กองทัพปลดปล่อยประชาชน
กองทัพปลดปล่อยประชาชน (อังกฤษ: People's Liberation Army, PLA ; จีน: 中国人民解放军; พินอิน: Zhongguo Renmin Jiěfàngjūn) เป็นกำลังทหารหลักของสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นกองกำลังติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน | |
---|---|
中国人民解放军 Zhōngguó Rénmín Jiěfàngjūn | |
![]() ตราสัญลักษณ์ของกองทัพปลดปล่อยประชาชน | |
![]() ธงของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ตัวอักษร "八一" หมายถึงวันที่ 1 สิงหาคม | |
คำขวัญ | 为人民服务 ("บริการประชาชน") |
ก่อตั้ง | 1 สิงหาคม 1927 |
รูปแบบปัจจุบัน | 10 ตุลาคม 1947[1][2][3] |
เหล่า | ![]()
![]() |
กองบัญชาการ | ปักกิ่ง |
เว็บไซต์ | eng |
ผู้บังคับบัญชา | |
องค์กรปกครอง | ![]() ![]() |
บุคลากร | ประธาน:![]() ![]() รองประธาน:
![]() |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม | ![]() ![]() |
ผู้อำนวยการฝ่ายงานการเมือง | ![]() |
ประธานคณะเสนาธิการทหาร | ![]() |
เลขาธิการคณะกรรมการตรวจสอบวินัย | ![]() |
กำลังพล | |
อายุเริ่มบรรจุ | 18 |
การเกณฑ์ | ไม่มีการเกณฑ์ทหาร |
ยอดประจำการ | 2,035,000 (2022)[4] (อันดับที่ 1) |
ยอดสำรอง | 510,000 (2022)[4] |
ยอดกำลังนอกประเทศ | โพ้นทะเล: ประมาณ 300 คนต่อต้านโจรสลัดในโซมาเลีย [5] กึ่งทหาร: ประมาณ 1,500,000[5][6][7] ทั้งหมด: 4,585,000~ [5][6] (อันดับที่ 6) |
รายจ่าย | |
งบประมาณ | US$293 พันล้าน (2022)[8] (อันดับที่ 2) |
ร้อยละต่อจีดีพี | 1.7% (2022)[8] |
อุตสาหกรรม | |
แหล่งผลิตในประเทศ |
|
แหล่งผลิตนอกประเทศ |
ในอดีต: |
มูลค่านำเข้าต่อปี | US$14,858,000,000 (2010–2021)[10] |
มูลค่าส่งออกต่อปี | US$18,121,000,000 (2010–2021)[10] |
บทความที่เกี่ยวข้อง | |
ประวัติ | ประวัติศาสตร์ทางทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ความทันสมัยของกองทัพปลดปล่อยประชาชน |
ยศ | กองทัพปลดปล่อยประชาชน (กองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ) เครื่องอิสริยาภรณ์ |
ในปัจจุบัน กองทัพปลดปล่อยปะชาชนเป็นกองกำลังทางทหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ไม่รวมกองกำลังกึ่งทหารหรือกองหนุน) และมีงบประมาณกลาโหมมากเป็นอันดับสองของโลก นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในกองทัพที่พัฒนาให้ทันสมัยได้เร็วที่สุดในโลก และได้รับการขนานนามว่าเป็นมหาอำนาจทางทหารที่มีศักยภาพ
พันธกิจ แก้ไข
ในปี 2004 อดีตประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ได้กล่าวถึงพันธกิจหลักของกองทัพปลดปล่อยประชาชนว่า:[11]
- ประกันตำแหน่งผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์
- ปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ความมั่นคงภายใน และการพัฒนาประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีน
- รักษาผลประโยชน์ของประเทศ
- รักษาและปกป้องความสงบสุขของโลก
ประวัติ แก้ไข
ยุคแรก แก้ไข
พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ตั้งกองทหารเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 1927 ระหว่างการจลาจลหนานชาง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นสงครามกลางเมืองจีน กลุ่มคอมมิวนิสต์แห่งกองทัพปฏิวัติแห่งชาติก่อกบฏภายใต้การนำของ จูเต๋อ, เหอ หลง, เย่ เจี้ยนอิง, โจว เอินไหล และกลุ่มฝ่ายซ้ายอื่น ๆ ของพรรคก๊กมินตั๋ง หลังจากการสังหารหมู่ที่เซี่ยงไฮ้ในปี 1927 จากนั้นพวกเขาถูกเรียกว่ากองทัพแดงของกรรมกรและชาวนาจีน หรือเรียกสั้นๆ ว่ากองทัพแดง
ในปี 1934 และ 1935 กองทัพแดงรอดพ้นจากการรณรงค์หลายครั้งที่นำโดยพรรคก๊กมินตั๋ง ของเจียงไคเช็คและเข้าร่วมในการเดินทัพทางไกล (Long March)
ในช่วงสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ระหว่างปี 1937 ถึง 1945 กองกำลังทหารของพรรคคอมมิวนิสต์ ได้รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพปฏิวัติแห่งชาติของสาธารณรัฐจีน โดยสร้างหน่วยหลักสองหน่วย คือ กองทัพที่แปดและกองทัพที่สี่ใหม่ ในช่วงเวลานี้ กลุ่มทหารทั้งสองกลุ่มนี้ใช้ยุทธวิธีการรบแบบกองโจรเป็นหลัก โดยทั่วไปจะหลีกเลี่ยงการสู้รบขนาดใหญ่กับญี่ปุ่น ในขณะเดียวกันก็รวมกำลังกันโดยการเกณฑ์กองทหารก๊กมินตั๋ง และกองกำลังกึ่งทหารที่อยู่หลังแนวรบของญี่ปุ่นเข้ามาในกองกำลังของพวกเขา
หลังจากญี่ปุ่นแพ้สงครามในปี 1945 พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงใช้โครงสร้างองค์การของกองทัพปฏิวัติแห่งชาติจีนอยู่ จนกระทั่งมีการตัดสินใจในเดือนกุมภาพันธ์ 1947 เพื่อรวมกองทัพที่แปดและกองทัพที่สี่ใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อกองกำลังใหม่ที่มีกำลังนับล้านเป็น กองทัพปลดปล่อยประชาชน การปรับโครงสร้างองค์กรเสร็จสิ้นในปลายปี 1948 ในที่สุดกองทัพปลดปล่อยประชาชน ก็ชนะสงครามกลางเมืองจีน และสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 จากนั้นจึงมีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยมีการจัดตั้งกองทัพอากาศในเดือนพฤศจิกายน 1949 ตามด้วยกองทัพเรือในเดือนเมษายน 1950
ในปี 1950 ได้มีการจัดตั้งกองปืนใหญ่ กองยานเกราะ กองทหารป้องกันภัยทางอากาศ กองกำลังรักษาความปลอดภัยสาธารณะ และกองทหารรักษาการณ์คนงาน-ทหาร กองกำลังป้องกันสงครามเคมี กองกำลังทางรถไฟ กองกำลังสื่อสาร และกองกำลังทางยุทธศาสตร์ ตลอดจนกองกำลังอื่นๆ เช่น วิศวกรรมและการก่อสร้าง การขนส่งและการบริการทางการแพทย์
ตั้งแต่ปี 1980 แก้ไข
ในช่วงทศวรรษที่ 1980 จีนได้ทำการลดขนาดกองทัพลงอย่างมากเพื่อให้มีทรัพยากรเพียงพอสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจ ส่งผลให้ทรัพยากรสำหรับกองทัพลดลงพอสมควร หลังจากการปราบปรามการประท้วงและการสังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 ความถูกต้องเชิงอุดมการณ์ได้รับการฟื้นฟูชั่วคราวในฐานะประเด็นสำคัญในกิจการทหารของจีน
ในปี 1985 ภายใต้การนำของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้เปลี่ยนจากการเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่องมาเป็นการพัฒนากองทัพในยุคแห่งสันติภาพ กองทัพปลดปล่อยประชาชนได้พัฒนาไปสู่ความทันสมัย พัฒนาความสามารถในการต่อสู้ และกลายเป็นกองกำลังระดับโลก เติ้ง เสี่ยวผิงประกาศว่า "กองทัพต้องเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ"
ในปี 1990 เจียง เจ๋อหมิน อดีตประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง เรียกร้องให้กองทัพ "ปฏิบัติตามมาตรฐานทางการเมือง มีอำนาจทางทหาร มีลักษณะการทำงานที่ดี ยึดมั่นในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด และให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์อย่างจริงจัง" (จีน: 政治合格、军事过硬、作风优良、 纪律严明、保障有力; พินอิน: zhèngzhì hégé, jūnshì guòyìng, zuòfēng yōuliáng, jìlǜ yánmíng, bǎozhàng yǒulì)
ในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา กองทัพปลดปล่อยประชาชนได้รับระบบอาวุธขั้นสูงจากรัสเซีย และยังได้เริ่มผลิตเรือพิฆาตและเรือฟริเกตประเภทใหม่หลายรุ่น รวมทั้งเรือพิฆาตขีปนาวุธนำวิถีชั้น Type 052D นอกจากนี้กองทัพอากาศยังได้ออกแบบเครื่องบินขับไล่ Chengdu J-10 ของตนเองและเครื่องบินขับไล่ล่องหนรุ่นใหม่ Chengdu J-20 กองทัพเรือได้เปิดตัวเรือดำน้ำนิวเคลียร์ชั้น Jin เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2004 ซึ่งสามารถยิงหัวรบนิวเคลียร์ที่สามารถโจมตีเป้าหมายทั่วมหาสมุทรแปซิฟิกได้ และมีเรือบรรทุกเครื่องบินสามลำ โดยลำล่าสุดคือ Fujian ซึ่งเปิดตัวในปี 2022
ในปี 2015 กองทัพปลดปล่อยประชาชนได้ก่อตั้งหน่วยงานใหม่ ได้แก่ กองทัพจรวด (PLARF) และ หน่วยสนับสนุนทางยุทธศาสตร์ (PLASSF)
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2017 เป็นวันครบรอบ 90 ปี ของกองทัพปลดปล่อยประชาชน การสวนสนามทางทหารที่ใหญ่ที่สุดและเป็นครั้งแรกนอกกรุงปักกิ่งจัดขึ้นที่ฐานฝึกจูรื่อเหอ ใน Northern Theatre Command (ภายในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน)
การปฏิบัติการรักษาความสงบ แก้ไข
สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ส่ง ทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชนไปยังภูมิภาคต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบทบาทของจีนในฐานะสมาชิกที่โดดเด่นของสหประชาชาติ หน่วยดังกล่าวมักจะรวมถึงวิศวกรและหน่วยสนับสนุนและสมาชิกของกองกำลังตำรวจติดอาวุธกึ่งทหารและถูกนำไปใช้เป็น ส่วนหนึ่งของปฏิบัติการรักษาสันติภาพในเลบานอน สาธารณรัฐคองโก ซูดาน ไอวอรีโคสต์ เฮติ
เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง แก้ไข
- 1927–1950: สงครามกลางเมืองจีน[12]
- 1937–1945: สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง
- 1949: เหตุการณ์แม่น้ำแยงซี
- 1950: การผนวกทิเบตเข้ากับสาธารณรัฐประชาชนจีน
- 1950–1953: สงครามเกาหลี ภายใต้ชื่อ"กองทัพอาสาสมัครประชาชนจีน"
- 1954–1955: วิกฤตการณ์ช่องแคบไต้หวันครั้งที่หนึ่ง
- 1955–1970: สงครามเวียดนาม
- 1958: วิกฤตการณ์ช่องแคบไต้หวันครั้งที่สอง ที่หมู่เกาะจินเหมิน และหมู่เกาะหมาจู่
- 1962: สงครามจีน-อินเดีย
- 1967: การต่อสู้อย่างประปรายกับอินเดีย
- 1969: ความขัดแย้งชายแดนจีน-โซเวียต
- 1974: สงครามหมู่เกาะพาราเซล
- 1979: สงครามจีน-เวียดนาม
- 1970–1990: ความขัดแย้งจีน-เวียดนาม (1979–1991)
- 1988: การปะทะกันที่แนวปะการังใต้จอห์นสัน
- 1989: การประกาศกฎอัยการศึกในกรุงปักกิ่งในการประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน
- 1990: ความขัดแย้งในเขตเมืองบาเรน
- 1995–1996: วิกฤตการณ์ช่องแคบใต้หวันครั้งที่สาม
- 1997: จัดตั้งกองกำลังทหารรักษาการณ์ฮ่องกง
- 1999: จัดตั้งกองกำลังทหารรักษาการณ์มาเก๊า
- 2007–ปัจจุบัน: กองกำลังชั่วคราวของสหประชาชาติในเลบานอน
- 2009–ปัจจุบัน: ปฏิบัติการต่อต้านโจรสลัดในอ่าวเอเดน
- 2014: การค้นหาซากเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 370
- 2014: ปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในมาลี
- 2015: ปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในซูดานใต้
- 2020–ปัจจุบัน: การต่อสู้อย่างประปรายจีน-อินเดีย
โครงสร้างองค์กร แก้ไข
โครงสร้างองค์กรของกองทัพปลดปล่อยประชาชน แก้ไข
คณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
หน่วยงาน | คณะกรรมาธิการ | สำนักงาน | กองกำลังขึ้นตรงต่อคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง | สถาบันวิจัย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักงานทั่วไป | คณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัย | สำนักงานวางแผนยุทธศาสตร์ | หน่วยสนับสนุนทางยุทธศาสตร์ร่วม | สถาบันวิทยาการทหาร | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กรมเสนาธิการร่วม | คณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมาย | สำนักงานปฏิรูปโครงสร้างองค์กร | มหาวิทยาลัยป้องกันประเทศ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กรมการเมือง | คณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | สำนักงานความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศ | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กรมสนับสนุนทางการขนส่ง | สำนักงานตรวจสอบบัญชี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กรมพัฒนายุทโธปกรณ์ | หน่วยงานบริหารสำนักงาน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กรมฝึกอบรมและธุรการ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กรมระดมสรรพกำลังป้องกันประเทศ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กองบัญชาการยุทธบริเวณ | เหล่าทัพ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออก | กองทัพบก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันตก | กองทัพเรือ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคใต้ | กองทัพอากาศ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคเหนือ | กองทัพจรวด | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคกลาง | กองทัพสนับสนุนทางยุทธศาสตร์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กองทัพปลดปล่อยประชาชน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กองบัญชาการยุทธบริเวณ แก้ไข
กองบัญชาการยุทธบริเวณ (จีนตัวย่อ: 战区; จีนตัวเต็ม: 戰區; พินอิน: Zhànqū; แปลตรงตัว: "war zone") (Theater Commands: TC) เป็นกองบัญชาการที่รับผิดชอบในการพัฒนายุทธศาสตร์ แผน ยุทธวิธี และนโยบายทางทหารเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย ปัจจุบันแบ่งประเทศออกเป็น 5 กองบัญชาการยุทธบริเวณ เรียงลำดับตามความสำคัญ:
- กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออก (Eastern Theater Command: ETC)
- กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคใต้ (Southern Theater Command: STC)
- กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันตก (Western Theater Command: WTC)
- กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคเหนือ (Northern Theater Command: NTC)
- กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคกลาง (Central Theater Command: CTC)
กองทหารรักษาการณ์ในฮ่องกงและมาเก๊าอยู่ภายใต้กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคใต้
ยศทหาร แก้ไข
เหล่าทัพ แก้ไข
กองทัพปลดปล่อยประชาชน มีทั้งหมด 5 เหล่าทัพ: กองกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพจรวด และกองทัพสนับสนุนทางยุทธศาสตร์
นอกเหนือจาก 5 เหล่าทัพแล้ว กองทัพปลดปล่อยประชาชนยังได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังกึ่งทหารสองแห่ง ได้แก่ ตำรวจติดอาวุธประชาชน (รวมถึงหน่วยยามฝั่งจีน) และกองทหารรักษาการณ์ (รวมถึงกองทหารรักษาการณ์ทางทะเล)
กองทัพบก (PLAGF) แก้ไข
กองทัพบกกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLAGF; จีน: 中国人民解放军陆军; พินอิน: Zhōngguó Rénmín Jiěfàngjūn Lùjūn) เป็นสาขาทางบกของกองทัพปลดปล่อยประชาชนและกองทัพที่ใหญ่ที่สุดใน 5 เหล่าทัพ ด้วยกำลังพลประจำการ 975,000 นาย ประมาณครึ่งหนึ่งของกำลังพลทั้งหมดของ PLA ที่มีกำลังพลประมาณ 2 ล้านคน กองทัพบกถูกจัดเป็นกลุ่มประจำการ 12 เหล่าทัพตามลำดับ ตั้งแต่กองทัพที่ 71 ไปจนถึงกองทัพที่ 83 ซึ่งกระจายไปตามกองบัญชาการยุทธบริเวณทั้ง 5 แห่งของจีน
กองหนุน ประกอบด้วยทหารประมาณ 510,000 นาย แบ่งเป็นกองทหารราบ 30 กอง และกองปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน 12 กอง
กองทัพเรือ (PLAN) แก้ไข
กองทัพเรือกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLAN; จีน: 中国人民解放军海军; พินอิน: Zhōngguó Rénmín Jiěfàngjūn Hǎijūn) เป็นสาขาทางทะเลของกองทัพปลดปล่อยประชาชน และเป็นกองทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ประกอบด้วย 5 หน่วยย่อย ได้แก่: กองกำลังใต้น้ำ กองกำลังผิวน้ำ กองกำลังป้องกันชายฝั่ง นาวิกโยธิน และกองกำลังทางอากาศ โดยมีกำลังพล 240,000 นาย รวมทั้งนาวิกโยธิน 15,000 นาย และนักบิน 26,000 นาย
มีเรือมากกว่า 496 ลำและเรือสนับสนุนต่างๆ 232 ลำ และมีลูกเรือจำนวน 255,000 นาย นอกจากนี้ยังใช้เครื่องบินนาวิกโยธินมากกว่า 710 ลำ รวมทั้งเครื่องบินรบ เครื่องบินทิ้งระเบิด และเครื่องบินสงครามอิเล็กทรอนิกส์ มีปืนใหญ่ ตอร์ปิโดและขีปนาวุธจำนวนมากรวมอยู่ในนี้ด้วย
กองทัพอากาศ (PLAAF) แก้ไข
กองทัพอากาศกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLAAF; จีน: 中国人民解放军空军; พินอิน: Zhōngguó Rénmín Jiěfàngjūn Kōngjūn) เป็นสาขาทางอากาศของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ดูแลปฏิบัติการทางทหารที่ใช้อากาศยานในจีน เป็นกองทัพอากาศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย และใหญ่ที่สุดในโลกอันดับที่ 3 รองจากกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา และกองทัพอากาศรัสเซีย
ประกอบด้วย 5 หน่วยย่อย ได้แก่: การบิน การป้องกันภัยทางอากาศภาคพื้นดิน เรดาร์ กองบิน และหน่วยสนับสนุนอื่นๆ
ประกอบด้วยกำลังพลประจำการทั้งสิ้น 400,000 นาย ฝูงบินขนาดใหญ่และหลากหลายด้วยเครื่องบินประมาณ 4,000 ลำ โดยในจำนวนนี้เป็นเครื่องบินรบประมาณ 2,566 ลำ (เครื่องบินขับไล่ โจมตี และเครื่องบินทิ้งระเบิด)
กองทัพจรวด (PLARF) แก้ไข
กองทัพจรวดกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLARF; จีน: 中国人民解放军火箭军; พินอิน: Zhōngguó Rénmín Jiěfàngjūn Huǒjiàn Jūn) เป็นกองกำลังขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของจีน เป็นสาขาที่ 4 ของกองทัพปลดปล่อยประชาชน และควบคุมคลังแสงขีปนาวุธภาคพื้นดินของจีนทั้งนิวเคลียร์และธรรมดา อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาโดยตรงของคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
มีคลังแสงขีปนาวุธภาคพื้นดินที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการประมาณการของเพนตากอน ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธพิสัยสั้นติดอาวุธทั่วไป 1,200 ลูก ขีปนาวุธพิสัยกลางธรรมดา 200-300 ลูก และขีปนาวุธพิสัยกลางทั่วไปที่ไม่ทราบจำนวน เช่นเดียวกับขีปนาวุธร่อนแบบปล่อยจากภาคพื้นดิน 200-300 ลูก จำนวนเหล่านี้มีความแม่นยำสูงมากซึ่งจะทำให้สามารถทำลายเป้าหมายได้แม้ไม่มีหัวรบนิวเคลียร์
โดยรวมแล้ว คาดว่าจีนมีหัวรบนิวเคลียร์จำนวน 320 หัวรบในปี 2021 โดยไม่ทราบจำนวนที่ยังประจำการอยู่และพร้อมที่จะนำไปใช้งาน ในปี 2556 กระทรวงกลาโหมสหรัฐประเมินว่าคลังแสง ICBM ที่ใช้งานของจีนอยู่ในระยะ ระหว่าง 50 และ 75 ขีปนาวุธบนบกและในทะเล การประเมินข่าวกรองล่าสุดในปี 2019 ทำให้จำนวน ICBM ของจีนอยู่ที่ประมาณ 90 และเติบโตอย่างรวดเร็ว PLARF ประกอบด้วยบุคลากรประมาณ 120,000 นาย
กองทัพสนับสนุนทางยุทธศาสตร์ (PLASSF) แก้ไข
กองทัพสนับสนุนทางยุทธศาสตร์กองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLASSF;จีน: 中国人民解放军战略支援部队; พินอิน: Zhōngguó rénmín jiěfàngjūn zhànlüè zhīyuán bùduì) เป็นกองทัพใหม่ล่าสุดของกองทัพปลดปล่อยประชาชน จำนวนบุคลากรประมาณ 175,000 นาย
การประกาศเบื้องต้นเกี่ยวกับกองทัพสนับสนุนทางยุทธศาสตร์ไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก แต่กระทรวงกลาโหมของจีนอธิบายว่าเป็นการบูรณาการกองกำลังสนับสนุนการสู้รบในปัจจุบันทั้งหมดแต่จำกัดเฉพาะสาขาอวกาศ ไซเบอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และข่าวกรอง นอกจากนี้ ยังมีผู้คาดการณ์ว่าสาขาบริการใหม่จะรวมกองกำลังปฏิบัติการที่มีเทคโนโลยีสูง เช่น หน่วยปฏิบัติการอวกาศ ไซเบอร์สเปซ และสงครามอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ขึ้นกับสาขาอื่นๆ ของกองทัพ
งบประมาณและรายจ่าย แก้ไข
ปี | มูลค่า (พันล้านเหรียญ สหรัฐ) |
---|---|
มีนาคม 2000 | 14.6[ต้องการอ้างอิง] |
มีนาคม 2001 | 17.0[ต้องการอ้างอิง] |
มีนาคม 2002 | 20.0[ต้องการอ้างอิง] |
มีนาคม 2003 | 22.0[ต้องการอ้างอิง] |
มีนาคม 2004 | 24.6[ต้องการอ้างอิง] |
มีนาคม 2005 | 29.9[ต้องการอ้างอิง] |
มีนาคม 2006 | 35.0[ต้องการอ้างอิง] |
มีนาคม 2007 | 44.9[ต้องการอ้างอิง] |
มีนาคม 2008 | 58.8[14] |
มีนาคม 2009 | 70.0[ต้องการอ้างอิง] |
มีนาคม 2010 | 76.5[15] |
มีนาคม 2011 | 90.2[15] |
มีนาคม 2012 | 103.1[15] |
มีนาคม 2013 | 116.2[15] |
มีนาคม 2014 | 131.2[15] |
มีนาคม 2015 | 142.4[15] |
มีนาคม 2016 | 143.7[15] |
มีนาคม 2017 | 151.4[15] |
มีนาคม 2018 | 165.5[16] |
มีนาคม 2019 | 177.6[17] |
พฤษภาคม 2020 | 183.5[18] |
มีนาคม 2021 | 209.4[19] |
มีนาคม 2022 | 229.4[20] |
การใช้จ่ายทางทหารสำหรับกองทัพปลดปล่อยประชาชนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 ต่อปีในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา[21] สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI) ประมาณการค่าใช้จ่ายทางทหารของจีนในปี 2013 ไว้ที่ 188.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ[22] งบประมาณทางทหารของจีนในปี 2014 จากข้อมูลของ Janes Information Services ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาและวิเคราะห์อุตสาหกรรมกลาโหม อยู่ที่ 148 พันล้านเหรียญสหรัฐ[23] ซึ่งเป็นใหญ่เป็นอันดับสองในโลก งบประมาณทางทหารของสหรัฐอเมริกาสำหรับปี 2014 เมื่อเปรียบเทียบแล้ว อยู่ที่ 574.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ,[24] ซึ่งลดลงจากระดับสูงสุด 664.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2012
จากข้อมูลของสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI) จีนกลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่อันดับสามของโลกในปี 2010-2014 เพิ่มขึ้น 143% จากช่วงปี 2005-2009
การใช้จ่ายทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกิดความตึงเครียดในทะเลจีนใต้โดยมีข้อพิพาทเกี่ยวกับดินแดนที่เกี่ยวข้องกับฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไต้หวัน รวมถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับหมู่เกาะเซ็งกากุที่เป็นข้อพิพาท - เลขาธิการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โรเบิร์ต เกตส์ ได้เรียกร้องให้จีนมีความโปร่งใสมากขึ้นเกี่ยวกับขีดความสามารถและความตั้งใจทางทหารของตน.[25][26]
ตัวเลขงบประมาณได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ของสภาแห่งรัฐผ่านเอกสารชื่อ 'งบประมาณส่วนกลางและท้องถิ่น' ตามด้วยปีก่อนหน้าที่เผยแพร่
เพลง แก้ไข
เพลงประจำกองทัพปลดปล่อยประชาชาชน คือ เพลงของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (จีน: 中国人民解放军军歌; พินอิน: Zhōngguó Rénmín Jiěfàngjūn Jūngē) หรือที่รู้จักกันในชื่อ มาร์ชกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (จีนตัวย่อ: 中国人民解放军进行曲; จีนตัวเต็ม: 中國人民解放軍進行曲; พินอิน: Zhōngguó Rénmín Jiěfàngjūn Jìnxíngqǔ) เป็นเพลงรักชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน เพลงนี้เขียนโดย Zhang Yongnian และเนื้อร้องโดย Zheng Lücheng
อีกรูปแบบของเพลงที่ถูกดัดแปลงเรียกว่า เพลงสวนสนามของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (จีน: 分列式进行曲; พินอิน: Fēnlièshì jìnxíngqǔ) ถูกใช้เป็นเพลงในการสวนสนามของกองทัพ เช่น ในการสวนสนามวันชาติจีน ตั้งแต่ปี 1949 เป็นต้นมา
สัญลักษณ์ แก้ไข
ตราสัญลักษณ์ แก้ไข
ตราสัญลักษณ์ของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ประกอบด้วยดาวสีแดงซึ่งมีตัวอักษรจีนสองตัว "八一" (ตามตัวอักษร "แปด-หนึ่ง") ซึ่งหมายถึงการจลาจลหนานชางในวันที่ 1 สิงหาคม 1927
ธง แก้ไข
ธงของกองทัพปลดแอกประชาชน เค้าโครงของธงมีรูปดาวสีทองที่มุมซ้ายบน และตัวอักษรจีนสองตัว "八一" ทางด้านขวาของรูปดาว บนพื้นหลังสีแดง แต่ละเหล่ายังมี ธง: 5⁄8 บนสุดของธงเหมือนกันกับธงกองทัพปลดปล่อยประชาชน ส่วน 3⁄8 ล่างเป็นสีของเหล่านั้นๆ
-
ธงของกองทัพปลดปล่อยประชาชน
ยุทธภัณฑ์ แก้ไข
อาวุธประจำกาย แก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อาวุธประจำหน่วย แก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ศาลทหาร แก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ความสัมพันธ์ทางทหาร แก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ดูเพิ่ม แก้ไข
หนังสืออ่านเพิ่มเติม แก้ไข
เชิงอรรถ แก้ไข
- ↑ "【延安记忆】"中国人民解放军"称谓由此开始". 2020-08-01. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-22. สืบค้นเมื่อ 2020-08-22.
- ↑ "1947年10月10日,《中国人民解放军宣言》发布". 中国军网. 2017-10-10. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-22. สืบค้นเมื่อ 2020-08-22.
- ↑ "中国共产党领导的红军改编为八路军的背景和改编情况 – 太行英雄网". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 January 2022. สืบค้นเมื่อ 7 January 2022.
- ↑ 4.0 4.1 The International Institute for Strategic Studies 2022, p. 255.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อChina
- ↑ 6.0 6.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อglobalfirepower1
- ↑ Chinese People's Armed Police Force (CAPF)
- ↑ 8.0 8.1 Tian, Nan; Fleurant, Aude; Kuimova, Alexandra; Wezeman, Pieter D.; Wezeman, Siemon T. (24 April 2022). "Trends in World Military Expenditure, 2021" (PDF). Stockholm International Peace Research Institute. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 April 2022. สืบค้นเมื่อ 25 April 2022.
- ↑ Xue, Maryann (4 July 2021). "China's arms trade: which countries does it buy from and sell to?". South China Morning Post.
- ↑ 10.0 10.1 "TIV of arms imports/exports from China, 2010-2021". Stockholm International Peace Research Institute. 7 February 2022.
- ↑ "The PLA Navy's New Historic Missions: Expanding Capabilities for a Re-emergent Maritime Power" (PDF). เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 28 April 2011. สืบค้นเมื่อ 1 April 2011.
- ↑ Lew, Christopher R.; Leung, Pak-Wah, บ.ก. (2013). Historical Dictionary of the Chinese Civil War. Lanham, Maryland: The Scarecrow Press, Inc. p. 3. ISBN 978-0810878730.
- ↑ "Considerations for replacing Military Area Commands with Theater Commands". english.chinamil.com.cn. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 February 2018. สืบค้นเมื่อ 13 January 2019.
- ↑ Lague, David (4 March 2008). "China increases military spending". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 November 2020. สืบค้นเมื่อ 10 February 2020.
- ↑ 15.0 15.1 15.2 15.3 15.4 15.5 15.6 15.7 "What does China really spend on its military?". 28 December 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 August 2018. สืบค้นเมื่อ 15 August 2018.
- ↑ "China says defence spending increase to be 'appropriate' | News | al Jazeera". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 May 2019. สืบค้นเมื่อ 13 May 2019.
- ↑ "China Sets Date for 'Two Sessions' in Latest Move Toward Post-COVID Normal". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 May 2020. สืบค้นเมื่อ 6 May 2020.
- ↑ "What Does China Really Spend on its Military?". 28 December 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 August 2018. สืบค้นเมื่อ 15 August 2018.
- ↑ Grevatt, Jon; Andrew, MacDonald (5 March 2021). "China announces 6.8% increase in 2021 defence budget". Janes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 April 2021. สืบค้นเมื่อ 28 April 2021.
- ↑ Yew Lun Tian (5 March 2022). "China plans 7.1% defence spending rise this year, outpacing GDP target". Reuters. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 March 2022. สืบค้นเมื่อ 5 March 2022.
- ↑ 2007 Annual Report to Congress: Military Power of the People's Republic of China. p. 25.
- ↑ "SIPRI Military Expenditure Database". Stockholm International Peace Research Institute. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 May 2016. สืบค้นเมื่อ 18 March 2015.
- ↑ Ramzy, Austin (4 February 2014). "Middle East, Russia and China fuel 2014 global defense spending surge: report". The Washington Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 February 2014. สืบค้นเมื่อ 24 February 2014.
- ↑ Lawrence, Dune (3 February 2014). "China to Ramp Up Military Spending". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 March 2014. สืบค้นเมื่อ 24 February 2014.
- ↑ "US, China need transparent military ties: Gates." เก็บถาวร 3 มิถุนายน 2009 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Agence France-Presse, 30 May 2009.
- ↑ "Amid development of stealth fighter, aircraft carrier, China insists its military not a threat." เก็บถาวร 23 มีนาคม 2019 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Associated Press, 13 June 2011.