสิ้นสุดฤดูกาล)
59 DF   ธนกร ใจเพชร (ไป มหาสารคาม เอสบีที จนสิ้นสุดฤดูกาล)

ทีมงานผู้ฝึกสอน แก้

ชื่อ สัญชาติ ตำแหน่ง
วรวุธ ศรีมะฆะ   ไทย ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค
อาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทน์   ไทย ผู้จัดการทีม
ตัน เชง โฮ   มาเลเซีย หัวหน้าผู้ฝีกสอน
นพพล ปิตะฝ่าย   ไทย ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน
สาธิต เบ็ญโสะ
อภิเชษฐ์ พุฒตาล
วัชรพงษ์ กล้าหาญ   ไทย โค้ชผู้รักษาประตู
อนุกูล กันยายน
สินทวีชัย หทัยรัตนกุล
ขวัญชัย บุญยัง   ไทย เจ้าหน้าที่ทีม

ผู้ฝึกสอน แก้

รายนามผู้ฝึกสอน (2539-ปัจจุบัน)

ชื่อ ชาติ เวลา เกียรติยศ
บรู๊ซ แคมป์เบลล์   2539/2540
พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ   2540
วรวรรณ ชิตะวณิช   2541
เจสัน วิธ   2542-2543 ไทยลีก 2543
ไทย เอฟเอคัพ 2543
พิชัย ปิตุวงศ์   2544-2545 ไทยลีก 2544/45
อรรถพล ปุษปาคม   2545-2547 รองชนะเลิศ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2002–03
รองชนะเลิศ อาเซียน คลับแชมเปียนชิพ 2002–03
รองชนะเลิศ ไทยลีก 2545/46
รองชนะเลิศ ไทยลีก 2546/47
สะสม พบประเสริฐ   2547-2548
เดวิธ บูท   2549
รีจีส รากันเซ่   2550
คริสตอฟ ลาร์รูห์   2551 – มิถุนายน 2552 รองชนะเลิศ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานควีนสคัพ ครั้งที่ 33
ธชตวัน ศรีปาน   มิถุนายน - กรกฎาคม 2552 ชนะเลิศ พานาโซนิค คัพ
รองชนะเลิศ มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2552
จอร์จ เอ็นริเก้ อมาย่า   กรกฎาคม – ตุลาคม 2552
ปีเตอร์ บัตเลอร์   ตุลาคม 2552 – มิถุนายน 2553
พยงค์ ขุนเณร   มิถุนายน - ธันวาคม 2553
แอนดรูว์ ออร์ด   มกราคม - สิงหาคม 2554
สเวน-เยอราน เอริกซอน[15] (ประธานเทคนิค)   กันยายน - พฤศจิกายน 2554
สเตฟาน เดโมล   ธันวาคม 2554 – มิถุนายน 2555
เรอเน เดอซาแยร์   มีนาคม - กรกฎาคม 2555
โชคทวี พรหมรัตน์   กรกฎาคม – สิงหาคม 2555
โจเซ่ อัลเวส บอจีส[16]   สิงหาคม 2555 – พฤศจิกายน 2557 ชนะเลิศ โตโยต้า ลีกคัพ 2557
ชนะเลิศ โตโยต้า พรีเมียร์คัพ 2014
โบซีดาร์ บันโดวิช   พฤศจิกายน 2557 – พฤษภาคม 2558
เคนนี่ ซิลล์   พฤษภาคม - สิงหาคม 2558
รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค (รักษาการ)   สิงหาคม 2558
มานูเอล คาจูด้า   สิงหาคม - ธันวาคม 2558
รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค (รักษาการ)   ธันวาคม 2558
บลังโก สมิลยานิช   กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2559
สุรพงษ์ คงเทพ (รักษาการ)   พฤษภาคม - ธันวาคม 2559
อุทัย บุญเหมาะ   กุมภาพันธ์ – มิถุนายน 2560
ไมค์ มัลเวย์   มิถุนายน – พฤศจิกายน 2560
สก็อตต์ คูเปอร์   มกราคม – มีนาคม 2561
รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค   มีนาคม – มิถุนายน 2561
ธชตวัน ศรีปาน   มิถุนายน – กันยายน 2561
รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค   กันยายน 2561 – พฤศจิกายน 2566 รองชนะเลิศ ไทยลีก 2 ฤดูกาล 2562
วรวุธ ศรีมะฆะ (รักษาการ)   พฤศจิกายน 2566 – กุมภาพันธ์ 2567
ตัน เชง โฮ   กุมภาพันธ์ 2567 –

อดีตผู้เล่นที่สำคัญ แก้

นักเตะไทย แก้

นักเตะต่างชาติ แก้

ผู้ผลิตชุดแข่งขันและผู้สนับสนุน แก้

รายนามผู้ผลิตชุดและผู้สนับสนุน (ฤดูกาล 2539/40-ปัจจุบัน)

ฤดูกาล ผู้ผลิตชุดแข่งขัน ผู้สนับสนุน
2539/40 เซปป์ เบียร์สิงห์
2543 - -
2541-2543 อาดิดาส คาลเท็กซ์
2544/45 อาดิดาส เบียร์สิงห์
2545/46-2547/48 อาดิดาส -
2549-2552 ไนกี้ เอมิเรตส์แอร์ไลน์
2553 ไนกี้ 3 เคแบตเตอรี่
2554 เอฟบีที 3 เคแบตเตอรี่
2555 เอฟบีที สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
2556-2559 เอฟบีที เอฟบีแบตเตอรี่
2560- เอฟบีที เบียร์ช้าง


สนามเหย้าและที่ตั้งสโมสร แก้

พิกัด ที่ตั้ง สนาม ปี
13°50′34″N 100°51′18″E / 13.842912°N 100.855026°E / 13.842912; 100.855026 เขตหนองจอก, กรุงเทพมหานคร สนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร 2542-2544
13°52′06″N 100°50′49″E / 13.8684344°N 100.8470571°E / 13.8684344; 100.8470571 เขตหนองจอก, กรุงเทพมหานคร สนามบีอีซี เทโรศาสน หนองจอก

(สนามทิวสน)

2545-2552
13°44′44″N 100°31′39″E / 13.745602°N 100.527595°E / 13.745602; 100.527595 เขตปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร สนามเทพหัสดิน 2553-2555
13°48′07″N 100°47′27″E / 13.801944°N 100.790833°E / 13.801944; 100.790833 เขตมีนบุรี, กรุงเทพมหานคร สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 2556-2559
13°52′02″N 100°34′39″E / 13.867163°N 100.577392°E / 13.867163; 100.577392 เขตหลักสี่, กรุงเทพมหานคร สนามบุณยะจินดา 2560-

