การปกครอง (อังกฤษ : governance) คือ การวางระเบียบกฎเกณฑ์และการใช้อำนาจอธิปไตยตามกฎหมายในการบริหารประเทศ การปกครองมีหลายรูปแบบ เช่น การปกครองแบบประชาธิปไตย หรือการปกครองแบบเผด็จการ เป็นต้น นอกจากนี้การปกครองยังแบ่งได้หลายระดับ เช่น การปกครองส่วนกลาง การปกครองส่วนภูมิภาค และ การปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น

ระบบการเมืองในปัจจุบันแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ระบอบประชาธิปไตย ระบอบเผด็จการ และระบอบลูกผสม มีระบบการจำแนกสมัยใหม่อีกระบบ 1 คือ สถาบันกษัตริย์ในฐานะองค์กรเดี่ยว (Standalone entity) หรือระบบลูกผสมของ 3 ระบอบหลัก นักวิชาการโดยทั่วไปกล่าวถึงอำนาจนิยมว่าเป็นรูปแบบของอำนาจนิยมหรือเผด็จการเบ็ดเสร็จ[1][2]

ระบอบการปกครอง

แก้

ระบอบการปกครอง (อังกฤษ : Form of government) หมายถึง สถาบันทางการเมืองซึ่งรัฐบาลของรัฐได้จัดตั้งขึ้นเพื่อใช้อำนาจในการปกครองประเทศ คำนี้ยังนิยามรวมไปถึงรัฐบาลที่ไม่ประสบความสำเร็จในการใช้อำนาจปกครองประเทศด้วย

ระบอบการปกครองตามบ่อเกิดแห่งอำนาจ

แก้

ประชาธิปไตย (Democracy)

แก้

เป็นระบอบการปกครองซึ่งพลเมืองเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยและเลือกผู้ปกครองซึ่งทำหน้าที่ออกกฎหมาย โดยพลเมืองอาจใช้อำนาจของตนด้วยตนเองหรือผ่านผู้แทนที่เลือกไปใช้อำนาจแทนก็ได้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. ประชาธิปไตยทางตรง (Direct Democracy) หรือประชาธิปไตยบริสุทธิ์ (Pure Democracy) คือ รูปแบบของรัฐที่ให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมืองได้โดยตรง รวมไปถึงการร่างกฎหมายและนโยบายของรัฐบาล
  2. ประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน (Representative Democracy) หรือประชาธิปไตยทางอ้อม (Indirect Democracy) คือ การปกครองที่ประชาชนจะเลือกผู้แทนไปทำหน้าที่แทนตนในการร่วมตัดสินใจทางการเมือง ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในปัจจุบัน
  3. ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม (Participatory democracy) คือ รูปแบบการปกครองที่เกี่ยวข้องกับการยินยอมและความเป็นเอกฉันท์ โดยเป็นแนวคิดที่นำเสนอมุมมองทางการเมืองที่ดีกว่า โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้มากกว่าเพียงการเลือกตั้ง เหมือนกับประชาธิปไตยแบบมีผู้แทนเท่านั้น

คณาธิปไตย (Oligarchy)

แก้

การที่อำนาจปกครองอยู่ที่กลุ่มบุคคลส่วนน้อย เป็นคำที่ราชบัณฑิตยสถานได้ให้ควาหมายไว้ว่า “ระบอบการปกครองแบบหนึ่ง ซึ่งปกครองโดยคณะบุคคลจํานวนน้อยของสังคม มักได้แก่ กลุ่มผู้อาวุโส กลุ่มทหาร หรือ กลุ่มปฏิวัติ[3]

  1. ชนกลุ่มน้อยa (Minoritarianism) คือ การรวมอำนาจโดยชนกลุ่มน้อยทางศาสนาหรือชนกลุ่มน้อยที่มีอำนาจเหนือกว่า ถือได้ว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของคณาธิปไตย
  2. คณาธิปไตยสมมติa (Putative oligarchies) คือ กลุ่มธุรกิจอาจได้รับการพิจารณาว่าเป็นคณาธิปไตย
  3. คณาธิปไตยทางปัญญาa (Intellectual oligarchies)

อัตตาธิปไตย (Autocracy)

