เย่ เจี้ยนอิง
เย่ เจี้ยนอิง (จีนตัวย่อ: 叶剑英; จีนตัวเต็ม: 葉劍英; 28 เมษายน ค.ศ. 1897 – 22 ตุลาคม ค.ศ. 1986) เป็นผู้นำการปฏิวัติคอมมิวนิสต์และนักการเมืองชาวจีน หนึ่งในสิบจอมพลของสาธารณรัฐประชาชนจีน เขาเป็นผู้นำทหารชั้นนำในการรัฐประหาร ค.ศ. 1976 ที่ล้มล้างแก๊งออฟโฟร์และยุติการปฏิวัติทางวัฒนธรรม และเป็นผู้สนับสนุนหลักของเติ้ง เสี่ยวผิงในการแย่งชิงอำนาจกับฮฺว่า กั๋วเฟิงระหว่างปี ค.ศ. 1978 ถึง 1981 ซึ่งจบลงด้วยการที่ฮฺว่าเลือนหายไปในความคลุมเครือทางการเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ เย่ทำหน้าที่เป็นประมุขแห่งรัฐของจีนตั้งแต่ ค.ศ. 1978 จนถึง ค.ศ. 1983
ประวัติ
แก้เย่ อี๋เหว่ย์ (จีน: 叶宜伟) เกิดในครอบครัวพ่อค้าชาวแคะคริสเตียนฐานะร่ำรวยในหมู่บ้านชนบทเก่าแก่ในอำเภอเจียอิง ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเขตเหมย์เซี่ยน เมืองเหมย์โจว มณฑลกวางตุ้ง ชื่อรองของเขาคือ ชางไป๋ (滄白) พี่น้องของเย่ส่วนใหญ่เสียชีวิตก่อนจะเป็นผู้ใหญ่ด้วยอาการป่วยร้ายแรง[1]
หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนการทหารยูนนานใน ค.ศ. 1919 เขาได้เข้าร่วมก๊กมินตั๋ง ทำงานสอนหนังสือที่โรงเรียนการทหารหวงผู่ และเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ใน ค.ศ. 1927
ในปีนั้น เขาเข้าร่วมในการก่อการกำเริบหนานชางที่ล้มเหลวและถูกบังคับให้หลบหนีไปฮ่องกงพร้อมกับผู้นำการกำเริบอีกสองคน คือ โจว เอินไหลและเย่ ถิ่ง (ไม่มีความสัมพันธ์กัน) โดยมีเพียงปืนพกสองกระบอกที่แบ่งกันใช้ ไม่นานหลังจากนั้น เขาปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างซื่อสัตย์ในช่วงการก่อการกำเริบกว่างโจว แม้เขาจะต่อต้านก็ตาม เมื่อการกำเริบครั้งนี้ล้มเหลวเขาจึงจำต้องหนีไปฮ่องกงกับเย่ ถิ่งและเนี่ย หรงเจินอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เย่โชคดีกว่าเย่ ถิงมาก ซึ่งถูกใช้เป็นแพะรับบาปสำหรับความล้มเหลวของโคมินเทิร์นและถูกบังคับให้ลี้ภัย เย่ไม่ถูกตำหนิ และต่อมาได้ไปศึกษาวิทยาศาสตร์การทหารที่มอสโก
หลังกลับมายังประเทศจีนใน ค.ศ. 1932 เขาเข้าร่วมกองทัพโซเวียตเจียงซี โดยดำรงตำแหน่งเสนาธิการกองทัพหน้าที่สี่ของจาง กั๋วเทา อย่างไรก็ตาม หลังนักสู้ของจางพบกับกองกำลังของเหมา เจ๋อตงระหว่างการเดินทัพทางไกล ผู้นำทั้งสองก็มีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวในเวลาต่อมาของกองทัพแดงจีน จางยืนกรานที่กลับไปทางใต้เพื่อสร้างฐานที่มั่นใหม่ในพื้นที่ที่ชนกลุ่มน้อยทิเบตและเชียงอาศัยอยู่ (ภายหลังกลายเป็นหายนะอย่างที่เหมาคาดการณ์ไว้ โดยจางเสียกำลังพลไปกว่าร้อยละ 75 และต้องล่าถอยไปยังฐานทัพคอมมิวนิสต์ที่เมืองเหยียนอาน) ระหว่างที่ผู้นำทั้งสองมีความเห็นไม่ตรงกัน เย่ – แม้เขาจะเป็นเสนาธิการของจาง – กลับเข้าข้างเหมา และแทนที่จะสนับสนุนจางโดยไม่มีเงื่อนไขเช่นเดียวกับที่เขาทำในช่วงการก่อการกำเริบกว่างโจว เย่กลับหลบหนีไปที่สำนักงานใหญ่ของเหมาพร้อมกับหนังสือรหัสและแผนที่ของจาง เป็นผลให้การสื่อสารระหว่างจางกับโคมินเทิร์นถูกตัดขาด ขณะที่เหมาสามารถสร้างเครือข่ายทางวิทยุได้ เป็นผลให้โคมินเทิร์นยอมรับความเป็นผู้นำของเหมา เหมาจะไม่มีวันลืมผลงานของเย่ โดยเขากล่าวในเวลาต่อมาว่า "เย่ เจี้ยนอิงช่วยพรรค (คอมมิวนิสต์จีน) กองทัพแดง (จีน) และการปฏิวัติ (จีน)"
ภายหลังการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เย่ได้รับแต่งตั้งให้ดูแลมณฑลกวางตุ้ง เป็นผลให้เขาต้องเสียอาชีพทางการเมืองภายใต้การปกครองของเหมา เย่เข้าใจว่าสภาพเศรษฐกิจในมณฑลนั้นต่างจากที่อื่น ๆ ในประเทศจีนมาก เนื่องจากเจ้าของที่ดินชาวกวางตุ้งส่วนใหญ่ก็เป็นชาวนาที่เข้าร่วมในการผลิตโดยไม่เอาเปรียบผู้เช่า ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธที่จะยึดทรัพย์สินของเจ้าของที่ดิน และเลือกที่จะปกป้องธุรกิจและที่ดินของพวกเขาแทน อย่างไรก็ตาม นโยบายของเย่ขัดกับคำสั่งของการปฏิรูปที่ดินที่พรรคกำหนดซึ่งเน้นย้ำถึงการต่อสู้ทางชนชั้น นโยบายของเขาถูกมองว่าอ่อนเกินไป ทำให้เย่และคณะทำงานในพื้นที่ถูกแทนโดยหลิน เปียวในไม่ช้า และนโยบายที่เข้มงวดกว่ามากก็ถูกนำไปปฏิบัติ เจ้าของที่ดินชาวกวางตุ้งหลายแสนคนถูกประหารชีวิต เป็นผลให้อาชีพทางการเมืองของเย่สิ้นสุดลงโดยสิ้นเชิง
กระนั้น เหมาก็ไม่ได้ลืมสิ่งที่เย่ได้ทำเพื่อเขาในช่วงการเดินทัพทางไกล และด้วยเหตุนี้จึงปลดเขาออกจากตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้นขณะที่ยังคงรักษาตำแหน่งทางทหารไว้ ผลก็คือจนถึง ค.ศ. 1968 เย่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ทางทหารต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และได้รับแต่งตั้งเป็นจอมพลใน ค.ศ. 1955 เย่มีความฉลาดในการใช้อิทธิพลทางทหารของเขาเพื่อให้การสนับสนุนที่จำกัดและเขายังรับผิดชอบการแทรกแซงความพยายามลอบสังหารนักปฏิรูปอีกด้วย
หลิน เปียวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกใน ค.ศ. 1971 (อุบัติการณ์หลิน เปียว)[2]: 154 ระหว่างการรณรงค์วิจารณ์หลิน วิจารณ์ขงจื๊อที่ตามมา นายพลหลายนายที่ได้รับการสนับสนุนจากหลินถูกปลดจากตำแหน่งและโครงการทางการทหารที่หลินได้ดำเนินการไว้ก็ถูกยกเลิก[2]: 154 ใน ค.ศ. 1973 กองทัพปลดปล่อยประชาชนทำการปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด[2]: 154 จากนั้น เย่เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติการของกองทัพฯ โดยปรึกษากับโจว เอินไหล[2]: 154 ใน ค.ศ. 1975 เย่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แทนตำแหน่งเดิมของหลิน ตั้งแต่ ค.ศ. 1973 เขายังดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนอีกด้วย
เย่เป็นผู้นำกลุ่มนายพลและผู้อาวุโสพรรคที่ล้มล้างเจียง ชิงและแก๊งออฟโฟร์ ในระหว่างการวางแผนเบื้องต้นที่บ้านพักของเขา เขากับหลี่ เซียนเนี่ยนสื่อสารกันด้วยการเขียน แม้พวกเขาจะนั่งข้างกันก็ตาม เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดการรบกวน วันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1976 เย่ได้สั่งจับกุมแก๊งออฟโฟร์และเหมา ยฺเหวี่ยนซิน[2]: 155
ด้วยการสนับสนุนของเย่ต่อประธานฮฺว่า กั๋วเฟิง เขาจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานพรรคในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 11 ใน ค.ศ. 1977 เนื่องจากความต้องการทางกายภาพของรัฐมนตรีกลาโหมมีมากเกินไปสำหรับเย่ในวัย 80 ปี เขาจึงลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวใน ค.ศ. 1978 และได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ โดยดำรงตำแหน่งที่ว่างลงนี้นับตั้งแต่จู เต๋อเสียชีวิตใน ค.ศ. 1976 ดังนั้น เย่จึงเป็นประมุขแห่งรัฐทางพิธีการของจีน
สอดคล้องกับแนวทางหนึ่งประเทศ สองระบบของเติ้ง เย่ได้ขยายความการรวมประเทศกับไต้หวันอย่างสันติผ่าน "ข้อเสนอ 9 ประการ" ของเขาในวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1981 ซึ่งไต้หวันจะมีอำนาจปกครองตนเองในระดับสูงหลังการรวมประเทศ[3]: 228 ข้อเสนอเก้าประการยังกล่าวถึงการค้า การขนส่ง และบริการไปรษณีย์เป็น "สามสัมพันธ์" ข้ามช่องแคบและ "การแลกเปลี่ยนสี่ประการ" ในด้านวัฒนธรรม วิชาการ เศรษฐศาสตร์ และกีฬา[3]: 228
เย่เกษียณจากประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติใน ค.ศ. 1983 และใน ค.ศ. 1985 เขาก็ถอนตัวออกจากคณะกรรมาธิการสามัญกรมการเมืองอย่างสมบูรณ์ เขาเสียชีวิตประมาณหนึ่งปีต่อมาด้วยวัย 89 ปีในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1986[4]
ครอบครัว
แก้เย่แต่งงานหกครั้งและมีลูกหกคน ลูกชายของเขา ได้แก่ เย่ เสฺวี่ยนผิง (1924–2019), เย่ เสฺวี่ยนหนิง (1938–2016) และเย่ เสฺวี่ยนเหลียน (叶选廉, เกิด ค.ศ. 1952) โรบินน์ ยิป (เกิด ค.ศ. 1986) หลานสาวของเย่ ลูกสาวของเสฺวี่ยนเหลี่ยน เป็นนักดนตรีอาชีพที่อาศัยอยู่ในฮ่องกง
รางวัลและเกียรติยศ
แก้- สาธารณรัฐประชาชนจีน
- เครื่องอิสริยาภรณ์ 1 สิงหาคม (ชั้นที่ 1) (ค.ศ. 1955)
- เครื่องอิสริยาภรณ์เอกราชและเสรีภาพ (ชั้นที่ 1) (ค.ศ. 1955)
- เครื่องอิสริยาภรณ์แห่งการปลดปล่อย (ชั้นที่ 1) (ค.ศ. 1955)
อ้างอิง
แก้- ↑ "叶剑英和叶道英的兄弟情 - 全网搜".
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 Li, Xiaobing (2018). The Cold War in East Asia. Abingdon, Oxon: Routledge. ISBN 978-1-138-65179-1.
- ↑ 3.0 3.1 Chen, Dean P. (2024). "Xi Jinping and the Derailment of the KMT-CCP "1992 Consensus"". ใน Fang, Qiang; Li, Xiaobing (บ.ก.). China under Xi Jinping: A New Assessment. Leiden University Press. ISBN 9789087284411.
- ↑ Pace, Eric (October 23, 1986). "Marshal Ye Jianyang Dies at 90; Had Been China's Head of State". The New York Times. p. D30. สืบค้นเมื่อ January 5, 2025.
ก่อนหน้า | เย่ เจี้ยนอิง | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
เจ้าหน้าที่รัฐบาล | ||||
สมัยก่อนหน้า หลิว เหยาจาง |
นายกเทศมนตรีปักกิ่ง ค.ศ. 1949 |
สมัยต่อมา เนี่ย หรงเจิน | ||
สมัยก่อนหน้า ซฺเว ยฺเว่ as ประธานคณะรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง |
ผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้ง ค.ศ. 1949–1953 |
สมัยต่อมา เถา จู้ | ||
Vacant Title last held by จอมพล หลิน เปียว
|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ค.ศ. 1975–1978 |
สมัยต่อมา จอมพล สฺวี เซี่ยงเฉียน | ||
สมัยก่อนหน้า ซ่ง ชิ่งหลิง as รักษาการประธานฯ |
ประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ ค.ศ. 1978–1983 |
สมัยต่อมา เผิง เจิน | ||
ประมุขแห่งรัฐสาธารณรัฐประชาชนจีน (ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ) ค.ศ. 1978–1983 |
สมัยต่อมา หลี่ เซียนเนี่ยน as ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน | |||
วาระในพรรคการเมือง | ||||
สมัยก่อนหน้า |
เลขาธิการคณะกรรมาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลกวางตุ้ง ค.ศ. 1949–1955 |
สมัยต่อมา เถา จู้ | ||
Vacant Title last held by หลิน เปียว
|
รองประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีน ค.ศ. 1973–1982 Served alongside: โจว เอินไหล, ฮฺว่า กั๋วเฟิง, เติ้ง เสี่ยวผิง, วัง ตงซิ่ง, หลี่ เต๋อเชิง, คัง เชิง, หวัง หงเหวิน, เฉิน ยฺหวิน และจ้าว จื่อหยาง |
ยกเลิกตำแหน่ง | ||
ตำแหน่งทางทหาร | ||||
New title | ผู้บัญชาการเขตทหารกวางตุ้ง กองทัพปลดปล่อยประชาชน ค.ศ. 1949–1951 |
สมัยต่อมา หฺวาง อีผิง | ||
กรรมาธิการการเมืองเขตทหารกวางตุ้ง กองทัพปลดปล่อยประชาชน ค.ศ. 1949–1950 |
สมัยต่อมา ถาน เจิ้ง |