จีเอ็มเอ็ม มิวสิค

บริษัทประกอบธุรกิจเพลงของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่

บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: GMM Music Public Company Limited) เป็นบริษัทมหาชนจำกัด ในเครือบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจเพลงและดนตรีอย่างครบวงจร ตั้งแต่การคัดเลือกศิลปิน การผลิตเพลง การทําการตลาดเพื่อส่งเสริมผลงานเพลง การบริหารและจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง การจําหน่ายเพลงทั้งรูปแบบดิจิทัลและทางกายภาพ รวมถึงการจัดคอนเสิร์ต เทศกาลดนตรี และบริหารจัดการศิลปิน มีสถานะเป็นบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียนในปัจจุบัน และเป็นบริษัทเรือธงสำหรับการประกอบธุรกิจเพลงของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ปัจจุบันมีไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เป็นประธานกรรมการ และภาวิต จิตรกร เป็นรองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน)
ชื่อเดิมบริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (7 เม.ย. 2566 – 10 มี.ค. 2567)
ประเภทบริษัทมหาชนจำกัด
อุตสาหกรรมดนตรี
ก่อตั้ง7 เมษายน พ.ศ. 2566; 16 เดือนก่อน (2566-04-07) ใน กรุงเทพมหานคร
สำนักงานใหญ่อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส, ,
บุคลากรหลัก
ผลิตภัณฑ์
บริษัทแม่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
บริษัทในเครือ
เว็บไซต์gmmmusic.com

จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้ก่อตั้ง บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด ขึ้นเป็นบริษัทย่อยเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2566 ตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลง ต่อมา จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้อนุมัติแผนการนำ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค เข้าสู่กระบวนการระดมทุนสาธารณะในรูปแบบการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่สาธารณชน ในสัดส่วนไม่เกิน 30% เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม จากนั้น จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้รับโอนธุรกิจเพลงทั้งหมดจากจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มาประกอบเองตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กันยายน และแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดในนาม บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2567

หลังจากนั้น จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในสายธุรกิจเพลงอีกหลายราย อาทิ ร่วมมือกับฮาร์เลมเชก จัดตั้งสถาบันศิลปะบันเทิงแบล็คเจ็ม, จำหน่ายหุ้น 10% ให้แก่ Black Serenade ในเครือเทนเซ็นต์ จากประเทศจีน, ร่วมทุนกับค่ายเพลงแอลดีเอช จากประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท จี แอนด์ แอลดีเอช จำกัด และร่วมทุนกับค่ายเพลงวอร์นเนอร์ มิวสิก เอเชีย จัดตั้งค่ายเพลงใหม่ด้วยเงินลงทุน 370 ล้านบาท[1]

ประวัติ

แก้

ก่อนปรับโครงสร้างธุรกิจเพลง

แก้
 
โลโก้ของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2566 - 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงครั้งใหญ่ของบริษัท โดยดำเนินการแยกธุรกิจ (Spin-off) ประกอบด้วยการโอนถ่ายทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบุคลากร สิทธิ หน้าที่ ความรับผิดต่าง ๆ และสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเพลง ออกมาจัดตั้งเป็นบริษัทย่อยใหม่ เพื่อสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดําเนินธุรกิจ โดยจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จะถือหุ้นในบริษัทย่อยใหม่จำนวน 100%[2]

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้แจ้งว่าได้ดำเนินการการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงขั้นแรก โดยจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยในชื่อ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (อังกฤษ: GMM Music Co., Ltd.) ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 7 เมษายน ด้วยทุนจดทะเบียน 4,000,000 บาท โดยที่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ถือหุ้นในสัดส่วน 100% โดยมีไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เป็นประธานกรรมการ, ภาวิต จิตรกร เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร[3]

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้มีมติกำหนดให้จีเอ็มเอ็ม มิวสิค เป็นบริษัทเรือธง (Flagship Company) ของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ สำหรับการประกอบธุรกิจเพลง และอนุมัติแผนการนำจีเอ็มเอ็ม มิวสิค เข้าสู่กระบวนการระดมทุนสาธารณะในรูปแบบการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่สาธารณชน (IPO) ในสัดส่วนไม่เกิน 30% และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้จีเอ็มเอ็ม มิวสิค สามารถขยายธุรกิจและส่งเสริมอุตสาหกรรมดนตรีให้เป็นเศรษฐกิจดนตรีใหม่ (New Music Economy)[4] โดยมีเงื่อนไขในการเข้าจดทะเบียนรวม 7 ข้อ[5] ทั้งนี้ เนื่องจากการเสนอขายหุ้นจะอยู่ภายใต้สัดส่วนไม่เกิน 30% ทำให้ภายหลังการเสนอขายหุ้นแล้ว จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จะยังคงเป็นบริษัทย่อยของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ตามเดิม[6]

การปรับโครงสร้างธุรกิจเพลง

แก้

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้แจ้งว่า ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงขั้นที่ 2 เรียบร้อยแล้ว ดังนี้

  • เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม คณะกรรมการบริหารกลุ่มของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้อนุมัติข้อตกลงและเงื่อนไขในสัญญาโอนธุรกิจเพลงทั้งหมด รวมถึงถึงสัญญาและเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และจีเอ็มเอ็ม มิวสิค
  • เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้อนุมัติให้รับโอนธุรกิจเพลง และเข้าทําสัญญารับโอนธุรกิจเพลงจากจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ รวมถึงอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค จากเดิม 4,000,0000 บาท เป็น 800,000,000 บาท โดยได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม
  • เมื่อวันที่ 1 กันยายน จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้ดำเนินการโอนธุรกิจเพลงทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยทรัพย์สิน หนี้สิน ภาระผูกพันต่าง ๆ และบุคลากรในธุรกิจเพลง รวมถึงหุ้นสามัญจดทะเบียนของบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจเพลงในส่วนที่ถือหุ้นโดยจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ทั้งหมด และยังดำเนินกิจการอยู่ ได้แก่ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค พับลิชชิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (สัดส่วน 100%), บริษัท จีสองร้อยเอ็ม จำกัด (สัดส่วน 100%), บริษัท จีอาร์ โวคอล สตูดิโอ จำกัด (สัดส่วน 65%) และบริษัท วายจีเอ็มเอ็ม จำกัด (สัดส่วน 51%) ให้แก่จีเอ็มเอ็ม มิวสิค (ตามเงื่อนไขเข้าจดทะเบียนข้อที่ 1)

จากการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงดังกล่าว ส่งผลให้เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน คณะกรรมการของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้อนุมัติการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ จากบริษัทที่ประกอบธุรกิจทั่วไป (Operating Company) เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นบริษัทอื่น (Holding Company) แทน โดยกำหนดให้จีเอ็มเอ็ม มิวสิค เป็นบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักที่ไม่เป็นบริษัทจดทะเบียน แต่หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ IPO ของจีเอ็มเอ็ม มิวสิคแล้ว จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จะกำหนดให้บริษัท จีเอ็มเอ็ม โอ ช้อปปิ้ง จำกัด เป็นบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักที่ไม่เป็นบริษัทจดทะเบียนแทน[7]

แปรสภาพและขยายพันธมิตร

แก้

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้เปลี่ยนโลโก้ เพื่อเตรียมความพร้อมอีกขั้นก่อนดำเนินการแยกธุรกิจ โดยมีจุดเด่นคือการใช้ลายเส้นและวางตำแหน่งตัวอักษร "US" ในคำว่า music ให้มีความโดดเด่น แตกต่าง โดยเฉพาะการเติมลายเส้นเชื่อมต่อ เพื่อให้สอดคล้องกับจุดมุ่งเน้นของบริษัทในอนาคตมากขึ้น[8] ต่อมา ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้อนุมัติการแปรสภาพบริษัทเป็นบริษัทมหาชนจำกัด รวมถึงแตกหุ้นจากเดิมหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท ทำให้จำนวนหุ้นทั้งหมดของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค มีจำนวน 800,000,000 หุ้น (ตามเงื่อนไขเข้าจดทะเบียนข้อที่ 2) จึงได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดในชื่อ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: GMM Music Public Co., Ltd.) ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม[9] (ตามเงื่อนไขเข้าจดทะเบียนข้อที่ 3)

ต่อมาเมื่อวันที่ 25 เมษายน จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้ร่วมมือกับสถาบันสอนการเต้น ฮาร์เลมเชก (Harlem Shake) จัดตั้งสถาบันศิลปะบันเทิงแบล็คเจ็ม (BLKGEM) เพื่อพัฒนาหลักสูตรและสร้างบุคลากร สำหรับรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมบันเทิง[10] ทั้งนี้ บริษัท จีอาร์ โวคอล สตูดิโอ จำกัด ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท แบล็คเจ็ม จำกัด เพื่อรองรับการประกอบธุรกิจสถาบันศิลปะบันเทิง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มีนาคม[9]

ต่อมาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม คณะกรรมการของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้อนุมัติการจำหน่ายหุ้นสามัญของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำนวน 80,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10% ให้แก่นักลงทุนเชิงกลยุทธ์ คือ Black Serenade Investment Limited (บริษัทร่วมระหว่างเทนเซ็นต์ มิวสิค (Tencent Music) และเทนเซ็นต์ (Tencent) จากประเทศจีน) ในมูลค่า 70,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,570,827,000 บาท) โดยกลุ่มเทนเซ็นต์จะชำระค่าตอบแทนด้วยเงินสด และจำหน่ายหุ้นสามัญของจูกซ์ ประเทศไทย (Joox Thailand) จำนวน 30% ให้ GMM Tomorrow Limited (บริษัทย่อยของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่) ในมูลค่า 25,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 918,152,500 บาท) คาดว่าการทำธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ของปีดังกล่าว[11]

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้ประกาศร่วมทุนกับแอลดีเอช (LDH) บริษัทค่ายเพลงจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดเพลงที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก จัดตั้งเป็น บริษัท จี แอนด์ แอลดีเอช จำกัด (G&LDH) เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมดนตรีของไทย และยกระดับความเชี่ยวชาญด้านการบริหารศิลปิน เพื่อเพิ่มมูลค่าของบริษัทให้มากขึ้น[12] โดยได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

แก้
  • ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ภายหลังการจำหน่ายหุ้นของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ให้กลุ่มเทนเซ็นต์[11]
ลำดับที่ รายชื่อผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้นสามัญ สัดส่วนการถือหุ้น
1 บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) 719,999,980 90.00%
2 Black Serenade Investment Limited 80,000,000 10.00%
3 นาย ภาวิต จิตรกร 10 0.00%
4 นาย ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม 10 0.00%
รวม 800,000,000 100.00%

บริษัทและธุรกิจในเครือ

แก้

บริษัทในเครือ

แก้

ปัจจุบัน จีเอ็มเอ็ม มิวสิค มีบริษัทในเครือจำนวน 5 บริษัท และกิจการร่วมค้า 1 แห่ง ดังนี้

การประกอบธุรกิจ

แก้

จีเอ็มเอ็ม มิวสิค มีรายได้จาก 5 แหล่งธุรกิจหลัก ดังนี้[4]

  • ธุรกิจเพลงดิจิทัล (Music Digital Business)
  • ธุรกิจจัดการศิลปินดนตรี (Music Artist Management Business)
  • ธุรกิจโชว์บิซ (Showbiz Business)
  • ธุรกิจการจัดการสิทธิ (Right Management Business)
  • ธุรกิจเชิงกายภาพ (Physical Business)

ศิลปินในสังกัด

แก้

ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. "'จีเอ็มเอ็ม มิวสิค' ดึง 'Warner Music Asia' ลงทุน 370 ล้านบาท ปลดล็อกธุรกิจเพลงโต". กรุงเทพธุรกิจ. 15 สิงหาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 20 สิงหาคม 2024.
  2. ชลยา พร้อมศรี (2023-02-27). "การปรับโครงสร้างธุรกิจเพลง" (PDF). จดหมายถึงกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 2023-08-02.{{cite press release}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  3. "GRAMMY ปรับโครงสร้างธุรกิจเพลง แยกตั้งบริษัทใหม่ "จีเอ็มเอ็ม มิวสิค"". ประชาชาติธุรกิจ. 2023-07-04. สืบค้นเมื่อ 2023-08-02.
  4. 4.0 4.1 "'แกรมมี่' เตรียม Spin-Off 'จีเอ็มเอ็ม มิวสิค' เข้าตลาด สร้างการเติบโตให้อุตสาหกรรมเพลง". TODAY Bizbiew. สำนักข่าวทูเดย์. 2023-08-01. สืบค้นเมื่อ 2023-08-02.
  5. ชลยา พร้อมศรี (2023-07-31). "แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับแผนการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering)และการนําหุ้นสามัญของบริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย" (PDF). จดหมายถึงกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 2023-08-02.{{cite press release}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  6. "GRAMMYส่ง "จีเอ็มเอ็ม มิวสิค" ขาย IPO 30 % เข้า SET". ผู้จัดการออนไลน์. 2023-07-31. สืบค้นเมื่อ 2023-08-01.
  7. "สิ่งทีส่งมาด้วย : สารสนเทศเกี่ยวกับการปรับรูปแบบการประกอบธุรกิจจากบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจทั่วไป (Operating Company) เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) การกำหนดธุรกิจหลัก และการกำหนดบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักที่ไม่มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน" (PDF). ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: 3–13. 15 พฤศจิกายน 2023. สืบค้นเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2023.
  8. "GMM Music อวดโลโก้ใหม่ รับแผน Spin-Off ย้ำแนวคิด "ดนตรีของเราทุกคน"". ฟอบส์ ประเทศไทย. 15 กุมภาพันธ์ 2024. สืบค้นเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2024.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  9. 9.0 9.1 งบการเงินไตรมาสที่ 1/2567 (PDF). จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (Report). 16 พฤษภาคม 2024. p. 6. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2024.
  10. "GMM MUSIC-HARLEM SHAKE เปิดตัว BLKGEM มุ่งพัฒนาบุคลากรบันเทิงครบทุกมิติ". อมรินทร์ทีวี. 29 เมษายน 2024. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2024.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  11. 11.0 11.1 "แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการเข้าทำรายการที่มีนัยสําคัญที่เข้าข่ายเป็นการจำหน่ายไปและได้มาซึ่งสินทรัพย์" (PDF). จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่. 31 พฤษภาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2024.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  12. "ธุรกิจเพลงขาขึ้น GMM MUSIC ร่วมทุนค่ายเพลงญี่ปุ่น LDH หลังจับมือพาร์ทเนอร์ "จีน-เกาหลี" เดินหน้าขายหุ้น IPO". Brand Buffet. 6 มิถุนายน 2024. สืบค้นเมื่อ 6 มิถุนายน 2024.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้