วินาศกรรม 11 กันยายน
เหตุวินาศกรรม 11 กันยายน หรือ 9/11 (ไนน์อีเลฟเว่น) เป็นการการโจมตีพลีชีพที่ประสานกันสี่ครั้งต่อสหรัฐ ในนครนิวยอร์กและพื้นที่วอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 เช้าวันนั้น ผู้ก่อการร้าย 19 คนจากกลุ่มอิสลามจากฝั่งตะวันออกกลางอัลกออิดะฮ์จี้อากาศยานโดยสารสี่ลำ[2][3] โจรจี้เครื่องบินนั้นนำเครื่องบินทั้งสองพุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์กโดยเจตนา และอาคารทั้งสองถล่มลงภายในสองชั่วโมง โจรจี้เครื่องบินชนเครื่องบินลำที่สามกับอาคารเพนตากอนในอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ส่วนเครื่องบินลำที่สี่ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 93 ตกในทุ่งใกล้กับแชงค์วิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย ก่อนถึงเป้าหมายที่โจรจี้เครื่องบินต้องการพุ่งชนอาคารรัฐสภาสหรัฐ ในวอชิงตัน ดี.ซี. หลังผู้โดยสารพยายามยึดเครื่องกลับคืน มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คนในเหตุโจมตีดังกล่าว[4][5][6] และไม่มีผู้รอดชีวิตจากเครื่องบินทั้งสี่ลำ
วินาศกรรม 11 กันยายน | |
---|---|
| |
สถานที่ | นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก เทศมณฑลอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ใกล้กับแชงค์วิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย |
วันที่ | 11 กันยายน 2001 8:46 - 10:28 น. (EDT UTC−4) |
ประเภท | การจี้เครื่องบิน, การสังหารหมู่, การก่อการร้าย, การพลีชีพโจมตี |
ตาย | 2,996 คน |
เจ็บ | กว่า 25,000 คน |
ผู้ก่อเหตุ | กลุ่มผู้ก่อการร้ายอัลกออิดะฮ์[1] |
มีการพุ่งเป้าสงสัยไปที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายอัลกออิดะฮ์อย่างรวดเร็ว อุซามะฮ์ บิน ลาดิน ผู้นำกลุ่ม ซึ่งได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องในตอนแรก สุดท้ายได้อ้างความรับผิดชอบเหตุวินาศกรรมดังกล่าวใน ค.ศ. 2004[1] อัลกออิดดะห์และบิน ลาดิน อ้างเหตุผลจูงใจในการก่อเหตุ ว่า การสนับสนุนอิสราเอลของสหรัฐอเมริกา การคงทหารสหรัฐประจำการไว้ในซาอุดิอาระเบีย และการลงโทษต่ออิรัก สหรัฐอเมริกาดำเนินมาตรการตอบโต้เหตุวินาศกรรมโดยการเริ่มสงครามต่อต้านการก่อการร้าย (War on Terror), การรุกรานอัฟกานิสถานเพื่อขับรัฐบาลตอลิบัน ซึ่งให้ที่พักพิงแก่สมาชิกอัลกออิดะฮ์ หลายประเทศเพิ่มกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายและขยายอำนาจการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2011 หลังลอยนวลมาได้นานหลายปี บิน ลาเดนถูกพบและถูกสังหาร
เหตุวินาศกรรมทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อเศรษฐกิจของแมนฮัตตันล่าง[7] การทำความสะอาดเขตเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2002 พิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์ 11 กันยายนแห่งชาติมีกำหนดเปิดในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2011 ที่ติดกับอนุสรณ์ วันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ซึ่งมีความสูง 541 เมตร ประเมินไว้ว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน ค.ศ. 2013[8] เพนตากอนซ่อมแซมภายในเวลาหนึ่งปี และมีการเปิดอนุสรณ์เพนตากอน ติดกับตัวอาคาร ใน ค.ศ. 2008 มีการจัดตั้งอนุสรณ์แห่งชาติเที่ยวบินที่ 93 ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2009 และอนุสรณ์ดังกล่าวก่อสร้างเสร็จอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 2011[9][10]
การโจมตี
แก้เหตุการณ์
แก้ณ เช้าวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 โจรจี้เครื่องบิน 19 คนยึดเครื่องบินพาณิชย์สี่เครื่องระหว่างทางไปซานฟรานซิสโกและลอสแอนเจลิสหลังนำเครื่องขึ้นจากบอสตัน เนวาร์ค และวอชิงตัน ดี.ซี. โจรเจตนาเลือกจี้เครื่องบินที่ต้องบินเป็นระยะทางไกลเพราะมีน้ำมันอยู่มาก[12] เมื่อเวลา 8.46 น. โจรจี้เครื่องบินห้าคนนำเที่ยวบินอเมริกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 11 พุ่งเข้าชนกับตึกเหนือของเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (1 WTC) และเมื่อเวลา 9.03 น. โจรอีกห้าคนได้นำเที่ยวบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 175 พุ่งเข้าชนตึกใต้ (2 WTC)[13][14]
คนร้ายห้าคนนำเที่ยวบินอเมริกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 77 พุ่งเข้าชนอาคารเพนตากอนเมื่อเวลา 9.37 น.[15] ส่วนเที่ยวบินที่สี่ ภายใต้การควบคุมของคนร้ายสี่คน ชนยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 93 ใกล้กับแชงค์วิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อเวลา 10.03 น. หลังผู้โดยสารสู้กับคนร้าย เป้าหมายแท้จริงของเที่ยวบิน 93 นั้นเชื่อกันว่าน่าจะเป็นอาคารรัฐสภาหรือไม่ก็ทำเนียบขาว[12] เครื่องบันทึกเสียงห้องนักบินของเที่ยวบินที่ 93 เปิดเผยว่า ลูกเรือและผู้โดยสารพยายามยึดการควบคุมเครื่องคืนจากคนร้าย หลังทราบผ่านโทรศัพท์ว่ามีเครื่องบินที่ถูกจี้คล้ายกันพุ่งเข้าชนอาคารเช้าวันนั้น[16] เมื่อชัดเจนแก่คนร้ายแล้วว่าผู้โดยสารอาจยึดเครื่องคืน คนร้ายคนหนึ่งจึงออกคำสั่งที่เหลือให้หมุนเครื่องบินและตั้งใจให้เครื่องตก[17] ไม่นานหลังจากนั้น เที่ยวบินที่ 93 ตกในทุ่งใกล้กับแชงค์วิลล์
ผู้โดยสารบางคนสามารถใช้โทรศัพท์ได้โดยใช้บริการแอร์โฟนเคบิน และโทรศัพท์เคลื่อนที่ และให้รายละเอียดว่ามีคนร้ายจี้เครื่องบินหลายคนบนเครื่องบินแต่ละเครื่อง มีการใช้สเปรย์พริก (mace) แก๊สน้ำตา หรือสเปรย์พริกไทย และบางคนบนเครื่องถูกแทง[18][19][20][21][22][23][24] รายงานชี้ว่าโจรจี้เครื่องบินแทงและฆ่านักบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่อง และผู้โดยสารหนึ่งคนหรือมากกว่า[25][26] ในรายงานสุดท้าย คณะกรรมการ 9/11 พบว่า โจรจี้เครื่องบินได้ซื้อเครื่องมืออเนกประสงค์และเลือกมีดและใบมีด[27][28] พนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินที่ 11 ผู้โดยสารบนเที่ยวบินที่ 175 และผู้โดยสารบนเที่ยวบินที่ 93 กล่าวว่าคนร้ายจี้เครื่องบินมีระเบิด แต่มีผู้โดยสารอีกคนหนึ่งกล่าวเช่นกันว่า เขาคิดว่าระเบิดเป็นของปลอม เอฟบีไอไม่พบร่องรอยวัตถุระเบิดที่จุดตก และคณะกรรมการ 9/11 สรุปว่าระเบิดอาจเป็นของปลอม[25]
เมื่อเป็นที่ทราบแล้วว่าเที่ยวบินที่ 11 ถูกจี้เครื่อง เครื่องบินเอฟ-15 สองลำเร่งรีบออกจากฐานป้องกันแห่งชาติทางอากาศโอติสในรัฐแมสซาชูเซตส์ และขนมาทางอากาศก่อนเวลา 8.53 น.[29] หน่วยบัญชาการป้องกันอวกาศอเมริกาเหนือ (NORAD) มีประกาศ 9 นาทีว่า เที่ยวบินที่ 11 ถูกจี้เครื่อง แต่เพราะการสื่อสารที่เลวกับสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) จึงไม่รับทราบเกี่ยวกับเที่ยวบินอื่นก่อนที่จะชนกับอาคาร[29] หลังอาคารคู่ถูกชนทั้งสองหลังแล้ว เครื่องบินขับไล่เร่งรีบออกมากมากขึ้นจากฐานทัพอากาศแลงเลย์ในรัฐเวอร์จิเนีย เมื่อเวลา 9.30 น.[29] ต่อมาเวลา 10.20 น. มีคำสั่งให้ยิงอากาศยานพาณิชย์ลำใดก็ตามที่สามารถชี้ว่าถูกจี้เครื่อง คำชี้แจงเหล่านี้ไม่ได้ถ่ายทอดมาทันเวลาที่เครื่องบินขับไล่จะปฏิบัติการ[29][30][31][32] เครื่องบินขับไล่บางลำนำเครื่องขึ้นสู่อากาศโดยไม่มีกระสุนจริง และทราบว่าการขัดขวางคนร้ายมิให้นำเครื่องบินชนเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ นักบินจะต้องใช้วิธีการชนเครื่องบินขับไล่ลำที่ตนขับมานั้นเข้ากับเครื่องบินที่ถูกจี้ และดีดตัวออกจากเครื่องในช่วงสุดท้าย[33] ในการสัมภาษณ์นักบินเครื่องบินขับไล่ที่ตอบสนองจากฐานป้องกันแห่งชาติทางอากาศโอติส นักบินคนหนึ่งกล่าวว่า "จะไม่มีใครเรียกเราว่าวีรบุรุษ หากเรายิงเครื่องบินทั้งสี่ลำในวันที่ 11 กันยายน"[34]
อาคารสามหลังในกลุ่มอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ถล่มลงมาเพราะความเสียหายทางโครงสร้าง[35] ตึกใต้ถล่มลงเมื่อเวลา 9.59 น. หลังเพลิงลุกไหม้นานกว่า 56 นาที ซึ่งเกิดจากยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 175 พุ่งชนอาคาร[35] ตึกเหนือถล่มลงมาเมื่อเวลา 10.28 น. หลังเพลิงลุกไหม้นานกว่า 102 นาที[35] เมื่อตึกเหนือถล่ม เศษซากปรักหักพักตกลงมาโดนอาคาร 7 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้อาคารเสียหายและเกิดเพลิงไหม้ ไฟเหล่านี้ลุกไหม้นานหลายชั่วโมง เป็นอันตรายต่อความสมบูรณ์ของโครงสร้างอาคาร กระทั่ง 7WTC ถล่มลงมาเมื่อเวลา 17.21 น.[36][37]
อากาศยานทุกลำภายในสหรัฐอเมริกาแผ่นดินใหญ่ถูกสั่งห้ามขึ้นบิน และอากาศยานที่กำลังบินอยู่ถูกบังคับให้ลงจอดทันที อากาศยานพลเรือนระหว่างประเทศทุกลำหันหลังกลับหรือเปลี่ยนเส้นทางไปยังท่าอากาศยานในแคนาดาหรือเม็กซิโก และเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมดถูกห้ามลงจอดบนแผ่นดินสหรัฐเป็นเวลาสามวัน[38] เหตุโจมตีสร้างความสับสนอย่างกว้างขวางในหมู่สำนักข่าวและผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศ ในการรายงานข่าวที่ไม่ได้รับการยืนยันและมักขัดแย้งกันที่ออกอากาศทั้งวันนั้น หนึ่งในข่าวที่แพร่หลายที่สุดว่า มีคาร์บอมบ์ถูกจุดระเบิดที่สำนักงานใหญ่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.[39] เครื่องบินอีกลำหนึ่ง เดลตาแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 1989 ต้องสงสัยว่าถูกจี้เครื่อง แต่กลับกลายเป็นว่าไม่จริง หลังเครื่องตอบรับผู้ควบคุมและลงจอดอย่างปลอดภัยในคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ[40]
ในการสัมภาษณ์ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2002 คาลิด ซีกห์ โมฮัมเหม็ด (Khalid Sheikh Mohammed) และรอมซี บิน อัล-ชิบฮ์ (Ramzi bin al-Shibh) ผู้ซึ่งถูกเชื่อว่าเป็นผู้จัดการโจมตี กล่าวว่า เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ของเที่ยวบินที่ 93 คือ อาคารรัฐสภาสหรัฐ มิใช่ทำเนียบขาว[41] ระหว่างขั้นวางแผนการโจมตี ฮาเหม็ด อัตตา (Mohamed Atta) โจรจี้เครื่องบินและนักบินเที่ยวบินท่ 11 คิดว่าทำเนียบขาวอาจเป็นเป้าหมายที่ยากเกินไป และสอบถามการประเมินจาก Hani Hanjour ผู้ซึ่งภายหลังจี้เครื่องบินและเป็นนักบินของเที่ยวบินที่ 77[42] โมฮัมเหม็ดยังว่า เดิมอัลกออิดะฮ์วางแผนจะพุ่งเป้าไปยังโรงงานนิวเคลียร์แทนเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และเพนตากอน แต่ตัดสินใจคัดค้าน ด้วยเกรงว่าทุกสิ่งอาจ "อยู่นอกเหนือการควบคุม"[43] ตามข้อมูลของโมฮัมเหม็ด การตัดสินใจเลือกเป้าหมายครั้งสุดท้ายอยู่ในมือของนักบิน[42]
ผู้เสียชีวิต
แก้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 2,996 คนจากเหตุวินาศกรรมครั้งนี้ ประกอบด้วยโจรจี้เครื่องบิน 19 คน และเหยื่อ 2,977 คน เหยื่อนี้แบ่งเป็น 246 คนบนเครื่องบินทั้งสี่เครื่อง (ซึ่งไม่มีผู้รอดชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว), 2,606 คนในนครนิวยอร์ก ซึ่งมีทั้งที่อยู่ในอาคารระฟ้าทั้งสองและบนพื้นดิน และ 125 คนที่อาคารเพนตากอน เหยื่อเกือบทั้งหมดเป็นพลเรือน แต่มีทหาร 55 นายเสียชีวิตที่เพนตากอน
คนทำงานและผู้เยี่ยมชมมากกว่า 90% ที่เสียชีวิตในหอคอยทั้งสองนั้นอยู่บนหรือเหนือชั้นที่เป็นจุดที่ถูกเครื่องบินชน ในอาคารเหนือ มี 1,355 คนอยู่ในชั้นหรือเหนือชั้นที่เป็นจุดที่ถูกชน ซึ่งติดอยู่หรือเสียชีวิตด้วยการสูดหายใจเอาควันเข้าไป ตกลงหรือกระโดดออกจากอาคารเพื่อหนีควันและเปลวไฟ หรือเสียชีวิตหลังอาคารถล่มลงมาหลังจากนั้น มีอีก 107 คนที่อยู่ต่ำกว่าชั้นที่ถูกชนไม่รอดชีวิต ในอาคารใต้ มีปล่องบันไดปล่องหนึ่งยังไม่ได้รับความเสียหาย ทำให้มี 18 คนหลบหนีจากชั้นเหนือกว่าชั้นที่ถูกชนได้ ในอาคารใต้มีผู้เสียชีวิต 630 คน น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตในอาคารเหนือ ผู้เสียชีวิตในอาคารใต้ลดลงอย่างมากจากการตัดสินใจของผู้ที่ทำงานอยู่ภายในซึ่งเริ่มอพยพเมื่ออาคารเหนือถูกเครื่องบินชน
ลำดับเหตุการณ์
แก้วินาศกรรมในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้น ณ เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เพียงแห่งเดียว แต่อาคารเพนตากอน ก็ได้ถูกโจมตีด้วย โดยมีการใช้เครื่องบินถึง 3 ลำในการก่อการ ซึ่งผู้ก่อการในครั้งนี้ได้เข้ายึดครองเพื่อบังคับให้พุ่งเข้าชนอาคารสำคัญ และยังมีเครื่องบินอีกหนึ่งลำที่ถูกปล้นด้วยแต่ไม่สามารถชนอาคารได้ ทั้งนี้คาดว่าการขัดขืนจากลูกเรือและผู้โดยสารทำให้เครื่องบินลำดังกล่าวตกลงในเขตชนบทที่ซอมเมอร์เซ็ต
เครื่องบินที่ถูกปล้นทั้ง 4 ลำเป็นเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง โดยเป็นรุ่น โบอิง 767-200ER จำนวน 2 ลำ (จากอเมริกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 11 และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 175) อีก 2 ลำเป็นโบอิง 757-200 (จากอเมริกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 77 และจากยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 93) ทั้ง 4 ลำเป็นเที่ยวบินที่บินข้ามจากฝั่งตะวันออกไปตะวันตก ดังนั้นจึงบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงไปเต็มที่ และเชื่อว่าการพังทลายของอาคารแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ น่าจะเกิดมาจากปริมาณน้ำมันจำนวนมากที่บรรทุกอยู่บนเครื่องบินเหล่านั้น
ในขณะที่เกิดเหตุหายนะอยู่นี้ ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้เดินทางจากฟลอริดากลับสู่วอชิงตัน และได้ออกแถลงการณ์ในเหตุการณ์ โดยขอให้ประชาชนร่วมกันสวดมนต์ให้กับผู้เคราะห์ร้าย รวมทั้งยังประกาศว่า "ผู้ที่กระทำการครั้งนี้จะต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำ"
ต่อมามีรายงานว่าอาคารอื่น ๆ ในบริเวณนั้นก็ได้พังทลายลงทั้งหมด (เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ประกอบด้วยอาคาร 7 หลัง) อย่างไรก็ตาม ภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า อาคาร 5 ยังคงตั้งอยู่แต่ก็เสียหายเป็นอย่างมากเช่นกัน สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บนั้นยังไม่ทราบแน่นอน แต่พบศพแล้วกว่า 200 ศพ และยังสูญหายอีกประมาณ 6,000 คน (ณ วันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2001)
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้กำหนดวันที่ 11 กันยายนเป็นวันรำลึกเหตุวินาศกรรม 11 กันยายนแห่งชาติ (อังกฤษ: National Day of Service and Remembrance) โดยเริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 2002 เป็นต้นไป
ผู้เสียชีวิต (ไม่รวมผู้ก่อการร้าย 19 คน) | ||
---|---|---|
นครนิวยอร์ก | เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ | เสียชีวิต 2,602 คน และสูญหาย 24 คน[44][45] |
อเมริกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 11 | 88[46] | |
ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 175 | 59[47] | |
อาคารเพนตากอน | อาคาร | 125[48] |
อเมริกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 77 | 59[49] | |
Shanksville | ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 93 | 40[50] |
รวม | เสียชีวิต 2,973 คน และสูญหาย 24 คน |
สรุปผู้เสียชีวิต
แก้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 3,400 คน แบ่งเป็น เสียชีวิตบนเครื่องบิน 246 คน ในอาคารและพื้นดินของนครนิวยอร์ก 2,602 คน และในอาคารเพนตากอน 125 คน รวมถึงนักผจญเพลิงนครนิวยอร์ก 343 คน ตำรวจนครนิวยอร์ก 23 คน ตำรวจการท่าเรือของนิวยอร์กและนิวเจอร์ซี 37 คน และผู้สูญหายอีก 24 คน[ต้องการอ้างอิง]
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 "Bin Laden claims responsibility for 9/11". CBC News. October 29, 2004. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
al-Qaeda leader Osama bin Laden appeared in a new message aired on an Arabic TV station Friday night, for the first time claiming direct responsibility for the 2001 attacks against the United States.
- ↑ Holmes (2006), pp ??
- ↑ Keppel (2008), pp ??
- ↑ "Man's death from World Trade Center dust brings Ground Zero toll to 2,753". NY Daily News. Associated Press. June 18, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-13. สืบค้นเมื่อ September 1, 2011.
- ↑ "Top military officer honors 9/11 Pentagon victims". Associated Press. September 11, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-12. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ "9 Years Later, Nearly 900 9/11 Responders Have Died, Survivors Fight for Compensation". FOX News. September 11, 2010. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ Summers and Swan (2011), p. 75.
- ↑ "1 World Trade Center". Lower Manhattan Development Corporation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-19. สืบค้นเมื่อ 2011-09-04.
- ↑ "Ground broken for Flight 93 memorial". The Associated Press. November 8, 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-13. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ "Memorial takes shape". Philadelphia Media Network Inc. August 14, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ "Flight 77, Video 2". Judicial Watch. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-25. สืบค้นเมื่อ 2011-06-26.
- ↑ 12.0 12.1 "The Attack Looms". 9/11 Commission Report. National Commission on Terrorist Attacks Upon the United States. 2004. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ "Flight Path Study – American Airlines Flight 11" (PDF). National Transportation Safety Board. February 19, 2002.
- ↑ "Flight Path Study – United Airlines Flight 175" (PDF). National Transportation Safety Board. February 19, 2002.
- ↑ "Flight Path Study – American Airlines Flight 77" (PDF). National Transportation Safety Board. February 19, 2002.
- ↑ Snyder, David (April 19, 2002). "Families Hear Flight 93's Final Moments". The Washington Post. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-02-24. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ "Text of Flight 93 Recording". Fox News. April 12, 2006. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ McKinnon, Jim (September 16, 2001). "The phone line from Flight 93 was still open when a GTE operator heard Todd Beamer say: 'Are you guys ready? Let's roll'". Pittsburgh Post-Gazette. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-12-25. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ "Relatives wait for news as rescuers dig". CNN. September 13, 2001. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-22. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ Summers and Swan (2011), pp. 58, 463n, 476n.
- ↑ Wilgoren, Jodi and Edward Wong (September 13, 2001). "On Doomed Flight, Passengers Vowed To Perish Fighting". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ Serrano, Richard A. (April 11, 2006). "Moussaoui Jury Hears the Panic From 9/11". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ Goo, Sara Kehaulani (January 28, 2004). "Hijackers used Mace, knives to take over airplanes". San Francisco Chronicle. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
{{cite news}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthor=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) (help) - ↑ Ahlers, Mike M. (January 27, 2004). "9/11 panel: Hijackers may have had utility knives". CBS News. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ 25.0 25.1 9/11 Commission Report, pp. 4–14.
- ↑ "Encore Presentation: Barbara Olson Remembered". Larry King Live. CNN. January 6, 2002. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
- ↑ "National Commission Upon Terrorist Attacks in the United States". National Commission Upon Terrorist Attacks in the United States. January 27, 2004. สืบค้นเมื่อ January 24, 2008.
- ↑ Summers and Swan (2011), p. 343.
- ↑ 29.0 29.1 29.2 29.3 "We Have Some Planes" (pdf). The 911 Commission Report. 911 Commission. pp. 20–42. สืบค้นเมื่อ 2011-09-09.
- ↑ "Cheney: Order To Shoot Down Hijacked 9/11 Planes 'Necessary'". Fox News. September 4, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-09-09.
- ↑ Schrader, Esther (June 18, 2004). "Cheney Gave Order to Shoot Down Jets". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ 2011-09-09.
- ↑ Greer, Gordon (2005). What Price Security?. iUniverse, Inc. p. 73. ISBN 059535792X.
- ↑ Hendrix, Steve (September 8, 2011). "F-16 pilot was ready to give her life on Sept. 11". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ 2011-09-09.
- ↑ Viser, Matt (September 11, 2005). "Two pilots revisit their 9/11". The Boston Globe. สืบค้นเมื่อ 2011-09-09.
- ↑ 35.0 35.1 35.2 Miller, Bill (May 1, 2002). "Report Assesses Trade Center's Collapse". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ 2011-09-02.
- ↑ World Trade Center Building Performance Study, Ch. 5 WTC 7 – section 5.5.4
- ↑ Final Report on the Collapse of World Trade Center Building 7, p. xxxvii.
- ↑ "Profiles of 9/11 – About 9/11". The Biography Channel. A&E Television Networks. สืบค้นเมื่อ 2011-09-02.
- ↑ Miller, Mark (August 26, 2002). "Broadcasting and Cable". Broadcasting & Cable. Reed Business Information. สืบค้นเมื่อ 2011-09-02.
- ↑ Adams, Marilyn (August 13, 2002). "Part II: No one was sure if hijackers were on board". USA Today. สืบค้นเมื่อ 2011-09-02.
{{cite news}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) (help) - ↑ Fouda and Fielding (2004), pp. 158–9.
- ↑ 42.0 42.1 {Summers and Swan (2011), p. 323.
- ↑ "Al-Qaeda 'plotted nuclear attacks'". BBC News. September 8, 2002. สืบค้นเมื่อ 2011-09-02.
- ↑ "2006 9/11 Death Toll". CNN. 2006, April 26. สืบค้นเมื่อ 2006-09-07.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ "24 Remain Missing". September 11 Victims. 2006, August 12. สืบค้นเมื่อ 2006-09-07.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ "American Airlines Flight 11". CNN. สืบค้นเมื่อ 2006-09-07.
- ↑ "United Airlines Flight 175". CNN. สืบค้นเมื่อ 2006-09-07.
- ↑ "American Airlines Flight 77". CNN. สืบค้นเมื่อ 2006-09-07.
- ↑ "American Airlines Flight 77". CNN. สืบค้นเมื่อ 2006-09-07.
- ↑ Roddy, Dennis B. (2001, October 28). "Flight 93: Forty lives, one destiny". Pittsburgh Post-Gazette. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-12-05. สืบค้นเมื่อ 2006-09-07.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help)
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- National Commission on Terrorist Attacks Upon the United States official commission website
- 11 กันยายน พ.ศ. 2544 เอกสารโครงการ จากห้องสมุดรัฐสภาสหรัฐอเมริกา
- 11 กันยายน พ.ศ. 2544 เว็บจดหมายเหตุ จากห้องสมุดรัฐสภาสหรัฐอเมริกา, มิเนอร์วา
- หนังสือ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 จากหอจดหมายเหตุความมั่นคงแห่งชาติ
- September 11 Digital Archive: Saving the Histories of September 11, 2001 จาก Center for History and New Media and the American Social History Project/Center for Media and Learning
- วินาศกรรม 11 กันยายน ที่เว็บไซต์ Curlie
- DoD: Khalid Sheikh Mohammed Verbatim Transcript of Combatant Status Review Tribunal Hearing for ISN 10024, From WikiSource
- Sept. 11 Co-Conspirators จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา on Military Commissions including case documents on Khalid Sheikh Mohammed et al.
- รายชื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 11 กันยายน พ.ศ. 2544