เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์
บริษัท เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นนิติบุคคลของไบรอัน ลินด์เซย์ มาร์การ์ โดยประกอบกิจการ และรับจ้างบริการที่เกี่ยวเนื่องกับสื่อประสม, จัดการแสดงหรือกิจกรรมบันเทิง/กีฬาครบวงจร รวมถึงบริการจำหน่ายบัตรผ่านประตู ทั้งนี้บริษัทฯ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวดนางงามเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ และเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโร ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ชั้น 21-22 และ 25-28 อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ เลขที่ 3199 ถนนพระรามที่ 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร และมีคำขวัญว่า "เชื่อมติดทุกชีวิตบันเทิง" (Passion United)[1]
ประเภท | สื่อสารมวลชน |
---|---|
อุตสาหกรรม | สื่อประสม การแสดง และกีฬา |
รูปแบบ | สื่อประสม |
ก่อนหน้า | บจก.เวิลด์มีเดียซัพพลายส์ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 (26 ปี) บมจ.บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ 27 มีนาคม พ.ศ. 2541 (22 ปี) |
ก่อตั้ง | 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563 (0 ปี) |
ผู้ก่อตั้ง | ไบรอัน ลินด์เซย์ มาร์การ์ |
สำนักงานใหญ่ | |
บุคลากรหลัก |
|
ผลิตภัณฑ์ | ดูในบทความ |
บริการ | รับจัดกิจกรรม จำหน่ายบัตรผ่านประตู |
บริษัทลูก | |
เว็บไซต์ | www.bectero.com |
ประวัติแก้ไข
เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ก่อตั้งขึ้นในชื่อ บริษัท เวิลด์มีเดียซัพพลายส์ จำกัด เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นชื่อว่า บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)[2] เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2541 พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น โดยบริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมทุนกับไบรอัน ลินด์เซย์ มาร์การ์ นักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายเมียนมาร์ ซึ่งกิจการตั้งต้นของบีอีซี-เทโรฯ คือผลิตรายการโทรทัศน์ สำหรับออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3, จัดหาการแสดง/คอนเสิร์ตมาแสดงในประเทศไทย, จัดกิจกรรมต่างๆ, ผลิตภาพยนตร์, ให้บริการผ่านสื่อช่องทางต่างๆ และร่วมทุนกับบริษัทอื่น เพื่อประกอบกิจการบันเทิงหลายประเภท[3] โดยบีอีซีเวิลด์ ถือหุ้นใหญ่ในบีอีซี-เทโรฯ ที่ร้อยละ 59.99[4] แต่ต่อมาในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563 บมจ.บีอีซีเวิลด์ได้ขายหุ้นทั้ง 59.99% ในบีอีซี-เทโรฯ กลับไปให้ไบรอัน ลินด์เซย์ มาร์การ์ ถือหุ้น ทำให้บีอีซี-เทโรฯ พ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของบีอีซีเวิลด์ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์[5]
คณะผู้บริหารแก้ไข
บริษัท เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มีคณะผู้บริหารชุดปัจจุบัน ดังต่อไปนี้[1]
- ปิติ สิทธิอำนวย - ประธานกรรมการ
- ประชุม มาลีนนท์ - กรรมการ
- แคทลีน มาลีนนท์ - กรรมการ
- ไบรอัน ลินด์เซย์ มาร์การ์ - กรรมการผู้จัดการ
- ประวิทย์ จิตนราพงศ์ - กรรมการอิสระ/กรรมการตรวจสอบ
- ชาญศักดิ์ เฟื่องฟู - กรรมการอิสระ/กรรมการตรวจสอบ
กลุ่มธุรกิจของบริษัทฯแก้ไข
บริษัท เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จำแนกประเภทของการประกอบธุรกิจ ออกเป็น 8 กลุ่มหลัก ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้
- กลุ่มธุรกิจโทรทัศน์ - ธุรกิจกลุ่มนี้ จำแนกเป็นคณะทำงานผลิตรายการโทรทัศน์ประเภทต่างๆ จำนวน 3 แผนกคือ บีอีซี-เทโร ดรามา (BEC-Tero Drama) ผลิตละครโทรทัศน์, บีอีซี-เทโร เทเลวิชัน (BEC-Tero Television) ผลิตรายการดนตรี ปกิณกะ เกมโชว์ การศึกษา สอนภาษาอังกฤษ กีฬา และ บีอีซี-เทโร นิวส์ (BEC-Tero News) ผลิตรายการข่าว นอกจากนี้ ยังผลิตรายการพิเศษในโอกาสต่างๆ เช่นรายการโฆษณาการแสดง/คอนเสิร์ต หรือถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล ทั้งในและต่างประเทศ เป็นต้น[1]
- กลุ่มธุรกิจจัดหารายการแสดงและจัดกิจกรรม - ธุรกิจกลุ่มนี้ จำแนกเป็นช่วงวัยของผู้ชม 3 กลุ่มคือ กิจกรรมสำหรับครอบครัว (Family Events) เช่นการแสดงของดิสนีย์ หรือการแสดงมายากล, กิจกรรมสำหรับเยาวชน (Youth Events) เช่นการแสดงคอนเสิร์ต ของศิลปินเพลงสมัยใหม่ จากต่างประเทศ และ กิจกรรมร่วมสมัยสำหรับผู้ใหญ่ (Adult Contemporary) เช่นการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ หรือการแสดงคอนเสิร์ต ของศิลปินเพลงยุคอดีต จากต่างประเทศ[1]
- กลุ่มธุรกิจวิทยุกระจายเสียง - ธุรกิจกลุ่มนี้ มีการก่อตั้ง บริษัท บีอีซี-เทโร เรดิโอ จำกัด ขึ้นอยู่ในเครือเทโรฯ เพื่อดำเนินการผลิต รายการวิทยุตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันมีสัมปทานอยู่ใน 3 คลื่นความถี่ คือเอฟเอ็ม 95.5 เมกะเฮิร์ตซ์ เวอร์จินฮิตซ์ (Virgin Hitz) ปัจจุบันชื่อว่า Hitz 955 (ฮิตซ์ เก้าห้าห้า) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545, เอฟเอ็ม 98.0 เมกะเฮิร์ตซ์ เวอร์จิ้นสตาร์ (Virgin Star) ปัจจุบันชื่อ Star FM. (สตาร์ เอฟเอ็ม) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 และเอฟเอ็ม 105.5 เมกะเฮิร์ตซ์ อีซีเอฟเอ็ม (Eazy FM) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 นอกจากนี้ ยังดำเนินการส่งวิทยุกระจายเสียง ผ่านออนไลน์ทางเว็บไซต์ www.becteroradio.com ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 อีกจำนวน 3 ช่องรายการคือ แร็ดเรดิโอ (Rad Radio), ร็อกออนเรดิโอ (Rock on Radio) และ โตฟุป๊อปเรดิโอ (Tofu Pop Radio) ซึ่งผู้ฟังสามารถสื่อสารกับนักจัดรายการวิทยุ ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งสามารถเข้าใช้ด้วยสมาร์ตโฟน และแอปพลิเคชันสำหรับสมาร์ตโฟน[6]
- กลุ่มธุรกิจดนตรี - ธุรกิจกลุ่มนี้ มีการก่อตั้ง บริษัท บีอีซี-เทโร มิวสิก จำกัด ขึ้นอยู่ในเครือเทโรฯ เพื่อรับสิทธิในการบริหารลิขสิทธิ์ และจัดจำหน่ายงานดนตรี รวมถึงการประชาสัมพันธ์ศิลปิน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในสังกัดโซนีมิวสิก, วายจีเอ็นเตอร์เทนเมนต์, ฮอตเท็ต และเบเกอรีมิวสิก ทั้งร่วมผลิตผลงานดนตรี และบริหารศิลปินในสังกัดเลิฟอีส นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการเว็บไซต์ www.qikplay.com เพื่อจำหน่ายเพลงไทยสากล และเพลงสากลในรูปไฟล์ดิจิทัล และจำหน่ายของที่ระลึกจากศิลปิน[3]
- ธุรกิจบริการบัตรผ่านประตู - ธุรกิจกลุ่มนี้ มีการก่อตั้ง บริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด ซึ่งเกิดจากเทโรฯ เข้าร่วมทุนกับกลุ่มเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เมื่อปี พ.ศ. 2542 เพื่อให้บริการรับจอง และจำหน่ายบัตรผ่านประตู อย่างครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย[7] โดยมีสาขาจำหน่ายบัตร ซึ่งดำเนินการเอง มากกว่า 300 แห่ง ทั้งมีสาขาร่วมกับธุรกิจอื่น เช่นศูนย์การค้า, ห้างสรรพสินค้า, โรงภาพยนตร์ หรือที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีระบบจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.thaiticketmajor.com, ศูนย์โทรศัพท์ (Call Center) และโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Wap)[3]
- ธุรกิจภาพยนตร์ - ธุรกิจกลุ่มนี้ มีการก่อตั้ง บริษัท ฟิล์มบางกอก จำกัด ขึ้นอยู่ในเครือเทโรฯ ร่วมกับอดิเรก วัฏลีลา ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทย เพื่อดำเนินการผลิต และจำหน่ายภาพยนตร์ไทย ซึ่งมีผลงานที่โดดเด่น คือเรื่องเพชฌฆาตเงียบอันตราย (Bangkok Dangerous) และเรื่องบางระจัน[1] โดยทั้งสองเรื่อง ออกฉายเมื่อปี พ.ศ. 2543[1] แต่เมื่อปี พ.ศ. 2546 อดิเรกประกาศยุติการผลิตภาพยนตร์ของฟิล์มบางกอกลง เนื่องจากกระแสผู้ชมไม่ให้ความสนใจ ภาพยนตร์ซึ่งใช้ทุนสร้างมหาศาล ดังเช่นยุคก่อน จึงก่อตั้งค่ายภาพยนตร์ใหม่ชื่อ เฉลิมไทยสตูดิโอ เพื่อผลิตภาพยนตร์แนวตลาดโดยเฉพาะ[8]
