อาณาจักรสุโขทัย

อาณาจักรแรกเริ่มในพื้นที่รอบเมืองสุโขทัย ในภาคกลางตอนบนของไทย
(เปลี่ยนทางจาก ยุคสุโขทัย)

อาณาจักรสุโขทัย[1] (ราว พ.ศ. 1781 – 2117 อายุราว 236 ปี )[2] เป็นรัฐในอดีตรัฐหนึ่ง ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำยม สถาปนาขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 18 ในฐานะสถานีการค้าของรัฐละโว้ หลังจากนั้นราวปี 1782 พ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมืองได้ร่วมกันกระทำการยึดอำนาจจากขอมสบาดโขลญลำพงเป็นผลสำเร็จ และได้สถาปนาเอกราชให้รัฐสุโขทัยเป็นอาณาจักรสุโขทัย และมีความเจริญรุ่งเรืองตามลำดับและเพิ่มถึงขีดสุดในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ก่อนจะค่อย ๆ ตกต่ำ และประสบปัญหาทั้งจากปัญหาภายนอกและภายใน จนต่อมาถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาไปในที่สุด

อาณาจักรสุโขทัย

พ.ศ. 1700–พ.ศ. 2117
ตราแผ่นดินของสุโขทัย
ตราแผ่นดิน
แผนที่อาณาจักรสุโขทัยช่วงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช (สีนํ้าเงินเข้ม)
แผนที่อาณาจักรสุโขทัยช่วงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช (สีนํ้าเงินเข้ม)
เมืองหลวงสุโขทัย
พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ส่วนหนึ่ง
ภาษาทั่วไปไม่ทราบ (พ.ศ. 1700–รัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง)
ไทย (รัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง–พ.ศ. 2017)
การปกครองพ่อปกครองลูก (สมัยตอนต้นจนถึงสมัยตอนปลาย)
ธรรมราชา (สมัยตอนปลายจนถึง พ.ศ. 2117)
พระมหากษัตริย์ 
• 1700–1724
พ่อขุนศรีนาวนำถุม
• 1781–1813
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
• 1822–1842
พ่อขุนรามคำแหง
• 1842–1866
พระยาเลอไทย
• 1866–1890
พระยางั่วนำถุม
• 1890–1911
พระมหาธรรมราชาที่ 1
• 1911–1942
พระมหาธรรมราชาที่ 2
• 1962 - 1981
พระมหาธรรมราชาที่ 4
ประวัติศาสตร์ 
• สถาปนา
พ.ศ. 1700
• การปกครองโดยราชวงศ์พระร่วง
พ.ศ. 1780
พ.ศ. 1921
• เป็นรัฐร่วมประมุขกับกรุงศรีอยุธยา
พ.ศ. 1981
• เป็นประเทศราชของล้านนา
พ.ศ. 2011
• ถูกผนวกเข้ากับกรุงศรีอยุธยาแล้วสิ้นสุดลง
พ.ศ. 2117
ก่อนหน้า
ถัดไป
อาณาจักรละโว้
อาณาจักรอยุธยา
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ ไทย
 พม่า
 ลาว

ที่ตั้งและอาณาเขต

อาณาจักรสุโขทัย ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าผ่านคาบสมุทรระหว่างอ่าวเมาะตะมะและที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงตอนกลาง มีอาณาเขตดังนี้[3]

  1. ทิศเหนือ มีเมืองแพร่ (ปัจจุบันคือแพร่) เป็นเมืองปลายแดนด้านเหนือสุด
  2. ทิศใต้ มีนครสวรรค์ (ปัจจุบันคือนครสวรรค์) เป็นเมืองปลายแดนด้านใต้
  3. ทิศตะวันตก มีเมืองฉอด (ปัจจุบันคือแม่สอด) เป็นเมืองชายแดนที่จะติดต่อเข้าไปยังอาณาจักรมอญ
  4. ทิศตะวันออก มีเมืองสะค้าใกล้แม่น้ำโขงในเขตภาคอีสานตอนเหนือ

การแทรกแซงจากอยุธยา

หลังจากพ่อขุนรามคำแหงแล้ว เมืองต่างๆเริ่มอ่อนแอลงเมือง ส่งผลให้ในรัชกาลพญาเลอไท และรัชกาลพญาไสลือไท ต้องส่งกองทัพไปปราบหลายครั้งแต่มักไม่เป็นผลสำเร็จ และการปรากฏตัวขึ้นของอาณาจักรอยุธยาทางตอนใต้ซึ่งกระทบกระเทือนเสถียรภาพของสุโขทัยจนในท้ายที่สุดก็ถูกแทรกแทรงจากอยุธยา จนมีฐานะเป็นหัวเมืองของอยุธยาไปในที่สุด โดยมีพระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) เป็นผู้ปกครองสุโขทัยในฐานะรัฐอิสระพระองค์สุดท้าย โดยขณะนั้น ด้วยการแทรกแซงของอยุธยา รัฐสุโขทัยจึงถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ

  • เมืองสรวงสองแคว (พิษณุโลก) อันเป็นเมืองเอก มีพระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) เป็นผู้ปกครอง
  • เมืองสุโขทัย เมืองรอง มี พระยาราม เป็นผู้ปกครองเมือง
  • เมืองเชลียง (ศรีสัชนาลัย) มี พระยาเชลียง เป็นผู้ปกครองเมือง
  • เมืองชากังราว (กำแพงเพชร) มี พระยาแสนสอยดาว เป็นผู้ปกครองเมือง

หลังสิ้นรัชกาลพระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) พระยายุทธิษเฐียรซึ่งเดิมทีอยู่ศรีสัชนาลัย ได้เข้ามาครองเมืองสองแคว (พิษณุโลก) และเมื่อแรกที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เสด็จขึ้นผ่านพิภพ เป็นพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยา ปรากฏว่าขณะนั้นพระยายุทธิษเฐียรเกิดน้อยเนื้อต่ำใจที่ได้เพียงตำแหน่งพระยาสองแคว เนื่องด้วยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงเคยดำริไว้สมัยทรงพระเยาว์ว่า หากได้ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ จะชุบเลี้ยงพระยายุทธิษฐิระให้ได้เป็นพระร่วงเจ้าสุโขทัย พ.ศ. 2011 พระยายุทธิษฐิระจึงเอาใจออกห่างจากสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ไปขึ้นกับ พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ล้านนาในขณะนั้น เหตุการณ์นี้ส่งผลให้เกิดการเฉลิมพระนามกษัตริย์ล้านนาจากพระยาเป็นพระเจ้า เพื่อให้เสมอศักดิ์ด้วยกรุงศรีอยุธยา พระนามพระยาติโลกราช จึงได้รับการเฉลิมเป็นพระเจ้าติโลกราช

หลังจากที่พระยายุทธิษฐิระ นำสุโขทัยออกจากอยุธยาไปขึ้นกับล้านนา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถจึงเสด็จจากกรุงศรีอยุธยา กลับมาพำนัก ณ เมืองสรลวงสองแคว พร้อมทั้งสร้างกำแพงและค่ายคู ประตู หอรบ แล้วจึงสถาปนาขึ้นเป็นเมือง พระพิษณุโลกสองแคว เป็นราชธานีฝ่ายเหนือของอาณาจักรแทนสุโขทัย ในเวลาเจ็ดปีให้หลัง สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถจึงทรงตีเอาสุโขทัยคืนได้ แต่เหตุการณ์ทางเมืองเหนือยังไม่เข้าสู่ภาวะที่น่าไว้วางใจ จึงทรงตัดสินพระทัยพำนักยังนครพระพิษณุโลกสองแควต่อจนสิ้นรัชกาล ส่วนทางอยุธยานั้น ทรงได้สถาปนาสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 พระราชโอรส เป็นพระมหาอุปราช ดูแลอยุธยาและหัวเมืองฝ่ายใต้

ด้วยความที่เป็นคนละประเทศมาก่อน และมีสงครามอยู่ด้วยกัน ชาวบ้านระหว่างสุโขทัยและอยุธยา จึงมิได้ปรองดองเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จึงต้องแยกปกครอง โดยพระมหากษัตริย์อยุธยา จะทรงสถาปนาพระราชโอรส หรือพระอนุชา หรือพระญาติ อันมีเชื้อสายสุโขทัย ปกครองพิษณุโลกในฐานะราชธานีฝ่ายเหนือ และควบคุมหัวเมืองเหนือทั้งหมด

การสิ้นสุด

พ.ศ. 2127 หลังจากชนะศึกที่แม่น้ำสะโตงแล้ว พระนเรศวรโปรดให้เทครัวหัวเมืองเหนือทั้งปวง (เมืองพระพิษณุโลกสองแคว เมืองสุโขทัย เมืองพิชัย เมืองสวรรคโลก เมืองกำแพงเพชร เมืองพิจิตร และเมืองพระบาง)[4] ลงมาไว้ที่อยุธยา เพื่อเตรียมรับศึกใหญ่ พิษณุโลกและหัวเมืองเหนือทั้งหมดจึงกลายเป็นเมืองร้าง หลังจากเทครัวไปเมืองใต้ จึงสิ้นสุดการแบ่งแยกระหว่างชาวเมืองเหนือ กับชาวเมืองใต้ และถือเป็นการสิ้นสุดของรัฐสุโขทัยโดยสมบูรณ์ เพราะหลังจากนี้ 8 ปี พิษณุโลกได้ถูกฟื้นฟูอีกครั้ง แต่ถือเป็นเมืองเอกในราชอาณาจักร มิใช่ราชธานีฝ่ายเหนือ

ในด้านวิชาการ มีนักวิชาการหลายท่านได้เสนอเพิ่มว่า เหตุการณ์อีกประการ อันทำให้ต้องเทครัวเมืองเหนือทั้งปวงโดยเฉพาะพิษณุโลกนั้น อยู่ที่เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ บนรอยเลื่อนวังเจ้า ในราวพุทธศักราช 2127 แผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลให้ตัวเมืองพิษณุโลกราพณาสูญ แม้แต่แม่น้ำแควน้อย ก็เปลี่ยนเส้นทางไม่ผ่านเมืองพิษณุโลก แต่ไปบรรจบกับแม่น้ำโพ (ปัจจุบันคือแม่น้ำน่าน) ที่เหนือเมืองพิษณุโลกขึ้นไป และยังส่งผลให้พระศรีรัตนมหาธาตุพิษณุโลก หักพังทลายในลักษณะที่บูรณะคืนได้ยาก ในการฟื้นฟูจึงกลายเป็นการสร้างพระปรางค์แบบอยุธยาครอบทับลงไปแทน ทั้งหมด

ความเจริญรุ่งเรือง

ด้านเศรษฐกิจ

สภาพเศรษฐกิจสมัยสุโขทัยเป็นระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม ดังข้อความปรากฏในหลักศิลาจารึกหลักที่ 1 "…ใครจักใคร่ค้าช้างค้า ใครจักใคร่ค้าม้าค้า ใครจักใคร่ค้าเงินค้า ทองค้า " และ "...เมืองสุโขทัยนี้ดี ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว..." ประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรรมด้วยระบบเกษตรกรรมแบบยังชีพ และส่งออกเครื่องถ้วยชามสังคโลก

ด้านสังคม

การใช้ชีวิตของผู้คนในสมัยสุโขทัยมีความอิสระเสรี มีเสรีภาพอย่างมากเนื่องจากผู้ปกครองรัฐให้อิสระแก่ไพร่ฟ้า และปกครองแบบพ่อกับลูก ดังปรากฏหลักฐานในศิลาจารึกว่า "…ด้วยเสียงพาทย์ เสียงพิณ เสียงเลื่อน เสียงขับ ใครจักมักเล่น เล่น ใครจักมักหัว หัว ใครจักมักเลื่อน เลื่อน…"

ด้านความเชื่อและศาสนา สังคมยุคสุโขทัยประชาชนมีความเชื่อทั้งเรื่องวิญญาณนิยม (Animism) ไสยศาสตร์ ศาสนาพราหมณ์ฮินดู และพุทธศาสนา ดังปรากฏหลักฐานในศิลาจารึกหลักที่ 1 ด้านที่ 5 ว่า "…เบื้องหัวนอนเมืองสุโขทัยนี้มีกุฎิวิหารปู่ครูอยู่ มีสรีดพงส์ มีป่าพร้าว ป่าลาง ป่าม่วง ป่าขาม มีน้ำโคก มีพระขระพุงผี เทพยาดาในเขาอันนั้นเป็นใหญ่กว่าทุกผีในเมืองนี้ ขุนผู้ใดถือเมืองสุโขทัยนี้แล้ว ไหว้ดีพลีถูก เมืองนี้เที่ยว เมืองนี้ดี ผิไหว้บ่ดี พลีบ่ถูก ผีในเขาอันนั้นบ่คุ้มบ่เกรง เมืองนี้หาย…"

ส่วนด้านศาสนา ได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนานิกายเถรวาทแบบลังกาวงศ์จากนครศรีธรรมราช ในวันพระ จะมีภิกษุเทศนาสั่งสอน ณ ลานธรรมในสวนตาล โดยใช้พระแท่นมนังคศิลาอาสน์ เป็นอาสนะสงฆ์ ในการบรรยายธรรมให้ประชาชนฟัง ยังผลให้ประชาชนในยุคนี้นิยมปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม มีการถือศีล โอยทานกันเป็นปกติวิสัย ทำให้สังคมโดยรวมมีความสงบสุขร่มเย็น

ด้านการปกครองของอาณาจักรสุโขทัย

อาณาจักรสุโขทัยปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ระยะ

  1. แบบปิตุราชาธิปไตย ในระยะแรกสุโขทัยมีการปกครองแบบพ่อปกครองลูก เรียกพระมหากษัตริย์ว่า "พ่อขุน" ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อที่จะต้องดูแลคุ้มครองลูก ในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช โปรดให้สร้างกระดิ่งแขวนไว้ที่หน้าประตูพระราชวัง เมื่อประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนก็ให้ไปสั่นกระดิ่งร้องเรียน พระองค์ก็จะเสด็จมารับเรื่องราวร้องทุกข์ และโปรดให้สร้างพระแท่นมนังคศิลาอาสน์ได้กลางดงตาล ในวันพระจะนิมนต์พระสงฆ์มาเทศน์สั่งสอนประชาชน หากเป็นวันธรรมดาพระองค์จะเสด็จออกให้ประชาชนเข้าเฝ้าและตัดสินคดีความด้วยพระองค์เอง การปกครองแบบนี้ปรากฏในสมัยกรุงสุโขทัยตอนต้น
  2. แบบธรรมราชา กษัตริย์ผู้ทรงธรรม ในสมัยของพระมหาธรรมราชาที่ ๑ มีกำลังทหารที่ไม่เข้มแข็ง ประกอบกับอาณาจักรอยุธยาที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ได้แผ่อิทธิพลมากขึ้น พระองค์ทรงเกรงภัยอันตรายจะบังเกิดแก่อาณาจักรสุโขทัย หากใช้กำลังทหารเพียงอย่างเดียว พระองค์จึงทรงนำหลักธรรมมาใช้ในการปกครอง โดยพระองค์ทรงเป็น แบบอย่างในด้านการปฏิบัติธรรม ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา นอกจากนั้นพระมหาธรรมราชาที่ ๑ ทรงพระราชนิพนธ์วรรณกรรมเรื่อง ไตรภูมิพระร่วง ที่ปรากฏแนวคิดแบบธรรมราชาไว้ด้วย การปกครองแบบนี้ใช้ในสมัยกรุงสุโขทัยตอนปลาย ตั้งแต่พระมหาธรรมราชาที่ 1 - 4

ด้านการปกครองส่วนย่อยสามารถแยกกล่าวเป็น 2 แนว ดังนี้

  • ในแนวราบ จัดการปกครองแบบพ่อปกครองลูก กล่าวคือผู้ปกครองจะมีความใกล้ชิดกับประชาชน ให้ความเป็นกันเองและความยุติธรรมกับประชาชนเป็นอย่างมาก เมื่อประชาชนเกิดความเดือดร้อนไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนกับพ่อขุนโดยตรงได้ โดยไปสั่นกระดิ่งที่แขวนไว้ที่หน้าประตูที่ประทับ ดังข้อความในศิลาจารึกปรากฏว่า "…ในปากประตูมีกระดิ่งอันหนึ่งไว้ให้ ไพร่ฟ้าหน้าใส…" นั่นคือเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถมาสั่นกระดิ่งเพื่อแจ้งข้อร้องเรียนได้

