กฤษณ์ สีวะรา
พลเอก กฤษณ์ สีวะรา (25 มีนาคม พ.ศ. 2457 - 23 เมษายน พ.ศ. 2519) เป็นนายทหารชาวไทย และนักการเมือง อดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตแม่ทัพภาคที่ 1 รัฐมนตรีหลายกระทรวง อดีตเลขาธิการคณะปฏิวัติผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ 14 ตุลา ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความสงบ[2] ภายหลังการลาออกจากทุกตำแหน่งและ เดินทางออกนอกประเทศของ 3 ทรราช และอดีตราชองค์รักษ์พิเศษ
กฤษณ์ สีวะรา | |
---|---|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม | |
ดำรงตำแหน่ง 19 ธันวาคม พ.ศ. 2515 – 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 | |
นายกรัฐมนตรี | จอมพล ถนอม กิตติขจร |
ก่อนหน้า | พลโท พงษ์ ปุณณกันต์ |
ถัดไป | โอสถ โกศิน |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม | |
ดำรงตำแหน่ง 21 เมษายน พ.ศ. 2519 – 23 เมษายน พ.ศ. 2519 | |
นายกรัฐมนตรี | หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช |
ก่อนหน้า | พลตรี ประมาณ อดิเรกสาร |
ถัดไป | พลเอก ทวิช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา |
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ | |
ดำรงตำแหน่ง 9 มีนาคม พ.ศ. 2512 – 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2513 | |
นายกรัฐมนตรี | จอมพล ถนอม กิตติขจร |
ก่อนหน้า | น้อม อุปรมัย |
ถัดไป | อภัย จันทวิมล |
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด | |
ดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2517 – 30 กันยายน พ.ศ. 2518 | |
ก่อนหน้า | พลอากาศเอก ทวี จุลละทรัพย์ |
ถัดไป | พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ |
ผู้บัญชาการทหารบก | |
ดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2516 – 30 กันยายน พ.ศ. 2518 | |
ก่อนหน้า | จอมพล ประภาส จารุเสถียร |
ถัดไป | พลเอก บุญชัย บำรุงพงศ์ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 25 มีนาคม พ.ศ. 2457 จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 23 เมษายน พ.ศ. 2519 (62 ปี) กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | พรรคสหประชาไทย (2511–2514) |
คู่สมรส | คุณหญิงสุหร่าย สีวะรา |
บุตร | 9 คน |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | ไทย |
สังกัด | กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบกไทย กองทัพเรือไทย กองทัพอากาศไทย |
ประจำการ | พ.ศ. 2477 - 2518 |
ยศ | พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก[1] |
บังคับบัญชา | กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบกไทย |
ประวัติ
แก้ชีวิตส่วนตัว
แก้พล.อ. กฤษณ์ ชื่อเกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2457 เป็นบุตรชาย คนที่ 2 จากจำนวน 9 คน ของ ร.ต. ชิต และนางละมุล สีวะรา เดิมที พล.อ. กฤษณ์ เคยเปลี่ยน 4 ครั้ง คือ[3]
- ละออ สีวะรา
- บุญชุบ สีวะรา เมื่ออายุ 2 ปี
- กริสน์ สีวะรา เปลี่ยนเมื่อ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 ครองยศ"ร้อยเอก"ในขณะนั้น
- กฤษณ์ สีวะรา เปลี่ยนเมื่อ 23 พฤจิกายน พ.ศ. 2492 ครองยศ"พันโท"ในขณะนั้น
พล.อ. กฤษณ์ เคยสมรสกับนางสวาท สีวะรา หลังจบสงครามมหาเอเชียบูรพา กฤษณ์ก็แยกทางกัน ต่อมาก็สมรสกับคุณหญิงสุหร่าย สีวะรา (สกุลเดิม ลิ้มเจริญ) มีบุตรธิดา 9 คน
จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนมหาดเล็กหลวง (วชิราวุธวิทยาลัย) และโรงเรียนเทพศิรินทร์ จากนั้นในปี พ.ศ. 2474 ได้เข้าเรียนในโรงเรียนนายร้อยทหารบกด้วยการสอบได้เป็นที่ 1 จบการศึกษาในปี พ.ศ. 2479 และได้รับพระราชทานยศร้อยตรีเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2479
ก่อนรับราชการ
แก้- พ.ศ. 2459 - โรงเรียนสีตบุตรบำรุง
- พ.ศ. 2462 - โรงเรียนวัดสามจีน (โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัยในปัจจุบัน [5])
- พ.ศ. 2464 - โรงเรียนนายร้อยชั้นปฐม
- พ.ศ. 2467 - โรงเรียนมหาดเล็กหลวง (วชิราวุธวิทยาลัย)
- พ.ศ. 2468 - โรงเรียนเทพศิรินทร์
- พ.ศ. 2475 - โรงเรียนนายร้อยทหารบก (โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าในปัจจุบัน)
หลังรับราชการ
แก้- พ.ศ. 2489 - สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทหารราบ ชั้นผู้บังคับกองร้อย