ผลงาน แก้

ผลงานของสโมสรในแต่ละฤดูกาล แก้

ฤดูกาล ลีก[17] เอฟเอ คัพ ลีกคัพ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ผู้ทำประตูสูงสุด
ระดับลีก แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แต้ม อันดับ ชื่อ ประตู
2539/40 ไทยลีก 34 9 14 11 37 44 41 อันดับ 12  –  –
2540 ไทยลีก 22 8 7 7 32 26 31 อันดับ 5  –  – วรวุฒิ ศรีมะฆะ 17
2541 ไทยลีก 22 10 8 4 47 23 38 อันดับ 3  – รอบที่ 2
2542 ไทยลีก 22 11 6 5 35 23 39 อันดับ 3  –  –
2543 ไทยลีก 22 14 7 1 48 14 49 ชนะเลิศ[18]  – รอบก่อนรองชนะเลิศ
2544/45 ไทยลีก 22 15 5 2 41 11 50 ชนะเลิศ[18]  – รอบที่ 2 วรวุฒิ ศรีมะฆะ 12
2545/46 ไทยลีก 18 10 5 3 31 11 35 รองชนะเลิศ[18]  –  – รองชนะเลิศ[18] วรวุฒิ ศรีมะฆะ 10
2546/47 ไทยลีก 18 10 4 4 33 22 34 รองชนะเลิศ[18]  –  – รอบแบ่งกลุ่ม
2547/48 ไทยลีก 18 6 7 5 19 18 25 อันดับ 6  –  – รอบแบ่งกลุ่ม ชาคริต บัวทอง 7
2549 ไทยลีก 22 9 9 4 32 14 36 อันดับ 3  –  –  – พิพัฒน์ ต้นกันยา 12
2550 ไทยลีก 30 14 9 7 47 29 51 อันดับ 3  –  –  – อานนท์ สังสระน้อย 13
2551 ไทยลีก 30 16 7 7 50 31 55 อันดับ 3  –  –  – อานนท์ สังสระน้อย 20
2552 ไทยลีก 30 15 6 9 53 34 51 อันดับ 4 รองชนะเลิศ[18]  –  – อานนท์ สังสระน้อย 18
2553 ไทยลีก 30 9 8 13 39 42 35 อันดับ 9 รอบที่ 4 รอบที่ 2  – อานนท์ สังสระน้อย 14
2554 ไทยลีก 30 13 6 15 39 35 45 อันดับ 8 รอบก่อนรองชนะเลิศ รอบก่อนรองชนะเลิศ  – รณชัย รังสิโย 15
2555 ไทยลีก 34 16 9 9 53 43 57 อันดับ 3 รอบก่อนรองชนะเลิศ รอบก่อนรองชนะเลิศ  – เคลย์ตัน ซิลวา 24
2556 ไทยลีก 32 13 9 10 56 49 48 อันดับ 7 รอบที่ 4 รอบที่ 2  – เคลย์ตัน ซิลวา 20
2557 ไทยลีก 38 18 14 6 66 41 68 อันดับ 3 รอบที่ 3 ชนะเลิศ  – โซ ชิโมจิ 17
2558 ไทยลีก 34 7 14 13 42 51 35 อันดับ 16 รอบที่ 2 รอบที่ 3  – อดิศักดิ์ ไกรษร 10
2559 ไทยลีก 30 12 5 13 42 52 41 อันดับ 9 รอบที่ 2 รอบที่ 3  – ศิวกรณ์ เตียตระกูล 9
2560 ไทยลีก 34 10 9 15 42 57 39 อันดับ 14 รอบที่ 3 รอบรองชนะเลิศ  – มีชาเอล เอ็นดรี 13
2561 ไทยลีก 34 10 6 18 53 66 36 อันดับ 15 รอบที่ 3 รอบที่ 2  – มีชาเอล เอ็นดรี 16
2562 ไทยลีก 2 33 18 8 7 57 31 62 อันดับ 2 รอบ 16 ทีมสุดท้าย รอบก่อนรองชนะเลิศ  – แกรก อูลา 11
2563–64 ไทยลีก 30 10 6 14 32 50 36 อันดับ 11 รอบ 32 ทีมสุดท้าย  –  – อาทิตย์ บุตรจินดา 4
2564–65 ไทยลีก 30 8 13 9 33 39 37 อันดับ 11 รอบรองชนะเลิศ รอบ 16 ทีมสุดท้าย  – อีวังดรู เปาลิสตา 6
2565–66 ไทยลีก 30 11 10 9 41 43 43 อันดับ 7 รอบรองชนะเลิศ รอบ 32 ทีมสุดท้าย  – วู กึน-ช็อง
บาโบ มาร์ก ล็องดรี
7
2566–67 ไทยลีก รอบ 64 ทีมสุดท้าย รอบ 32 ทีมสุดท้าย  –
ชนะเลิศ รองชนะเลิศ อันดับที่ 3 เลื่อนชั้น ตกชั้น

เกียรติประวัติ แก้

การแข่งขันในประเทศ แก้

ลีก แก้

  ชนะเลิศ (2) : 2543 , 2544/45
  รองชนะเลิศ (2) : 2545/46 , 2546/47
  รองชนะเลิศ (1) : 2562

ถ้วย แก้

รองชนะเลิศ (1) : 2552
ชนะเลิศ (1) : 2557
ชนะเลิศ (1) : 2543
รองชนะเลิศ (2) : 2545 , 2547
รองชนะเลิศ (1) : 2552
ชนะเลิศ (1) : 2558

การแข่งขันระหว่างประเทศ แก้

รองชนะเลิศ (1): 2545/46
รองชนะเลิศ (1): 2546

ระดับเยาวชน แก้

ชนะเลิศ (2) : 2546, 2547[19]
ชนะเลิศ (1) : 2555[20]

