อรรถพล ปุษปาคม (ชื่อเล่น: แต๊ก ; 1 ตุลาคม พ.ศ. 250516 เมษายน พ.ศ. 2558) เป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยของสโมสรการท่าเรือฯ เขาเคยเป็นผู้ฝึกสอนของทีมบางกอกกล๊าสในไทยพรีเมียร์ลีกและได้เคยคุมทีมอื่นๆ ในไทยเช่น เมืองทองฯ ยูไนเต็ด, บีอีซี เทโรศาสน, ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร และเป็นผู้ฝึกสอนคนสุดท้ายของสโมสรธนาคารกรุงไทย ทั้งนี้ อรรถพลเคยได้รับการยกย่องจากแฟนบอลทีมชาติไทยว่าเป็นหนึ่งในผู้ฝึกสอนฟุตบอลชาวไทยที่เก่งที่สุดในประเทศ

อรรถพล ปุษปาคม
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม อรรถพล ปุษปาคม
วันเกิด 1 ตุลาคม พ.ศ. 2505
สถานที่เกิด อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย
วันเสียชีวิต 16 เมษายน พ.ศ. 2558 (52 ปี)
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2528-2533 การท่าเรือไทย 160 (34)
2533-2534 ปะหัง เอฟซี 57 (12)
2534-2537 การท่าเรือไทย 114 (21)
2537-2539 ปะหัง เอฟซี 43 (10)
2539-2541 ตลาดหลักทรัพย์ 49 (5)
ทีมชาติ
2538-2541 ทีมชาติไทย 85 (13)
จัดการทีม
2545-2547 บีอีซี เทโรศาสน
2549 เกย์ลัง ยูไนเต็ด
2550-2551 ธนาคารกรุงไทย
2552 ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร
2552 เมืองทอง ยูไนเต็ด
2553-2556 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2556-2557 บางกอกกล๊าส
2557-2558 เพื่อนตำรวจ
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2555

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 อรรถพลได้เสียชีวิตลง เนื่องด้วยติดเชื้อที่กระแสเลือดและปอด[1]

ประวัติ

แก้

อรรถพล ปุษปาคม เกิดในปี พ.ศ. 2505 ที่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 เขามีลูกทั้งสิ้น 4 คน โดยเป็นลูกชาย 3 คน (คนโตคือ วรรณพล ปุษปาคม และคนรองคือ กนกพล ปุษปาคม)

ประวัติการเล่นฟุตบอล

แก้

การท่าเรือไทย

แก้

อรรถพล ปุษปาคม เริ่มเล่นอาชีพ ฟุตบอล ตั้งแต่วัย 23 ปี กับ สโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทย ในปี พ.ศ. 2528 โดยเล่นในตำแหน่ง กองกลาง อรรถพลเก่งในด้านการรุกริมเส้นด้านขวา ในช่วงตอนเขามาอยู่กับ การท่าเรือไทย ฤดูกาลแรก ทำประตูไป 7 ประตู ลงเล่นไป 23 นัด ถือว่าเป็น กองกลาง ที่ทำประตูได้มากที่สุดในกองกลางของการท่าเรือไทย โดยอรรถพลเป็นนักฟุตบอลส่วนหนึ่งที่เป็นคนช่วยส่งให้เพื่อนทำประตูให้ทืมคว้าแชมป์ ถ้วย ก ได้ในปี พ.ศ. 2528 และ พ.ศ. 2533 โดยในปัจจุบันอรรถพลเป็นคนครองสถิติ กองกลาง ที่ทำประตูเร็วที่สุดของ สโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทย

ปะหัง

แก้

ในปี พ.ศ. 2533 อรรถพลได้เซ็นสัญญากับ สโมสรฟุตบอลปะหัง สโมสรฟุตบอลชื่อดังใน ประเทศมาเลเซีย โดยอรรถพล ได้ลงเล่นในตำแหน่งตัวจริงของ สโมสรฟุตบอลปะหัง เป็นบางครั้ง และเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าทำให้ต้องพักการเล่นฟุตบอลไปเกือบ 2 เดือน แต่ภายหลังก็สามารถกลับมาเล่นให้กับทีมต่อได้ในช่วงฤดูกาลหลังของฤดูกาล 2532-33 แต่แล้วอรรถพลก็ตัดสินใจกลับไปเล่นให้กับ สโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทย ต่อ ในปี พ.ศ. 2534

การท่าเรือไทย (ครั้งที่ 2)

แก้

การกลับมาของอรรถพลในฤดูกาลนี้ สามารถได้รับโอกาสการลงเล่นเป็นตัวจริงได้หลายครั้ง ด้วยการลงเล่นเป็นตัวจริง 30 นัด ทำประตูได้ 10 ประตู แต่ไม่สามารถช่วยให้การท่าเรือไทยได้แชมป์ถ้วยต่างๆในฤดูกาล 2533-34 แล้วต่อมาในฤดูกาล 2534-35 อรรถพลได้ลงเล่นตัวจริงเกือบครบทุกนัด โดยลงเล่นไป 32 นัดจาก 35 เกม แต่ทำประตูไปได้แค่ 6 ประตู เพราะในช่วงนั้นการท่าเรือไทยได้ กองหน้า ตัวเก่งมาหลายคน จึงเลยไม่ค่อยได้มีโอกาสเติมเกมส์รุกมากเท่าไร แต่อรรถพลก็สามารถช่วยนำทีมคว้าแชมป์ ถ้วย ข ได้ และในฤดูกาล 2535-36 และ 2536-37 อรรถพลไม่ค่อยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงมากนัก เพราะทั้งอาการบาดเจ็บ และความเร็วที่เริ่มด้อยลง ด้วยวัย 31 ปี เลยได้ลงเล่นเพียงแค่ 25 นัด กับ 4 ประตู และ ในฤดูกาล 2536-37 ได้ลงเล่น 27 นัด กับ 1 ประตู ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ สโมสรฟุตบอลตลาดหลักทรัพย์ ในปี พ.ศ. 2539

ตลาดหลักทรัพย์

แก้

อรรถพลในวัย 34 ปี ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงบ่อยครั้งมาก เนื่องจากวัยและสภาพของร่างกาย จึงได้ลงเล่นเพียง 49 นัด ทำประตูได้ 5 ประตู และได้ประกาศแขวนสตั๊ดในปี พ.ศ. 2541

ประวัติการเป็นผู้จัดการทีม

แก้

หลังจากประกาศเลิกเล่น อรรถพลหันมารับงานคุมทีมเป็นครั้งแรกกับสโมสร บีอีซี เทโรศาสน ระหว่างปี 2545-2549 มีผลงานโดดเด่น นำทีมคว้ารองแชมป์ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2545-2546 จากนั้นย้ายไปคุมทีม เกย์ลัง ยูไนเต็ด (สิงคโปร์) ในปี 2549, ธนาคารกรุงไทย ปี 2550-2551, ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ปี 2552, เมืองทอง ยูไนเต็ด ปี 2552 ก่อนจะย้ายมาคุมทีม บุรีรัมย์ ตั้งแต่ปี 2554 จนกระทั่งแยกทางกันเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 หลังนำทีมบุกไปเสมอ เอฟซี โซล 2-2 สร้างประวัติศาสตร์นำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ได้เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ อรรถพล ยังทำสถิติเป็นโค้ชไทยคนแรกที่นำทีมผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ได้ถึง 2 ทีม (บีอีซี เทโรศาสน และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) อรรถพลเคยรับหน้าที่เป็นโค้ชให้กับสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส

เสียชีวิต

แก้

โค้ชแต้กถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินหลังเกมเสมอสงขลา 1-1 เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558 หลังจากอาการทรุดหนักจากการติดเชื้อในเลือดและปอด ในวันที่ 10 เมษายน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ-หาดใหญ่ ทันที ก่อนย้ายมารักษาตัว ห้องไอ.ซี.ยู. โรงพยาบาลพระราม 9 โดยเมื่อช่วงเช้าประมาณตีสี่ของวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 มีรายงานว่าโค้ชแต้กเสียชีวิตแล้วด้วยวัยอายุ 52 ปี[2][3]โดยมีพิธีรดน้ำศพโค้ชแตกที่วัดธาตุทอง มีพิธีสวดอภิธรรมศพเป็นเวลา 5 วันที่ศาลา 18 ก่อนจะฌาปนกิจศพในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558[4]

เกียรติประวัติ

แก้

สมัยผู้เล่น

แก้
การท่าเรือไทย
ปะหัง เอฟซี

สมัยผู้จัดการทีม

แก้
บีอีซี เทโรศาสน
ธนาคารกรุงไทย (บางกอกกล๊าส เอฟซี)
เมืองทอง ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

รางวัลส่วนตัว

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. "วงการลูกหนังไทยเศร้า! โค้ชแต๊กเสียชีวิตแล้ว". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-19. สืบค้นเมื่อ 2015-04-15.
  2. วงการลูกหนังเศร้า! โค้ชแต๊กเสียชีวิตด้วยวัย 52 ปี
  3. ""โค้ชแต๊ก" ติดเชื้อกระแสเลือด สิ้นลมวัย 52". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-19. สืบค้นเมื่อ 2015-04-16.
  4. "'โค้ชแต๊ก'เสียชีวิตแล้วติดเชื้อในกระแสเลือด". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-16. สืบค้นเมื่อ 2015-04-16.
  5. 'อุ้ม ธีราทร' คว้าแข้งยอดเยี่ยม ฟุตบอลสยาม โกลเด้นบอล - ข่าวไทยรัฐออนไลน์[ลิงก์เสีย]
  6. "อุ้ม-ธีราทร"ซิวโกลเด้นบอล-"โค้ชแต็ก"กุนซือยอดเยี่ยม-บุรีรัมย์ทีมยอดเยี่ยม - ข่าวสด[ลิงก์เสีย]
  7. ชื่นมื่น อุ้ม ได้แฟนสาวขึ้นมอบโกลเด้นบอล - Sport - Manager Online[ลิงก์เสีย]

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้
ก่อนหน้า อรรถพล ปุษปาคม ถัดไป
ธนเดช ฟูประเสริฐ    
ผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
(2 พฤษภาคม 2553 – 2 พฤษภาคม 2556)
  สก็อตต์ คูเปอร์