อเมริกันแอร์ไลน์
อเมริกันแอร์ไลน์ (อังกฤษ: American Airlines) เป็นสายการบินใหญ่แห่งหนึ่งของสหรัฐ และถือได้ว่าเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกหากวัดตามขนาดฝูงบิน[2] อเมริกันแอร์ไลน์ให้บริการไปยัง 350 จุดหมาย ใน 50 ประเทศ มีศูนย์กลางการบินหลักอยู่ที่ ดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ[3]
![]() | |||||||
| |||||||
ก่อตั้ง | 15 เมษายน 1926 | (ในชื่อของ อเมริกันแอร์เวย์)||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
เริ่มดำเนินงาน | 25 มิถุนายน 1936 | ||||||
AOC # | AALA025A[1] | ||||||
ท่าหลัก | ชาร์ลอต ชิคาโก ลอสแอนเจลิส ดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ ไมอามี นิวยอร์ก-เจเอฟเค นิวยอร์ก-ลากวาร์เดีย ฟิลาเดลเฟีย ฟีนิกซ์-สกายฮาร์เบอร์ วอชิงตัน-เรแกน | ||||||
สะสมไมล์ | AAdvantage | ||||||
พันธมิตรการบิน | วันเวิลด์ | ||||||
ขนาดฝูงบิน | 922 | ||||||
จุดหมาย | 350 | ||||||
บริษัทแม่ | อเมริกันแอร์ไลน์กรุ๊ป | ||||||
สำนักงานใหญ่ | ![]() | ||||||
บุคลากรหลัก | Robert Isom (CEO) Doug Parker (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) | ||||||
เว็บไซต์ | www.aa.com |
ประวัติแก้ไข
ช่วงแรกแก้ไข
อเมริกันแอร์ไลน์ได้มีการก่อตั้งขึ้นในวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1926 จากการรวมตัวการของสายการบินเล็กๆ กว่า 82 สายการบิน[4] โดยเริ่มแรกใช้ชื่อว่า อเมริกันแอร์เวย์ ในช่วงแรก อเมริกันแอร์เวย์จะให้บริการเที่ยวบินไปรษณีย์และภายในปีค.ศ. 1933 อเมริกันแอร์เวย์ก็ได้ให้บริการเที่ยวบินไปยัง 72 เมืองในสหรัฐ
อเมริกันแอร์ไลน์ได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเครื่องบินใบพัดอย่างดักลาส ดีซี-3 ซึ่งเป็นการร่วมพัฒนากันระหว่าง ซี.อาร์. สมิธ ผู้ดูแลอเมริกันแอร์ไลน์ และโดนัลด์ ดักลาส เจ้าของดักลาสแอร์คราฟต์คอมพานี หลังจากสมิธขอให้ดักลาสผลิตเครื่องบินรุ่นใหม่ที่พัฒนามาจากดักลาส ดีซี-2 เพื่อนำมาทดแทนเครื่องบินใบพัดเคอร์ติส คอนดอร์ II โดยอเมริกันได้รับดีซี-3 มาทดลองใช้เป็นสายการบินแรก เที่ยวบินแรกคือจากนวร์ก, รัฐนิวเจอร์ซีย์ ไปยังชิคาโก, รัฐอิลลินอย
ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองแก้ไข
หลังจากช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อเมริกันแอร์ไลน์ได้สั่งซื้อเครื่องบินมาประจำการเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโบอิง 707, โบอิง 747, บีเอซี 1-11 รวมถึงมีส่วนร่วมในการพัฒนาแมคดอนเนลล์ ดักลาส ดีซี-10 เครื่องบินลำตัวกว้างสามเครื่องยนต์ ซึ่งจะนำมาใช้กับเที่ยวบินระยะไกลที่สนามบินปลายทางมีทางวิ่งขนาดเล็กเกินกว่าที่โบอิง 747 สามารถลงจอดได้ ซึ่งดีซี-10 นี้เป็นแข่งขันกับล็อกฮีด แอล-1011 ไทรสตาร์ นอกจากนี้อเมริกันแอร์ไลน์ยังได้เพิ่มบริการหลายๆ อย่างให้กับผู้โดยสาร เช่น การจองตั๋วผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์, เซเบอร์ ซึ่งเป็นบริการการจอง ซึ่งร่วมพัฒนากับไอบีเอ็ม และยังมีการสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคเนดี[5]
ช่วงทศวรรษที่ 1980-1990แก้ไข
ในช่วงที่อเมริกันแอร์ไลน์ย้ายสำนักงานใหญ่มาที่ฟอร์ตเวิร์ธ, รัฐเท็กซัส ในปีค.ศ. 1979[6] อเมริกันแอร์ไลน์ได้เปลี่ยนแผนปฏิบัติการเป็น "ฮับ-แอนด์-สโปค" ในปีค.ศ. 1981 และเปิดฐานการบินแห่งแรกที่ท่าอากาศยานนานาชาติดัลลาส/ฟอร์ตเวิร์ธ เปิดฐานที่สองในชิคาโกในปีค.ศ. 1982 พร้อมกับเปิดเส้นทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเส้นทางแรกไปยังลอนดอนในปีเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการขยายฐานการบินไปอีกมากมาย
หลังจากได้มีฐานในไมอามีจากการเข้าซื้อเส้นทางบินจากอีสเทิร์นแอร์ไลน์ อเมริกันแอร์ไลน์ได้เข้ามามีบทบาทในลาตินอเมริกาและอเมริกาใต้ จนเป็นหนึ่งในสายการบินที่มีบทบาทมากที่สุดในพื้นที่
ในปีค.ศ. 1999 อเมริกันแอร์ไลน์ ร่วมกับบริติชแอร์เวย์, คาเธ่ย์แปซิฟิค, แคนาเดียนแอร์ไลน์, และควอนตัส ได้ก่อตั้งพันธมิตรทางการบินวันเวิลด์
ช่วงทศวรรษที่ 2000-2010แก้ไข
อเมริกันแอร์ไลน์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงหลังจากเกิดเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน นอกจากจะสูญเสียเครื่องบินแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินของสายการบินในช่วงนั้น หลายๆ สายการบินจึงต้องยุบตัวหรือผนวกกิจการไปเช่น ทรานส์เวิลด์แอร์ไลน์ที่ผนวกกิจการเข้ากับอเมริกันแอร์ไลน์ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2001[7] และได้แย่ลงไปอีกครั้งในวิกฤตการณ์การเงิน ค.ศ. 2008 ส่งผลให้อเมริกันต้องปิดฐานการบินที่แคนซัสซิตีที่ได้รับต่อมาจากทีดับเบิลยูเอ
นอกจากนี้อเมริกันแอร์ไลน์ยังมีบทบาทในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเจแปนแอร์ไลน์ จนมีการทำกิจการร่วมค้าระหว่างสายการบินทั้งสอง[8]
ในปีค.ศ. 2012 เอเอ็มอาร์คอร์ปอเรชั่น (อังกฤษ: AMR Corporation) บริษัทแม่ของอเมริกันแอร์ไลน์ ได้ประกาศล้มละลาย จึงได้มีการย่อธุรกิจลง สายการบินได้ยกเลิกเที่ยวบินบางเที่ยวบิน[9], ยกเลิกการบริการบางชนิด, รวมถึงอเมริกันอีเกิล สายการบินลูกของอเมริกัน ต้องปลดประจำการเครื่องบิน 35-40 ลำ
ในปีค.ศ. 2013 ยูเอสแอร์เวย์ได้ผนวกกิจการเข้ากับอเมริกันแอร์ไลน์ เนื่องจากภาวะทางเศรษฐกิจของสายการบิน ทำให้อเมริกันเป็นสายการบินที่มีขนาดฝูงบินใหญ่มากที่สุดในโลก[2]
ปัจจุบันแก้ไข
ในช่วงแรกของการระบาดทั่วของโควิด-19 อเมริกันแอร์ไลน์ได้ลดพนักงานฝ่ายธุรกิจและบริหารลงกว่า 30% ก่อนที่ต้นปีค.ศ. 2020 จะลดพนักงานลงอีกจำนวนหนึ่ง [10] นอกจากนี้ อเมริกันแอร์ไลน์ได้ปลดประจำการเครื่องบินกว่า 100 ลำ ไม่ว่าจะเป็นแอร์บัส เอ330, เอ็มบราเออร์ อี-190, โบอิง 757, โบอิง 767, หรือซีอาร์เจ-200[11] และหลังจากนั้นก็ได้มีการฟื้นตัวมากขึ้น
กิจการองค์กรแก้ไข
กรรมสิทธิ์บริษัทแก้ไข
อเมริกันแอร์ไลน์มีการซื้อขายต่อสาธารณะผ่านบริษัทแม่ อเมริกันแอร์ไลน์กรุ๊ป ภายใต้ NASDAQ: AAL Nasdaq: AAL โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 12 พันล้านดอลลาร์ ณ ปี 2019[12]
อเมริกันอีเกิลเป็นเครือข่ายของผู้ให้บริการระดับภูมิภาค 6 แห่งที่ดำเนินการภายใต้ข้อตกลงร่วมและข้อตกลงการบริการกับอเมริกัน ซึ่งให้บริการเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางในสหรัฐอเมริกา แคนาดา แคริบเบียน และเม็กซิโก สามสายการบินเหล่านี้เป็นอิสระและสามรายเป็นบริษัทในเครือของอเมริกันแอร์ไลน์กรุ๊ป: เอ็นวอยแอร์, เพียดมอนต์แอร์ไลน์, และ พีเอสเอแอร์ไลน์
เอกลักษณ์องค์กรแก้ไข
โลโก้แก้ไข
กูดริช เมอร์ฟี พนักงานของอเมริกันแอร์ไลน์ได้ออกแบบโลโก้ของสายการบินในปีค.ศ. 1931 ในการประกวดออกแบบโลโก้ แล้วในปีค.ศ. 1967 มาซิโม วิกเนลลี ได้ออกแบบโลโก้ให้อเมริกันใหม่ รวมถึงลวดลายของสายการบินด้วย[13][14]
ในปีค.ศ. 2013 อเมริกันแอร์ไลน์ได้มีการรีแบรนด์ใหม่ จึงมีการออกแบบโลโก้และลวดลายใหม่ในหัวข้อ "A New American" โดยโลโก้มีส่วนมากจากโลโก้เก่าในปีค.ศ. 1967[15]
ลวดลายอากาศยานแก้ไข
ในช่วงแรก ลวดลายอากาศยานของอเมริกันแอร์ไลน์ไม่ได้มีรูปแบบตายตัว แต่ยังมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ก่อนที่รูปแบบอย่างเป็นทางการจะถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการในปีค.ศ. 1930 โดยมีเหยี่ยวบนลำตัวเครื่อง[16] เหยี่ยวได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของสายการบินในเวลาต่อมา บนลำตัวเครื่องจะมีแถบสายฟ้าสีส้มพาดอยู่บนลำตัวเครื่อง แต่ถูกเปลี่ยนเป็นเส้นธรรมดาหลังจากมีการประจำการของเครื่องบินเจ็ต
ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 ได้มีการให้มาซิโม วิกเนลลีออกแบบลวดลายใหม่ โดยจะมีเส้นสีแดง ขาว และน้ำเงินพาดอยู่ตามลำตัวเครื่อง และโลโก้ AA บริเวณหางของเครื่องบิน โดยลวดลายนี้จะถูกใช้จนถึงปีค.ศ. 2013
ช่วงต้นปีค.ศ. 2013 อเมริกันแอร์ไลน์ได้เปิดตัวลวดลายใหม่[17] ในหัวข้อ "The New American"[18] โดยได้มีการประกาศในเบื้องต้นว่าโลโก้และลวดลายใหม่นี้อาจได้ใช้เพียงระยะสั้น ก่อนที่จะให้พนักงานลงเสียง[19] แล้วในที่สุดอเมริกันแอร์ไลน์ก็ได้คงลวดลายและโลโก้นี้ไว้ต่อไป และยังได้มีการคงลวดลายคงสายการบินต่างๆ ที่ควบรวมกิจการกับอเมริกันไว้ ได้แก่ เพียดมอนต์แอร์ไลน์, พีเอสเอ, อเมริกาเวสต์แอร์ไลน์, ยูเอสแอร์เวย์, รีโนแอร์, ทีดับเบิลยูเอ, และแอร์คาล[20]
ลวดลายแรก บนเครื่องโบอิง 727
ลวดลายต่อมา เริ่มใช้ในปลายทศวรรษ 1960 บนเครื่องบินฟอกเกอร์ 100
ลวดลายปัจจุบัน เริ่มใช้ในปีค.ศ. 2013 บนเครื่องแอร์บัส เอ330
จุดหมายปลายทางแก้ไข
อเมริกันแอร์ไลน์ให้บริการเที่ยวบินไปยัง 350 จุดหมายปลายทางใน 48 ประเทศ
ฐานการบินแก้ไข
อเมริกันแอร์ไลน์มีฐานการบินทั้งหมด 10 ฐาน ดังนี้:
- ชาร์ลอต - ฐานการบินสำหรับเที่ยวบินเข้าและออกจากบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐและแคริบเบียน โดยอาคารเทียบเครื่องบิน E เป็นการปฏิบัติการเที่ยวบินระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในโลก[21] ฐานการบินของยูเอสแอร์เวย์ในอดีต
- ลอสแอนเจลิส - ฐานการบินสำหรับเที่ยวบินเข้าออกฝั่งตะวันออกของสหรัฐ[23]
- ดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ - ฐานการบินแรกและที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกันแอร์ไลน์ ให้บริการเที่ยวบินเข้าออกฝั่งใต้ของสหรัฐ
- นิวยอร์ก-เจเอฟเค - ฐานการบินรองสำหรับเที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกของสายการบิน และเป็นฐานหลักของเที่ยวบินสู่อเมริกาใต้[25]
- นิวยอร์ก-ลากวาร์เดีย - ฐานการบินที่สองในนิวยอร์ก และเป็นฐานการบินให้กับอเมริกันแอร์ไลน์ชัตเทิล[26]
- ฟิลาเดลเฟีย - ฐานการบินหลักของอเมริกันสำหรับเที่ยวบินในฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ และเที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก[27]
- ฟีนิกซ์-สกายฮาร์เบอร์ - ฐานการบินในเทือกเขาร็อกกีของอเมริกัน[28] ฐานการบินของยูเอสแอร์เวย์ในอดีต[29]
- วอชิงตัน-เรแกน - ฐานการบินของอเมริกันในเมืองหลวงสหรัฐ และเป็นฐานการบินสำหรับอเมริกันแอร์ไลน์ชัตเทิล[30]
พันธมิตรการบินและข้อตกลงการบินร่วมแก้ไข
อเมริกันแอร์ไลน์เป็นสมาชิกของพันธมิตรการบินวันเวิลด์และได้มีข้อตกลงการบินร่วมกับสายการบินดังต่อไปนี้:[31]
- แอร์ลิงกัส[32]
- แอร์ตาฮีตี นูอี
- อะแลสกาแอร์ไลน์
- เคปแอร์
- คาเธ่ย์แปซิฟิค
- ไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์
- แอล อัล[33]
- ฟิจิแอร์เวย์
- โกว์ลีญัสอาแอเรียส[34]
- ฮาวายเอียนแอร์ไลน์
- อินดี้โกว์[35]
- เจ็ตบลูแอร์เวย์[36]
- เจ็ตสมาร์ท[37]
- เจ็ตสตาร์แอร์เวย์
- เจ็ตสตาร์เจแปน
- เลเวล[38]
- มาเลเซียแอร์ไลน์
- กาตาร์แอร์เวย์[39]
- รอยัลแอร์มารอค
- รอยัลจอร์แดเนียนแอร์ไลน์
- ซีบอร์นแอร์ไลน์
- ซิลเวอร์แอร์เวย์
- ศรีลังกันแอร์ไลน์[40]
- วูลลิง[41]
กิจการร่วมค้าแก้ไข
นอกจากข้อตกลงการบินร่วมแล้ว อเมริกันแอร์ไลน์ได้ทำกิจการร่วมค้าระหว่างสายการบินดังต่อไปนี้:[42]
ฝูงบินแก้ไข
ฝูงบินปัจจุบันแก้ไข
ณ เดือนตุลาคม ค.ศ. 2022 อเมริกันแอร์ไลน์มีเครื่องบินประจำการในฝูงบิน ดังนี้:[45][46]
เครื่องบิน | ประจำการ | คำสั่งซื้อ | ผู้โดยสาร | หมายเหตุ | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
F | J | W | Y+ | Y | รวม | ||||
แอร์บัส เอ319-100 | 133 | — | 8 | — | — | 24 | 96 | 128 | ผู้ให้บริการายใหญ่ที่สุด[47] |
แอร์บัส เอ320-200 | 48 | — | 12 | — | — | 18 | 120 | 150 | |
แอร์บัส เอ321-200 | 218 | — | 20 | — | — | 35 | 135 | 190 | ผู้ให้บริการายใหญ่ที่สุด[47] |
10 | 20 | 36 | 36 | 102 | Transcontinental configuration. | ||||
แอร์บัส เอ321นีโอ | 61 | 9 | 20 | — | — | 35 | 141 | 196 | |
แอร์บัส เอ321XLR | — | 50 | TBA | เริ่มส่งมอบในปีค.ศ. 2024[48][49] | |||||
โบอิง 737-800 | 303 | — | 16 | — | — | 24 | 132 | 172 | |
โบอิง 737 MAX 8 | 42 | 88 | 16 | — | — | 24 | 132 | 172 | เริ่มส่งมอบอีกครั้งในปีค.ศ. 2023[50] |
โบอิง 777-200อีอาร์ | 47 | — | — | 37 | 24 | 66 | 146 | 273 | |
โบอิง 777-300อีอาร์ | 20 | — | 8 | 52 | 28 | 28 | 188 | 304 | |
โบอิง 787-8 | 28 | 9 | — | 20 | 28 | 48 | 138 | 234 | |
โบอิง 787-9 | 22 | 30 | — | 30 | 21 | 34 | 200 | 285 | |
รวม | 922 | 186 |
อุบัติเหตุและอุบัติการณ์แก้ไข
ณ เดือนมีนาคม ค.ศ. 2019 อเมริกันแอร์ไลน์ได้สูญเสียเครื่องบินเกือบหกสิบลำ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินขับเคลื่อนด้วยใบพัด รวมทั้งเครื่องบินใบพัดเครื่องบินล็อกฮีด แอล-188 อีเลคตร้า 3 ลำ (หนึ่งในนั้น อุบัติเหตุเครื่องบินตกในปี 2502 ของเที่ยวบิน 320 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต) อุบัติเหตุสองครั้งที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดในประวัติศาสตร์การบินของสายการบินและสหรัฐ ได้แก่ เที่ยวบินที่ 191 ในปีค.ศ. 1979 และเที่ยวบินที่ 587 ในปีค.ศ. 2001[51]
วินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544แก้ไข
การโจมตี 11 กันยายน (เรียกอีกอย่างว่า 9/11) เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้ายโดยกลุ่มก่อการร้ายอิสลามอัลกออิดะฮ์[52][53][54] ซึ่งได้ทำการปล้นจี้เครื่องบินทั้งหมดสี่ลำ โดยอเมริกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 11 พุ่งเข้าชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และอเมริกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 77 พุ่งเข้าชนอาคารเพนตากอน และยังมีเครื่องบินของยูไนเต็ดแอร์ไลน์อีกสองลำที่ถูกสลัดอากาศจี้ คือ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 175 ซึ่งชนตึกเวิลด์เทรดหลังเที่ยวบินที่ 11 และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 93 ที่ได้ตกลงในทุ่งหญ้าในเพนซิลเวเนีย หลังจากการต่อสู้ระหว่างผู้โดยสารกับสลัดอากาศจนทำให้สลัดอากาศไม่บรรลุเป้าหมาย เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในเช้าวันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 การโจมตีครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 3,000 คน รวมทั้งผู้ก่อการร้ายทั้ง 19 คน[55] โดยได้มีความเสียหายให้กับมากกว่า 10 พันล้านดอลลาร์[56][57]
ดูเพิ่มแก้ไข
อ้างอิงแก้ไข
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: อเมริกันแอร์ไลน์ |
- ↑ "Airline Certificate Information – Detail View". av-info.faa.gov. Federal Aviation Administration. May 12, 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 13, 2015. สืบค้นเมื่อ May 15, 2015.
Certificate Number AALA025A
- ↑ 2.0 2.1 "The biggest airline has the biggest profit". Dallas News (ภาษาอังกฤษ). 2015-01-28.
- ↑ "Federal Aviation Administration - Airline Certificate Information - Detail View". av-info.faa.gov.
- ↑ "The Associated Press: American Airlines parent seeks Ch. 11 protection". web.archive.org. 2011-12-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-12-04. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "Jets Across the U.S. - TIME". web.archive.org. 2007-10-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-01. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
- ↑ "Bloomberg - Are you a robot?". www.bloomberg.com.
{{cite web}}
: Cite ใช้ชื่อทั่วไป (help) - ↑ Bryant, Adam (1995-06-29). "T.W.A. Cleared for 2d Bankruptcy Filing". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
- ↑ "American Airlines Talking With JAL - TheStreet". web.archive.org. 2016-02-05. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-02-05. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
- ↑ http://www.indianexpress.com/news/american-airlines-ends-chicagonew-delhi-service/900065/
- ↑ Gangitano, Alex (2021-02-04). "American Airlines warns 13,000 employees could be furlough as aid set to expire". The Hill (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ "American Airlines Reports Fourth-Quarter and Full-Year 2020 Financial Results". news.aa.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ "American Airlines Group − Customer service − American Airlines". www.aa.com.
- ↑ "American Airlines". web.archive.org. 2017-12-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-01. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "iconic logo designers". web.archive.org. 2010-01-24. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-01-24. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ Wilson, Mark (2013-01-22). "American Airlines Rebrands Itself, And America Along With It". Fast Company (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-01. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
- ↑ "American Airlines logo - chicagotribune.com". web.archive.org. 2013-02-17. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-17. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "Becoming a new American". web.archive.org. 2013-10-08. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-08. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "Doug Parker to let American Airlines employees decide whether to keep the new AA tail". Dallas News (ภาษาอังกฤษ). 2013-12-16.
- ↑ "[PHOTOS] Heritage Livery Flies Again in American Airlines' Retro Rollout - APEX | Airline Passenger Experience". web.archive.org. 2019-08-05. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-08-05. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
- ↑ "CLT :: American Airlines Newsroom". web.archive.org. 2015-02-24. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-24. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "ORD :: American Airlines Newsroom". web.archive.org. 2015-02-24. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-24. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ ":: American Airlines Newsroom". web.archive.org. 2015-02-24. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-24. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "MIA :: American Airlines Newsroom". web.archive.org. 2015-02-24. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-24. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "JFK :: American Airlines Newsroom". web.archive.org. 2015-09-20. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-20. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "LGA :: American Airlines Newsroom". web.archive.org. 2015-09-20. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-20. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "PHL :: American Airlines Newsroom". web.archive.org. 2015-02-24. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-24. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-23. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-11-02. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
- ↑ "DCA :: American Airlines Newsroom". web.archive.org. 2015-02-24. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-24. สืบค้นเมื่อ 2022-10-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "Partner airlines". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 6, 2020. สืบค้นเมื่อ December 23, 2020.
- ↑ "American Airlines and Aer Lingus Launch New Codeshare Agreement". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 11, 2022. สืบค้นเมื่อ January 11, 2022.
- ↑ "Code Share Agreements". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2022. สืบค้นเมื่อ January 23, 2022.
- ↑ "American Airlines / GOL Begins codeshare service from mid-Feb 2020 | Routes". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 9, 2020. สืบค้นเมื่อ February 10, 2020.
- ↑ "India nonstops on the way, American Airlines codeshares with IndiGo for India connections". The Times of India. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 28, 2021. สืบค้นเมื่อ September 28, 2021.
- ↑ "JetBlue and American will share passengers in bid to fend off United and Delta". CNBC. July 16, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 16, 2020. สืบค้นเมื่อ July 16, 2020.
- ↑ "American Airlines and JetSMART Sign Letter of Intent to Create the Broadest and Most Rewarding Network in the Americas". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 4, 2021. สืบค้นเมื่อ October 3, 2021.
- ↑ "LEVEL, American Airlines resumes Codeshare Agreement". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2022. สืบค้นเมื่อ January 23, 2022.
- ↑ "American Airlines & Qatar Airways Announce Strategic Partnership". One Mile at a Time. February 25, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 1, 2020. สืบค้นเมื่อ March 14, 2020.
- ↑ "SriLankan Reinstates American Airlines Codeshare". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 11, 2022. สืบค้นเมื่อ January 11, 2022.
- ↑ "American Airlines Launching Codeshares With Vueling". December 21, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2022. สืบค้นเมื่อ January 23, 2022.
- ↑ "About us, American Airlines Group, Business Agreements, Joint Business Agreement". aa.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 1, 2017. สืบค้นเมื่อ November 18, 2021.
- ↑ "Japan Airlines and American Airlines Joint Service". jal.co.jp. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 9, 2019. สืบค้นเมื่อ February 14, 2020.
- ↑ "American Airlines and Qantas gain approval to form joint venture". cnet. July 19, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 8, 2021. สืบค้นเมื่อ November 18, 2021.
- ↑ "American Airlines Fleet Details and History". www.planespotters.net.
- ↑ "Planes − Travel information − American Airlines". www.aa.com.
- ↑ 47.0 47.1 "Airbus Order and Deliveries". Airbus. 31 August 2022.
- ↑ "American Airlines agrees to order 50 Airbus A321XLRs". Airbus (Press release). สืบค้นเมื่อ 19 June 2019.
- ↑ "Tell Me Why: "A lighter aircraft and the capability to fly farther" — Robert Isom". American Airlines Newsroom (Press release). สืบค้นเมื่อ 25 June 2019.
- ↑ "American Airlines Firms 30 Additional Boeing 737 MAX 8 Aircraft". Simple Flying. February 2, 2022.
- ↑ Ranter, Harro. "Aviation Safety Network > ASN Aviation Safety Database > Geographical regions > United States of America air safety profile". aviation-safety.net.
- ↑ Moghadam, Assaf (2008). The globalization of martyrdom : Al Qaeda, Salafi Jihad, and the diffusion of suicide attacks. Internet Archive. Baltimore : Johns Hopkins University Press. ISBN 978-0-8018-9055-0.
- ↑ "Special Reports - The Salafist Movement | Al Qaeda's New Front | FRONTLINE | PBS". www.pbs.org.
- ↑ Wright, Looming Tower, 2006, p. 79
- ↑ "Winnipegger heads to NY for 9/11 memorial". CBC News. September 9, 2011. Retrieved November 13, 2013.
A total of 2,996 people died: 19 hijackers and 2,977 victims.
- ↑ "The Cost of September 11". www.iags.org.
- ↑ Morgan, Matthew J. (2009-07-15). The Impact of 9/11 on Politics and War: The Day that Changed Everything? (ภาษาอังกฤษ). Palgrave Macmillan. ISBN 978-0-230-60763-7.
แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข
- www.aa.com อเมริกันแอร์ไลน์ (อังกฤษ)
บทความเกี่ยวกับบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือองค์กรนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |