ยูฟ่าซูเปอร์คัพ
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ (อังกฤษ: UEFA Super Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลซูเปอร์คัพประจำปีจัดโดย ยูฟ่า โดยแข่งขันระหว่างผู้ชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และยูฟ่ายูโรปาลีก ชื่ออย่างเป็นทางการของการแข่งขันเดิมคือ ซูเปอร์คอมเพทิชัน[1] ต่อมาก็มีชื่อว่า ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ และเปลี่ยนชื่อเป็น ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ในปี 1995 ตามนโยบายการสร้างแบรนด์ใหม่ของยูฟ่า
![]() | |
ผู้จัด | ยูฟ่า |
---|---|
ก่อตั้ง | ค.ศ. 1972 (แข่งขันอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ ค.ศ. 1973) |
ภูมิภาค | ยุโรป |
จำนวนทีม | 2 |
ทีมชนะเลิศปัจจุบัน | ![]() |
ทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุด | ![]() |
เว็บไซต์ | uefa.com/uefasupercup |
![]() |
ตั้งแต่ ค.ศ. 1972 ถึง 1999 ยูฟ่าซูเปอร์คัพแข่งขันระหว่างผู้ชนะเลิศ ยูโรเปียนคัพ/ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และผู้ชนะเลิศ ยูโรเปียน/ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ หลังยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพถูกยกเลิก ยูฟ่าซูเปอร์คัพก็แข่งขันระหว่างผู้ชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และผู้ชนะเลิศ ยูฟ่าคัพ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ยูฟ่ายูโรปาลีก ใน ค.ศ. 2009
แชมป์ปัจจุบันคือ เรอัลมาดริด ผู้ชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก โดยชนะอาตาลันตา ผู้ชนะเลิศยูโรปาลีก ด้วยผลประตู 2–0 ใน ค.ศ. 2024 เรอัลมาดริดยังเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในรายการนี้ โดยชนะเลิศหกครั้ง
ประวัติ
แก้ยูฟ่าซูเปอร์คัพ หรือยูโรเปียนซูเปอร์คัพ เริ่มทำการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1972 ผู้ริเริ่มคือ แอนตั้น วิทแคมป์ นักข่าวและผู้อำนวยการด้านกีฬาของหนังสือพิมพ์เดอ เทเลกราฟ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ความคิดนี้เริ่มขึ้นเมื่อดัตช์โททัลฟุตบอลกำลังเป็นที่นิยมมากในยุโรป และกำลังอยู่ในยุคทองของสโมสรจากเนเธอร์แลนด์ โดยวิทแคมป์เสนอให้นำเอาทีมชนะเลิศยูโรเปียนคัพ มาพบกับทีมชนะเลิศยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ [2]
เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างพร้อม การแข่งขันรายการใหม่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี ความคิดที่จะเห็นการแข่งขันรายการนี้ เป็นการแข่งขันแบบเป็นทางการของวิทแคมป์ ได้ถูกปฏิเสธโดยประธานของยูฟ่า
แต่ถึงกระนั้น ถ้วยใบนี้ก็ยังยืนยันที่จะเดินหน้าจัดการแข่งขันต่อไป โดยเป็นการแข่งขันแบบเหย้า-เยือน สนับสนุนการเงินโดยหนังสือพิมพ์เดอ เทเลกราฟนั่นเอง ซึ่งอายักซ์ เอาชนะเรนเจอร์ส คว้าแชมป์สมัยแรกมาครองได้สำเร็จ หลังจากนั้น การแข่งขันรายการนี้จึงได้รับการรับรองจากยูฟ่า
แม้ว่าระบบการแข่งขันแบบเหย้า-เยือนจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ในบางปี ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ ก็ต้องทำการแข่งขันแบบนัดเดียว ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับตารางเวลาในการแข่งขันและเหตุผลทางด้านการเมือง และในปี ค.ศ. 1974, 1981 และ 1985 ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ ไม่มีการแข่งขัน
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 เป็นต้นมา ยูโรเปียนซูเปอร์คัพได้ทำการแข่งขันแบบนัดเดียวรู้ผล ที่สนามสต๊าด หลุยส์ เดอซ์ ในโมนาโก
เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 1998-99 ยูฟ่าได้ยกเลิกการแข่งขันรายการยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ และตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 1999-2000 ยูโรเปียนซูเปอร์คัพจะเป็นการแข่งขันกันระหว่างทีมชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (หรือยูโรเปียนคัพเดิม) กับทีมชนะเลิศยูฟ่ายูโรปาลีก (หรือยูฟ่าคัพเดิม)
รางวัล
แก้ถ้วยรางวัล
แก้ยูฟ่าจะเก็บรักษาถ้วยรางวัลยูฟ่าซูเปอร์คัพไว้ตลอดเวลา สโมสรผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลจำลองขนาดเท่าของจริง และจะได้รับเหรียญทองจำนวน 40 เหรียญ และรองชนะเลิศจะได้รับเหรียญเงินจำนวน 40 เหรียญ[3]
ถ้วยรางวัลซูเปอร์คัพมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งในประวัติศาสตร์ ถ้วยรางวัลแรกถูกมอบให้กับอายักซ์ในปี 1973 ต่อมาในปี 1977 ถ้วยรางวัลเดิมได้ถูกแทนที่ด้วยแผ่นโลหะที่มีตราสัญลักษณ์ยูฟ่าสีทอง ต่อมาในปี 1987 ถ้วยรางวัลถัดมาคือถ้วยรางวัลสโมสรยุโรปที่เล็กและเบาที่สุด โดยมีน้ำหนัก 5 กิโลกรัม และมีความสูง 42.5 เซนติเมตร ขณะที่ถ้วยรางวัลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกมีน้ำหนัก 8 กิโลกรัม และถ้วยรางวัลยูฟ่ายูโรปาลีก มีน้ำหนัก 15 กิโลกรัม ถ้วยรางวัลได้รับการออกแบบและผลิตที่เวิร์กช็อปเบอร์โตนีในมิลาน ถ้วยรางวัลใหม่ซึ่งใหญ่กว่าถ้วยรางวัลก่อนหน้านี้ เปิดตัวเมื่อปี 2006 โดยมีน้ำหนัก 12.2 กิโลกรัม และมีความสูง 58 เซนติเมตร[4]
ก่อน ค.ศ. 2008 สโมสรที่ชนะเลิศยูฟ่าซูเปอร์คัพสามครั้งติดต่อกันหรือชนะเลิศห้าครั้ง จะได้รับถ้วยรางวัลแบบดั้งเดิมและเครื่องหมายแสดงความยอมรับพิเศษ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ถ้วยรางวัลแบบดั้งเดิมจะเก็บรักษาไว้โดยยูฟ่าเท่านั้น มิลาน, บาร์เซโลนา และเรอัลมาดริด เป็นสโมสรที่ได้รับเกียรตินี้ โดยชนะเลิศสโมสรละห้าสมัย แต่มีเพียงมิลานเท่านั้นที่ได้รับถ้วยรางวัลอย่างเป็นทางการถาวรในปี 2007 บาร์เซโลนา และเรอัลมาดริด ชนะเลิศสมัยที่ห้าของพวกเขาในปี 2015 และ 2022 ตามลำดับ เมื่อนโยบายดังกล่าวไม่ได้บังคับใช้อีกต่อไป
เงินรางวัล
แก้ณ ปี 2020 จำนวนเงินรางวัลคงที่ที่จ่ายให้กับสโมสรมีดังนี้:
- รองชนะเลิศ: €3,800,000
- ชนะเลิศ: €5,000,000
การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ
แก้รอบชิงชนะเลิศ (นัดเดียว)
แก้รอบชิงชนะเลิศ (สองนัดเหย้า-เยือน)
แก้ฤดูกาล | ทีมเหย้า | ผลคะแนน | ทีมเยือน | สนาม |
---|---|---|---|---|
1997 | บาร์เซโลนา (C2) | 2 – 0 | ดอร์ทมุนท์ (C1) | กัมนอว์, บาร์เซโลนา |
ดอร์ทมุนท์ | 1 – 1 | บาร์เซโลนา | ซิกนัล อีดูน่า ปาร์ค, ดอร์ทมุนท์ | |
รวมผลสองนัด บาร์เซโลนา คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-1 | ||||
1996 | ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง (C2) | 1 – 6 | ยูเวนตุส (C1) | ปาร์กเดแพร็งส์, ปารีส |
ยูเวนตุส | 3 – 1 | ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง | สตาดิโอ้ ลา ฟาวอริต้า, ปาแลร์โม่ | |
รวมผลสองนัด ยูเวนตุส คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 9-2 | ||||
1995 | เรอัลซาราโกซา (C2) | 1 – 1 | อายักซ์ (C1) | ลา โรมาเรด้า, ซาราโกซา |
อายักซ์ | 4 – 0 | เรอัลซาราโกซา | สนามกีฬาโอลิมปิก (อัมสเตอร์ดัม), อัมสเตอร์ดัม | |
รวมผลสองนัด อายักซ์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 5-1 | ||||
1994 | อาร์เซนอล (C2) | 0 – 0 | มิลาน (C1) | ไฮก์บิวรี่, ลอนดอน |
มิลาน | 2 – 0 | อาร์เซนอล | ซานซีโร, มิลาน | |
รวมผลสองนัด มิลาน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-0 | ||||
1993 | ปาร์มา (C2) | 0 – 1 | มิลาน (C1) | เอ็นนิโอ้ ตาร์ดินี่, ปาร์มา |
มิลาน | 0 – 2 (หลังต่อเวลาพิเศษ) |
ปาร์มา | ซานซีโร, มิลาน | |
รวมผลสองนัด ปาร์มา คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-1 หมายเหตุ: ทีมชนะเลิศ มาร์แซย์ โดนตัดสิทธิ์ จากกรณีล้มบอลภายในประเทศ มิลาน รองชนะเลิศ จึงได้สิทธิ์แข่งแทน | ||||
1992 | แวร์เดอร์เบรเมิน (C2) | 1 – 1 | บาร์เซโลนา (C1) | เวเซอร์ สตาดิโอน, เบรเมน |
บาร์เซโลนา | 2 – 1 | แวร์เดอร์เบรเมิน | กัมนอว์, บาร์เซโลนา | |
รวมผลสองนัด บาร์เซโลนา คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-2 | ||||
1991 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (C2) | 1 – 0 | เรดสตาร์ เบลเกรด (C1) | โอลด์แทรฟฟอร์ด, แมนเชสเตอร์ |
หมายเหตุ: แข่งขันกันนัดเดียว เพราะไม่สามารถแข่งขันนัดที่สองได้ เนื่องจากปัญหาทางด้านการเมืองในยูโกสลาเวีย แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ | ||||
1990 | ซามพ์โดเรีย (C2) | 1 – 1 | มิลาน (C1) | ลุยจิ แฟร์ราริส, เจนัว |
มิลาน | 2 – 0 | ซามพ์โดเรีย | ซานซีโร, มิลาน | |
รวมผลสองนัด มิลาน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-1 | ||||
1989 | บาร์เซโลนา (C2) | 1 – 1 | มิลาน (C1) | กัมนอว์, บาร์เซโลนา |
มิลาน | 1 – 0 | บาร์เซโลนา | ซานซีโร, มิลาน | |
รวมผลสองนัด มิลาน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-1 | ||||
1988 | เมเชเลน (C2) | 3 – 0 | ไอน์โฮเฟ่น (C1) | อาคเตอร์ เดอ คาเซอร์เน่, เมเชเลน |
ไอน์โฮเฟ่น | 1 – 0 | เมเชเลน | ฟิลิปส์ สตาดิโอน, ไอนด์โฮเฟิน | |
รวมผลสองนัด เมเชเลน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-1 | ||||
1987 | อายักซ์ (C2) | 0 – 1 | โปร์ตู (C1) | เดอ เมียร์ สเตเดี้ยม, อัมสเตอร์ดัม |
โปร์ตู | 1 – 0 | อายักซ์ | เอสตาดิโอ้ ดาส อันตาส, โปร์ตู | |
รวมผลสองนัด โปร์ตู คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-0 | ||||
1986 | สเตอัวบูคูเรสตี (C1) | 1 – 0 | ดีนาโมคียิว (C2) | สต๊าด หลุยส์ เดอซ์, โมนาโก |
หมายเหตุ: แข่งขันกันนัดเดียว เพราะไม่สามารถแข่งขันนัดที่สองได้ เนื่องจากปัญหาทางด้านการเมืองในสหภาพโซเวียต สเตอัวบูคูเรสตี คว้าแชมป์ | ||||
1985 | ไม่มีการแข่งขัน ยูเวนตุส (C1) กับ เอฟเวอร์ตัน (C2) | |||
หมายเหตุ: เนื่องจากโศกนาฏกรรมอัฒจรรย์ถล่ม ในนัดชิงยูโรเปียนคัพระหว่าง ยูเวนตุส กับ ลิเวอร์พูล ที่เฮย์เซล สเตเดี้ยม | ||||
1984 | ยูเวนตุส (C2) | 2 – 0 | ลิเวอร์พูล (C1) | โอลิมปิค สเตเดี้ยม, ตูริน |
หมายเหตุ: แข่งขันกันนัดเดียว เพราะลิเวอร์พูลไม่สามารถหาวันแข่งขันในนัดที่สองได้ ยูเวนตุส คว้าแชมป์ | ||||
1983 | ฮัมบวร์ค (C1) | 0 – 0 | อเบอร์ดีน (C2) | โฟล์คสปาร์ค สตาดิโอน, ฮัมบวร์ค |
อเบอร์ดีน | 2 – 0 | ฮัมบวร์ค | ปิตโตดรี้ สเตเดี้ยม, อเบอร์ดีน | |
รวมผลสองนัด อเบอร์ดีน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-0 | ||||
1982 | บาร์เซโลนา (C2) | 1 – 0 | แอสตันวิลลา (C1) | กัมนอว์, บาร์เซโลนา |
แอสตันวิลลา | 3 – 0 (หลังต่อเวลาพิเศษ) |
บาร์เซโลนา | วิลลา ปาร์ค, เบอร์มิงแฮม | |
รวมผลสองนัด แอสตันวิลลา คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-1 | ||||
1981 | ไม่มีการแข่งขัน ลิเวอร์พูล (C1) กับ ดินาโม ทบิลิซี่ (C2) | |||
หมายเหตุ: เนื่องจากลิเวอร์พูล ไม่สามารถหาวันแข่งขันกับดินาโม ทบิลิซี่ได้ | ||||
1980 | ฟอเรสต์ (C1) | 2 – 1 | บาเลนเซีย (C2) | ซิตี้ กราวน์, น็อตติงแฮม |
บาเลนเซีย | 1 – 0 | ฟอเรสต์ | หลุยส์ คาซาโนบ้า สเตเดี้ยม, บาเลนเซีย | |
รวมผลสองนัด บาเลนเซีย คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-2 (กฎประตูทีมเยือน) | ||||
1979 | ฟอเรสต์ (C1) | 1 – 0 | บาร์เซโลนา (C2) | ซิตี้ กราวน์, น็อตติงแฮม |
บาร์เซโลนา | 1 – 1 | ฟอเรสต์ | กัมนอว์, บาร์เซโลนา | |
รวมผลสองนัด ฟอเรสต์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-1 | ||||
1978 | อันเดอร์เลชท์ (C2) | 3 – 1 | ลิเวอร์พูล (C1) | ปาร์ค อัสไทรด์, บรัสเซลส์ |
ลิเวอร์พูล | 2 – 1 | อันเดอร์เลชท์ | แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล | |
รวมผลสองนัด อันเดอร์เลชท์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 4-3 | ||||
1977 | ฮัมบวร์ค (C2) | 1 – 1 | ลิเวอร์พูล (C1) | โฟล์คสปาร์ค สตาดิโอน, ฮัมบวร์ค |
ลิเวอร์พูล | 6 – 0 | ฮัมบวร์ค | แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล | |
รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 7-1 | ||||
1976 | ไบเอิร์นมิวนิก (C1) | 2 – 1 | อันเดอร์เลชท์ (C2) | โอลิมเปีย สตาดิโอน, มิวนิก |
อันเดอร์เลชท์ | 4 – 1 | ไบเอิร์นมิวนิก | ปาร์ค อัสไทรด์, บรัสเซลส์ | |
รวมผลสองนัด อันเดอร์เลชท์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 5-3 | ||||
1975 | ไบเอิร์นมิวนิก (C1) | 0 – 1 | ดีนาโมคียิว (C2) | โอลิมปิค สเตเดียม มิวนิก, มิวนิก |
ดีนาโมคียิว | 2 – 0 | ไบเอิร์นมิวนิก | รีพับลิกัน สเตเดี้ยม, เคียฟ | |
รวมผลสองนัด ดีนาโมคียิว คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-0 | ||||
1974 | ไม่มีการแข่งขัน ไบเอิร์นมิวนิก (C1) กับ มักเดบวร์ก (C2) | |||
หมายเหตุ: เนื่องจากเหตุผลทางด้านการเมือง ระหว่างเยอรมันตะวันตก กับเยอรมันตะวันออก | ||||
1973 | มิลาน (C2) | 1 – 0 | อายักซ์ (C1) | ซานซีโร, มิลาน |
อายักซ์ | 6 – 0 | มิลาน | สนามกีฬาโอลิมปิก (อัมสเตอร์ดัม), อัมสเตอร์ดัม | |
รวมผลสองนัด อายักซ์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 6-1 | ||||
1972 | เรนเจอร์ส (C2) | 1 – 3 | อายักซ์ (C1) | ไอบร็อกซ์ ปาร์ค, กลาสโกว์ |
อายักซ์ | 3 – 2 | เรนเจอร์ส | เดอ เมียร์ สเตเดี้ยม, อัมสเตอร์ดัม | |
รวมผลสองนัด อายักซ์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 6-3 |
- (C1) หมายถึง ผู้ชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกหรือยูโรเปียนคัพ
- (C2) หมายถึง ผู้ชนะเลิศยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ หรือยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ
บันทึกและสถิติ
แก้ผลงานแบ่งตามสโมสร
แก้ผลงานแบ่งตามชาติ
แก้ชาติ | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | รวม |
---|---|---|---|
สเปน | 17 | 15 | 32 |
อังกฤษ | 10 | 10 | 20 |
อิตาลี | 9 | 5 | 14 |
เบลเยียม | 3 | 0 | 3 |
เยอรมนี[C] | 2 | 8 | 10 |
เนเธอร์แลนด์[B] | 2 | 3 | 5 |
โปรตุเกส | 1 | 3 | 4 |
รัสเซีย | 1 | 1 | 2 |
สหภาพโซเวียต[D] | 1 | 1 | 2 |
โรมาเนีย | 1 | 0 | 1 |
สกอตแลนด์[B] | 1 | 0 | 1 |
ตุรกี | 1 | 0 | 1 |
ฝรั่งเศส | 0 | 1 | 1 |
ยูเครน | 0 | 1 | 1 |
ยูโกสลาเวีย | 0 | 1 | 1 |
รวม | 49 | 49 | 98 |
- หมายเหตุ
- A. ^ไม่มีการจัดการแข่งขันในปี 1974, 1981 และ 1985[5][6]
- B. ^ไม่รวมการแข่งขันครั้งแรกที่จัดขึ้นในปี 1972 ซึ่งไม่ได้จัดหรือรับรองโดยยูฟ่า ในฐานะการแข่งขันอย่างเป็นทางการ[5]
- C. ^รวมสโมสรจากเยอรมนีตะวันตก ไม่มีสโมสรจากเยอรมนีตะวันออกเข้าชิงชนะเลิศ
- D. ^สโมสรโซเวียตที่เข้าชิงชนะเลิศทั้งสองครั้งมาจากสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตยูเครน
อ้างอิง
แก้- ↑ "UEFA Super Cup: The competition that found its place". UEFA.com. Union of European Football Associations. 9 August 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 May 2022. สืบค้นเมื่อ 10 May 2022.
- ↑ "Dynamo bring happy memories". BBC Sport. 2001-10-16. สืบค้นเมื่อ 2008-03-11.
- ↑ "Regulations of the UEFA Super Cup 2015-18 Cycle" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. March 2015. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 March 2016. สืบค้นเมื่อ 12 August 2015.
- ↑ "The trophy". UEFA.com. Union of European Football Associations. สืบค้นเมื่อ 2 August 2009.
- ↑ 5.0 5.1 "Club competition winners do battle". UEFA.com. Union of European Football Associations. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 July 2010. สืบค้นเมื่อ 3 May 2018.
- ↑ Woods, Tom (14 November 2015). "Everton FC: The forgotten game of the 1985/86 UEFA Super Cup". Liverpool Echo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 June 2018. สืบค้นเมื่อ 4 May 2018.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้