รายพระนามพระมหากษัตริย์และรายชื่อผู้ปกครอง

ลำดับ รายพระนาม ตำแหน่ง ราชวงศ์ ช่วงเวลา
ตำนานกล่าวว่า พ.ศ. 1043 พระยาพาลีราชแห่งอาณาจักรละโว้เป็นผู้ก่อตั้งเมืองสุโขทัย [6]
รัฐอิสระ
- พระยาพาลีราช เจ้าเมืองสุโขทัย - พ.ศ. 1043 [7] - ไม่ทราบปี
- พระยาอภัย [8] เจ้าเมืองศรีสัชนาลัย - ไม่ทราบปี
- พระอรุณกุมาร [9] เจ้าเมืองศรีสัชนาลัย - ไม่ทราบปี
- พระยาพสุจราช [10] เจ้าเมืองศรีสัชนาลัย - ไม่ทราบปี
- พระยาธรรมไตรโลก [11] เจ้าเมืองศรีสัชนาลัย - ไม่ทราบปี
- สมเด็จพระร่วงเจ้าบรมราชาธิราช [12] พระร่วงเจ้าสุโขทัย - พ.ศ. 1500 - พ.ศ. 1502 [13]
- พระยาศรีจันทราธิบดี [14] พระร่วงเจ้าสุโขทัย (อดีตภิกษุ) พ.ศ. 1502 [15] - ไม่ทราบปี
0 อีแดงเพลิง [16] พระร่วงเจ้าสุโขทัย - ไม่ทราบปี - พ.ศ. 1700
1 พ่อขุนศรีนาวนำถุม พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์นาวนำถุม พ.ศ. 1700 - 1724
2 ขอมสบาดโขลญลำพง พระร่วงเจ้าสุโขทัย ไม่ทราบแน่ชัด - พ.ศ. 1781
3 พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 1781 – 1811
4 พ่อขุนบานเมือง พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 1811 - 1822
5 พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 1822 – 1842
6 พญาไสสงคราม พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 1842
7 พระยาเลอไทย พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 1842 – 1866
8 พระยางั่วนำถุม พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 1866 – 1890
9 พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 1890 – 1911
10 พระมหาธรรมราชาที่ 2 (พญาลือไท) พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 1911 - 1921
รัฐบรรณาการอาณาจักรอยุธยา
10 พระมหาธรรมราชาที่ 2 (พญาลือไท) พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 1921 – 1942
11 พระมหาธรรมราชาที่ 3 (พญาไสลือไท) พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 1943 – 1962
12 พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 1962 – 1981
13 พระราเมศวร (สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ) พระร่วงเจ้าสุโขทัย ราชวงศ์สุพรรณภูมิ พ.ศ. 1981 - 1991
พ.ศ. 1991 - 2011 ไม่ได้แต่งตั้งพระร่วงเจ้าสุโขทัย สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถต้องการตัดอำนาจราชวงศ์พระร่วง จึงให้พระยายุทธิษฐิระเป็นเพียงพระยาสองแคว
รัฐบรรณาการอาณาจักรล้านนา
14 พระยายุทธิษฐิระ พระร่วงเจ้าสุโขทัยและศรีสัชนาลัย ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 2011 - 2017

เมืองพระพิษณุโลกสองแคว

ลำดับ รายพระนาม ตำแหน่ง ราชวงศ์ ช่วงเวลา
พ.ศ. 2011 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ รวมเมืองสรลวงสองแควและเมืองชัยนาท [17] เป็นเมืองพิษณุโลก และยกขึ้นเป็นศูนย์กลางอำนาจหัวเมืองเหนือแทนสุโขทัย
1 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยา ราชวงศ์สุพรรณภูมิ พ.ศ. 2011 - 2031
2 พระเชษฐาธิราช พระมหาอุปราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ราชวงศ์สุพรรณภูมิ พ.ศ. 2031 - 2034
3 พระอาทิตยวงศ์ (พระหน่อพุทธางกูร) พระมหาอุปราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ราชวงศ์สุพรรณภูมิ พ.ศ. 2034 - 2072
4 พระไชยราชา พระมหาอุปราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ราชวงศ์สุพรรณภูมิ พ.ศ. 2072 - 2077
พ.ศ. 2077 - 2091 ไม่ได้แต่งตั้งพระมหาอุปราช เนื่องจากพระราชโอรสของสมเด็จพระไชยราชาธิราชยังทรงพระเยาว์
5 สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้า เจ้าราชธานีฝ่ายเหนือ ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 2091 - 2111
พ.ศ. 2112 เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชลงมาครองกรุงศรีอยุธยา
6 พระนเรศวร [18][19] พระมหาอุปราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 2115 - 2133
7 สมเด็จพระเอกาทศรถ พระมหาอุปราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ราชวงศ์พระร่วง พ.ศ. 2133 - 2148
สมเด็จพระเอกาทศรถทรงยกเลิกตำแหน่งพระมหาอุปราชขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลก แต่ให้มาประทับที่พระราชวังจันทร์เกษม ในเกาะเมืองอยุธยาแทน

รายพระนามผู้ครองเมืองสุโขทัยและเมืองพิษณุโลกสองแคว


ระเบียงภาพ

อ้างอิงและหมายเหตุ

  1. "อาณาจักรสุโขทัย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-24. สืบค้นเมื่อ 2018-09-12.
  2. หนังสือเรียนประวัติศาสตร์
  3. "ที่ตั้งอาณาจักร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-06-05. สืบค้นเมื่อ 2009-04-25.
  4. พิเศษ เจียจันทร์พงษ์. พระมหาธรรมราชากษัตราธิราช. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน, พ.ศ. 2546. 184 หน้า. หน้า 57. ISBN 974-322-818-7
  5. หลวงวิจิตรวาทการชี้ ระบอบไพร่ทาสและศักดินา ต้นเหตุความเสื่อมโทรมของไทย ศิลปวัฒนธรรม สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม 2564
  6. ประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัย -- dwhistorythai.wordpress.com
  7. ศักราชอาจคลาดเคลื่อน เพราะพงศาวดารเหนือ ได้ระบุถึงพระนามผู้ปกครองที่สืบต่อมา จนถึงพ่อขุนศรีนาวนำถม อีกทั้งไม่ปรากฏพระนามพระยาพาลีราชตามหลักฐานอื่น ว่าเป็นผู้ปกครองอาณาจักรละโว้ในปีดังกล่าว
  8. ปรากฏพระนามในพงศาวดารเหนือ
  9. ปรากฏพระนามในพงศาวดารเหนือ
  10. ปรากฏพระนามในพงศาวดารเหนือ
  11. ปรากฏพระนามในพงศาวดารเหนือ
  12. เรียกอีกพระนามหนึ่งว่า "พระร่วงอรุณราช"
  13. โพสต์จาก Facebook ในชื่อบัญชี พลิก"ประวัติศาสตร์สุโขไท" เผยแพร่เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2556 (สืบค้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563)
  14. ปรากฏพระนามและปีครองราชย์ ในพงศาวดารเหนือ
  15. ปรากฏปีครองราชย์ในพงศาวดารเหนือ แต่ศักราชอาจจะคลาดเคลื่อน เพราะระบุว่า หลังสิ้นรัชกาลนี้แล้ว พ่อขุนศรีนาวนำถุมได้เป็นผู้ปกครองต่อ
  16. พบพระนามในจารึกวัดศรีชุม
  17. เมืองชัยนาทอยู่ฝั่งตรงข้ามเมืองสรลวงสองแควของแม่น้ำน่าน จังหวัดพิษณุโลก ไม่ใช่จังหวัดชัยนาท
  18. หลังเสด็จกลับจากกรุงหงสาวดี
  19. "ราชการสงครามในสมัยสมเด็จพระนเรศวร หอมรดกไทย กองทัพบก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-07-03. สืบค้นเมื่อ 2007-07-28.

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น