สโมสรพันธมิตร แก้

พันธมิตรต่างประเทศ แก้

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 https://web.archive.org/web/20070319191847/http://www.becterofc.com/team1.html ประวัติสโมสรบีอีซี-เทโรศาสน เอฟซี] - www.becterofc.com (ปัจจุบันใช้งานไม่ได้แล้ว)
  2. ฮือฮาสุดๆ “เทโรฯ” เตรียมเปิดตัวหอกใหม่ “ไนออล ควินน์” เก็บถาวร 2006-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จาก MGR Online
  3. เทโรฯแกร่งถล่มบุรีรัมย์5-2ซิวแชมป์ยูธคัพ จาก สยามกีฬา
  4. "มังกรไฟผงาด!! 12 ปีแห่งการรอคอย บีอีซี-เทโร ศาสน ล้มแชมป์เก่าในศึกโตโยต้า ลีกคัพ 2014". bectero.com. สืบค้นเมื่อ 4 November 2019.
  5. มังกรไฟคืนบัลลังก์!ทุบเซาะกราว2-0ซิวแชมป์ลีกคัพ เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จาก สยามกีฬารายวัน
  6. "มังกรไฟ" ดับโทษ "ซางัน" 4-3 คว้าแชมป์โตโยต้า พรีเมียร์คัพ จาก ไทยรัฐ
  7. หน้า 17 ต่อ 19 กีฬา, บีอีซีเก่งเมื่อสาย แม้ถล่มกว่างโซ้ง. เดลินิวส์ฉบับที่ 24,168: วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 1 ปีมะแม
  8. ด่วน!! "ทีพีแอล" ปรับ "เทโร" ตกชั้น คง 18 ทีมตามเดิม เก็บถาวร 2016-02-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากผู้จัดการออนไลน์
  9. ไบรอันยันเองจักรทิพย์ประธานใหม่เทโร สยามกีฬา 1 กุมภาพันธ์ 2560
  10. โปลิศรอก่อน! เทโรแถลงยังรอเอเอฟซีอนุมัติชื่อ-โลโก้ใหม่ จาก โกลดอตคอม ประเทศไทย
  11. ‘โปลิศ เทโร’ บุกพ่ายราชนาวี 2-4 ตกชั้นไทยลีกแล้ว!, ไทยรัฐ, สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2561
  12. เทโรตกชั้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์, Goal.com, สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2561
  13. โปลิศ เทโรฯ เปิดตัว "เจ้าชายนโรดม แห่งราชวงศ์กัมพูชา" เป็นผู้ร่วมทุนใหม่
  14. เจ้าชายกัมพูชาทุ่ม 200 ล้าน บ. ถือหุ้น 'โปลิศ เทโร' 49% ตั้งเป้าปีหน้า ติดท็อป 3
  15. "Avram Grant follows in footsteps of Sven-Goran Eriksson by joining Thai side BEC Tero Sasana as technical director". Daily Mail. 17 September 2014. สืบค้นเมื่อ 30 October 2014.
  16. "BEC-Tero Sasana appoints former Chelsea manager Avram Grant as Technical Director". BEC Tero Official Website. 30 September 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-03-31. สืบค้นเมื่อ 30 October 2014.
  17. King, Ian; Schöggl, Hans & Stokkermans, Karel (20 มีนาคม 2014). "Thailand – List of Champions". RSSSF. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 July 2014. สืบค้นเมื่อ 29 October 2014. Select link to season required from chronological list.
  18. 18.0 18.1 18.2 18.3 18.4 18.5 http://sg.soccerway.com/teams/thailand/bec-tero-sasana/3849/trophies/
  19. The Club จาก เว็บไซต์ของสโมสร
  20. เทโรฯแกร่งถล่มบุรีรัมย์5-2ซิวแชมป์ยูธคัพ จาก สยามกีฬา
  21. สยามกีฬา: ชิมิสึบินมาไทยเตรียมโครงการแลกเปลี่ยนนักเตะกับโปลิศ

แหล่งข้อมูลอื่น แก้