กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ

พลเอก กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ นักการเมืองและอดีตทหารบกชาวไทย ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยศรีวิไลย์ อดีตผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (ชวน หลีกภัย) เคยเป็นอดีตเลขาธิการพรรคความหวังใหม่ และประธานที่ปรึกษาพรรคประชาสันติ และพรรคต้นตระกูลไทย รวมถึงอดีตกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่[1]

พลเอก
กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ
ม.ว.ม., ป.ช.
เลขาธิการพรรคความหวังใหม่
ดำรงตำแหน่ง
7 กันยายน 2545 – 14 มกราคม 2546
ก่อนหน้า นันทกาล ตาลจินดา
ถัดไป พลตรี พีรพงศ์ สรรพพากย์พิสุทธิ์
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด 22 เมษายน พ.ศ. 2489 (76 ปี)
อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย
พรรค พรรคไทยศรีวิไลย์
คู่สมรส ดร.บวรพรรณ รัฐประเสริฐ
ศาสนา พุทธ
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้  ไทย
สังกัด สำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
กองบัญชาการทหารสูงสุด
กองทัพบกไทย
ประจำการ พ.ศ. 2514 - 2543
ยศ RTA OF-9 (General).svg พลเอก
บังคับบัญชา สำนักงานทหารพัฒนา
การยุทธ์ สงครามเวียดนาม

ประวัติแก้ไข

กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2489 ที่อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรชายของ นายบุญยืน รัฐประเสริฐ (แซ่เตียว) กับ นางสุพรรณี รัฐประเสริฐ (นามสกุลเดิม ยศไกร) จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนผะดุงศิษย์พิทยา, โรงเรียนสารวิทยาและโรงเรียนอำนวยศิลป์, โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 7, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 18 (ตท.7 และ จปร.18 - รุ่นเดียวกับ พล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร ,พล.ร.อ. บรรณวิทย์ เก่งเรียน ,พล.อ.อ. สมหมาย ดาบเพ็ชร ,พล.ต.อ. อำนวย เพชรศิริ และ พล.อ. ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์) , โรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรหลักประจำ ชุดที่ 57, โรงเรียนศูนย์รักษาความปลอดภัย หลักสูตรการต่อต้านการก่อวินาศกรรม, นักยุทธศาสตร์รุ่นที่ 1 จากกรมยุทธการทหาร, วิทยาลัยเสนาธิการทหาร รุ่นที่ 32, วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 41 (วปอ.รุ่นที่ 41), ปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต ทางรัฐประศาสนศาสตร์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า),ปริญญาเอก มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา

ชีวิตส่วนตัว กิตติศักดิ์มีชื่อเล่นว่า "อู๊ด" จึงมักถูกเรียกว่า"เสธ.อู๊ด" สมรสกับ ดร.บวรพรรณ รัฐประเสริฐ (นามสกุลเดิม วีระปรีย) บุตรสาวของ พล.อ. ประลอง วีระปรีย กับคุณหญิงวัลลีย์ วีระปรีย (เสนาณรงค์) มีบุตรชาย 2 คนคือ บวรศักย์ รัฐประเสริฐ และ บวรสิทธิ์ รัฐประเสริฐ[2]

การทำงานแก้ไข

การรับราชการ กิตติศักดิ์เคยได้รับโปรดเกล้าเป็นนายทหารราชองครักษ์เวร เคยเป็นผู้บังคับบัญชาสำนักงานทหารพัฒนา ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2536 - 30 กันยายน พ.ศ. 2539 เมื่อครั้งมียศ พลตรี[3] เป็นผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (อัตรา "พลโท") และได้รับโปรดเกล้าฯเป็น พลเอก เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2543 และเข้าโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดเมื่ออายุได้ 53 ปี โดยมีตำแหน่งสุดท้ายเป็นเลขานุการส่วนตัวและหน้าห้องของ ชวน หลีกภัย ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

บทบาทในทางการเมือง พล.อ. กิตติศักดิ์ เคยลงรับเลือกตั้งในพื้นที่เขต 1 กรุงเทพมหานคร (เขตบางซื่อ, เขตดุสิต, เขตราชเทวี) ในการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง จากนั้นได้ไปช่วยเหลือ ชิงชัย มงคลธรรม ฟื้นฟูพรรคความหวังใหม่ ขึ้นอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2545 และได้ลาออกไปเมื่อต้นปี พ.ศ. 2546

จากนั้นได้เข้าร่วมกับทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เข้าร่วมการชุมนุมทั้งในปี พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2551 หลังจากนั้นได้เข้าร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ของทางกลุ่มพันธมิตรฯ โดยมีชื่อเป็นกรรมการบริหารพรรคด้วย

ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ที่ประชุมของพรรคการเมืองใหม่ ได้มีมติส่ง กิตติศักดิ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 6 กรุงเทพมหานคร (เขตบึงกุ่ม, เขตคลองสามวา, เขตคันนายาว, เขตหนองจอก ) ในการเลือกตั้งแทนที่ ทิวา เงินยวง ส.ส.เก่าของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถึงแก่กรรมไป ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่ทางพรรคการเมืองใหม่ได้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งด้วย

แต่ทว่าในวันรุ่งขึ้น พล.อ. กิตติศักดิ์ ได้ประกาศถอนตัว เนื่องจากอ้างว่า สำรวจคะแนนเสียงแล้วไม่ดี และไม่ต้องการแข่งกับผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย คือ ก่อแก้ว พิกุลทอง เนื่องจากได้รับข้อหาผู้ก่อการร้ายในระหว่างเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง พ.ศ. 2553 ซึ่งเรื่องนี้ได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ต่อมามากมาย[4][5]

ต่อมา พล.อ. กิตติศักดิ์ได้ลาออกจากพรรคการเมืองใหม่และยุติบทบาททั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแล้ว เพราะเหตุความไม่โปร่งใสในการเป็นกรรมการบริหารพรรคของสมาชิกบางคน[6][7]เป็นปัจจุบันมีตำแหน่งเป็น ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ปปช.ภาคประชาชน) และเป็นวิทยากรประจำรายการ ห่วงบ้านห่วงเมือง เป็นประจำทุกวันศุกร์ เวลา 21.00-22.00 น. ทางช่องไททีวี

ต่อมาในการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคประชาสันติ[8] โดยลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 2 ของพรรค[9]

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 10/2558 มีขอเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาการบังคับใช้พระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 และพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ซึ่งในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พล.อ. กิตติศักดิ์ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมาธิการวิสามัญและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญฯในเวลาต่อมา

เครื่องราชอิสริยาภรณ์แก้ไข

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศแก้ไข

  •   เวียดนามใต้:
    • พ.ศ. ไม่ปรากฏ -   เหรียญเกียรติยศกองทัพเวียดนามใต้ ชั้นที่ 1
    • พ.ศ. ไม่ปรากฏ -   เหรียญปฏิบัติการพลเรือน ประดับใบใบโอ๊ค และกรอบ
    • พ.ศ. ไม่ปรากฏ -   เหรียญรณรงค์เวียดนามใต้
  •   สหรัฐ:
    • พ.ศ. 2514 -   เหรียญคอมเมนเดชัน (ทหารบก)

ดูเพิ่มแก้ไข

อ้างอิงแก้ไข

  1. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง ตอบรับการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่
  2. พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ จากไทยรัฐ
  3. "รายนามผู้บังคับบัญชา สำนักงานทหารพัฒนา". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-07-31. สืบค้นเมื่อ 2010-07-07.
  4. การเมืองใหม่ ส่ง กิตติศักดิ์ ลงเลือกตั้งซ่อมสส.กทม. เก็บถาวร 2010-07-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนจากเอ็มไทย
  5. "กิตติศักดิ์" ถอนตัวลงเลือกตั้งซ่อมเขต 6 เก็บถาวร 2010-06-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนจากกรุงเทพธุรกิจ
  6. จดหมายเปิดผนึกถึง......."คนดีชอบแก้ไข" คำชี้แจงจากเจ้าตัว ใน โอเคเนชั่น
  7. มั่ว คำชี้แจงของเจ้าตัว ใน เฟซบุ๊ก
  8. สรุปบัญชีโยกย้ายนักการเมืองล่าสุด[ลิงก์เสีย]
  9. รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมนโยบายของพรรคการเมือง เก็บถาวร 2011-06-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนจากเว็บไซต์ สำนักงาน กกต. สืบค้นวันที่ 3 มิถุนายน 2554
  10. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๕ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๗, ๒ ธันวาคม ๒๕๔๑
  11. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๑ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๒๐, ๓ ธันวาคม ๒๕๓๗
  12. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ, เล่ม ๙๐ ตอนที่ ๖๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๕, ๖ มิถุนายน ๒๕๑๖
  13. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๙๔ ตอนที่ ๘๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๕๐, ๑ กันยายน ๒๕๒๐
  14. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญราชการชายแดน, เล่ม ๑๐๖ ตอนที่ ๑๐๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๑๙, ๓๐ มิถุนายน ๒๕๓๒
  15. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๑๔ ตอนที่ ๑๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒, ๒๑ มกราคม ๒๕๓๐

แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข