แอร์ฟรานซ์
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
แอร์ฟรานซ์ (อังกฤษ: Air France, ฝรั่งเศส: Compagnie Nationale Air France) เป็นสายการบินหนึ่งของแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม (Air France-KLM) แอร์ฟรานซ์เป็นสายการบินประจำชาติของฝรั่งเศส ปัจจุบันได้เข้าร่วมกิจการกับสายการบินเคแอลเอ็ม (KLM) สายการบินประจำชาติของเนเธอร์แลนด์ โดยใช้ชื่อว่า "แอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม" และแอร์ฟรานซ์เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งของเครือข่ายพันธมิตรสายการบินสกายทีม
![]() | |||||||
| |||||||
ก่อตั้ง | 7 ตุลาคม พ.ศ. 2476 | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ท่าหลัก | ปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ปารีส-ออร์ลี่ | ||||||
เมืองสำคัญ | บอร์โด ตูลูซ | ||||||
สะสมไมล์ | ฟลายอิ้ง บลู | ||||||
พันธมิตรการบิน | สกายทีม สกายทีมคาร์โก | ||||||
ขนาดฝูงบิน | 211 | ||||||
จุดหมาย | 211 | ||||||
บริษัทแม่ | แอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม | ||||||
สำนักงานใหญ่ | ![]() | ||||||
บุคลากรหลัก | Jean-Cyril Spinetta (ประธาน และ CEO) Pierre-Henri Gourgeon (COO) Philippe Calavia (CFO) | ||||||
เว็บไซต์ | www.airfrance.com |
ประวัติแก้ไข
ช่วงแรกของการก่อตั้งแก้ไข
แอร์ฟรานซ์ก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 1933 โดยการรวมตัวกันของหลายหน่วยงานในฝรั่งเศส สายการบินได้ขยายเส้นทางไปทั่วยุโรป เมืองขึ้นของฝรั่งเศส แอฟริกาเหนือ และจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง แอร์ฟรานซ์ได้ย้ายฐานการปฏิบัติการไปที่กาซาบล็องกา ในประเทศโมร็อกโก ทำให้สายการบินนี้เป็นที่โดดเด่นในภาพยนตร์เรื่องคาซาบลังกา (Casablanca)
ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองแก้ไข
หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง บริษัทก็กลายเป็นของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ 70% และลดลงเหลือ 54% ในกลางปีค.ศ. 2002 และในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1948 ทางสายการบินได้แต่งตั้งให้ Max Hymans เป็นประธานของแอร์ฟรานซ์ โดยเขาได้ใช้เวลา 13 ปีที่ดำรงตำแหน่งในการสนับสนุนนโยบายด้านความทันสมัยของเครื่องบิน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การนำเครื่องบิน Sud Aviation Caravelle ที่มีเครื่องยนต์เจตแบบแฝดมาให้บริการในปีค.ศ. 1959
สายการบินได้เริ่มให้บริการเที่ยวบินปารีส-นิวยอร์ก โดยใช้เครื่องบินคองคอร์ดที่มีความเร็วเหนือเสียงในปี ค.ศ. 1976 โดยใช้เวลาในการเดินทางเพียง 3 ชั่วโมง โดยใช้ความเร็วเหนือเสียงประมาณ 2 เท่า
ในปี ค.ศ. 1994 สายการบินทั้งหมดของรัฐบาลฝรั่งเศสได้ถูกรวมเข้ากับแอร์ฟรานซ์เพียงบริษัทเดียว รัฐบาลฝรั่งเศสนำแอร์ฟรานซ์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1999 และได้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายพันธมิตรสายการบินสกายทีมในปี ค.ศ. 2000 และสายการบินได้ยกเลิกเที่ยวบินที่ให้บริการโดยเครื่องบินคองคอร์ดในปี ค.ศ. 2003 เนื่องจากมีผู้ใช้บริการน้อยและมีต้นทุนที่สูง
การควบรวมกิจการกับเคแอลเอ็มแก้ไข
ในวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2003 แอร์ฟรานซ์และเคแอลเอ็ม ได้ประกาศว่าจะมีการควบรวมสายการบินทั้งสองในชื่อใหม่ คือแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม (อังกฤษ: Air France-KLM) และเกิดการควบรวมขึ้นในวันที่ 5 พฤษภาคม [1] เมื่อผู้ถือหุ้นทั่วไปของแอร์ฟรานซ์ เข้าถือครองหุ้น 81% ของเคแอลเอ็ม (รัฐบาลฝรั่งเศสครอบครองหุ้น 44% และอีก 37% เป็นของผู้ถือหุ้นเอกชน) โดยที่เหลือเป็นของผู้ถือหุ้นทั่วไปของสายการบินเคแอลเอ็ม โดยส่วนแบ่งของรัฐบาลฝรั่งเศสในแอร์ฟรานซ์ ลดลงจาก 54.4% (เดิมถือในนามแอร์ฟรานซ์) เหลือ 44% (ปัจจุบันถือในนาม แอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม) ด้วยเหตุของการรวมตัวนี้เอง ทำให้ในเดือน ธันวาคม ค.ศ. 2004 รัฐบาลฝรั่งเศสก็แถลงการขายหุ้น 18.4% ให้กับแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม จนทำให้รัฐบาลเองเหลือหุ้นต่ำกว่า 20%
ในกลางปี ค.ศ. 2007 แอร์ฟรานซ์และแคแอลเอ็ม จะนำคุณสมบัติของแท่นเสียบเครื่องเล่นเพลงและวิดีโอพกพาไอพอด ติดตั้งในเครื่องบิน ซึ่งนอกจากจะทำให้มีการชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์เหล่านี้แล้ว ยังมีการรวมคุณสมบัติของไอพอด และระบบความบันเทิงภายในเครื่องบิน (IFE;In-flight Entertainment) ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารสามารถเล่นเพลง, ดูรายการโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ที่เก็บไว้ในไอพอดผ่านทางระบบความบันเทิงภายในเครื่องบินได้
กิจการองค์กรแก้ไข
บริษัทลูกแก้ไข
- แอร์ฟรานซ์คอนเซาลท์ติ้ง
- ควอลิ-ออดิต[2]
- บลูลิงค์
- แอร์ฟรานซ์ ฮอป (ชื่อเก่า: โฮป!)
- เซอร์แวร์
- Société de construction et de réparation de matériel aéronautique (CRMA)
- โซเด็กซี
- ทรานซาเวียฟรองซ์
แอร์ฟรานซ์และสายการบินทรานส์เวียได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัททรานส์ซาเวียฟรองซ์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนต้นทุนต่ำในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2007 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติออร์ลี่[3] Air Corsica, CityJet และ Air France Hop ให้บริการเที่ยวบินในนามของแอร์ฟรานซ์
แอร์ฟรานซ์อาซีย์และแอร์ฟรานซ์คาร์โก้อาซีย์แก้ไข
จากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไต้หวัน แอร์ฟรานซ์ไม่สามารถที่จะดำเนินเที่ยวบินไปยังไต้หวันได้ ในปีค.ศ. 1993 สายการบินแอร์ชาร์เตอร์ เริ่มให้บริการเที่ยวบินระหว่างปารีส-ฮ่องกง-ไทเป[4] หลังจากแอร์ชาร์เตอร์เลิกดำเนินงานในปีค.ศ. 1998, แอร์ฟรานซ์จึงได้สร้างแอร์ฟรานซ์อาซีย์ขึ้นมาทดแทน[5] โดยใช้เครื่องบินแอร์บัส เอ340-200 สองลำ และโบอิง 747-400M อีกสองลำ สายการบินนี้เป็นหนึ่งในสายการบินที่ดำเนินเที่ยวบินไปยังไต้หวันภายใต้ชื่อ"เอเชีย"เช่นเดียวกับเจแปนเอเชียแอร์เวย์ (บริษัทลูกของเจแปนแอร์ไลน์), เคแอลเอ็มเอเชีย, บริติชเอเชียแอร์เวย์, สวิสแอร์เอเชีย, และออสเตรเลียเอเชียแอร์ไลน์ (บริษัทลูกของควอนตัส) แอร์ฟรานซ์อาซีย์เลิกดำเนินการในปีค.ศ. 2004
หลังจากแอร์ฟรานซ์อาร์ซีย์เลิกดำเนินงานในปี 2004, โบอิง 747-200 ในฝูงบินก็ยังคงดำเนินขนส่งสินค้าในเส้นทางบินเดิมภายใต้ชื่อ แอร์ฟรานซ์คาร์โก้อาซีย์ก่อนเลิกดำเนินการในปีค.ศ. 2007
สำนักงานใหญ่แก้ไข
สำนักงานใหญ่ของแอร์ฟรานซ์ตั้งอยู่ที่รอยซีโพล คอมเพล็กซ์ ในบริเวณท่าอากาศยานปารีส-ชาลส์เดอโกล, ปารีส[6][7][8][9][10]
จุดหมายปลายทางแก้ไข
ณ เดือนมีนาคม ค.ศ. 2020 แอร์ฟรานซ์ให้บริการเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางภายในประเทศ 36 แห่ง และจุดหมายปลายทางระหว่างประเทศ 175 แห่ง ใน 93 ประเทศ (รวมรัฐและดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส) ใน 6 ทวีป ซึ่งรวมถึงบริการและจุดหมายปลายทางของ แอร์ฟรานซ์คาร์โก้ ที่ให้บริการโดยบริษัทลูก แอร์คอร์ซิก้า, ซิตี้เจ็ต และ แอร์ฟรานซ์ โฮป
ข้อตกลงการบินร่วมแก้ไข
แอร์ฟรานซ์ได้ทำข้อตกลงการบินร่วมกับสายการบินดังต่อไปนี้:[11]
- แอโรฟลอต
- แอโรลีเนียส อาร์เจนตินา
- แอโรแม็กซิโก
- แอร์แอนทิลลิส
- แอร์อัสตานา
- แอร์อัสทรัล
- แอร์บูร์กินา
- แอร์คอร์ซิก้า
- แอร์ยูโรปา
- แอร์ฟรานซ์ โฮป
- แอร์มอลตา
- แอร์มอริเชียส
- แอร์เซอร์เบีย
- แอร์เซเชลส์
- แอร์ตาฮีตี นูอี
- แอร์บอลติก
- แอร์ไคลิน
- ออสเตรียนแอร์ไลน์
- อาเซอร์ไบจานแอร์ไลน์
- บางกอกแอร์เวย์
- เบลาเวีย
- บัลแกเรียแอร์
- ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์
- ไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์
- ซิตี้เจ็ต
- คอมแอร์
- โคปาแอร์ไลน์[12]
- โคปาแอร์ไลน์โคลอมเบีย[12]
- โครเอเชียแอร์เวย์
- เช็กแอร์ไลน์
- เดลต้าแอร์ไลน์
- สายการบินเอทิฮัด
- ฟินน์แอร์
- การูดาอินโดนีเซีย
- โกว์ลีญัสอาแอเรียส
- จอร์เจียแอร์เวย์
- อินดี้โกว์[13]
- ไอทีเอแอร์เวย์[14]
- เจแปนแอร์ไลน์
- เคนยาแอร์เวย์
- เคแอลเอ็ม
- โคเรียนแอร์
- ลาตัมบราซิล
- ลักซ์แอร์
- มิดเดิลอีสต์แอร์ไลน์
- ควอนตัส[15]
- ซาอุเดีย
- สิงคโปร์แอร์ไลน์[16][17]
- สกายเอกซ์เพรส
- สวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์
- แทกแองโกลาแอร์ไลน์
- ทารอมแอร์
- ยูเครนอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์
- เวียดนามแอร์ไลน์
- เวสต์เจ็ต
- ไวเดอร์โรว์[18]
- วินแอร์
ข้อตกลงระหว่างสายการบินแก้ไข
แอร์ฟรานซ์มีข้อตกลงกับสายการบินดังต่อไปนี้:[19]
ฝูงบินแก้ไข
ฝูงบินของแอร์ฟรานซ์แก้ไข
ณ เดือนเมษายน ค.ศ. 2022 ฝูงบินของแอร์ฟรานซ์ (รวมแอร์ฟรานซ์คาร์โก้) มีดังนี้:[20]
ฝูงบินของ แอร์ฟรานซ์ | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เครื่องบิน | ประจำการ | คำสั่งซื้อ | ความจุผู้โดยสาร | หมายเหตุ | ||||
F | J | W | Y | รวม | ||||
แอร์บัส เอ220-300 | 8 | 52[21] | — | 20 | — | 128 | 148 | ทดแทน แอร์บัส เอ318 and เอ319. |
แอร์บัส เอ318-100 | 12 | — | — | 18 | — | 113 | 131 | จะทดแทนด้วย แอร์บัส เอ220.[22] |
แอร์บัส เอ319-100 | 26 | — | — | 20 | — | 122 | 142 | |
123 | 143 | |||||||
แอร์บัส เอ320- 200 | 41 | — | — | 20 | — | 154 | 174 | เครื่องบินสองลำมีลวดลายของสกายทีม |
18 | 160 | 178 | ||||||
แอร์บัส เอ321-100 | 5 | — | — | 20 | — | 182 | 202 | |
แอร์บัส เอ321-200 | 14 | — | — | 20 | — | 182 | 202 | เครื่องบินลำหนึ่งมีลวดลายของสกายทีม |
แอร์บัส เอ330-200 | 15 | — | — | 36 | 21 | 167 | 224 | |
แอร์บัส เอ350-900 | 16 | 22[23][24] | — | 34 | 24 | 266 | 324[25] | ทดแทน โบอิง 777-200อีอาร์.[26] |
โบอิง 777-200 อีอาร์ | 19 | — | — | 40 | 24 | 216 | 280 | ถูกทดแทนด้วย แอร์บัสเอ 350-900 |
28 | 260 | 312 | ||||||
โบอิง 777-300อีอาร์ | 43 | — | 4 | 28 | 58 | 206 | 296 | ผู้เริ่มให้บริการ เครื่องบินสามลำมีลวดลายของสกายทีม |
— | 42 | 24 | 315 | 381 | ||||
14 | 32 | 422 | 468 | |||||
14 | 28 | 430 | 472[27] | |||||
โบอิง 787-9 | 10 | — | — | 30 | 21 | 228 | 279 | [28] |
ฝูงบินของ แอร์ฟรานซ์คาร์โก | ||||||||
แอร์บัส เอ350F | — | 4[29] | สินค้า | เริ่มส่งมอบในปีค.ศ. 2025
จะทดแทน โบอิง 777F | ||||
โบอิง 777F | 2 | — | สินค้า | จะถูกทดแทนด้วยแอร์บัส เอ350F ในปี 2025 | ||||
ทั้งหมด | 211 | 78 |
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ "History". Air France KLM (ภาษาอังกฤษ). 2014-11-26. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-07-18. สืบค้นเมื่อ 2021-12-18.
- ↑ "ISO Album" (PDF). quali-audit.aero. Archived from the original (PDF) on 23 June 2010. Retrieved 21 June 2010.
- ↑ Airliner World (2007)
- ↑ "French plans for Taipei". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). Invalid Date.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ http://www.sciencespo.fr/ceri/sites/sciencespo.fr.ceri/files/jpcabest.pdf
- ↑ "Head Office" Archived 10 February 2010 at the Wayback Machine, Air France. Retrieved on 9 February 2010.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-12-13. สืบค้นเมื่อ 2022-04-26.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-11. สืบค้นเมื่อ 2022-04-26.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-01-06. สืบค้นเมื่อ 2022-04-26.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-10-13. สืบค้นเมื่อ 2022-04-26.
- ↑ "Air France Airline Profile | CAPA". centreforaviation.com.
- ↑ 12.0 12.1 "New codeshare agreement between Air France". www.copaair.com. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
- ↑ Hannah Brandler (26 December 2021). "Air France-KLM signs codeshare agreement with Indigo Airlines". Business Traveller.
- ↑ "ITA Airways, accordo di codeshare con Air France" [ITA Airways, codeshare agreement with Air France]. borsaitaliana.it (ภาษาอิตาลี). 2021-12-09.
- ↑ "QANTAS AND AIR FRANCE RENEW PARTNERSHIP TO OFFER CUSTOMERS MORE TRAVEL OPTIONS BETWEEN AUSTRALIA AND FRANCE". Qantas News Room.
- ↑ "Air France-KLM Signs Codeshare Agreement with Singapore Airlines and SilkAir". Air France KLM. 13 April 2017.
- ↑ "Singapore Airlines And SilkAir Sign Codeshare Agreement With Air France-KLM". www.singaporeair.com (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 December 2018. สืบค้นเมื่อ 29 April 2019.
- ↑ "Air France/Widerøe begins codehare-service from July 2018". Routesonline.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-03-08. สืบค้นเมื่อ 2022-04-26.
- ↑ "Air France Fleet Details and History". www.planespotters.net.
- ↑ "Evolution of the Air France-KLM fleet". Air France KLM (ภาษาอังกฤษ). 30 July 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-11-15. สืบค้นเมื่อ 2021-12-05.
- ↑ "Air France's Fleet Plans: What Does The Future Hold?". Simple Flying (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2020-07-27. สืบค้นเมื่อ 2020-09-26.
- ↑ Kaminski-Morrow, David (12 December 2019). "Air France orders more A350s to replace A380 fleet". Flightglobal.com.
- ↑ Loh, Chris. "Air France-KLM Orders 10 More Airbus A350s". Simple Flying. สืบค้นเมื่อ 11 December 2019.
- ↑ "Air France takes delivery of its first A350 XWB". Airbus. สืบค้นเมื่อ 6 October 2019.
- ↑ Gubisch, Michael (6 January 2017). "KLM to introduce A350 in 2020". flightglobal.com. London, UK: Flight Global. สืบค้นเมื่อ 30 September 2017.
- ↑ "Boeing 777-300 map - 472 seats". Air France. สืบค้นเมื่อ 2 January 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "The Air France-KLM Group takes a next step in optimization of the long-haul fleet". Air France-KLM (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 28 June 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-06-29. สืบค้นเมื่อ 2019-07-27.
- ↑ "Air France Fleet | Airfleets aviation". www.airfleets.net.
บทความเกี่ยวกับบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือองค์กรนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |