เป็นอักษรไทย จำพวกพยัญชนะ อยู่ในลำดับ ที่ 43 ถัดจาก และก่อนถึง มักจะเรียกกันว่า อ อ่าง ในการจัดหมู่อักษร นับเป็นอักษรกลาง ในไตรยางศ์ ผันได้ครบ 5 เสียง และเติม วรรณยุกต์ได้ทั้ง 4 รูป

อักษรไทย
รูปพยัญชนะ
รูปสระ
–ั –ํ –ิ ' "
–ุ –ู –็
ฤๅ ฦๅ
รูปวรรณยุกต์
–่ –้ –๊ –๋
เครื่องหมายอื่น ๆ
–์ –๎ –ฺ
เครื่องหมายวรรคตอน
ฯลฯ

ในภาษาไทยกลางทุกถิ่น อักษร อ เป็นพยัญชนะต้น ให้เสียง /ʔ/ แต่ไม่ใช้เป็นพยัญชนะสะกด โดยทั่วไปมักจัดให้ อ เป็นเสียงนำสระ

รูปสระ ตัวออ (อ) ยังสามารถใช้เป็นสระ ออ เมื่ออยู่หลังพยัญชนะต้น ใช้ถัดจากสระ อือ เมื่อไม่มีพยัญชนะสะกด เช่น ถือ และใช้ประสมสระ เอือะ เอือ เออะ และ เออ

การประสมรูป แก้

การประสมรูป ปรากฏ ใช้เป็นสระ สัทอักษรสากล
(พยัญชนะต้น) + ตัวออ –อ ออ /ɔː/
(พยัญชนะต้น) + ไม้ไต่คู้ + ตัวออ + (พยัญชนะสะกด) –็อ– เอาะ (มีตัวสะกด) /ɔ/
(พยัญชนะต้น) + สระอือ + ตัวออ –ือ อือ (ไม่มีตัวสะกด) /ɯː/
ไม้หน้า + (พยัญชนะต้น) + ตัวออ เ–อ เออ (ไม่มีตัวสะกด) /ɤː/
ไม้หน้า + (พยัญชนะต้น) + ตัวออ + วิสรรชนีย์ เ–อะ เออะ (ไม่มีตัวสะกด) /ɤʔ/
ไม้หน้า + (พยัญชนะต้น) + สระอือ + ตัวออ เ–ือ เอือ /ɯaː/
ไม้หน้า + (พยัญชนะต้น) + สระอือ + ตัวออ + วิสรรชนีย์ เ–ือะ เอือะ /ɯaʔ/

พยัญชนะต้น แก้

เมื่อเป็นพยัญชนะต้น “อ” จะถูกใช้เป็นทุ่นเกาะสำหรับสระ เช่น อาหาร, อีก อุ่น ฯลฯ ในทางภาษาศาสตร์ ถือว่า อ เป็นพยัญชนะ ที่ประสมด้วย สระ (ในที่นี้ คือ สระอา และสระอี ตามลำดับ)

ในตำแหน่งพยัญชนะต้น เสียง อ ที่เป็นพยัญชนะหยุด อาจหายไป เหลือแต่เสียงสระ ก็ได้ นั่นคือ /ʔaː.haːn/ /aː.haːn/ ซึ่งในตัวอย่างที่ยกมาจะสังเกตได้ยาก แต่จะฟังได้ชัดเจน เมื่อมีพยางค์อื่นนำหน้าเสียง อ เช่น “คุณอา” (/khun.ʔaː/ ไม่ใช่ /khunaː/) เสียงพยัญชนะ “น” ของพยางค์หน้า ไม่ถูกกลมกลืนเสียง (assimilate) ด้วยสระอา ในพยางค์หลัง เพราะมีเสียง “อ” คั่นอยู่ แต่ในภาษาอื่น อาจกลืนเสียงเป็น "คุณนา" ได้ เช่น ในคำว่า บางปะอิน เมื่อเขียนด้วยอักษรโรมันจึงมักจะมีขีดแยกคำ Bang Pa-in เพื่อไม่ให้เสียง อะ กับ อิ กลมกลืนเป็นสระประสมตามลักษณะการประสมคำในภาษาอื่นที่เขียนด้วยอักษรโรมัน

ตัวสะกด แก้

เมื่อเป็นพยัญชนะตัวสะกด จะไม่ปรากฏรูป อ ให้เห็น แต่สังเกตได้จากพยางค์ที่ประสมด้วยสระเสียงสั้น ไม่มีรูปพยัญชนะตัวสะกด เช่น กะ จะ ปะ บิ เกาะ จุ เมื่อต้องทับศัพท์เสียงเหล่านี้ด้วยอักษรแบบอื่น ที่ไม่มีเสียง “อ” จึงมักจะใช้เสียง ห (ซึ่งมีคุณลักษณะของเสียงที่ใกล้เคียงกัน) ปิดท้ายแทน เช่น เมื่อเขียนด้วยอักษรโรมัน kah, pah

อย่างไรก็ตาม ในคำที่มีหลายพยางค์ เสียง “อ” ที่เป็นพยัญชนะตัวสะกด อาจหายไป เมื่อพยางค์นั้นไม่เน้น เช่น

กุมารี อาจออกเสียงเป็น /kuʔ.maː.riː/ หรือ /ku.maː.riː/,

อารยธรรม อาจปรากฏเสียง อ สะกด ที่ ยะ แต่ไม่ปรากฏที่ ระ เพราะคำนี้เมื่อออกเสียงมักจะเน้นเสียงที่ ยะ ขณะที่ ระ นั้นออกเสียงเบากว่า ส่วนคำว่า พลังงาน เสียง “พะ” เบาจนเป็นเสียงสามัญ (ไม่ใช่เสียงตรี อย่างรูปปรากฏ) มักจะไม่ออกเสียง “อ” ที่เป็นตัวสะกด

สำหรับในตำแหน่ง อ ท้ายคำ มักจะปรากฏเสียงหยุดชัดเจน เช่น สาธุ, กุฏิ, ธรรมะ, กะปิ, กระทะ, ชนะ

เสียง อ นี้นับเป็นเสียงพิเศษ ที่พบได้ในบางภาษาเท่านั้น เช่น ภาษามัลดีฟส์ (อักษรทานะ) เมื่อเทียบเสียงกับภาษาอื่น มักจะเทียบเป็นเสียงสระบ้าง เสียง /ห/ บ้าง ซึ่งมีความใกล้เคียง แต่ไม่ตรงกันเสียทีเดียว