สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ชื่อเล่น ปึ้ง[2] อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อดีตประธานกรรมาธิการการคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร อดีตประธานที่ปรึกษาศูนย์รักษาความสงบ[3][4] ในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์
ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล | |
---|---|
![]() | |
รองนายกรัฐมนตรี | |
ดำรงตำแหน่ง 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555 – 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ( 1 ปี 192 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ | |
ดำรงตำแหน่ง 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554 – 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ( 2 ปี 271 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร |
ผู้ว่าการแทน | พงศ์เทพ เทพกาญจนา |
ก่อนหน้า | นายกษิต ภิรมย์ |
ถัดไป | พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2496 (66 ปี) จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย |
คู่สมรส | อัญชลี โตวิจักษณ์ชัยกุล (หย่า)[1] |
ศาสนา | พุทธ |
ลายมือชื่อ | ![]() |
ประวัติแก้ไข
ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2496 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นญาติของดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากสุมาลี โตวิจักษณ์ชัยกุล น้าของสุรพงษ์ แต่งงานกับเสถียร ชินวัตร อาของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร[5] ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เคยสมรสกับอัญชลี โตวิจักษณ์ชัยกุล มีบุตร 2 คน คือ ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล และศุภิสรา โตวิจักษณ์ชัยกุล
สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปีที่ 5 จากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น, ปริญญาวิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยยังทาวน์สเตท รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา และปริญญาวิศวกรรมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยแห่งแอเคริน รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา มีน้องชายชื่อ สุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม[6]
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ให้ลงโทษจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา เขาได้รับการประกันตัวในวันดังกล่าวด้วยวงเงิน 5 ล้านบาท[7] โดยศาลมีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศ
งานการเมืองแก้ไข
ร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์แก้ไข
สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุลเริ่มเข้าสู่งานการเมืองโดยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใน พ.ศ. 2529 สังกัดพรรคกิจสังคม แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง[8] ต่อมาเขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์[9] ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2539 และได้รับเลือกเป็นกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดเดิม แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง โดยแพ้ให้กับปกรณ์ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทย[10] จากนั้นในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2548 ดร.สุรพงษ์ยังคงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดิม แต่ย้ายมาลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 41 แต่ก็ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ดร.สุรพงษ์ ได้มีบทบาทสำคัญในการอภิปรายโจมตี ดร.ทักษิณ ชินวัตร[11]
ร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย - พลังประชาชน - เพื่อไทยแก้ไข
ต่อมา ดร.สุรพงษ์ ย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ. 2549 ภายหลังรัฐประหารและพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค จึงย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชาชน และ ดร.สุรพงษ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 ในนามพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรคในขณะนั้น รวมถึงได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร ต่อจากนั้นได้ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย[12] และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2553[13] ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 20 ของพรรคเพื่อไทย และได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร[14] ต่อมาได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพิ่มอีกตำแหน่งหนึ่ง[15]
อนึ่ง สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุลเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่วมลงนามถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษแก่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ร่วมกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2552[16]
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2556 เขาได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. แทนพลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก[17]
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 4[18] แต่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้การเลือกตั้งครั้งนั้นไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการโยกย้ายถวิล เปลี่ยนศรีจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ[19]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์แก้ไข
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ 'สุรพงษ์'อดีตรมว.กต.แจ้งครอบครองงาช้าง
- ↑ "ปึ้ง" ร่ายยาวย้ำพูดครั้งสุดท้ายออกพาสปอร์ตให้ "แม้ว" ได้ สภาประท้วงวุ่นค้านไม่เห็นด้วยใช้คำว่า "นักโทษชาย", 27 พฤศจิกายน 2555, ข่าวมติชนออนไลน์.
- ↑ [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/E/013/5.PDF
- ↑ https://www.isranews.org/isranews-news/26828-peg-leam.html “ปึ้ง” ขู่จับกกต. ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ “เฉลิม” ลั่นอย่าให้ตร.ทนไม่ได้]
- ↑ "สุรพงษ์" เปิดความลับ ที่แท้เป็นญาติกับ "แม้ว" ขนาดแกนนำ "แดง" ก็ไม่รู้
- ↑ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1404852320
- ↑ รอดนอนคุก! ศาลให้ประกัน 'สุรพงษ์' 5 ล้าน ห้ามออกนอกประเทศ
- ↑ รายงานวิจัยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2529. กรมการปกครอง. 2529
- ↑ จากเว็บไซต์ข้อมูลการเลือกตั้งกรมการปกครอง
- ↑ ผลการเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่
- ↑ ลิ่วล้อสองหัวแห่งเมืองเชียงใหม่
- ↑ พรรคเพื่อไทยเผยรายชื่อ 32 ส.ส.ที่โหวตเลือกอภิสิทธิ์
- ↑ คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย
- ↑ พระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี (รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนพิเศษที่ 88 ง วันที่ 9 สิงหาคม 2554 หน้า 2
- ↑ พระบรมราชโองการประกาศ ใหรัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรีราชกิจจานุเบกษา เล่ม 129 ตอนพิเศษที่ 164 ง วันที่ 28 ตุลาคม 2555 หน้า 1
- ↑ กรุงเทพธุรกิจ, สุรพงษ์ นับญาติ-อาทักษิณร่วมลงชื่อฎีกา โวเข้าเกณฑ์
- ↑ แฉปลด"ประชา"พ้นผอ.ศอ.รส.ฉุนใจไม่สู้.... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1eOeLg9
- ↑ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (พรรคเพื่อไทย)
- ↑ เปิดรายชื่อ รมต. ตกเก้าอี้พร้อมยิ่งลักษณ์ ข่าวไทยรัฐ ออนไลน์
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทยประจำปี 2554
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทยประจำปี 2552