- พ.ศ. 2495 - สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทหารราบ ชั้นผู้บังคับกองพัน รุ่นที่ 1
- พ.ศ. 2499 - สำเร็จการอบรมหลักสูตรการรบร่วม
- พ.ศ. 2502 - สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยการทัพบก รุ่นที่ 1
- พ.ศ. 2503 - สำเร็จอบรมหลักสูตรทำความคุ้นเคยอาวุธใหม่ ณ ค่ายบลิส กองทัพบกสหรัฐ
- พ.ศ. 2504 - สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 3
การทำงาน
แก้จากนั้นชีวิตราชการของ พล.อ. กฤษณ์ สีวะราเติบโตขึ้นมาเป็นลำดับในกองทัพภาคที่ 1 (และเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ด้วยในช่วงหนึ่ง) จนกระทั่งได้เป็นแม่ทัพภาคในปี พ.ศ. 2506 [6] และขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการทหารบกในปี พ.ศ. 2509 [7] จากนั้นในรัฐบาลจอมพล ถนอม กิตติขจรได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม[8] และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมตามลำดับและเป็นสมาชิกวุฒิสภาอีกตำแหน่งด้วย
ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผบ.ทบ. ต่อจากจอมพล ประภาส จารุเสถียร ที่ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ทสส. เพียงตำแหน่งเดียว [9]
พล.อ. กฤษณ์ สีวะรา เป็นบุคคลแรกในกองทัพที่ปฏิเสธไม่รับตำแหน่งจอมพลจนถือเป็นประเพณีปฏิบัติตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลาเป็นต้นมาไม่มีการแต่งตั้งนายทหารยศจอมพลในประเทศไทยอีกโดยพล.อ.กฤษณ์ขอรับพระราชทานแค่ยศ พลเรือเอก และ พลอากาศเอก พร้อมกับ พล.อ. สุรกิจ มัยลาภ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2516 [10]
หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา พล.อ. กฤษณ์ ได้เป็นรักษาการผบ.ทสส. จนกระทั่งเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. 2518 และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ในปี พ.ศ. 2519[11] แต่หลังจากรับตำแหน่งได้ไม่นาน ก็ถึงแก่อนิจกรรมอย่างกะทันหันที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2519 โดยสาเหตุการถึงแก่อนิจกรรมยังคงเป็นที่สงสัย เพราะก่อนหน้านั้น พล.อ. กฤษณ์ ได้เล่นกอล์ฟและรับประทานข้าวเหนียวมะม่วงเพียงเท่านั้น
พล.อ. กฤษณ์ สีวะรา มีผลงานสำคัญในขณะดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2, ผบ.ทบ. และรักษาราชการ ผบ.ทสส. ได้พยายามมอบนโยบายแก่ผู้บังคับบัญชาของกองทัพภาคที่ 2 เพื่อหาทางวางกำลังทหารที่จังหวัดสกลนคร ทำให้มีหน่วยทหารเข้ามาตั้งในพื้นที่เพื่อทำการปราบปรามผู้ก่อการร้ายจนเป็นที่ยำเกรงของอริราชศัตรู ทำให้ประชาชนได้รับความอบอุ่นโดยทั่วกัน กองทัพบกจึงได้อนุมัติให้ตั้งชื่อค่ายกองพันที่ 1 กรมทหารราบที่ 3 (ร.3. พัน.1) จ.สกลนคร ว่า "ค่ายกฤษณ์สีวะรา" เพื่อเป็นอนุสรณ์
เหตุการณ์ทางการเมือง
แก้เหตุการณ์ 14 ตุลา
แก้พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร กล่าวในปี พ.ศ. 2546 ว่า พล.อ. กฤษณ์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารหมู่นิสิต นักศึกษา และประชาชนในการชุมนุม แต่ก็เป็นการชี้แจงหลังเกิดเหตุมาเกือบ 30 ปี และเป็นการชี้แจงเพียงฝ่ายเดียวโดยที่ฝ่ายครอบครัวของทาง พล.อ. กฤษณ์ มิได้มีโอกาสชี้แจงกลับ คำกล่าวของ พ.อ. ณรงค์ ขัดแย้งกับ นายโอสถ โกศิน อดีตรัฐมนตรีที่ใกล้ชิดกับ พล.อ. กฤษณ์ ซึ่งระบุว่า พล.อ. กฤษณ์ เป็นบุคคลสำคัญที่ไม่ยอมให้มีการปฏิบัติการขั้นรุนแรงแก่นักศึกษา อย่างไรก็ตามเขาเป็น ผู้อำนวยการรักษาความปลอดภัยของประเทศ ในช่วงที่ 3 ทรราช ลี้ภัยไปต่างประเทศ โดยข้อเท็จจริงภายหลังเขาควบคุมสถานการณ์เหตุการณ์ก็เริ่มคลี่คลายลง
เหตุการณ์ 6 ตุลา
แก้แม้ว่า พล.อ. กฤษณ์ จะเสียชีวิตไปก่อนเหตุการณ์ดังกล่าว แต่มีการวิเคราะห์ว่าการเสียชีวิตอย่ามีเงื่อนงำของ พล.อ. กฤษณ์ เป็นหนึ่งในชนวนเหตุที่ทำให้เกิดการปราบปรามนักศึกษาและประชาชนจนเป็นเหตุการณ์นองเลือดในเหตุการณ์ 6 ตุลา เพราะเปิดโอกาสให้ทหารฝ่ายขวาได้ครองอำนาจในกองทัพ
การเสียชีวิต
แก้พล.อ. กฤษณ์เสียชีวิต เพราะ“ข้าวเหนียวมะม่วง” ขณะนั้นเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลผสม ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี
“…การเจ็บป่วยด้วยโรคท้องเฟ้อ อันสืบเนื่องมาแต่การรับประทานข้าวเหนียว มะม่วง จนถึงขั้นเกิดโรคแทรกซ้อนเป็นโรคหัวใจขาดเลือด การเข้าโรงพยาบาลพระมงกุฏ ฯ อย่างกระทันหัน เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2519 การตรวจวินิจฉัยโรคโดยนายแพทย์แห่งโรงพยาบาลดังกล่าว และแถลงว่าอาการ ป่วยดีขึ้นเป็นลำดับ แต่แล้วก็ทรุดหนักลงในเวลาเพียง 6 - 7 วัน และถึงแก่อนิจกรรม เช้ามืดวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2519 เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าเหตุไฉน……” [12]
ค่ายกฤษณ์สีวะรา
แก้เนื่องจาก พล.อ. กฤษณ์ สีวะรา ซึ่งก่อนถึงแก่อสัญกรรม เคยดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้มองการณ์ไกลในการป้องกันประเทศ และได้พิจารณาเห็นว่า จ.สกลนคร เป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ จึงได้มอบหมายให้แก่ผู้บังคับบัญชา ในกองทัพภาคที่ 2 หาแนวทางในการวางกำลังทหาร ในพื้นที่เพื่อทำการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ จนทำให้ประชาชนได้รับความอบอุ่นนับได้ว่า พล.อ. กฤษณ์ สีวะรา เป็นนักการทหารที่มีสายตากว้างไกล สามารถคาดการณ์ได้ถูกต้องแม่นยำ ในขณะที่ พล.อ. กฤษณ์ สีวะรา ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ได้กรุณาให้การสนับสนุนการก่อสร้าง และจัดตั้งหน่วย จังหวัดทหารบกอุดร (ส่วนแยกที่ 1 สกลนคร) และกองพันทหารราบที่ 1 กรมผสมที่ 3 ในขณะนั้นอย่างดียิ่ง จนค่ายทหารแห่งนี้ สามารถจัดตั้งเป็นปึกแผ่น เป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศ และเป็นที่ยำเกรงของอริราชศัตรู
ในทางการเมือง พล.อ. กฤษณ์ สีวะรา เคยดำรงตำแหน่งในระดับสูงของรัฐบาลมาแล้วหลายยุคหลายสมัยในด้านความสามารถและความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับแก่ประชาชนทั่วไป ตลอดทั้งพี่น้องชาวจ.สกลนครเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ พล.อ. กฤษณ์ สีวะรา ซึ่งได้ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว และเพื่อเป็นมิ่งขวัญ เป็นความภาคภูมิใจแก่เหล่าทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ ณ จ.สกลนคร กองทัพภาคที่ 2 จึงได้ขอพระราชทานนามค่ายนี้ว่า "ค่ายกฤษณ์สีวะรา" และเมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรด ฯ พระราชทานนามว่า "ค่ายกฤษณ์สีวะรา" เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้พลเอก กฤษณ์ สีวะรา ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของไทยและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศต่างๆ ดังนี้
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
แก้- พ.ศ. 2509 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[13]
- พ.ศ. 2506 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[14]
- พ.ศ. 2511 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) (ฝ่ายหน้า)[15]
- พ.ศ. 2505 – เหรียญชัยสมรภูมิ สงครามมหาเอเชียบูรพา (ช.ส.)[16]
- พ.ศ. 2517 – เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 1 (ส.ช.)[17]
- พ.ศ. 2477 – เหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ (พ.ร.ธ.)[18]
- พ.ศ. 2511 – เหรียญราชการชายแดน (ช.ด.)[19]
- พ.ศ. 2490 – เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)[20]
- พ.ศ. 2493 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8 ชั้นที่ 4 (อ.ป.ร.4)[21]
- พ.ศ. 2496 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 3 (ภ.ป.ร.3)[22]
- พ.ศ. 2468 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 (ร.ร.ศ.7)
- พ.ศ. 2493 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 (ร.ร.ศ.9)
- พ.ศ. 2475 – เหรียญเฉลิมพระนคร 150 ปี (ร.ฉ.พ.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฎ – เหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 (เหรียญทอง)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
แก้- มาเลเซีย :
- เบลเยียม :
- ไต้หวัน :
- พ.ศ. 2510 – เครื่องอิสริยาภรณ์ยุนฮุย ชั้นที่ 3 (พิเศษ)[25]
- พ.ศ. 2512 – เครื่องอิสริยาภรณ์เมฆและธวัช ชั้นที่ 2
- เอธิโอเปีย :
- เกาหลีใต้ :
- เวียดนามใต้ :
- สหราชอาณาจักร :
- พ.ศ. 2515 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จักรวรรดิบริติช ชั้นทุติยาภรณ์ (ฝ่ายทหาร) (KBE)
- อินโดนีเซีย :
- ฟิลิปปินส์ :
- พ.ศ. 2518 – ลีเจียนออฟออเนอร์ ชั้นผู้บังคับบัญชา
อ้างอิง
แก้- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร
- ↑ แต่งตั้งผู้อำนวยการรักษาความสงบ
- ↑ ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ พลเอก กฤษณ์ สีวะรา ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม 2519
- ↑ หนังสือที่ระลึกงานฌาปนกิจ พลเอก กฤษณ์ สีวะรา 25 ธันวาคม 2519
- ↑ ประวัติโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (พลเอก กฤษณ์ สีวะรา พลตำรวจโท พิชัย กุลละวณิชย์ นายมนูญ บริสุทธิ์ นายอภัย จันทวิมล นายประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์)
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 90 ตอน 115 ง พิเศษ หน้า 2 13 กันยายน พ.ศ. 2516
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 90 ตอน 173 ง พิเศษ หน้า 15 25 ธันวาคม พ.ศ. 2516
- ↑ "พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน 35 ราย)" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-27. สืบค้นเมื่อ 2012-07-26.
- ↑ รายงาน “ใครฆ่ากฤษณ์ สีวะรา? ปกปักษ์ทางการเมือง-การทหาร” โดยนาย กังหัน หน้า 4 หนังสือพิมพ์สหมิตร ฉบับตะวันใหม่ ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2521
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-10-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เล่ม ๘๓ ตอนที่ ๑๑๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๒, ๑๙ ธันวาคม ๒๕๐๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-12-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๘๐ ตอนที่ ๑๒๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๑, ๒๗ ธันวาคม ๒๕๐๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-08-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๘๕ ตอนที่ ๔๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๔, ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๑๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ เก็บถาวร 2022-06-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๗๙ ตอนที่ ๘๓ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒, ๘ กันยายน ๒๕๐๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน เก็บถาวร 2022-10-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๙๑ ตอนที่ ๓๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๑, ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, บัญชีรายนามผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เก็บถาวร 2022-05-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๕๑ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๑๘๑, ๗ ตุลาคม ๒๔๗๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญราชการชายแดน เก็บถาวร 2022-05-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๘๕ ตอนที่ ๘๙ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒, ๓ ตุลาคม ๒๕๑๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา เก็บถาวร 2022-10-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๖๔ ตอนที่ ๖๑ ง หน้า ๓๓๓๑, ๑๖ ธันวาคม ๒๔๙๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ ๘ เก็บถาวร 2022-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๖๗ ตอนที่ ๕๖ ง หน้า ๕๒๔๐, ๑๗ ตุลาคม ๒๔๙๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ เก็บถาวร 2022-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๗๐ ตอนที่ ๗๖ ง หน้า ๕๑๘๖, ๘ ธันวาคม ๒๔๙๖
- ↑ SENARAI PENUH PENERIMA DARJAH KEBESARAN, BINTANG DAN PINGAT PERSEKUTUAN TAHUN 1964.
- ↑ "Semakan Penerima Darjah Kebesaran, Bintang dan Pingat Persekutuan". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-07-19. สืบค้นเมื่อ 2017-06-10.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม 84 ตอนที่ 73 หน้า 2237, 8 สิงหาคม 2510
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- ประวัติจากเว็บไซต์กองทัพบก เก็บถาวร 2009-03-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ณรงค์โยนพล.อ.กฤษณ์ ต้นเหตุความรุนแรง14ต.ค. เก็บถาวร 2011-01-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน