อภิรักษ์ โกษะโยธิน

อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

อภิรักษ์ โกษะโยธิน (เกิด 30 มีนาคม พ.ศ. 2504) อดีตกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์[2] อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 2 สมัย

อภิรักษ์ โกษะโยธิน
อภิรักษ์ ใน พ.ศ. 2553
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 14
ดำรงตำแหน่ง
29 สิงหาคม พ.ศ. 2547 – 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551[1]
(4 ปี 2 เดือน 21 วัน)
ก่อนหน้าสมัคร สุนทรเวช
ถัดไปหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร
รองผู้ว่าการ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด30 มีนาคม พ.ศ. 2504 (64 ปี)
อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ประเทศไทย
พรรคการเมืองประชาธิปัตย์ (2535–ปัจจุบัน)
คู่สมรสปฏิมา โกษะโยธิน
บุตรอนรรฆ โกษะโยธิน

ประวัติ

แก้

อภิรักษ์ เกิดวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2504[3] ที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จึงทำให้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เกิดในยุคกึ่งพุทธกาล (พ.ศ. 2500) มีชื่อเล่นว่า "ต้อม" เป็นบุตรคนโตของ นายบุญลักษณ์ นางอมรา โกษะโยธิน (สกุลเดิม จามรมาน)(เสียชีวิตแล้ว) มีน้องสาว 1 คนคือ อภิสรา โกษะโยธิน (ทำงานที่ ธนาคารทหารไทยธนชาต)

สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา จากโรงเรียนอนุบาลนนทบุรี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตร์บัณฑิต (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร) คณะเกษตรศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. 2526 (รุ่นเดียวกับ ยงยุทธ ติยะไพรัช) และระดับปริญญาโท จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า (การจัดการการตลาด)

ด้านครอบครัวสมรสกับ นางปฏิมา โกษะโยธิน (สกุลเดิม: พงศ์พฤกษทล) มีบุตรชายด้วยกัน 1 คน คือ อนรรฆ โกษะโยธิน (พี)

อภิรักษ์มีฉายาจากสื่อมวลชนว่า "หล่อเล็ก" คู่กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มีฉายาว่า "หล่อใหญ่" และต่อมามีนักการเมืองพรรคเดียวกันได้รับฉายาทำนองนี้อีกเช่น กรณ์ จาติกวณิช รองเลขาธิการพรรคที่ได้รับฉายา "หล่อโย่ง" และอภิมงคล โสณกุล รองโฆษกพรรคที่มีฉายาว่า "หล่อจิ๋ว"

การทำงาน

แก้
 
ภาพ อภิรักษ์ พบชาวบ้าน

นายอภิรักษ์เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรธุรกิจหลายแห่ง ก่อนที่จะเข้าสู่วงการเมือง เริ่มจากการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนาม พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี พ.ศ. 2547 การลงคะแนนเลือกตั้งมีขึ้นในวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2547 และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติเป็นเอกฉันท์ ประกาศให้ นายอภิรักษ์ เป็น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2547 หลังได้รับตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต่อมานายอภิรักษ์ได้รับเลือกตั้งให้เป็น รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2548

ในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2551 นายอภิรักษ์ได้ยุติการทำหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครชั่วคราว พร้อมกับได้ตั้ง ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ รักษาการแทน เนื่องจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) แจ้งข้อกล่าวหาว่ามีความผิดกรณีซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง ทั้ง ๆ ที่เป็นเพียงการแจ้งข้อกล่าวหาเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นการชี้มูลความผิดหรือส่งเรื่องขึ้นสู่การพิจารณาคดีของศาลแล้ว[4] และในวันที่ 12 เมษายน ปีเดียวกัน ได้กลับมาทำงานอีกครั้งเนื่องจากครบวาระการพักงาน โดยเริ่มงานแรกคือ การสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ที่ท้องสนามหลวง เนื่องในงานเทศกาลสงกรานต์ของกรุงเทพมหานคร

ต่อมาในวันที่ 12 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดในคดีนี้ นายอภิรักษ์ได้แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งในเวลา 15.30 น. ทั้ง ๆ ที่กฎหมายมิได้มีผลบังคับให้ต้องทำถึงขนาดนั้น แต่นายอภิรักษ์ระบุว่าต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่การเมืองไทย ทั้งนี้ให้มีผลในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 หลังพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสร็จสิ้น[1]

ในปี พ.ศ. 2552 นายอภิรักษ์เข้ารับตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการสำคัญของรัฐบาล โดยร่วมในองค์ประกอบคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ และคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ เพื่อเร่งรัดโครงการตามนโยบายเร่งด่วนเพื่อแก้ไขและบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มีต่อประชาชน เป็นผู้มีบทบาทหลักในการจัดทำแผนปฏิรูปประเทศไทยเสนอต่อนายกรัฐมนตรี รวมทั้งผลักดันงานด้านการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนโยบายด้านการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม นอกจากนี้ยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยทั้งจากเหตุอุทกภัยและจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมืองในปี พ.ศ. 2553–2554

ในปี พ.ศ. 2553 นายอภิรักษ์ได้ลงรับสมัครเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในเขต 2 กรุงเทพมหานคร แทนที่ นายสมเกียรติ ฉันทวานิช ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิความเป็นสมาชิกภาพ ส.ส. ไปด้วยเหตุถือครองหุ้นส่วนของบริษัทไม่ตรงตามรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2550[5] ซึ่งนายสมเกียรติก็ไม่ขอลงสมัครอีกเนื่องจากอายุมากแล้ว ทางพรรคจึงได้มีมติเลือกนายอภิรักษ์ให้ลงสมัครแทน และนายอภิรักษ์ก็ได้รับคะแนน 71,072 คะแนน ชนะ นายพงษ์พิสุทธิ์ จินตโสภณ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ที่ได้ 30,506 คะแนน[6] และได้รับการรับรองเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร[7] ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 8[8] และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อีกสมัย

ซึ่งต่อมาในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำตัดสินให้นายอภิรักษ์พ้นข้อกล่าวหาในคดีรถดับเพลิงเนื่องจากเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดในสัญญาซึ่งมีผลก่อนหน้าที่จะเข้ารับตำแหน่งแล้ว และได้มีการดำเนินการเพียรพยายามรักษาผลประโยชน์ของกทม. จนได้รับผลประโยชน์คืนให้กับกทม.อีก 250 ล้านบาท

ประวัติการทำงาน

แก้

การดำรงตำแหน่งอื่นๆ

แก้
  • อดีตประธานนักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (พ.ศ. 2527 – พ.ศ. 2528)
  • อดีตกรรมการศูนย์ฟื้นฟูรักษาสิ่งแวดล้อมในเมือง สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ (พ.ศ. 2533 - พ.ศ. 2534)
  • อดีตกรรมการสมาคมศิษย์เก่า คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (พ.ศ. 2534 – พ.ศ. 2536)
  • อดีตกรรมการที่ปรึกษา และคณะอนุกรรมการอำนวยการ การส่งเสริมการประเมินคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2538 – พ.ศ. 2542)
  • อดีตประธานกลุ่มบริหารการตลาด และกรรมการอำนวยการ สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (พ.ศ. 2544 – พ.ศ. 2545)
  • อดีตกรรมการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ (พ.ศ. 2544 – พ.ศ. 2546)
  • อดีตผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (พ.ศ. 2552 – พ.ศ. 2553)
  • อาจารย์พิเศษ
    • คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    • คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    • คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    • คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญบริหารธุรกิจ
    • คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
    • บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
  • กรรมการส่งเสริมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • ที่ปรึกษา สมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษาในพระบรมราชูปถัมภ์
  • ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-สหราชอาณาจักร
  • ประธานมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
  • ประธานสโมสรฟุตบอลแบงค็อกยูไนเต็ด
  • ประธานสถาบันองค์ความรู้แห่งเอเชีย
  • นายกสมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษาในพระบรมราชูปถัมภ์

ผลงานบริหารกรุงเทพมหานคร

แก้
 
ขณะออกหาเสียงร่วมกับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และแทนคุณ จิตต์อิสระ

ในช่วงที่นายอภิรักษ์ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอภิรักษ์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการทำโครงการสำคัญต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับคนกรุงเทพฯ อาทิ การพัฒนาระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้าบีทีเอส), การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การพัฒนาคุณภาพการศึกษา, การวางผังพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

ผลงานด้านการต่างประเทศ นายอภิรักษ์ได้สร้างชื่อเสียงให้กับกรุงเทพฯเป็นอย่างมาก ด้วยการสร้างความสัมพันธ์อันดีและทำการแลกเปลี่ยนความคิดในการพัฒนากรุงเทพฯร่วมกับเมืองหลวงสำคัญ ๆ ทั่วโลก เช่น ปักกิ่ง, แต้จิ๋ว, โซล, ฟุกุโอกะ, ฮานอย, ลิเวอร์พูล, วอชิงตัน ดี.ซี., บริสเบน เป็นต้น นายอภิรักษ์ยังได้รับเกียรติให้เป็นผู้บรรยายกิตติมศักดิ์ในงานสัมมนาระดับโลกมากมาย อาทิ การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN 100 Leadership Forum) ในปี พ.ศ. 2542 ณ ประเทศสิงคโปร์ และในปี พ.ศ. 2544 ณ ประเทศเวียดนาม รวมถึงการประชุมสุดยอดผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม (C40 Cities Climate Summit) ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ตลอดการทำงานด้วยความตั้งใจจนครบวาระ 4 ปี นายอภิรักษ์ได้สร้างผลงานโดดเด่นมากมาย ด้วยประสบการณ์ด้านการบริหาร และผลงานการพัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้นายอภิรักษ์ได้รับชัยชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นสมัยที่ 2 ด้วยคะแนนโหวตเกือบ 1 ล้านคะแนน

นายอภิรักษ์ได้ประกาศลาออกในกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐได้แจ้งผิดกรณีรถดับเพลิง[12]

เกียรติประวัติ

แก้
  • ศิษย์เก่าดีเด่น สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ปี พ.ศ. 2542
  • ศิษย์เก่าดีเด่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2543
  • รางวัลครอบครัวประชาธิปไตยตัวอย่าง ประจำปี พ.ศ. 2549
  • รางวัลเอกบุรุษ ประจำปี พ.ศ. 2549 โดยสถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา
  • ทูตพิทักษ์สิทธิเด็กแห่งปี 2551 โดยเครือข่ายคณะทำงานด้านเด็ก
  • รางวัล โล่มารวยผดุงสิทธิ์ - ศิษย์เก่าดีเด่นสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ที่ใช้คุณธรรมนำความสำเร็จ ประจำปี พ.ศ. 2552
  • ได้รับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประจำปีการศึกษา 2549 จากมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต

ตระกูลโกษะโยธิน

แก้

ตระกูลโกษะโยธิน สืบเชื้อสายมาจาก หลวงพินิจปรีชา (คลัง) โดยนามสกุล "โกษะโยธิน" (Kosayodhin) เป็นนามสกุลพระราชทานลำดับที่ 2962 ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 และเนื่องจากเป็นสกุลทหารบก จึงมีคำว่า "โยธิน" ประกอบในนามสกุล

นายอภิรักษ์มีปู่คือ พันโทจมื่นศักดิ์สงคราม (นายร้อยเอกนายไกรพลแสน) รับราชการในกรมทหารรักษาวังของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นเจ้าของที่ดินส่วนใหญ่ ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 7 เกิดวิกฤติเศรษฐกิจทำให้ต้องมีการปรับโครงสร้างระบบราชการ เพื่อลดจำนวนคนจากหน่วยงานต่าง ๆ ลง ปู่จึงลาออกจากราชการ มาเก็บค่าเช่าจากที่ดินและตึกแถว

รุ่นถัดมาคือบิดาของนายอภิรักษ์ ที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และเรียนจบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยรับราชการ ที่กรมชลประทาน ก่อนจะออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ในขณะที่ลุงของนายอภิรักษ์คือ พันเอกพิเศษทำนุ โกษะโยธิน รับราชการเป็นทหารจนเกษียณอายุ ส่วนป้า ของนายอภิรักษ์ คือ ร้อยเอกหญิงกานดา โกษะโยธิน เคยเป็นอาจารย์ในโรงเรียนเตรียมทหารจนได้ยศร้อยเอกหญิงนำหน้าชื่อ ก่อนจะย้ายไปเป็นอาจารย์ที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ส่วนทางตระกูลจามรมานของมารดานายอภิรักษ์ มีต้นตระกูลคือ พระยานิติศาสตร์ไพศาล ที่เป็น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเป็น คณบดีคนแรกของ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

แก้

ส่วนเกี่ยวข้อง

แก้
  • นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เริ่มได้รับฉายาว่า "หล่อเล็ก" ในช่วงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพในปี พ.ศ. 2547
  • ในการรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2547 นั้น นายอภิรักษ์จับได้เบอร์ 1
  • นายอภิรักษ์ ใช้แคมเปญในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า "กรุงเทพ 360 องศา"
  • ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯอยู่นั้น นายอภิรักษ์ได้จัดรายการ "พบผู้ว่า กทม." เป็นประจำทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 21.00 น. ทางคลื่นวิทยุ จส.100 โดยเปิดสายให้ผู้ฟังโทรเข้าไปพูดคุยได้ สามารถรับฟังได้ทางอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์จส.100 เก็บถาวร 2006-10-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  • ในการรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2551 นั้น นายอภิรักษ์จับได้เบอร์ 5 ซึ่งมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551
  • ในการรับสมัครเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต 2 ปี พ.ศ. 2553 นายอภิรักษ์จับได้เบอร์ 2 ซึ่งมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อ้างอิง

แก้
  1. 1.0 1.1 อภิรักษ์ลาออกจากผู้ว่าฯกทม. ขอมีผลหลังพระราชพิธีเสร็จ
  2. ประชาธิปัตย์ ตั้งสภาที่ปรึกษาพรรคบัญญัติ-อภิสิทธิ์-ชายหมู มาครบทีม
  3. "ประวัติจากเว็บไซต์กรุงเทพมหานคร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-12-20. สืบค้นเมื่อ 2007-11-22.
  4. "ด่วน!"อภิรักษ์"โชว์สปิริตยุติผู้ว่าฯกทม.ชั่วคราวแล้วหลังคตส.ชี้ผิดรถดับเพลิง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-26. สืบค้นเมื่อ 2008-03-13.
  5. ฟันทิ้ง! ศาลรธน.สั่งพ้นสภาพ6ส.ส. ถือหุ้นสื่อ-สัมปทานรัฐ จากสนุกดอตคอม
  6. “อภิรักษ์-เกื้อกูล” ผลชนะเลือกตั้งซ่อมถึงมือ กกต.กลางเก็บถาวร 2012-12-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากผู้จัดการออนไลน์
  7. กกต.รับรองผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.3จังหวัด[ลิงก์เสีย]
  8. ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (พรรคประชาธิปัตย์)
  9. ประวัติโดยสังเขป อภิรักษ์ โกษะโยธิน
  10. “อภิรักษ์” หวนคืนตลาด “ฟูด-ดริงก์” คว้า “ดาวคอฟฟี่” รุกตลาดไทย[ลิงก์เสีย]
  11. “อภิรักษ์” หวนคืนตลาด “ฟูด-ดริงก์” คว้า “ดาวคอฟฟี่” รุกตลาดไทย[ลิงก์เสีย]
  12. "ด่วน!"อภิรักษ์"โชว์สปิริตยุติผู้ว่าฯกทม.ชั่วคราวแล้วหลังคตส.ชี้ผิดรถดับเพลิง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-26. สืบค้นเมื่อ 2008-03-13.
  13. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๔, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๓, ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔
  14. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๑๗ ข หน้า ๙, ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๑
  15. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือผู้ประสบธรณีพิบัติภัย "สึนามิ", เล่ม ๑๒๒ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๓๔๕, ๓ ธันวาคม ๒๕๔๘
  16. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี, เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๔ ข หน้า ๔๒, ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๐

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้
ก่อนหน้า อภิรักษ์ โกษะโยธิน ถัดไป
สมัคร สุนทรเวช    
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
(สมัยที่ 1 : 29 สิงหาคม พ.ศ. 2547 – 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สมัยที่ 2 : 9 ตุลาคม พ.ศ. 2551 – 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551)

  หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร