เหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2549
เหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2549 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2549 และ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 ระหว่างงานเฉลิมฉลองวันสิ้นปีในกรุงเทพมหานคร โดยระเบิดสี่ลูกได้เกิดระเบิดขึ้นเกือบพร้อมกันในหลายส่วนของเมืองเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ตามมาด้วยระเบิดอีกหลายลูกภายในระยะเวลา 90 นาทีต่อมา ระเบิดอีกสองลูกเกิดระเบิดขึ้นหลังเที่ยงคืน รวมทั้งหมดแล้ว เกิดระเบิดขึ้นแปดครั้งในคืนดังกล่าว
เหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2549 | |
---|---|
เป็นส่วนหนึ่งของ ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย | |
ประชาชนข้างเคียงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เหตุระเบิด ดูข่าวทีวีไม่นาน | |
สถานที่ | กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย |
วันที่ | 31 ธันวาคม 2549 – 1 มกราคม 2550 18:00 – 00:05 (UTC+7) |
เป้าหมาย | 9 สถานที่ (map) :
• ป้ายรถเมล์ (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) |
ประเภท | เป็นระเบิดหลายครั้ง |
ตาย | 3 |
เจ็บ | ประมาณ 38 |
วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 มีการยืนยันผู้เสียชีวิต 3 คน และอีกมากกว่า 38 คนได้รับบาดเจ็บ[1] ระเบิดอีกหนึ่งลูกได้เกิดระเบิดขึ้นภายในโรงภาพยนตร์ แต่ระเบิดลูกดังกล่าวไม่ได้รับการรายงานจนกระทั่งวันรุ่งขึ้นเนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการเผยแพร่ในด้านลบ วันเดียวกัน เกิดระเบิดขึ้นที่มัสยิดในจังหวัดเชียงใหม่ ทางการสั่งการยกเลิกการจัดกิจกรรมวันสิ้นปีสาธารณะทั้งหมด รวมไปถึงการนับถอยหลังที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และการทำบุญตักบาตรที่สนามหลวง
ชายคนหนึ่งถูกจับกุมในกรุงเทพมหานครเนื่องจากพกพาอุปกรณ์ระเบิด และตำรวจจังหวัดเชียงใหม่อ้างว่าภารโรงของมัสยิดที่เกิดระเบิดขึ้นนั้นยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ทำระเบิดขึ้น ไม่มีผู้ใดอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดดังกล่าว นายกรัฐมนตรี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ กล่าวประณาม "พวกอำนาจเก่า" ว่าเป็นกลุ่มที่รับผิดชอบกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น โดยหมายความถึงรัฐบาลพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร และกลุ่มผู้ที่สูญเสียอำนาจทางการเมืองจากรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549[2] ทั้งพรรคไทยรักไทย และอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด[3] ในภายหลัง พล.อ.สุรยุทธ์ได้กลับคำและยอมรับการกล่าวถึงว่าพันธมิตรของทักษิณเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น "เป็นเพียงการวิเคราะห์ด้านข่าวกรอง" และไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลชัดเจนสนับสนุน[4]
อักษรย่อ "IRK" ถูกพบเขียนด้วยมาร์กเกอร์ในสถานที่สี่แห่งจากเหตุระเบิดสามจุด ซึ่ง IRK เป็นหน่วยกองโจรก่อการร้ายในเมืองซึ่งได้รับการฝึกในอัฟกานิสถาน[5] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอารีย์ วงศ์อารยะ ขจัดการเสนอแนะว่าผู้ลงมือเป็นกลุ่มก่อการร้ายมุสลิม[6] การประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีสุรยุทธ์และหน่วยงานด้านความมั่นคงและข่าวกรองหลายแห่งในตอนเย็นของวันที่ 31 ธันวาคม ไม่สามารถระบุผู้ก่อเหตุดังกล่าวอย่างเป็นทางการ[7]
วันที่ 1 มกราคม พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ถึงแม้ระเบิดที่ใช้จะมีรูปแบบคล้ายคลึงกับที่ใช้โดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศ การสืบสวนในเชิงลึกกลับไม่พบความเชื่อมโยง และกล่าวว่า "ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะมาถึงที่นี่เนื่องจากอาจหลงทางในกรุงเทพมหานครได้"[8][9] ในภายหลัง ตำรวจได้จับกุมบุคคลมากกว่าสิบสองคน รวมทั้งนายทหาร โดยต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด ผู้นำคณะรัฐประหาร พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อ้างว่านายทหารทั้งหมดไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่อมา การสืบสวนของตำรวจกลับพบว่ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนภาคใต้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดดังกล่าว เนื่องจากวงจรจุดระเบิดและวัสดุอื่นที่ใช้ทำระเบิดนั้นเหมือนกับที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนใช้กัน[10] อย่างไรก็ตาม คณะรัฐประหารกล่าวว่ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนไม่สำคัญเท่าใดนัก โดยอ้างว่าพวกเขาว่าจ้างผู้ที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการณ์การเมืองในกรุงเทพมหานครมาทำงาน[11]
จุดเกิดเหตุ
แก้ในกรุงเทพมหานคร เกิดระเบิดหกครั้งเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อช่วงเย็น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 23 คน ขณะที่ประชาชนกำลังเริ่มต้นเฉลิมฉลองวันสิ้นปี จุดเกิดเหตุได้แก่ง
- อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 คน และคนไทยเสียชีวิต 2 คนที่โรงพยาบาลเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ชาวฮังการีหนึ่งคนรวมอยู่ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย[12] ระเบิดถูกวางไว้ที่ที่รอรถโดยสารประจำทางหน้าศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน (เกาะดินแดง) และเกิดระเบิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ฉีกผ่านที่รอรถโดยสารประจำทาง ทำให้หน้าต่างของร้านอาหารที่อยู่ใกล้เคียงแตก และส่งสะเก็ดออกไปทุกทิศทาง ระเบิดครั้งที่สองเกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงไม่นานหลังจากนั้น[13][14][15]
- เขตคลองเตย ใกล้กับแยก ณ ระนอง ระเบิดถูกซุกซ่อนไว้ในถังขยะใกล้กับศาลเจ้าจีน แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน รวมเด็กหญิงวัย 10 ปีคนหนึ่งด้วย มีชายวัย 61 ปีเสียชีวิตที่โรงพยาบาลจากอาการบาดเจ็บ การระเบิดได้ทำให้ถังบรรจุแก๊สโพรเพนที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงเกิดระเบิดขึ้นตามมาอีก[13]
- แยกสะพานควาย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ระเบิดลูกดังกล่าวระเบิดขึ้นที่ป้อมตำรวจ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน พยานเห็นชายคนหนึ่งโยนระเบิดมือจากสะพานลอยไปยังป้อมตำรวจ นอกจากนี้ ยังพบระเบิดซี-4 และระเบิดทีเอ็นทีที่ยังไม่ระเบิดในที่เกิดเหตุอีกด้วย
- ซีคอนสแควร์ เขตประเวศ พบระเบิดที่ไม่ทำงานในถังขยะใกล้กับร้านทองที่ตั้งอยู่บนชั้นหนึ่งของศูนย์การค้า โดยระเบิดดังกล่าวถูกนำไปยังที่จอดรถและเกิดระเบิดขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความวุ่นวายตามมา แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทางการสั่งให้ลูกค้าห้างสรรพสินค้าอพยพออกจากอาคาร ส่งผลให้หนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพมหานคร และร้านค้าทั้งหมดต้องปิด[13]
- แยกแคราย ตำบลบางกระสอ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี (13°51′31″N 100°31′15″E / 13.85861°N 100.52083°E) ป้อมตำรวจได้เกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ[13]
- ถนนสุขุมวิท ซอย 62 ป้อมตำรวจที่ทางเข้าซอยเกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ[13]
- เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รัชโยธิน ถนนพหลโยธิน แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพบกระเป๋าสีดำต้องสงสัยถูกทิ้งไว้ที่ทางออกของร้านอาหารจานด่วนและวางไว้ในห้องด้านหลัง ได้เกิดระเบิดขึ้นไม่นานหลังจากนั้น ทำให้เกิดไฟฟ้าดับในพื้นที่ขายปลีกของโรงภาพยนตร์ ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าของโรงภาพยนตร์ได้แต่เพียงแจ้งตำรวจรัชโยธินในภายหลังเมื่อวันที่ 1 มกราคม ด้วยเกรงว่าจะมีการเผยแพร่ในแง่ลบ[16]
หลังจากเหตุระเบิดทั้งหกจุดแล้ว การเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ที่เซ็นทรัลเวิลด์และสนามหลวงได้ถูกยกเลิก[17] ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้นำการนับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่ขึ้นมากกว่าสามชั่วโมงที่แล้วที่เซ็นทรัลเวิลด์[18] และได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีกสองครั้งไม่กี่นาทีหลังเที่ยงคืนในบริเวณใกล้เคียงกับเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บในจำนวนนี้เป็นชาวเซิร์บ 3 คน ชาวอังกฤษ 2 คน ชาวไทย 2 คน และชาวไอร์แลนด์ 1 คน จุดเกิดเหตุ ได้แก่
- ภัตตาการเบลต์ซีฟูดส์ สะพานข้ามคลองแสนแสบ ใกล้กับตลาดประตูน้ำ และเซ็นทรัลเวิลด์ ชาวต่างประเทศ 3 คนที่กำลังรับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารและชาวไทยอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ ขาของชาวต่างประเทศคนหนึ่งถูกแรงระเบิดจนขาด[19]
- ตู้โทรศัพท์สาธารณะที่สะพานลอยเชื่อมระหว่างเซ็นทรัลเวิลด์และศูนย์การค้าเกษร ชาวต่างประเทศได้รับบาดเจ็บหลายคน[19]
- พบระเบิดที่ยังไม่ทำงานอีก 3 ลูกในบริเวณดังกล่าว[12]
ตำรวจได้สืบสวนเหตุการณ์อื่นเพิ่มเติม
- ระเบิดต้องสงสัยได้รับการสืบสวนที่บาร์บัดดีเบียร์บนถนนข้าวสารเมื่อราวเที่ยงคืนครึ่ง นักท่องเที่ยวได้รับแจ้งให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ บาร์ทั้งหมดบนถนนข้าวสารปิด และถนนดังกล่าวมีการตั้งสิ่งกีดขวางและมีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธประจำอยู่[19] รายงานระเบิดในภายหลังกลายเป็นเท็จ[18]
- เมื่อเวลา 1.00 น. ตำรวจสามารถปลดชนวนระเบิดที่อยู่ที่สวนลุม ไนท์บาซาร์ก่อนที่ระเบิดจะเกิดระเบิดขึ้น[19]
เหยื่อ
แก้เหตุระเบิดทั้งหมดทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวไทย ได้แก่ นายสงกรานต์ กาญจนะ อายุ 36 ปี, นายเอกชัย เรือพุ่ม วัย 26 ปี ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และนายสุวิชัย นาคเอี่ยม วัย 61 ปี ที่เขตคลองเตย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 38 คน เนื่องจากไปอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดระเบิดขึ้น ในจำนวนนี้มีชาวต่างประเทศ 8 คนได้รับบาดเจ็บ: ชาวอังกฤษ 2 คน ชาวฮังการี 3 คน ชาวเซอร์เบีย 2 คน และชาวอเมริกัน 1 คน[1]
ตำแหน่ง | จำนวนผู้เสียชีวิต | จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ |
---|---|---|
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ | 2 | 15 (ชาวฮังการี 1) |
เขตคลองเตย | 1 | 6 |
สะพานควาย | 0 | 2 |
ซีคอนสแควร์ | 0 | 0 |
สี่แยกแคราย | 0 | 0 |
สุขุมวิท ซอย 62 | 0 | 0 |
เซ็นทรัลเวิลด์ (ภัตตาคารอาหารทะเล) | 0 | ชาวไทย 2 ชาวต่างประเทศ 3 |
เซ็นทรัลเวิลด์ (สะพานลอย) | 0 | ชาวต่างประเทศ 6 |
รวม | 3 | ~38 |
วัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์
แก้พลตำรวจโทอชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อ้างว่า ระเบิดทั้งหมดแปดลูกถูกวางไว้ในกล่องขนาด 3×5 นิ้ว และจุดระเบิดโดยนาฬิกาปลุกดิจิตอล ในระเบิดทุกลูกยังพบร่องรอยของสารประกอบระเบิดแรงสูงเอ็ม 4[20] แหล่งข่าวสรรพาวุธทหารอื่นอ้างว่าระเบิดดังกล่าว คือ ระเบิดน้ำมันเชื้อเพลิงแอมโมเนียมไนเตรด/ระเบิดเอ็ม 4[21] ซึ่งเป็นระเบิดประเภทเดียวกับที่พบในรถนอกที่พักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549
ตำรวจได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากการห้ามมิให้รักษาการผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ จากการเก็บรวบรวมหลักฐานจากจุดเกิดระเบิดที่ปากน้ำ เธอได้เรียกตำรวจว่าไม่เป็นมืออาชีพ เพราะมุ่งเน้นให้ความสนใจไปยังชนิดของระเบิดที่ใช้ มากกว่าการระบุเอกลักษณ์ของมือระเบิด และอนุญาตให้คนเก็บขยะทำความสะอาดจุดเกิดเหตุก่อนที่การเก็บรวบรวมหลักฐานจะเสร็จสิ้น[22]
นายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ชี้ถึงการมีส่วนเกี่ยวข้องของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้ โดยให้ความเห็นว่า จากรายงานทางนิติวิทยาศาสตร์ ตัวระเบิดได้รับการประกอบให้ดูเหมือนกับที่ใช้กันอยู่โดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ แต่การสืบสวนในรายละเอียดของเหตุระเบิดและวิธีการทำงานของระเบิดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันเลย[9]
ความรับผิดชอบ
แก้การเตือนล่วงหน้า
แก้ก่อนหน้านี้ ทางการได้เคยเตือนถึงการเพิ่มระดับของการเคลื่อนไหวของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ในช่วงปีใหม่[23] ส่วนทางด้านหน่วยข่าวกรองทหารและตำรวจสันติบาลได้รับข่าวกรองที่ว่าจะมีระเบิดเกิดขึ้นกว่า 30 จุดในกรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตามศูนย์การค้าชื่อดัง อย่าง สยามพารากอน, เดอะมอลล์ บางกะปิ และซีคอนสแควร์
กองโจรในเมือง
แก้ไม่มีฝ่ายใดออกมาอ้างแสดงความรับผิดชอบในเหตุระเบิดดังกล่าว และทั้งพรรคไทยรักไทยและอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ต่างปฏิเสธความเกี่ยวข้อง[3] ในช่วงที่ยังไม่มีหลักฐานต่อสาธารณชนเป็นรูปธรรม ได้มีการออกมากล่าวถึงทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับผู้ที่น่าจะอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว
ตัวย่อ "TRK" ถูกพบเขียนอยู่ด้วยมาร์กเกอร์ซึ่งได้ซ่อนไว้ในสถานที่สี่แห่งในจุดเกิดเหตุระเบิดสามจุด: เสาใกล้กับจุดรอรถโดยสารประจำทางที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ตู้โทรศัพท์สาธารณะใกล้กับศูนย์การค้าเกษร ตรงข้ามกับเซ็นทรัลเวิลด์, ตู้โทรศัพท์สาธารณะใกล้กับสะพานปากน้ำ และตู้โทรศัพท์สาธารณะใกล้กับบิ๊กซี ราชดำริ ซึ่ง IRK เป็นกลุ่มกองโจรก่อการร้ายในเมืองที่ได้รับการฝึกในอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อารีย์ วงศ์อารยะ ปฏิเสธข้อเสนอแนะที่ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เป็นกลุ่มมุสลิมติดอาวุธ[21] ผู้นำอาวุโสในคณะรัฐประหารเห็นด้วยว่าผู้ก่อการร้ายชาวมุสลิมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และตัวย่อนั้นต้องการให้เป็นการป้ายความผิดแก่ IRK ตำรวจอ้างว่ากราฟิตี "IRK" เป็นผลงานของแก๊งวัยรุ่นซึ่งต้องการพยายามจะสร้างความหวาดกลัวแก่สาธารณชน[24]
ด้านหัวหน้าคณะรัฐประหาร พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อ้างว่าตน "มั่นใจมากกว่า 100%" ว่าเหตุระเบิดดังกล่าวไม่มีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนภาคใต้เกี่ยวข้อง และกล่าวอีกว่าแม้กระทั่งในภาคใต้ การโจมตีก็ไม่สามารถเกิดขึ้นโดยง่ายเช่นกัน และยังได้อ้างอีกว่าเหตุระเบิดดังกล่าวกระทำโดยผู้ที่คุ้นเคยกับพื้นที่ชานเมืองเป็นอย่างดี และ "เป็นไปไม่ได้" ที่เหตุระเบิดจะมีการเตรียมการล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือน[25]
พนักงานสืบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า เทคนิคที่มือระเบิดใช้นั้นคล้ายคลึงกับที่ใช้ในเหตุระเบิดที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ก่อนหน้านี้ใน พ.ศ. 2549 ที่ซึ่งนาฬิกาดิจิตอลคาซิโอถูกใช้เป็นตัวตั้งเวลา นาฬิกาคาซิโอปกหลังสแตนเลสสตีลซีรีส์ 200 และ 201 ถูกพบในจุดเกิดระเบิดในกรุงเทพมหานคร[26]
"กลุ่มอำนาจเก่า"
แก้สมาชิกหลายคนของรัฐบาลทหารได้อ้างถึงกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์หลายกลุ่ม หนึ่งวันหลังจากเกิดเหตุระเบิดขึ้น แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของรัฐบาลได้ประณาม "กลุ่มอำนาจเก่า" โดยเป็นไปได้ว่าอาจหมายความถึงสมาชิกของรัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกโค่นอำนาจไปก่อนหน้านี้[27] แหล่งข่าวความมั่นคงอื่น ๆ กล่าวว่า เหตุระเบิดดังกล่าวอาจทำให้รัฐบาลทหารอ้างเหตุผลในการยึดทรัพย์ส่วนบุคคลของทักษิณได้เป็นจำนวนมาก[28] พรรคไทยรักไทยปฏิเสธกำกับเหตุระเบิด และเตือนรัฐบาลทหารไม่ให้ชี้นิ้วกล่าวโทษโดยปราศจากข้อเท็จจริง[29]
บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณ นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเหตุระเบิดมี "พวกคลื่นใต้น้ำ" ผู้สนับสนุนรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกโค่นล้มไป ผู้ซึ่งหวังจะให้รัฐบาลทหารสูญเสียความน่าเชื่อถือ แต่เขาไม่ได้อ้างหลักฐานจากแหล่งใด[30]
หลังจากที่การประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและข่าวกรองเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม จะไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุ[31] อย่างไรก็ตาม วันที่ 1 มกราคม พล.อ.สุรยุทธ์ได้ประกาศว่า "กลุ่มอำนาจเก่า" อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว โดยกล่าวว่า "ตามข้อมูลของรัฐบาลและหน่วยข่าวกรอง มันเป็นงานของกลุ่มคนที่สูญเสียอำนาจ แต่ผมไม่สามารถพูดได้อย่างชัดเจนว่ากลุ่มใดอยู่เบื้องหลัง"[32] โดยไม่ได้หมายความถึงเฉพาะแต่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกกลุ่มที่สูญเสียอำนาจทางการเมืองจากรัฐประหาร[2]
ในภายหลัง พล.อ.สุรยุทธ์ได้กลับคำและยอมรับว่าคำกล่าวอ้างของตนที่ว่ากลุ่มผู้สนับสนุนพ.ต.ท. ทักษิณรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดดังกล่าวนั้น "เป็นเพียงการวิเคราะห์ด้านข่าวกรอง" โดยที่ปราศจากหลักฐานหรือข้อมูลที่เป็นรูปธรรม[4]
ผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อ้างว่า "ข้อมูลหลักฐานและข่าวกรองได้พิสูจน์ว่าระเบิดเป็นงานสกปรกของนักการเมืองซึ่งสูญเสียอำนาจและผลประโยชน์ ทหารเลวบางนายที่ภักดีต่อนักการเมืองเลวเป็นไส้ศึกโดยมีเจตนาที่จะโค่นอำนาจรัฐบาลชุดนี้" และยังได้กล่าวอีกว่า "พวกนอกกฎหมายและกลุ่มก่อการร้ายในภาคใต้ของไทยไม่มีส่วนเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร"[33] พล.อ.สพรั่งได้วิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายทหารผู้ซึ่งเป็นสมาชิกของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่ถูกโค่นล้มไป อย่างรุนแรง พล.อ.ชวลิตได้ท้าทายให้ พล.อ.สพรั่งจับกุมผู้กระทำความผิดที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด พล.อ.ชวลิตตอบโต้โดยกล่าวว่า "สพรั่ง กัลยาณมิตรอ้างว่าเขามีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดเรียบร้อยแล้ว แต่เขาล้มเหลวที่จะดำเนินการใด ๆ นี่เป็นความไร้ความสามารถใหญ่หลวง" เขากล่าวว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติควรตรวจสอบตามสายงานของตนว่ากลุ่มคนเหล่านั้นต้องการคลี่คลายคดีนี้หรือไม่ โดยพูดเป็นนัยคาดคะเนว่าฝ่ายทหารจัดฉากเหตุระเบิดดังกล่าวขึ้นเพื่ออ้างความชอบธรรมในการรวบอำนาจ[34]
ผลสำรวจความคิดเห็นสาธารณะจัดทำโดยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยว่าชาวกรุงเทพส่วนใหญ่ไม่เชื่อคำกล่าวอ้างที่ว่ารัฐบาลที่ถูกโค่นล้มไปนั้นอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว และมีเพียง 11% ของผู้ตอบแบบสำรวจเท่านั้นที่ตอบว่าตนเอง "มีความมั่นใจเต็มที่" ว่ารัฐบาลสามารถรับมือกับวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้[35]
ความขัดแย้งภายในรัฐบาลทหาร
แก้ทฤษฎีที่ว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้วางระเบิดเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้อยู่ในมือของตนและสร้างความเสื่อมเสียให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ซึ่งยังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่สาธารณชน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ปฏิเสธข่าวลือทางโทรทัศน์ โดยกล่าวว่า "ผมได้เสี่ยงตนเองทำในสิ่งที่ประชาชนปรารถนา ทำไมผมถึงควรจะทำอย่างนั้น เพราะผมรักประชาชนของผม และประเทศของผม"[36]
ได้มีการอ้างว่า ความขัดแย้งระหว่างผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร และแม่ทัพภาคที่ 1 และพลโท ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นสาเหตุที่เป็นไปได้ของเหตุระเบิดและข่าวลือรัฐประหาร ทั้งสองคนล้วนมีศักยภาพเป็นทายาทผู้นำคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติหลังจากสนธิเกษียณในเดือนกันยายน พ.ศ. 2550[ต้องการอ้างอิง]
ญะมาอะห์ อิสลามียะห์ หรือกลุ่มแบ่งแยกดินแดนภาคใต้
แก้เจ้าหน้าที่ข่าวกรองไทยบางคนได้ระบุว่าพวกเขาเชื่อว่าการโจมตีดังกล่าวมีการวางแผนและดำเนินการโดยความพยายามร่วมกันของญะมาอะห์ อิสลามียะห์และองค์กรปลดปล่อยสหปัตตานี ซึ่งขัดแย้งกันกับประกาศในช่วงแรกของรัฐบาลเฉพาะกาลที่ว่าเหตุระเบิดดังกล่าวไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้ มีการตั้งรางวัลนำจับ 1,000,000 บาท สำหรับการจับกุมเลาะห์มุลี ยูโซะ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มการโจมตีในครั้งนี้[37][38]
การสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์ในภายหลังได้สนับสนุนทฤษฎีที่ว่าเหตุระเบิดในกรุงเทพมหานครนั้นใช้เทคนิคการสร้างระเบิดและใช้วัสดุเดียวกันกับที่ใช้โดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนภาคใต้[10]
ปฏิกิริยา
แก้ปฏิกิริยาจากหลายฝ่าย ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ตามรายงานข่าว
- หลังเหตุการณ์ระเบิดเมื่อเวลา 18.00 น. สถานีโทรทัศน์ทุกช่องยังคงถ่ายทอดรายการตามปกติ มีเพียงตัววิ่งด้านล่างจอโทรทัศน์ ยกเว้น สถานีโทรทัศน์ไอทีวี เนชั่นแชนแนล และเอเอสทีวี ที่รายงานข่าวอย่างใกล้ชิด[39]
- นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศยกเลิก งานเฉลิมฉลอง เพื่อนับถอยหลัง (เคานท์ดาวน์) เข้าสู่ปีใหม่ ในเขตกรุงเทพมหานครทุกงาน
- พรรคไทยรักไทย ได้ออกมาแถลงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ตามที่มีข่าวลือออกมา[40]
- นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ในขณะนั้น) ฟันธงว่า เหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว เกิดจาก ผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี[41]
- พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร รวมถึงยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน[42]
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 "Thai PM blames rivals for blasts". BBC News. 2007-01-01. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ 2.0 2.1 "Surayud blames old power clique behind Bangkok bomb attacks". The Nation (Thailand). 2007-01-01. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-04. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ 3.0 3.1 "Ousted PM denies involvement in New Year's Eve bomb attacks". The Nation (Thailand). 2007-01-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-28. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ 4.0 4.1 "Surayud qualifies remarks about bombers". The Nation (Thailand). 2007-01-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-28. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "สุรยุทธ์-ประณาม แก๊งป่วน ผู้สูญเสียอำนาจ". Thai Rath. 2007-01-02. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-28. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ The Nation, Militants not seen as likely culprits เก็บถาวร 2007-01-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 2 January 2007
- ↑ "Meeting fails to establish culprits of Bangkok bomb attacks: spokesman". The Nation (Thailand). 2007-01-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-29. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "Suspicion falls on Thaksin allies". The Nation (Thailand). 2007-01-02. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-12. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ 9.0 9.1 "Coup leaders tighten grip". The Nation (Thailand). 2007-01-05. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ 10.0 10.1 Bangkok Post, 'Separatists' behind city bombs, 19 March 2007
- ↑ Bangkok Post, Southern extremists learning from bin Laden, 22 March 2007
- ↑ 12.0 12.1 "New Year's Even bombings in Bangkok". 2bangkok.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-03-03. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ 13.0 13.1 13.2 13.3 13.4 "String of blasts rock Bangkok, killing 2". The Nation (Thailand). 2007-01-01. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "Festivities off as bombs disrupt Bangkok; two dead, 25 injured". MCOT. 2007-01-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-25. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "Bangkok bomb death toll rises to three". The Nation (Thailand). 2007-01-01. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-04. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "Police say 9 bombs, not 8, hit city". Bangkok Post. 2007-01-10. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "New Year's countdown canceled after bombs". The Nation (Thailand). 2007-01-01. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-02. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ 18.0 18.1 Levett, Connie (2007-01-01). "Two die in Bangkok blasts". The Age. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ 19.0 19.1 19.2 19.3 "Two more bombs explode at Central World, Pratunam]". The Nation (Thailand). 2007-01-01. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-02. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "Who set the bombs?". The Nation (Thailand). 2007-01-02. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ 21.0 21.1 "Militants not seen as likely culprits". The Nation (Thailand). 2007-01-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-28. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "Police accused of failing to protect public". Bangkok Post. 2007-01-02. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-03-03. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ Marshall, Andrew (2006-12-31). "Authorities fear new year attacks from militants". Sunday Herald. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-30. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "Police rule out 'IRK' graffiti tie-in". Offline newspaper article. Bangkok Post. 2007-01-03. สืบค้นเมื่อ 2007-01-03.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Sonthi: We have the power and are ready to act". Offline newspaper article. Bangkok Post. 2007-01-11. สืบค้นเมื่อ 2007-01-11.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Investigators split over New Year's bombings". Offline newspaper article. Bangkok Post. 2007-02-05. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-28. สืบค้นเมื่อ 2007-02-05.
- ↑ "Old power clique suspected of being behind Bangkok bomb attacks: source". The Nation (Thailand). 2007-01-01. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-28. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "CNS may seize Thaksin's assets following bomb attacks: source". The Nation (Thailand). 2007-01-01. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-28. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "TRT denies masterminding bombs". The Nation (Thailand). 2007-01-01. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-02. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ ""สนธิ"ฟันธงฝีมือคลื่นใต้น้ำบึ้มป่วนกรุง สั่งสอน คมช.-รัฐบาล". Manager.com. 2006-12-31. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-16. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "Meeting fails to establish culprits of Bangkok bomb attacks: spokesman". The Nation (Thailand). 2007-01-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-29. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "Surayud suspects "power losers"". The Nation (Thailand). 2007-01-01. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "Saprang: Renegade officers behind blasts". Offline newspaper article. Bangkok Post. 2007-02-03. สืบค้นเมื่อ 2007-02-03.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Chavalit taunts CNS over inquiry". The Nation (Thailand). 2007-01-04. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "Poll: Public skeptical of govt claims". Bangkok Post. 2007-01-05. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-06. สืบค้นเมื่อ 2007-01-05.
- ↑ Kazmin, Amy (2007-01-05). "Thailand stocks fall as anxieties deepen". Financial Times. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ Corben, Ron (2007-01-20). "Bangkok bombings the work of JI". The Australian. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-15. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ "Report: JI planned Bangkok bombings". Bangkok Post. 2007-01-20. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
- ↑ ระเบิดที่ กทม. คอลัมน์ เห็นมาอย่างไร เขียนไปอย่างนั้น โดย อนุภพ, หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 3 มกราคม พ.ศ. 2550
- ↑ TRT denies masterminding bombs
- ↑ ""สนธิ" ฟันธงฝีมือคลื่นใต้น้ำบึ้มป่วนกรุง สั่งสอน คมช.-รัฐบาล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-16. สืบค้นเมื่อ 2007-01-01.
- ↑ นายกฯ สั่งสอบเตรียมการเหตุบึ้ม - ไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน[ลิงก์เสีย]