แก้

เป็นระบอบการปกครองซึ่งอำนาจสูงสุดอยู่ที่บุคคลเพียงคนเดียว ที่สามารถตัดสินใจได้อย่างไม่จำกัดโดยกฎหมายหรือกลไกการควบคุมที่ประชาชนตั้งขึ้น (อาจยกเว้นเมื่อคุกคามโดยปริยายด้วยรัฐประหารหรือการก่อการกำเริบของมวลชน) เป็นคำที่ราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายไว้ว่า "ระบอบการปกครองที่ผู้นำมีอำนาจเด็ดขาดและไม่จำกัด[4]"

ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และเผด็จการถือเป็นรูปแบบหลักของระบอบอัตตาธิปไตยสมัยใหม่

อนาธิปไตย (Anarchy)

แก้

คือสังคมที่ไม่มีรัฐบาล หรืออาจใช้หมายถึงสังคมหรือคนกลุ่มหนึ่งที่ปฏิเสธการจัดลำดับชั้น (hierarchy) โดยสิ้นเชิง

รูปแบบการปกครองรูปแบบอื่น ๆ

แก้
  • Anarchy
  • Aristocracy
  • Authoritarianism
  • Bureaucracy
  • Capitalism
  • Confederation
  • Colonialism
  • Communism
  • Corporatocracy
  • Democracy
  • Ecclesiocracy
  • Electocracy
  • Ergatocracy
  • Fascism
  • Federalism
  • Feudalism
  • Geniocracy
  • Imperialism
  • Kakistocracy
  • Kleptocracy
  • Logocracy
  • Meritocracy
  • Military Dictatorship
  • Monarchy
  • Oligarchy
  • Plutocracy
  • Republicanism
  • Socialism
  • Statism
  • Technocracy
  • Theocracy
  • Totalitarianism
  • Tribalism

ระบอบการปกครองแบ่งตามอุดมการณ์แห่งอำนาจ

แก้

ระบอบราชาธิปไตย

แก้

เป็นรูปแบบการปกครองที่ตำแหน่งประมุขแห่งรัฐโดยปกติถืออยู่กระทั่งสวรรคตหรือสละราชสมบัติ โดยมากมักได้อำนาจมาโดยการสืบราชสมบัติในราชวงศ์เดียวกัน แต่ก็มีพระมหากษัตริย์ที่มาจากการเลือกตั้งหรือตั้งตนเป็นเจ้าด้วยเช่นกัน

สมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute monarchy)

แก้

เป็นรูปแบบการปกครองที่กษัตริย์มีพระราชอำนาจเต็มที่

ปรมิตตาญาสิทธิราชย์ (Constitutional monarchy)

แก้

เป็นรูปแบบการปกครองที่กษัตริย์มีพระราชอำนาจจำกัด เช่น ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ

มกุฎสาธารณรัฐ (Crowned republic)

แก้

ราชาธิปไตยโดยเลือกตั้ง (Elective monarchy)

แก้

ราชาธิปไตยโดยการเถลิงอำนาจตนเองa (Self-proclaimed monarchy)

แก้


ระบอบสาธารณรัฐ

แก้

เป็นรูปแบบการปกครองที่มีประมุขแห่งรัฐเรียกว่า ประธานาธิบดี ได้มาจากการเลือกตั้ง และมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งที่แน่นอน ราชบัณฑิตยสถานได้ให้ควาหมายคำนี้ไว้ว่า “ประเทศหรือการปกครองที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข[5]

อุดมการณ์อำนาจ

แก้

อุดมการณ์ทางสังคมการเมือง

แก้

อุดมการณ์ทางเศรษฐกิจสังคม

แก้
  • ลัทธิอำนาจนิยม (authoritarianism) เป็นรูปแบบการจัดระเบียบทางสังคมซึ่งมีลักษณะของการอ่อนน้อมต่ออำนาจหน้าที่
  • อิสรนิยม (libertarianism หรือ libertarism) เดิมทีเป็นปรัชญาและขบวนการทางการเมืองซึ่งยึดถือเสรีภาพเป็นหลักศูนย์กลาง นักอิสรนิยมแสวงเสรีภาพทางการเมืองและอัตตาณัติสูงสุด เน้นย้ำปัจเจกนิยม เสรีภาพในการเลือก และการรวมกันเป็นสมาคมโดยสมัครใจ แต่ในปัจจุบัน อิสรนิยมหลายสำนักมีความเห็นต่างกันในเรื่องหน้าที่โดยชอบของรัฐและอำนาจของเอกชน

ฆราวาสนิยมหรือศาสนานิยม

แก้

แนวปรัชญาที่ว่าสถาบันการปกครอง สถาบันการเมือง หรือสถาบันในรูปอื่นควรจะดำเนินการปกครองที่เป็นอิสระจากการอำนาจการควบคุมของสถาบันศาสนา และหรือความเชื่อทางศาสนา

โครงสร้างอำนาจ

แก้

คตินิยมรัฐเดี่ยว

แก้
  1. รัฐเดี่ยว
  2. จักรวรรดิ
  3. พรินซิพาลิตี้

รัฐผู้รับอุปถัมภ์

แก้

ระบอบสหพันธรัฐ

แก้

เป็นแนวคิดการเมืองซึ่งกลุ่มสมาชิกผูกมัดเข้าด้วยกันโดยข้อตกลงร่วมกัน โดยมีหัวหน้าที่เป็นตัวแทนซึ่งมีสิทธิปกครอง คำว่า "ระบอบสหพันธรัฐ" ยังใช้อธิบายระบบของรัฐบาลซึ่งรัฐธรรมนูญได้แบ่งแยกอำนาจอธิปไตยระหว่างฝ่ายปกครองส่วนกลางกับหน่วยการเมืองที่เป็นองค์ประกอบ

  1. สหพันธรัฐ (federation) เป็นรัฐอธิปไตยประเภทหนึ่งซึ่งมีลักษณะของสหภาพรัฐหรือภูมิภาคที่ปกครองตนเองบางส่วน ที่รวมเข้าด้วยกันโดยรัฐบาลกลาง หรือรัฐบาลสหพันธ์
  2. สมาพันธรัฐ (confederation) การรวมกันของหน่วยการเมืองเป็นการถาวรเพื่อให้มีการเคลื่อนไหวร่วมกันตามหน่วยอื่น สมาพันธรัฐตามปกติก่อตั้งขึ้นโดยสนธิสัญญา แต่ภายหลังมักก่อตั้งขึ้นจากการเห็นชอบรัฐธรรมนูญร่วมกัน สมาพันธรัฐมีแนวโน้มสถาปนาขึ้นเพื่อจัดการกับปัญหาร้ายแรง
  3. สหภาพเหนือชาติ (Supranational union) เป็นพัฒนาการของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจขั้นสูงสุด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวมกันเป็นชาติเดียวกัน ซึ่งรัฐบาลของแต่ละประเทศไม่สามารถกำหนดนโยบายของตนเองได้ แต่สหภาพจะกำหนดนโยบายให้ประเทศสมาชิกดำเนินการเอง

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

แก้

ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้

a. ไม่ใช่ชื่ออย่างเป็นทางการ

  1. Linz, Juan José (2000). Totalitarian and Authoritarian Regimes (ภาษาอังกฤษ). Lynne Rienner Publishers. ISBN 978-1-55587-890-0.
  2. Sondrol, Paul C. (1991). "Totalitarian and Authoritarian Dictators: A Comparison of Fidel Castro and Alfredo Stroessner". Journal of Latin American Studies. 23 (3): 599–620. ISSN 0022-216X.
  3. "คณาธิปไตย คืออะไร แปลว่าอะไร ตัวอย่างประโยค จากพจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน". https://www.sanook.com/dictionary/dict/dict-th-th-royal-institute/search/คณาธิปไตย/. {{cite web}}: แหล่งข้อมูลอื่นใน |website= (help)
  4. "อัตตาธิปไตย คืออะไร แปลว่าอะไร ตัวอย่างประโยค จากพจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน". https://www.sanook.com/dictionary/dict/dict-th-th-royal-institute/search/อัตตาธิปไตย/. {{cite web}}: แหล่งข้อมูลอื่นใน |website= (help)
  5. ltd, Longdo com, metamedia technology co. "คำศัพท์ สาธารณรัฐ แปลว่าอะไร". พจนานุกรม Longdo Dictionary แปลภาษา คำศัพท์.