สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์

หน่วยงานของรัฐในอนาคต

สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (อังกฤษ: Thailand Creative Culture Agency; ชื่อเดิม: Thailand Creative Content Agency; ชื่อย่อ: THACCA) เป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทย ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของนายกรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย[1] ปัจจุบันเป็นหน่วยงานย่อยของสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) ซึ่งเป็นหน่วยงานธุรการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยที่ยังไม่จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ

สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์
ภาพรวมหน่วยงาน
หน่วยงานก่อนหน้า
สำนักงานใหญ่1160 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 (เบื้องต้น)
ต้นสังกัดหน่วยงานสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (2567-ปัจจุบัน)
นายกรัฐมนตรี (หลัง พ.ร.บ. บังคับใช้)
เว็บไซต์thacca.go.th

ในอนาคต ภายหลังร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ พ.ศ. ... มีผลบังคับใช้ THACCA จะจัดตั้งขึ้นเป็นหน่วยงานของรัฐอย่างเป็นทางการผ่านการแปรสภาพจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) พร้อมทั้งรับโอนภารกิจการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์จากสำนักงาน ป.ย.ป. มาดำเนินงานเองอย่างเต็มรูปแบบ และกำกับดูแลโดยคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์แห่งชาติที่จะแปรสภาพมาจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ[2]

ประวัติ

แก้

สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์จัดตั้งขึ้นอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่ช่วงต้นปี พ.ศ. 2567 ในสมัยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ภายใต้การดูแลของสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) ซึ่งเป็นหน่วยงานธุรการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ[3] โดยมีการเปิดเว็บไซต์ทางการและสื่อสังคมของสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ขึ้นในนาม THACCA มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์[1]

ส่วนหน่วยงานอย่างเป็นทางการจะจัดตั้งในอนาคตตามบทบัญญัติในร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ พ.ศ. ... ซึ่งยกร่างมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน และมีการทำการประชาพิจารณ์เสร็จสิ้นแล้วเมื่อช่วงวันที่ 1–30 เมษายน พ.ศ. 2567[2] แต่เกิดเหตุล่าช้าออกไปเนื่องจากมีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล โดยที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ (ชุดที่ 2) ที่แต่งตั้งขึ้นใหม่ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ได้นำร่างพระราชบัญญัตินี้กลับมาพิจารณาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2567[4] ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเสนอให้คณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ก่อนส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 26 และวุฒิสภาไทย ชุดที่ 13 ต่อไป คาดว่าจะบังคับใช้ได้ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2568[5]

ในบทเฉพาะกาลของร่างพระราชบัญญัตินี้กำหนดไว้ว่า หลังจากพระราชบัญญัตินี้บังคับใช้

  • คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ จะทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์แห่งชาติไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายในไม่เกิน 180 วัน จึงจะถือว่าคณะกรรมการถูกยุบเลิกและแปรสภาพโดยสมบูรณ์
  • สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) จะถูกยุบเลิกและแปรสภาพเป็นสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ทันที รวมถึงรับโอนภารกิจการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์จากสำนักงาน ป.ย.ป. มาดำเนินงานเองอย่างเต็มรูปแบบ แต่
    • ให้คณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทำหน้าที่คณะกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการบริหารภายในไม่เกิน 180 วัน
    • ให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ไปพลางก่อน[2]

ภารกิจ

แก้

สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ จะเป็นหน่วยงานยุทธศาสตร์ที่รวบรวมภารกิจและงบประมาณในการสนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ไว้โดยสมบูรณ์ และมีการวางแผนงานร่วมกันทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยในระดับนานาชาติ

โดยสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์จะทำหน้าที่สนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ ดังนี้

  1. จัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนการทำงานให้ไปในทิศทางเดียวกัน ต่อเนื่อง ชัดเจน ไม่ซ้ำซ้อน
  2. สนับสนุนด้านการเงิน โดยการตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ รวมถึงกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนทุกอุตสาหกรรม
  3. สนับสนุนองค์ความรู้ โดยการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกด้านการตลาดทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงเผยแพร่และสนับสนุนทุนวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์
  4. สร้างผู้ประกอบการหน้าใหม่และส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขัน โดยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา รับรองมาตรฐานอาชีพ ให้คำปรึกษาทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ และกำหนดมาตรการส่งเสริมการค้าอย่างเสรีและเป็นธรรม
  5. เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ให้เอกชนสามารถติดต่อประสานงานหรือขออนุญาตจากภาครัฐในการทำงานอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ครบวงจร[6]

คณะกรรมการ

แก้

ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการหลักจำนวน 4 คณะ คือ[2]

  1. คณะกรรมการนโยบายส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์แห่งชาติ มีหน้าที่จัดทำและติดตามยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ และแต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษหรือคณะอนุกรรมการ โดยแปรสภาพจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
  2. คณะกรรมการพิเศษแต่ละด้าน มีหน้าที่ดำเนินภารกิจพิเศษตามที่คณะกรรมการนโยบายมอบหมาย
  3. คณะกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ มีหน้าที่ดูแลกิจการทั่วไปของสำนักงาน โดยแปรสภาพมาจากคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
  4. คณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ มีหน้าที่บริหารกองทุน

คณะกรรมการนโยบายส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์แห่งชาติ

แก้

องค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์แห่งชาติตามมาตรา 7 มีดังนี้

กองทุน

แก้

ในร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์มีการกำหนดในมาตรา 53 ให้สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์จัดตั้ง กองทุนส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เพื่อใช้จ่ายในกิจการที่เกี่ยวกับการส่งเสริม ยกระดับ พัฒนา และสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานและผู้ประกอบวิชาชีพในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์และผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมของประเทศไทย ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ตามแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ โดยจะอยู่ในการบริหารของคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ประกอบด้วยเงินและทรัพย์สิน ดังนี้

  1. เงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรรให้
  2. เงินอุดหนุนจากรัฐบาลผ่านงบประมาณแผ่นดิน
  3. เงินที่คณะรัฐมนตรีโดยข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายให้โอนมาเป็นของกองทุน
  4. เงินรายได้จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
  5. ค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตามอัตราที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดและคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ
  6. ผลตอบแทนหรือรายได้จากการลงทุน การร่วมทุน หรือการให้การส่งเสริมของสำนักงานหรือกองทุน รวมถึงผลประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นของสำนักงานหรือกองทุน
  7. เงินบริจาค
  8. เงินค่าปรับเป็นพินัยตามกฎหมายดังกล่าว
  9. เงินหรือทรัพย์สินที่ตกเป็นของกองทุนหรือที่กองทุนได้รับตามกฎหมาย รวมถึงเงินตามสัญญา
  10. ผลประโยชน์จากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน

โดยเงินและทรัพย์สินเหล่านี้จะเป็นของสำนักงาน เพื่อใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุน โดยไม่ต้องนำส่งให้กระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายยังสามารถเสนอคณะรัฐมนตรีให้โอนเงินหรือทรัพย์สินจากกองทุนอื่น ๆ มาเป็นของกองทุนส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ตามจำนวนที่กำหนด โดยกองทุนที่สามารถโอนเงินได้ มีดังนี้

  1. กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
  2. กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
  3. กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
  4. กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ
  5. กองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย
  6. กองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย
  7. กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม
  8. ทุนหมุนเวียนอื่นที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์

โดยเมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว ให้กองทุนเหล่านี้ดำเนินการโอนทรัพย์สินภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มต้นปีงบประมาณถัดไป[2]

ทักก้า สแปลช

แก้

ทักก้า สแปลช (อังกฤษ: THACCA Splash) เป็นงานประชุมนานาชาติเกี่ยวกับซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย จัดขึ้นโดยรัฐบาลไทย ผ่านสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (ครั้งที่ 1 จัดโดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) และสำนักงาน ป.ย.ป.) เพื่อเป็นการประกาศขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์อย่างเป็นทางการ โดยครั้งแรกจัดขึ้นในวันที่ 28–30 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ที่ประสบความสำเร็จทั้งภาครัฐและเอกชน ตัวแทนจากแบรนด์ดังระดับโลกที่มาจากหลายอุตสาหกรรมอาทิ แฟชั่น เพลง ภาพยนตร์ หรืออาหาร[7]

ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. 1.0 1.1 เปิดตัวเพจ THACCA ทางการ ลุยซอฟต์พาวเวอร์ อำนาจขึ้นตรงนายกฯ คาดชงครม.มี.ค.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 "เปิดร่าง'พ.ร.บ.วัฒนธรรมสร้างสรรค์ฯ' ดึงเงิน'กองสลาก'-7 กองทุน ดัน'ซอฟต์พาวเวอร์' 11 สาขา". สำนักข่าวอิศรา. 21 เมษายน 2024. สืบค้นเมื่อ 24 เมษายน 2024.
  3. "การประชุมคณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ครั้งที่ 1/2567". สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง. 17 พฤษภาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2024.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  4. "นายกฯนั่งหัวโต๊ะประชุม กก.ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ เล็งชงใช้งบกลาง ดัน34 โครงการ". มติชน. 24 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 18 มีนาคม 2025. คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 มีวาระพิจารณา... ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ พ.ศ. … (พ.ร.บ. THACCA) โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ฯ
  5. "THACCA จับมือ Melco ยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่เวทีโลก ประเดิมอีเวนต์แรก 24 ก.พ." สำนักข่าวอินโฟเควสท์. 8 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 18 มีนาคม 2025. นพ.สุรพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการออก พ.ร.บ.THACCA.....
  6. "'THACCA' ประกาศรายชื่อ คณะอนุกรรมการ 'ซอฟต์พาวเวอร์' 5 ด้าน". กรุงเทพธุรกิจ. 19 กุมภาพันธ์ 2024. สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2024.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  7. "THACCA SPLASH Soft Power Forum 2024 พบ 48 Speakers ระดับโลก". ประชาชาติ.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้