- กลุ่มธุรกิจกีฬา - ธุรกิจกลุ่มนี้ ดำเนินกิจการในสถานะของ ผู้จัดรายการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ เช่นเทนนิสรายการไทยแลนด์โอเพน ของสมาคมเทนนิสอาชีพ (Association of Tennis Professionals; ATP), ตะกร้อรายการซูเปอร์ซีรีส์ ของสหพันธ์ตะกร้อนานาชาติ (International Sepaktakraw Federation; ISTAF) รวมทั้งรับจ้างเป็นผู้จัดกิจกรรมเชิงกีฬา ให้แก่หน่วยงานและองค์กรต่างๆ เช่นการแข่งขันโปโลคิงส์คัพ เป็นต้น[1] นอกจากนี้ยังโดยดำเนินการพัฒนา มาตรฐานของนักฟุตบอลไทย ร่วมกับ สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล ในพรีเมียร์ลีกด้วย[3]
- กลุ่มธุรกิจและบริการอื่น - นอกเหนือจากธุรกิจกลุ่มหลัก ดังกล่าวข้างต้นแล้ว เทโรฯ ยังดำเนินกิจการอื่นอีกคือ บริการจัดทำโฆษณาประชาสัมพันธ์, รับจ้างบริการประชาสัมพันธ์ทั่วไป, รับจ้างผลิตและจัดกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งดำเนินงานการกุศล ภายใต้ชื่อ บีอีซี-เทโร แคร์ (BEC-Tero Care) นอกจากนี้ ยังจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ ประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณด้วย[1]
บริษัทลูกแก้ไข
ตัวเลขในวงเล็บ ข้างท้ายชื่อบริษัท หมายถึงอัตราร้อยละ ที่เทโรฯ ถือหุ้นของบริษัทดังกล่าว[4]
- บริษัท บีอีซี-เทโร เรดิโอ จำกัด (99.99)
- บริษัท บีอีซี-เทโร เมียนมาร์ จำกัด (99.99)
- บริษัท บีอีซี-เทโร แอ๊พพ์ (40.00)
บริษัทร่วมทุนแก้ไข
ตัวเลขในวงเล็บ ข้างท้ายชื่อบริษัท หมายถึงอัตราร้อยละ ที่เทโรฯ ถือหุ้นของบริษัทดังกล่าว[4]
- บริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด (59.99) ร่วมทุนกับ บริษัท เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ไอเอ็มจี บีอีซี-เทโร สปอร์ตส แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (51.00) ร่วมทุนกับ อินเตอร์เนชันแนล แมเนจเมนต์ กรุ๊ป (International Management Group; IMG) สหรัฐอเมริกา
- บริษัท บีอีซี-เทโร ทรูวิชันส์ จำกัด (50.00) ร่วมทุนกับ บริษัท ทรูวิชันส์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ฟอร์เอฟเวอร์ บีอีซี-เทโร จำกัด (49.00) ร่วมทุนกับ ฟอร์เอฟเวอร์กรุ๊ป (Forever Group) สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เพื่อผลิตรายการโทรทัศน์ ประเภทข่าวและสาระบันเทิง เป็นภาษาพม่า ออกอากาศทางช่องเอ็มอาร์ทีวี-4 และ ของเมียนมาร์[3]
บริษัทร่วมดำเนินธุรกิจแก้ไข
- บริษัท ไร่ส้ม จำกัด
- บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด
- บริษัท สปอร์ตทิปส์ จำกัด
ละครโทรทัศน์แก้ไข
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 1.6 1.7 เกี่ยวกับเรา ในเว็บไซต์ บีอีซี-เทโรฯ
- ↑ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรบีอีซี-เทโร ศาสน
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 เกี่ยวกับเรา ในเว็บไซต์ บีอีซี-เทโร ทรูวิชันส์
- ↑ 4.0 4.1 4.2 โครงสร้างกลุ่มบริษัท บีอีซีเวิลด์ จากเว็บไซต์ บีอีซีเวิลด์
- ↑ "ช่อง 3 ตัดสินใจขาย "บีอีซี-เทโร" ทั้งหมดให้กับ "ไบร์อัน ลินด์เซ มาร์การ์" ในราคา 15 ล้านบาท". ส่องสื่อ. 8 ธันวาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 9 ธันวาคม 2563. Check date values in:
|access-date=, |date=
(help) - ↑ เกี่ยวกับเรา ในเว็บไซต์ บีอีซี-เทโร เรดิโอ
- ↑ เกี่ยวกับเรา ในเว็บไซต์ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์
- ↑ อังเคิล ปิดฟิล์มบางกอก หลังทำภาพยนตร์หลายเรื่องแล้วเจ๊ง, 2 ตุลาคม 2546, สยามโซนดอตคอม.