อะเลคซันดร์ คอลชัค
อะเลคซันดร์ วาซีเลียวิช คอลชัค (รัสเซีย: Александр Васильевич Колчак; 16 พฤศจิกายน [ตามปฏิทินเก่า 4 พฤศจิกายน] ค.ศ. 1874 – 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1920) เป็นพลเรือเอกแห่งจักรวรรดิรัสเซียและนักสำรวจขั้วโลก เขารับใช้กองทัพเรือจักรวรรดิรัสเซียและได้ร่วมต่อสู้ในสงครามที่สำคัญสองครั้งคือ สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1904–1905 และสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง[1] ต่อมาเขาเป็นผู้นำของขบวนการต่อต้านบอลเชวิคหรือที่รู้จักกันในชื่อ "ขบวนการขาว" ในช่วงระหว่างสงครามกลางเมืองรัสเซีย ซึ่งได้ก่อตั้งรัฐบาลในไซบีเรียเพื่อต่อต้านรัฐบาลของเลนินตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1918 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1920
อะเลคซันดร์ คอลชัค Александр Васильевич Колчак | |
---|---|
![]() | |
ผู้ปกครองสูงสุดแห่งรัสเซีย[a] | |
ดำรงตำแหน่ง 18 พฤศจิกายน 1918 – 7 กุมภาพันธ์ 1920 | |
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง (นีโคไล แอฟค์เซนเตียฟ ในฐานะประธานแห่งรัฐบาลชั่วคราวแห่งรัสเซียทั้งปวง) |
ถัดไป | อันตอน เดนีกิน (โดยพฤตินัย) |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1874 เซนต์ปีเตอส์เบิร์ก จักรวรรดิรัสเซีย |
เสียชีวิต | 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1920 อีร์คุตสค์ รัฐรัสเซีย | (45 ปี)
คู่สมรส | โซเฟีย เฟโดรอฟนา โอมีโรวา คอลชัค |
บุตร | รอสติสลาฟ คอลชัค |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ |
|
สังกัด | |
ประจำการ | 1886–1920 |
ยศ | พลเรือโท พลเรือเอก |
การยุทธ์ | สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สงครามกลางเมืองรัสเซีย |
คอลชัคเริ่มต้นอาชีพแรกจากการเป็นนักสมุทรศาสตร์และนักอุทกวิทยาในกองทัพเรือจักรวรรดิรัสเซีย ต่อมาเขากลายเป็นผู้บัญชาการในการสำรวจขั้วโลกอยู่หลายครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งรัสเซีย[2] "เกาะคอลชัค" ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลคารา ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ในช่วงสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น (ค.ศ. 1904-1905) คอลชัคได้มีโอกาสร่วมต่อสู้ในสงครามและประสบความสำเร็จในยุทธนาวีที่พอร์ตอาเธอร์ เมื่อทุ่นระเบิดของเรือพิฆาตที่อยู่ภายใต้การบัญชาของเขาได้จมเรือลาดตระเวนทากาซาโกะของญี่ปุ่น หลังสงครามสิ้นสุดลง คอลชัคกลายเป็นหนึ่งในผู้ปรับปรุงกองทัพเรือรัสเซียใหม่หลังจากความเสียหายระหว่างสงคราม และได้รับเลื่อนยศเป็นนายทหารเสนาธิการทั่วไปแห่งกองทัพเรือ ซึ่งมีบรรดาศักดิ์เทียบเท่ายศ "สตาฟกา" ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 เขาสลับงานศึกษาวิทยาศาสตร์และการสำรวจกับงานในการปรับปรุงกองทัพเรือรัสเซียให้ทันสมัยในฐานะเสนาธิการกองทัพเรือ
หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งปะทุขึ้น เขาได้มีส่วนร่วมในการปกป้องพื้นที่แถบทะเลบอลติก ซึ่งกองเรือของเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการเรือธง ใน ค.ศ. 1916 เนื่องจากความกล้าหาญและทักษะประสบการณ์ของเขา ทำให้คอลชัคได้รับการเลื่อนยศเป็นพลเรือโทที่อายุน้อยที่สุดของกองทัพเรือจักรวรรดิรัสเซีย และได้รับคำสั่งจากกองเรือทะเลดำ ซึ่งทำให้เขาสามารถสร้างชื่อเสียงได้อีกครั้ง ด้วยการควบคุมพื้นที่ทะเลดำและอำนวยความปลอดภัยในการคมนาคมสำหรับกองทัพที่ต่อสู้ในคอเคซัส หลังการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ใน ค.ศ. 1917 เขาสนับสนุนรัฐบาลชั่วคราวรัสเซีย โดยเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถส่งเสริมขวัญกำลังใจและดำเนินการทางทหารต่อไปจนสามารถเอาชนะฝ่ายมหาอำนาจกลางได้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้คอลชัคถูกเรียกกลับจากแนวรบเมื่อสิ้นสุดฤดูร้อน
จากเหตุการณ์การปฏิวัติเดือนตุลาคมและการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับเยอรมนี ทำให้เขายินยอมที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสงครามของรัฐบาลต่อต้านบอลเชวิคแห่งออมสค์ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1918 เป็นเหตุให้นักปฏิวัติสังคมนิยมทั้งหลายถูกขับไล่ออกจากรัฐบาลแห่งออมสค์ ต่อมาคอลชัคได้ทำการรัฐประหารและสถาปนาตนเป็น "ผู้ปกครองสูงสุดแห่งรัสเซีย"[3] แม้ว่าปฏิบัติการทางทหารของคอลชัคในช่วงแรกจะประสบความสำเร็จ แต่เพราะรัฐบาลได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรเพียงน้อยนิด ประกอบกับการประสานงานที่ย่ำแย่ และบางครั้งการบัญชาการทางทหารก็ไม่เป็นผล ภายในรัฐบาลเกิดการฉ้อราษฎร์บังหลวง และความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับหน่วยทหารเชโกสโลวาเกียและผู้นำของกลุ่มชนคอสแซคนั้น ทำให้คอลชัคสูญเสียการสนับสนุนที่สำคัญจากประชากรท้องถิ่นและกองกำลังทหารของเขาเองในระหว่างการล่าถอยช่วงฤดูหนาว ค.ศ. 1919 ในไซบีเรีย ในช่วงปลาย ค.ศ. 1919 กองกำลังทหารที่หลงเหลืออยู่และพลเรือนหลายแสนคนต่างพากันหลบหนีการรุกรานจากบอลเชวิคที่สามารถยึดออมสค์ได้ในเดือนพฤศจิกายน ในเวลาต่อมาคอลชัคถูกจับกุมและส่งตัวไปยังอีร์คุตสค์โดยกลุ่มกบฏที่ต่อต้านเขา คอลชัคถูกสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่บอลเชวิคและถูกตัดสินประหารชีวิตในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1920
คอลชัคถูกมองว่าเป็นศัตรูของประชาชนและการสำรวจขั้วโลกของเขาได้รับการประเมินคุณค่าต่ำกว่าความเป็นจริงโดยนักประวัติศาสตร์และนักข่าวโซเวียต ร่างของเขาได้รับการฟื้นฟูในยุคหลังรัสเซียโซเวียต[4] ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2016 มีการติดตั้งป้ายระลึกที่บ้านในเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก ซึ่งคอลชัคเคยอาศัยอยู่ตั้งแต่ ค.ศ. 1906 จนถึง ค.ศ. 1912[5]
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ Yegorov, O. (2019-12-27). "Meet Russian Imperial officers who almost stopped the Bolsheviks". Russia Beyond the Headlines. สืบค้นเมื่อ 2020-01-29.
- ↑ Lincoln 1989, p. 240.
- ↑ Ullman 1968b, p. 33.
- ↑ Pereira 1996, p. 179.
- ↑ A Kolchak memorial plaque installed in the house where the white admiral lived (ภาษารัสเซีย)
หมายเหตุแก้ไข
- ↑ ในช่วงสงครามกลางเมืองรัสเซีย
บรรณานุกรมแก้ไข
- Barr, William (1981). "Aleksandr Vasil'yevich Kolchak: Arctic Scientist and Explorer". Polar Record. 20 (129): 507-524.
- Connaughton, Richard Michael (1990). The republic of the Ushakovka: Admiral Kolchak and the allied intervention in Siberia, 1918-20 (ภาษาอังกฤษ). Routledge. p. 193. ISBN 9780415051989.
- Dotsenko, Paul (1983). The struggle for a democracy in Siberia, 1917-1920: eyewitness account of a contemporary (ภาษาอังกฤษ). Hoover Institution Press. p. 178. ISBN 9780817977719.
- Figes, Orlando (1998). A people's tragedy: the Russian Revolution, 1891-1924 (ภาษาอังกฤษ). Penguin Books. p. 923. ISBN 9780140243642.
- Kolchak, Aleksandr Vasiliyevich; Papov, Konstantin Andreevich; Ovchinnikov, Anton Zakharovich (1980). The testimony of Kolchak and other Siberian materials (ภาษาอังกฤษ). Stanford University Press. p. 466. OCLC 502387257.
- Lincoln, W. Bruce (1989). Red Victory: A History of the Russian Civil War (ภาษาอังกฤษ). Simon & Schuster. p. 637. ISBN 0671631667.
- Morley, James William (1957). The Japanese Thrust Into Siberia, 1918 (ภาษาอังกฤษ). Columbia University Press. p. 395.
- Pereira, Norman G. O. (1996). White Siberia: the politics of civil war (ภาษาอังกฤษ). McGill-Queen's University Press. p. 261. ISBN 9780773513495.
- Pereira, Norman G. O. (1987). "White Power during the Civil War in Siberia (1918-1920): Dilemmas of Kolchak's "War Anti-Communism"". Canadian Slavonic Papers. 29 (1): 45-62.
- Pipes, Richard (1993). Russia under the Bolshevik regime (ภาษาอังกฤษ). A.A. Knopf. ISBN 9780394502427.
- Smele, Jonathan D. (1996). Civil war in Siberia: the anti-Bolshevik government of Admiral Kolchak, 1918-1920 (ภาษาอังกฤษ). Cambridge University Press. p. 759. ISBN 9780521573351. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 มีนาคม 2014. สืบค้นเมื่อ 14 มีนาคม 2014.
- Smirnov, M. I. (1933). "Admiral Kolchak". Slavonic and East European Review. 11 (32): 373-387.
- Ullman, Richard H. (1968). Intervention and the War. Anglo-Soviet relations, 1917-1921 (ภาษาอังกฤษ). Vol. I. Princeton University Press. p. 395. OCLC OL20921546M.
- Ullman, Richard H. (1968b). Britain and the Russian Civil War. Anglo-Soviet relations, 1917-1921 (ภาษาอังกฤษ). Vol. II. Princeton University Press. p. 395. OCLC 250516786.
- Weeks, Charles J.; Baylen, Joseph O. (1976). "Admiral Kolchak's Mission to the United States, 10 September-9 November 1917". Military Affairs. 40 (2): 63-67.
แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: อะเลคซันดร์ คอลชัค |
- งานโดยหรือเกี่ยวกับ อะเลคซันดร์ คอลชัค ในห้องสมุดต่าง ๆ ในแคตาลอกของเวิลด์แคต
บทความเกี่ยวกับชีวประวัตินี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |